“โอ๊ะ! ร้อน!” ชายหนุ่มอ้าปากค้างให้ความร้อนระบายออกเป็นควันฉุยๆ รจนามองภาพนั้นอย่างขำขันปนสมน้ำหน้า“เอาอีกลูกไหมล่ะพี่สาจ๋า ไส้กรอกกำลังร้อนได้ที่เลยนะ”“แกล้งพี่เหรอตัวแสบ” คนถูกแกล้งตาลุกวาว อาศัยทีเผลอที่เธอกำลังหัวเราะจิ้มไส้กรอกที่ว่าใส่ปากอีกฝ่ายทันที“โอ๊ย! ร้อน!”หญิงสาวสะดุ้งโหยง อ้าปากหวอ รีบโบกมือระบายความร้อนรัวๆ พลางมองใบหน้าคนแกล้งที่ยิ้มล้อคาดโทษ จะทำอะไรก็ไม่ได้ คนเยอะแถมเหลือมือข้างเดียว เพราะอีกมือถูกเขาจับจูงไว้ให้ทุกข์แก่ท่านทุกข์นั่นถึงตัวแล้วจะไปโทษใครได้หูแว่วได้ยินเสียงเพลงโฟร์คซองคำเมืองลอยมาตามลม เสริมให้บรรยากาศยามเย็นดูโรแมนติกเป็นใจเหลือเกิน“อุ๊ย นั่นเพลงของลุงจรัญ มโนเพ็ชรนี่ เพลงนี้ไม่ได้ฟังนานแล้ว เพราะจัง”“มีเวทีวงดนตรีเล่นอยู่ตรงนั้นไง มีที่ให้นั่งด้วย ไปไหม” รจนามองคนชวนก็เห็นว่าน่าสนุกจึงยอมให้เขาจูงมือพาไปวงดนตรีที่ว่าเป็นวงพวกสะล้อซอซึงพื้นเมืองทางเหนือที่มีเด็กนักเรียนวัยมัธยมมานั่งบรรเลงตั้งวงกัน และมีนักร้องสองคนที่ผลัดกันขับขานบทเพลงคำเมืองของชาวเหนือขับกล่อมเรียกคนที่เดินผ่านไปมาให้เข้าไปฟัง มีกล่องรับบริจาคทุนการศึกษาตั้งไว้เผื่อใครสนใ
“ขอน้องช่วยเติมๆ ให้อ้ายเต็มบาท เหมือนยูสลาดคู่กับแผ่นดิน เหมือนน้ำพริกอ่องคู่ผักกระถิน เหมือนตัวยุพินคู่กับตัวอ้าย หากแม้อีนายบ่เอื้อเอ็นดู อ้ายกินแคปหมูขอฮื้อมันดิ้นตาย รูปหล่ออย่างอ้ายนี้มันเขียม เหมือนโอ่งกระเทียมบ่าดาย ฮักเต๊อะอีนาย อ้ายคนสึ่งตึง...”**เพลง คนสึ่งตึง ของคุณจรัล มโนเพ็ชร**พอถึงประโยคสุดท้าย รจนาก็เห็นนักร้องเงยหน้ามองมาทางเธอจนใจคอเริ่มไม่อยู่กับเนื้อกับตัว เสียงของเขาไพเราะราวกับนักร้อง ประกอบกับหน้าตาที่หล่อเหลาพอจะเป็นพระเอกละครได้ยิ่งทำให้บทเพลงคำเมืองนั้นช่างน่าฟังขึ้นไปอีกหลายเท่าตัวหญิงสาวแอบเห็นสายตาสาวๆ ที่นั่งอยู่แถวนั้นสะกิดกันให้มองมาที่คนหล่อบนเวทีไม่ว่าจะอยู่ที่ไหน บ้านเธอ บ้านไร่ของเขา หรือแม้แต่ตลาดนัดแบบนี้ สาธุคุณก็พร้อมจะโดดเด่นฉายเสน่ห์ออกมาโดยไม่ต้องพยายามให้เหนื่อยแรง แต่รูปลักษณ์นั่นไม่ใช่สาระสำคัญ รจนาเคยเจอคนหล่อ คนรวยมามากมายตอนทำงานที่กรุงเทพจนชินตา บางคนทำท่าจะเข้ามาจีบเธอหวังฟัน แต่รจนาไม่เคยเล่นด้วย คนที่เธอต้องการไม่ใช่คนหล่อ คนรวยพวกนั้น แต่ความจริงใจ ซื่อสัตย์ และใส่ใจที่เขาแสดงออกต่อเธอต่างหากที่สำคัญยิ่งกว่า และสาธุคุณกลับมีท
