“รจคิดว่างานพีอาร์นั้นจริงๆ แค่สวยไปวันๆ อย่างเดียวมันอาจไม่พอ จริงไหมคะบอส สมัยนี้คนสวยๆ หาง่าย แต่คนที่ฉลาด ทำงานเป็น และขวนขวายเรียนรู้ พัฒนาตัวเองให้ก้าวทันโลกทันเทรนด์ใหม่ๆ ตลอดเวลาต่างหากที่ควรได้รับโอกาสมากกว่า”
“ก็นี่ไง ผมก็คิดแบบคุณเลยล่ะ แต่ก็นั่นแหละ...”
นั่นแหละอะไรอีกยะ หญิงสาวยืดหลังตรงราวกับแม่เสือระวังภัย
“ที่ผมเรียกคุณดาต้าและคุณเข้ามาคุยก็ด้วยเรื่องนี้ ผมอยากสนับสนุนคุณให้ได้ตำแหน่งหัวหน้าแผนกนะ เพราะยังไงก็มีประสบการณ์มากกว่า อีกอย่างคุณตาลก็บอกว่าคุณทำงานดีมาก แต่การต้องงัดข้อกับโอนเนอร์มันก็ควรมีแรงจูงใจกันหน่อย จริงไหม”
“แล้วแรงจูงใจที่บอสว่านั่นคืออะไรล่ะคะ” หญิงสาวแสร้งยิ้มหวาน นึกถึงคำอวยพรอาบยาพิษที่ดาริกาทิ้งไว้ให้ ภาวนาว่าจะไม่ใช่อย่างที่คิด
“คือ...ตัวคุณไง!” รจนาสูดหายใจเข้าลึกจนถึงลิ้นปี่ มือกำโทรศัพท์มือถือแน่น ตาเหลือบไปมองแจกันดอกกุหลาบแสนสวยบนโต๊ะเจ้านายเพื่อคูลดาวน์อารมณ์ตัวเอง
เย็นไว้โยม...งานหายาก ท่องไว้ ฉันไม่อยากตกงานตอนนี้
“พูดก็พูดเถอะนะ ผมน่ะแอบถูกชะตาคุณมาตั้งแต่วันแรกที่เจอแล้ว และคิดว่าอนาคตคุณต้องไปไกลกว่านี้แน่ ถ้าเพียงแต่...”
“เพียงแต่อะไรคะบอส”
คนพูดเปิดยิ้มกว้าง ก่อนจะลุกจากเก้าอี้เดินมาใกล้ แล้วฉวยโอกาสโน้มตัวลงมาจนเกือบชิดใบหน้าสวยเก๋ของเธอ
“ถ้าเพียงแต่คุณฉลาดรู้คิดว่าอะไรควรทำน่ะสิ”
“แล้วรจต้องทำอะไรเหรอคะ”
หญิงสาวแย้มริมฝีปากยิ้มหวานค้าง แต่มือไม้นี่สิสั่นไปหมด
“ก็...แค่เอาใจผมนิดๆ หน่อยๆ เท่านั้นเอง ผมน่ะเป็นผู้ใหญ่ใจดีนะ ไม่ชอบบังคับใคร ดูแต่คุณดาต้าสิ เมื่อกี้เขาเอาใจผมมากๆ เพื่อให้ผมช่วยสนับสนุน แต่ผมว่าคุณคงจะไม่ยอมน้อยหน้าเขาหรอกใช่ไหม”
“อ้อ...แล้วเมื่อกี้คุณดาต้าเขาเอาใจบอสยังไงบ้างเหรอคะ”
“เขาก็แค่ให้ผมแตะเนื้อต้องตัวเขานิดๆ หน่อยๆ แล้วผมก็เลยให้เขาชิมไส้กรอกผมคืนบ้างเป็นการตอบแทน วินวินทั้งสองฝ่าย ไม่มีใครเสียหายอะไร แต่กับคุณนี่ผมขอแค่...”
คนพูดกวาดสายตาไปหยุดที่เนินอกอวบอิ่มในชุดทำงานปราดเปรียวเท่านั้นน้ำลายก็สอ เปรี้ยวปากขึ้นมาทันใด
“ขอลองจับและดูดนมจากเต้าคุณนิดๆ หน่อยๆ แลกกับตำแหน่งหัวหน้าพีอาร์ที่ต้องการก็พอ!”
รจนายังคงยิ้มหวาน แต่สายตาแข็งกร้าวจิกมองคนหัวงูอย่างรู้เท่าทัน
ดูเหมือนอนาคตที่เธอหวังไว้กับที่นี่คงจะไม่รุ่งเสียแล้ว!
“แค่ลองจับลองดูดนมรจงั้นเหรอคะนาย หึ ได้สิคะ...”
เพล้ง! โผละ!
แจกันแสนสวยถูกฉวยมาฟาดกลางกบาลไอ้คนหัวงูเต็มแรงจนแตกกระจายเกลื่อนคามือ ไม่ต้องรอดูผลงาน เพราะเธอรู้ว่าศีรษะของอีกฝ่ายคงแตกจากเสียงเจ้าตัวที่โหยหวนเหมือนเปรตขอส่วนบุญ แถมมีน้ำสีแดงข้นคลั่กพุ่งกระฉูดทันใจและไหลอาบหน้าอีกฝ่ายจนแดงฉานทันตา
“โอ๊ย! หัวผม เฮ้ย! เลือด!”
“อะไรนะคะ อยากได้เลือดเพิ่มเหรอคะ ได้...รจจัดให้ค่ะ”
ยังไม่ทันที่คนเจ็บจะได้ตั้งตัว หมัดหนักๆ ก็กระแทกเข้าที่ริมฝีปากที่กำลังแหกปากโวยวายนั่นจังๆ จนมุมปากแตกยับอีกแผล และร่างอ้วนฉุนั่นหงายเก๋งลงไปนอนนับดาวที่พื้น
“เอ้า! ไงคะนาย หมัดรจนี่อร่อยดีไหม หรืออยากจะชิมบาทาอีกซักดอก”
“อูย...อิบ้า! มือหนักชิบหาย ใครก็ได้ช่วยด้วย ผมถูกทำร้าย ช่วยด้วย! เรียกตำรวจมาที โอ๊ย!”
