Share

ตอนที่ 1

Author: Priyada
last update Last Updated: 2024-10-15 04:00:12

เมื่อเห็นว่าพี่ชายไม่ใจอ่อนง่าย ๆ หยางจูก็ปล่อยให้น้ำตาที่คลออยู่ร่วงหล่นลงมาเป็นสาย พร้อมเสียงสะอื้นไห้จนตัวสั่นเทา เฉินไป่ชางตาลีตาเหลือกเช็ดน้ำตาให้ ก่อนจะโอบนางเข้ามาไว้ในอ้อมแขน ราวกับนางคือน้องสาวตัวน้อยเมื่อครั้งทั้งคู่ยังเป็นเด็กเล็ก ๆ

“ฮึก!! ข้าขอเพียงโอกาสเดียวเท่านั้น ฮืออออ” สะอื้นพลางแอบเหลือบตามองท่าทีลนลานของคนเป็นพี่

“ก็ได้ ๆ พี่จะไปปรึกษากับเสด็จอาว่าจะทำอย่างไรให้ทุกอย่างราบรื่นไม่มีข้อผิดพลาด เจ้าหยุดร้องแล้วรออยู่นี่” เขาทนเห็นน้ำตาของน้องน้อยสุดที่รักไม่ไหวจึงรีบตกปากรับคำในที่สุด

“จริงนะเพคะ” หยางจูลืมความเศร้าโศกเงยหน้ามองพี่ชายตาแป๋ว แต่เมื่อเห็นเขามองนางก็แสร้งทำเป็นบีบน้ำตาอีกรอบเพื่อความสมจริง

“อย่าร้อง ไม่ต้องร้อง ในเมื่อพี่พูดแล้วก็จะทำตามนั้น เจ้าหยุดร้องก่อนเถอะนะ” คนเป็นพี่รู้ทั้งรู้ว่าน้องสาวแกล้งบีบน้ำตา แต่ก็ยังอดใจอ่อนไม่ได้

นางพยักหน้าถี่รัว ยกปาดน้ำตาออกจากใบหน้าด้วยตนเอง เพื่อเป็นเครื่องยืนยันให้พี่ชายสบายใจ

เมื่อเห็นว่านางหยุดร้องแล้ว เขาก็ประคองไปนั่งที่เก้าอี้ “เอาละ เจ้ากลับตำหนักไปก่อน พี่จะไปหารือเรื่องนี้กับเสด็จอา ได้เรื่องอย่างไรแล้วพี่จะแจ้งให้เจ้าทราบ”

“ขอบพระทัยเสด็จพี่” องค์หญิงหยางจูยอบกายเคารพอย่างงดงาม

“อ้อ แล้วอย่าทำอะไรโดยพละการเด็ดขาด” เฉินไป่ชางไม่วายกำชับคนเป็นน้อง

“ข้าทราบแล้ว”

“ฮัดเช้ย!!!”

ขณะเดียวกัน ที่ค่ายทหารชายแดนเมืองเป่ยถง รองแม่ทัพจางซื่อหมิงที่กำลังปรึกษาหารือเรื่องการศึกกับแม่ทัพมู่หรงอยู่ก็จามไม่หยุด

“ท่านรองแม่ทัพไม่สบายหรือ” มู่หรงเซียวหนานเอ่ยถามสหายด้วยความเป็นห่วง

“สงสัยจะเป็นอย่างนั้น” จางซื่อหมิงตอบ

“ถ้าอย่างนั้นวันนี้ก็พอแค่นี้ก่อน ท่านกลับไปพักผ่อน เกิดเป็นอะไรขึ้นมาแล้วจะยุ่ง”

“ถ้าอย่างนั้นข้าขอตัวก่อน”

จางซื่อหมิงลุกขึ้นเดินกลับกระโจมของตน เขาเองก็ตอบไม่ได้เช่นกันว่าจู่ ๆ ทำไมถึงจามไม่หยุดเช่นนี้ และรู้สึกใจหวิว ๆ ชอบกล

เฉินไป่ชางตรงไปยังตำหนักของหลี่อวี้อ๋องทันทีหลังจากแยกกับองค์หญิงหยางจู เขาเกรงว่าหากช้า น้องสาวอาจจะสร้างเรื่องราวใหญ่โตขึ้นมาเสียก่อน ดังนั้นเสด็จอาผู้ซึ่งมีความคิดอ่านลุ่มลึกน่าจะช่วยสองพี่น้องในเรื่องนี้ได้เป็นอย่างดี

“ถวายบังคมเสด็จอา”

เขาลุกขึ้นยืนเมื่อเห็นว่าผู้เป็นอาเดินเข้ามาในห้อง ข้างกายยังประคองพระชายาเดินมาพร้อมกัน เขามองภาพคู่รักที่เหมาะสมกันราวกิ่งทองใบหยกตรงหน้าแล้วรู้สึกเสียดแทงในอกเล็ก ๆ พระชายามู่หรง หรือ

มู่หรงเยว่ชิงเป็นสตรีที่เขาเคยหมายปอง แต่นางมิได้มีใจให้เขา และเลือกแต่งให้เสด็จอาของเขาแทน ตัวเขาเองต้องใช้เวลาทำใจนานพอสมควร แต่เมื่อเห็นว่าทั้งคู่รักกันมากแค่ไหน เขาจึงค่อย ๆ ทำใจและสามารถมองคนทั้งคู่เคียงคู่กันได้ในที่สุด นอกจากนี้ยังมีอีกเหตุผลหนึ่งซึ่งเขาไม่สามารถให้นางเหมือนกับเสด็จอาได้ก็คือ ตำหนักอ๋องแห่งนี้นางคือพระชายาเยว่ชิงเท่านั้น ไม่มีตำแหน่งพระชายาเอกหรือพระชายารอง เพราะเสด็จอาของเขาได้ลั่นวาจาไว้ว่าจะแต่งภรรยาที่รักเพียงหนึ่งเดียว เฉินไป่ชางสะท้อนในอก เพราะตัวเขาเป็นว่าที่รัชทายาท การที่แต่งภรรยาเพียงหนึ่งนั้นเป็นไปไม่ได้เลย ดังนั้นจึงไม่ต้องเอ่ยถึงความรัก ที่ดูราวกับว่าจะอยู่ห่างไกลจากตัวเขามากเสียเหลือเกิน

“ไป่ชาง เจ้ามาหาข้าถึงนี่มีเรื่องอะไร” หลี่อวี้อ๋องถามคนเป็นหลาน

“ทูลเสด็จอา ข้ามาหาท่านด้วยเรื่องของน้องหยางจู”

“หยางจูรึ คราวนี้นางก่อเรื่องอะไรไว้อีกล่ะ” เมื่อได้ยินชื่อนี้

หลี่อวี้อ๋องก็พอจะคาดเดาได้

“นางยังไม่ได้ทำอันใดพ่ะย่ะค่ะ แต่สิ่งที่นางคิดจะทำช่างใหญ่โตนัก ข้าถึงต้องรีบมาขอความช่วยเหลือจากท่านก่อนที่นางจะได้สร้างเรื่องขึ้นมาจริง ๆ”

หลี่อวี้อ๋องเลิกคิ้วขึ้น ส่วนพระชายาเยว่ชิงที่อยู่ข้างกายก็ตั้งหน้าตั้งตารอฟังเรื่องที่องค์ชายกำลังจะเล่า เห็นทีจะมีเรื่องสนุกอีกแล้ว

