แชร์

อุบายรักแม่ทัพหน้านิ่ง
อุบายรักแม่ทัพหน้านิ่ง
ผู้แต่ง: Priyada

บทนำ

ผู้เขียน: Priyada
last update ปรับปรุงล่าสุด: 2024-10-15 03:59:23

“หา!! เจ้าบอกว่าอยากทำสิ่งใดนะ พูดให้พี่ฟังอีกทีซิ”

ภายในตำหนักขนาดใหญ่ที่ได้รับการตกแต่งอย่างวิจิตรงดงาม บ่งบอกถึงฐานะของผู้อยู่อาศัย บุรุษหนุ่มรูปร่างสูงโปร่ง เบิกตามองสตรีใบหน้าจิ้มลิ้มที่ได้ชื่อว่าเป็นน้องของตนด้วยความตื่นตระหนกตกใจระคนเหนื่อยหน่ายกับสิ่งที่นางเพิ่งจะเอ่ยขอ จนถึงกับต้องถามอีกครั้งเพื่อความแน่ใจ รวมทั้งคาดหวังให้ตัวเองฟังผิด

“ข้าอยากปลอมตัวเข้าไปอยู่ในกองทัพของสหายท่าน อนุญาตเถอะนะเพคะ” เสียงใสตอบกลับกึ่งอ้อนวอน

“แต่เจ้าเป็นองค์หญิง!”

เฉินไป่ชางหรือที่คนทั่วไปเรียกกันว่าองค์ชายชาง ว่าที่องค์

รัชทายาทแห่งแคว้นเป่ยหนานร้องออกมาอย่างเหลืออด สองมือจับไหล่บอบบางของน้องสาว แล้วมองเข้าไปในดวงตากลมโตสุกใสอย่างเคร่งขรึมจริงจัง

“เจ้าปลอมตัวเข้าไปเสี่ยงอันตรายเช่นนั้นไม่ได้ ไม่เด็ดขาดหยางจู”

ย้ำท้ายประโยคด้วยเสียงเด็ดขาดที่ไม่ค่อยได้ใช้กับนางบ่อยนัก แต่หากไม่ย้ำให้ชัด มีหรือที่น้องสาวจอมแก่นของเขาจะฟัง

ดรุณีน้อยที่มีบรรดาศักดิ์เป็นถึงองค์หญิงถอนหายใจเฮือกใหญ่ แววตาสุกสกาวเมื่อครู่หม่นแสงลงทันทีเมื่อได้ฟังคำตอบ แต่นั่นก็เป็นอยู่เพียงชั่วแวบเดียวเท่านั้น นางก็กลับมาร่าเริงอีกครั้งตามนิสัย ครานี้ดวงตานางฉายแววเจ้าเล่ห์ซุกซนเหมือนกับทุกครั้งที่นางซุกซ่อนแผนการณ์ต่าง ๆ ไว้ เฉินไปชางเห็นดังนั้นก็รู้สึกใจคอไม่ค่อยจะดี เพราะน้องสาวเขาผู้นี้ขึ้นชื่อว่าเป็นจอมป่วนอันดับหนึ่งแห่งวังหลวง ด้วยเพราะเสด็จพ่อรักและตามใจนางมาก

“แต่…ถ้าหากไปโดยมีคนช่วยเหลือ ก็ไม่น่าจะเป็นอันตรายใด ๆ นี่เพคะ”

“แล้วผู้ใดจะมาช่วยเหลือเจ้า”

“รองแม่ทัพซื่อหมิงอย่างไรเล่า”

เขาส่ายหน้าช้า ๆ ต่อให้จางซื่อหมิงจะเป็นที่ไว้วางใจของเขารองจากมู่หรงเซียวหนานซึ่งเป็นแม่ทัพและเป็นสหายของเขา แต่เขาก็ไม่มีทางปล่อยน้องสาวไปตกระกำลำบากเช่นนั้นได้ มีอย่างที่ไหน สตรีจะปลอมตัวเป็นบุรุษเข้าไปในกองทัพที่อยู่ไกลถึงชายแดน นางจะต้องเจอกับสิ่งใดบ้างเมื่อเข้าไปอยู่ในนั้น ได้ตระหนักบ้างหรือเปล่าก็ไม่รู้ หรือคิดแต่จะเอาสนุกสนานเพียงอย่างเดียวถึงได้มาขออะไรที่เป็นไปไม่ได้เพียงนี้

“นี่พี่จะต้องอบรมเจ้า เรื่องหน้าที่พึงกระทำของผู้มีศักดิ์เป็น

องค์หญิงแห่งแคว้นเป่ยหนานอันยิ่งใหญ่ของเราอีกหรือ”

“จริงอยู่ว่ามีหลายสิ่งหลายอย่างที่ข้าต้องกระทำเมื่อเกิดมาสูงส่ง แต่จะมีเพียงสิ่งเดียวไม่ได้เชียวหรือ ที่พอจะให้ข้าได้ทำตามใจตนเองบ้าง” หยางจูเอ่ยด้วยน้ำเสียงตัดพ้อ จับมือของผู้เป็นพี่เอาไว้แน่นเป็นเชิงขอร้อง

“ไม่ได้ เจ้าจะทำสิ่งนี้ไปเพื่ออันใดกัน พี่ไม่เข้าใจ” เฉินไป่ชางพยายามทำใจแข็งกับลูกอ้อนของน้องสาว

นางนิ่งไปเล็กน้อยอย่างพยายามเรียบเรียงคำพูด ในขณะที่เขาเองก็คิดว่าความอยากเล่นสนุกอย่างเดียวคงไม่ถึงขนาดผลักดันให้นางคิดทำอะไรยิ่งใหญ่เพียงนี้ ถ้าไม่มีเหตุผลอื่นแอบแฝงอยู่

“ว่าอย่างไร ตอบพี่มาตามตรง”

“ก็เรื่องที่เสด็จพ่อทรงมีพระประสงค์จะให้ข้าอภิเษกเพื่อเชื่อมความสัมพันธ์กับต่างแคว้น ทั้งที่ไม่เคยเห็นหน้าบุรุษผู้นั้นมาก่อน ซ้ำร้าย ข้ายังมีใจชอบพอผู้อื่นอยู่ก่อนแล้ว ในเมื่อเป็นเช่นนี้ ข้ามิสมควรได้รับโอกาสได้ทำตามหัวใจตัวเองก่อนหรือเพคะ ในเมื่อคนที่ข้าเลือกก็ไม่ได้ด้อยไปกว่าคนอื่นเลยแม้แต่น้อย” นางตอบไปสะอื้นไป

“เจ้าหมายถึง...” เขาหยุดเพียงแค่นั้น เนื่องจากตัวเองก็พอจะรู้ว่าคนที่อยู่ในหัวใจของน้องนั้นคือใคร

