Share

ตอนที่ 9

Author: Priyada
last update Last Updated: 2024-11-07 16:51:15

หยางจูนิ่งอึ้ง นึกเสียดายที่ไม่ได้ทำหน้าทำตาให้มอมแมมขมุกขมัวมากกว่านี้ เมื่อเขาเห็นว่านางอึกอัก ก็ยิ่งคิดว่านางอับอายเพราะถูกล้อว่าเหมือนเด็ก จึงพูดเพื่อให้นางรู้สึกดีขึ้น

“อย่าคิดมากไปเลย เมื่อทำงานใช้แรงไปเรื่อย ๆ ตัวของเจ้าก็จะหนาเสียจนลืมเลยว่าครั้งหนึ่งเจ้าเคยเป็นเด็กมาก่อน”

“ขอรับ” นางปรับสีหน้าให้ดีขึ้น ก่อนจะเป็นฝ่ายถามแทน “แล้วท่านแม่ทัพล่ะขอรับ คิดจะแต่งงานเมื่อใดกัน”

“ข้ายังไม่ได้คิดเรื่องนั้น ในหัวมีแต่จะกำราบศัตรูให้สิ้นซากอย่างไรก็เท่านั้น”

“แต่หากท่านทำสำเร็จ ฮ่องเต้จะต้องพระราชทานรางวัลให้ ดีไม่ดี จะให้ท่านแต่งกับหญิงงามมียศถาบรรดาศักดิ์เสียด้วยซ้ำไป”

“ข้ารู้” มู่หรงเซียวหนานพอจะคาดการณ์เรื่องนี้ได้ โดยเฉพาะเมื่อบิดาของเขาใกล้ชิดกับฮ่องเต้ ถึงขนาดที่น้องสาวของเขาก็อภิเษกไปกับ

หลี่อวี้อ๋อง แล้วบุตรชายคนโตจะน้อยหน้ากว่าได้อย่างไร “หากเป็นเช่นนั้น ก็แล้วแต่พระประสงค์ของพระองค์เถิด”เขาพูดพลางถอนหายใจอย่างคนที่เข้าใจเรื่องราวและเตรียมใจไว้แล้ว อันตัวเขานั้น แม้จะมีหัวใจ แต่ภาระหน้าที่ต้องมาเป็นอันดับหนึ่งก่อนอยู่แล้ว

หยางจูก็ไม่คิดว่าจะได้รับคำตอบอะไรที่แปลกไปมากกว่านี้ ในเมื่อชายผู้นี้เกิดมาเพื่อเป็นผู้สืบทอดและหน้าเป็นตาให้แก่วงศ์ตระกูล เขาเคารพบิดามารดายิ่งกว่าสิ่งทั้งหลายทั้งปวง สิ่งใดที่จะส่งเสริมตระกูลได้ให้มั่งคงยิ่งใหญ่ได้ เขาย่อมทำสิ่งนั้น อีกประการหนึ่ง มู่หรงเซียวหนานมีเลือดนักรบเต็มตัวทั้งยังซื่อสัตย์มั่นคง นั่นหมายถึงเขายอมปฏิบัติตามคำสั่งของผู้ที่อยู่เหนือหัวโดยไม่บิดพลิ้ว

นั่นคือสิ่งที่นางหวั่นเกรง หากเสด็จพ่อพระราชทานทานพี่หรือน้องของนางคนอื่น ๆ องค์หญิงจากต่างเมือง บุตรีของท่านเสนาบดี หรือขุนนางสักคนแล้วเขาไม่คัดค้าน นางก็คงจะพลาดหวังจากเขาเป็นแน่ ยิ่งนึกก็ยิ่งร้อนใจ

ด้วยเหตุนั้น นางถึงต้องดั้นด้นมาถึงนี่ และพยายามมัดใจเขาให้ได้ แม้พี่ชายจะคิดว่าอุปสรรคใหญ่หลวงจะอยู่ที่นางอยู่ในร่างของบุรุษเพศ แต่นางไม่เชื่อว่าหากมีใจให้กันแล้ว เขาจะก้าวข้ามอุปสรรคนี้ไปไม่ได้

