Share

อุบายรักแม่ทัพหน้านิ่ง ตอนที่ 3

Author: Priyada
last update Last Updated: 2024-10-15 04:01:30

ยังไม่ทันจะไปถึง ชายหนุ่มร่างสูงโปร่ง ท่าทางราวกับบัณฑิตสะโอดสะองก็ถูกผลักจนหน้าคะมำ ก่อนจะโดนทุบเข้าที่หลังเต็มแรง

“นี่พวกเจ้า มีอะไรก็ค่อย ๆ พูดค่อยจากันดี ๆ สิ ไม่เห็นต้องใช้กำลังเลยนี่”

“แม่นาง นี่เป็นเรื่องของบุรุษ เจ้าอย่าแส่จะดีกว่า”

“เขาทำอะไรผิด หากเป็นเรื่องเงิน ข้าจะจ่ายให้ ต้องการเท่าไหร่ก็ว่ามา” นางไม่สนใจเสียงกระโชกโฮกฮากและสายตาไม่เป็นมิตรของคนพวกนั้น แล้วหันไปหาลู่อิงที่รีบหยิบถุงเงินออกมา

“ข้าไม่ต้องการเงิน พวกที่ชอบใช้เงินทองฟาดหัวคนอื่น ควรจะได้รับบทเรียนเสียบ้าง”

“หากเจ้าไม่ปล่อยเขาไป ข้าจะแจ้งทางการ”

เสียงหัวเราะเยาะหยันดังลั่นเมื่อนางกล่าวประโยคนั้นจบ

“ที่นี่อยู่ไกลจากศาลาว่าการตั้งเท่าไหร่ กว่าเจ้าจะไปแจ้ง ข้าก็ทุบเจ้านี่จนน่วมไปถึงไหนต่อไหนแล้ว เพราะฉะนั้นข้าข้อเตือนให้แม่นางถอยไปห่าง ๆ เสียดีกว่า”

หยางจูไม่รู้สึกพรั่นพรึงต่อคำขู่นั้น หากการเจรจาไม่ได้ผล นางก็รู้ดีว่าองครักษ์เซี่ยที่มาด้วยกันจะสามารถรับมือกับคนพวกนี้ซึ่งดูไม่ต่างจากโจรกระจอกได้

“เจ้าไม่ต้องการสิ่งนี้จริงหรือ” นางรับถุงเงินจากลู่อิงแล้วเขย่าไปมาตรงหน้า

“เจ้านี่พูดไม่รู้ความ ออกไป ก่อนที่ข้าจะหมดความอดทน แล้วจะมาหาว่าข้าใจร้ายกับสตรีไม่ได้นะ” พูดแล้วก็ปราดเข้ามาหาอย่างมุ่งร้าย

เซี่ยหานปิงที่จับตามองทุกฝีก้าวขยับเข้ามาขวางเอาไว้ด้วยความรวดเร็วผิดจากคนธรรมดา

“อย่ายุ่งกับนายหญิงของข้า ท่านไม่อยากจะมีเรื่องกับข้าหรอก” เขาเตือนเสียงเย็น

“คิดว่าข้าจะกลัวเจ้าเรอะ บอกไว้ก่อนนะว่าพวกเรามันหมาหมู่เสียด้วย” มันว่าแล้วพวกลูกสมุนก็หัวเราะรับอย่างเหิมเกริม

ระหว่างที่ทั้งสองฝ่ายฮึ่มฮั่มใส่กัน หยางจูก็อาศัยความเร็วตรงเข้าไปดึงมือบัณฑิตหนุ่มแล้วพาวิ่งหนีออกมาจากวงล้อมทันที

“มาเร็ว”

“หา”

“ตามข้ามาเร็วเข้า”

นางฉุดกระชากเขาไปตามทาง ก่อนจะหันไปเรียกลู่อิง แต่นางรู้ใจนายหญิงเป็นอย่างดีอยู่แล้ว จึงวิ่งตามมาติด ๆ

“เฮ้ย จะหนีไปไหน”

“คิดว่าจะหนีพ้นเรอะ”

“ไปตามจับพวกมันมาเดี๋ยวนี้”

กลุ่มชายฉกรรจ์ทำท่าจะวิ่งตาม แต่ถูกเซี่ยหานปิงเข้าขัดขวาง แม้จะใช้เพียงมือเปล่า แต่ก็สามารถต่อสู้ได้อย่างไม่ลำบากยากเย็นอะไรนัก

ขณะเดียวกัน หยางจูก็รีบพาทุกคนมาที่รถม้าที่อยู่ใกล้ที่สุด

“เจ้าขับรถม้าเป็นหรือไม่” นางถามชายหนุ่มที่ถูกนางลากมา

เขาส่ายหน้า

นางถอนหายใจ ก่อนจะปีนขึ้นไปบนแท่นที่นั่ง แล้วดึงบังเหียนของม้าด้วยความทะมัดทะแมง

“คุณหนูเจ้าคะ นั่นไม่ใช่รถม้าของเรานะเจ้าคะ” ลู่อิงละล่ำละลัก

“ขึ้นมาเถอะน่า” นางเร่ง แต่แล้วก็เกิดสำนึกผิดชอบชั่วดีขึ้นมา “เอาเงินวางไว้บนพื้นด้วยก็แล้วกัน เดี๋ยวเจ้าของเขาก็ออกมาเห็นเองนั่นแหละ”

ลู่อิงทำตามอย่างว่าง่าย ขณะที่บัณฑิตหนุ่มยังลังเลที่จะขึ้นรถม้า

“เอ้า อยากให้พวกมันตามมาฆ่าเจ้าหรือ ขึ้นมาได้แล้ว” นางตะโกนเร่ง

เมื่อไม่มีทางเลือก เขาก็จำต้องยอมยัดตัวเองเข้าไปพร้อมกับลู่อิง องค์หญิงผู้เรียนรู้ทุกอย่างเพราะอยากจะทัดเทียมกับบุรุษหวดแส้เข้ากับสีข้างของม้าหนุ่ม แล้วบังคับให้มุ่งตรงไปยังกลุ่มอันธพาล แล้วตะโกนเรียกองครักษ์ของตนไปด้วย

“พี่เซี่ยรีบขึ้นมาเร็วเข้า”

“อย่าให้พวกมันหนีไปได้เด็ดขาด”

เสียงตะโกนโหวกเหวกโวยวายผสมปนเปไปกับเสียงเกือกเท้าม้าไม่ได้ทำให้นางหวั่นเกรงแต่อย่างใด นางชะลอความเร็วลงเล็กน้อยให้องครักษ์หนุ่มกระโดดขึ้นมาได้

“เร่งความเร็วเต็มที่เลยขอรับ”

เมื่อเขาขึ้นมาได้ นางก็บังคับให้ม้าวิ่งห้อเต็มฝีเท้าไปบนถนน เจ้าพวกนั้นพยายามวิ่งตามมาเป็นขบวนแต่ก็ไร้ผล เมื่อเห็นว่าพวกมันหมดปัญญา ได้แต่ยืนมองอยู่ไกล ๆ นางก็หัวเราะออกมาเสียงดังลั่น

“ฮ่า ๆ ๆ ๆ”