“สนสิ แต่ถ้ารจทำพี่หมดตัวอย่ามาบ่นแล้วกัน”“หมดก็หาใหม่”“ที่พูดน่ะหมายถึงเงินหรือคนช่วยใช้เงิน”“ความสุขต่างหาก เงินหมดจะหาเมื่อไหร่ก็ได้ถ้ามีหนึ่งสมองกับสองมือซะอย่าง พี่ไม่เคยกลัวความลำบาก”ทำไมหล่อจังวะ หล่อทั้งหน้าหล่อทั้งความคิด “แล้วรจล่ะ มีแฟนเป็นชาวไร่ชาวสวนแบบพี่ กลัวไหม”“กลัวสิ! แต่กลัวพวกสาวๆ คนอื่นมารุมจีบแฟนรจต่างหาก ตั้งแต่มานี่เจอกี่รายแล้วล่ะ ทั้งลูกสาวเจ้าของร้านชำ ทั้งลูกสาวกำนัน ไหนจะคุณครูมัธยมคนสวย เฮ้อ...ไม่ไหวจะเคลียร์ นี่ยังมีใครอีกไหม บอกมาให้หมดทีเดียว รจจะได้เตรียมใจ”สาธุคุณยิ้มขำคนช่างแขวะ หากอีกใจรู้สึกดีที่ได้ยินเธอเรียกเขาว่าแฟนเต็มปาก“ไม่รู้สิไม่ได้สนใจใคร ตอนนี้พี่สนใจแต่แฟนพี่คนเดียว”บึ้ม! ตายสงบศพหาไม่เจอเลยทีนี้...“หูย...ปากหวาน”“อยากชิมอีกเมื่อไหร่ก็บอกได้ โปรที่ให้ไปก็มีแล้วนี่ จะใช้วันนี้เลยไหม บอกแล้วว่าพี่จะไม่ขัดขืน ยอมตามใจรจทุกอย่าง” ไม่พูดเปล่าดวงตาคนพูดยังทอประกายระยิบระยับเสียด้วยไม่ไหวๆ ยิ่งพูดก็ยิ่งเข้าตัวไปเรื่อยๆ หยอดเป็นขนมครกแบบนี้เธอจะรับมือยังไงไหว“เอ๊ะ! ทางนั้นมีร้านรองเท้าด้วย เราไปดูกันไหม จะได้ซื้อคู่ใหม่แทนคู่ที่เจ้
“พอๆ เด็กบ้านี่! พูดจาน่าเกลียด ใครมาได้ยินเข้าจะหาว่าพ่อแม่ไม่สั่งสอน แล้วนี่เมื่อไหร่จะเสด็จยะ เดี๋ยวกับข้าวพี่เขาก็เย็นหมด ไม่อร่อยหรอก”“ไปแล้วจ้า ไหนล่ะจ๊ะปิ่นโตของพ่อลูกเขยคนโปรด”นางสีดาส่งปิ่นโตให้ พลางค้อนลูกสาวควับๆ ตามองตามหลังลูกสาวคนโต ลึกๆ นางก็แอบคิดหากรจนาได้ลูกเขยดีๆ แบบสาธุคุณมาเป็นคู่ชีวิต คนเป็นพ่อแม่คงสบายใจนอนตายตาหลับหายห่วงสักที“โฮ่งๆ!” ทันทีที่รถจักรยานของรจนาเลี้ยวเข้าสู่หน้ากระท่อมกลางไร่ลำไย ก็มีเสียงเห่าต้อนรับ หญิงสาวหันไปมองเจ้าหมาที่เธอตามหาซึ่งนอนหมอบข้างๆ เจ้าหมาพันธ์ทางสีดำเมี่ยมอย่างคาดโทษ“หนอย...ติดผู้ชายบ้านช่องไม่ยอมกลับเลยนะแก เจ้าเอริ”“โฮ่ง!”“พูดยังจะมาเถียงอีก ไม่รู้จักรักนวลสงวนตัว ถ้าเกิดท้องขึ้นมาจะทำยังไง...”“ก็เลี้ยงสิ ไม่เห็นยาก” คราวนี้ไม่ใช่หมา แต่เป็นเสียงคนที่กำลังยืนมองลงมาจากระเบียงบ้านด้วยสีหน้ายิ้มๆ“เกิดมีสักสิบตัวล่ะ พี่จะเลี้ยงไหวเหรอ”“ไม่ไหวรจก็ช่วยเลี้ยงสิ ซ้อมมือไว้ก่อนจะเป็นไรไป อีกหน่อยพอเรามีเองบ้างจะได้ช่วยกันเลี้ยงคล่องๆ ไง”หญิงสาวตวัดค้อนใส่คนหน้ามึนเบาๆ ก่อนที่จะจอดรถจักรยาน และหันไปหยิบปิ่นโตออกมา“แหม จะข้า