“คิดอะไรของเจ้า ทำหน้ายุ่งเชียว”

“คิดถึงงานที่ต้องทำของวันนี้ขอรับ” นางรีบแก้ตัว

“ข้าเข้าใจว่าหน่วยเสบียงทำงานหนักมาก”

“ถึงแม้จะหนัก แต่ข้าเชื่อว่าทุกหน่วยก็หนักไม่แพ้กัน โดยเฉพาะท่านที่เป็นถึงแม่ทัพ ต้องแบกความรับผิดชอบและภาระหน้าที่เอาไว้มากมาย”

“พูดได้ดี ๆ”

“ท่านคงจะเหนื่อยมาก”

เขาสะท้านกับคำพูดนั้น รับรู้ได้ถึงความเห็นอกเห็นใจในน้ำเสียงของคนพูด จนต้องเงยหน้าขึ้นมาจากสำรับกับข้าวแล้วกล่าวขอบคุณนางจากใจ

ทุกวันนี้เขาได้นอนวันละไม่กี่ชั่วยาม เดินย่ำไปตามแถวทหาร พูดปลุกใจพวกเขา ซ้อมต่อสู้และวางแผนรบไม่ว่างเว้น ความบันเทิงใจอื่นใดไม่มี ยิ่งเขาไม่ปริปากบ่นเท่าไหร่ ทุกคนยิ่งคิดว่าท่านแม่ทัพผู้นี้ช่างแข็งแกร่ง จนอาจจะคิดเลยเถิดไปถึงว่าเขานั้นเหนื่อยไม่เป็น แต่ตอนนี้หนุ่มน้อยที่เพิ่งจะเคยเห็นหน้า กลับเข้าอกเข้าใจเขาอย่างลึกซึ้งเสียอย่างนั้น

“ก็ปฏิเสธไม่ได้หรอก เพียงแต่ลูกผู้ชายจะต้องไม่โอดครวญ”

“จะลูกผู้ชายหรือลูกผู้หญิงก็มีสิทธิ์เหนื่อยด้วยกันทั้งนั้น”

“หากอยู่ข้างนอก เจ้าคงจะนับเป็นผู้ที่หัวแข็งน่าดู” เขาตั้งข้อสังเกตเมื่อเห็นท่าทางไม่ยอมคนของนาง

“ข้าพูดความจริงนี่นา”

“คุยกับเจ้าสนุกดี ข้าอารมณ์ดีขึ้นมาก” เขากล่าวขึ้นมาดื้อ ๆ

หยางจูกลั้นยิ้ม รีบก้มหน้าซ่อนความรู้สึก “ท่านก็พูดคุยมากกว่าที่ข้าคิดเอาไว้”

“อืมม ทุกคนมักจะคิดว่าข้าเย็นชาสินะ”

“เคร่งขรึมมากกว่าขอรับ”

อันที่จริงนางเคยได้ยินคนเรียกเขาว่าแม่ทัพหน้านิ่งเสียด้วยซ้ำ และถ้าหากเขาไม่ได้ยิ้ม เขาก็ดูมีหน้าเดียวจริง ๆ แต่ใครจะไปพูดอย่างนั้นต่อหน้าเขากัน

“ฮะ ๆ ฉลาดใช้คำดี เจ้าอ่านหนังสือออกหรือเปล่า”

“ออกขอรับ” นางรีบตอบ แต่พอนึกขึ้นได้ว่าชาวบ้านส่วนมากไม่รู้หนังสือ จึงแก้คำพูดเสียใหม่ “ข้าอ่านออกขอรับ แต่ก็ไม่ค่อยคล่องนัก”

“แต่ก็เขียนได้ด้วยใช่หรือไม่”

“ขอรับ ว่าแต่ท่านถามด้วยเหตุอันใดหรือ”