“คุณหนูทำแบบนี้ไม่ดีนะขอรับ มันอันตราย” องครักษ์เอ่ยเตือน

“แต่เราก็รอดมาได้ไม่ใช่หรือ” นางตอบอย่างไม่เห็นเป็นสำคัญ “ส่วนสัมภาระของเรา ก็ค่อยส่งคนกลับไปเอาแล้วกัน” ถึงอย่างไรนางก็ไม่อาจละทิ้งนิสัยเอาแต่ใจไม่ได้

“เปลี่ยนให้ข้าขับเถอะขอรับ คุณหนูกลับไปนั่งข้างในให้สบายดีกว่าขอรับ”

“ก็ได้” นางรับคำเพราะอยากจะเข้าไปพูดคุยกับชายที่นางเพิ่งจะช่วยมาด้วย

พอรถม้าจอดสนิท นางจึงกระโดดลง แล้วก็กระโดดกลับเข้าไปด้านในด้วยความรื่นเริง

“คุณหนู ไม่เจ็บตรงไหนใช่ไหมเจ้าคะ”

ลู่อิงดึงมือของนางที่ใช้จับบังเหียนไปลูบแล้วสำรวจผู้เป็นนายด้วยความร้อนใจระคนเป็นห่วง

“ข้าสบายดี พี่ลู่อิงอย่าห่วงเลย ว่าแต่ท่านจะให้เราไปส่งที่ไหน หากไม่เป็นการเสียมารยาท ขอถามหน่อยได้หรือไม่ว่ามันเกิดอะไรขึ้น” หยางจูเอ่ยรัวเป็นชุด

“ข้าแค่ผ่านมาทางนี้ แต่กลับโดนเรียกเก็บค่าผ่านทาง แต่ข้าเห็นว่าไม่ถูกต้อง จึงไม่ยอมจ่ายให้ในตอนแรก พวกมันจึงโมโห เมื่อข้าเห็นว่ายอมเสียดีกว่าเจ็บตัว พวกมันก็ไม่ยอมรับ แล้วเข้ามาซ้อมอย่างที่เจ้าเห็น”

“คงเพราะมันอยากจะลงไม้ลงมือแต่แรกอยู่แล้ว”

“เห็นจะเป็นเช่นนั้น”

“แล้วท่านมาจากเมืองใดกัน”

นางกวาดตามองเขาอย่างสำรวจ ชายหนุ่มแต่งกายอย่างบัณฑิต กอปรกับท่าทางตื่น ๆ ไม่คุ้นชินกับทุกสิ่งทุกอย่างรอบกายทำให้นางสงสัยว่าเขาคงจะเป็นลูกผู้ดีมีตระกูลที่ไม่ค่อยได้ออกมาเผชิญโลก ส่วนชายหนุ่มนั้นทำท่าครุ่นคิดอยู่ครู่หนึ่งก่อนที่จะเอ่ยชื่อเมืองที่เป็นจุดหมายปลายทางออกไปแทน

“ข้าจะเดินทางไปสอบราชการที่อีกเมืองอู่เหอน่ะ”

“ถ้าเช่นนั้นท่านก็เป็นบัณฑิตอย่างที่ข้าคิดเอาไว้จริง ๆ”

เขาพยักหน้าแข็งขัน สีหน้ามีความโล่งใจขึ้น แม้ในอกจะกังวลว่านางจะไม่เชื่อในคำโกหก แต่เมื่อนางไม่ซักไซ้อะไรต่อ เขาก็พอจะผ่อนคลายขึ้นมาได้บ้าง

“พวกข้าต้องผ่านไปทางเมืองนั้นพอดี ถ้าอย่างนั้นท่านก็ร่วมเดินทางไปด้วยกัน ท่านว่าดีหรือไม่”

ในเมื่อคณะของนางจะต้องผ่านเมืองที่ชายหนุ่มต้องการจะไปอยู่แล้ว นางจึงเสนออย่างใจกว้างที่จะแวะไปส่งเขาด้วย ดูท่าทางอ่อนแอไม่สู้คนของชายตรงหน้าแล้ว นางนึกเป็นห่วงว่าหากเขาเดินทางตัวคนเดียวอาจเกิดเรื่องแบบเมื่อครู่นี้อีก

“จะเป็นการรบกวนท่านหรือไม่”

“รบกวนสิ่งใดกัน มีเพื่อนร่วมเดินทางสิดี จะได้ไม่เหงา”

“ถ้าเช่นนั้นข้าคงต้องขอรบกวนแม่นางแล้ว” เขาบอกพลางประสานมือยื่นออกมาตรงหน้า

“ฮ่า ๆ ท่านนี่ตลกชะมัด” หยางจูอดขำกับท่าทางมีพิธีรีตรองของชายตรงหน้าไม่ได้

“เอาละ ท่านมีนามว่าอย่างไร”

“ข้าชื่อเฟิงจวิ้น แล้วท่านล่ะ”

“ข้าหยะ…จูหยาง”

นางกำลังจะตอบตามความเคยชินแต่ถูกลู่อิงสะกิดเตือน ด้วยไหวพริบนางจึงแก้สถานการณ์ได้ทัน

รถม้าแล่นไปเรื่อย ๆ สองหนุ่มสาวก็พูดคุยกันไปตลอดทาง ระหว่างนี้เฟิงจวิ้นลอบสังเกตคู่สนทนาไปด้วย แม้ว่าหญิงสาวตรงหน้าจะแต่งกายด้วยเสื้อผ้าเก่า ๆ แต่มิอาจปกปิดสง่าราศีไปได้ อีกทั้งสาวใช้ของนางยังมีกิริยาท่าทางเหมือนกับได้รับการฝึกฝนมาเป็นอย่างดี ซึ่งแตกต่างจากครอบครัวชาวบ้านทั่วไป เขาคาดว่านางคงเป็นคุณหนูจากตระกูลใหญ่เป็นแน่ แต่เขาไม่คิดเปิดโปงใด ๆ เพราะแต่ละคนล้วนมีเหตุผลแห่งการกระทำของตัว ตัวเขาเองก็เช่นเดียวกัน

เฟิงจวิ้นเห็นว่าหญิงสาวตรงหน้านั้นดูแล้วคงจะชอบความสนุกสนานไม่น้อย รอยยิ้มและเสียงหัวเราะของนางช่างสดใสนัก และดวงตาที่เปล่งประกายของนางทำให้เขาอดลอบมองนางเป็นระยะไม่ได้ ความสดใส่ร่างเริงเปิดเผยจริงใจและความกล้าหาญเยี่ยงบุรุษตอนที่ช่วยเหลือเขาทำให้หัวใจเขารู้สึกหวั่นไหวและอากจะร่วมทางกับนางให้นานที่สุดเท่าที่จะไปได้ เสียดายว่าควรจะบอกจุดหมายปลายทางที่ไกลออกไปอีกสักหน่อย ไม่ใช่เมืองถัดไปอย่างที่ได้เอ่ยไป

รถม้าจอดสนิทที่เมื่อแล่นเข้าสู่ทางเข้าเมืองอู่เหอ

“ถึงเมืองอู่เหอแล้วขอรับ”

เซี่ยหานปิงตะโกนบอกเข้ามา เขาตั้งใจหยุดรถที่หน้าประตูเมือง ไม่อยากเข้าเมืองให้เป็นที่สังเกต

