Share

อุบายรักแม่ทัพหน้านิ่ง ตอนที่ 1

Author: Priyada
last update Last Updated: 2024-10-15 04:00:12

เมื่อเห็นว่าพี่ชายไม่ใจอ่อนง่าย ๆ หยางจูก็ปล่อยให้น้ำตาที่คลออยู่ร่วงหล่นลงมาเป็นสาย พร้อมเสียงสะอื้นไห้จนตัวสั่นเทา เฉินไป่ชางตาลีตาเหลือกเช็ดน้ำตาให้ ก่อนจะโอบนางเข้ามาไว้ในอ้อมแขน ราวกับนางคือน้องสาวตัวน้อยเมื่อครั้งทั้งคู่ยังเป็นเด็กเล็ก ๆ

“ฮึก!! ข้าขอเพียงโอกาสเดียวเท่านั้น ฮืออออ” สะอื้นพลางแอบเหลือบตามองท่าทีลนลานของคนเป็นพี่

“ก็ได้ ๆ พี่จะไปปรึกษากับเสด็จอาว่าจะทำอย่างไรให้ทุกอย่างราบรื่นไม่มีข้อผิดพลาด เจ้าหยุดร้องแล้วรออยู่นี่” เขาทนเห็นน้ำตาของน้องน้อยสุดที่รักไม่ไหวจึงรีบตกปากรับคำในที่สุด

“จริงนะเพคะ” หยางจูลืมความเศร้าโศกเงยหน้ามองพี่ชายตาแป๋ว แต่เมื่อเห็นเขามองนางก็แสร้งทำเป็นบีบน้ำตาอีกรอบเพื่อความสมจริง

“อย่าร้อง ไม่ต้องร้อง ในเมื่อพี่พูดแล้วก็จะทำตามนั้น เจ้าหยุดร้องก่อนเถอะนะ” คนเป็นพี่รู้ทั้งรู้ว่าน้องสาวแกล้งบีบน้ำตา แต่ก็ยังอดใจอ่อนไม่ได้

นางพยักหน้าถี่รัว ยกปาดน้ำตาออกจากใบหน้าด้วยตนเอง เพื่อเป็นเครื่องยืนยันให้พี่ชายสบายใจ

เมื่อเห็นว่านางหยุดร้องแล้ว เขาก็ประคองไปนั่งที่เก้าอี้ “เอาละ เจ้ากลับตำหนักไปก่อน พี่จะไปหารือเรื่องนี้กับเสด็จอา ได้เรื่องอย่างไรแล้วพี่จะแจ้งให้เจ้าทราบ”

“ขอบพระทัยเสด็จพี่” องค์หญิงหยางจูยอบกายเคารพอย่างงดงาม

“อ้อ แล้วอย่าทำอะไรโดยพละการเด็ดขาด” เฉินไป่ชางไม่วายกำชับคนเป็นน้อง

“ข้าทราบแล้ว”

“ฮัดเช้ย!!!”

ขณะเดียวกัน ที่ค่ายทหารชายแดนเมืองเป่ยถง รองแม่ทัพจางซื่อหมิงที่กำลังปรึกษาหารือเรื่องการศึกกับแม่ทัพมู่หรงอยู่ก็จามไม่หยุด

“ท่านรองแม่ทัพไม่สบายหรือ” มู่หรงเซียวหนานเอ่ยถามสหายด้วยความเป็นห่วง

“สงสัยจะเป็นอย่างนั้น” จางซื่อหมิงตอบ

“ถ้าอย่างนั้นวันนี้ก็พอแค่นี้ก่อน ท่านกลับไปพักผ่อน เกิดเป็นอะไรขึ้นมาแล้วจะยุ่ง”

“ถ้าอย่างนั้นข้าขอตัวก่อน”

จางซื่อหมิงลุกขึ้นเดินกลับกระโจมของตน เขาเองก็ตอบไม่ได้เช่นกันว่าจู่ ๆ ทำไมถึงจามไม่หยุดเช่นนี้ และรู้สึกใจหวิว ๆ ชอบกล

เฉินไป่ชางตรงไปยังตำหนักของหลี่อวี้อ๋องทันทีหลังจากแยกกับองค์หญิงหยางจู เขาเกรงว่าหากช้า น้องสาวอาจจะสร้างเรื่องราวใหญ่โตขึ้นมาเสียก่อน ดังนั้นเสด็จอาผู้ซึ่งมีความคิดอ่านลุ่มลึกน่าจะช่วยสองพี่น้องในเรื่องนี้ได้เป็นอย่างดี

“ถวายบังคมเสด็จอา”

เขาลุกขึ้นยืนเมื่อเห็นว่าผู้เป็นอาเดินเข้ามาในห้อง ข้างกายยังประคองพระชายาเดินมาพร้อมกัน เขามองภาพคู่รักที่เหมาะสมกันราวกิ่งทองใบหยกตรงหน้าแล้วรู้สึกเสียดแทงในอกเล็ก ๆ พระชายามู่หรง หรือ

มู่หรงเยว่ชิงเป็นสตรีที่เขาเคยหมายปอง แต่นางมิได้มีใจให้เขา และเลือกแต่งให้เสด็จอาของเขาแทน ตัวเขาเองต้องใช้เวลาทำใจนานพอสมควร แต่เมื่อเห็นว่าทั้งคู่รักกันมากแค่ไหน เขาจึงค่อย ๆ ทำใจและสามารถมองคนทั้งคู่เคียงคู่กันได้ในที่สุด นอกจากนี้ยังมีอีกเหตุผลหนึ่งซึ่งเขาไม่สามารถให้นางเหมือนกับเสด็จอาได้ก็คือ ตำหนักอ๋องแห่งนี้นางคือพระชายาเยว่ชิงเท่านั้น ไม่มีตำแหน่งพระชายาเอกหรือพระชายารอง เพราะเสด็จอาของเขาได้ลั่นวาจาไว้ว่าจะแต่งภรรยาที่รักเพียงหนึ่งเดียว เฉินไป่ชางสะท้อนในอก เพราะตัวเขาเป็นว่าที่รัชทายาท การที่แต่งภรรยาเพียงหนึ่งนั้นเป็นไปไม่ได้เลย ดังนั้นจึงไม่ต้องเอ่ยถึงความรัก ที่ดูราวกับว่าจะอยู่ห่างไกลจากตัวเขามากเสียเหลือเกิน

“ไป่ชาง เจ้ามาหาข้าถึงนี่มีเรื่องอะไร” หลี่อวี้อ๋องถามคนเป็นหลาน

“ทูลเสด็จอา ข้ามาหาท่านด้วยเรื่องของน้องหยางจู”

“หยางจูรึ คราวนี้นางก่อเรื่องอะไรไว้อีกล่ะ” เมื่อได้ยินชื่อนี้

หลี่อวี้อ๋องก็พอจะคาดเดาได้

“นางยังไม่ได้ทำอันใดพ่ะย่ะค่ะ แต่สิ่งที่นางคิดจะทำช่างใหญ่โตนัก ข้าถึงต้องรีบมาขอความช่วยเหลือจากท่านก่อนที่นางจะได้สร้างเรื่องขึ้นมาจริง ๆ”

หลี่อวี้อ๋องเลิกคิ้วขึ้น ส่วนพระชายาเยว่ชิงที่อยู่ข้างกายก็ตั้งหน้าตั้งตารอฟังเรื่องที่องค์ชายกำลังจะเล่า เห็นทีจะมีเรื่องสนุกอีกแล้ว