เฉินไป่ชางเล่าเรื่องราวโดยสังเขปให้ทั้งเสด็จอาและพระชายาฟังด้วยความรวดเร็ว เมื่อทั้งสองรู้เรื่อง ก็กลายเป็นว่าหลี่อวี้อ๋องนั้นมีความกังวลลึก ๆ เช่นเดียวกันกับเขา ส่วนมู่หรงเยว่ชิงซึ่งลึกซึ้งละเอียดอ่อน ก็เข้าอกเข้าใจองค์หญิงหยางจูถึงขนาดออกปากชื่นชมถึงความเด็ดเดี่ยวและการมั่นคงในความรักของนางเสียยกใหญ่

“เจ้าชื่นชอบในความสนุกสนานและได้เที่ยวเล่นเปิดหูเปิดตาเช่นเดียวกับหลานของข้าต่างหาก ถึงได้กระตือรือร้นในเรื่องนี้นัก”

หลี่อวี้อ๋องพูดอย่างรู้ทันผู้เป็นพระชายา

“แหม ท่านก็พูดราวกับข้าไม่เข้าใจในเรื่องความรัก แม้ข้าจะชื่นชอบเรื่องสนุกและอดตื่นเต้นไปกับองค์หญิงหยางจูไม่ได้ แต่เหนือสิ่งอื่นใด ข้าเห็นด้วยในเรื่องที่องค์หญิงจะได้เลือกคู่ครองของนางเอง แถมยังได้ทำความรู้จักกับเขาก่อน ดังเช่นที่เราสองคนก็ได้โอกาสนั้นเช่นกัน” มู่หรงเยว่ชิงพูดแก้พระสวามี ตัวนางเองมีความทรงจำของชาติที่แล้วซึ่งเป็นยุคปัจจุบันก่อนที่นางจะตายแล้ววิญญาณย้อนมาเกิดในยุคจีนโบราณ นางจึงเข้าใจเรื่องสิทธิในการเลือกคู่ครองสตรีเป็นอย่างดี และยิ่งเห็นด้วยกับการที่ชายหญิงแต่งงานกันด้วยความรัก ไม่ใช่การคลุมถุงชนแบบที่เป็นอยู่ในยุคนี้ ดูอย่างคู่ของนางกับท่านอ๋องประไร ทั้งคู่แต่งงานกันด้วยความรัก ทำให้ทุกวันนี้จึงมีแต่ความสุขและเข้าอกเข้าใจกันเป็นอย่างดี

เมื่อพระชายารักหยิบยกเรื่องราวความรักของตัวเองมาเป็นตัวอย่าง ก็ดูจะทำให้ท่านอ๋องพออกพอใจ แขนข้างหนึ่งจึงยกโอบไหล่นางก่อนจะพยักหน้าเห็นด้วย

“นั่นสินะ”

“ถ้าเช่นนั้น ท่านก็ช่วยให้องค์หญิงได้เข้าไปอยู่ในกองทัพของพี่ชายข้าด้วยเถอะนะเพคะ”

มู่หรงเยว่ชิงนึกชอบพอองค์หญิงหยางจูอยู่ในใจ การที่พี่ชายของนางได้รับความสนใจจากสตรีผู้เพียบพร้อมถึงเพียงนี้ นางย่อมต้องอยากจะสนับสนุนเป็นธรรมดา และอีกอย่าง เรื่องนี้คงสนุกพิลึก

“ข้าก็อยากช่วย แต่มันมีอยู่หลายเรื่องเช่นกันที่ต้องคิด จะให้ตัดสินใจบุ่มบ่ามคงไม่ได้” หลี่อวี้อ๋องเอ่ยเอาใจพระชายาและทำท่าครุ่นคิด

“เสด็จอาช่วยหาทางออกให้น้องหยางจูด้วยเถอะพ่ะย่ะค่ะ”

องค์ชายชางเอ่ยด้วยความร้อนรน อย่างน้อยปัดเผือกร้อนไปให้เสด็จอายังดีกว่าต้องถือไว้คนเดียวทั้งหมด

“เจ้าไม่ต้องห่วง ข้าจะช่วยแน่ นอกจากนางจะเป็นหลานรักของข้า พระชายาของข้าเองก็รบเร้าถึงเพียงนี้”

คนตามใจเมียมาตั้งแต่ตอนที่ยังเป็นเพียงคนรู้จักมีหรือจะมาขัดขวางนางได้

เฉินไป่ชางพยายามมองเมินภาพบาดตาราวกับว่าโลกนี้มีเพียงสองเราตรงหน้าเสีย เสด็จอาผู้ขึ้นชื่อเรื่องความโหดเหี้ยม พออยู่ต่อหน้าพระชายากลับอ่อนโยนราวกับสิ่งที่ร่ำลือกันด้านนอกนั้นเป็นเรื่องเท็จไป

เสียหมด

“ถ้าเป็นเรื่องการปลอมตัว หม่อมฉันช่วยได้นะเพคะ” เยว่ชิงเสนอตัวอย่างนึกสนุก

“เห็นจะมีเรื่องความปลอดภัยนี่แหละ ที่ยังน่ากังวลอยู่”

หลี่อวี้อ๋องคิดหนักเพราะหยางจูเป็นถึงองค์หญิงคนสำคัญ

“พี่ชายของข้าฝีมือไม่ยิ่งหย่อนไปกว่าผู้ใด อีกประการหนึ่ง ท่านรองแม่ทัพจางซื่อหมิงที่อยู่ข้างกายเขาตลอดเวลาเองก็เช่นกัน เรื่องสำคัญคือจะทำให้องค์หญิงหยางจูได้อยู่ใกล้พี่เซียวหนานได้อย่างไร หากทำได้ นางก็จะได้รับการคุ้มครองดูแลอย่างดีตามมาเองนั่นแหละ”ณ ขณะเดียวกันนี้ ที่ชายแดนอันไกลโพ้น รองแม่ทัพจางซื่อหมิงที่เพิ่งจะหยุดจาม กลับมาจามไม่หยุดอีกรอบ

“ฮัดเช้ย!!!”

“สงสัยคงต้องไปให้หมอประจำกองทัพตรวจดูสักที” จางซื่อหมิงปรารภกับตัวเอง พลางลูบเนื้อลูบตัวที่รู้สึกว่าขนแขนลุกชันไปหมด

ณ ห้องรับรองตำหนักอ๋อง บุรุษทั้งสองพยักหน้าเห็นด้วยกับมู่หรงเยว่ชิง ทั้งที่ไม่คิดจะเห็นด้วยเท่าไหร่ เพราะนางกับองค์หญิงหยางจูนั้นมีกิตติศัพท์ในเรื่องความป่วนไม่แพ้กัน และทุกครั้งที่นางสร้างเรื่องสร้างราว ใครต่อใครต่างใจอ่อนทำโทษนางไม่ลง เลยได้แต่โอนอ่อนผ่อนตามและตามใจนางกันหมด

“ให้เป็นทหารรับใช้ประจำตัวดีหรือไม่” หลี่อวี้อ๋องเสนอ แม้นั่นจะดูเป็นอะไรที่ต่ำต้อยไปสักหน่อย แต่ความจริงทุกอย่างกลับตาลปัตรตั้งแต่หยางจูออกปากจะปลอมเป็นชายเข้าไปอยู่ในค่ายทหารแล้ว เพราะฉะนั้นข้อเสนอของเขาก็ไม่ได้ดูแปลกพิกลไปกว่ากันหรอก