“ถ้าอย่างนั้นข้าต้องขอตัวก่อน ขอบใจท่านมาก” เฟิงจวิ้นกล่าวอย่างเสียดายและมองหน้าสตรีที่ประทับอยู่ในหัวใจเขาเป็นที่เรียบร้อยแล้ว

“ขอให้ท่านโชคดี อ้อ คราวหน้าท่านก็หัดสู้คนเสียบ้าง” หยางจูอวยพรให้และไม่วายกำชับพร้อมส่งยิ้มให้

เมื่อชายแปลกหน้าลงจากรถไปแล้ว เซี่ยหานปิงจึงออกรถทันที เฟิงจวิ้นนั้นยืนมองตามรถม้าที่วิ่งฝุ่นตลบห่างออกไปเรื่อย ๆ

“จูหยาง…”

เขาพึมพำชื่อของหญิงสาวเบา ๆ พร้อมกับมุมปากที่ยกยิ้มอย่างพอใจ

“คุณชาย พวกข้าขออภัยและน้อมรับโทษขอรับ”

จู่ ๆ ชายกลุ่มหนึ่งก็เข้ามาคุกเข่าต่อหน้าเขา

“พวกเจ้าลุกขึ้น ข้าเองก็มีส่วนผิดที่ละเลยและเปิดโอกาสให้เจ้าพวกนั้นหาเรื่อง” เฟิงจวิ้นโบกมือให้กลุ่มคนตรงหน้าลุกขึ้น

ความจริงแล้วในตอนนั้นเขาแค่ดูเชิงเจ้าพวกอันธพาล ถ้าจูหยางไม่เข้ามา เขาย่อมจัดการพวกมันได้อยู่แล้ว แม้กระนั้นเขากลับปล่อยเลยตามเลยเพราะนึกสนใจความกล้าหาญเด็ดเดี่ยวของหญิงสาวตัวเล็ก ๆ แต่จิตใจงามที่ยื่นมือเข้ามาช่วยเหลือ และในตอนนี้เขานึกเป็นห่วงนางเสียแล้ว เพราะอันธพาลที่หาเรื่องเขานั้นถูกสั่งให้ปลอมตัวมาจัดการกับเขาโดยเฉพาะ

“ไปสืบมา” เขาออกคำสั่ง

“ขอรับ” รับคำเสร็จกลุ่มคนตรงหน้าก็หายตัวไปอย่างรวดเร็ว

“จูหยาง เราจะต้องได้พบกันอีกแน่”

Continue to read this book for free
Scan code to download App

Related chapters

  • อุบายรักแม่ทัพหน้านิ่ง / รักเร้นใจใต้เงาองครักษ์   อุบายรักแม่ทัพหน้านิ่ง ตอนที่ 4

    รองแม่ทัพจางซื่อหมิงด้อม ๆ มอง ๆ อยู่ตรงประตูหลังค่ายด้วยความกลัดกลุ้ม เขาได้รับจดหมายจากหลี่อวี้อ๋องเรียบร้อยแล้วและรู้สึกกังวลใจเป็นอย่างยิ่ง แม้โดยเนื้อแท้เขาจะเป็นบุรุษที่ใจเย็น สุขุมรอบคอบ แต่เมื่อได้อ่านเนื้อความในจดหมายถึงสิ่งที่องค์หญิงหยางจูต้องการจะทำ ความสงบสุขุมของเขาก็ปลาสนาการไปสิ้น มีอย่างที่ไหน ใช้ชีวิตสุขสบายอยู่ในวังอันหรูหราไม่ชอบ แต่อยากจะมานอนกลางดินกินกลางทรายที่ค่ายทหารเยี่ยงนี้ อานุภาพของความรักมันยิ่งใหญ่ขนาดนั้นเชียวหรือ เขาได้แต่สงสัยในใจ แต่ในเมื่อได้รับมอบหมายมาแล้ว เขาก็ต้องรับใช้เชื้อพระวงศ์อย่างสุดความสามารถ อย่างน้อยก็ช่วยองค์หญิงปกปิดความลับให้ได้นานที่สุด ประการต่อมาคือหาโอกาสให้นางได้โปรยเสน่ห์มัดใจท่านแม่ทัพหน้านิ่ง ซึ่งตัวเขาเองก็ไม่แน่ใจว่าแม่ทัพมู่หรงเซียวหนานมีหัวจิตหัวใจอย่างใครเขาหรือไม่ เสียงรถม้าควบกุบกับมาตามถนน ก่อนจะจอดห่างออกไปเล็กน้อยเพื่อไม่ให้เป็นที่สังเกตเห็น จางซื่อหมิงจึงรีบเดินออกไป เห็นบุรุษสองคนยืนเคียงข้างกัน คนหนึ่งมีรูปร่างสูงใหญ่ตามแบบฉบับคนใช้ตามแบบฉบับคนที่ใช้กำลัง ส่วนอีกคน แม้จะอยู่ในชุดแบบผู้ชายทั่วไป แต่สรีระกลับ

    Last Updated : 2024-10-30
  • อุบายรักแม่ทัพหน้านิ่ง / รักเร้นใจใต้เงาองครักษ์   อุบายรักแม่ทัพหน้านิ่ง ตอนที่ 5

    ดวงตาของจางซื่อหมิงมีประกายแบบคนที่เห็นหนทางรำไร “ถ้าเช่นนั้นท่านไปอยู่โรงเลี้ยงม้าดีหรือไม่ ท่านแม่ทัพมีม้าคู่ใจอยู่ตัวหนึ่ง เมื่อมีเวลาว่างก็จะแวะเวียนไปดูมันเสมอ” “แต่...ข้าดูแลม้าไม่เป็น ได้แต่ขี่อย่างเดียว” “นั่นสินะ” เขาพึมพำ จะให้องค์หญิงมาคอยแปรงขนม้า เก็บมูลของมันและป้อนหญ้าได้อย่างไร “อย่าเพิ่งถอดใจไป ข้ารู้แล้ว!” นางร้องด้วยความยินดี ท่าทางแจ่มใสขึ้นมา “ฝ่ายเครื่องแต่งกายอย่างไรเล่า ถึงอย่างไรทุกคนก็ต้องแต่งตัวไม่ใช่หรือ ขนาดในตำหนักของข้า ยังต้องใช้คนตั้งมากมาย กองทัพที่มีทหารหลายพันคนเช่นนี้ ย่อมต้องการแรงงานเป็นแน่” “พวกเขาไม่ใคร่สนใจการแต่งตัวนัก ส่วนมากแล้วจะสวมใส่เสื้อผ้าซ้ำ ๆ เพราะไม่ค่อยมีเวลาและใช้ชีวิตอย่างเร่งรีบ บวกกับการทำงานหนัก สิ่งที่ขาดไม่ได้คือชุดเกราะเท่านั้นเอง” หยางจูถอนหายใจเฮือกใหญ่ “เห็นจะมีเพียงคนรับใช้ส่วนตัวของเขาเท่านั้น ที่จะได้อยู่ชิดใกล้เกือบจะตลอดเวลา” “แต่กว่าจะไปถึงตำแหน่งนั้นได้ ก็ต้องอยู่ในสายตาของท่านแม่ทัพเสียก่อน เมื่อท่านแสดงให้เห็นความสามารถ เขาต้องย่อมเรียกท่านเข้าไปรับใช้” “ใช่” นางผงกศีรษะ ก่อนจะนึกขึ้นได้ว่านอกจากเสื