“ข้าเป็นนายของเจ้า จะถามด้วยเรื่องอันใดก็ให้เป็นธุระของข้าเถอะ”

นางไม่สามารถอ่านสีหน้าของเขาได้ แม้จะไม่ได้เคร่งขรึมจริงจัง แต่ก็ไม่ได้ยิ้ม นางจึงไม่กล้าเอ่ยคำใดออกไป เขาเองก็คล้ายจะลืมว่ายังมีคนอื่นอยู่ในนี้ด้วย ถึงได้ก้มหน้าก้มตากินอาหารไม่พูดไม่จา แม้จะบอกว่าน้ำแกงรสชาติแปลกไป แต่ก็กินเสียหมดถ้วย

“ท่านแม่ทัพขอรับ ท่านรองแม่ทัพจางมาขอเข้าพบขอรับ” ทหารยามเปิดกระโจมแล้วเดินเข้ามาแจ้ง

“ให้เข้ามาได้”

หยางจูกำลังจะกลับออกไปด้วยความเงียบเชียบระหว่างที่ทั้งสองจะคุยธุระกัน และนางก็ไม่อยากจะเจอรองแม่ทัพเมื่ออยู่ต่อหน้ามู่หรงเซียวหนานด้วย เกรงว่าจะแสดงละครกันไม่เก่ง หรือทำอะไรที่จะให้ชายหนุ่มสงสัยเอาได้

แต่นางยังไม่ทันไปไหน จางซื่อหมิงก็เดินตึงตังเข้ามาด้วยความ

เร่งรีบ เมื่อเห็นนางเข้า เขาก็เผลอเรียกชื่อ

“หยาง...”

“ข้าขอตัวก่อนนะขอรับ” ก่อนที่ชื่อของนางจะหลุดออกมาจากปากจางซื่อหมิงจนหมด นางก็รีบขัดจังหวะ แล้วทำความเคารพคนทั้งสองรีบ ๆ ก่อนจะเผ่นออกมาอย่างรวดเร็ว

“เอ้า ดูสิ รีบร้อนอะไรขนาดนั้น” มู่หรงเซียวหนานหัวเราะอยู่ในลำคอ ก่อนจะผายมือให้รองแม่ทัพคู่ใจนั่งเก้าอี้ฝั่งตรงข้าม ผู้อื่นอาจไม่รู้ แต่จางซื่อหมิงแทบไม่อยากเชื่อสายตาตัวเองที่สหายหน้านิ่งมีท่าทีถูกใจเจ้าเด็กยกสำหรับคนใหม่ถึงเพียงนี้ เขาเริ่มเห็นความหวังอยู่รำไร หากองค์หญิงหยางจูบรรลุประสงค์โดยเร็ว ศีรษะเขาคงตั้งอยู่บนบ่าได้นานขึ้น เขานั่งลง แล้วทั้งสองก็เริ่มสนทนากันด้วยเรื่องแผนการรบ

หยางจูเดินวนหาทางกลับไปยังโรงครัว แต่เลี้ยวผิดจนไปเจอโรงผลิตอาวุธแทน จึงต้องถามเอากับทหารแถวนั้นว่าโรงครัวอยู่ทางใด เมื่อกลับมาถึงโรงครัวขนาดใหญ่ ลี่ถังก็รีบวิ่งเข้ามาหา

“หยางหยาง เจ้ารู้ไหมว่าตัวเองไปนานแค่ไหน ตอนนี้หัวหน้าโมโหมาก เพราะคิดว่าเจ้าเถลไถล หากข้าไม่กลับมารับหน้าให้ เจ้าได้โดนเขาฟาดแน่” ลี่ถังกระซิบกระซาบ

“แต่ข้าเพิ่งมาใหม่ เขาจำข้าได้อย่างไร”

“โธ่ หยางหยาง เจ้าตัวเล็กที่สุด หน้าหวานราวกับสตรี ผิวก็ขาวผ่อง ใครเห็นเจ้าแม้เพียงครั้งแรกก็ต้องสะดุดตาและจำได้กันทั้งนั้น แล้วอย่างเจ้านี่ ทั้งกองทัพเห็นจะมีแต่เจ้าผู้เดียว”