หยางจูพยักหน้าเป็นเครื่องช่วยยืนยัน บุรุษที่นางคิดที่จะเอาตัวเองเข้าไปเสี่ยงเพื่อจะให้ได้อยู่ใกล้คือมู่หรงเซียวหนาน บุตรชายคนโตของท่านแม่ทัพใหญ่มู่หรงเซียนหลิว ซึ่งได้รับความไว้วางพระทัยจากฮ่องเต้ ซึ่งก็คือเสด็จพ่อของนางอย่างใหญ่หลวง คนทั้งตระกูลมู่หรงมีความสัมพันธ์อันดีกับราชวงศ์มาอย่างยาวนาน แม้แต่ธิดาเพียงคนเดียวก็ยังได้รับบรรดาศักดิ์เป็นท่านหญิงและอภิเษกกับหลี่อวี้อ๋อง เสด็จอาของนางเช่นกัน ในเมื่อเป็นเช่นนั้น ทำไมนางถึงจะต้องการให้มู่หรงเซียวหนานมาเป็นพระสวามีของนางบ้างไม่ได้

แม้นางจะเกิดมาเป็นสตรี แต่นางก็มีความเชื่อว่าสตรีควรได้สิทธิ์ในการเลือกสามีเองเช่นกัน ถ้าหากนางเลือกอย่างชาญฉลาดแล้วละก็ นางคงจะเป็นหญิงสาวที่มีความสุขที่สุดคนหนึ่ง ดีกว่าจะต้องไปทนอยู่กับองค์ชายที่นางไม่รู้จัก ไม่เคยเห็นหน้าค่าตาหรือนิสัยใจคอมาก่อน และยังต้องจากครอบครัวไปอยู่ถึงต่างบ้านต่างเมือง

“แต่หยางจู ในเมื่อเสด็จพ่อก็ชัดเจนอยู่แล้วว่าอยากให้เจ้าเป็นตัวเชื่อความสัมพันธ์ หากเจ้าไม่ทำตามนั้น ก็เท่ากับฝ่าฝืนพระประสงค์ของพระองค์” ขณะเอ่ยเฉินไป่ชางก็รู้สึกเห็นในน้องสาวอยู่ไม่น้อย

“เมื่อถึงตอนนั้น ข้าเชื่อว่าท่านที่เป็นพี่ชายของข้า จะช่วยเหลือข้าอย่างเต็มที่ อีกไม่นานท่านจะได้รับการสถาปนาเป็นองค์ชายรัชทายาทอย่างเป็นทางการ อย่างไรเสีย คำพูดของท่านย่อมต้องมีน้ำหนักและทำให้เสด็จพ่อโอนอ่อนผ่อนตามได้โดยง่าย” องค์หญิงหยางจูประจบผู้เป็นพี่อย่างเต็มที่

คนเป็นพี่เพียงแต่ทำเสียงในลำคออย่างไม่เห็นด้วย นึกอยากจะบอกออกไปว่าความจริงใช้เพียงการออดอ้อนของนาง เสด็จพ่อก็คงจะพระทัยอ่อนแล้ว ดังเช่นที่เขากำลังจะเป็นอยู่นี้

แต่ไม่ได้หรอก แม้เขาจะเข้าใจนางดีว่าเมื่อคนเราตกอยู่ในห้วงแห่งความรัก ย่อมต้องทำทุกวิถีทางให้ความรักนั้นสมหวัง แต่ก็เป็นเพราะเหตุนั้นอีกเช่นกัน คนเราถึงได้ขาดเหตุผล และกระทำการไม่สมควรมากมาย จนต้องมานึกเสียใจภายหลัง

“หากพี่ช่วยเจ้าให้ได้ไปที่ค่ายจริง ๆ เจ้าจะกินอยู่อย่างไร ไม่มีใครทำอาหารที่เจ้าอยากกินและยกมาให้ถึงที่หรอกนะ ไหนจะเรื่องการอาบน้ำแต่งตัว ที่หลับที่นอน เจ้าต้องไปอยู่อย่างชายชาติทหาร ซึ่งนั่นหมายความว่าเจ้าจะลำบากกว่าเดิมนับร้อยเท่า เจ้าจะรับไหวหรือ” คนเป็นพี่เอ่ยลองใจและตั้งใจข่มขู่

“ข้าคิดเรื่องนั้นมาหมดแล้ว และข้ามั่นใจว่าตัวเองอยู่ได้ ข้าไม่ใช่ผู้หญิงบอบบางเสียเมื่อไหร่” คนเป็นน้องยิ้มเผล่ ก่อนที่นางจะมาขอร้องให้เสด็จพี่ช่วย นางย่อมใคร่ครวญปัญหาเรื่องความลำบากมาเป็นอย่างดีแล้ว

องค์ชายชางมองนางตั้งแต่หัวจรดเท้า หยางจูสูงแทบไม่พ้นไหล่เขา และหากเขาต้องยืนอยู่ด้านหน้า เขาจะบังนางจนมิด นี่นางคิดอะไรอยู่ถึงได้บอกว่าตัวเองไม่ได้บอบบาง

“ข้ารู้ว่าท่านคิดสิ่งใดอยู่ แต่สรีระหาใช่ตัวกำหนดพละกำลังภายในไม่ ข้าแข็งแรงกว่าที่เสด็จพี่เห็นแน่นอน” นางพูดอย่างมั่นใจ

“อย่างนั้นหรือ” เขาทำเสียงไม่เชื่อ จินตนาการนางในชุดผู้ชายแล้วก็ต้องส่ายหัว

“ได้โปรด ข้าจำต้องไปจากวังหลวงจริง ๆ ข้าไม่อยากอภิเษกกับคนแปลกหน้า และหัวใจข้าก็มีเพียงท่านแม่ทัพมู่หรงเซียวหนาน ให้ข้าไปเถอะนะเพคะเสด็จพี่ แล้วข้าจะไม่ลืมบุญคุณครั้งนี้เลยจริง ๆ”

หยางจูทรุดลงไปกับพื้นจนเขาต้องรีบก้มลงไปดึงนางขึ้น แต่นางไม่ยอมท่าเดียว

“รับปากข้ามาก่อนว่าท่านจะช่วย”

“เจ้านี่มัน” เขารู้สึกอ่อนใจกับนางเหลือเกิน แต่ไหนแต่ไรมา นางเป็นต้องใช้ความเป็นน้องเล็กมาอ้อนขอทุกสิ่งทุกอย่างอยู่เรื่อย

“นะเพคะ” ดวงตาที่เคยทอประกายแวววาว ตอนนี้กลับคลอไปด้วยหยาดน้ำใส ๆ ที่ปริ่มอยู่ตรงขอบตา จวนเจียนจะไหลลงมาตามแก้มนวลเต็มที ดูแล้วน่าสงสารยิ่ง และเฉินไป่ชางต้องพยายามเต็มที่จะไม่

