Share

ตอนที่ 1

เมื่อเห็นว่าพี่ชายไม่ใจอ่อนง่าย ๆ หยางจูก็ปล่อยให้น้ำตาที่คลออยู่ร่วงหล่นลงมาเป็นสาย พร้อมเสียงสะอื้นไห้จนตัวสั่นเทา เฉินไป่ชางตาลีตาเหลือกเช็ดน้ำตาให้ ก่อนจะโอบนางเข้ามาไว้ในอ้อมแขน ราวกับนางคือน้องสาวตัวน้อยเมื่อครั้งทั้งคู่ยังเป็นเด็กเล็ก ๆ

“ฮึก!! ข้าขอเพียงโอกาสเดียวเท่านั้น ฮืออออ” สะอื้นพลางแอบเหลือบตามองท่าทีลนลานของคนเป็นพี่

“ก็ได้ ๆ พี่จะไปปรึกษากับเสด็จอาว่าจะทำอย่างไรให้ทุกอย่างราบรื่นไม่มีข้อผิดพลาด เจ้าหยุดร้องแล้วรออยู่นี่” เขาทนเห็นน้ำตาของน้องน้อยสุดที่รักไม่ไหวจึงรีบตกปากรับคำในที่สุด

“จริงนะเพคะ” หยางจูลืมความเศร้าโศกเงยหน้ามองพี่ชายตาแป๋ว แต่เมื่อเห็นเขามองนางก็แสร้งทำเป็นบีบน้ำตาอีกรอบเพื่อความสมจริง

“อย่าร้อง ไม่ต้องร้อง ในเมื่อพี่พูดแล้วก็จะทำตามนั้น เจ้าหยุดร้องก่อนเถอะนะ” คนเป็นพี่รู้ทั้งรู้ว่าน้องสาวแกล้งบีบน้ำตา แต่ก็ยังอดใจอ่อนไม่ได้

นางพยักหน้าถี่รัว ยกปาดน้ำตาออกจากใบหน้าด้วยตนเอง เพื่อเป็นเครื่องยืนยันให้พี่ชายสบายใจ

เมื่อเห็นว่านางหยุดร้องแล้ว เขาก็ประคองไปนั่งที่เก้าอี้ “เอาละ เจ้ากลับตำหนักไปก่อน พี่จะไปหารือเรื่องนี้กับเสด็จอา ได้เรื่องอย่างไรแล้วพี่จะแจ้งให้เจ้าทราบ”

“ขอบพระทัยเสด็จพี่” องค์หญิงหยางจูยอบกายเคารพอย่างงดงาม

“อ้อ แล้วอย่าทำอะไรโดยพละการเด็ดขาด” เฉินไป่ชางไม่วายกำชับคนเป็นน้อง

“ข้าทราบแล้ว”

“ฮัดเช้ย!!!”

ขณะเดียวกัน ที่ค่ายทหารชายแดนเมืองเป่ยถง รองแม่ทัพจางซื่อหมิงที่กำลังปรึกษาหารือเรื่องการศึกกับแม่ทัพมู่หรงอยู่ก็จามไม่หยุด

“ท่านรองแม่ทัพไม่สบายหรือ” มู่หรงเซียวหนานเอ่ยถามสหายด้วยความเป็นห่วง

“สงสัยจะเป็นอย่างนั้น” จางซื่อหมิงตอบ

“ถ้าอย่างนั้นวันนี้ก็พอแค่นี้ก่อน ท่านกลับไปพักผ่อน เกิดเป็นอะไรขึ้นมาแล้วจะยุ่ง”

“ถ้าอย่างนั้นข้าขอตัวก่อน”

จางซื่อหมิงลุกขึ้นเดินกลับกระโจมของตน เขาเองก็ตอบไม่ได้เช่นกันว่าจู่ ๆ ทำไมถึงจามไม่หยุดเช่นนี้ และรู้สึกใจหวิว ๆ ชอบกล