“พี่ว่าจะไปดูโรงเรือนปลูกผักสลัดเสียหน่อยเห็นลุงบุญบอกว่ากำลังงาม อีกไม่นานคงเก็บขายได้ รจอยากไปดูด้วยกันไหมล่ะ” เจ้าของไร่ชวน“หืม...รจไปได้เหรอ จะไปเกะกะพี่ทำงานหรือเปล่า”“ทำไมจะไม่ได้ รจเป็นแฟนพี่ ทำไมจะไปดูผลงานแฟนตัวเองไม่ได้ล่ะ แล้วถ้าเราได้แต่งงานกันรจก็คือเมียเจ้าของไร่ เรียนรู้งานไว้บ้างแต่เนิ่นๆ สักหน่อยก็ดี ต่อไปจะได้คอยเป็นหูเป็นตาแทนพี่ได้”“โอย...หวานได้อีกแฟนฉัน” รจนาบ่นอุบอิบเขินๆ ก่อนเสตักผัดผักเข้าปากแก้เกี้ยวพลางรู้สึกว่ารสชาติผัดผักวันนี้ชักจะหวานเกินเบอร์ หัวใจเจ้ากรรมเต้นแรงไม่หยุด ก่อนที่จะนึกขึ้นได้เมื่อเห็นเสื้อผ้าที่เขาสวม“จริงสิ! งั้นเดี๋ยวรจไปเปลี่ยนเสื้อผ้าที่บ้านก่อนแล้วกัน ขืนไปชุดนี้ ขากลับแม่จะตกใจคิดว่านั่นลูกหรือถ่าน”สาธุคุณหลุดขำพรืด “ไม่ต้องหรอก ถ้ารจไม่รังเกียจจะใส่เสื้อคลุมกับหมวกของพี่ไปก่อนก็ได้”“เอางั้นก็ได้จ้ะ” หญิงสาวไม่ใช่คนเรื่องมากจึงตอบรับไป ทั้งๆ ที่ปกติรจนาจะค่อนข้างถือสาไม่ชอบยืมเสื้อผ้าใครใส่ถ้าไม่จำเป็นก็เหอะ“งั้นรจรอพี่ตรงนี้ก่อน เดี๋ยวพี่เก็บจานกับปิ่นโตไปล้างเสร็จแล้วจะไปหยิบมาให้”“อุ๊ย! เดี๋ยวรจล้างให้เองพี่ เดี๋ยวแม่รู้จ
“มานี่สิ เดี๋ยวพี่พับแขนเสื้อให้ หลวมไปหน่อยก็ดีกว่าตากแดดตัวดำเป็นถ่านนะ” รจนาเอียงคอมองผิวขาวของเขา ชาวไร่อะไรวะ ทำไมผิวไม่เห็นคล้ำดำด่างเลย“นี่พี่ใช้ครีมกันแดดยี่ห้ออะไรน่ะ ทำงานไร่แต่ทำไมยังขาวได้ขนาดนี้”สาธุคุณเงยหน้ามองคนถามอย่างนึกขำ“เปล่าหรอก พี่ก็ไม่ได้ทาครีมอะไรเป็นพิเศษ แต่ก็มีใช้ครีมธรรมดาๆ ที่มีขายทั่วๆ ไปเท่านั้น” รจนาได้แต่มองเขาพูดจนเพลิน เห็นว่าอีกฝ่ายเป็นคนดูแลตัวเองก็นึกชื่นชม ใบหน้าหล่อเหลาวันนี้เหมือนเพิ่งโกนหนวดมาจึงดูเกลี้ยงเกลาสะอาดน่ามอง ยิ่งทำให้หัวใจสาวโสดชักเกเร“เสร็จแล้ว อ๊ะ!”สาธุคุณถึงกับชะงักเมื่อจู่ๆ หญิงสาวตรงหน้าก็เขย่งปลายเท้าขึ้นจูบที่ปลายคางของเขาเบาๆ โดยไม่ทันให้ตั้งตัว“ขอบคุณนะจ๊ะพี่สาจ๋า” รจนายิ้มหวานใส่ดวงตาคมๆ วาวๆ ที่มองมา “ทำไมล่ะ นึกว่าพี่ชอบให้รจลวนลามซะอีก นี่รจไม่ได้ขัดคำสอนแม่สักนิดนะ เป็นผู้หญิงต้องรักนวลสงวนตัวอย่าให้ผู้ชายเขาถึงตัวหรือลวนลามเอาง่ายๆ ก็นี่ไงพี่ไม่ได้ลวนลามรจ แต่รจต่างหากจะลวนลามพี่เอง ฉะนั้นรจไม่ผิด”สาธุคุณฟังคำพูดเกเรแต่น่ารักของอีกฝ่ายแล้วหลุดขำอีกรอบ ตั้งแต่เกิดมาก็มีครั้งนี้แหละที่เขาถูกผู้หญิงลวนลามแล้วมีห
“รจส่งรูปให้พี่แล้วนะ” เอ่ยโดยไม่ยอมสบตาเขา ก่อนฉุกใจคิดได้ “เอ๊ะ! เมื่อกี้พี่หลอกให้รจแอดไลน์พี่นี่นา คนเจ้าเล่ห์!”สาธุคุณหัวเราะลั่นเมื่อถูกจับได้ “ไม่ดีเหรอ เรามีไลน์กันไว้ คิดถึงกันก็จะได้ส่งไลน์หาไง นั่นเบอร์โทรส่วนตัวพี่ มีอะไรรจโทรหาได้ตลอดนะ”อืม...