    Last Updated : 2024-10-31
  • อุบายรักแม่ทัพหน้านิ่ง / รักเร้นใจใต้เงาองครักษ์   อุบายรักแม่ทัพหน้านิ่ง ตอนที่ 6

    หยางจูสะดุ้งตื่นเพราะเสียงตีเกราะดังระรัว นางรีบร้อนแต่งตัวด้วยชุดไร้สีสันที่ตระเตรียมมา สวมทับด้วยเครื่องแบบของกองทัพ และพบว่าแม้จะไม่สวยงามสะดวกสบายอะไรนัก แต่ก็ใช้เวลาน้อยกว่าตอนที่นางเป็นองค์หญิงถึงสิบเท่า จากนั้นนางก็ต้องขมวดปอยผมของตัวเองให้ดีขณะที่เสียงเรียกหน้าประตูยังดังไม่หยุด “หยางหยาง หากไปช้าเราจะถูกลงโทษเอานะ” คนที่อยู่หน้ากระโจมตะโกนเข้ามา หยางจูจึงรีบตอบกลับ เกรงว่าหากขืนชักช้าเขาจะเปิดประตูเข้ามาเรียกถึงด้านในแล้วความจะแตกเอาได้ “เข้าใจแล้ว ๆ” นางเปิดประตูแล้วก้าวตามชายหนุ่มรูปร่างผอมสูงที่ก้าวเดินด้วยความรวดเร็วไปในความมืด ฟ้ายังไม่สว่างดีนัก แต่รอบค่ายก็มีเสียงพูดคุย เสียงของผู้คนที่ทำงานไม่หยุดหย่อน เสียงโลหะกระทบกัน เสียงกวาดถู และกลิ่นที่ผสมปนเปกันไปในอากาศจนยากจะบอกได้ว่าเป็นกลิ่นของสิ่งใดกันแน่ ตะเกียงและคบเพลิงถูกจุดให้แสงสว่างเป็นระยะ นางเห็นเรือนนอนเรียงกันเป็นแถบ ซึ่งเป็นของทหารที่พอจะมียศศักดิ์เท่านั้น ทหารชั้นเลวหรือทหารรับใช้จะได้นอนในกระโจมรวม ซึ่งนางเองถ้าไม่อาศัยความช่วยเหลือของรองแม่ทัพจางซื่อหมิงก็คงจะไปลงเลยในสถานที่แบบนั้นเช่นกัน “นี่ เ

    Last Updated : 2024-11-01
  • อุบายรักแม่ทัพหน้านิ่ง / รักเร้นใจใต้เงาองครักษ์   อุบายรักแม่ทัพหน้านิ่ง ตอนที่ 7

    เสียงเรียกของหัวหน้าโรงครัวดังราวกับฟ้าผ่า หยางจูผุดลุกขึ้นแล้วเดินตามแผ่นหลังกว้างไปท่ามกลางสายตาสอดรู้ของทุกคนในบริเวณนั้น “ท่านเรียกข้า มีสิ่งใดจะให้ข้ารับใช้หรือขอรับ” “มีคำสั่งมาว่าให้เจ้านำอาหารไปให้ท่านแม่ทัพ” “จริงหรือ” นางร้องออกมาด้วยความดีใจ แต่พอเห็นสายตาตำหนิติเตียนก็รีบหุบยิ้ม “ขอรับ ข้าจะทำหน้าที่อย่างดีที่สุด” “เอาเกลือนี่โรยใส่น้ำแกงสักหน่อย แล้วก็ยกไปได้” “ขอรับ” นางได้แต่รับคำซ้ำ ๆ พูดอะไรไม่ออกเพราะความดีใจเอ่อล้นอยู่ในอก “ข้าไม่รู้หรอกนะว่าเจ้าเป็นใครมาจากไหน ถึงได้ตำแหน่งสำคัญถึงเพียงนี้ตั้งแต่วันแรก แต่ทำหน้าที่ให้ดีก็แล้วกัน” “ข้าน้อยจะไม่ทำให้ครัวของเราต้องขายหน้าเป็นอันขาด” “ดี” เมื่อสั่งงานเสร็จแล้ว เขาก็เดินนำนางไปยังจุดรับสำรับอาหารที่มีอาหารอยู่เพียงไม่กี่อย่าง หยางจูมองไก่ตุ๋นน้ำแกง เนื้อในชามเป็นแค่ชิ้นเล็ก ๆ ไม่ใช่ไก่ทั้งตัว ข้าวต้มเละ ๆ บดรวมกับหมูสับ ผักที่ผัดโดยไม่ใส่สิ่งใดเลย และของหวานที่นางมองไม่ออกว่าเป็นสิ่งใดกันแน่เพราะมันเหมือนกับการเอาแป้งมากวนแล้วจับปั้นเป็นก้อนกลม ๆ เมื่อมองจากภาระหน้าที่ของมู่หรงเซียวหนานและการกินอยู่ขอ

    Last Updated : 2024-11-03
  • อุบายรักแม่ทัพหน้านิ่ง / รักเร้นใจใต้เงาองครักษ์   อุบายรักแม่ทัพหน้านิ่ง ตอนที่ 8

    ความอึดอัดท่วมท้นขึ้นมาในจิตใจเมื่อได้ยินคำตำหนิว่าอาหารรสชาติแปลกประหลาด หยางจูรู้ดีว่าต้องเป็นเพราะเกลือที่นางโรยลงไปตามคำสั่งเป็นแน่ แต่คงจะใส่มากไปหน่อย หรือไม่อย่างนั้นก็อาจจะมีขั้นตอนใดขั้นตอนหนึ่งผิดพลาดจนรสชาติอาหารออกมาผิดแผกไปจากเดิม “คนครัวคนเดิมหรือเปล่า” “คนเดิมขอรับ” มู่หรงเซียวหนานมุ่นหัวคิ้ว ลองตักน้ำแกงพร้อมกับเนื้อไก่กินอีกครั้ง “น้ำแกงนี่ใส่อะไรลงไปบ้าง” ตายล่ะ นางไม่ได้เป็นคนทำทุกขั้นตอนเสียเมื่อไหร่ แค่ถอนขนไก่ยังไม่ได้เลย แถมตอนปรุงน้ำแกงด้วยสมุนไพร นางก็กำลังแล่หมูอยู่ด้วยซ้ำ แล้วอย่างนี้จะตอบคำถามของเขาได้อย่างไร แต่พอเห็นสายตาที่จ้องมองมาไม่วางตา นางก็จำต้องหาคำตอบมาให้ แม้ว่ามันอาจจะไม่ถูกต้องก็ตาม แต่คนเป็นแม่ทัพ เคยแต่จับหอกจับดาบก็ไม่น่าจะรู้เรื่องอาหารมากนัก “ก็ใส่เครื่องยาจีนทั่วไปขอรับ” “ลองไล่มาสิ ข้าจะดูว่ามีสิ่งใดผิดแปลกไป” “เอ่อ หากท่านกังวลเรื่องการวางยาพิษ ทางหน่วยได้มีการทดลองชิมและใช้เครื่องเงินทดสอบแล้วนะขอรับ” “ไม่ใช่เรื่องการวางยาอะไรหรอก ข้าแค่รู้สึกแปลกใจกับรสชาติอาหารน่ะ จึงอยากจะรู้ให้แน่ชัด” หรือนางจะใส่อย่างอื่นแทนเกล