ประตูเปิดผ่าง พร้อมพยานที่เข้ามาดูความหายนะในห้องอีกเพียบ
“เกิดอะไรขึ้นคะน้องรจ ว้าย ตายแล้วบอส!” คนเป็นเลขาตกใจตาเหลือก
“ยังไม่ตายหรอกค่ะพี่อ้อย แต่ถ้าอยากตายจริงรจช่วยได้นะ” สายตาสวยเฉี่ยวเหลือบมองหาตัวช่วย ทำให้คนไม่อยากตายแหกปากดิ้นพราดๆ
“เอามันออกไป ไล่ออก! ไล่มันออกไป อิหมาบ้า!”
“หึ! ไม่ต้องไล่ก็ไม่อยู่มันแล้วโว้ย บริษัทเฮงซวย เจ้านายก็ห่วย แตกหัวงูแบบนี้ทำงานจนตายก็ไม่รุ่ง”
ตอนนี้รจนาหน้ามืดเห็นช้างตัวเท่ามดเสียแล้ว แต่ก่อนออกเธอขอชดเชยให้หายเจ็บใจก่อน เหลียวซ้ายแลขวาไม่เจออาวุธเหมาะมือก็แอบขัดใจ เอาวะ ไม่ต้องใช้อาวุธก็ได้...
“เฮ้ย! อีบ้าจะทำอะไร ช่วยด้วย ใครก็ได้เรียกตำรวจที อ๊าก...”
พลั่ก...คร่อก!
พอขาดคำขาเรียวสวยก็จระเข้ฟาดหางใส่ต้นคอเจ้านายชีกอจนสลบเหมือดคาที่ ท่ามกลางเสียงกรีดร้องของเหล่าไทยมุงหน้าห้องและคุณเลขาที่ยืนหน้าขาวซีดด้วยความตกตะลึง ก่อนแหกปากลั่น
“ตายแล้วบอส!”
ผลของการจระเข้ฟาดหางใส่คนชีกอจบสลบเหมือดคาที่ในครั้งนี้ทำให้รจนาต้องขึ้นโรงพักครั้งแรกในชีวิตและโดนปรับข้อหาทำร้ายร่างกาย แต่เธอมีหรือจะยอมซวยคนเดียวทั้งๆ ที่ต้นเหตุความผิดไม่ใช่เธอสักหน่อย หญิงสาวจึงงัดหลักฐานเด็ดออกมาสู้ ยื่นคลิปเสียงที่ถูกเจ้านายพูดจาลวนลามให้ตำรวจฟังและแจ้งความกลับเจ้านายชีกอเสียเลย
แม้สุดท้ายจะโดนปรับอยู่ดีแต่เธอก็ไม่เสียดายเงินหรอกนะ แต่เสียดายที่ไม่ได้กระทืบเจ้านายหัวงูนั่นซ้ำให้หนำใจมากกว่า
หนอย กล้าดียังไงมาขอจับนมเธอ ไอ้เวรตะไลเอ๊ย หน้าตาเหมือนปลาลิ้นหมา ไม่รู้ว่ายัยดาต้ามันกระเดือกลงไปได้ไงวะ ถึงเธอเองจะอยากได้ตำแหน่งมากแค่ไหน แต่ก็ไม่ยอมลดตัวทำเรื่องบัดสีแบบนั้นแน่
ดูเหมือนดาริกาคงถือว่าคุ้มค่ากับสิ่งที่ต้องจ่ายเพราะหลังจากนั้นไม่กี่วัน เพื่อนในบริษัทเธอก็โทรมาเม้าท์ให้ฟังว่ารายนั้นได้ตำแหน่งผู้จัดการฝ่ายพีอาร์ไปครองแทนเธอสมใจ
ส่วนรจนานั้นกลับได้รับของกำนัลเป็นซองขาวจากบริษัทเฮงซวยนั่นพร้อมเงินเดือนสามเดือนสุดท้ายที่เกือบไม่ได้ถ้าเธอไม่ขู่จะเอาเรื่องไปแฉในรายการของพี่หนุ่มกรรชัย และสื่อต่างๆ ที่เธอมีคอนเนคชั่นในมือเพียบล่ะก็คงชวด อย่าถามถึงโบนัสที่ควรได้เลย นี่เธอยังโดนแบล็กลิสต์จากบริษัทเป็นการตอบแทนความทุ่มเทตั้งใจทำงานสายตัวแทบขาดให้มาเกือบเจ็ดปีอย่างน่าเจ็บใจ ถ้าคิดว่านี่ถือว่าซวยแล้ว
ยังค่ะ! ความซวยของเธอเพิ่งเริ่มต้นเท่านั้น...
‘สังข์ทองลูกแม่ งามแท้พ่อคุณ...’เสียงทีวีดิจิตอลขนาดหน้าจอสี่สิบนิ้วแผดโหยหวนลั่นบ้าน ทำให้คนที่กำลังนอนฝันหวานต้องรีบยกหมอนปิดหูทันใด มิไยว่าเสียงเพลงละครจักร์ๆ วงศ์ๆ ยอดฮิตก็ยังคงหลอนหูอย่างต่อเนื่องเมื่อคืนกว่าจะข่มตาหลับได้ก็เกือบตีสาม หลับไม่ทันอิ่มก็เจอนาฬิกาปลุกที่ชื่อพระสังข์ของแม่ปลุกแต่ไก่โห่อีก“โอ๊ย...แม่นะแม่! เปิดทีวีเผื่อข้างบ้านหรือไงเนี่ย”คนที่ชื่อเหมือนเมียพระสังข์ลุกพรวดจากที่นอนอย่างเหลืออด หมดกันเช้าตรู่อันแสนสงบรจนายีผมจนฟูยุ่งเหยิงระบายความหงุดหงิด การอยู่เมืองกรุงตัวคนเดียวมากว่าสิบปีทำให้เธอรู้สึกมีอิสระ และเมื่อต้องกลับมาอยู่ร่วมกับครอบครัวที่บ้านต่างจังหวัดแบบนี้มันก็ทำให้รู้สึกไม่ชินเท่าไหร่ หากจะถามว่าแล้วเธอจะกลับมาทำอะไรน่ะเหรอเหตุผลก็เพราะเธอสู้ค่าครองชีพของเมืองกรุงไม่ไหวน่ะสิ ค่าข้าวปลาอาหารต้องกินทุกวันมื้อหนึ่งอย่างประหยัดสุดๆ ก็ต้องมีในกระเป๋าไม่ต่ำกว่าร้อยแล้ว นี่ไม่นับมื้อที่อยากกินฟุ่มเฟือยบ้าง หมูกะทะ ชาบู ปิ้งย่างเอย ไหนจะค่าที่พักที่เช่ารายเดือนรวมค่าน้ำค่าไฟไม่ต่ำกว่าเดือนละสี่ซ้าห้าพันอีกล่ะ ไหนจะค่ารถ ค่าเดินทาง ค่าโทรศัพท์ ค่าเนต ยั