ใจอ่อน

“เจ้าจะทำพวกเราเดือดร้อนกันหมด หากพี่ยอมให้เจ้าไป แล้วเกิดอันตรายอะไรขึ้นมา เสด็จพ่อได้ประหารทุกคนหมดแน่ โดยเฉพาะรองแม่ทัพซื่อหมิง ที่เจ้าอยากจะดึงเขาเข้ามาร่วมชะตากรรมด้วย” เขาพยายามเอ่ยเสียงแข็งแต่น้ำเสียงที่ใช้ก็อ่อนลงอย่างเห็นได้ชัด

“ข้าสัญญาว่าจะดูแลตัวเองอย่างดี และข้าก็ไว้ใจในฝีมือแม่ทัพ

มู่หรงด้วย เขาจะต้องปกป้องดูแลข้าอย่างถึงที่สุด”

“แม้จะไม่รู้ว่าเจ้าคือใครอย่างนั้นหรือ”

“แต่เดิมเขาก็เป็นคนจิตใจดีงามอยู่แล้ว ยิ่งหากข้าทำให้เขามีใจได้ละก็ เขาย่อมต้องยิ่งอยากดูแลข้าให้ดีกว่าเดิม”

“ถึงอย่างนั้นก็เถอะ”

บทที่เกี่ยวข้อง

  • อุบายรักแม่ทัพหน้านิ่ง   ตอนที่ 1

    เมื่อเห็นว่าพี่ชายไม่ใจอ่อนง่าย ๆ หยางจูก็ปล่อยให้น้ำตาที่คลออยู่ร่วงหล่นลงมาเป็นสาย พร้อมเสียงสะอื้นไห้จนตัวสั่นเทา เฉินไป่ชางตาลีตาเหลือกเช็ดน้ำตาให้ ก่อนจะโอบนางเข้ามาไว้ในอ้อมแขน ราวกับนางคือน้องสาวตัวน้อยเมื่อครั้งทั้งคู่ยังเป็นเด็กเล็ก ๆ“ฮึก!! ข้าขอเพียงโอกาสเดียวเท่านั้น ฮืออออ” สะอื้นพลางแอบเหลือบตามองท่าทีลนลานของคนเป็นพี่“ก็ได้ ๆ พี่จะไปปรึกษากับเสด็จอาว่าจะทำอย่างไรให้ทุกอย่างราบรื่นไม่มีข้อผิดพลาด เจ้าหยุดร้องแล้วรออยู่นี่” เขาทนเห็นน้ำตาของน้องน้อยสุดที่รักไม่ไหวจึงรีบตกปากรับคำในที่สุด“จริงนะเพคะ” หยางจูลืมความเศร้าโศกเงยหน้ามองพี่ชายตาแป๋ว แต่เมื่อเห็นเขามองนางก็แสร้งทำเป็นบีบน้ำตาอีกรอบเพื่อความสมจริง“อย่าร้อง ไม่ต้องร้อง ในเมื่อพี่พูดแล้วก็จะทำตามนั้น เจ้าหยุดร้องก่อนเถอะนะ” คนเป็นพี่รู้ทั้งรู้ว่าน้องสาวแกล้งบีบน้ำตา แต่ก็ยังอดใจอ่อนไม่ได้นางพยักหน้าถี่รัว ยกปาดน้ำตาออกจากใบหน้าด้วยตนเอง เพื่อเป็นเครื่องยืนยันให้พี่ชายสบายใจเมื่อเห็นว่านางหยุดร้องแล้ว เขาก็ประคองไปนั่งที่เก้าอี้ “เอาละ เจ้ากลับตำหนักไปก่อน พี่จะไปหารือเรื่องนี้กับเสด็จอา ได้เรื่องอย่างไรแล้วพี่จ

    ปรับปรุงล่าสุด : 2024-10-15
  • อุบายรักแม่ทัพหน้านิ่ง   ตอนที่ 2

    การเดินทางขององค์หญิงผู้ดื้อรั้นเป็นไปอย่างเงียบเชียบและถูกเก็บให้เป็นความลับมากที่สุดเท่าที่จะทำได้ โดยจดหมายได้ถูกคนของหลี่อวี้อ๋องส่งไปล่วงหน้าก่อนแล้ว เพื่อให้รองแม่ทัพจางซื่อหมิงเตรียมการในสิ่งที่จำเป็นเพื่อต้อนรับการมาขององค์หญิงผู้สูงศักดิ์แต่อุตริดันคิดแผลง ๆ อยากมาตกระกำลำบากในค่ายทหาร ทั้งนี้หลี่อวี้อ๋องได้เตรียมการเป็นอย่างดี โดยให้หลานรักออกเดินทางพร้อมกับทหารอารักขาที่ปลอมตัวเป็นชาวบ้านเดินทางล่วงหน้าไปประจำการตามจุดต่าง ๆ เพื่อคอยดูแลความปลอดภัยตลอดเส้นทาง ข้าวของในหีบไม้เรียบ ๆ ไม่สะดุดตาสองหีบ มีเพียงเสื้อผ้าธรรมดาและตำราไม่กี่เล่ม กับของสำหรับการปลอมตัว และของใช้จำเป็นสำหรับผู้หญิงซึ่งจะต้องเก็บอย่างมิดชิดหยางจูนั่งกระเด้งกระดอนอยู่ในเกวียนเทียมม้าคันเล็กสภาพเก่าคร่ำคร่าเพื่อไม่ให้เป็นจุดสังเกต เมื่อไปถึงที่เมืองชายแดนนางจะต้องลงจากรถม้าคันนี้ที่จะขนสัมภาระเข้าไปในค่ายตามเส้นทางลับ แล้วเปลี่ยนไปใช้รถม้าคันอื่นแทนเป็นระยะทางสั้น ๆ แม้จะฟังดูยากลำบากสำหรับองค์หญิงเช่นนาง แต่ในหัวใจดวงน้อยที่มีเพียงความปรารถนาจะได้ยลโฉมหน้าของชายในดวงใจ นางก็มีเพียงความตื่นเต้นเพียงเท่