เฉินไป่ชางเล่าเรื่องราวโดยสังเขปให้ทั้งเสด็จอาและพระชายาฟังด้วยความรวดเร็ว เมื่อทั้งสองรู้เรื่อง ก็กลายเป็นว่าหลี่อวี้อ๋องนั้นมีความกังวลลึก ๆ เช่นเดียวกันกับเขา ส่วนมู่หรงเยว่ชิงซึ่งลึกซึ้งละเอียดอ่อน ก็เข้าอกเข้าใจองค์หญิงหยางจูถึงขนาดออกปากชื่นชมถึงความเด็ดเดี่ยวและการมั่นคงในความรักของนางเสียยกใหญ่

“เจ้าชื่นชอบในความสนุกสนานและได้เที่ยวเล่นเปิดหูเปิดตาเช่นเดียวกับหลานของข้าต่างหาก ถึงได้กระตือรือร้นในเรื่องนี้นัก”

หลี่อวี้อ๋องพูดอย่างรู้ทันผู้เป็นพระชายา

“แหม ท่านก็พูดราวกับข้าไม่เข้าใจในเรื่องความรัก แม้ข้าจะชื่นชอบเรื่องสนุกและอดตื่นเต้นไปกับองค์หญิงหยางจูไม่ได้ แต่เหนือสิ่งอื่นใด ข้าเห็นด้วยในเรื่องที่องค์หญิงจะได้เลือกคู่ครองของนางเอง แถมยังได้ทำความรู้จักกับเขาก่อน ดังเช่นที่เราสองคนก็ได้โอกาสนั้นเช่นกัน” มู่หรงเยว่ชิงพูดแก้พระสวามี ตัวนางเองมีความทรงจำของชาติที่แล้วซึ่งเป็นยุคปัจจุบันก่อนที่นางจะตายแล้ววิญญาณย้อนมาเกิดในยุคจีนโบราณ นางจึงเข้าใจเรื่องสิทธิในการเลือกคู่ครองสตรีเป็นอย่างดี และยิ่งเห็นด้วยกับการที่ชายหญิงแต่งงานกันด้วยความรัก ไม่ใช่การคลุมถุงชนแบบที่เป็นอยู่ในยุคนี้ ดูอย่างคู่ของนางกับท่านอ๋องประไร ทั้งคู่แต่งงานกันด้วยความรัก ทำให้ทุกวันนี้จึงมีแต่ความสุขและเข้าอกเข้าใจกันเป็นอย่างดี

เมื่อพระชายารักหยิบยกเรื่องราวความรักของตัวเองมาเป็นตัวอย่าง ก็ดูจะทำให้ท่านอ๋องพออกพอใจ แขนข้างหนึ่งจึงยกโอบไหล่นางก่อนจะพยักหน้าเห็นด้วย

“นั่นสินะ”

“ถ้าเช่นนั้น ท่านก็ช่วยให้องค์หญิงได้เข้าไปอยู่ในกองทัพของพี่ชายข้าด้วยเถอะนะเพคะ”

มู่หรงเยว่ชิงนึกชอบพอองค์หญิงหยางจูอยู่ในใจ การที่พี่ชายของนางได้รับความสนใจจากสตรีผู้เพียบพร้อมถึงเพียงนี้ นางย่อมต้องอยากจะสนับสนุนเป็นธรรมดา และอีกอย่าง เรื่องนี้คงสนุกพิลึก

“ข้าก็อยากช่วย แต่มันมีอยู่หลายเรื่องเช่นกันที่ต้องคิด จะให้ตัดสินใจบุ่มบ่ามคงไม่ได้” หลี่อวี้อ๋องเอ่ยเอาใจพระชายาและทำท่าครุ่นคิด

“เสด็จอาช่วยหาทางออกให้น้องหยางจูด้วยเถอะพ่ะย่ะค่ะ”

องค์ชายชางเอ่ยด้วยความร้อนรน อย่างน้อยปัดเผือกร้อนไปให้เสด็จอายังดีกว่าต้องถือไว้คนเดียวทั้งหมด

“เจ้าไม่ต้องห่วง ข้าจะช่วยแน่ นอกจากนางจะเป็นหลานรักของข้า พระชายาของข้าเองก็รบเร้าถึงเพียงนี้”

คนตามใจเมียมาตั้งแต่ตอนที่ยังเป็นเพียงคนรู้จักมีหรือจะมาขัดขวางนางได้

เฉินไป่ชางพยายามมองเมินภาพบาดตาราวกับว่าโลกนี้มีเพียงสองเราตรงหน้าเสีย เสด็จอาผู้ขึ้นชื่อเรื่องความโหดเหี้ยม พออยู่ต่อหน้าพระชายากลับอ่อนโยนราวกับสิ่งที่ร่ำลือกันด้านนอกนั้นเป็นเรื่องเท็จไป

เสียหมด

“ถ้าเป็นเรื่องการปลอมตัว หม่อมฉันช่วยได้นะเพคะ” เยว่ชิงเสนอตัวอย่างนึกสนุก

“เห็นจะมีเรื่องความปลอดภัยนี่แหละ ที่ยังน่ากังวลอยู่”

หลี่อวี้อ๋องคิดหนักเพราะหยางจูเป็นถึงองค์หญิงคนสำคัญ

“พี่ชายของข้าฝีมือไม่ยิ่งหย่อนไปกว่าผู้ใด อีกประการหนึ่ง ท่านรองแม่ทัพจางซื่อหมิงที่อยู่ข้างกายเขาตลอดเวลาเองก็เช่นกัน เรื่องสำคัญคือจะทำให้องค์หญิงหยางจูได้อยู่ใกล้พี่เซียวหนานได้อย่างไร หากทำได้ นางก็จะได้รับการคุ้มครองดูแลอย่างดีตามมาเองนั่นแหละ”ณ ขณะเดียวกันนี้ ที่ชายแดนอันไกลโพ้น รองแม่ทัพจางซื่อหมิงที่เพิ่งจะหยุดจาม กลับมาจามไม่หยุดอีกรอบ

“ฮัดเช้ย!!!”

“สงสัยคงต้องไปให้หมอประจำกองทัพตรวจดูสักที” จางซื่อหมิงปรารภกับตัวเอง พลางลูบเนื้อลูบตัวที่รู้สึกว่าขนแขนลุกชันไปหมด

ณ ห้องรับรองตำหนักอ๋อง บุรุษทั้งสองพยักหน้าเห็นด้วยกับมู่หรงเยว่ชิง ทั้งที่ไม่คิดจะเห็นด้วยเท่าไหร่ เพราะนางกับองค์หญิงหยางจูนั้นมีกิตติศัพท์ในเรื่องความป่วนไม่แพ้กัน และทุกครั้งที่นางสร้างเรื่องสร้างราว ใครต่อใครต่างใจอ่อนทำโทษนางไม่ลง เลยได้แต่โอนอ่อนผ่อนตามและตามใจนางกันหมด

“ให้เป็นทหารรับใช้ประจำตัวดีหรือไม่” หลี่อวี้อ๋องเสนอ แม้นั่นจะดูเป็นอะไรที่ต่ำต้อยไปสักหน่อย แต่ความจริงทุกอย่างกลับตาลปัตรตั้งแต่หยางจูออกปากจะปลอมเป็นชายเข้าไปอยู่ในค่ายทหารแล้ว เพราะฉะนั้นข้อเสนอของเขาก็ไม่ได้ดูแปลกพิกลไปกว่ากันหรอก

“เช่นนั้นคงจะดีที่สุด แต่การเสนอตัวเป็นทหารรับใช้ดื้อ ๆ เผลอ ๆ พี่เซียวหนานต้องไม่รับเป็นแน่ เรื่องวิธีคงต้องคิดกันอีกที”