“เช่นนั้นคงจะดีที่สุด แต่การเสนอตัวเป็นทหารรับใช้ดื้อ ๆ เผลอ ๆ พี่เซียวหนานต้องไม่รับเป็นแน่ เรื่องวิธีคงต้องคิดกันอีกที”

“ข้าเชื่อว่าหยางจูคงจะคิดได้” พูดอย่างพี่ชายที่รู้จักน้องสาวจอมวางแผนดี

“ข้าจะไปเขียนจดหมายฝากฝังหยางจูกับรองแม่ทัพจางให้”

“ขอบพระทัยเสด็จอา น้องหยางจูจะต้องดีใจมากแน่” เฉินไป่ชางรีบถวายความเคารพผู้มีศักดิ์เป็นอาทันที

“เอาเถอะ ข้าหวังว่าถ้าความแตกขึ้นมา เสด็จพี่คงจะเห็นแก่หน้าข้าบ้าง”

องค์ชายชางคิดในใจแต่ไม่ได้พูดออกไปว่าก็เพราะเสด็จอาเป็นคนโปรดของเสด็จพ่อนั่นแหละ เขาและน้องถึงได้แจ้นมาขอความช่วยเหลือแบบนี้

“แล้วองค์หญิงจะเสด็จไปเมื่อใดหรือเพคะองค์ชาย”

“ข้าคิดว่าคงจะเร็วที่สุดเท่าที่จะเร็วได้ ดูนางร้อนใจเหลือเกิน”

“หากช้า เสด็จพี่ก็อาจจะเร่งรัดงานอภิเษกกับองค์ชายต่างแคว้นด้วย” หลี่อวี้อ๋องคิดตามประสาคนที่อยู่ในตำแหน่งที่จะต้องบริหารจัดการทุกอย่าง

“พ่ะย่ะค่ะ น้องหยางจูเกรงว่าวันดีคืนดี เสด็จพ่อจะให้นางเข้าพิธีโดยไม่ให้นางได้เตรียมตัว และเสด็จพ่อก็น่าจะทำเช่นนั้น เพราะทรงทราบดีว่าน้องมีความดื้อดึงเพียงใด” องค์ชายชางออกความเห็น

ทั้งสามคนยิ้มเอ็นดูออกมาพร้อมกันเมื่อพูดมาถึงตรงนี้

“เฮ้อ ก็ใครกันล่ะที่ตามใจนางจนเสียคน”

หลี่อวี้อ๋องตำหนิแบบไม่จริงจังนักก่อนจะลุกขึ้น

“เจ้ารออยู่นี่ไป่ชาง ข้าจะไปเขียนจดหมายเดี๋ยวเดียว”

“พ่ะย่ะค่ะ” องค์ชายชางมองตามหลังเสด็จอาที่หายเข้าไปอีกห้อง ก่อนจะถอนหายใจออกมาด้วยความโล่งอก

“หากองค์หญิงพร้อมให้หม่อมฉันช่วยเตรียมการเรื่องปลอมตัว ก็ให้คนมาบอกได้เลยนะเพคะ”

“ข้าว่าท่านไปพร้อมข้าเลยดีกว่า นางน่าจะต้องการคุยกับผู้หญิงด้วยกันมากที่สุด”

“เพคะ” เยว่ชิงรับคำด้วยความยินดี

รออยู่ไม่นาน หลี่อวี้อ๋องก็ออกมาจากห้องหนังสือพร้อมจดหมายที่เขาถือมาด้วยในมือ เนื้อความไม่มีอะไรมากนัก แต่ก็หนักแน่นตามแบบฉบับ และย้ำเรื่องความปลอดภัยขององค์หญิงหยางจูเป็นอันดับแรก พร้อมคำสัญญาว่าจะตบรางวัลมหาศาลแก่รองแม่ทัพจางซื่อหมิงหลังจากองค์หญิงกลับวังหลวงอย่างปลอดภัย

องค์ชายชางกล่าวขอบคุณผู้เป็นอาอีกรอบ ก่อนจะกลับตำหนักพร้อมกับมู่หรงเยว่ชิงที่เตรียมจะช่วยองค์หญิงหยางจูซึ่งมีความเป็นไปได้สูงมากว่าจะมาเป็นพี่สะใภ้ของนางในอนาคต

“พี่กลับมาแล้ว”

องค์ชายชางไปหาองค์หญิงหยางจูที่ตำหนัก พอนางเห็นว่าใครมาก็รีบวิ่งตรงดิ่งเข้าไปหา ดวงหน้าอ่อนหวานเงยขึ้นมองพี่ชายด้วยความหวัง เมื่อเห็นว่าใครยืนอยู่ข้างเขา นางก็พอจะเดาเรื่องราวได้ จึงยิ้มออกมาอย่างยินดี แล้วพุ่งเข้ามากอดพี่ชายเต็มแรง

“พอได้อย่างใจก็ยิ้มออกเชียวนะ” เขาลูบหัวนาง จะโกรธก็โกรธ

ไม่ลง

“เรามาเริ่มกันเลยเถอะ”

รอข้าอีกนิดเท่านั้นนะ มู่หรงเซียวหนาน ข้ากำลังจะไปหาท่านแล้ว

Related chapters

  • อุบายรักแม่ทัพหน้านิ่ง   ตอนที่ 2

    การเดินทางขององค์หญิงผู้ดื้อรั้นเป็นไปอย่างเงียบเชียบและถูกเก็บให้เป็นความลับมากที่สุดเท่าที่จะทำได้ โดยจดหมายได้ถูกคนของหลี่อวี้อ๋องส่งไปล่วงหน้าก่อนแล้ว เพื่อให้รองแม่ทัพจางซื่อหมิงเตรียมการในสิ่งที่จำเป็นเพื่อต้อนรับการมาขององค์หญิงผู้สูงศักดิ์แต่อุตริดันคิดแผลง ๆ อยากมาตกระกำลำบากในค่ายทหาร ทั้งนี้หลี่อวี้อ๋องได้เตรียมการเป็นอย่างดี โดยให้หลานรักออกเดินทางพร้อมกับทหารอารักขาที่ปลอมตัวเป็นชาวบ้านเดินทางล่วงหน้าไปประจำการตามจุดต่าง ๆ เพื่อคอยดูแลความปลอดภัยตลอดเส้นทาง ข้าวของในหีบไม้เรียบ ๆ ไม่สะดุดตาสองหีบ มีเพียงเสื้อผ้าธรรมดาและตำราไม่กี่เล่ม กับของสำหรับการปลอมตัว และของใช้จำเป็นสำหรับผู้หญิงซึ่งจะต้องเก็บอย่างมิดชิดหยางจูนั่งกระเด้งกระดอนอยู่ในเกวียนเทียมม้าคันเล็กสภาพเก่าคร่ำคร่าเพื่อไม่ให้เป็นจุดสังเกต เมื่อไปถึงที่เมืองชายแดนนางจะต้องลงจากรถม้าคันนี้ที่จะขนสัมภาระเข้าไปในค่ายตามเส้นทางลับ แล้วเปลี่ยนไปใช้รถม้าคันอื่นแทนเป็นระยะทางสั้น ๆ แม้จะฟังดูยากลำบากสำหรับองค์หญิงเช่นนาง แต่ในหัวใจดวงน้อยที่มีเพียงความปรารถนาจะได้ยลโฉมหน้าของชายในดวงใจ นางก็มีเพียงความตื่นเต้นเพียงเท่