‘เดี๋ยวนะ นี่มันใช่เหตุผลที่พี่จะทำชั่วๆ นอกใจกันแบบนี้เหรอวะ’รจนาแผดเสียงใส่อย่างเหลืออด และเสียงของเธอคงดังมากจนทำให้เพื่อนร่วมคอนโดเปิดประตูออกมาดูกันแทบทั้งฟลอร์‘รจพูดจาดีๆ หน่อย ไม่ต้องเสียงดัง อายคนบ้างสิ’‘ทีอย่างนี้ล่ะหน้าบาง ทีทำเลวทำไมไม่ละอายใจบ้าง นี่หล่อน! ก่อนหน้านี้รู้ไหมว่าไอ้หมอนี่มันมีแฟนอยู่แล้วน่ะ’คนถูกถามหน้าซีดไม่ตอบ แต่เท่านี้คนถามก็พอรู้แล้วว่าอีกฝ่ายรู้เต็มอก แต่ก็ยังคิดแย่งแฟนชาวบ้านอีก เฮ้อ...‘โห...สมกันดีนี่ ผีเน่ากับโลงผุ หญิงร้ายชายชั่ว เอาเถอะ ถือว่าฉันทำบุญมาดีที่รอดพ้นจากผู้ชายเลวๆ คนนี้ได้โดยไม่โง่โดนเอาฟรีจนท้องไส้ให้อับอายชาวบ้านที่มีผัวเลวแบบนี้ ต้องขอบใจเธอมากนะใบเฟิร์นที่ช่วยมารับบาปเคราะห์แทนฉัน’ หญิงสาวส่งยิ้มหวานให้‘รจ!’‘ขึ้นเสียงทำไม! หูไม่ได้หนวก แค่ตาบอดหลงผิดคิดว่านายเป็นคน...ที่แท้ก็...เฮ้อ ด่าเหี้ยยังสงสารเหี้ยเลย เอาไปเถอะ ผู้ชายเลวๆ คนเดียวฉันยกให้ แต่เธอก็ระวังหน่อยนะ สันดานคนมันเปลี่ยนยาก โดยเฉพาะหมอนี่มันปากหวานชอบขายฝันไปวันๆ ถ้ามันนอกใจฉันได้ คิดเหรอว่าเธอเองจะไม่โดนเหมือนกันสักวัน’‘รจ พี่ขอล่ะ’‘ขอเหรอ ได้สิ จัดไป...’ผลัว
‘คบซ้อน หวังฟันสาวเก็บแต้มไปวันๆ คิดว่าคนอื่นโง่หลอกได้หลอกเอา นั่นมันเรียกสันดานชั่ว!’รจนาด่าเรียงตัว พลางจ้องหน้าแฟนหนุ่ม ผิดหวังก็ใช่ แต่อีกใจก็ต้องนับว่าเธอคงทำบุญมาดีที่รู้เช่นเห็นชาติแฟนหนุ่ม โดยไม่พลาดท่าจนท้องป่องอีกคน แบบนั้นคงช้ำใจยิ่งกว่าเพราะสงสารลูกที่จะเกิดมามีพ่อแบบนี้‘ต่อไปก็อย่าทำแบบนี้กับใครอีกแล้วกัน อ้อ...ในเมื่อเลิกกันแล้ว เงินที่นายยืมไปก็คืนมาด้วยแล้วกัน’‘เงิน...เงินอะไรกันคะพี่จักร’ ใบเฟิร์นหันไปถามหน้าตื่น‘นี่หล่อน ถ้ายังไม่รู้ ฉันจะบอกให้เอาบุญนะ ลำพังเงินเดือนอิพี่จักรของเธอน่ะ เดือนๆ หนึ่งมันยังชักหน้าไม่ถึงหลังเลย ไหนจะผ่อนรถ ไหนจะผ่อนคอนโด เอาเงินที่ไหนมาดาวน์ ลำพังกินข้าวด้วยกันมันยังเกี่ยงฉันจ่ายให้เลย บอกว่ายืมเดี๋ยวคืนอ้างเป็นแฟนกันอย่าคิดเรื่องหยุมหยิม แต่จนถึงตอนนี้มันก็ไม่คืนฉันสักบาท ตอนอยู่กับเธอถ้ามันเลี้ยงข้าวเธอนั่นถือว่าบุญหัวแล้วนะ’ใบเฟิร์นหน้าเสีย จึงทำให้รจนารู้ว่าคำพูดเธอแทงใจดำอีกฝ่ายเข้าให้แล้ว‘อะไรกัน กับเธอก็โดนเหรอ เฮ้อ...ไม่ไหวนะผู้ชายแบบนี้ หวังว่ามีลูกแล้วก็เปลี่ยนนิสัยหน่อยแล้วกันเนอะ ไม่ใช่เอะอะหาเรื่องเอาเปรียบแฟนแบบนี้มั
ก๊อกๆ“พี่รจ...ตื่นยัง”เสียงตะโกนหน้าห้องฉุดรจนาให้กลับมาอยู่กับปัจจุบันอีกครั้ง เสียงแปดหลอดของ ‘เมรี’ น้องสาวคนเดียวของเธอเคาะประตูโครมๆ จนน่ากลัวจะพังคามือ“ตื่นแล้วๆ ประตูไม่ได้ล็อก”พอขาดคำประตูก็เปิดผ่างออก คนมาใหม่คือสาวน้อยวัยใสหน้าตาหมดจดตามประสาสาวเหนือ ที่มีใบหน้าละม้ายรจนาส่วนหนึ่งแต่ผิวคล้ำกว่าพี่สาวเล็กน้อย“แม่ให้มาเรียกไปกินข้าว วันนี้มีแกงขนุน น้ำพริกอ่อง ผักลวก แล้วก็ผัดผักรวมมิตร ของโปรดพี่ทั้งนั้นเลยนะ หรือจะกินข้าวซอยน้ำเงี้ยวก็มีนะ แม่ทำไว้ให้พี่ตั้งแต่เช้ามืดแน่ะ”เมนูที่ว่ามาทำให้รจนาถึงกับน้ำลายสอ ถึงจะไปอยู่เมืองกรุงมาหลายปี แต่อาหารที่ซื้อเขากินหรือจะสู้รสมือแม่ของเธอได้“เดี๋ยวพี่ขอล้างหน้าล้างตาก่อนแล้วจะรีบตามไป”“เร็วๆ ล่ะ” รจนาพยักหน้ารับ ก่อนหันไปจัดการตัวเอง สลัดความหลังมัวซัวออกจากหัวสมอง “สังข์ทองลูกแม่งามแท้พ่อคุณ...”