“ข้าเชื่อว่าหยางจูคงจะคิดได้” พูดอย่างพี่ชายที่รู้จักน้องสาวจอมวางแผนดี

“ข้าจะไปเขียนจดหมายฝากฝังหยางจูกับรองแม่ทัพจางให้”

“ขอบพระทัยเสด็จอา น้องหยางจูจะต้องดีใจมากแน่” เฉินไป่ชางรีบถวายความเคารพผู้มีศักดิ์เป็นอาทันที

“เอาเถอะ ข้าหวังว่าถ้าความแตกขึ้นมา เสด็จพี่คงจะเห็นแก่หน้าข้าบ้าง”

องค์ชายชางคิดในใจแต่ไม่ได้พูดออกไปว่าก็เพราะเสด็จอาเป็นคนโปรดของเสด็จพ่อนั่นแหละ เขาและน้องถึงได้แจ้นมาขอความช่วยเหลือแบบนี้

“แล้วองค์หญิงจะเสด็จไปเมื่อใดหรือเพคะองค์ชาย”

“ข้าคิดว่าคงจะเร็วที่สุดเท่าที่จะเร็วได้ ดูนางร้อนใจเหลือเกิน”

“หากช้า เสด็จพี่ก็อาจจะเร่งรัดงานอภิเษกกับองค์ชายต่างแคว้นด้วย” หลี่อวี้อ๋องคิดตามประสาคนที่อยู่ในตำแหน่งที่จะต้องบริหารจัดการทุกอย่าง

“พ่ะย่ะค่ะ น้องหยางจูเกรงว่าวันดีคืนดี เสด็จพ่อจะให้นางเข้าพิธีโดยไม่ให้นางได้เตรียมตัว และเสด็จพ่อก็น่าจะทำเช่นนั้น เพราะทรงทราบดีว่าน้องมีความดื้อดึงเพียงใด” องค์ชายชางออกความเห็น

ทั้งสามคนยิ้มเอ็นดูออกมาพร้อมกันเมื่อพูดมาถึงตรงนี้

“เฮ้อ ก็ใครกันล่ะที่ตามใจนางจนเสียคน”

หลี่อวี้อ๋องตำหนิแบบไม่จริงจังนักก่อนจะลุกขึ้น

“เจ้ารออยู่นี่ไป่ชาง ข้าจะไปเขียนจดหมายเดี๋ยวเดียว”

“พ่ะย่ะค่ะ” องค์ชายชางมองตามหลังเสด็จอาที่หายเข้าไปอีกห้อง ก่อนจะถอนหายใจออกมาด้วยความโล่งอก

“หากองค์หญิงพร้อมให้หม่อมฉันช่วยเตรียมการเรื่องปลอมตัว ก็ให้คนมาบอกได้เลยนะเพคะ”

“ข้าว่าท่านไปพร้อมข้าเลยดีกว่า นางน่าจะต้องการคุยกับผู้หญิงด้วยกันมากที่สุด”

“เพคะ” เยว่ชิงรับคำด้วยความยินดี

รออยู่ไม่นาน หลี่อวี้อ๋องก็ออกมาจากห้องหนังสือพร้อมจดหมายที่เขาถือมาด้วยในมือ เนื้อความไม่มีอะไรมากนัก แต่ก็หนักแน่นตามแบบฉบับ และย้ำเรื่องความปลอดภัยขององค์หญิงหยางจูเป็นอันดับแรก พร้อมคำสัญญาว่าจะตบรางวัลมหาศาลแก่รองแม่ทัพจางซื่อหมิงหลังจากองค์หญิงกลับวังหลวงอย่างปลอดภัย

องค์ชายชางกล่าวขอบคุณผู้เป็นอาอีกรอบ ก่อนจะกลับตำหนักพร้อมกับมู่หรงเยว่ชิงที่เตรียมจะช่วยองค์หญิงหยางจูซึ่งมีความเป็นไปได้สูงมากว่าจะมาเป็นพี่สะใภ้ของนางในอนาคต

“พี่กลับมาแล้ว”

องค์ชายชางไปหาองค์หญิงหยางจูที่ตำหนัก พอนางเห็นว่าใครมาก็รีบวิ่งตรงดิ่งเข้าไปหา ดวงหน้าอ่อนหวานเงยขึ้นมองพี่ชายด้วยความหวัง เมื่อเห็นว่าใครยืนอยู่ข้างเขา นางก็พอจะเดาเรื่องราวได้ จึงยิ้มออกมาอย่างยินดี แล้วพุ่งเข้ามากอดพี่ชายเต็มแรง

“พอได้อย่างใจก็ยิ้มออกเชียวนะ” เขาลูบหัวนาง จะโกรธก็โกรธ

ไม่ลง

“เรามาเริ่มกันเลยเถอะ”

รอข้าอีกนิดเท่านั้นนะ มู่หรงเซียวหนาน ข้ากำลังจะไปหาท่านแล้ว

Continue to read this book for free
Scan code to download App

Related chapters

  • อุบายรักแม่ทัพหน้านิ่ง / รักเร้นใจใต้เงาองครักษ์   อุบายรักแม่ทัพหน้านิ่ง ตอนที่ 2

    การเดินทางขององค์หญิงผู้ดื้อรั้นเป็นไปอย่างเงียบเชียบและถูกเก็บให้เป็นความลับมากที่สุดเท่าที่จะทำได้ โดยจดหมายได้ถูกคนของ หลี่อวี้อ๋องส่งไปล่วงหน้าก่อนแล้ว เพื่อให้รองแม่ทัพจางซื่อหมิงเตรียมการในสิ่งที่จำเป็นเพื่อต้อนรับการมาขององค์หญิงผู้สูงศักดิ์แต่อุตริดันคิดแผลง ๆ อยากมาตกระกำลำบากในค่ายทหาร ทั้งนี้หลี่อวี้อ๋องได้เตรียมการเป็นอย่างดี โดยให้หลานรักออกเดินทางพร้อมกับทหารอารักขาที่ปลอมตัวเป็นชาวบ้านเดินทางล่วงหน้าไปประจำการตามจุดต่าง ๆ เพื่อคอยดูแลความปลอดภัยตลอดเส้นทาง ข้าวของในหีบไม้เรียบ ๆ ไม่สะดุดตาสองหีบ มีเพียงเสื้อผ้าธรรมดาและตำราไม่กี่เล่ม กับของสำหรับการปลอมตัว และของใช้จำเป็นสำหรับผู้หญิงซึ่งจะต้องเก็บอย่างมิดชิด หยางจูนั่งกระเด้งกระดอนอยู่ในเกวียนเทียมม้าคันเล็กสภาพเก่าคร่ำคร่าเพื่อไม่ให้เป็นจุดสังเกต เมื่อไปถึงที่เมืองชายแดนนางจะต้องลงจากรถม้าคันนี้ที่จะขนสัมภาระเข้าไปในค่ายตามเส้นทางลับ แล้วเปลี่ยนไปใช้รถม้าคันอื่นแทนเป็นระยะทางสั้น ๆ แม้จะฟังดูยากลำบากสำหรับองค์หญิงเช่นนาง แต่ในหัวใจดวงน้อยที่มีเพียงความปรารถนาจะได้ยลโฉมหน้าของชายในดวงใจ นางก็มีเพียงความตื่นเต้นเพียง

    Last Updated : 2024-10-15
  • อุบายรักแม่ทัพหน้านิ่ง / รักเร้นใจใต้เงาองครักษ์   อุบายรักแม่ทัพหน้านิ่ง ตอนที่ 3