เย็นไว้ไอ้รจ แค่แอดไลน์เท่านั้น เขายังไม่ได้ขอแกเป็นเมียโว้ย จะเขินอะไรเบอร์นี้เนี่ย กำลังนับหนึ่งถึงสิบในใจ หางตาก็ดันเหลือบไปเห็นชื่อที่เขาพิมพ์หน้าจอมือถือเสียก่อน‘ว่าที่เมีย’ตายๆ ตายทั้งๆ ที่หายใจนี่แหละ อะไรจะน่ารักขนาดนี้วะเนี่ย ไม่ไหวจะเขินแล้วนะแม้จะต้องทนต่อความเขินไปตลอดทาง แต่การทัวร์บ้านไร่กับหนุ่มเจ้าของไร่แห้วก็ทำให้รจนาเพลิดเพลินจนลืมเบื่อ จากตอนแรกที่เธอคิดว่าเขาอาจจะทำไร่เหมือนๆ คนทั่วไป หรือไม่ก็แค่ทำไร่เล่นๆ โก้ๆ เท่านั้น เลยเปลี่ยนความคิดใหม่แต่พอได้ยินสิ่งที่เขาอธิบายให้ฟัง หรือสิ่งที่เขาทดลองผิดลองถูกมากับมือจนได้เทคนิคใหม่ๆ ก็ทำให้เธอเชื่อว่าอีกฝ่ายรู้จริง และรู้ลึก จากที่ชื่นชม จึงกลายเป็นชักจะเลื่อมใสศรัทธา และนับถือในความทรหดอดทนของผู้ชายตรงหน้า ที่ใช้หนึ่งสมองสองมือพลิกฟื้นจากที่นาเป็นไร่สวนผสมที่สวยง
สาธุคุณหัวเราะออกมาอย่างสุดกลั้น พลางยื่นมือมายีจมูกคนช่างพูดอย่างเอ็นดู คนงานที่กำลังเก็บผักเงยหน้ามองเจ้านายหนุ่มอย่างแปลกใจ ก็ร้อยวันพันปีเห็นแต่หน้าขรึมๆ เอาจริงเอาจัง ผิดกับวันนี้ขยันยิ้มขยันพูดขยันอ้อนสาว หากแฟนคลับทั้งหมู่บ้านรู้เข้ามีหวังชักกระแด๋วๆ ด้วยความอิจฉาตายกว่าที่ทัวร์ชมไร่แบบวีไอพีจะเสร็จก็คล้อยบ่าย ตะกร้าหน้ารถจักรยานก็มีพืชผักผลไม้สดๆ เก็บจากต้นที่ผ่านทางไหนก็รับส่วยเขามาจนเต็มพื้นที่ตะกร้า คนปั่นจักรยานก็ไม่มีทีท่าจะบ่นสักคำว่าเหนื่อย แอบเห็นหยาดเหงื่อที่เกาะบนใบหน้าหล่อคมคายนั่น รจนาจึงอดไม่ได้“พี่จะพักหน่อยไหม ปั่นจักรยานพารจเที่ยวทั้งวันแบบนี้ไม่เหนื่อยเหรอ”สาธุคุณก้มมองคนพูดด้วยรอยยิ้ม “เหนื่อยสิ คนนะไม่ใช่เครื่องจักร แต่พี่อยากให้รจเห็นสิ่งที่พี่ทำ วันนี้ที่เห็นน่ะยังไม่ถึงครึ่งของไร่เลยนะ นี่ยังเหลือไร่แห้ว ไร่สับปะรด ไร่ระกำ ลิ้นจี่ แล้วก็สวนดอกไม้อีกตั้งเยอะ แล้วรจล่ะเหนื่อยหรือยัง”“เหนื่อยสิถามได้ เขินจนเหนื่อยจะตายแล้วเนี่ย พี่เล่นแนะนำรจกับคนทั้งไร่ จนรจเขินวางหน้าไม่ถูกแล้วเนี่ย”“งั้นก็จงเหนื่อยต่อไป เพราะพี่ชอบเห็นรจเขิน เขินทีแก้มแดงทีน่ารักจะตา
รจนาเลยไม่ใช่แค่หนู แต่เธอเป็นโครตของโครตหนูที่ตกบ่อเพชร หลังแต่งงานหญิงสาวก็ย้ายไปอยู่ที่กระท่อมกลางไร่กับสามีสองคน ระหว่างที่รอเรือนหอที่เจ้าบ่าวทุ่มทุนสร้างให้ใหม่เสร็จ เพื่อต้อนรับสมาชิกใหม่ที่กำลังอยู่ในท้องแม่สาวขี้อ้อนอีกสองหน่อนี่ยังไม่นับสมาชิกลูกหมาพันธุ์บีเกิ้ลผสมพันธุ์ทางอีกโขยงที่เธอและสามียังทะเลาะกันเรื่องตั้งชื่อไม่เสร็จ และคงทะเลาะกันไปจนกระทั่งลูกแฝดในท้องของรจนาคลอดไร่ของสาธุเริ่มมีชื่อเสียงไปทั่วเพราะสองผัวเมียช่วยกัน รจนาคืออดีตพีอาร์มือโปรเก่า เธอทำงานดีเยี่ยมจนทำให้ไร่ของสามีโด่งดังไปไกล จนเพื่อนที่ทำงานเก่าพลอยอิจฉาพอพูดถึงที่ทำงานเก่า ข่าวล่าสุดที่รจนาได้รับคือ...