เสียงเพลงไตเติ้ลละครจักร์ๆ วงศ์ๆ ยอดฮิตลอยลมมาทักทายรจนาพร้อมกลิ่นหอมๆ ของอาหารที่ได้นั่งล้อมวงกินกันพร้อมหน้าครอบครัว นี่คือวิถีประจำบ้านที่เธอห่างหายไปนานโข“อ้าว! เจ้ารจ มาๆ กินข้าวกันลูก” นายแผนหันไปกวักมือเรียกลูกสาวมาร่วมวง บ้
“เขาก็เม้าท์กันว่าที่พี่กลับมาอยู่บ้านเพราะท้องไม่มีพ่อน่ะสิ”“หา! ว่าไงนะ” คนโดนเม้าท์ตาโตเท่าไข่ห่าน โวยลั่น“จะบ้าเหรอ! เอาอะไรมาท้อง ผัวยังไม่มีซักคน นี่แฟนฉันก็เพิ่งเลิกกันไปก่อนกลับบ้าน...อุ๊บ!”รจนารีบปิดปากเมื่อเผลอหลุดคายความลับออกมา แต่กลับไม่รอดหูของผู้เป็นแม่และน้องสาวตัวแสบได้“ว่าไงนะ! แกเลิกกับแฟนแล้วเรอะ”อุตส่าห์เก็บงำเรื่องจักรินไว้ เพราะกลัวที่บ้านเป็นห่วง แต่ต้องมาหลุดปากเพราะความเผลอเรอ เมื่อรู้ว่าถึงปิดไปก็ไม่ได้ผลเธอเก็บความลับกับเขาได้เสียที่ไหน รจนาจึงถอนหายใจ“อืม...เลิกแล้ว ก็มันนอกใจไปทำผู้หญิงที่ทำงานท้องเลยเลิก”“ไอ้ชาติหมา!” คนที่นั่งนิ่งมานานสบถเสียงเหี้ยม“ใจเย็นพ่อ ใจเย็น หายใจเข้าลึกๆ นะ เดี๋ยวความดันขึ้น” เมรีรีบเข้าไปลูบหลังให้บิดา“ทำไมแกเพิ่งมาบอกพ่อกับแม่ล่ะยัยรจ แล้วนี่มันทำอะไรแกไปบ้าง ได้เสียกันหรือยัง”รจนาทำหน้าเมื่อย ก่อนส่ายหน้าไปมา“ยังไม่มีอะไรหรอกแม่ หนูทำตามที่แม่สอนให้รักนวลสงวนตัว แขนหนูยังไม่ให้จับเลย แต่ก็เพราะแบบนี้ไงไอ้หมอนั่นถึงหาเรื่องนอกใจหนูไปมีคนอื่น”“เฮ้อ...งั้นก็โล่งอกไปที ช่างหัวมันเถอะ ไอ้ผู้ชายเส็งเคร็งแบบนั้นดีแล้วที
สาวน้อยเข่นเขี้ยวอย่างโมโห ตั้งแต่พี่สาวหอบผ้าผ่อน พร้อมกรงหมากลับมาอยู่บ้านไม่ถึงอาทิตย์ นังเอริหมาบีเกิ้ลจอมซนก็คาบรองเท้าของคนทั้งบ้านไปแทะเรียบไม่เหลือหลอ บางทีก็คาบไปซ่อนให้ตามหาเป็นวันๆ ใช่แต่รองเท้า เสื้อผ้าที่ตากไว้ หรือข้าวของอะไรที่วางขวางหน้ามันก็คาบไปแทะเรียบ จนมาถึงคราวนี้สองพี่น้องก็เหลืออดสุดขีดเพราะเป็นรองเท้าคู่โปรดที่เหลือรอดคู่สุดท้ายแล้ว“นังหมาเวร! แอบดอดหนีออกไปซนที่ไหนอีกล่ะเนี่ย กลับมาจะตีให้ยับ หนอย กัดรองเท้าคู่โปรดฉัน ดูซิ แล้วนี่จะใส่อะไรไปล่ะ ขาดทุกคู่แล้วมั้งเนี่ย”รจนากุมขมับด้วยความโมโหจนน้ำตาแทบเล็ด“เอ๊ะ นั่นไงพี่ อิเละของพี่หรือเปล่าวิ่งแจ้นมานู่นแล้ว”เจ้าของหมาแสบรีบหันขวับ หรี่ตามองสิ่งมีชีวิตที่วิ่งปุเลงๆ สี่ขาหน้าตั้ง หมาน่ะใช่ แต่สีนี่สิ เจ้าหมาของเธอเป็นบีเกิ้ลพันธุ์แท้ หูยาวสวยมีสามสีคือส้ม ขาว และดำ หางมีแต้มดอกสีขาว แต่ไอ้เจ้าตัวที่กำลังวิ่งตรงมานั่นกลับมีสีเดียวคือสีโคลนน้ำครำดำมะเมี่ยม แถมในปากคาบอะไรบางอย่างมาด้วย“อี๋...อย่าเข้ามานะเอริ ไม่เอาไม่เล่น” รจนารีบถอยหนีเมื่อเห็นสภาพหมาตัวมอมที่วิ่งตรงเข้ามาหาเธอ ก่อนสะบัดขนพรึ่บพรั่บแบ่งปันค