ลี่ถังไม่ได้กล่าวประการใดผิดแม้แต่น้อย อย่างนางทั่วทั้งกองทัพมีเพียงหนึ่ง

“แล้วเขาเรียกหาข้าด้วยเหตุอันใด”

“ก็ไม่ได้มีเรื่องสำคัญหรอก เพียงแต่เขาต้องการจะใช้งานคนทุกคนที่อยู่ที่นี่เท่านั้นเอง” ลี่ถังพานางเดินเลี่ยงไปอีกทาง แต่ก็ไม่รอดหูรอดตาคนอื่นอยู่ดี

“มาแล้วเรอะ เจ้าตัวขี้เกียจ ให้ไปส่งข้าวแค่นี้ แต่หายหัวไปตั้งนาน เจ้าไปแอบอู้งานรึ” หัวหน้าโรงครัวที่มือข้างหนึ่งถือตะหลิวข้างหนึ่งยกเท้าสะเอวตะโกนอย่างโกรธเกรี้ยว

“ข้าเปล่านะขอรับ ข้าสาบานได้” นางรีบทำเป็นกลัวตัวสั่น “แต่ที่ข้ามาช้า เป็นเพราะท่านแม่ทัพชื่นชมว่าโรงครัวของเราทำอาหารได้ถูกปากเสมอ จึงให้ข้าอยู่คุยเรื่องอาหารต่อ แล้วยังชมท่านไม่ขาดปากด้วย”

ดวงตาของเขาวาววับเมื่อได้รู้ว่าตัวเองถูกสรรเสริญเยินยอ จนลืมความโกรธเมื่อครู่ไปหมดสิ้น

“ฮ่า ๆ อย่างนั้นรึ” ถามเพื่อความแน่ใจ

หยางจูพยักหน้าหนักแน่น เขาจึงยอมปล่อยนางไป

“รีบไปทำงานเถอะ ก่อนที่เขาจะอารมณ์เสียอีกรอบ แล้วมาพาลเอากับเจ้า” ลี่ถังดันนางไปตรงที่คนส่วนมากกำลังแช่ข้าวเพื่อจะหุงสำหรับมื้อเย็น ราวกับพวกเขาเป็นฟันเฟืองที่หมุนไปเรื่อย ไม่เคยหยุดและว่างเว้นจากการทำงาน

นางมองไปรอบ ๆ และเป็นอีกครั้งที่เกิดสงสัยว่าตนเองต้องทำถึงขนาดนี้เชียวหรือ แต่หากนางท้อถอยแล้วกลับไป เสด็จพ่อจะต้องจับนางสมรสกับบุรุษแปลกหน้าแน่นอน แล้วนางก็จะต้องทนนอนเคียงข้างคนที่ไม่เคยรู้จักแม้แต่น้อยไปตลอดชีวิตที่เหลือ แค่ฟังก็เศร้าใจเหลือเกินแล้ว