เพื่อนร่วมงานรุ่นน้องอย่างดาริกาถูกจับได้ว่าแอบกิ๊กกับอดีตเจ้านายหัวงูในที่ทำงาน เพราะเมียของอีกฝ่ายบุกมาหาพร้อมด้วยของกำนัลเป็นน้ำกรดอย่างดี แต่คนให้ดันมือไม่แม่น แทนที่จะสาดหน้าชู้รักของผัว แต่ดันสาดผิดไปโดนเป้าของผัวตัวเองแทนจนต้องตัดทิ้งทั้งพวง!ตอนเห็นข่าวแรกๆ รจนาตัดสินใจไม่ถูกเหมือนกันว่าควรสงสารหรือสมน้ำหน้าคนเจ้าชู้พรรค์นั้นดีส่วนดาต้าก็ถูกไล่ออกเพราะทำงานไม่ได้เรื่องแต่ใช้เต้าไต่เพื่อแย่
“พี่สาจ๋า...มันจะเจ็บมากไหม รจกลัว”โอ๊ย...ทำไมน่ารักแบบนี้วะเมียกู! แค่นี้ก็รักจนจะคลั่งตายแล้วมั้ยเนี่ย แบบนี้เขาจะไปไหนรอดวะ ต่อให้ไปได้ก็ไม่ไปแล้วสาธุคุณส่งยิ้มหวานปลอบขวัญสาวเวอร์จิ้น เขาพอรู้ว่าครั้งแรกนั้นยอมมีเสียเลือดเสียเนื้อกันบ้าง ชายหนุ่มกดจูบเธอที่แก้มและหน้าผากก่อนมาหยุดที่ริมฝีปากช่างเจรจา ก่อนมอบคำหวานที่มาจากหัวใจและความรู้สึกที่มอบให้เธอเพียงคนเดียวเท่านั้น“พี่รู้ว่ารจกลัว และรู้ด้วยว่านี่เป็นครั้งแรก แต่พี่จะพยายามไม่ทำให้รจเจ็บมากนักดีไหมครับ แต่ถ้ารจเจ็บหรืออยากจะหยุดก่อนก็ค่อยบอกพี่ พี่รับปากว่าจะไม่หักหาญน้ำใจรจ จะรอให้รจเป็นของพี่ด้วยความเต็มใจดีไหม”รจนาฟังแล้วน้ำตาคลอ ก่อนพยักหน้าข่มความกลัวเมื่อตัดสินใจแล้ว และอีกฝ่ายก็น่ารักกับเธอขนาดนี้เป็นไงเป็นกัน! จัดมาเลยพี่ เจ็บหน่อยแต่ฟินก็เอาวะนาทีนี้หญิงสาวกัดฟันแน่นเมื่อถูกความใหญ่โตของเขากดเข้ามาภายใน แต่ความคับแคบทำให้สาธุคุณต้องค่อยๆ ใจเย็น และปลุกเร้าอารมณ์เธอให้ผ่อนคลายไม่เกร็งเพื่อให้ความเจ็บทุเลาเบาบางและเปลี่ยนเป็นความฟินในที่สุดเสียงหวานคลอเคล้ากับเสียงพร่ากระเส่าขับขานเป็นห้วงทำนองรักที่สอดรับประสา
“ขวัญเอ๊ย ขวัญมา...”เสียงหวานกระซิบก่อนจะเงยหน้าสบตา “หายหรือยังจ๊ะ”สาธุคุณแกล้งส่ายหน้า “ยังไม่หาย”พอขาดคำหญิงสาวก็กดจูบที่ปากเขาไปอีกที คราวนี้ทำใจกล้าใช้ปลายลิ้นละเลงและแกล้งดูดดึงกลีบปากล่างของเขาเล่นเบาๆ อีกที“แล้วแบบนี้ล่ะ หายไหม”สาธุคุณใจเต้นแรง ลมหายใจสะดุดเบาๆ ก่อนส่ายหน้า“ไม่หาย”“ทำไมขวัญอ่อนจังล่ะสาจ๋า...” หญิงสาวยิ้มพลางยื่นริมฝีปากไปจูบอีกครา คราวนี้เขารีบเผยอปากรอรับ และเมื่อเธอทำใจกล้าสอดลิ้นเข้าไปในปากเขา ชายหนุ่มก็ครางเบาๆ อย่างชอบใจในความน่ารักของแฟนสาว ก่อนที่จะโต้ตอบกลับมาให้เธอหลงเขาหัวปักหัวปำบ้างรจนาถูกรสจูบหวานครอบงำจนใจกระเจิง ยามที่เขาพรมปลายลิ้นเข้าหาและจุมพิตเธอแบบสูบวิญญาณทั้งเป็นนั่น