“แล้วกัน เลยมอมทั้งคนทั้งหมาเลย รองเท้าก็ขาดหมดแล้ว เฮ้อ! นังหมาจอมแสบนี่” แม่ของสองสาวหันรีหันขวางหาไม้เรียว “รองเท้าที่บ้านมันก็กัดจนเกลี้ยงแทบไม่มีใส่กันแล้ว ยังจะไปขโมยรองเท้าชาวบ้านอีก นังเมรีไปเอาไม้เรียวมาที”“ไม้เรียวก็อยู่ในมือพี่รจนั่นไงแม่”“แล้วนี่จะทำยังไง พ่อสาธุเขาจะใส่อะไรล่ะนั่น”“เดี๋ยวหนูไปซื้อรองเท้าแตะที่ร้านป้าสายหยุดให้ก่อนก็ได้แม่ คุณรอที่นี่ก่อนนะ เดี๋ยวฉันมา” ในฐานะเจ้าของหมา รจนาจะทำอะไรได้นอกจากรับผิดชอบแทน“คุณรู้ไซซ์ผมแล้วเหรอ”“หา! ไซซ์ ไซซ์อะไร” หญิงสาวงุนงง“อ้าว ก็คุณจะไปซื้อรองเท้าให้ผมน่ะ รู้ไซซ์เท้าผมแล้วหรือไง”“อ๋อ...งั้นคุณใส่ไซซ์อะไรล่ะคะ แล้วสีล่ะ เอาสีเดิมไหม” ปากพูดแต่ตามองสีรองเท้าที่เก่าคร่ำคร่าจนดูไม่ออกว่ามันเป็นสีอะไร“ว่าแต่สีเดิมของคุณนี่มันสีอะไร”เจ้าของรองเท้ากลั้นขำ เก๊กหน้าขรึมใส่แม่สาวแปลกหน้า“เดี๋ยวผมไปด้วยดีกว่า จะได้ลองใส่ด้วยว่าพอดีเท้าไหม”รจนามัวแต่มองหน้ามอมๆ ของคนพูด จึงไม่ทันสังเกตเห็นสีหน้าพ่อแม่และน้องสาวของเธอที่หันไปมองสบตากันอย่างแปลกใจ“โอเคค่ะ เอางั้นก็ได้ งั้นเดี๋ยวรจมานะแม่”“ใจคอจะไปกันทั้งแบบนั้นน่ะเรอะ มีหว
“โอ๊ะ! นั่นคุณจะทำอะไรน่ะ”“ก็อะไรไม่รู้มันแทงตรงท้องฉันเนี่ย เลยจะจับออก คุณก็ลุกซักทีสิ”“ก็บอกแล้วไงว่ายังลุกไม่ได้” ชายหนุ่มกัดฟันบอก“แล้วทำไมถึงลุกไม่ได้” หญิงสาวถามพลางสะดุ้งเฮือกเมื่อมือสัมผัสกับของร้อนที่แนบหน้าท้องตน “แล้วนี่มันมันอะไร คุณเอาอะไรมาแทงท้องฉันเนี่ย”“อยากรู้จริงเหรอ” รจนาชะงักกึก ก่อนมองหน้าคนพูดที่อยู่ในระยะประชิด หากแล้วโลกของเธอก็พลันหยุดหมุนไปชั่วขณะทันใดเมื่อกี้เพราะโคลนบดบังแต่ก็พอมองออกว่าโครงหน้าคงดีประมาณหนึ่ง แต่พอล้างโคลนออกไปถึงได้รู้ว่าทำไมพ่อหนุ่มเจ้าของไร่แห้วผู้นี้จึงเป็นขวัญใจสาวๆ ทั้งหมู่บ้าน คิ้ว ตา จมูก ปาก ได้รูปไปหมดราวกับผ่านมือช่างปั้นแม่เจ้าโว้ย! นี่มันเงาะป่าถอดรูปชัดๆ หล่อละมุนอะไรเบอร์นั้นล่ะพ่อคุ๊ณ นี่มันใช่คนเดียวกับมนุษย์โคลนเมื่อกี้เรอะ!“จ้องพอหรือยัง”“ยัง...เอ๊ย! ไหนใครจ้อง ฉันเปล่านะ...” พอถูกจับได้ก็รีบหันไปมองทางอื่น แต่ทว่าเห็นอะไรในมือตัวเองแวบๆ จึงยกขึ้นดูผ้าอะไรวะเปียกๆ นี่มันผ้าขาวม้านี่หว่า มาจากไหนล่ะถ้าไม่ใช่จากคนที่นอนใต้ร่างเธอตอนนี้ รจนาทำตาปริบๆ“นั่นคุณจะจับ...ถึงเมื่อไหร่”“จับ...จับอะไรล่ะ”“ก็มือคุณจับอะ
“แหย่แบบนี้เดี๋ยวก็มีเฮหรอก” พูดจบก็เลยโดนสำเร็จโทษแบบคอมโบเซต รจนาประคองใบหน้าหล่อเหลาก่อนจูบที่หน้าผากเขา ไล่มาที่ดวงตาคมพราว ปลายจมูกโด่ง และแก้มทั้งสอง แต่พอถึงริมฝีปากเธอก็หยุดไว้แค่นั้น และกอดคอเขาไว้ พลางกระซิบเบาๆ ที่ข้างหู“อยากกินมะม่วงน้ำปลาหวานจัง” ไม่กระซิบเปล่าแม่สาวจอมซนแอบงับที่ติ่งหูขาวๆ ของเขาจนอีกฝ่ายเผลอหลุดครางออกมา ก่อนที่จะดึงคนเกเรมานั่งลงบนตักและกอดไว้“พี่ไม่ใช่มะม่วง รจแทะเอาๆ แบบนี้รู้บ้างไหมว่ามันทรมานนะ”“ไหนจ๊ะ ทรมานตรงไหนกัน มาให้รจดูหน่อยซิ” มือซุกซนลูบไปตามแนวกระดูกไหปลาร้าเซ็กซี่เลยไปที่ลาดไหล่กว้างผึ่งผาย แม้จะสวมเสื้อยืดสีขาวแต่ก็เนื้อบางระบายอากาศ ทำให้เธอลวนลามเขาได้อย่างสะดวกโยธิน“ตรงนี้เหรอ...” มือนุ่มๆ ลากลงไปที่แผงอกล่ำเพราะทำงานใช้แรงหนักทุกวันจนเกิดกล้ามเนื้อที่แข็งแรง ก่อนวนปลายนิ้วเรียวรอบๆ จุดปลายยอดอกที่ถูกมีผ้าบางๆ ขวางกั้น แต่กระนั้นก็ไม่ต่างจากการสัมผัสเนื้อแท้เลยแม้แต่น้อย“รจ...” สาธุคุณกัดฟันเรียก เมื่อถูกความรู้สึกบางอย่างโจมตีจนลมหายใจสะดุด หัวใจกระตุกตามแรงมือเธอเป็นระยะๆ“จ๋า...” เสียงหวานกระซิบ พลางย้ายมือไปคลึงปลายยอดอกอีกข