เฉินไป่ชางตรงไปยังตำหนักของหลี่อวี้อ๋องทันทีหลังจากแยกกับองค์หญิงหยางจู เขาเกรงว่าหากช้า น้องสาวอาจจะสร้างเรื่องราวใหญ่โตขึ้นมาเสียก่อน ดังนั้นเสด็จอาผู้ซึ่งมีความคิดอ่านลุ่มลึกน่าจะช่วยสองพี่น้องในเรื่องนี้ได้เป็นอย่างดี

“ถวายบังคมเสด็จอา”

เขาลุกขึ้นยืนเมื่อเห็นว่าผู้เป็นอาเดินเข้ามาในห้อง ข้างกายยังประคองพระชายาเดินมาพร้อมกัน เขามองภาพคู่รักที่เหมาะสมกันราวกิ่งทองใบหยกตรงหน้าแล้วรู้สึกเสียดแทงในอกเล็ก ๆ พระชายามู่หรง หรือ

มู่หรงเยว่ชิงเป็นสตรีที่เขาเคยหมายปอง แต่นางมิได้มีใจให้เขา และเลือกแต่งให้เสด็จอาของเขาแทน ตัวเขาเองต้องใช้เวลาทำใจนานพอสมควร แต่เมื่อเห็นว่าทั้งคู่รักกันมากแค่ไหน เขาจึงค่อย ๆ ทำใจและสามารถมองคนทั้งคู่เคียงคู่กันได้ในที่สุด นอกจากนี้ยังมีอีกเหตุผลหนึ่งซึ่งเขาไม่สามารถให้นางเหมือนกับเสด็จอาได้ก็คือ ตำหนักอ๋องแห่งนี้นางคือพระชายาเยว่ชิงเท่านั้น ไม่มีตำแหน่งพระชายาเอกหรือพระชายารอง เพราะเสด็จอาของเขาได้ลั่นวาจาไว้ว่าจะแต่งภรรยาที่รักเพียงหนึ่งเดียว เฉินไป่ชางสะท้อนในอก เพราะตัวเขาเป็นว่าที่รัชทายาท การที่แต่งภรรยาเพียงหนึ่งนั้นเป็นไปไม่ได้เลย ดังนั้นจึงไม่ต้องเอ่ยถึงความรัก ที่ดูราวกับว่าจะอยู่ห่างไกลจากตัวเขามากเสียเหลือเกิน

“ไป่ชาง เจ้ามาหาข้าถึงนี่มีเรื่องอะไร” หลี่อวี้อ๋องถามคนเป็นหลาน

“ทูลเสด็จอา ข้ามาหาท่านด้วยเรื่องของน้องหยางจู”

“หยางจูรึ คราวนี้นางก่อเรื่องอะไรไว้อีกล่ะ” เมื่อได้ยินชื่อนี้

หลี่อวี้อ๋องก็พอจะคาดเดาได้

“นางยังไม่ได้ทำอันใดพ่ะย่ะค่ะ แต่สิ่งที่นางคิดจะทำช่างใหญ่โตนัก ข้าถึงต้องรีบมาขอความช่วยเหลือจากท่านก่อนที่นางจะได้สร้างเรื่องขึ้นมาจริง ๆ”

หลี่อวี้อ๋องเลิกคิ้วขึ้น ส่วนพระชายาเยว่ชิงที่อยู่ข้างกายก็ตั้งหน้าตั้งตารอฟังเรื่องที่องค์ชายกำลังจะเล่า เห็นทีจะมีเรื่องสนุกอีกแล้ว

เฉินไป่ชางเล่าเรื่องราวโดยสังเขปให้ทั้งเสด็จอาและพระชายาฟังด้วยความรวดเร็ว เมื่อทั้งสองรู้เรื่อง ก็กลายเป็นว่าหลี่อวี้อ๋องนั้นมีความกังวลลึก ๆ เช่นเดียวกันกับเขา ส่วนมู่หรงเยว่ชิงซึ่งลึกซึ้งละเอียดอ่อน ก็เข้าอกเข้าใจองค์หญิงหยางจูถึงขนาดออกปากชื่นชมถึงความเด็ดเดี่ยวและการมั่นคงในความรักของนางเสียยกใหญ่