Related chapters

  • อุบายรักแม่ทัพหน้านิ่ง   ตอนที่ 10

    หน้าที่ขององค์หญิงแห่งแคว้นยังคงวนเวียนอยู่ในโรงครัวเป็นส่วนใหญ่ และนางต้องหมกตัวอยู่ในนั้นตลอดทั้งวัน วิ่งวุ่นหัวหมุนไปกับการหั่นล้างอะไรสักอย่างตลอดเวลา ซึ่งนางก็ล้วนแล้วแต่ทำไม่เป็น หากรองแม่ทัพจางไม่ช่วยเหลือ แกล้งเรียกนางเข้าพบเพราะนางอ่านออกเขียนได้ นางก็คงจะไม่ได้มีเวลาพักผ่อนเลยแม้แต่น้อย ทุกคนต่างก็ทำงานหนักอาบเหงื่อต่างน้ำด้วยกันทั้งสิ้น ราวกับว่าค่ายแห่งนี้ไม่เคยหลับใหล แม้แต่ยามกลางคืน นางก็ยังสามารถได้ยินเสียงพูดคุย เสียงความเคลื่อนไหวด้านนอก และเห็นแสงไฟวับแวมที่จุดอยู่โดยรอบ นอกจากช่วงเวลาที่จะต้องยกข้าวยกน้ำให้กับมู่หรงเซียวหนานแล้ว หยางจูไม่มีทางได้เจอเขาอีก ไม่ใช่แค่เพราะเขาไม่ว่าง แต่เพราะนางหมกตัวอยู่แต่ในครัว ราวกับไข่มุกที่ไม่ถูกค้นพบ หยกที่ยังไม่ได้เจียระไน แล้วมันจะไปมีความหมายอันใดที่นางดั้นด้นลำบากมาถึงนี่ และถึงแม้นางจะได้เวลาชั่วพักชั่วครู่ ระหว่างที่เขารับประทานอาหาร แต่ในช่วงเวลานั้น ก็มักจะมีผู้คนมากมายมารอเข้าพบท่านแม่ทัพเป็นการส่วนตัวอยู่เสมอ เท่ากับว่านางแทบจะไม่มีเวลาอยู่กับเขาเพียงสองคนเลย “เฮ้ออออออ……” คิดแล้วก็ได้แต่ทอดถอนใจ นางพั

    Last Updated : 2024-11-09
  • อุบายรักแม่ทัพหน้านิ่ง   ตอนที่ 11

    “เนื้อหมูและปลาตากแห้งเจ้าค่ะ ท่านองครักษ์บอกว่าชีวิตในนี้ยากลำบากนัก หากเป็นทหารชั้นประทวนยิ่งไม่มีทางที่จะได้แตะเนื้ออะไรทั้งนั้น ข้าจึงเอาเนื้อนี้มาให้ แล้วข้าก็คิดถูก นี่มาอยู่ไม่เท่าไหร่ ท่านก็ผมลงอย่างเห็นได้ชัด” หยางจูก้มลงมองตัวเอง นางไม่ได้ผอมลงไปแม้แต่น้อย แต่แน่ล่ะ ลู่อิงก็ชอบกังวลเกินเหตุและกล่าวอะไรเกินจริงอยู่ตลอด “ถ้าอย่างนั้นก็ขอบใจเจ้ามาก” นางรับมาด้วยความเต็มใจ “หากไม่มีอะไรแล้วก็กลับไปเถอะ เดี๋ยวใครมาเห็นเข้าจะสงสัยเอาได้ ข้าไม่ใช่คนพื้นเพ ไม่สมควรจะรู้จักใครที่นี่” “เจ้าค่ะ” รับคำแบบไม่เต็มใจนัก ก่อนจะเอื้อมมือมาจับมือองค์หญิงที่ตัวเองดูแลมาแต่เล็กแต่น้อย รู้สึกว่ามือนั้นกร้านขึ้นก็ทั้งตกใจและสงสารจับใจ “ข้าไม่ได้เป็นอะไรลู่อิง มือข้าก็ยังอยู่ดี” หยางจูพูดอย่างรู้ทันความคิด “โธ่…คุณชาย…” ลู่อิงโอดครวญตามประสา “เอาละ พวกเจ้ากลับไปได้แล้ว นี่ข้าออกมานานแล้ว เกรงว่าจะมีคนสงสัยเอาได้” “ขอรับ ขอให้ท่านรักษาตัวด้วย” เป็นเซี่ยหานปิงชิงพูดขึ้นมาก่อนที่หญิงสาวข้างกายจะเอ่ยอะไรยืดยาวเป็นการไม่จบสิ้น และได้รับค้อนจากลู่อิงไปหนึ่งวง หยางจูเ