“อารมณ์ปลื้มแฟน ใครจะโชคดีเท่ารจนาคนนี้อีก มีแฟนเนื้อหอมระดับประเทศแถมรูปหล่อเสียด้วย”สาธุคุณยิ้มขำ พอสนิทเข้าหน่อยก็เผยความรั่วออกมารัวๆ แต่ก็ทำให้เขาเพลินดีไปอีกแบบ“อะไร พี่เนี่ยนะเนื้อหอม รจแอบมาดมตอนไหน” พอท้ามา เธอก็จัดการดมเนื้อแก้มเขาให้อีกสองฟอด“ดมตอนนี้ไง หอมจริงด้วย” สาธุคุณดึงคนปากดีเข้ามาขังไว้ในวงแขน“มาอ้อนแบบนี้ คิดจะป่วนพี่หรือไง” หญิงสาวหัวเราะคิก ก่อนควักมือถือออกมาแล้วยื่นให้เขาดู“ใครกันแน่ที่โดนป่วน ดูสิ ทั้งเฟซ ติ๊กต๊อก ไอจี ทวิตเตอร์ ยูทูปเขากำลังคลั่งรักพ่อสังข์ทองแฟนของรจนากันแค่ไหน นี่รายการโหนกระแสเขาโทรมาชวนพี่ไปสัมภาษณ์กับพี่หนุ่มกรรชัยหรือยัง ถ้าพี่จะไปอย่าลืมพารจไปด้วยนะ รจเป็นแฟนคลับพี่เขา จะไปเซลฟี่ด้วย”สาธุคุณดึงปลายจมูกคนช่างเจรจาอย่างมันเขี้ยว พลางหันไปมองคลิปของตน ก่อนที่จะสะดุดตาเมื่อเห็นแคปชั่นใต้ภาพ“พี่เคยเป็นพระเอกละครทำไมไม่เห็นเล่าให้รจฟังบ้างล่ะ”“ก็แค่เคยเป็น เรื่องในอดีตผ่านมาตั้งหลายปีแล้วน่ะ นี่พี่ก็เกือบลืมแล้วด้วยซ้ำ รจแคร์ด้วยเหรอ หรือว่าแอนตี้”“แอนตี้ทำไม มีแฟนเป็นถึงระดับพระเอกไม่ดีตรงไหน อ้อ...ไม่สิ ไม่ดี...ไม่ดีตรงที่มีสาวๆ
“เอะอะอะไรแต่เช้าอีกล่ะยัยตัวแสบ”“มาดูๆ คลิปนี่เร็วๆ” รจนาส่ายหน้าแต่ก็ยอมเบนเท้าไปหาคนเรียก“คลิปอะไรอีกล่ะ”“นี่ไง พี่สาธุดังใหญ่แล้วเนี่ย” ชื่อนั้นทำให้หญิงสาวหูผึ่ง รีบจ้องมองหน้าจอโทรศัพท์ของน้องสาวทันทีเป็นคลิปตอนที่สาธุคุณขึ้นไปร้องเพลงบนเวทีตลาดถนนคนเดินกับเธอวันนั้นนั่นเอง“อดีตพระเอกหนุ่มชื่อดังสาธุคุณ โชษฐ์วรการ หวนคืนเวที อีกครั้งหลังหายหน้าไปกว่าห้าปี ความหล่อละมุนกับเสียงหวานๆ ของหนุ่มคนนี้ทำให้สาวๆ ถึงกับใจละลาย อยากได้คนสึ่งตึงรูปหล่อเป็นแฟนทั้งประเทศ!”“อดีตพระเอกหนุ่มชื่อดังเหรอ” ทั้งสี่เงยหน้าขึ้นมองสบตากัน เมรีนักสืบโซเชียลตัวแม่รีบพิมพ์เสิร์จชื่อเขาในกูเกิ้ลก่อนเอะอะ“ใช่จริงด้วยนี่ไงๆ พี่สาธุเคยเป็นพระเอกละครจักรๆ วงศ์ๆ เรื่องสังข์ทองเมื่อห้าปีก่อนจริงๆ ด้วย”ก็รู้ว่าเจ้าของไร่หนุ่มนั้นรูปหล่อ แต่ใครจะคิดว่าเขาจะหล่อถึงขั้นได้รับบทพระเอก ถึงจะเป็นพระเอกละครพื้นบ้านก็เถอะ แหม เข้าใจเลือกบทนะ พระสังข์งั้นเหรอ เข้าคู่กับนางรจนาอย่างเธอไปอีก“ถึงว่าสิ แม่ก็คิดๆ อยู่ว่าหน้าคุ้นๆ แต่นึกไม่ออกว่าเคยเห็นที่ไหน ที่แท้ก็เป็นพระสังข์ในทีวีคนนั้นนี่เอง แต่ตอนนั้นพ่อสาธุเขา
สาธุคุณหัวเราะออกมาอย่างสุดกลั้น พลางยื่นมือมายีจมูกคนช่างพูดอย่างเอ็นดู คนงานที่กำลังเก็บผักเงยหน้ามองเจ้านายหนุ่มอย่างแปลกใจ ก็ร้อยวันพันปีเห็นแต่หน้าขรึมๆ เอาจริงเอาจัง ผิดกับวันนี้ขยันยิ้มขยันพูดขยันอ้อนสาว หากแฟนคลับทั้งหมู่บ้านรู้เข้ามีหวังชักกระแด๋วๆ ด้วยความอิจฉาตายกว่าที่ทัวร์ชมไร่แบบวีไอพีจะเสร็จก็คล้อยบ่าย ตะกร้าหน้ารถจักรยานก็มีพืชผักผลไม้สดๆ เก็บจากต้นที่ผ่านทางไหนก็รับส่วยเขามาจนเต็มพื้นที่ตะกร้า คนปั่นจักรยานก็ไม่มีทีท่าจะบ่นสักคำว่าเหนื่อย แอบเห็นหยาดเหงื่อที่เกาะบนใบหน้าหล่อคมคายนั่น รจนาจึงอดไม่ได้“พี่จะพักหน่อยไหม