    Last Updated : 2024-10-15
  • อุบายรักแม่ทัพหน้านิ่ง   ตอนที่ 3

    ยังไม่ทันจะไปถึง ชายหนุ่มร่างสูงโปร่ง ท่าทางราวกับบัณฑิตสะโอดสะองก็ถูกผลักจนหน้าคะมำ ก่อนจะโดนทุบเข้าที่หลังเต็มแรง“นี่พวกเจ้า มีอะไรก็ค่อย ๆ พูดค่อยจากันดี ๆ สิ ไม่เห็นต้องใช้กำลังเลยนี่”“แม่นาง นี่เป็นเรื่องของบุรุษ เจ้าอย่าแส่จะดีกว่า”“เขาทำอะไรผิด หากเป็นเรื่องเงิน ข้าจะจ่ายให้ ต้องการเท่าไหร่ก็ว่ามา” นางไม่สนใจเสียงกระโชกโฮกฮากและสายตาไม่เป็นมิตรของคนพวกนั้น แล้วหันไปหาลู่อิงที่รีบหยิบถุงเงินออกมา“ข้าไม่ต้องการเงิน พวกที่ชอบใช้เงินทองฟาดหัวคนอื่น ควรจะได้รับบทเรียนเสียบ้าง”“หากเจ้าไม่ปล่อยเขาไป ข้าจะแจ้งทางการ”เสียงหัวเราะเยาะหยันดังลั่นเมื่อนางกล่าวประโยคนั้นจบ“ที่นี่อยู่ไกลจากศาลาว่าการตั้งเท่าไหร่ กว่าเจ้าจะไปแจ้ง ข้าก็ทุบเจ้านี่จนน่วมไปถึงไหนต่อไหนแล้ว เพราะฉะนั้นข้าข้อเตือนให้แม่นางถอยไปห่าง ๆ เสียดีกว่า”หยางจูไม่รู้สึกพรั่นพรึงต่อคำขู่นั้น หากการเจรจาไม่ได้ผล นางก็รู้ดีว่าองครักษ์เซี่ยที่มาด้วยกันจะสามารถรับมือกับคนพวกนี้ซึ่งดูไม่ต่างจากโจรกระจอกได้“เจ้าไม่ต้องการสิ่งนี้จริงหรือ” นางรับถุงเงินจากลู่อิงแล้วเขย่าไปมาตรงหน้า“เจ้านี่พูดไม่รู้ความ ออกไป ก่อนที่ข้าจะหมด

    Last Updated : 2024-10-15
  • อุบายรักแม่ทัพหน้านิ่ง   ตอนที่ 4

    รองแม่ทัพจางซื่อหมิงด้อม ๆ มอง ๆ อยู่ตรงประตูหลังค่ายด้วยความกลัดกลุ้ม เขาได้รับจดหมายจากหลี่อวี้อ๋องเรียบร้อยแล้วและรู้สึกกังวลใจเป็นอย่างยิ่ง แม้โดยเนื้อแท้เขาจะเป็นบุรุษที่ใจเย็น สุขุมรอบคอบ แต่เมื่อได้อ่านเนื้อความในจดหมายถึงสิ่งที่องค์หญิงหยางจูต้องการจะทำ ความสงบสุขุมของเขาก็ปลาสนาการไปสิ้น มีอย่างที่ไหน ใช้ชีวิตสุขสบายอยู่ในวังอันหรูหราไม่ชอบ แต่อยากจะมานอนกลางดินกินกลางทรายที่ค่ายทหารเยี่ยงนี้ อานุภาพของความรักมันยิ่งใหญ่ขนาดนั้นเชียวหรือ เขาได้แต่สงสัยในใจ แต่ในเมื่อได้รับมอบหมายมาแล้ว เขาก็ต้องรับใช้เชื้อพระวงศ์อย่างสุดความสามารถ อย่างน้อยก็ช่วยองค์หญิงปกปิดความลับให้ได้นานที่สุด ประการต่อมาคือหาโอกาสให้นางได้โปรยเสน่ห์มัดใจท่านแม่ทัพหน้านิ่ง ซึ่งตัวเขาเองก็ไม่แน่ใจว่าแม่ทัพมู่หรงเซียวหนานมีหัวจิตหัวใจอย่างใครเขาหรือไม่ เสียงรถม้าควบกุบกับมาตามถนน ก่อนจะจอดห่างออกไปเล็กน้อยเพื่อไม่ให้เป็นที่สังเกตเห็น จางซื่อหมิงจึงรีบเดินออกไป เห็นบุรุษสองคนยืนเคียงข้างกัน คนหนึ่งมีรูปร่างสูงใหญ่ตามแบบฉบับคนใช้ตามแบบฉบับคนที่ใช้กำลัง ส่วนอีกคน แม้จะอยู่ในชุดแบบผู้ชายทั่วไป แต่สรีระกลับดู

    Last Updated : 2024-10-30
  • อุบายรักแม่ทัพหน้านิ่ง   ตอนที่ 5

    ดวงตาของจางซื่อหมิงมีประกายแบบคนที่เห็นหนทางรำไร “ถ้าเช่นนั้นท่านไปอยู่โรงเลี้ยงม้าดีหรือไม่ ท่านแม่ทัพมีม้าคู่ใจอยู่ตัวหนึ่ง เมื่อมีเวลาว่างก็จะแวะเวียนไปดูมันเสมอ” “แต่...ข้าดูแลม้าไม่เป็น ได้แต่ขี่อย่างเดียว” “นั่นสินะ” เขาพึมพำ จะให้องค์หญิงมาคอยแปรงขนม้า เก็บมูลของมันและป้อนหญ้าได้อย่างไร “อย่าเพิ่งถอดใจไป ข้ารู้แล้ว!” นางร้องด้วยความยินดี ท่าทางแจ่มใสขึ้นมา “ฝ่ายเครื่องแต่งกายอย่างไรเล่า ถึงอย่างไรทุกคนก็ต้องแต่งตัวไม่ใช่หรือ ขนาดในตำหนักของข้า ยังต้องใช้คนตั้งมากมาย กองทัพที่มีทหารหลายพันคนเช่นนี้ ย่อมต้องการแรงงานเป็นแน่” “พวกเขาไม่ใคร่สนใจการแต่งตัวนัก ส่วนมากแล้วจะสวมใส่เสื้อผ้าซ้ำ ๆ เพราะไม่ค่อยมีเวลาและใช้ชีวิตอย่างเร่งรีบ บวกกับการทำงานหนัก สิ่งที่ขาดไม่ได้คือชุดเกราะเท่านั้นเอง” หยางจูถอนหายใจเฮือกใหญ่ “เห็นจะมีเพียงคนรับใช้ส่วนตัวของเขาเท่านั้น ที่จะได้อยู่ชิดใกล้เกือบจะตลอดเวลา” “แต่กว่าจะไปถึงตำแหน่งนั้นได้ ก็ต้องอยู่ในสายตาของท่านแม่ทัพเสียก่อน เมื่อท่านแสดงให้เห็นความสามารถ เขาต้องย่อมเรียกท่านเข้าไปรับใช้” “ใช่” นางผงกศีรษะ ก่อน