    Last Updated : 2024-11-05
  • อุบายรักแม่ทัพหน้านิ่ง / รักเร้นใจใต้เงาองครักษ์   อุบายรักแม่ทัพหน้านิ่ง ตอนที่ 9

    หยางจูนิ่งอึ้ง นึกเสียดายที่ไม่ได้ทำหน้าทำตาให้มอมแมมขมุกขมัวมากกว่านี้ เมื่อเขาเห็นว่านางอึกอัก ก็ยิ่งคิดว่านางอับอายเพราะถูกล้อว่าเหมือนเด็ก จึงพูดเพื่อให้นางรู้สึกดีขึ้น “อย่าคิดมากไปเลย เมื่อทำงานใช้แรงไปเรื่อย ๆ ตัวของเจ้าก็จะหนาเสียจนลืมเลยว่าครั้งหนึ่งเจ้าเคยเป็นเด็กมาก่อน” “ขอรับ” นางปรับสีหน้าให้ดีขึ้น ก่อนจะเป็นฝ่ายถามแทน “แล้วท่านแม่ทัพล่ะขอรับ คิดจะแต่งงานเมื่อใดกัน” “ข้ายังไม่ได้คิดเรื่องนั้น ในหัวมีแต่จะกำราบศัตรูให้สิ้นซากอย่างไรก็เท่านั้น” “แต่หากท่านทำสำเร็จ ฮ่องเต้จะต้องพระราชทานรางวัลให้ ดีไม่ดี จะให้ท่านแต่งกับหญิงงามมียศถาบรรดาศักดิ์เสียด้วยซ้ำไป” “ข้ารู้” มู่หรงเซียวหนานพอจะคาดการณ์เรื่องนี้ได้ โดยเฉพาะเมื่อบิดาของเขาใกล้ชิดกับฮ่องเต้ ถึงขนาดที่น้องสาวของเขาก็อภิเษกไปกับ หลี่อวี้อ๋อง แล้วบุตรชายคนโตจะน้อยหน้ากว่าได้อย่างไร “หากเป็นเช่นนั้น ก็แล้วแต่พระประสงค์ของพระองค์เถิด”เขาพูดพลางถอนหายใจอย่างคนที่เข้าใจเรื่องราวและเตรียมใจไว้แล้ว อันตัวเขานั้น แม้จะมีหัวใจ แต่ภาระหน้าที่ต้องมาเป็นอันดับหนึ่งก่อนอยู่แล้ว หยางจูก็ไม่คิดว่าจะได้รับคำตอบอะไรที่แปลกไป

    Last Updated : 2024-11-07
  • อุบายรักแม่ทัพหน้านิ่ง / รักเร้นใจใต้เงาองครักษ์   อุบายรักแม่ทัพหน้านิ่ง ตอนที่ 10

    หน้าที่ขององค์หญิงแห่งแคว้นยังคงวนเวียนอยู่ในโรงครัวเป็นส่วนใหญ่ และนางต้องหมกตัวอยู่ในนั้นตลอดทั้งวัน วิ่งวุ่นหัวหมุนไปกับการหั่นล้างอะไรสักอย่างตลอดเวลา ซึ่งนางก็ล้วนแล้วแต่ทำไม่เป็น หากรองแม่ทัพจางไม่ช่วยเหลือ แกล้งเรียกนางเข้าพบเพราะนางอ่านออกเขียนได้ นางก็คงจะไม่ได้มีเวลาพักผ่อนเลยแม้แต่น้อย ทุกคนต่างก็ทำงานหนักอาบเหงื่อต่างน้ำด้วยกันทั้งสิ้น ราวกับว่าค่ายแห่งนี้ไม่เคยหลับใหล แม้แต่ยามกลางคืน นางก็ยังสามารถได้ยินเสียงพูดคุย เสียงความเคลื่อนไหวด้านนอก และเห็นแสงไฟวับแวมที่จุดอยู่โดยรอบ นอกจากช่วงเวลาที่จะต้องยกข้าวยกน้ำให้กับมู่หรงเซียวหนานแล้ว หยางจูไม่มีทางได้เจอเขาอีก ไม่ใช่แค่เพราะเขาไม่ว่าง แต่เพราะนางหมกตัวอยู่แต่ในครัว ราวกับไข่มุกที่ไม่ถูกค้นพบ หยกที่ยังไม่ได้เจียระไน แล้วมันจะไปมีความหมายอันใดที่นางดั้นด้นลำบากมาถึงนี่ และถึงแม้นางจะได้เวลาชั่วพักชั่วครู่ ระหว่างที่เขารับประทานอาหาร แต่ในช่วงเวลานั้น ก็มักจะมีผู้คนมากมายมารอเข้าพบท่านแม่ทัพเป็นการส่วนตัวอยู่เสมอ เท่ากับว่านางแทบจะไม่มีเวลาอยู่กับเขาเพียงสองคนเลย “เฮ้ออออออ……” คิดแล้วก็ได้แต่ทอดถอนใจ นางพับแขนเสื้อขึ้

    Last Updated : 2024-11-09
  • อุบายรักแม่ทัพหน้านิ่ง / รักเร้นใจใต้เงาองครักษ์   อุบายรักแม่ทัพหน้านิ่ง ตอนที่ 11

    “เนื้อหมูและปลาตากแห้งเจ้าค่ะ ท่านองครักษ์บอกว่าชีวิตในนี้ยากลำบากนัก หากเป็นทหารชั้นประทวนยิ่งไม่มีทางที่จะได้แตะเนื้ออะไรทั้งนั้น ข้าจึงเอาเนื้อนี้มาให้ แล้วข้าก็คิดถูก นี่มาอยู่ไม่เท่าไหร่ ท่านก็ผมลงอย่างเห็นได้ชัด” หยางจูก้มลงมองตัวเอง นางไม่ได้ผอมลงไปแม้แต่น้อย แต่แน่ล่ะ ลู่อิงก็ชอบกังวลเกินเหตุและกล่าวอะไรเกินจริงอยู่ตลอด “ถ้าอย่างนั้นก็ขอบใจเจ้ามาก” นางรับมาด้วยความเต็มใจ “หากไม่มีอะไรแล้วก็กลับไปเถอะ เดี๋ยวใครมาเห็นเข้าจะสงสัยเอาได้ ข้าไม่ใช่คนพื้นเพ ไม่สมควรจะรู้จักใครที่นี่” “เจ้าค่ะ” รับคำแบบไม่เต็มใจนัก ก่อนจะเอื้อมมือมาจับมือองค์หญิงที่ตัวเองดูแลมาแต่เล็กแต่น้อย รู้สึกว่ามือนั้นกร้านขึ้นก็ทั้งตกใจและสงสารจับใจ “ข้าไม่ได้เป็นอะไรลู่อิง มือข้าก็ยังอยู่ดี” หยางจูพูดอย่างรู้ทันความคิด “โธ่…คุณชาย…” ลู่อิงโอดครวญตามประสา “เอาละ พวกเจ้ากลับไปได้แล้ว นี่ข้าออกมานานแล้ว เกรงว่าจะมีคนสงสัยเอาได้” “ขอรับ ขอให้ท่านรักษาตัวด้วย” เป็นเซี่ยหานปิงชิงพูดขึ้นมาก่อนที่หญิงสาวข้างกายจะเอ่ยอะไรยืดยาวเป็นการไม่จบสิ้น และได้รับค้อนจากลู่อิงไปหนึ่งวง หยางจูเห็นดังนั้นจึงแอบอมยิ้ม