“เจ้าชื่นชอบในความสนุกสนานและได้เที่ยวเล่นเปิดหูเปิดตาเช่นเดียวกับหลานของข้าต่างหาก ถึงได้กระตือรือร้นในเรื่องนี้นัก”

หลี่อวี้อ๋องพูดอย่างรู้ทันผู้เป็นพระชายา

“แหม ท่านก็พูดราวกับข้าไม่เข้าใจในเรื่องความรัก แม้ข้าจะชื่นชอบเรื่องสนุกและอดตื่นเต้นไปกับองค์หญิงหยางจูไม่ได้ แต่เหนือสิ่งอื่นใด ข้าเห็นด้วยในเรื่องที่องค์หญิงจะได้เลือกคู่ครองของนางเอง แถมยังได้ทำความรู้จักกับเขาก่อน ดังเช่นที่เราสองคนก็ได้โอกาสนั้นเช่นกัน” มู่หรงเยว่ชิงพูดแก้พระสวามี ตัวนางเองมีความทรงจำของชาติที่แล้วซึ่งเป็นยุคปัจจุบันก่อนที่นางจะตายแล้ววิญญาณย้อนมาเกิดในยุคจีนโบราณ นางจึงเข้าใจเรื่องสิทธิในการเลือกคู่ครองสตรีเป็นอย่างดี และยิ่งเห็นด้วยกับการที่ชายหญิงแต่งงานกันด้วยความรัก ไม่ใช่การคลุมถุงชนแบบที่เป็นอยู่ในยุคนี้ ดูอย่างคู่ของนางกับท่านอ๋องประไร ทั้งคู่แต่งงานกันด้วยความรัก ทำให้ทุกวันนี้จึงมีแต่ความสุขและเข้าอกเข้าใจกันเป็นอย่างดี

เมื่อพระชายารักหยิบยกเรื่องราวความรักของตัวเองมาเป็นตัวอย่าง ก็ดูจะทำให้ท่านอ๋องพออกพอใจ แขนข้างหนึ่งจึงยกโอบไหล่นางก่อนจะพยักหน้าเห็นด้วย

“นั่นสินะ”

“ถ้าเช่นนั้น ท่านก็ช่วยให้องค์หญิงได้เข้าไปอยู่ในกองทัพของพี่ชายข้าด้วยเถอะนะเพคะ”

มู่หรงเยว่ชิงนึกชอบพอองค์หญิงหยางจูอยู่ในใจ การที่พี่ชายของนางได้รับความสนใจจากสตรีผู้เพียบพร้อมถึงเพียงนี้ นางย่อมต้องอยากจะสนับสนุนเป็นธรรมดา และอีกอย่าง เรื่องนี้คงสนุกพิลึก

“ข้าก็อยากช่วย แต่มันมีอยู่หลายเรื่องเช่นกันที่ต้องคิด จะให้ตัดสินใจบุ่มบ่ามคงไม่ได้” หลี่อวี้อ๋องเอ่ยเอาใจพระชายาและทำท่าครุ่นคิด

“เสด็จอาช่วยหาทางออกให้น้องหยางจูด้วยเถอะพ่ะย่ะค่ะ”

องค์ชายชางเอ่ยด้วยความร้อนรน อย่างน้อยปัดเผือกร้อนไปให้เสด็จอายังดีกว่าต้องถือไว้คนเดียวทั้งหมด

“เจ้าไม่ต้องห่วง ข้าจะช่วยแน่ นอกจากนางจะเป็นหลานรักของข้า พระชายาของข้าเองก็รบเร้าถึงเพียงนี้”

คนตามใจเมียมาตั้งแต่ตอนที่ยังเป็นเพียงคนรู้จักมีหรือจะมาขัดขวางนางได้

เฉินไป่ชางพยายามมองเมินภาพบาดตาราวกับว่าโลกนี้มีเพียงสองเราตรงหน้าเสีย เสด็จอาผู้ขึ้นชื่อเรื่องความโหดเหี้ยม พออยู่ต่อหน้าพระชายากลับอ่อนโยนราวกับสิ่งที่ร่ำลือกันด้านนอกนั้นเป็นเรื่องเท็จไป