    ปรับปรุงล่าสุด : 2024-10-15
  • อุบายรักแม่ทัพหน้านิ่ง   ตอนที่ 3

    ยังไม่ทันจะไปถึง ชายหนุ่มร่างสูงโปร่ง ท่าทางราวกับบัณฑิตสะโอดสะองก็ถูกผลักจนหน้าคะมำ ก่อนจะโดนทุบเข้าที่หลังเต็มแรง“นี่พวกเจ้า มีอะไรก็ค่อย ๆ พูดค่อยจากันดี ๆ สิ ไม่เห็นต้องใช้กำลังเลยนี่”“แม่นาง นี่เป็นเรื่องของบุรุษ เจ้าอย่าแส่จะดีกว่า”“เขาทำอะไรผิด หากเป็นเรื่องเงิน ข้าจะจ่ายให้ ต้องการเท่าไหร่ก็ว่ามา” นางไม่สนใจเสียงกระโชกโฮกฮากและสายตาไม่เป็นมิตรของคนพวกนั้น แล้วหันไปหาลู่อิงที่รีบหยิบถุงเงินออกมา“ข้าไม่ต้องการเงิน พวกที่ชอบใช้เงินทองฟาดหัวคนอื่น ควรจะได้รับบทเรียนเสียบ้าง”“หากเจ้าไม่ปล่อยเขาไป ข้าจะแจ้งทางการ”เสียงหัวเราะเยาะหยันดังลั่นเมื่อนางกล่าวประโยคนั้นจบ“ที่นี่อยู่ไกลจากศาลาว่าการตั้งเท่าไหร่ กว่าเจ้าจะไปแจ้ง ข้าก็ทุบเจ้านี่จนน่วมไปถึงไหนต่อไหนแล้ว เพราะฉะนั้นข้าข้อเตือนให้แม่นางถอยไปห่าง ๆ เสียดีกว่า”หยางจูไม่รู้สึกพรั่นพรึงต่อคำขู่นั้น หากการเจรจาไม่ได้ผล นางก็รู้ดีว่าองครักษ์เซี่ยที่มาด้วยกันจะสามารถรับมือกับคนพวกนี้ซึ่งดูไม่ต่างจากโจรกระจอกได้“เจ้าไม่ต้องการสิ่งนี้จริงหรือ” นางรับถุงเงินจากลู่อิงแล้วเขย่าไปมาตรงหน้า“เจ้านี่พูดไม่รู้ความ ออกไป ก่อนที่ข้าจะหมด

    ปรับปรุงล่าสุด : 2024-10-15
  • อุบายรักแม่ทัพหน้านิ่ง   ตอนที่ 4

    รองแม่ทัพจางซื่อหมิงด้อม ๆ มอง ๆ อยู่ตรงประตูหลังค่ายด้วยความกลัดกลุ้ม เขาได้รับจดหมายจากหลี่อวี้อ๋องเรียบร้อยแล้วและรู้สึกกังวลใจเป็นอย่างยิ่ง แม้โดยเนื้อแท้เขาจะเป็นบุรุษที่ใจเย็น สุขุมรอบคอบ แต่เมื่อได้อ่านเนื้อความในจดหมายถึงสิ่งที่องค์หญิงหยางจูต้องการจะทำ ความสงบสุขุมของเขาก็ปลาสนาการไปสิ้น มีอย่างที่ไหน ใช้ชีวิตสุขสบายอยู่ในวังอันหรูหราไม่ชอบ แต่อยากจะมานอนกลางดินกินกลางทรายที่ค่ายทหารเยี่ยงนี้ อานุภาพของความรักมันยิ่งใหญ่ขนาดนั้นเชียวหรือ เขาได้แต่สงสัยในใจ แต่ในเมื่อได้รับมอบหมายมาแล้ว เขาก็ต้องรับใช้เชื้อพระวงศ์อย่างสุดความสามารถ อย่างน้อยก็ช่วยองค์หญิงปกปิดความลับให้ได้นานที่สุด ประการต่อมาคือหาโอกาสให้นางได้โปรยเสน่ห์มัดใจท่านแม่ทัพหน้านิ่ง ซึ่งตัวเขาเองก็ไม่แน่ใจว่าแม่ทัพมู่หรงเซียวหนานมีหัวจิตหัวใจอย่างใครเขาหรือไม่ เสียงรถม้าควบกุบกับมาตามถนน ก่อนจะจอดห่างออกไปเล็กน้อยเพื่อไม่ให้เป็นที่สังเกตเห็น จางซื่อหมิงจึงรีบเดินออกไป เห็นบุรุษสองคนยืนเคียงข้างกัน คนหนึ่งมีรูปร่างสูงใหญ่ตามแบบฉบับคนใช้ตามแบบฉบับคนที่ใช้กำลัง ส่วนอีกคน แม้จะอยู่ในชุดแบบผู้ชายทั่วไป แต่สรีระกลับดู

    ปรับปรุงล่าสุด : 2024-10-30
  • อุบายรักแม่ทัพหน้านิ่ง   ตอนที่ 5

    ดวงตาของจางซื่อหมิงมีประกายแบบคนที่เห็นหนทางรำไร “ถ้าเช่นนั้นท่านไปอยู่โรงเลี้ยงม้าดีหรือไม่ ท่านแม่ทัพมีม้าคู่ใจอยู่ตัวหนึ่ง เมื่อมีเวลาว่างก็จะแวะเวียนไปดูมันเสมอ” “แต่...ข้าดูแลม้าไม่เป็น ได้แต่ขี่อย่างเดียว” “นั่นสินะ” เขาพึมพำ จะให้องค์หญิงมาคอยแปรงขนม้า เก็บมูลของมันและป้อนหญ้าได้อย่างไร “อย่าเพิ่งถอดใจไป ข้ารู้แล้ว!” นางร้องด้วยความยินดี ท่าทางแจ่มใสขึ้นมา “ฝ่ายเครื่องแต่งกายอย่างไรเล่า ถึงอย่างไรทุกคนก็ต้องแต่งตัวไม่ใช่หรือ ขนาดในตำหนักของข้า ยังต้องใช้คนตั้งมากมาย กองทัพที่มีทหารหลายพันคนเช่นนี้ ย่อมต้องการแรงงานเป็นแน่” “พวกเขาไม่ใคร่สนใจการแต่งตัวนัก ส่วนมากแล้วจะสวมใส่เสื้อผ้าซ้ำ ๆ เพราะไม่ค่อยมีเวลาและใช้ชีวิตอย่างเร่งรีบ บวกกับการทำงานหนัก สิ่งที่ขาดไม่ได้คือชุดเกราะเท่านั้นเอง” หยางจูถอนหายใจเฮือกใหญ่ “เห็นจะมีเพียงคนรับใช้ส่วนตัวของเขาเท่านั้น ที่จะได้อยู่ชิดใกล้เกือบจะตลอดเวลา” “แต่กว่าจะไปถึงตำแหน่งนั้นได้ ก็ต้องอยู่ในสายตาของท่านแม่ทัพเสียก่อน เมื่อท่านแสดงให้เห็นความสามารถ เขาต้องย่อมเรียกท่านเข้าไปรับใช้” “ใช่” นางผงกศีรษะ ก่อน