    Last Updated : 2024-11-11

Latest chapter

  • อุบายรักแม่ทัพหน้านิ่ง / รักเร้นใจใต้เงาองครักษ์   รักเร้นใจใต้เงาองครักษ์ บทส่งท้าย 2

    ลู่อิงหน้าแดงเรื่อเมื่อถูกถามอย่างตรงไปตรงมา เซี่ยหานปิงไม่เพียงอนุญาตแต่ยังค่อย ๆ ดึงลู่อิงให้เอนตัวขึ้นมา ก่อนจะลูบผมสลวยเพื่อให้คลายกังวล ไม่อยากให้คิดว่าเป็นการกระทำที่ยากหรือน่ากลัว“ข้า...ข้ามิเคยทำมาก่อน”“ข้ารู้ เจ้าแค่อ้าปากแล้วกินมันเข้าไปเท่านั้น” เขาส่งยิ้มบางเบาแล้วค่อย ๆ ประคองใบหน้างดงามให้เคลื่อนเข้ามาใกล้ ๆพอริมฝีปากแทบจะจ่ออยู่ปลายหัวของแก่นกายลู่อิงจึงค่อยยื่นลิ้นออกมา นางใช้ปลายลิ้นแตะลงบนปลายหัวสีแดงระเรื่อ แต่พอสัมผัสก็ได้ยินเสียงเซี่ยหานปิงครางต่ำออกมา นางจึงช้อนสายตาขึ้นไปมองก็“อืม...ดี ดียิ่งนัก” เซี่ยหานปิงก้มมองคนเบื้องล่างที่เรียนรู้ว่องไว เขารู้อยู่แล้วนางจะทำได้เพราะเรื่องแบบนี้มันอยู่ในสัญชาตญาณ แม้ว่าแรก ๆ ลู่อิงจะเคลื่อนไหวติด ๆ ขัด ๆ ไปบ้าง แต่ไม่ได้ทำให้อารมณ์หยุดชะงักลู่อิงตาลอยเล็กน้อย รู้สึกถึงความยาวดุนดันอยู่ในลำคอของนาง น้ำตาหยดเล็ก ๆ เปียกชื้น ทว่านางก็กลืนกินมันจนเกิดเสียงหยาบโลน เซี่ยหานปิงลูบผมนาง ก่อนจะสาวเอวสอบเข้าออกช้า ๆ และจากจังหวะเนิบช้าก็เริ่มเปลี่ยนเป็นเร็ว

  • อุบายรักแม่ทัพหน้านิ่ง / รักเร้นใจใต้เงาองครักษ์   รักเร้นใจใต้เงาองครักษ์ บทส่งท้าย 1

    ลู่อิงนั่งอยู่ในเกี้ยวหามที่โคลงเคลงไปมาตลอดทาง นางพยายามสงบจิตใจของตัวเอง แต่ก็ไม่อาจห้ามหัวใจที่เต้นแรงด้วยความตื่นเต้นได้ เสียงตีฆ้องร้องป่าวจากด้านนอกบ่งบอกว่าขบวนแห่นำเจ้าสาวกำลังเดินทางมาถึงจวนของเซี่ยหานปิง ผู้ที่วันนี้ไม่ใช่เพียงแค่ราชองครักษ์ แต่เป็นเจ้าบ่าวของนางจวนหลังนี้ไม่ใช่จวนธรรมดา เพราะเป็นจวนที่ได้รับพระราชทานจากองค์หญิงหยางจู และองค์ชายชาง ว่าที่องค์รัชทายาท ผู้เป็นพระเชษฐาขององค์หญิงหยางจู และเป็นผู้ให้การช่วยเหลืออย่างลับ ๆ ตอนที่องค์หญิงหยางจูปลอมตัวไปอยู่ในค่ายทหาร เพื่อเป็นของขวัญสำหรับการที่เซี่ยหานปิงรับใช้และปฏิบัติหน้าที่ด้วยความซื่อสัตย์มาโดยตลอด จวนนี้แม้อยู่ในเมืองหลวง แต่ค่อนไปทางชานเมือง เนื่องจากเซี่ยหานปิงและลู่อิงชอบความเรียบง่าย มิอยากเผชิญความวุ่นวายในตัวเมือง แต่แม้จะห่างไกลออกมา จวนแห่งนี้ก็ยังโดดเด่น สง่างาม สมกับตำแหน่งขุนนางขั้นสี่ของเขาเมื่อขบวนเจ้าสาวไปถึงหน้าจวน เกี้ยวได้ถูกวางลงบนพื้นช้า ๆ ลู่อิงไม่คุ้นเคยกับพิธีการเหล่านี้มากนัก เพราะเป็นเพียงนางกำนัลที่เติบโตอยู่ในวังหลวงมาตลอด ไม่มีครอบครัวที่ไหนจะส่งตัวนางออกมาเช่นนี

  • อุบายรักแม่ทัพหน้านิ่ง / รักเร้นใจใต้เงาองครักษ์   รักเร้นใจใต้เงาองครักษ์ ตอนที่ 36

    เมื่อเซี่ยหานปิงกลับถึงเมืองหลวง เขาถูกภารกิจมากมายถาโถมเข้ามาจนแทบไม่มีเวลาหยุดพัก แต่ละวันเต็มไปด้วยเรื่องที่ต้องจัดการอย่างไม่หยุดยั้ง จนเวลาผ่านไปหลายวันโดยที่เขาไม่ได้พบกับลู่อิงเลยสักครั้งแม้ตนจะเป็นองครักษ์ประจำตัวขององค์หญิงหยางจูก็ตามในหัวใจเขานั้นเต็มไปด้วยความคิดถึง ไม่เพียงแต่งานที่ทำให้เหนื่อยล้า แต่ความรู้สึกโหยหาสตรีนางหนึ่งที่เขาใส่ใจมากขึ้นทุกวันก็ทำให้จิตใจของเขายิ่งเหน็ดเหนื่อยยิ่งขึ้นไปอีก แต่ก็พยายามข่มใจ ไม่อยากเร่งรีบอะไรจนเกินไป เพราะเขาต้องการจัดการทุกอย่างให้เรียบร้อยก่อนจะไปหานางฝ่ายลู่อิงเองก็เฝ้ารอคอยการกลับมาของเซี่ยหานปิงด้วยใจจดจ่อ แต่หลายวันผ่านไปแล้วนางก็ยังไม่เห็นหน้าเขา จิตใจที่เคยสงบสุขจึงเริ่มร้อนรุ่มขึ้นมา นางไม่อาจห้ามความคิดถึงเขาได้ ทุกคืนที่หลับตานอน ก็ได้แต่ครุ่นคิดถึงว่าเขากำลังทำอะไรอยู่ จนหัวใจเต็มไปด้วยความกังวลและโหยหาสุดท้าย ความคิดถึงของทั้งสองก็ถึงจุดที่ไม่อาจต้านทานได้ เซี่ยหานปิงอดทนไม่ไหวอีกต่อไป จนในคืนนั้นเขาตัดสินใจว่าอย่างไรจะต้องเจอหน้านางให้จงได้ลู่อิงที่นอนหลับตาอยู่บนเตียงกลับสะดุ้งตื่นขึ้