หญิงสาวก็เริ่มจะหายใจไม่ทันทำให้ต้องวิงวอนเขาทางสายตาสาธุคุณจึงยอมผ่อนแรงจูบให้เธอได้หายใจหายคออีกครั้ง ชายหนุ่มโอบกอดเธอเข้ามาจนชิดใกล้“เราแต่งงานเสียพรุ่งนี้เลยไหม พี่ไม่อยากโสดแล้ว อยากมีรจเป็นเมีย อยากให้เมียจูบรับขวัญแบบนี้ทุกวันทุกคืนเลย”จะน่ารักไปไหนวะแฟนฉัน หลงจนหัวจะทิ่มแล้วเนี่ย“ดีเหมือนกัน พี่รีบไปขอรจกับพ่อแม่สิ หอบสินสอดไปเยอะๆ ล่ะจะได้ตบปากพวกชอบนินทา
“รจจะทิ้งพี่ได้ลงคอจริงเหรอ” ชายหนุ่มถามเสียงเว้าวอน“ใครทิ้งใครกันแน่ โอ๊ย! ช่างเถอะ เอาเป็นว่าต่างคนต่างอยู่แล้วกัน เรายังเป็นเพื่อนบ้านกันได้”“แต่พี่ไม่อยากเป็นเพื่อนบ้านกับรจแล้วนี่”รจนาถอนหายใจพรืด อะไรวะ ขนาดสถานะเพื่อนบ้านเขาก็ไม่อยากให้ งกอะไรขนาดนั้น“งั้นเป็นศัตรูเลยดีไหม จะได้จบๆ ไม่ต้องเห็นหน้า ตายไปไม่ต้องเผาผี จะเอาแบบนี้ก็ได้นะ” บอกว่าจะพูดจาดีๆ แต่ไหงอินเนอร์มาเต็มอีกแล้วนี่“รจพูดจบหรือยัง”“อืม...จบแล้ว งั้นก็แยกย้ายเนอะ” หญิงสาวเอ่ยพลางจะตรงไปอุ้มหมากลับบ้าน แต่ยังไม่ทันเดินไปไหน ก็ถูกอุ้มจนตัวลอยขึ้นจากพื้นเสียก่อน“นี่! จะทำอะไร”“ทำน้ำปลาหวานให้เมียกินไง”“ไปทำให้ยัยนางเอกปากแดงนั่นกินสิไป เขาอาจจะชอบ ปล่อยฉันลงนะ”“พี่ไม่ได้กลับไปคบกับลูกเกด!”“ก็เรื่องของคุณสิ มาบอกฉันทำไม...เอ๊ะ! เมื่อกี้คุณว่าไงนะ” หญิงสาวชะงักกึก หน้าตาเหรอหราอย่างน่าเอ็นดูในสายตาชายหนุ่ม“พี่บอกว่าพี่ไม่ได้กลับไปคบกับลูกเกด ไม่มีทางกลับไปคบเขาด้วย เลิกแล้วเลิกเลยลาขาด” รจนาขมวดคิ้วแน่น“แล้วรูปที่คุณไปกอดแฟนเก่านั่นล่ะคืออะไร”“เขาขอให้พี่ช่วยเรื่องงานในวงการ พี่ก็ช่วยไปตามประสาคนเคยรู้จั
รจนาฟังแล้วอยากจะกรี๊ด เธอหรืออุตส่าห์ไม่ไปที่นั่น แล้วนี่อะไรกัน เจ้าเอริบ้านี่ ดันมาทำเสียเรื่อง แล้วทีนี้จะยังไง ถ้าไปที่นั่นก็ต้องเจอเขา หรืออาจเจอแฟนเก่าที่กลายเป็นแฟนใหม่เขาอีกครั้งล่ะสิเอาไงดีวะเนี่ย ตัดหางปล่อยวัดเสียดีไหม ไอ้หมาไม่รักดีนี่“เมรีว่างไหม พี่วานไปดูเจ้าเอริที่ท้ายซอยหน่อยสิ”“เมรีก็อยากไปให้นะพี่รจ แต่ต้องทำงานที่อาจารย์สั่งน่ะสิ เยอะเสียด้วย ทำทั้งคืนจะเสร็จไหมไม่รู้ ทำไมพี่ไม่ลองโทรถามเจ้าของไร่ทางนั้นเขาดูล่ะว่าเห็นหมาเราไหม”โทรไปให้เขาได้ใจน่ะสิ เรื่องอะไรเธอจะทำให้โง่“เออๆ พี่ไปเองก็ได้ คอยดูนะ ถ้าเจอจะตีให้ ไม่ได้สิมันท้องอยู่ตีไม่ได้ งั้นให้อดขนมสามวันละกัน” หญิงสาวบ่นอุบ ก่อนคว้าจักรยานปั่นออกไป พอคล้อยหลังพี่สาว คนที่บอกต้องทำงานส่งอาจารย์ก็เงยหน้าตาวาว หันไปคว้าโทรศัพท์มากดส่งไลน์รัวๆ“ขอโทษนะพี่รจ น้องทำเพื่อพี่ อโหสิให้กันเถอะนะ” ไร่ของเขาก็ยังคงเป็นเหมือนครั้งสุดท้ายตอนวันที่เธอจากมา รจนามองบ้านของเจ้าของไร่ที่วันนี้ปิดเงียบเชียบราวกับไม่มีคนอยู่ เจ้าของไร่คงไปทำงานในไร่ หรือไม่แน่ว่าอาจจะกำลังพาแฟนไปเปิดตัวให้คนงานรู้จักในฐานะว่าที่นายหญิงคนใหม