    ปรับปรุงล่าสุด : 2024-10-31
  • อุบายรักแม่ทัพหน้านิ่ง   ตอนที่ 6

    หยางจูสะดุ้งตื่นเพราะเสียงตีเกราะดังระรัว นางรีบร้อนแต่งตัวด้วยชุดไร้สีสันที่ตระเตรียมมา สวมทับด้วยเครื่องแบบของกองทัพ และพบว่าแม้จะไม่สวยงามสะดวกสบายอะไรนัก แต่ก็ใช้เวลาน้อยกว่าตอนที่นางเป็นองค์หญิงถึงสิบเท่า จากนั้นนางก็ต้องขมวดปอยผมของตัวเองให้ดีขณะที่เสียงเรียกหน้าประตูยังดังไม่หยุด “หยางหยาง หากไปช้าเราจะถูกลงโทษเอานะ” คนที่อยู่หน้ากระโจมตะโกนเข้ามา หยางจูจึงรีบตอบกลับ เกรงว่าหากขืนชักช้าเขาจะเปิดประตูเข้ามาเรียกถึงด้านในแล้วความจะแตกเอาได้ “เข้าใจแล้ว ๆ” นางเปิดประตูแล้วก้าวตามชายหนุ่มรูปร่างผอมสูงที่ก้าวเดินด้วยความรวดเร็วไปในความมืด ฟ้ายังไม่สว่างดีนัก แต่รอบค่ายก็มีเสียงพูดคุย เสียงของผู้คนที่ทำงานไม่หยุดหย่อน เสียงโลหะกระทบกัน เสียงกวาดถู และกลิ่นที่ผสมปนเปกันไปในอากาศจนยากจะบอกได้ว่าเป็นกลิ่นของสิ่งใดกันแน่ ตะเกียงและคบเพลิงถูกจุดให้แสงสว่างเป็นระยะ นางเห็นเรือนนอนเรียงกันเป็นแถบ ซึ่งเป็นของทหารที่พอจะมียศศักดิ์เท่านั้น ทหารชั้นเลวหรือทหารรับใช้จะได้นอนในกระโจมรวม ซึ่งนางเองถ้าไม่อาศัยความช่วยเหลือของรองแม่ทัพจางซื่อหมิงก็คงจะไปลงเลยในสถานที่แบบนั

    ปรับปรุงล่าสุด : 2024-11-01
  • อุบายรักแม่ทัพหน้านิ่ง   ตอนที่ 7

    เสียงเรียกของหัวหน้าโรงครัวดังราวกับฟ้าผ่า หยางจูผุดลุกขึ้นแล้วเดินตามแผ่นหลังกว้างไปท่ามกลางสายตาสอดรู้ของทุกคนในบริเวณนั้น “ท่านเรียกข้า มีสิ่งใดจะให้ข้ารับใช้หรือขอรับ” “มีคำสั่งมาว่าให้เจ้านำอาหารไปให้ท่านแม่ทัพ” “จริงหรือ” นางร้องออกมาด้วยความดีใจ แต่พอเห็นสายตาตำหนิติเตียนก็รีบหุบยิ้ม “ขอรับ ข้าจะทำหน้าที่อย่างดีที่สุด” “เอาเกลือนี่โรยใส่น้ำแกงสักหน่อย แล้วก็ยกไปได้” “ขอรับ” นางได้แต่รับคำซ้ำ ๆ พูดอะไรไม่ออกเพราะความดีใจเอ่อล้นอยู่ในอก “ข้าไม่รู้หรอกนะว่าเจ้าเป็นใครมาจากไหน ถึงได้ตำแหน่งสำคัญถึงเพียงนี้ตั้งแต่วันแรก แต่ทำหน้าที่ให้ดีก็แล้วกัน” “ข้าน้อยจะไม่ทำให้ครัวของเราต้องขายหน้าเป็นอันขาด” “ดี” เมื่อสั่งงานเสร็จแล้ว เขาก็เดินนำนางไปยังจุดรับสำรับอาหารที่มีอาหารอยู่เพียงไม่กี่อย่าง หยางจูมองไก่ตุ๋นน้ำแกง เนื้อในชามเป็นแค่ชิ้นเล็ก ๆ ไม่ใช่ไก่ทั้งตัว ข้าวต้มเละ ๆ บดรวมกับหมูสับ ผักที่ผัดโดยไม่ใส่สิ่งใดเลย และของหวานที่นางมองไม่ออกว่าเป็นสิ่งใดกันแน่เพราะมันเหมือนกับการเอาแป้งมากวนแล้วจับปั้นเป็นก้อนกลม ๆ เมื่อมองจากภาระหน้าที่

    ปรับปรุงล่าสุด : 2024-11-03
  • อุบายรักแม่ทัพหน้านิ่ง   ตอนที่ 8

    ความอึดอัดท่วมท้นขึ้นมาในจิตใจเมื่อได้ยินคำตำหนิว่าอาหารรสชาติแปลกประหลาด หยางจูรู้ดีว่าต้องเป็นเพราะเกลือที่นางโรยลงไปตามคำสั่งเป็นแน่ แต่คงจะใส่มากไปหน่อย หรือไม่อย่างนั้นก็อาจจะมีขั้นตอนใดขั้นตอนหนึ่งผิดพลาดจนรสชาติอาหารออกมาผิดแผกไปจากเดิม “คนครัวคนเดิมหรือเปล่า” “คนเดิมขอรับ” มู่หรงเซียวหนานมุ่นหัวคิ้ว ลองตักน้ำแกงพร้อมกับเนื้อไก่กินอีกครั้ง “น้ำแกงนี่ใส่อะไรลงไปบ้าง” ตายล่ะ นางไม่ได้เป็นคนทำทุกขั้นตอนเสียเมื่อไหร่ แค่ถอนขนไก่ยังไม่ได้เลย แถมตอนปรุงน้ำแกงด้วยสมุนไพร นางก็กำลังแล่หมูอยู่ด้วยซ้ำ แล้วอย่างนี้จะตอบคำถามของเขาได้อย่างไร แต่พอเห็นสายตาที่จ้องมองมาไม่วางตา นางก็จำต้องหาคำตอบมาให้ แม้ว่ามันอาจจะไม่ถูกต้องก็ตาม แต่คนเป็นแม่ทัพ เคยแต่จับหอกจับดาบก็ไม่น่าจะรู้เรื่องอาหารมากนัก “ก็ใส่เครื่องยาจีนทั่วไปขอรับ” “ลองไล่มาสิ ข้าจะดูว่ามีสิ่งใดผิดแปลกไป” “เอ่อ หากท่านกังวลเรื่องการวางยาพิษ ทางหน่วยได้มีการทดลองชิมและใช้เครื่องเงินทดสอบแล้วนะขอรับ” “ไม่ใช่เรื่องการวางยาอะไรหรอก ข้าแค่รู้สึกแปลกใจกับรสชาติอาหารน่ะ จึงอยากจะรู้ให้แน่ชัด”