เสียหมด

“ถ้าเป็นเรื่องการปลอมตัว หม่อมฉันช่วยได้นะเพคะ” เยว่ชิงเสนอตัวอย่างนึกสนุก

“เห็นจะมีเรื่องความปลอดภัยนี่แหละ ที่ยังน่ากังวลอยู่”

หลี่อวี้อ๋องคิดหนักเพราะหยางจูเป็นถึงองค์หญิงคนสำคัญ

“พี่ชายของข้าฝีมือไม่ยิ่งหย่อนไปกว่าผู้ใด อีกประการหนึ่ง ท่านรองแม่ทัพจางซื่อหมิงที่อยู่ข้างกายเขาตลอดเวลาเองก็เช่นกัน เรื่องสำคัญคือจะทำให้องค์หญิงหยางจูได้อยู่ใกล้พี่เซียวหนานได้อย่างไร หากทำได้ นางก็จะได้รับการคุ้มครองดูแลอย่างดีตามมาเองนั่นแหละ”ณ ขณะเดียวกันนี้ ที่ชายแดนอันไกลโพ้น รองแม่ทัพจางซื่อหมิงที่เพิ่งจะหยุดจาม กลับมาจามไม่หยุดอีกรอบ

“ฮัดเช้ย!!!”

“สงสัยคงต้องไปให้หมอประจำกองทัพตรวจดูสักที” จางซื่อหมิงปรารภกับตัวเอง พลางลูบเนื้อลูบตัวที่รู้สึกว่าขนแขนลุกชันไปหมด

ณ ห้องรับรองตำหนักอ๋อง บุรุษทั้งสองพยักหน้าเห็นด้วยกับมู่หรงเยว่ชิง ทั้งที่ไม่คิดจะเห็นด้วยเท่าไหร่ เพราะนางกับองค์หญิงหยางจูนั้นมีกิตติศัพท์ในเรื่องความป่วนไม่แพ้กัน และทุกครั้งที่นางสร้างเรื่องสร้างราว ใครต่อใครต่างใจอ่อนทำโทษนางไม่ลง เลยได้แต่โอนอ่อนผ่อนตามและตามใจนางกันหมด

“ให้เป็นทหารรับใช้ประจำตัวดีหรือไม่” หลี่อวี้อ๋องเสนอ แม้นั่นจะดูเป็นอะไรที่ต่ำต้อยไปสักหน่อย แต่ความจริงทุกอย่างกลับตาลปัตรตั้งแต่หยางจูออกปากจะปลอมเป็นชายเข้าไปอยู่ในค่ายทหารแล้ว เพราะฉะนั้นข้อเสนอของเขาก็ไม่ได้ดูแปลกพิกลไปกว่ากันหรอก

“เช่นนั้นคงจะดีที่สุด แต่การเสนอตัวเป็นทหารรับใช้ดื้อ ๆ เผลอ ๆ พี่เซียวหนานต้องไม่รับเป็นแน่ เรื่องวิธีคงต้องคิดกันอีกที”

“ข้าเชื่อว่าหยางจูคงจะคิดได้” พูดอย่างพี่ชายที่รู้จักน้องสาวจอมวางแผนดี

“ข้าจะไปเขียนจดหมายฝากฝังหยางจูกับรองแม่ทัพจางให้”

“ขอบพระทัยเสด็จอา น้องหยางจูจะต้องดีใจมากแน่” เฉินไป่ชางรีบถวายความเคารพผู้มีศักดิ์เป็นอาทันที

“เอาเถอะ ข้าหวังว่าถ้าความแตกขึ้นมา เสด็จพี่คงจะเห็นแก่หน้าข้าบ้าง”

องค์ชายชางคิดในใจแต่ไม่ได้พูดออกไปว่าก็เพราะเสด็จอาเป็นคนโปรดของเสด็จพ่อนั่นแหละ เขาและน้องถึงได้แจ้นมาขอความช่วยเหลือแบบนี้