    ยังไม่ทันจะไปถึง ชายหนุ่มร่างสูงโปร่ง ท่าทางราวกับบัณฑิตสะโอดสะองก็ถูกผลักจนหน้าคะมำ ก่อนจะโดนทุบเข้าที่หลังเต็มแรง “นี่พวกเจ้า มีอะไรก็ค่อย ๆ พูดค่อยจากันดี ๆ สิ ไม่เห็นต้องใช้กำลังเลยนี่” “แม่นาง นี่เป็นเรื่องของบุรุษ เจ้าอย่าแส่จะดีกว่า” “เขาทำอะไรผิด หากเป็นเรื่องเงิน ข้าจะจ่ายให้ ต้องการเท่าไหร่ก็ว่ามา” นางไม่สนใจเสียงกระโชกโฮกฮากและสายตาไม่เป็นมิตรของคนพวกนั้น แล้วหันไปหาลู่อิงที่รีบหยิบถุงเงินออกมา “ข้าไม่ต้องการเงิน พวกที่ชอบใช้เงินทองฟาดหัวคนอื่น ควรจะได้รับบทเรียนเสียบ้าง” “หากเจ้าไม่ปล่อยเขาไป ข้าจะแจ้งทางการ” เสียงหัวเราะเยาะหยันดังลั่นเมื่อนางกล่าวประโยคนั้นจบ “ที่นี่อยู่ไกลจากศาลาว่าการตั้งเท่าไหร่ กว่าเจ้าจะไปแจ้ง ข้าก็ทุบเจ้านี่จนน่วมไปถึงไหนต่อไหนแล้ว เพราะฉะนั้นข้าข้อเตือนให้แม่นางถอยไปห่าง ๆ เสียดีกว่า” หยางจูไม่รู้สึกพรั่นพรึงต่อคำขู่นั้น หากการเจรจาไม่ได้ผล นางก็รู้ดีว่าองครักษ์เซี่ยที่มาด้วยกันจะสามารถรับมือกับคนพวกนี้ซึ่งดูไม่ต่างจากโจรกระจอกได้ “เจ้าไม่ต้องการสิ่งนี้จริงหรือ” นางรับถุงเงินจากลู่อิงแล้วเขย่าไปมาตรงหน้า “เจ้านี่พูดไม่รู้ความ ออ

    Last Updated : 2024-10-15
  • อุบายรักแม่ทัพหน้านิ่ง / รักเร้นใจใต้เงาองครักษ์   อุบายรักแม่ทัพหน้านิ่ง ตอนที่ 4

    รองแม่ทัพจางซื่อหมิงด้อม ๆ มอง ๆ อยู่ตรงประตูหลังค่ายด้วยความกลัดกลุ้ม เขาได้รับจดหมายจากหลี่อวี้อ๋องเรียบร้อยแล้วและรู้สึกกังวลใจเป็นอย่างยิ่ง แม้โดยเนื้อแท้เขาจะเป็นบุรุษที่ใจเย็น สุขุมรอบคอบ แต่เมื่อได้อ่านเนื้อความในจดหมายถึงสิ่งที่องค์หญิงหยางจูต้องการจะทำ ความสงบสุขุมของเขาก็ปลาสนาการไปสิ้น มีอย่างที่ไหน ใช้ชีวิตสุขสบายอยู่ในวังอันหรูหราไม่ชอบ แต่อยากจะมานอนกลางดินกินกลางทรายที่ค่ายทหารเยี่ยงนี้ อานุภาพของความรักมันยิ่งใหญ่ขนาดนั้นเชียวหรือ เขาได้แต่สงสัยในใจ แต่ในเมื่อได้รับมอบหมายมาแล้ว เขาก็ต้องรับใช้เชื้อพระวงศ์อย่างสุดความสามารถ อย่างน้อยก็ช่วยองค์หญิงปกปิดความลับให้ได้นานที่สุด ประการต่อมาคือหาโอกาสให้นางได้โปรยเสน่ห์มัดใจท่านแม่ทัพหน้านิ่ง ซึ่งตัวเขาเองก็ไม่แน่ใจว่าแม่ทัพมู่หรงเซียวหนานมีหัวจิตหัวใจอย่างใครเขาหรือไม่ เสียงรถม้าควบกุบกับมาตามถนน ก่อนจะจอดห่างออกไปเล็กน้อยเพื่อไม่ให้เป็นที่สังเกตเห็น จางซื่อหมิงจึงรีบเดินออกไป เห็นบุรุษสองคนยืนเคียงข้างกัน คนหนึ่งมีรูปร่างสูงใหญ่ตามแบบฉบับคนใช้ตามแบบฉบับคนที่ใช้กำลัง ส่วนอีกคน แม้จะอยู่ในชุดแบบผู้ชายทั่วไป แต่สรีระกลับ

    Last Updated : 2024-10-30
  • อุบายรักแม่ทัพหน้านิ่ง / รักเร้นใจใต้เงาองครักษ์   อุบายรักแม่ทัพหน้านิ่ง ตอนที่ 5

    ดวงตาของจางซื่อหมิงมีประกายแบบคนที่เห็นหนทางรำไร “ถ้าเช่นนั้นท่านไปอยู่โรงเลี้ยงม้าดีหรือไม่ ท่านแม่ทัพมีม้าคู่ใจอยู่ตัวหนึ่ง เมื่อมีเวลาว่างก็จะแวะเวียนไปดูมันเสมอ” “แต่...ข้าดูแลม้าไม่เป็น ได้แต่ขี่อย่างเดียว” “นั่นสินะ” เขาพึมพำ จะให้องค์หญิงมาคอยแปรงขนม้า เก็บมูลของมันและป้อนหญ้าได้อย่างไร “อย่าเพิ่งถอดใจไป ข้ารู้แล้ว!” นางร้องด้วยความยินดี ท่าทางแจ่มใสขึ้นมา “ฝ่ายเครื่องแต่งกายอย่างไรเล่า ถึงอย่างไรทุกคนก็ต้องแต่งตัวไม่ใช่หรือ ขนาดในตำหนักของข้า ยังต้องใช้คนตั้งมากมาย กองทัพที่มีทหารหลายพันคนเช่นนี้ ย่อมต้องการแรงงานเป็นแน่” “พวกเขาไม่ใคร่สนใจการแต่งตัวนัก ส่วนมากแล้วจะสวมใส่เสื้อผ้าซ้ำ ๆ เพราะไม่ค่อยมีเวลาและใช้ชีวิตอย่างเร่งรีบ บวกกับการทำงานหนัก สิ่งที่ขาดไม่ได้คือชุดเกราะเท่านั้นเอง” หยางจูถอนหายใจเฮือกใหญ่ “เห็นจะมีเพียงคนรับใช้ส่วนตัวของเขาเท่านั้น ที่จะได้อยู่ชิดใกล้เกือบจะตลอดเวลา” “แต่กว่าจะไปถึงตำแหน่งนั้นได้ ก็ต้องอยู่ในสายตาของท่านแม่ทัพเสียก่อน เมื่อท่านแสดงให้เห็นความสามารถ เขาต้องย่อมเรียกท่านเข้าไปรับใช้” “ใช่” นางผงกศีรษะ ก่อนจะนึกขึ้นได้ว่านอกจากเสื

    Last Updated : 2024-10-31
  • อุบายรักแม่ทัพหน้านิ่ง / รักเร้นใจใต้เงาองครักษ์   อุบายรักแม่ทัพหน้านิ่ง ตอนที่ 6