ปั่นจักรยานพารจเที่ยวทั้งวันแบบนี้ไม่เหนื่อยเหรอ”สาธุคุณก้มมองคนพูดด้วยรอยยิ้ม “เหนื่อยสิ คนนะไม่ใช่เครื่องจักร แต่พี่อยากให้รจเห็นสิ่งที่พี่ทำ วันนี้ที่เห็นน่ะยังไม่ถึงครึ่งของไร่เลยนะ นี่ยังเหลือไร่แห้ว ไร่สับปะรด ไร่ระกำ ลิ้นจี่ แล้วก็สวนดอกไม้อีกตั้งเยอะ แล้วรจล่ะเหนื่อยหรือยัง”“เหนื่อยสิถามได้ เขินจนเหนื่อยจะตายแล้วเนี่ย พี่เล่นแนะนำรจกับคนทั้งไร่ จนรจเขินวางหน้าไม่ถูกแล้วเนี่ย”“งั้นก็จงเหนื่อยต่อไป เพราะพี่ชอบเห็นรจเขิน เขินทีแก้มแดงทีน่ารักจะตา
“รจส่งรูปให้พี่แล้วนะ” เอ่ยโดยไม่ยอมสบตาเขา ก่อนฉุกใจคิดได้ “เอ๊ะ! เมื่อกี้พี่หลอกให้รจแอดไลน์พี่นี่นา คนเจ้าเล่ห์!”สาธุคุณหัวเราะลั่นเมื่อถูกจับได้ “ไม่ดีเหรอ เรามีไลน์กันไว้ คิดถึงกันก็จะได้ส่งไลน์หาไง นั่นเบอร์โทรส่วนตัวพี่ มีอะไรรจโทรหาได้ตลอดนะ”อืม...เย็นไว้ไอ้รจ แค่แอดไลน์เท่านั้น เขายังไม่ได้ขอแกเป็นเมียโว้ย จะเขินอะไรเบอร์นี้เนี่ย กำลังนับหนึ่งถึงสิบในใจ หางตาก็ดันเหลือบไปเห็นชื่อที่เขาพิมพ์หน้าจอมือถือเสียก่อน‘ว่าที่เมีย’ตายๆ ตายทั้งๆ ที่หายใจนี่แหละ อะไรจะน่ารักขนาดนี้วะเนี่ย ไม่ไหวจะเขินแล้วนะแม้จะต้องทนต่อความเขินไปตลอดทาง แต่การทัวร์บ้านไร่กับหนุ่มเจ้าของไร่แห้วก็ทำให้รจนาเพลิดเพลินจนลืมเบื่อ จากตอนแรกที่เธอคิดว่าเขาอาจจะทำไร่เหมือนๆ คนทั่วไป หรือไม่ก็แค่ทำไร่เล่นๆ โก้ๆ เท่านั้น เลยเปลี่ยนความคิดใหม่แต่พอได้ยินสิ่งที่เขาอธิบายให้ฟัง หรือสิ่งที่เขาทดลองผิดลองถูกมากับมือจนได้เทคนิคใหม่ๆ ก็ทำให้เธอเชื่อว่าอีกฝ่ายรู้จริง และรู้ลึก จากที่ชื่นชม จึงกลายเป็นชักจะเลื่อมใสศรัทธา และนับถือในความทรหดอดทนของผู้ชายตรงหน้า ที่ใช้หนึ่งสมองสองมือพลิกฟื้นจากที่นาเป็นไร่สวนผสมที่สวยง
“มานี่สิ เดี๋ยวพี่พับแขนเสื้อให้ หลวมไปหน่อยก็ดีกว่าตากแดดตัวดำเป็นถ่านนะ” รจนาเอียงคอมองผิวขาวของเขา ชาวไร่อะไรวะ ทำไมผิวไม่เห็นคล้ำดำด่างเลย“นี่พี่ใช้ครีมกันแดดยี่ห้ออะไรน่ะ ทำงานไร่แต่ทำไมยังขาวได้ขนาดนี้”สาธุคุณเงยหน้ามองคนถามอย่างนึกขำ“เปล่าหรอก พี่ก็ไม่ได้ทาครีมอะไรเป็นพิเศษ แต่ก็มีใช้ครีมธรรมดาๆ ที่มีขายทั่วๆ ไปเท่านั้น” รจนาได้แต่มองเขาพูดจนเพลิน เห็นว่าอีกฝ่ายเป็นคนดูแลตัวเองก็นึกชื่นชม ใบหน้าหล่อเหลาวันนี้เหมือนเพิ่งโกนหนวดมาจึงดูเกลี้ยงเกลาสะอาดน่ามอง ยิ่งทำให้หัวใจสาวโสดชักเกเร“เสร็จแล้ว อ๊ะ!”สาธุคุณถึงกับชะงักเมื่อจู่ๆ หญิงสาวตรงหน้าก็เขย่งปลายเท้าขึ้นจูบที่ปลายคางของเขาเบาๆ โดยไม่ทันให้ตั้งตัว“ขอบคุณนะจ๊ะพี่สาจ๋า” รจนายิ้มหวานใส่ดวงตาคมๆ วาวๆ ที่มองมา “ทำไมล่ะ นึกว่าพี่ชอบให้รจลวนลามซะอีก นี่รจไม่ได้ขัดคำสอนแม่สักนิดนะ เป็นผู้หญิงต้องรักนวลสงวนตัวอย่าให้ผู้ชายเขาถึงตัวหรือลวนลามเอาง่ายๆ ก็นี่ไงพี่ไม่ได้ลวนลามรจ แต่รจต่างหากจะลวนลามพี่เอง ฉะนั้นรจไม่ผิด”สาธุคุณฟังคำพูดเกเรแต่น่ารักของอีกฝ่ายแล้วหลุดขำอีกรอบ ตั้งแต่เกิดมาก็มีครั้งนี้แหละที่เขาถูกผู้หญิงลวนลามแล้วมีห