  • อุบายรักแม่ทัพหน้านิ่ง / รักเร้นใจใต้เงาองครักษ์   รักเร้นใจใต้เงาองครักษ์ ตอนที่ 35

    เมื่อเซี่ยหานปิงกลับถึงบ้าน พอเปิดประตูเข้าไปก็เห็นลู่อิงนั่งกระวนกระวายใจอยู่ ใบหน้าของนางเต็มไปด้วยความกังวล“ท่านหายไปไหนมาเสียตั้งนาน” ลู่อิงรีบถลาเข้ามาหาเขา ดึงตัวเขาเข้าไปในบ้านพร้อมกับปิดประตูแน่นหนา นางดูร้อนรนเกินปกติ หัวใจของนางเต้นระส่ำ ไม่คิดว่าเขาจะหายไปโดยไม่บอกกล่าวเช่นนี้“เกิดอะไรขึ้นหรือ” เซี่ยหานปิงถามด้วยเสียงนุ่ม พยายามไม่ให้ดูผิดปกติเกินไป แต่ก็เห็นชัดว่าลู่อิงไม่ได้สงบอย่างที่ควรจะเป็น“องค์หญิงทรงเป็นอย่างไรบ้าง ท่านเห็นนางกับตาหรือไม่ หรือเพียงไต่ถามสายข่าวของท่านเท่านั้น” ลู่อิงถามด้วยน้ำเสียงสั่นเครือ นางไม่อาจปิดบังความวิตกกังวลในใจได้ การที่เขาหายตัวไปเช่นนี้ทำให้นางคิดว่าเรื่องนี้ต้องเกี่ยวข้องกับองค์หญิงหยางจูโดยตรง“องค์หญิงถูกจับไป”เซี่ยหานปิงตอบด้วยเสียงสงบนิ่ง ใบหน้าไร้ความตระหนก และเตรียมพร้อมยอมรับปฏิกิริยาตอบสนองทุกรูปแบบของลู่อิงสิ้นคำพูดนั้น ลู่อิงราวกับถูกทุบเข้าที่ศีรษะ นางนิ่งไปชั่วขณะ พยายามเรียบเรียงคำพูด แต่สิ่งที่ได้มีเพียงความหวาดกลัวจับใจเสียจนพูดไม่ออก เซี่ยหานปิงจึงพูดต่อ“พวกกบฏกับห

  • อุบายรักแม่ทัพหน้านิ่ง / รักเร้นใจใต้เงาองครักษ์   รักเร้นใจใต้เงาองครักษ์ ตอนที่ 34

    เซี่ยหานปิงนอนกอดลู่อิงไว้ภายใต้แสงจันทร์ ทว่าเขากลับต้องตื่นขึ้นเมื่อได้ยินเสียงฝีเท้าเบา ๆ เคลื่อนเข้ามาใกล้ แม้ผู้มาเยือนจะระมัดระวังเพียงใด แต่ก็ไม่อาจรอดพ้นสัญชาตญาณฉับไวขององครักษ์ผู้ชำนาญได้ เขาลุกขึ้นจากเตียงอย่างเงียบเชียบที่สุดเพราะเกรงว่าคนข้างกายจะรู้สึกตัวตื่น หยิบดาบของตนติดมือไปด้วย แล้วเปิดประตูออกไปเผชิญหน้ากับผู้มาเยือนชายในชุดดำคลุมหน้าปรากฏตัวอยู่ในลานบ้าน พอเห็นเซี่ยหานปิงเดินออกมาพร้อมดาบ ชายผู้นั้นรีบคุกเข่าลงในทันทีเพื่อแสดงความเคารพ“หัวหน้าเซี่ย!” ชายคนนั้นเอ่ยด้วยเสียงเบาแต่ชัดเจนเซี่ยหานปิงจำเสียงนี้ได้ทันทีว่าเป็นไป๋ซื่อเซิง ลูกน้องคนสนิทที่เขาส่งไปสังเกตการณ์ใกล้ค่ายทหาร“ไป๋ซื่อเซิง...เจ้าทำอะไรดึกดื่นเช่นนี้”“ขออภัยขอรับ ข้ามีองค์หญิงหยางจูมารายงาน พระองค์ถูกกบฏจับตัวไปขอรับ!”เซี่ยหานปิงนิ่งเงียบครู่หนึ่ง ใบหน้าของเขาตึงเครียดขึ้นในทันที เขาพยักหน้าให้ไป๋ซื่อเซิงลุกขึ้น ก่อนจะผายมือเชิญให้อีกฝ่ายเข้าไปด้านใน “ไปคุยกันข้างในเถอะ” เมื่อทั้งสองนั่งที่โต๊ะน้ำชาภา

  • อุบายรักแม่ทัพหน้านิ่ง / รักเร้นใจใต้เงาองครักษ์   รักเร้นใจใต้เงาองครักษ์ ตอนที่ 33

    ยามเช้า พิษในตัวนางถูกถอนออกไปหมดดังคาด หมอจางเข้ามาดูอาการ เขียนเทียบยาบำรุงร่างกายอีกเล็กน้อยแล้วก็ขอตัวลากลับออกไปหลังจากกินอาหารเช้าเสร็จ เซี่ยหานปิงก็ประคองนางเดินมายังลานหน้าบ้าน ตอนนี้ย่างเข้าฤดูร้อน ใบหลิวปลิวไสวงดงาม อำลาฤดูใบไม้ผลิ“มาเถอะ ข้าจะพาเจ้าไปที่หนึ่ง” เซี่ยหานปิงยื่นมือไปให้นาง ก่อนทั้งสองจะเดินไปยังเนินเขา ที่ตรงนั้นเป็นทุ่งดอกไม้ รอบด้านจึงเต็มไปด้วยดอกไม้หลากสีลู่อิงรู้สึกผ่อนคลาย นางเดินจูงมือใหญ่ของเซี่ยหานปิงไปเรื่อย ๆ ยามนี้ดวงตะวันสาดแสงอ่อน ๆ ลงมาจากฟากฟ้า แม้จะย่างเข้าฤดูร้อน แต่อากาศยังไม่ร้อนนัก ท้องฟ้าเป็นสีฟ้าใสปนขาว เมฆลอยละล่องราวกับสำลีเบาบาง ยิ่งเมื่อได้ยินเสียงลำธารไหลเอื่อย ๆ อยู่ใกล้ ๆ ยิ่งทำให้นางรู้สึกสงบและสบายใจเป็นที่สุดความเงียบสงบรายล้อมอยู่โดยรอบ ทั้งสองก้าวเดินช้า ๆ ในทุ่งดอกไม้ ลู่อิงรู้สึกได้ถึงความอบอุ่นจากมือของเซี่ยหานปิงที่ประสานกันอย่างแนบแน่น ใบหน้าของนางระบายด้วยรอยยิ้มบางเบา มองไปยังดอกไม้ที่เบ่งบานและสายลมที่พัดเอื่อย กลิ่นหอมของดอกไม้ป่าผสมกลิ่นต้นไม้ใบหญ้า ทำให้หัวใจนางเบาสบายแ