    หยางจูสะดุ้งตื่นเพราะเสียงตีเกราะดังระรัว นางรีบร้อนแต่งตัวด้วยชุดไร้สีสันที่ตระเตรียมมา สวมทับด้วยเครื่องแบบของกองทัพ และพบว่าแม้จะไม่สวยงามสะดวกสบายอะไรนัก แต่ก็ใช้เวลาน้อยกว่าตอนที่นางเป็นองค์หญิงถึงสิบเท่า จากนั้นนางก็ต้องขมวดปอยผมของตัวเองให้ดีขณะที่เสียงเรียกหน้าประตูยังดังไม่หยุด “หยางหยาง หากไปช้าเราจะถูกลงโทษเอานะ” คนที่อยู่หน้ากระโจมตะโกนเข้ามา หยางจูจึงรีบตอบกลับ เกรงว่าหากขืนชักช้าเขาจะเปิดประตูเข้ามาเรียกถึงด้านในแล้วความจะแตกเอาได้ “เข้าใจแล้ว ๆ” นางเปิดประตูแล้วก้าวตามชายหนุ่มรูปร่างผอมสูงที่ก้าวเดินด้วยความรวดเร็วไปในความมืด ฟ้ายังไม่สว่างดีนัก แต่รอบค่ายก็มีเสียงพูดคุย เสียงของผู้คนที่ทำงานไม่หยุดหย่อน เสียงโลหะกระทบกัน เสียงกวาดถู และกลิ่นที่ผสมปนเปกันไปในอากาศจนยากจะบอกได้ว่าเป็นกลิ่นของสิ่งใดกันแน่ ตะเกียงและคบเพลิงถูกจุดให้แสงสว่างเป็นระยะ นางเห็นเรือนนอนเรียงกันเป็นแถบ ซึ่งเป็นของทหารที่พอจะมียศศักดิ์เท่านั้น ทหารชั้นเลวหรือทหารรับใช้จะได้นอนในกระโจมรวม ซึ่งนางเองถ้าไม่อาศัยความช่วยเหลือของรองแม่ทัพจางซื่อหมิงก็คงจะไปลงเลยในสถานที่แบบนั้นเช่นกัน “นี่ เ

    Last Updated : 2024-11-01
  • อุบายรักแม่ทัพหน้านิ่ง / รักเร้นใจใต้เงาองครักษ์   อุบายรักแม่ทัพหน้านิ่ง ตอนที่ 7

    เสียงเรียกของหัวหน้าโรงครัวดังราวกับฟ้าผ่า หยางจูผุดลุกขึ้นแล้วเดินตามแผ่นหลังกว้างไปท่ามกลางสายตาสอดรู้ของทุกคนในบริเวณนั้น “ท่านเรียกข้า มีสิ่งใดจะให้ข้ารับใช้หรือขอรับ” “มีคำสั่งมาว่าให้เจ้านำอาหารไปให้ท่านแม่ทัพ” “จริงหรือ” นางร้องออกมาด้วยความดีใจ แต่พอเห็นสายตาตำหนิติเตียนก็รีบหุบยิ้ม “ขอรับ ข้าจะทำหน้าที่อย่างดีที่สุด” “เอาเกลือนี่โรยใส่น้ำแกงสักหน่อย แล้วก็ยกไปได้” “ขอรับ” นางได้แต่รับคำซ้ำ ๆ พูดอะไรไม่ออกเพราะความดีใจเอ่อล้นอยู่ในอก “ข้าไม่รู้หรอกนะว่าเจ้าเป็นใครมาจากไหน ถึงได้ตำแหน่งสำคัญถึงเพียงนี้ตั้งแต่วันแรก แต่ทำหน้าที่ให้ดีก็แล้วกัน” “ข้าน้อยจะไม่ทำให้ครัวของเราต้องขายหน้าเป็นอันขาด” “ดี” เมื่อสั่งงานเสร็จแล้ว เขาก็เดินนำนางไปยังจุดรับสำรับอาหารที่มีอาหารอยู่เพียงไม่กี่อย่าง หยางจูมองไก่ตุ๋นน้ำแกง เนื้อในชามเป็นแค่ชิ้นเล็ก ๆ ไม่ใช่ไก่ทั้งตัว ข้าวต้มเละ ๆ บดรวมกับหมูสับ ผักที่ผัดโดยไม่ใส่สิ่งใดเลย และของหวานที่นางมองไม่ออกว่าเป็นสิ่งใดกันแน่เพราะมันเหมือนกับการเอาแป้งมากวนแล้วจับปั้นเป็นก้อนกลม ๆ เมื่อมองจากภาระหน้าที่ของมู่หรงเซียวหนานและการกินอยู่ขอ

    Last Updated : 2024-11-03
  • อุบายรักแม่ทัพหน้านิ่ง / รักเร้นใจใต้เงาองครักษ์   อุบายรักแม่ทัพหน้านิ่ง ตอนที่ 8

    ความอึดอัดท่วมท้นขึ้นมาในจิตใจเมื่อได้ยินคำตำหนิว่าอาหารรสชาติแปลกประหลาด หยางจูรู้ดีว่าต้องเป็นเพราะเกลือที่นางโรยลงไปตามคำสั่งเป็นแน่ แต่คงจะใส่มากไปหน่อย หรือไม่อย่างนั้นก็อาจจะมีขั้นตอนใดขั้นตอนหนึ่งผิดพลาดจนรสชาติอาหารออกมาผิดแผกไปจากเดิม “คนครัวคนเดิมหรือเปล่า” “คนเดิมขอรับ” มู่หรงเซียวหนานมุ่นหัวคิ้ว ลองตักน้ำแกงพร้อมกับเนื้อไก่กินอีกครั้ง “น้ำแกงนี่ใส่อะไรลงไปบ้าง” ตายล่ะ นางไม่ได้เป็นคนทำทุกขั้นตอนเสียเมื่อไหร่ แค่ถอนขนไก่ยังไม่ได้เลย แถมตอนปรุงน้ำแกงด้วยสมุนไพร นางก็กำลังแล่หมูอยู่ด้วยซ้ำ แล้วอย่างนี้จะตอบคำถามของเขาได้อย่างไร แต่พอเห็นสายตาที่จ้องมองมาไม่วางตา นางก็จำต้องหาคำตอบมาให้ แม้ว่ามันอาจจะไม่ถูกต้องก็ตาม แต่คนเป็นแม่ทัพ เคยแต่จับหอกจับดาบก็ไม่น่าจะรู้เรื่องอาหารมากนัก “ก็ใส่เครื่องยาจีนทั่วไปขอรับ” “ลองไล่มาสิ ข้าจะดูว่ามีสิ่งใดผิดแปลกไป” “เอ่อ หากท่านกังวลเรื่องการวางยาพิษ ทางหน่วยได้มีการทดลองชิมและใช้เครื่องเงินทดสอบแล้วนะขอรับ” “ไม่ใช่เรื่องการวางยาอะไรหรอก ข้าแค่รู้สึกแปลกใจกับรสชาติอาหารน่ะ จึงอยากจะรู้ให้แน่ชัด” หรือนางจะใส่อย่างอื่นแทนเกล

    Last Updated : 2024-11-05
  • อุบายรักแม่ทัพหน้านิ่ง / รักเร้นใจใต้เงาองครักษ์   อุบายรักแม่ทัพหน้านิ่ง ตอนที่ 9