“พี่ว่าจะไปดูโรงเรือนปลูกผักสลัดเสียหน่อยเห็นลุงบุญบอกว่ากำลังงาม อีกไม่นานคงเก็บขายได้ รจอยากไปดูด้วยกันไหมล่ะ” เจ้าของไร่ชวน“หืม...รจไปได้เหรอ จะไปเกะกะพี่ทำงานหรือเปล่า”“ทำไมจะไม่ได้ รจเป็นแฟนพี่ ทำไมจะไปดูผลงานแฟนตัวเองไม่ได้ล่ะ แล้วถ้าเราได้แต่งงานกันรจก็คือเมียเจ้าของไร่ เรียนรู้งานไว้บ้างแต่เนิ่นๆ สักหน่อยก็ดี ต่อไปจะได้คอยเป็นหูเป็นตาแทนพี่ได้”“โอย...หวานได้อีกแฟนฉัน” รจนาบ่นอุบอิบเขินๆ ก่อนเสตักผัดผักเข้าปากแก้เกี้ยวพลางรู้สึกว่ารสชาติผัดผักวันนี้ชักจะหวานเกินเบอร์ หัวใจเจ้ากรรมเต้นแรงไม่หยุด ก่อนที่จะนึกขึ้นได้เมื่อเห็นเสื้อผ้าที่เขาสวม“จริงสิ! งั้นเดี๋ยวรจไปเปลี่ยนเสื้อผ้าที่บ้านก่อนแล้วกัน ขืนไปชุดนี้ ขากลับแม่จะตกใจคิดว่านั่นลูกหรือถ่าน”สาธุคุณหลุดขำพรืด “ไม่ต้องหรอก ถ้ารจไม่รังเกียจจะใส่เสื้อคลุมกับหมวกของพี่ไปก่อนก็ได้”“เอางั้นก็ได้จ้ะ” หญิงสาวไม่ใช่คนเรื่องมากจึงตอบรับไป ทั้งๆ ที่ปกติรจนาจะค่อนข้างถือสาไม่ชอบยืมเสื้อผ้าใครใส่ถ้าไม่จำเป็นก็เหอะ“งั้นรจรอพี่ตรงนี้ก่อน เดี๋ยวพี่เก็บจานกับปิ่นโตไปล้างเสร็จแล้วจะไปหยิบมาให้”“อุ๊ย! เดี๋ยวรจล้างให้เองพี่ เดี๋ยวแม่รู้จ
“พอๆ เด็กบ้านี่! พูดจาน่าเกลียด ใครมาได้ยินเข้าจะหาว่าพ่อแม่ไม่สั่งสอน แล้วนี่เมื่อไหร่จะเสด็จยะ เดี๋ยวกับข้าวพี่เขาก็เย็นหมด ไม่อร่อยหรอก”“ไปแล้วจ้า ไหนล่ะจ๊ะปิ่นโตของพ่อลูกเขยคนโปรด”นางสีดาส่งปิ่นโตให้ พลางค้อนลูกสาวควับๆ ตามองตามหลังลูกสาวคนโต ลึกๆ นางก็แอบคิดหากรจนาได้ลูกเขยดีๆ แบบสาธุคุณมาเป็นคู่ชีวิต คนเป็นพ่อแม่คงสบายใจนอนตายตาหลับหายห่วงสักที“โฮ่งๆ!” ทันทีที่รถจักรยานของรจนาเลี้ยวเข้าสู่หน้ากระท่อมกลางไร่ลำไย ก็มีเสียงเห่าต้อนรับ หญิงสาวหันไปมองเจ้าหมาที่เธอตามหาซึ่งนอนหมอบข้างๆ เจ้าหมาพันธ์ทางสีดำเมี่ยมอย่างคาดโทษ“หนอย...ติดผู้ชายบ้านช่องไม่ยอมกลับเลยนะแก เจ้าเอริ”“โฮ่ง!”“พูดยังจะมาเถียงอีก ไม่รู้จักรักนวลสงวนตัว ถ้าเกิดท้องขึ้นมาจะทำยังไง...”“ก็เลี้ยงสิ ไม่เห็นยาก” คราวนี้ไม่ใช่หมา แต่เป็นเสียงคนที่กำลังยืนมองลงมาจากระเบียงบ้านด้วยสีหน้ายิ้มๆ“เกิดมีสักสิบตัวล่ะ พี่จะเลี้ยงไหวเหรอ”“ไม่ไหวรจก็ช่วยเลี้ยงสิ ซ้อมมือไว้ก่อนจะเป็นไรไป อีกหน่อยพอเรามีเองบ้างจะได้ช่วยกันเลี้ยงคล่องๆ ไง”หญิงสาวตวัดค้อนใส่คนหน้ามึนเบาๆ ก่อนที่จะจอดรถจักรยาน และหันไปหยิบปิ่นโตออกมา“แหม จะข้า
“สนสิ แต่ถ้ารจทำพี่หมดตัวอย่ามาบ่นแล้วกัน”“หมดก็หาใหม่”“ที่พูดน่ะหมายถึงเงินหรือคนช่วยใช้เงิน”“ความสุขต่างหาก เงินหมดจะหาเมื่อไหร่ก็ได้ถ้ามีหนึ่งสมองกับสองมือซะอย่าง พี่ไม่เคยกลัวความลำบาก”ทำไมหล่อจังวะ หล่อทั้งหน้าหล่อทั้งความคิด “แล้วรจล่ะ มีแฟนเป็นชาวไร่ชาวสวนแบบพี่ กลัวไหม”“กลัวสิ! แต่กลัวพวกสาวๆ คนอื่นมารุมจีบแฟนรจต่างหาก ตั้งแต่มานี่เจอกี่รายแล้วล่ะ ทั้งลูกสาวเจ้าของร้านชำ ทั้งลูกสาวกำนัน ไหนจะคุณครูมัธยมคนสวย เฮ้อ...ไม่ไหวจะเคลียร์ นี่ยังมีใครอีกไหม บอกมาให้หมดทีเดียว รจจะได้เตรียมใจ”สาธุคุณยิ้มขำคนช่างแขวะ หากอีกใจรู้สึกดีที่ได้ยินเธอเรียกเขาว่าแฟนเต็มปาก“ไม่รู้สิไม่ได้สนใจใคร ตอนนี้พี่สนใจแต่แฟนพี่คนเดียว”บึ้ม! ตายสงบศพหาไม่เจอเลยทีนี้...“หูย...ปากหวาน”“อยากชิมอีกเมื่อไหร่ก็บอกได้ โปรที่ให้ไปก็มีแล้วนี่ จะใช้วันนี้เลยไหม บอกแล้วว่าพี่จะไม่ขัดขืน ยอมตามใจรจทุกอย่าง” ไม่พูดเปล่าดวงตาคนพูดยังทอประกายระยิบระยับเสียด้วยไม่ไหวๆ ยิ่งพูดก็ยิ่งเข้าตัวไปเรื่อยๆ หยอดเป็นขนมครกแบบนี้เธอจะรับมือยังไงไหว“เอ๊ะ! ทางนั้นมีร้านรองเท้าด้วย เราไปดูกันไหม จะได้ซื้อคู่ใหม่แทนคู่ที่เจ้