  • อุบายรักแม่ทัพหน้านิ่ง / รักเร้นใจใต้เงาองครักษ์   รักเร้นใจใต้เงาองครักษ์ ตอนที่ 32

    เซี่ยหานปิงขยับตัวขึ้นนั่ง ส่วนนั้นแข็งขืนปลายยอดมีน้ำซึมออกมา ลู่อิงเพิ่งเคยเห็นสิ่งใหญ่โตของบุรุษเป็นครั้งแรก นางไม่กล้ามองจึงเอาแต่หลับตาองครักษ์หนุ่มเห็นท่าทางของนางก็จำต้องสะกดอารมณ์เอาไว้พร้อมกับชักรูดแก่นกายของตนเองช้า ๆ ก่อนจะก้มลงจูบเปลือกตาของนางแล้วปลอบโยน“ข้าจะไม่ทำให้เจ้าเจ็บ จะค่อย ๆ ทำ จะทะนุถนอมเจ้า เจ้าไม่ต้องกลัว”ลู่อิงลืมตาขึ้น นางสบตาเขา เมื่อเห็นความจริงใจนางจึงพยักหน้ารับช้า ๆ อย่างเขินอาย เซี่ยหานปิงใช้มือจับท่อนล่างของตนถูไถไปกับความอ่อนนุ่มที่กำลังชุ่มฉ่ำ ลู่อิงไม่กล้าขยับเขยื้อนได้แต่กะพริบตามองแม้จะเขินอายแต่ก็เต็มไปด้วยความสนใจใคร่รู้ขณะที่เซี่ยหานปิงสอดแทรกความเป็นชายเข้าไปทีละนิดอย่างช้า ๆ นางก็ส่งเสียงครางปนสะอื้นออกมาเป็นครั้งคราว คิ้วเรียวยาวขมวดเข้าเพราะนางรู้สึกเจ็บ“อย่าเกร็ง ครั้งแรกจะเจ็บเล็กน้อย จากนั้นเจ้าก็ไม่เจ็บแล้ว”ลู่อิงมีน้ำตารื้นออกมาตรงหางตา เซี่ยหานปิงจึงจูบซับน้ำตาให้นาง พอเขาสัมผัสได้ว่าความอ่อนนุ่มชุ่มชื้นเปิดรับเขามากขึ้น มิได้เกร็งอย่างเช่นตอนแรก ก็ค่อย ๆ เริ่

  • อุบายรักแม่ทัพหน้านิ่ง / รักเร้นใจใต้เงาองครักษ์   รักเร้นใจใต้เงาองครักษ์ ตอนที่ 31

    ลู่อิงเงียบกริบ นางก้มหน้างุดลงกว่าเดิม ความอับอายท่วมท้น ที่เซี่ยหานปิงพูดมาไม่ใช่ว่านางไม่เข้าใจ แต่เพราะเข้าใจนางจึงไม่กล้าแสดงความเห็น เพราะไม่รู้ว่าเซี่ยหานปิงจะคิดเช่นไร“หากเจ้าไม่เต็มใจก็ช่างเถิด ข้าว่าคงจะมีวิธีอื่นอีก” เซี่ยหานปิงเอ่ยปลอบ เขารู้ว่าลู่อิงต้องรู้สึกไม่ดีเป็นแน่ แม้ตัวเขาเองก็ยังลังเลไม่ต่าง การให้หญิงสาวต้องฝืนใจทำสิ่งใดคงไม่ใช่สิ่งที่เขาต้องการ“ไม่...ไม่ใช่ ข้ากลัวว่าจะรบกวนท่าน” นางรีบร้อนห้าม คว้าแขนของเขาที่กำลังจะลุกจากไป“ข้าก็กลัวเจ้าจะเสื่อมเสียชื่อเสียง ลู่อิง ที่เจ้าบอกว่าชอบข้าจริงหรือไม่” เซี่ยหานปิงหันมาถามเต็มตา แต่ถึงอย่างนั้นก็ไม่ได้คาดคั้นเอาคำตอบจากนาง“จริงเจ้าค่ะ แต่ถ้าท่านไม่ดีมีใจตรงกับข้า ก็อย่าได้รักษาน้ำใจ” ลู่อิงตอบอย่างกล้าหาญ แม้ในใจจะหวั่นไหวและกังวลว่าเขาจะตอบเช่นไรเซี่ยหานปิงเงียบไปครู่หนึ่ง ก่อนจะเชิดคางเรียวของนางขึ้นมา สบตานางอย่างลึกซึ้ง “แล้วถ้าหากว่าข้าก็รู้สึกเช่นเดียวกับเจ้าล่ะ”“จริงหรือ” ลู่อิงตาโตขึ้ ใบ

  • อุบายรักแม่ทัพหน้านิ่ง / รักเร้นใจใต้เงาองครักษ์   รักเร้นใจใต้เงาองครักษ์ ตอนที่ 30

    ลู่อิงตื่นขึ้นมาอย่างอ่อนแรง รู้สึกเหมือนถูกถ่วงด้วยความเหนื่อยล้าเกินกว่าจะขยับตัวได้ นางพบว่าตัวเองนอนอยู่บนเตียงในบ้าน แต่ภาพเหตุการณ์เมื่อคืนกลับพร่ามัวเกินกว่าจะนึกถึงได้ถี่ถ้วน หลังจากลืมตาขึ้นเพียงครู่เดียว นางก็หลับลงไปอีกครั้งด้วยความอ่อนล้าไม่นานหลังจากนั้น เซี่ยหานปิงก็เข้ามาในห้อง เขาวางป้านยาลงบนโต๊ะเล็กข้างเตียงอย่างเบามือ ก่อนจะประคองร่างบอบบางของลู่อิงขึ้นมาเพื่อให้ดื่มยา ใบหน้าของเขาเคร่งเครียด ดูท่าแล้วพิษกำหนัดที่ลู่อิงถูกบังคับให้กลืนเข้าไปนั้นคงจะร้ายแรงมาก อีกทั้งเมื่อคืน นางยังต้องแช่อยู่ในน้ำเย็นตลอดคืน ทำให้ร่างกายของนางอ่อนแอ จับบัดนี้ก็ยังไม่ฟื้นตัวตลอดช่วงเช้า ลู่อิงยังคงนอนซมอยู่บนเตียง ไร้ท่าทีว่าจะดีขึ้น เซี่ยหานปิงเองก็กังวลอย่างเห็นได้ชัด เขาจึงตัดสินใจไปตามหมอจางมาดูอาการของนาง หมอจางเดินทางมาถึงพร้อมกับอุปกรณ์ในการรักษา ก่อนจะทำการตรวจอาการอย่างละเอียดและฝังเข็มเพื่อกระตุ้นพลังชี่ของนาง“อาการของนางเป็นอย่างไรบ้างท่านหมอ” เซี่ยหานปิงถามด้วยน้ำเสียงเคร่งเครียด“พิษที่นางได้รับนั้นร้ายแรงมาก แต่ว่ายังไม

Explore and read good novels for free
Free access to a vast number of good novels on GoodNovel app. Download the books you like and read anywhere & anytime.
Read books for free on the app
SCAN CODE TO READ ON APP
DMCA.com Protection Status