    หยางจูนิ่งอึ้ง นึกเสียดายที่ไม่ได้ทำหน้าทำตาให้มอมแมมขมุกขมัวมากกว่านี้ เมื่อเขาเห็นว่านางอึกอัก ก็ยิ่งคิดว่านางอับอายเพราะถูกล้อว่าเหมือนเด็ก จึงพูดเพื่อให้นางรู้สึกดีขึ้น “อย่าคิดมากไปเลย เมื่อทำงานใช้แรงไปเรื่อย ๆ ตัวของเจ้าก็จะหนาเสียจนลืมเลยว่าครั้งหนึ่งเจ้าเคยเป็นเด็กมาก่อน” “ขอรับ” นางปรับสีหน้าให้ดีขึ้น ก่อนจะเป็นฝ่ายถามแทน “แล้วท่านแม่ทัพล่ะขอรับ คิดจะแต่งงานเมื่อใดกัน” “ข้ายังไม่ได้คิดเรื่องนั้น ในหัวมีแต่จะกำราบศัตรูให้สิ้นซากอย่างไรก็เท่านั้น” “แต่หากท่านทำสำเร็จ ฮ่องเต้จะต้องพระราชทานรางวัลให้ ดีไม่ดี จะให้ท่านแต่งกับหญิงงามมียศถาบรรดาศักดิ์เสียด้วยซ้ำไป” “ข้ารู้” มู่หรงเซียวหนานพอจะคาดการณ์เรื่องนี้ได้ โดยเฉพาะเมื่อบิดาของเขาใกล้ชิดกับฮ่องเต้ ถึงขนาดที่น้องสาวของเขาก็อภิเษกไปกับ หลี่อวี้อ๋อง แล้วบุตรชายคนโตจะน้อยหน้ากว่าได้อย่างไร “หากเป็นเช่นนั้น ก็แล้วแต่พระประสงค์ของพระองค์เถิด”เขาพูดพลางถอนหายใจอย่างคนที่เข้าใจเรื่องราวและเตรียมใจไว้แล้ว อันตัวเขานั้น แม้จะมีหัวใจ แต่ภาระหน้าที่ต้องมาเป็นอันดับหนึ่งก่อนอยู่แล้ว หยางจูก็ไม่คิดว่าจะได้รับคำตอบอะไรที่แปลกไป

    Last Updated : 2024-11-07

Latest chapter

  • อุบายรักแม่ทัพหน้านิ่ง / รักเร้นใจใต้เงาองครักษ์   รักเร้นใจใต้เงาองครักษ์ บทส่งท้าย 2

    ลู่อิงหน้าแดงเรื่อเมื่อถูกถามอย่างตรงไปตรงมา เซี่ยหานปิงไม่เพียงอนุญาตแต่ยังค่อย ๆ ดึงลู่อิงให้เอนตัวขึ้นมา ก่อนจะลูบผมสลวยเพื่อให้คลายกังวล ไม่อยากให้คิดว่าเป็นการกระทำที่ยากหรือน่ากลัว“ข้า...ข้ามิเคยทำมาก่อน”“ข้ารู้ เจ้าแค่อ้าปากแล้วกินมันเข้าไปเท่านั้น” เขาส่งยิ้มบางเบาแล้วค่อย ๆ ประคองใบหน้างดงามให้เคลื่อนเข้ามาใกล้ ๆพอริมฝีปากแทบจะจ่ออยู่ปลายหัวของแก่นกายลู่อิงจึงค่อยยื่นลิ้นออกมา นางใช้ปลายลิ้นแตะลงบนปลายหัวสีแดงระเรื่อ แต่พอสัมผัสก็ได้ยินเสียงเซี่ยหานปิงครางต่ำออกมา นางจึงช้อนสายตาขึ้นไปมองก็“อืม...ดี ดียิ่งนัก” เซี่ยหานปิงก้มมองคนเบื้องล่างที่เรียนรู้ว่องไว เขารู้อยู่แล้วนางจะทำได้เพราะเรื่องแบบนี้มันอยู่ในสัญชาตญาณ แม้ว่าแรก ๆ ลู่อิงจะเคลื่อนไหวติด ๆ ขัด ๆ ไปบ้าง แต่ไม่ได้ทำให้อารมณ์หยุดชะงักลู่อิงตาลอยเล็กน้อย รู้สึกถึงความยาวดุนดันอยู่ในลำคอของนาง น้ำตาหยดเล็ก ๆ เปียกชื้น ทว่านางก็กลืนกินมันจนเกิดเสียงหยาบโลน เซี่ยหานปิงลูบผมนาง ก่อนจะสาวเอวสอบเข้าออกช้า ๆ และจากจังหวะเนิบช้าก็เริ่มเปลี่ยนเป็นเร็ว

  • อุบายรักแม่ทัพหน้านิ่ง / รักเร้นใจใต้เงาองครักษ์   รักเร้นใจใต้เงาองครักษ์ บทส่งท้าย 1

    ลู่อิงนั่งอยู่ในเกี้ยวหามที่โคลงเคลงไปมาตลอดทาง นางพยายามสงบจิตใจของตัวเอง แต่ก็ไม่อาจห้ามหัวใจที่เต้นแรงด้วยความตื่นเต้นได้ เสียงตีฆ้องร้องป่าวจากด้านนอกบ่งบอกว่าขบวนแห่นำเจ้าสาวกำลังเดินทางมาถึงจวนของเซี่ยหานปิง ผู้ที่วันนี้ไม่ใช่เพียงแค่ราชองครักษ์ แต่เป็นเจ้าบ่าวของนางจวนหลังนี้ไม่ใช่จวนธรรมดา เพราะเป็นจวนที่ได้รับพระราชทานจากองค์หญิงหยางจู และองค์ชายชาง ว่าที่องค์รัชทายาท ผู้เป็นพระเชษฐาขององค์หญิงหยางจู และเป็นผู้ให้การช่วยเหลืออย่างลับ ๆ ตอนที่องค์หญิงหยางจูปลอมตัวไปอยู่ในค่ายทหาร เพื่อเป็นของขวัญสำหรับการที่เซี่ยหานปิงรับใช้และปฏิบัติหน้าที่ด้วยความซื่อสัตย์มาโดยตลอด จวนนี้แม้อยู่ในเมืองหลวง แต่ค่อนไปทางชานเมือง เนื่องจากเซี่ยหานปิงและลู่อิงชอบความเรียบง่าย มิอยากเผชิญความวุ่นวายในตัวเมือง แต่แม้จะห่างไกลออกมา จวนแห่งนี้ก็ยังโดดเด่น สง่างาม สมกับตำแหน่งขุนนางขั้นสี่ของเขาเมื่อขบวนเจ้าสาวไปถึงหน้าจวน เกี้ยวได้ถูกวางลงบนพื้นช้า ๆ ลู่อิงไม่คุ้นเคยกับพิธีการเหล่านี้มากนัก เพราะเป็นเพียงนางกำนัลที่เติบโตอยู่ในวังหลวงมาตลอด ไม่มีครอบครัวที่ไหนจะส่งตัวนางออกมาเช่นนี

  • อุบายรักแม่ทัพหน้านิ่ง / รักเร้นใจใต้เงาองครักษ์   รักเร้นใจใต้เงาองครักษ์ ตอนที่ 36

    เมื่อเซี่ยหานปิงกลับถึงเมืองหลวง เขาถูกภารกิจมากมายถาโถมเข้ามาจนแทบไม่มีเวลาหยุดพัก แต่ละวันเต็มไปด้วยเรื่องที่ต้องจัดการอย่างไม่หยุดยั้ง จนเวลาผ่านไปหลายวันโดยที่เขาไม่ได้พบกับลู่อิงเลยสักครั้งแม้ตนจะเป็นองครักษ์ประจำตัวขององค์หญิงหยางจูก็ตามในหัวใจเขานั้นเต็มไปด้วยความคิดถึง ไม่เพียงแต่งานที่ทำให้เหนื่อยล้า แต่ความรู้สึกโหยหาสตรีนางหนึ่งที่เขาใส่ใจมากขึ้นทุกวันก็ทำให้จิตใจของเขายิ่งเหน็ดเหนื่อยยิ่งขึ้นไปอีก แต่ก็พยายามข่มใจ ไม่อยากเร่งรีบอะไรจนเกินไป เพราะเขาต้องการจัดการทุกอย่างให้เรียบร้อยก่อนจะไปหานางฝ่ายลู่อิงเองก็เฝ้ารอคอยการกลับมาของเซี่ยหานปิงด้วยใจจดจ่อ แต่หลายวันผ่านไปแล้วนางก็ยังไม่เห็นหน้าเขา จิตใจที่เคยสงบสุขจึงเริ่มร้อนรุ่มขึ้นมา นางไม่อาจห้ามความคิดถึงเขาได้ ทุกคืนที่หลับตานอน ก็ได้แต่ครุ่นคิดถึงว่าเขากำลังทำอะไรอยู่ จนหัวใจเต็มไปด้วยความกังวลและโหยหาสุดท้าย ความคิดถึงของทั้งสองก็ถึงจุดที่ไม่อาจต้านทานได้ เซี่ยหานปิงอดทนไม่ไหวอีกต่อไป จนในคืนนั้นเขาตัดสินใจว่าอย่างไรจะต้องเจอหน้านางให้จงได้ลู่อิงที่นอนหลับตาอยู่บนเตียงกลับสะดุ้งตื่นขึ้