    ปรับปรุงล่าสุด : 2024-11-05

บทล่าสุด

  • อุบายรักแม่ทัพหน้านิ่ง   ตอนพิเศษ 2

    “ถ้าเช่นนั้นท่านหมายถึงเรื่องใด” ว่าจบก็เข้าไปนั่งลงข้างร่างเล็กแล้วโอบไหล่บางเข้าหา “ทะ ท่าน! เดี๋ยวก่อนสิ” หยางจูสะดุ้ง ดันตัวเขาออก คราวนี้มู่หรงเซียวหนานหัวเราะดังกว่าเดิม “ท่านแกล้งข้า” หยางจูต่อว่าและเชิดหน้าขึ้นอย่างแง่งอน “ข้าขอโทษ เอาละ หน้าที่ของเจ้าบ่าวเช่นข้า ก่อนอื่นข้าต้องเปิดผ้าคลุมหน้าของเจ้าสาวของข้าเสียก่อน” ว่าจบเขาก็ค่อย ๆ เปิดผ้าคลุมหน้าของหยางจูออก ใบหน้างามที่ถูกแต่งแต้มอย่างดีทำให้มู่หรงเซียวหนานค้างไปชั่วขณะ ปกตินางเป็นหญิงงามอยู่แล้ว แต่ในวันนี้นางดูอิ่มเอิบ ใบหน้าที่เต็มไปด้วยความสุขทำให้นางดูน่ามองยิ่งขึ้น และเขารู้สึกภูมิใจที่ความสุขของนางในวันนี้มีเขาเป็นส่วนหนึ่ง “ท่านงามมากองค์หญิงหยางจู” เขาบอกคล้ายละเมอ “ท่านยังเรียกข้าว่าองค์หญิงอยู่อีกหรือ” “อ้อ นี่คงเป็นอีกข้องผิดพลาดของข้าสินะ ท่านเป็นสตรีที่อยู่สูงกว่าข้าจนข้ามิอาจเอื้อม ชาติกำเนิดรึก็สูงปานนั้น ความงามรึก็งามราวเทพธิดา ข้าเป็นบุรุษต่ำต้อยที่มิคู่ควรกับท่านเลย” “แต่ตอนนี้ท่านเป็นสามีข้า ยังเรียกเสียห่างเหินอีกหรือ” หยางจูท้วง “ข้ารู้ เอาเป็นว่าข้าเรี

  • อุบายรักแม่ทัพหน้านิ่ง   ตอนพิเศษ 1

    ช่วงวสันต์ตอนปลายสายลมพัดเอื่อยเฉื่อยหอบเอาความเย็น สดชื่นของฤดูเหมันต์ปะปนมาทำให้อากาศในตอนนี้ไม่ร้อนและไม่หนาวจนเกินไป เหล่าต้นไม้เริ่มเปลี่ยนสีและผลัดใบ ดอกไม้ฤดูหนาวเริ่มผลิบาน ให้ความรู้สึกสดชื่นมีชีวิตชีวา นับว่าเป็นช่วงเวลาที่ดียิ่งช่วงหนึ่ง บนถนนสายหลักทั้งสองฟากถูกประดับประดาไปด้วยผ้าสีแดง บางที่ก็มีการจุดประทัด บรรยากาศเต็มไปด้วยความรื่นเริงคึกคัก ชาวเมืองทุกคนต่างพูดคุยกันด้วยสีหน้ายิ้มแย้มแจ่มใสออกมายืนเฝ้ารอเพื่อชมความยิ่งใหญ่อลังการของขบวนเจ้าสาวขององค์หญิงหยางจูซึ่งเป็นพระธิดาองค์โปรดของฮ่องเต้ ขบวนเจ้าสาวของขององค์หญิงหยางจูนี้มีความยาวตั้งแต่ประตูวังหลวงไปจนถึงสามช่วงถนน หากมองจากหัวขบวนไปยังท้ายขบวนก็มิอาจคำนวณได้ว่าจะสิ้นสุดลงที่ใด หัวขบวนมีองค์ชายชาง ว่าที่องค์รัชทายาทแห่ง เป่ยหนานขี่ม้านำขบวนเกี้ยวเจ้าสาวขนาดแปดคนหาม ซึ่งนับว่าเป็นเกียรติอย่างสูงสุด เกี้ยวเจ้าสาวสีแดงขนาดใหญ่ถูกตกแต่งอย่างงดงามด้วยผ้าแพรสีแดง องค์หญิงหยางจูสวมมงกุฎหงส์นั่งอยู่บนเกี้ยว หัวใจของนางกำลังกระหน่ำเต้นรัวไปด้วยความตื่นเต้น ด้านนอกมีลู่อิงที่เดินขนาบด้านข้าง และองครักษ์เซี่ยที

  • อุบายรักแม่ทัพหน้านิ่ง   บทส่งท้าย

    เท้าในรองเท้าปักลวดลายสวยงามก้าวย่างด้วยความเร่งรีบไปตามทางเดินคดเคี้ยวสลับซับซ้อน ความร้อนใจทำให้นางเดินชนกับนางกำนัลถึงสองครั้ง ซึ่งพวกนางก็ตาลีตาเหลือกลงไปคุกเข่ากับพื้น แต่นางก็ได้แต่รวบชุดสวยยกขึ้นจากพื้นเพื่อจะออกวิ่งอย่างสุดกำลัง แล้วก็ไปปะทะกับทหารยามที่ยืนอยู่ข้างตำหนักใหญ่ จนพวกเขาตกอกตกใจกันยกใหญ่ “เสด็จพ่อประทับอยู่ในตำหนักหรือเปล่า” หยางจูละล่ำละลักถามกงกง “อยู่พ่ะย่ะค่ะ แต่ตอนนี้แม่ทัพมู่หรงเซียวหนานมาขอเข้าเฝ้า” นางตาเหลือกเมื่อประจักษ์ว่าสิ่งที่ได้ยินมาเป็นความจริง เผลอยกมือกัดเล็บด้วยความกังวล “ไปกราบทูลว่าข้าต้องการเข้าเฝ้า” “แต่ฝ่าบาทรับสั่งเอาไว้ว่าห้ามให้ใครรบกวนระหว่างนี้พ่ะย่ะค่ะ” “เสด็จพ่อจะอนุญาตหากเป็นข้า” กงกงอ้าปากจะค้านต่อ แต่ร่างคุ้นตาได้ก้าวเท้าออกมาจากประตูบานใหญ่ เดินลงบันไดมาด้วยสีหน้าสงบนิ่ง เป็นนางเสียอีกที่อยากจะถลาเข้าไปหาแล้วถามเขาว่าเกิดเรื่องอะไรขึ้นในห้องนั้น “องค์หญิงหยางจู ข้าตามหาท่านอยู่พอดี” “หาหม่อมฉันหรือเพคะ” นางหันไปหาองค์ชายเฟิงจวิ้นที่มาผิดที่ผิดเวลาอย่างที่สุด ก่อนจะหันกลับไปมองประตูมังกรอย