    Last Updated : 2024-10-31
  • อุบายรักแม่ทัพหน้านิ่ง   ตอนที่ 6

    หยางจูสะดุ้งตื่นเพราะเสียงตีเกราะดังระรัว นางรีบร้อนแต่งตัวด้วยชุดไร้สีสันที่ตระเตรียมมา สวมทับด้วยเครื่องแบบของกองทัพ และพบว่าแม้จะไม่สวยงามสะดวกสบายอะไรนัก แต่ก็ใช้เวลาน้อยกว่าตอนที่นางเป็นองค์หญิงถึงสิบเท่า จากนั้นนางก็ต้องขมวดปอยผมของตัวเองให้ดีขณะที่เสียงเรียกหน้าประตูยังดังไม่หยุด “หยางหยาง หากไปช้าเราจะถูกลงโทษเอานะ” คนที่อยู่หน้ากระโจมตะโกนเข้ามา หยางจูจึงรีบตอบกลับ เกรงว่าหากขืนชักช้าเขาจะเปิดประตูเข้ามาเรียกถึงด้านในแล้วความจะแตกเอาได้ “เข้าใจแล้ว ๆ” นางเปิดประตูแล้วก้าวตามชายหนุ่มรูปร่างผอมสูงที่ก้าวเดินด้วยความรวดเร็วไปในความมืด ฟ้ายังไม่สว่างดีนัก แต่รอบค่ายก็มีเสียงพูดคุย เสียงของผู้คนที่ทำงานไม่หยุดหย่อน เสียงโลหะกระทบกัน เสียงกวาดถู และกลิ่นที่ผสมปนเปกันไปในอากาศจนยากจะบอกได้ว่าเป็นกลิ่นของสิ่งใดกันแน่ ตะเกียงและคบเพลิงถูกจุดให้แสงสว่างเป็นระยะ นางเห็นเรือนนอนเรียงกันเป็นแถบ ซึ่งเป็นของทหารที่พอจะมียศศักดิ์เท่านั้น ทหารชั้นเลวหรือทหารรับใช้จะได้นอนในกระโจมรวม ซึ่งนางเองถ้าไม่อาศัยความช่วยเหลือของรองแม่ทัพจางซื่อหมิงก็คงจะไปลงเลยในสถานที่แบบนั

    Last Updated : 2024-11-01
  • อุบายรักแม่ทัพหน้านิ่ง   ตอนที่ 7

    เสียงเรียกของหัวหน้าโรงครัวดังราวกับฟ้าผ่า หยางจูผุดลุกขึ้นแล้วเดินตามแผ่นหลังกว้างไปท่ามกลางสายตาสอดรู้ของทุกคนในบริเวณนั้น “ท่านเรียกข้า มีสิ่งใดจะให้ข้ารับใช้หรือขอรับ” “มีคำสั่งมาว่าให้เจ้านำอาหารไปให้ท่านแม่ทัพ” “จริงหรือ” นางร้องออกมาด้วยความดีใจ แต่พอเห็นสายตาตำหนิติเตียนก็รีบหุบยิ้ม “ขอรับ ข้าจะทำหน้าที่อย่างดีที่สุด” “เอาเกลือนี่โรยใส่น้ำแกงสักหน่อย แล้วก็ยกไปได้” “ขอรับ” นางได้แต่รับคำซ้ำ ๆ พูดอะไรไม่ออกเพราะความดีใจเอ่อล้นอยู่ในอก “ข้าไม่รู้หรอกนะว่าเจ้าเป็นใครมาจากไหน ถึงได้ตำแหน่งสำคัญถึงเพียงนี้ตั้งแต่วันแรก แต่ทำหน้าที่ให้ดีก็แล้วกัน” “ข้าน้อยจะไม่ทำให้ครัวของเราต้องขายหน้าเป็นอันขาด” “ดี” เมื่อสั่งงานเสร็จแล้ว เขาก็เดินนำนางไปยังจุดรับสำรับอาหารที่มีอาหารอยู่เพียงไม่กี่อย่าง หยางจูมองไก่ตุ๋นน้ำแกง เนื้อในชามเป็นแค่ชิ้นเล็ก ๆ ไม่ใช่ไก่ทั้งตัว ข้าวต้มเละ ๆ บดรวมกับหมูสับ ผักที่ผัดโดยไม่ใส่สิ่งใดเลย และของหวานที่นางมองไม่ออกว่าเป็นสิ่งใดกันแน่เพราะมันเหมือนกับการเอาแป้งมากวนแล้วจับปั้นเป็นก้อนกลม ๆ เมื่อมองจากภาระหน้าที่

    Last Updated : 2024-11-03
  • อุบายรักแม่ทัพหน้านิ่ง   ตอนที่ 8

    ความอึดอัดท่วมท้นขึ้นมาในจิตใจเมื่อได้ยินคำตำหนิว่าอาหารรสชาติแปลกประหลาด หยางจูรู้ดีว่าต้องเป็นเพราะเกลือที่นางโรยลงไปตามคำสั่งเป็นแน่ แต่คงจะใส่มากไปหน่อย หรือไม่อย่างนั้นก็อาจจะมีขั้นตอนใดขั้นตอนหนึ่งผิดพลาดจนรสชาติอาหารออกมาผิดแผกไปจากเดิม “คนครัวคนเดิมหรือเปล่า” “คนเดิมขอรับ” มู่หรงเซียวหนานมุ่นหัวคิ้ว ลองตักน้ำแกงพร้อมกับเนื้อไก่กินอีกครั้ง “น้ำแกงนี่ใส่อะไรลงไปบ้าง” ตายล่ะ นางไม่ได้เป็นคนทำทุกขั้นตอนเสียเมื่อไหร่ แค่ถอนขนไก่ยังไม่ได้เลย แถมตอนปรุงน้ำแกงด้วยสมุนไพร นางก็กำลังแล่หมูอยู่ด้วยซ้ำ แล้วอย่างนี้จะตอบคำถามของเขาได้อย่างไร แต่พอเห็นสายตาที่จ้องมองมาไม่วางตา นางก็จำต้องหาคำตอบมาให้ แม้ว่ามันอาจจะไม่ถูกต้องก็ตาม แต่คนเป็นแม่ทัพ เคยแต่จับหอกจับดาบก็ไม่น่าจะรู้เรื่องอาหารมากนัก “ก็ใส่เครื่องยาจีนทั่วไปขอรับ” “ลองไล่มาสิ ข้าจะดูว่ามีสิ่งใดผิดแปลกไป” “เอ่อ หากท่านกังวลเรื่องการวางยาพิษ ทางหน่วยได้มีการทดลองชิมและใช้เครื่องเงินทดสอบแล้วนะขอรับ” “ไม่ใช่เรื่องการวางยาอะไรหรอก ข้าแค่รู้สึกแปลกใจกับรสชาติอาหารน่ะ จึงอยากจะรู้ให้แน่ชัด”