    Last Updated : 2024-11-11
  • อุบายรักแม่ทัพหน้านิ่ง   ตอนที่ 12

    วันหนึ่งระหว่างที่หยางจูกำลังกวาดใบไม้ใบหญ้าและทำความสะอาดบริเวณครัวทั้งหมด มีกลุ่มนายทหารสี่นายที่แวะเวียนเข้ามาคุยกับนางเป็นครั้งคราว ทุกคนเดินเข้ามาหาพร้อมรอยยิ้มกรุ้มกริ่มที่นางเห็นแล้วรู้สึกใจไม่ดี หากจำไม่ผิดชายตัวสูงโย่งและผอมยิ่งกว่าลี่ถังคือเฉิงชุน คนที่ยืนข้าง ๆ เขาที่มักจะไปไหนมาไหนด้วยกันเหมือนเป็นลูกน้องคือตงฟาง ส่วนคนที่ดูมีอายุหน่อยและไม่ค่อยพูดมากนักจนดูไม่เข้ากับทุกคนชื่อเล่อเหลียน แต่อีกคนนั้นนางจำไม่ได้ “หยางหยาง เจ้านี่ร้ายไม่เบาเลยนะเนี่ย” “ช่ายยย เห็นหน้าซื่อตาใสเช่นนี้ ที่ไหนได้ กลับซ่อนเขี้ยวเล็บเอาไว้จนมิด” “เรารู้ความลับของเจ้าหมดแล้ว ทีนี้ก็เล่ามาให้หมดเปลือก” หยางจูยืนตัวแข็ง มือที่จับไม้กวาดแทบจะร่วงผล็อยลงข้างตัว แต่นางก็ยังทำไขสือ “พวกเจ้าพูดเรื่องอะไรกัน ข้าไม่มีความลับอะไรทั้งนั้น” “แน่ใจหรือ แต่พวกข้าซึ่งมีตาแปดคู่มองเห็นชัดแจ้งเลยนะ ว่าเจ้าแอบทำอะไรเมื่อวันก่อน” นางแอบไปทำอะไรให้คนพวกนี้จับได้นะ ในเมื่อเวลาแต่งตัว นางก็อยู่แต่ในกระโจม ไปอาบน้ำหรือก็หอบผ้าหอบผ่อนไปตอนกลางคืน แถมบ่อน้ำยังอยู่ด้านหลังโน่น หรือพวกเขาแ

    Last Updated : 2024-11-13
  • อุบายรักแม่ทัพหน้านิ่ง   ตอนที่ 13

    “เจ้าอย่ามาสนใจข้าเลย เราไม่ได้มีเรื่องขุ่นเคืองใจต่อกันแม้แต่นิด” “แต่ข้าไม่ชอบเจ้านี่หว่า” ว่าแล้วก็เหวี่ยงถังน้ำของตัวเองมากระแทกขานางเต็มแรง “โอ๊ย!!” หยางจูล้มลงไปกับพื้น ขณะที่ไอ้อันธพาลก็หัวเราะชอบใจ น้ำที่แบกมาอย่างยากลำบากเจิ่งนองไปทั่ว ภายนอกนางไม่ได้เจ็บอะไรมากนัก แต่นางเจ็บใจมากกว่า “ไอ้ชั่ว ข้าอุตส่าห์มาได้ไกลถึงขนาดนี้ เจ้าทำน้ำข้าหกหมด” “นี่เจ้าเรียกข้าว่าอย่างไรนะ” มือหยาบกร้านจับเข้าที่ข้อมือของนางแล้วบีบอย่างแรง “หยุด!!” เสียงห้วนห้าวบอกถึงความมีอำนาจดังก้อง ก่อนที่เจ้าของเสียงจะเดินดุ่มเข้ามาหาด้วยท่าทางโกรธเกรี้ยว “ท่านรองแม่ทัพ” นางครางด้วยความโล่งใจ “เจ้าทำอะไร รังแกผู้อื่นงั้นหรือ เหตุใดถึงกล้าทำร้ายพี่น้องร่วมทัพกับเจ้า” เมื่อจางซื่อหมิงสวมบทบาทขึงขังเอาจริงเอาจัง หยางจูก็อดรู้สึกแปลกใจระคนกลัวเกรงไม่ได้ เนื่องจากนางไม่เคยเห็นเขาเป็นแบบนี้มาก่อน “ทะ...ท่านรองแม่ทัพ ข้าน้อยไม่ได้...” “อย่าคิดที่จะปฏิเสธ ข้าเห็นเต็มสองตา บอกชื่อของเจ้ามา” เจ้าคนอันธพาลอึกอักเหงื่อตก ก้มหน้ามองพื้นไม่กล้าสบตา ต่างจากตอนที่รังแกนางลิบลั