  • อุบายรักแม่ทัพหน้านิ่ง   ตอนที่ 46

    หลังจากวันนั้น มู่หรงเซียวหนานมีโอกาสเข้าเฝ้าเชื้อพระวงศ์บ่อยครั้ง รวมถึงองค์หญิงหยางจูด้วย แม้นางจะใช้เวลากับองค์ชายแคว้นเยี่ยน วาดภาพ แต่งกลอน หรือแม้แต่ชมสวนด้วยกัน เขาก็จะเอาตัวเองเข้าไปเป็นส่วนหนึ่งด้วยเสมอ แม้มันจะสร้างความไม่พอใจให้กับองค์ชายถึงเพียงใด เขาก็ทำเป็นตาบอด ไม่เห็นความขุ่นข้องนั้นเสีย “ดอกไม้นี่ช่างงามแท้” หยางจูรำพึงรำพัน ทอดสายตามองไปไกล มุมปากทั้งสองข้างยกขึ้นอย่างผู้ที่รื่นรมย์กับธรรมชาติ “วังของข้าก็มีอุทยานที่ตกแต่งเอาไว้อย่างสวยงาม แถมยังใหญ่เสียจนเดินแทบไม่รอบ ข้าว่าเจ้าน่าจะชอบ โดยเฉพาะวสันตฤดู ซึ่งเป็นช่วงที่เราจะเข้าพิธีอภิเษกพอดิบพอดี เจ้าก็จะได้เห็น” “บุปผางดงามจับตาอย่างไม่อาจหาใดเทียบ เห็นจะอยู่ตรงหน้านี่แล้ว” มู่หรงเซียวหนานเดินตรงเข้ามาหาทั้งสอง มือไพล่หลัง ท่าทางสบายอารมณ์ “ก็นั่นละ หากบุปผางามเช่นองค์หญิงหยางจูได้ไปอยู่ท่ามกลางหมู่ไม้เหล่านั้น นางก็จะได้เป็นเช่นนางพญาแห่งบุปผาทั้งมวล” “ท่านทั้งสองออกจะชมข้าเกินไป ธรรมชาติคือสิ่งที่สวรรค์ สรรสร้าง มิมีอะไรจะงามเทียบ” องค์ชายเฟิงจวิ้นทำท่าจะต่อประโยค แต่แม่ทัพหนุ

  • อุบายรักแม่ทัพหน้านิ่ง   ตอนที่ 45

    “อ้อ เจ้านี่เป็นคนใกล้ชิดรองแม่ทัพ ยังสบายดีอยู่พ่ะย่ะค่ะ” “แล้วยังมี เอ่อ ข้าก็จำได้ไม่แม่นยำนัก ชื่อเฉิงหรือเฉินอะไรสักอย่าง น่าจะเป็นเฉิงชุนกระมัง” “คนผู้นี้กระหม่อมไม่แน่ใจนัก รู้แต่ว่าอยู่กองเดียวกับหยางหยาง ทหารรับใช้ของกระหม่อมเอง แต่หลังกลับจากค่ายก็ไม่ได้เห็นอีกเลย” ใบหน้าที่ซีดเผือดอยู่แล้ว ยิ่งเผือดลงกว่าเดิมร้อยเท่า องค์ชายที่เสร็จจากการสั่งอาหาร หันมาเห็นเข้าก็ทำหน้าตาตื่น “องค์หญิงไม่สบายหรือ” เขาถือวิสาสะวางฝ่ามือบนหน้าผากนาง “ไม่มีไข้นี่นา” “หม่อมฉันแค่...แค่ร้อนน่ะเพคะ” นางแก้ตัวไปน้ำขุ่น ๆ ขอบตาร้อนผ่าว เพียงแค่นึกว่าสหายที่ร่วมลำบากด้วยกันมาอาจไม่มีชีวิตรอด นางจึงรีบก้มหน้าลงซ่อนน้ำตา “ได้กินอะไรอร่อย ๆ คงหายเพคะ” “แน่ใจหรือ หากท่านรู้สึกแย่ เรากลับเสียตอนนี้เลยก็ได้” “ไม่เพคะ หม่อมฉันอยากอยู่ต่อ” “เช่นนั้นก็ย่อมได้ แต่หากท่านไม่ไหว ต้องบอกข้าทันทีเลยนะ” หยางจูผงกศีรษะรับ ขณะก้มหน้าก้มตา สองมือบนตักบีบกันแน่น มู่หรงเซียวหนานมองนาง แต่ไม่ได้มองอย่างจงใจนัก เขาไม่สบอารมณ์กับความห่วงใยออกนอกหน้าขององค์ชายผู้นี้ แ

  • อุบายรักแม่ทัพหน้านิ่ง   ตอนที่ 44

    ทั้งสามออกมานอกวังด้วยกัน โดยสวมเสื้อผ้าให้ดูธรรมดาสามัญให้มากที่สุดเท่าที่จะทำได้ ดูเหมือนว่าการมาเยือนขององค์ชายจะยาวนานกว่าที่คาดการณ์เอาไว้ ความตั้งใจจริงของเขา คงจะเป็นการได้คำรับรองว่าจะได้อภิเษกแล้วพานางกลับไปยังแคว้นด้วยกัน หยางจูเองก็ตระหนักในเรื่องนี้ดี แต่นางไขว้เขวไปเพราะการปรากฏตัวของมู่หรงเซียวหนาน การได้พบเจอเขาอีกครั้งทำให้นางรู้ว่าใจนางโหยหาเขามากเพียงใด หญิงสาวผู้สูงศักดิ์ถูกขนาบข้างไปด้วยบุรุษสองคนที่แตกต่างกันโดยสิ้นเชิง คนหนึ่งคือบัณฑิตทรงภูมิที่มีรอยยิ้มสดใส อีกคนร่างกายสูงใหญ่กำยำ แม้ใบหน้าจะเรียบนิ่งแต่มิอาจทำลายความหล่อเหลาน่าเกรงขามของเขาไปได้ หยางจูกำลังตกอยู่ในสถานการณ์ลำบาก ขณะที่องค์ชายเฟิงจวิ้นอยากจะเอาใจด้วยการซื้อข้าวของมากมาย แต่มู่หรงเซียวหนานกลับชวนนางกินของอร่อยไม่ขาด และนางก็เพลิดเพลินเสียจนรู้ตัวอีกที ก็ซื้อของทุกอย่างเต็มไม้เต็มมือไปหมด “ท่านรู้จักกินอะไรเช่นนี้ด้วยหรือ” นางมองขนมเคลือบน้ำตาลที่ มู่หรงเซียวหนานยื่นให้ด้วยความสนใจ “ชิงเอ๋อร์ชอบออกมาเที่ยวเล่นข้างนอกมาก อย่างที่องค์หญิงน่าจะเคยได้ยินมาบ้าง และบ่อยครั้ง พ