    Last Updated : 2024-11-05
  • อุบายรักแม่ทัพหน้านิ่ง   ตอนที่ 9

    หยางจูนิ่งอึ้ง นึกเสียดายที่ไม่ได้ทำหน้าทำตาให้มอมแมมขมุกขมัวมากกว่านี้ เมื่อเขาเห็นว่านางอึกอัก ก็ยิ่งคิดว่านางอับอายเพราะถูกล้อว่าเหมือนเด็ก จึงพูดเพื่อให้นางรู้สึกดีขึ้น“อย่าคิดมากไปเลย เมื่อทำงานใช้แรงไปเรื่อย ๆ ตัวของเจ้าก็จะหนาเสียจนลืมเลยว่าครั้งหนึ่งเจ้าเคยเป็นเด็กมาก่อน”“ขอรับ” นางปรับสีหน้าให้ดีขึ้น ก่อนจะเป็นฝ่ายถามแทน “แล้วท่านแม่ทัพล่ะขอรับ คิดจะแต่งงานเมื่อใดกัน”“ข้ายังไม่ได้คิดเรื่องนั้น ในหัวมีแต่จะกำราบศัตรูให้สิ้นซากอย่างไรก็เท่านั้น”“แต่หากท่านทำสำเร็จ ฮ่องเต้จะต้องพระราชทานรางวัลให้ ดีไม่ดี จะให้ท่านแต่งกับหญิงงามมียศถาบรรดาศักดิ์เสียด้วยซ้ำไป”“ข้ารู้” มู่หรงเซียวหนานพอจะคาดการณ์เรื่องนี้ได้ โดยเฉพาะเมื่อบิดาของเขาใกล้ชิดกับฮ่องเต้ ถึงขนาดที่น้องสาวของเขาก็อภิเษกไปกับหลี่อวี้อ๋อง แล้วบุตรชายคนโตจะน้อยหน้ากว่าได้อย่างไร “หากเป็นเช่นนั้น ก็แล้วแต่พระประสงค์ของพระองค์เถิด”เขาพูดพลางถอนหายใจอย่างคนที่เข้าใจเรื่องราวและเตรียมใจไว้แล้ว อันตัวเขานั้น แ

    Last Updated : 2024-11-07

Latest chapter

  • อุบายรักแม่ทัพหน้านิ่ง   ตอนที่ 36

    ข่าวที่ได้รับทำเอาเซี่ยหานปิงผู้มีหน้าที่รับผิดชอบชีวิตของ องค์หญิงหยางจูนั่งไม่ติดที่ เมื่อได้รู้ว่านางถูกจับตัวไปโดยฝีมือของไอ้พวกบกฏเล่นไม่ซื่อ ช่างเป็นเรื่องไร้ศักดิ์ศรีอย่างไม่น่าให้อภัย เมื่อพวกมันใช้วิธีการสกปรกเพื่อจะต่อรองกับแม่ทัพมู่หรงเซียวหนานเช่นนี้ แม้จะเข้าใจถึงข้อจำกัดของท่านแม่ทัพ ในการช่วยเหลือผู้ที่ตนเข้าใจว่าเป็นเพียงเด็กรับใช้ และบุรุษเช่นนั้นคงไม่เอากองทัพไปแลกกับคนเพียงหนึ่งคน แต่อย่างน้อย ก็ควรทำสิ่งใดบ้าง ในเมื่อใคร ๆ ต่างก็ดูออกว่าท่านแม่ทัพมีจิตผูกพันรักใคร่นางไม่มากก็น้อย แต่สิ่งที่เขาเห็นมีเพียงความนิ่งเฉย รองแม่ทัพหรือแม้แต่ทหารรับใช้ที่เป็นสหายขององค์หญิงยังเป็นเดือดเป็นร้อนมากกว่า หากเซี่ยหานปิงไม่สามารถพึ่งพาชายที่มีทหารให้เลือกใช้นับหมื่นในมือ เขาก็หวังว่าตนเองจะพอมีทางช่วยเหลือองค์หญิงกลับมาอย่างปลอดภัย เพียงแต่ตอนนี้เขายังมองไม่เห็นทางนัก แต่ก็รู้ดีว่าจะรอช้าไม่ได้ เขายังไม่รู้ว่าจะบอกลู่อิงอย่างไร ไม่ให้นางสิ้นสติหรือร้องไห้คร่ำครวญ ไม่แน่ว่าหากเขาหาทางบอกหรือเลือกคำพูดไม่ดีพอ นางอาจจะทั้งสิ้นสติและฟื้นขึ้นมาร้องไห้คร่ำครวญ ต่

  • อุบายรักแม่ทัพหน้านิ่ง   ตอนที่ 35

    การดำเนินการเรื่องเสบียงคืบหน้าไปมาก แต่ก็ยังไม่เร็วพอที่จะแน่ใจได้ว่าในระหว่างการสู้รบที่กำลังจะมาถึงและต้องใช้เสบียงมากกว่าปกติจะมีเพียงพอหรือไม่ ในขณะเดียวกัน ทัพของข้าศึกก็แข็งแกร่งพอที่จะเริ่มโจมตีกำแพงอยู่ทุกเมื่อเชื่อวัน แม้จะถูกสังหารไปมาก แต่พวกมันก็ไม่เคยยอมแพ้ ส่งผลให้กองทัพที่เจอทั้งปัญหาเรื่องความเหนื่อยล้า ม้าล้มตาย กำลังใจถดถอย เสบียงก็ร่อยหรอลง อาวุธที่มีอยู่ก็ดูเหมือนจะมีไม่พอระส่ำระสายขึ้นมา ข่าวลือหนาหูว่าท่านแม่ทัพเป็นพวกตัดแขนเสื้อ ทำให้หลายฝ่ายเกิดความไม่พอใจ มู่หรงเซียวหนานรู้ดีถึงข้อครหาที่เกิดขึ้น จึงสร้างระยะห่างเอาไว้เพราะความเป็นชายที่มันค้ำคอ และเพื่อรักษาเกียรติยศของวงศ์ตระกูล จางซื่อหมิงมักจะตำหนิใครก็ตามที่กล้าเอาเรื่องนี้มาพูด แต่ยิ่งห้าม ก็เหมือนเรื่องจะลุกลามไปเร็วขึ้น พอดีกับที่ฟาหยาง เจ้าคนพาลออกมาจากคุก แม้สติไม่สมประกอบนัก แต่ก็ยังจำได้ว่าใครเป็นคนทำให้ตัวเองต้องเข้าไปอยู่ในนั้น จึงได้วางแผนร้ายอยู่ในใจเพื่อที่จะได้แก้แค้นให้สาสม “ท่านแม่ทัพ คืนนี้จะให้ข้าอยู่ช่วยงานหรือไม่ขอรับ” หลายวันมานี้ หยางจูรู้สึกได้ว่าทั้งคู่มีระยะห