    Last Updated : 2024-11-15
  • อุบายรักแม่ทัพหน้านิ่ง   ตอนที่ 14

    ดูเหมือนว่าฟาหยางจะผูกใจเจ็บกับนางเสียเหลือเกิน หลายวันมานี้ หยางจูสังเกตได้ว่าเขามักจะมองตามนางเสมอ ไม่ว่านางจะเคลื่อนตัวไปไหนหรือทำสิ่งใด ก็จะเห็นสายตาของเขาคอยทิ่มแทง ไม่แน่ว่าความไม่เป็นมิตรนี้ น่าจะมาจากการที่เขาแค้นใจเมื่อโดนรองแม่ทัพตักเตือนอย่างรุนแรง แต่จะโทษใครได้ ในเมื่อเขาทำตัวเองทั้งสิ้น “เจ้านั่นน่ะ มัวแต่เหม่ออะไรอยู่ ข้าบอกให้ยกหม้อมา” หยางจูสะดุ้ง ทำอย่างไรก็ชินชากับเสียงกระโชกโฮกฮากไม่ได้สักที นางรีบยกหม้อไปให้ แต่มันใหญ่และหนักจนแขนของนางสั่นพั่บ ๆ จนแทบจะทำของที่อยู่ข้างในหกออกมา “โอ๊ย พวกเราจะได้กินดีไหมนี่ ถ้าให้เจ้าอ่อนปวกเปียกมายกข้าวให้ ระวังมันจะทำคว่ำทั้งหม้อนะ” ฟาหยางตะโกน ส่วนเพื่อนอันธพาลด้วยกันก็หัวเราะเป็นลูกคู่ เสียงดังจนคนอื่น ๆ หันมามอง นางทำหน้าบึ้ง ต้องอดใจแทบตายที่จะยกหม้อทั้งหม้อสาดใส่ แต่มันหนักเกินกว่าจะทำอะไรได้ พอดีกับที่ลี่ถังรีบลุกมาช่วย ตอนนี้เขาเหมือนเป็นผู้ช่วยส่วนตัวของนางไปแล้ว หยางจูนึกเล่น ๆ ว่าหากกลับไปที่วังหลวงนาง จะแต่งตั้งให้เขาเป็นหนึ่งในองครักษ์ใกล้ชิด หรือหากเขาไม่ชอบนางก็จะบอกเสด็จพี่ให้ปูนบำเหน็จหรือเล