พอไปถึงหน้าบ้านสาวที่คิดถึง ทุกอย่างก็ยังเหมือนเดิม บ้านปิดเงียบเชียบราวกับไม่มีคนอยู่ ชายหนุ่มชะเง้อคอยาวมองเข้าไปในบ้านหวังจะเห็นใครออกมาเปิดประตูให้“มีใครอยู่ไหมครับ”“โฮ่ง!” ชายหนุ่มหันขวับไปทางเสียงทักทายจากใต้แคร่ไม้ไผ่ก็เห็นเจ้าหมาบีเกิ้ลของเธอนอนพังพาบอยู่ ดูเหมือนมันจะอ้วนขึ้นกว่าตอนที่เห็นครั้งสุดท้ายจนแปลกตาสาธุคุณขมวดคิ้วคำนวนเวลาในใจ หรือว่า...หมาของเธอจะท้องลูกเจ้าวายของเขาเสียแล้ว“เอริ...มานี่มา”เพราะความคุ้นเคยที่มุดรั้วเข้าบ้านเขาอยู่เป็นเดือนๆ ทำให้เจ้าหมาน้อยยอมเดินมาหาชายหนุ่มอย่างดีใจ หากพูดได้มันคงถามหาแฟนหนุ่มที่นอนเหงาซึมกระทืออยู่ที่บ้านเขาเป็นกระบุงไปแล้ว“คิดถึงเจ้าวายล่ะสิ ไม่ได้เจอกันกี่วันแล้วเนี่ย”“โฮ่งๆ!” ชายหนุ่มเผลอยิ้ม ก่อนที่ทำหน้าเซ็ง“ฉันก็คิดถึงเจ้านายแกเหมือนกัน แกรู้ไหมว่าเขาหายไปไหน”“รู้สิ!”คราวนี้ไม่ใช่เสียงหมา แต่เป็นเสียงของ...“น้องเมรี...”คนถูกเรียกยืนหน้าบึ้งไม่ยิ้มแย้มให้เขาเหมือนเคยเอาล่ะสิ ไม่ใช่แค่แฟน กระทั่งน้องสาวแฟน หรือพ่อแม่ของเธอก็คงจะโกรธเขาเหมือนกัน งานเข้าแล้วไอ้สาธุ!“พี่สาธุมาทำอะไรที่นี่เหรอ มาหาใคร” เมรีถามเสียง
“แม่จ๋าพ่อจ๋าพี่รจอยู่ไหน”เสียงเอะอะดังมาก่อนตัวทำให้คนเป็นแม่ถึงกับส่ายหน้า“กลับมาถึงก็โวยวายเชียวนะยัยเมรี มีอะไรๆ เบาหน่อย พี่รจเขาไม่สบายนอนพักอยู่ แกเล่นตะโกนปาวๆ เดี๋ยวเขาก็ตื่น อ้าว! นั่นไงตื่นจนได้” นางสีดาค้อนลูกสาวตัวแสบ“มีอะไรกันเหรอแม่ ยัยเมรีเอะอะอะไร”“ก็เมื่อกี้หนูลงรถที่หน้าปากซอยว่าจะไปซื้อของที่ร้านป้าสายหยุด เลยไปได้ยินข่าวมา” คนพูดมีทีท่าอึกอัก “พี่ดาวเรืองเขาบอกว่าพี่รจถูกผู้ชายทิ้งเพราะกลับไปคบแฟนเก่า”รจนาตัวชาด้วยความตกตะลึง“ปากคนก็พูดไป คราวก่อนก็บอกพี่แกท้อง คราวนี้ก็โดนผู้ชายทิ้งคราวหน้าอะไรอีกล่ะ” นางสีดาบ่น“แม่อย่าเพิ่งขัดสิหนูยังเล่าไม่จบ ผู้ชายที่ว่าน่ะ เขาบอกว่าเป็นพี่สาธุนะ!”“หา! ว่าไงนะ” ทุกคนอุทานแทบพร้อมกัน พลางหันไปมองหน้ารจนาเป็นตาเดียว“จริงแม่ เขาเห็นกับตาว่าพี่สาธุกอดผู้หญิงคนนั้นแน่นเลย เขายังเอารูปในโทรศัพท์ให้ฉันดูด้วย เห็นหน้าพี่สาธุชัดเลย”คนเป็นข่าวถึงกับหน้าถอดสี หัวใจปลิวหล่นไปที่ตาตุ่ม พยายามข่มความอ่อนแอที่กำลังมารออยู่ที่ดวงตาไว้ไม่ยอมให้มันไหลออกมาพอนางสีดาหันมาเห็นสีหน้าลูกสาวก็นึกรู้ว่าข่าวคงมีมูล“ยัยเมรีเรื่องนี้แกไม่ต้อง