  • อุบายรักแม่ทัพหน้านิ่ง   ตอนที่ 34

    “ข้ากลับมาใหม่ดีกว่า” นางถอยหลัง “จะไปไหน ข้าต้องการให้เจ้าช่วยอยู่พอดี” “ชะ...ช่วย ช่วยอะไรหรือขอรับ” หากให้ช่วยถอดท่อนล่างด้วย นางไม่ตายเลยหรือนี่ ขอให้นางไปตั้งหลักก่อนมิได้หรือไร “ช่วยหาเสื้อสะอาด ๆ มาให้ข้าสวมที เย็นนี้จะไม่ออกไปไหนแล้ว นี่คิดว่าข้าจะให้ทำสิ่งใด ถึงได้ทำหน้าปะหลับปะเหลือกเพียงนั้น” หยางจูสั่นหน้าระรัว รีบค้นเอาเสื้อออกมาตามคำสั่ง แต่เขากลับกางแขนออก แล้วทำท่าให้นางช่วยสวมให้ หยางจูมือไม้สั่นรีบจัดการสวมเสื้อให้เขาโดยเร็ว “ขอบใจเจ้ามาก” เขากล่าวเมื่อนางถอยห่างออกมา “ขอรับ ท่านหิวแล้วหรือยังขอรับ” “อีกสักพักหนึ่ง หรือเจ้าหิวแล้ว” “ข้าจะรอให้ท่านกินอิ่มก่อนแล้วค่อยไป” “ข้าจะให้เจ้าเอามากินด้วยกัน เพราะเจ้าต้องช่วยงานข้าอีกมาก อาจจะแล้วเสร็จตอนดึกโน่น” เขากล่าวเนิบ ๆ ดูไม่ได้มีจุดประสงค์ใดแอบแฝง แต่หยางจูเองก็รู้สึกได้ว่ามู่หรงเซียวหนานชอบเรียกหานางและใช้เวลาอยู่ด้วยนานขึ้น “แต่มันอาจจะไม่เหมาะสมหรือเปล่าขอรับ” “แล้วใครจะเป็นผู้บอกว่าเหมาะสมหรือไม่ นอกจากข้าคนนี้ หรือหากมีใครมารังแกเจ้า แค่เพรา

  • อุบายรักแม่ทัพหน้านิ่ง   ตอนที่ 33

    จางซื่อหมิงมาดักรอหยางจูระหว่างเดินกลับจากกระโจมของท่านแม่ทัพ เนื่องจากลู่อิงได้รอเอาอาหารและของใช้ส่วนตัวมาให้ พร้อมทั้งรับจดหมายที่องค์หญิงต้องเขียนตอบองค์ชายชาง การจะลอบเจอกันยากเย็นขึ้นทุกที นอกจากจะต้องหลบเลี่ยงสายตาของคนทั้งค่าย ซึ่งแม้จะอยากรู้อยากเห็นแต่ไม่กล้าที่จะจุ้นจ้านวุ่นวายกับเขามากนัก แต่ช่วงหลังมานี้ เรื่องที่ยากลำบากกว่านั้นคือ มู่หรงเซียวหนานเอาแต่จับจ้องเมื่อใดก็ตามที่เขาเข้าใกล้องค์หญิงหยางจู ซ้ำยังกีดกันทุกครั้งที่มีโอกาสด้วย อย่างวันก่อนตอนที่เขาเสนอจะเดินหมากด้วยเพื่อฆ่าเวลาก่อนการออกไปคุ้มกันเสบียงที่ส่งเข้ามา มู่หรงเซียวหนานก็เอาแต่รบเร้าให้เขารีบไป ไหนจะตอนที่เขาเอาขนมจากข้างนอกมาฝาก แม่ทัพหนุ่มก็แย่งจากมือขององค์หญิงไปกินหน้าตาเฉย ไม่ใช่ว่าหลงรักคนข้างกายของตนเองแล้วไม่ยอมรับหรอกหรือ “ท่านรองแม่ทัพ” เสียงเรียกดังมาจากหลังต้นไม้ที่อยู่หลังห้องเก่า ๆ ผุพังอีกที “องค์หญิง แม่นางลู่อิงมารออยู่ที่เดิม เมื่อพบนางแล้ว ให้กลับมาโดยเร็วนะพ่ะย่ะค่ะ” เขาบอกแม้จะมองไม่เห็นตัวของนาง “เข้าใจแล้ว ท่านอย่างเพิ่งไปไหน ข้ามีเรื่องจะคุยด้วย”

  • อุบายรักแม่ทัพหน้านิ่ง   ตอนที่ 32

    “เหตุใดชิงเอ๋อร์จึงเอ่ยถึงเรื่องรัก ๆ ใคร่ ๆ เช่นนี้ขึ้นมาได้ ข้าไม่ได้ถามถึงเรื่องนี้เสียหน่อย” เขาถอนหายใจ พับจดหมายกลับใส่ซองเอาไว้เหมือนเดิม ก่อนจะนั่งลงตกตะกอนความคิดอยู่ครู่หนึ่ง ปล่อยใจทำในสิ่งที่อยากทำอย่างนั้นหรือ เขาพึมพำกับตัวเอง ฉับพลันก็นึกถึงหน้าของหยางหยางขึ้นมา “แล้วเราจะไปนึกถึงเจ้านั่นทำไมกัน” ชายหนุ่มถูหัวคิ้วอย่างหวั่นวิตกแบบที่ไม่เคยเป็นมาก่อน พักหลังมานี้ ตั้งแต่ให้หยางหยางมาเป็นทหารรับใช้ ห้วงความคิดของมู่หรงเซียวหนานก็มักจะวนเวียนอยู่กับเจ้าตัวเล็กหน้าหวาน คอยห่วงว่าจะโดนคนอื่นกลั่นแกล้งหรือไม่ อาหารการกินเป็นอย่างไร หรือแม้แต่คืนที่เจ้าตัวหอบผ้าหอบผ่อนเดินลับ ๆ ล่อ ๆ แล้วพูดปดกับเขา เขากลับไม่มีกะจิตกะใจจะซักถามเอาความในเรื่องนั้น แต่กลับไปจดจำความนุ่มนวลในกิริยาท่าทางและกลิ่นกายหอมกรุ่นเสียได้ มันเกิดสิ่งใดขึ้นกับตัวเขากันแน่ หรือเขาจะเขียนไปบอกชิงเอ๋อร์อีกรอบโดยละเอียด แต่ถ้าหากเขียนไปว่าว้าวุ่นใจเพราะชายคนหนึ่ง มันจะต้องเป็นเรื่องที่หนักหนาสาหัสแม้แต่กับคนเช่นนางแน่ หรือไม่ใช่ มู่หรงเซียวหนานถอนหายใจเฮือกใหญ่ สอดจดหมายเ

  • อุบายรักแม่ทัพหน้านิ่ง   ตอนที่ 31

    มู่หรงซียวหนานพับจดหมายสอดใส่ในซอง พร้อมทั้งประทับตราส่งหาน้องสาวด้วยความร้อนรน ขณะยืนมองคนส่งสารเดินออกไปนั้น เขาก็กระวนกระวายจดจ่อที่จะได้รับคำตอบจากคนที่เขาให้ความไว้วางใจอย่างสูง เรื่องที่เขียนฝากไปนั้น ก็จำเป็นจะต้องใช้ความละเอียดอ่อนในการตอบ มันจึงต้องเป็นเยว่ชิงเพียงคนเดียวเท่านั้นที่จะให้คำตอบแก่เขาได้ จดหมายมาถึงมู่หรงเยว่ชิงในหลายวันต่อมา นางเองก็ฉงนใจที่พี่ชายระบุเอาไว้ว่าให้ส่งจดหมายนี้ถึงมือนางเท่านั้น เพราะโดยปกติแล้ว เขาจะเขียนถึงบิดามารดาและรวมเอาน้องทั้งสามเข้าไปด้วยในคราวเดียวกัน นางเปิดจดหมายออกอ่านด้วยหัวใจลุ้นระทึก เห็นลายมือที่เป็นระเบียบน้อยกว่าปกติของพี่ชายก็รับรู้ได้ทันทีว่าเป็นเรื่องสำคัญ นางจึงต้องเดินเข้ามาในห้องชั้นในแล้วอ่านคนเดียว ชิงเอ๋อร์น้องพี่ พี่มีเรื่องร้อนใจจะถามความคิดเห็นของเจ้า เมื่อไม่นานมานี้พี่เกิดอาการแปลกประหลาด แต่ไม่อาจบอกได้ว่ามันคือสิ่งใด แต่อาการนั้นรบกวนจิตใจพี่จนอยู่ไม่สุข เพราะมันผิดต่อฟ้าดินและความเป็นชายอกสามศอก รวมถึงตำแหน่งแม่ทัพที่พี่ดำรงอยู่ พี่แค่อยากจะถามว่าหากเป็นเจ้าแล้ว เจ้าจะกล้าฝืนทุกอย่างเพื่