  • อุบายรักแม่ทัพหน้านิ่ง / รักเร้นใจใต้เงาองครักษ์   รักเร้นใจใต้เงาองครักษ์ ตอนที่ 35

    เมื่อเซี่ยหานปิงกลับถึงบ้าน พอเปิดประตูเข้าไปก็เห็นลู่อิงนั่งกระวนกระวายใจอยู่ ใบหน้าของนางเต็มไปด้วยความกังวล“ท่านหายไปไหนมาเสียตั้งนาน” ลู่อิงรีบถลาเข้ามาหาเขา ดึงตัวเขาเข้าไปในบ้านพร้อมกับปิดประตูแน่นหนา นางดูร้อนรนเกินปกติ หัวใจของนางเต้นระส่ำ ไม่คิดว่าเขาจะหายไปโดยไม่บอกกล่าวเช่นนี้“เกิดอะไรขึ้นหรือ” เซี่ยหานปิงถามด้วยเสียงนุ่ม พยายามไม่ให้ดูผิดปกติเกินไป แต่ก็เห็นชัดว่าลู่อิงไม่ได้สงบอย่างที่ควรจะเป็น“องค์หญิงทรงเป็นอย่างไรบ้าง ท่านเห็นนางกับตาหรือไม่ หรือเพียงไต่ถามสายข่าวของท่านเท่านั้น” ลู่อิงถามด้วยน้ำเสียงสั่นเครือ นางไม่อาจปิดบังความวิตกกังวลในใจได้ การที่เขาหายตัวไปเช่นนี้ทำให้นางคิดว่าเรื่องนี้ต้องเกี่ยวข้องกับองค์หญิงหยางจูโดยตรง“องค์หญิงถูกจับไป”เซี่ยหานปิงตอบด้วยเสียงสงบนิ่ง ใบหน้าไร้ความตระหนก และเตรียมพร้อมยอมรับปฏิกิริยาตอบสนองทุกรูปแบบของลู่อิงสิ้นคำพูดนั้น ลู่อิงราวกับถูกทุบเข้าที่ศีรษะ นางนิ่งไปชั่วขณะ พยายามเรียบเรียงคำพูด แต่สิ่งที่ได้มีเพียงความหวาดกลัวจับใจเสียจนพูดไม่ออก เซี่ยหานปิงจึงพูดต่อ“พวกกบฏกับห

  • อุบายรักแม่ทัพหน้านิ่ง / รักเร้นใจใต้เงาองครักษ์   รักเร้นใจใต้เงาองครักษ์ ตอนที่ 34

    เซี่ยหานปิงนอนกอดลู่อิงไว้ภายใต้แสงจันทร์ ทว่าเขากลับต้องตื่นขึ้นเมื่อได้ยินเสียงฝีเท้าเบา ๆ เคลื่อนเข้ามาใกล้ แม้ผู้มาเยือนจะระมัดระวังเพียงใด แต่ก็ไม่อาจรอดพ้นสัญชาตญาณฉับไวขององครักษ์ผู้ชำนาญได้ เขาลุกขึ้นจากเตียงอย่างเงียบเชียบที่สุดเพราะเกรงว่าคนข้างกายจะรู้สึกตัวตื่น หยิบดาบของตนติดมือไปด้วย แล้วเปิดประตูออกไปเผชิญหน้ากับผู้มาเยือนชายในชุดดำคลุมหน้าปรากฏตัวอยู่ในลานบ้าน พอเห็นเซี่ยหานปิงเดินออกมาพร้อมดาบ ชายผู้นั้นรีบคุกเข่าลงในทันทีเพื่อแสดงความเคารพ“หัวหน้าเซี่ย!” ชายคนนั้นเอ่ยด้วยเสียงเบาแต่ชัดเจนเซี่ยหานปิงจำเสียงนี้ได้ทันทีว่าเป็นไป๋ซื่อเซิง ลูกน้องคนสนิทที่เขาส่งไปสังเกตการณ์ใกล้ค่ายทหาร“ไป๋ซื่อเซิง...เจ้าทำอะไรดึกดื่นเช่นนี้”“ขออภัยขอรับ ข้ามีองค์หญิงหยางจูมารายงาน พระองค์ถูกกบฏจับตัวไปขอรับ!”เซี่ยหานปิงนิ่งเงียบครู่หนึ่ง ใบหน้าของเขาตึงเครียดขึ้นในทันที เขาพยักหน้าให้ไป๋ซื่อเซิงลุกขึ้น ก่อนจะผายมือเชิญให้อีกฝ่ายเข้าไปด้านใน “ไปคุยกันข้างในเถอะ” เมื่อทั้งสองนั่งที่โต๊ะน้ำชาภา

  • อุบายรักแม่ทัพหน้านิ่ง / รักเร้นใจใต้เงาองครักษ์   รักเร้นใจใต้เงาองครักษ์ ตอนที่ 33

    ยามเช้า พิษในตัวนางถูกถอนออกไปหมดดังคาด หมอจางเข้ามาดูอาการ เขียนเทียบยาบำรุงร่างกายอีกเล็กน้อยแล้วก็ขอตัวลากลับออกไปหลังจากกินอาหารเช้าเสร็จ เซี่ยหานปิงก็ประคองนางเดินมายังลานหน้าบ้าน ตอนนี้ย่างเข้าฤดูร้อน ใบหลิวปลิวไสวงดงาม อำลาฤดูใบไม้ผลิ“มาเถอะ ข้าจะพาเจ้าไปที่หนึ่ง” เซี่ยหานปิงยื่นมือไปให้นาง ก่อนทั้งสองจะเดินไปยังเนินเขา ที่ตรงนั้นเป็นทุ่งดอกไม้ รอบด้านจึงเต็มไปด้วยดอกไม้หลากสีลู่อิงรู้สึกผ่อนคลาย นางเดินจูงมือใหญ่ของเซี่ยหานปิงไปเรื่อย ๆ ยามนี้ดวงตะวันสาดแสงอ่อน ๆ ลงมาจากฟากฟ้า แม้จะย่างเข้าฤดูร้อน แต่อากาศยังไม่ร้อนนัก ท้องฟ้าเป็นสีฟ้าใสปนขาว เมฆลอยละล่องราวกับสำลีเบาบาง ยิ่งเมื่อได้ยินเสียงลำธารไหลเอื่อย ๆ อยู่ใกล้ ๆ ยิ่งทำให้นางรู้สึกสงบและสบายใจเป็นที่สุดความเงียบสงบรายล้อมอยู่โดยรอบ ทั้งสองก้าวเดินช้า ๆ ในทุ่งดอกไม้ ลู่อิงรู้สึกได้ถึงความอบอุ่นจากมือของเซี่ยหานปิงที่ประสานกันอย่างแนบแน่น ใบหน้าของนางระบายด้วยรอยยิ้มบางเบา มองไปยังดอกไม้ที่เบ่งบานและสายลมที่พัดเอื่อย กลิ่นหอมของดอกไม้ป่าผสมกลิ่นต้นไม้ใบหญ้า ทำให้หัวใจนางเบาสบายแ