“แล้วองค์หญิงจะเสด็จไปเมื่อใดหรือเพคะองค์ชาย”

“ข้าคิดว่าคงจะเร็วที่สุดเท่าที่จะเร็วได้ ดูนางร้อนใจเหลือเกิน”

“หากช้า เสด็จพี่ก็อาจจะเร่งรัดงานอภิเษกกับองค์ชายต่างแคว้นด้วย” หลี่อวี้อ๋องคิดตามประสาคนที่อยู่ในตำแหน่งที่จะต้องบริหารจัดการทุกอย่าง

“พ่ะย่ะค่ะ น้องหยางจูเกรงว่าวันดีคืนดี เสด็จพ่อจะให้นางเข้าพิธีโดยไม่ให้นางได้เตรียมตัว และเสด็จพ่อก็น่าจะทำเช่นนั้น เพราะทรงทราบดีว่าน้องมีความดื้อดึงเพียงใด” องค์ชายชางออกความเห็น

ทั้งสามคนยิ้มเอ็นดูออกมาพร้อมกันเมื่อพูดมาถึงตรงนี้

“เฮ้อ ก็ใครกันล่ะที่ตามใจนางจนเสียคน”

หลี่อวี้อ๋องตำหนิแบบไม่จริงจังนักก่อนจะลุกขึ้น

“เจ้ารออยู่นี่ไป่ชาง ข้าจะไปเขียนจดหมายเดี๋ยวเดียว”

“พ่ะย่ะค่ะ” องค์ชายชางมองตามหลังเสด็จอาที่หายเข้าไปอีกห้อง ก่อนจะถอนหายใจออกมาด้วยความโล่งอก

“หากองค์หญิงพร้อมให้หม่อมฉันช่วยเตรียมการเรื่องปลอมตัว ก็ให้คนมาบอกได้เลยนะเพคะ”

“ข้าว่าท่านไปพร้อมข้าเลยดีกว่า นางน่าจะต้องการคุยกับผู้หญิงด้วยกันมากที่สุด”

“เพคะ” เยว่ชิงรับคำด้วยความยินดี

รออยู่ไม่นาน หลี่อวี้อ๋องก็ออกมาจากห้องหนังสือพร้อมจดหมายที่เขาถือมาด้วยในมือ เนื้อความไม่มีอะไรมากนัก แต่ก็หนักแน่นตามแบบฉบับ และย้ำเรื่องความปลอดภัยขององค์หญิงหยางจูเป็นอันดับแรก พร้อมคำสัญญาว่าจะตบรางวัลมหาศาลแก่รองแม่ทัพจางซื่อหมิงหลังจากองค์หญิงกลับวังหลวงอย่างปลอดภัย

องค์ชายชางกล่าวขอบคุณผู้เป็นอาอีกรอบ ก่อนจะกลับตำหนักพร้อมกับมู่หรงเยว่ชิงที่เตรียมจะช่วยองค์หญิงหยางจูซึ่งมีความเป็นไปได้สูงมากว่าจะมาเป็นพี่สะใภ้ของนางในอนาคต

“พี่กลับมาแล้ว”

องค์ชายชางไปหาองค์หญิงหยางจูที่ตำหนัก พอนางเห็นว่าใครมาก็รีบวิ่งตรงดิ่งเข้าไปหา ดวงหน้าอ่อนหวานเงยขึ้นมองพี่ชายด้วยความหวัง เมื่อเห็นว่าใครยืนอยู่ข้างเขา นางก็พอจะเดาเรื่องราวได้ จึงยิ้มออกมาอย่างยินดี แล้วพุ่งเข้ามากอดพี่ชายเต็มแรง

“พอได้อย่างใจก็ยิ้มออกเชียวนะ” เขาลูบหัวนาง จะโกรธก็โกรธ

ไม่ลง

“เรามาเริ่มกันเลยเถอะ”

รอข้าอีกนิดเท่านั้นนะ มู่หรงเซียวหนาน ข้ากำลังจะไปหาท่านแล้ว

Related chapter

Latest chapter

DMCA.com Protection Status