  • อุบายรักแม่ทัพหน้านิ่ง   ตอนที่ 30

    หรือจะพูดคุยกันเช่นนี้เป็นประจำ “ฮึ!” “ท่านแม่ทัพ ข้าเห็นท่านไม่สบอารมณ์ตั้งแต่เมื่อครู่ ขอถามได้หรือไม่ว่าเกิดอันใดขึ้น หรือกองทัพของเราติดปัญหาที่ตรงไหน” จางซื่อหมิงเดินตามสหายออกมาด้วยความกังวล “เจ้ากับหยางหยางคุ้นเคยกันดีหรือ” “หา!” “คำถามนี้เข้าใจยากตรงไหน” มันไม่ได้เข้าใจยาก แต่ไม่คิดว่าจะถูกถามต่างหาก จางซื่อหมิงเลียริมฝีปาก หรือท่านแม่ทัพจะระแคะระคายสถานะขององค์หญิงเข้า ทุกคนเดือดร้อนกันหมดแน่ “ไม่ถึงขนาดสนิทสนมหรอกท่าน เพียงแต่หยางหยางไหวพริบดี ทำงานเก่ง แล้วยังเป็นเกลอกับเจ้าลี่ถัง ทหารร่วมเป็นร่วมตายของข้า ข้าจึงเอ็นดูหยางหยางเป็นพิเศษ” คิ้วเข้มเลิกขึ้นคล้ายจะไม่เชื่อในคำพูดนั้นเท่าใดนัก “เพียงแต่เอ็นดูเท่านั้นหรือ” “หรือท่านไม่คิดว่าเขาน่าเอ็นดู” ถามกลับพลางทำสีหน้าลึกลับ พานให้คนถามรู้สึกราวกับถูกล่วงรู้ความลับ แต่...เขามีความลับอะไรที่ไหนกัน “ก็ใช่ แต่บางครั้งก็เปิ่นเป๋อเกินไป” “นั่นแหละที่ทำให้หยางหยางน่าเอ็นดูมิใช่หรือ” มู่หรงเซียวหนานไม่ตอบ ความขุ่นเคืองที่เพิ่งทุเลาลงโหมกระพือขึ้นมา

  • อุบายรักแม่ทัพหน้านิ่ง   ตอนที่ 29

    เขาเผลอทำเสียงดังไปหน่อย สายตาทุกคู่จึงหันมาหาด้วยความกังขา “ข้าหมายความว่าคนหมดสติล้มพับลงไป เพียงแค่นอนพักเท่านั้นเองหรือ ร่างกายช่างน่ามหัศจรรย์โดยแท้” ยิ่งพูดก็ยิ่งทำให้คนฟังสังเกตเห็นถึงความแปลกประหลาดของท่านแม่ทัพที่เคยสุขุมนุ่มลึก มาบัดนี้กลับร้อนรุ่มเสียจนปิดเอาไว้ไม่มิด เพียงแค่เด็กรับใช้ข้างกายเกิดเจ็บป่วย เช่นเดียวกับทุกคนที่อยู่ที่นี่ มีทหารมากมายร้องโอยโอยอยู่รายรอบ สายตาของมู่หรงเซียวหนานกับมุ่งตรงไปยังคนผู้เดียว เป็นเหตุให้เกิดความคิดมากมายหลายประการ “หยาหยาง” เขาก้มหน้าเข้าไปใกล้ เพ่งมองใบหน้าแดงจัดเพราะพิษไข้และเห่อร้อน ก่อนจะเหลือบมองจางซื่อหมิงที่ยังนั่งติดเตียง โดยไม่รู้เลยว่ากำลังโดนสายตาพิฆาตเล่นงานอยู่ ในใจของจางซื่อหมิงทั้งกังวลทั้งหวาดกลัว นับตั้งแต่องค์หญิง หยางจูมาที่นี่ เขายอมรับว่าไม่สามารถนอนหลับอย่างไร้กังวลได้สักคืน นางก็ถือเป็นความรับผิดชอบอันใหญ่หลวงของเขา ใคร ๆ ต่างก็รู้ว่าฮ่องเต้รักใคร่องค์หญิงหยางจูเพียงใด นอกจากนี้เมื่อได้มารับใช้ใกล้ชิด เขาก็อดจะรู้สึกชื่นชมและผูกพันกับนางแบบข้ารับใช้ที่ซื่อสัตย์ไม่ได้ ยิ่งเป

  • อุบายรักแม่ทัพหน้านิ่ง   ตอนที่ 28

    เมื่อมาถึงกระโจมหยางจูรีบเปิดประตูเข้าไป โยนเสื้อผ้าไว้ในหีบ พร้อมกับล้มตัวลงนอนด้วยความสดชื่นหลังจากที่ไม่ได้อาบน้ำอย่างดีมาหลายวันแล้วโดยไม่รู้เลยว่ามีชายสองคนเห็นนางอยู่ข้างนอก เตรียมจะคาบข่าวไปบอกพี่ใหญ่ที่ติดคุกอยู่ “หยางหยาง” นางสะดุ้งลุกพรวดขึ้นนั่ง จำได้ดีว่านั่นคือเสียงของมู่หรงเซียวหนาน “เขามาที่นี่ทำไม” นางพึมพำ ลังเลใจว่าจะเปิดออกไปเลยหรือแสร้งทำเป็นหลับจนไม่ได้ยินเสียงเรียก “หยางหยาง ข้ามีธุระกับเจ้า” มู่หรงเซียวหนานยืนรออยู่หน้ากระโจม อันที่จริงเขาจะเปิดเข้าไปเลยก็ได้ แต่เขาไม่เห็นความจำเป็นที่ต้องทำอย่างนั้น และการถือวิสาสะแม้จะมีตำแหน่งใหญ่โตนั้นไม่ใช่เรื่องดีนัก หรือเขาจะรู้ว่านางคือสตรี! หยางจูคิดอย่างตื่นตระหนก ไม่ได้การละ นางต้องไปแก้ต่างให้ตัวเอง “ท่านแม่ทัพหรือขอรับ” หยางจูทำเป็นตะโกนถามออกไป “ใช่” เสียงทุ้มห้าวตอบรับ มือเล็กกระชับเสื้อที่สวมใส่อยู่ ก่อนจะเปิดประตูออกไปทั้งที่ยังแสร้งหาว ราวกับว่านางนอนหลับอยู่ในห้องมาโดยตลอด “ข้าได้ยินว่ามีการกลั่นแกล้งกันเกิดขึ้นในหมู่นายทหารชั้นประทวน จึงกังวลว่าอาจจะเป็น

DMCA.com Protection Status