  • อุบายรักแม่ทัพหน้านิ่ง / รักเร้นใจใต้เงาองครักษ์   รักเร้นใจใต้เงาองครักษ์ ตอนที่ 32

    เซี่ยหานปิงขยับตัวขึ้นนั่ง ส่วนนั้นแข็งขืนปลายยอดมีน้ำซึมออกมา ลู่อิงเพิ่งเคยเห็นสิ่งใหญ่โตของบุรุษเป็นครั้งแรก นางไม่กล้ามองจึงเอาแต่หลับตาองครักษ์หนุ่มเห็นท่าทางของนางก็จำต้องสะกดอารมณ์เอาไว้พร้อมกับชักรูดแก่นกายของตนเองช้า ๆ ก่อนจะก้มลงจูบเปลือกตาของนางแล้วปลอบโยน“ข้าจะไม่ทำให้เจ้าเจ็บ จะค่อย ๆ ทำ จะทะนุถนอมเจ้า เจ้าไม่ต้องกลัว”ลู่อิงลืมตาขึ้น นางสบตาเขา เมื่อเห็นความจริงใจนางจึงพยักหน้ารับช้า ๆ อย่างเขินอาย เซี่ยหานปิงใช้มือจับท่อนล่างของตนถูไถไปกับความอ่อนนุ่มที่กำลังชุ่มฉ่ำ ลู่อิงไม่กล้าขยับเขยื้อนได้แต่กะพริบตามองแม้จะเขินอายแต่ก็เต็มไปด้วยความสนใจใคร่รู้ขณะที่เซี่ยหานปิงสอดแทรกความเป็นชายเข้าไปทีละนิดอย่างช้า ๆ นางก็ส่งเสียงครางปนสะอื้นออกมาเป็นครั้งคราว คิ้วเรียวยาวขมวดเข้าเพราะนางรู้สึกเจ็บ“อย่าเกร็ง ครั้งแรกจะเจ็บเล็กน้อย จากนั้นเจ้าก็ไม่เจ็บแล้ว”ลู่อิงมีน้ำตารื้นออกมาตรงหางตา เซี่ยหานปิงจึงจูบซับน้ำตาให้นาง พอเขาสัมผัสได้ว่าความอ่อนนุ่มชุ่มชื้นเปิดรับเขามากขึ้น มิได้เกร็งอย่างเช่นตอนแรก ก็ค่อย ๆ เริ่

  • อุบายรักแม่ทัพหน้านิ่ง / รักเร้นใจใต้เงาองครักษ์   รักเร้นใจใต้เงาองครักษ์ ตอนที่ 31

    ลู่อิงเงียบกริบ นางก้มหน้างุดลงกว่าเดิม ความอับอายท่วมท้น ที่เซี่ยหานปิงพูดมาไม่ใช่ว่านางไม่เข้าใจ แต่เพราะเข้าใจนางจึงไม่กล้าแสดงความเห็น เพราะไม่รู้ว่าเซี่ยหานปิงจะคิดเช่นไร“หากเจ้าไม่เต็มใจก็ช่างเถิด ข้าว่าคงจะมีวิธีอื่นอีก” เซี่ยหานปิงเอ่ยปลอบ เขารู้ว่าลู่อิงต้องรู้สึกไม่ดีเป็นแน่ แม้ตัวเขาเองก็ยังลังเลไม่ต่าง การให้หญิงสาวต้องฝืนใจทำสิ่งใดคงไม่ใช่สิ่งที่เขาต้องการ“ไม่...ไม่ใช่ ข้ากลัวว่าจะรบกวนท่าน” นางรีบร้อนห้าม คว้าแขนของเขาที่กำลังจะลุกจากไป“ข้าก็กลัวเจ้าจะเสื่อมเสียชื่อเสียง ลู่อิง ที่เจ้าบอกว่าชอบข้าจริงหรือไม่” เซี่ยหานปิงหันมาถามเต็มตา แต่ถึงอย่างนั้นก็ไม่ได้คาดคั้นเอาคำตอบจากนาง“จริงเจ้าค่ะ แต่ถ้าท่านไม่ดีมีใจตรงกับข้า ก็อย่าได้รักษาน้ำใจ” ลู่อิงตอบอย่างกล้าหาญ แม้ในใจจะหวั่นไหวและกังวลว่าเขาจะตอบเช่นไรเซี่ยหานปิงเงียบไปครู่หนึ่ง ก่อนจะเชิดคางเรียวของนางขึ้นมา สบตานางอย่างลึกซึ้ง “แล้วถ้าหากว่าข้าก็รู้สึกเช่นเดียวกับเจ้าล่ะ”“จริงหรือ” ลู่อิงตาโตขึ้ ใบ

  • อุบายรักแม่ทัพหน้านิ่ง / รักเร้นใจใต้เงาองครักษ์   รักเร้นใจใต้เงาองครักษ์ ตอนที่ 30

    ลู่อิงตื่นขึ้นมาอย่างอ่อนแรง รู้สึกเหมือนถูกถ่วงด้วยความเหนื่อยล้าเกินกว่าจะขยับตัวได้ นางพบว่าตัวเองนอนอยู่บนเตียงในบ้าน แต่ภาพเหตุการณ์เมื่อคืนกลับพร่ามัวเกินกว่าจะนึกถึงได้ถี่ถ้วน หลังจากลืมตาขึ้นเพียงครู่เดียว นางก็หลับลงไปอีกครั้งด้วยความอ่อนล้าไม่นานหลังจากนั้น เซี่ยหานปิงก็เข้ามาในห้อง เขาวางป้านยาลงบนโต๊ะเล็กข้างเตียงอย่างเบามือ ก่อนจะประคองร่างบอบบางของลู่อิงขึ้นมาเพื่อให้ดื่มยา ใบหน้าของเขาเคร่งเครียด ดูท่าแล้วพิษกำหนัดที่ลู่อิงถูกบังคับให้กลืนเข้าไปนั้นคงจะร้ายแรงมาก อีกทั้งเมื่อคืน นางยังต้องแช่อยู่ในน้ำเย็นตลอดคืน ทำให้ร่างกายของนางอ่อนแอ จับบัดนี้ก็ยังไม่ฟื้นตัวตลอดช่วงเช้า ลู่อิงยังคงนอนซมอยู่บนเตียง ไร้ท่าทีว่าจะดีขึ้น เซี่ยหานปิงเองก็กังวลอย่างเห็นได้ชัด เขาจึงตัดสินใจไปตามหมอจางมาดูอาการของนาง หมอจางเดินทางมาถึงพร้อมกับอุปกรณ์ในการรักษา ก่อนจะทำการตรวจอาการอย่างละเอียดและฝังเข็มเพื่อกระตุ้นพลังชี่ของนาง“อาการของนางเป็นอย่างไรบ้างท่านหมอ” เซี่ยหานปิงถามด้วยน้ำเสียงเคร่งเครียด“พิษที่นางได้รับนั้นร้ายแรงมาก แต่ว่ายังไม

Explore and read good novels for free
Free access to a vast number of good novels on GoodNovel app. Download the books you like and read anywhere & anytime.
Read books for free on the app
SCAN CODE TO READ ON APP
DMCA.com Protection Status