ฝ่ายรจนาเมื่อกลับถึงบ้านเธอก็เข้าห้องปิดประตูเงียบ รวมถึงปิดโทรศัพท์แล้วโยนมันลงในตะกร้าผ้าเตรียมซัก เผื่อว่าใครโทรมาก็คุยกับตะกร้าผ้านั่นไปแล้วกัน เชอะหญิงสาวนอนตาลอยมองเพดาน พลางคิดถึงเหตุการณ์วาบหวามระหว่างเขาและเธอก่อนหน้า ไออุ่นของเขา สัมผัสของเขา รสจูบของเขา ไหนจะคำหวานที่กระซิบข้างหูนั่นอีก ยิ่งคิดก็ยิ่งหงุดหงิดไม่น่าเลย เธอไม่น่ายอมให้เขาใกล้ชิดลึกซึ้งขนาดนั้น ถึงจะยังไม่ทันได้มีอะไรกันจนสุดทางก็เถอะ ทำไมนะ ยัยปากแดงนั่นถึงไม่ยอมมาให้ไวกว่านี้ เธอจะได้ไม่ต้องมานั่งเป็นทุกข์คิดมากแบบนี้เฮ้อ...ป่านนี่สองคนนั่นกำลังทำอะไรกันอยู่นะ ไม่แน่ว่า ยัยนางเอกนั่นอาจจะกำลังออดอ้อนออเซาะขอคืนดีกับสาธุคุณสำเร็จแล้วก็เป็นได้คืนดีกันแล้วไง เลิกๆ เลิกคิดถึงเขาให้ปวดใจซักทีไอ้รจ ใช่ว่าไม่เคยอกหักสักหน่อย ไม่กี่เดือนก่อนตอนเลิกกับจักริน เธอก็ยังไม่ตายนี่นา มันก็แค่ต้องทำใจให้ได้ ลุกให้ไวเท่านั้น ดีแค่ไหนแล้วที่ไม่ถลำตัวมากไปกว่านี้นอนไปก็คิดฟุ้งซ่าน อย่ากระนั้นเลยลองเปิดคอมดูดีกว่า ไวเท่าความคิด หญิงสาวรีบคว้าโน้ตบุ๊กมาเปิดดูอีเมล์ และดูตามเว็ปที่เธอฝากใบสมัครไว้ ตั้งแต่ที่คบกับสาธุเธอก็เลิก
“พี่จะเอาแบบนี้จริงเหรอ” ถามย้ำอีกทีเผื่อเปลี่ยนใจ แต่อีกฝ่ายกลับพยักหน้ายืนยัน ทำให้แฟนเก่าแอบยิ้มร่าสมใจ“งั้นก็ตามใจแล้วกัน”สาธุคุณชะงักกึก เมื่อเห็นสายตาขุ่นเย็นชาที่แฟนสาวส่งกลับมาให้ ก่อนเดินผละไปทางที่หมาของเธอนั่งหมอบอยู่กับแฟนพันธุ์ทางสุดที่รัก“ไป! เอริ! กลับบ้าน!”พอเห็นเจ้าหมาไม่รักดียังคงนิ่งจึงหมั่นไส้เลยเข้าไปอุ้มมันเดินกลับบ้าน ทิ้งจักรยานไว้ โดยไม่ยอมเหลียวหลังไปมองเจ้าของบ้านอีก จึงไม่เห็นสายตาห่วงใยที่ส่งมาให้สาธุคุณรู้ว่าอีกฝ่ายไม่พอใจ เขากำลังจะตามไป แต่กลับโดนกรรณิกาดึงมือไว้“สาธุคะ”ชายหนุ่มชักไม่สบอารมณ์ เขาหันกลับไปมองหน้าแฟนเก่า และดึงมือออกอย่างไม่ไยดี“รีบๆ พูดธุระของคุณมาเสียทีจะได้จบๆ ผมจะได้ไปจัดการธุระของผมบ้าง” คำนั้นทำเอาคนฟังสะอึก จากตอนแรกที่คิดดีใจว่าสาธุคุณยังมีเยื่อใยหลงเหลืออยู่บ้าง เลยไล่ยัยเด็กกะโปโลนั่นกลับไป แต่พอเห็นสายตาเย็นชาปนรำคาญก็นึกรู้ว่าตัวเองสำคัญตัวผิดอย่างแรง“ลูกเกดอยากขอโทษคุณที่ทำให้คุณเสียใจวันนั้น ลูกเกดรู้แล้วว่าตัวเองโง่เองที่เลือกคนผิด”“เข้าเรื่องเถอะ บอกมาเรื่องคอขาดบาดตายที่ว่าคืออะไร”กรรณิกาแอบกลืนน้ำลาย ไม่คิดว่า