  • อุบายรักแม่ทัพหน้านิ่ง   ตอนที่ 43

    “เพคะ”“เช่นนั้นข้าจะเริ่มแล้วนะ”ด้วยความที่คิดมาก่อนแล้ว เขาร่ายวรรคแรกขึ้นมาอย่างลื่นไหล จากนั้นก็เขียนลงบนกระดาษ ตามมาด้วยเยว่ชิงที่ต่อกลอนได้รวดเร็วไม่แพ้กัน เพราะเตี๊ยมกันมาแล้ว เพราะลำพังความสามารถของมู่หรงเยว่ชิง นางไม่มีหัวทางด้านศาสตร์และศิลป์ในการแต่งกลอนสักนิด ให้นางนับเงินเห็นจะเป็นอะไรที่นางถนัดที่สุดดังฉายาของนางที่ว่าท่านหญิงตำลึงทองมู่หรงเซียวหนานคิดอยู่เล็กน้อย เขาเลือกเอ่ยถึงคืนจันทร์วันเพ็ญที่ไม่อาจข่มตาหลับในค่าย หยางจูเกิดความรู้สึกอยู่ลึก ๆ ว่าเขากล่าวถึงนาง นางจึงแต่งต่อว่าด้วยความงดงามของดวงจันทร์ พร้อมทั้งเขียนกลอนลงไปโดยไม่เฉลียวใจเลยสักนิดปลายพู่กันขององค์หญิงหยางจูสะดุดตามู่หรงเซียวหนานนัก เพราะมันเหมือนกับลายมือของใครบางคนราวกับเป็นพิมพ์เดียวกัน เขาจึงตั้งใจพินิจทุกตัวอักษรจนนึกสงสัยอะไรบางอย่าง แม้สิ่งที่คิดอยู่เห็นจะเป็นเรื่องเพ้อเจ้อ แต่มันกลับจุดประกายความหวังเล็ก ๆ ขึ้นในใจเขา เห็นทีเขาคงเสียสติเสียแล้ว“ท่านอ๋อง กระหม่อมขอกระดาษแผ่นนี้ได้หรือไม่”“เอาไปสิ ถือเป็นของขวัญต้อนร

  • อุบายรักแม่ทัพหน้านิ่ง   ตอนที่ 42

    เปลวแดดไหวระริกราวกับนักเต้นระบำกำลังอวดฝีเท้าท่ามกลางแดดแผดจ้า ท้องฟ้าสีครามสดใสมีปุยเมฆขาวลอยแต่งแต้มชวนมองอยู่เหนือศีรษะ สองพี่น้องยืนอยู่ในศาลาแปดเหลี่ยม เขม้นมองนกเป็ดน้ำที่กำลังว่ายน้ำเล่นด้วยความสำราญใจในบ่อที่ขุดและจัดตกแต่งเอาไว้อย่างดี ลมเย็นพัดมาเบา ๆ พอให้คลายร้อนลงไปได้บ้าง “เรื่องจดหมายที่พี่เขียนมาหาข้า” มู่หรงเยว่ชิงเกริ่น “ไม่สำคัญเสียแล้ว” มู่หรงเซียวหนานตอบพลางแหงนหน้าขึ้นมองท้องฟ้า “เหตุใดจึงไม่สำคัญ” “เพราะพี่ไม่ได้ทำตามที่เจ้าแนะนำ ทั้งที่ควรจะทำเช่นนั้น มันจึงสายไป” “แม้จะสายเกินไป แต่ข้าก็อยากรู้ว่าอาการที่พี่พูดถึงคืออะไรกันแน่” มู่หรงเซียวหนานเพียงแต่ถอนหายใจ เบือนหน้าหนีไปทางอื่น “พี่ใหญ่ ใช่เรื่องที่เขาลือกันว่าพี่เป็นพวกตัดแขนเสื้อหรือไม่” มู่หรงเยว่ชิงเห็นว่าคงต้องเข้าประเด็นโดยเร็วเท่านั้น มู่หรงเซียวหนานหันขวับไปหาผู้เป็นน้อง “เจ้ารู้?” “ไม่ต้องตกใจไปเจ้าค่ะ ข่าวไม่ได้แพร่มาถึงในวังหลวง เพียงแต่องค์ชายชางมีสหายอยู่ในกองทัพ จึงนำเรื่องมาพูดคุยแลกเปลี่ยนเท่านั้น” นางพูดปดด้วยความแนบเนียน “องค์ชายน่ะรึ”

  • อุบายรักแม่ทัพหน้านิ่ง   ตอนที่ 41

    ความสัมพันธ์ขององค์หญิงหยางจูกับองค์ชายเฟิงจวิ้นเป็นไปด้วยความเรียบเรื่อย เกือบทุกวันทั้งสองคนจะออกไปหาความสำราญข้างนอก เที่ยวเล่นและพูดคุยถึงเรื่องต่าง ๆ อย่างสนุกสนาน ราวกับนางไม่เคยจากวังหลวงมาก่อน กระทั่งวันหนึ่ง ลู่อิงเอาข่าวมาแจ้งว่ากองทัพที่ชายแดนปราบกบฏจนสิ้นซาก ซ้ำยังบุกไปตีและยึดเมืองของอีกฝ่ายได้สำเร็จ ศพของศัตรูกองพะเนินเทินกันรอให้นกแร้งมาจิกกิน เมื่อมันเริ่มเน่าก็ส่งกลิ่นเหม็นไปทั่ว พวกที่หนีรอดไปได้ต่างเร่ร่อนผอมโซเป็นที่น่าอดสู มู่หรง เซียวหนานก็ไม่วายส่งคนข้ามไปตามจับกลับมาเป็นเชลย เขากำลังจะกลับเข้าวังหลวงเพื่อรับความดีความชอบในอีกไม่กี่วัน หัวใจของหยางจูเต้นกระหน่ำเมื่อคิดว่าจะได้เห็นหน้าเขาอีกครั้ง ไม่รู้ว่าเขาจะจำได้หรือไม่ว่านี่คือหยางหยาง แต่นางหวังให้เขาจำไม่ได้ เพื่อที่เขาจะได้ทำเย็นชาและวางตนห่างเหิน นางจะไม่ต้องเหนื่อยกับการปฏิเสธหรืออธิบายสิ่งใด แม้นั่นจะเจ็บปวดมากก็ตามที “ช่วงนี้เจ้าดูเหม่อ ๆ นะหยางจู” องค์ชายชางทักตามประสาพี่ชายที่คอยตามดูน้องสาวอยู่ห่าง ๆ และเห็นว่าตั้งแต่กลับมา หยางจูดูไม่มีความสุขเลย ยิ่งมีข่าวว่ามู่หรงเซียวหนานกำ

สแกนรหัสเพื่ออ่านบนแอป
DMCA.com Protection Status