    Last Updated : 2024-11-17
  • อุบายรักแม่ทัพหน้านิ่ง   ตอนที่ 15

    “เฉิงชุน”นางดึงเสื้อเขาไว้เมื่อชายหนุ่มร่างหนาทำท่าจะพุ่งเข้าไป เมื่อเห็นความยียวนของอีกฝ่าย นางไม่อยากให้เป็นเรื่องเป็นราวกัน เพราะนางยังต้องอยู่ที่นี่อีกนาน แม้ว่านางจะรู้สึกเจ็บมากก็ตาม“ตรงนั้นน่ะ มีเรื่องอะไรกัน” หัวหน้าตะโกนถามขึ้นเมื่อเห็นความผิดปกติ“ไม่มีขอรับ ข้ากำลังจะไปทำงานตามที่ท่านหัวหน้าสั่งขอรับ”ฟาหยางตะโกนตอบ ก่อนจะหันมายิ้มหยันตบท้าย แล้วเดินวางโตออกไป“เจ้าน่าจะให้ข้าได้สั่งสอนมัน เห็นอยู่ว่ามันตั้งใจจะแกล้งเจ้า”เฉิงชุนแค้นใจแทน“ข้ารู้ แต่หากเจ้าตอบโต้มัน เจ้าเองก็จะเดือดร้อนด้วยเช่นกัน คนแบบนี้หากหมดสนุกก็คงเลิกไปเอง” นางพูดเพื่อสงบอารมณ์ของเฉิงชุนเท่านั้น เพราะรู้ดีว่านิสัยอันธพาลไม่ได้หายง่าย ๆ“เจ้าเจ็บตรงไหนหรือไม่” ลี่ถังมองด้วยสายตาเป็นห่วง แขนยังคงโอบประคองนางไว้“ข้าไหวน่า ถึงจะตัวเล็ก แต่ข้าก็ไม่ได้อ่อนแอนะ แค่ล้ม จะเจ็บแค่ไหนกันเชียว”หยางจูแสร้งก้มลงไปหยิบถังน้ำขึ้นมา แต่ความเจ็บแล่นปลาบ นางก็ได้แต่กัดฟันทน ไม

    Last Updated : 2024-11-19
  • อุบายรักแม่ทัพหน้านิ่ง   ตอนที่ 16

    ข่าวการเคลื่อนไหวอย่างรวดเร็วของกบฏชายแดนสร้างความแตกตื่นให้กับกองทัพขนานหนัก ในเมื่อที่ผ่านมา ตั้งแต่เหล่าทหารถูกส่งมายังค่าย ฝ่ายตรงข้ามก็แทบไม่มีความเคลื่อนไหวใดชัดเจนและเป็นรูปเป็นรอยถึงเพียงนี้ ทหารทุกนายที่ต้องตื่นมาจับศาสตราวุธทุกเมื่อเชื่อวันแต่ยังไม่เคยได้ปะหน้ากับศัตรูจึงไม่มีความกระตือรือร้นใดนัก กระทั่งทหารบนหอสังเกตการณ์วิ่งกระหืดกระหอบลงมานั่นเอง ทุกคนถึงได้ตื่นตัว ข่าวแพร่ออกไปว่าการเคลื่อนทัพของฝ่ายศัตรูนั้นเป็นไปอย่างรวดเร็วจนน่าหวาดหวั่น โชคยังดีที่ท่านแม่ทัพเก่งกล้าสามารถมากพอที่จะอ่านการเคลื่อนทัพเหล่านั้นออกตั้งแต่แรก จึงได้เตรียมแผนการรับมือเอาไว้แล้วเรียบร้อย และวันนี้ เขาจะดูการซ้อมกลยุทธ์ใหม่ที่คิดขึ้นร่วมกับทหารระดับสูงด้วยตัวเอง โดยปกติแล้ว มู่หรงเซียวหนานมักจะตรวจแถวทหารทุกเช้า แต่การซ้อมกลศึกหลากหลายอย่างเต็มรูปแบบ ไม่ได้มีบ่อยนัก การที่ท่านแม่ทัพสั่งการลงมาให้เตรียมทหารเกือบทั้งกองทัพ ไม่เว้นแม้แต่ทหารรับใช้ จึงทำให้ค่ายทั้งค่ายปั่นป่วนไปตาม ๆ กัน โดยเฉพาะหยางจู นางไม่มีความรู้แม้แต่จะถือทวนให้ถูกต้องเสียด้วยซ้ำ สิ่งเดียวที่นางพอจะถือได้

    Last Updated : 2024-11-21
  • อุบายรักแม่ทัพหน้านิ่ง   ตอนที่ 17

    หยางจูหลบอยู่ในกระโจมของจางซื่อหมิงซึ่งไม่ต่างจากของ มู่หรงเซียวหนานนัก เพียงแค่มีอาวุธมากกว่า และตำราน้อยกว่าเท่านั้น อาจเพราะทั้งสองคนถนัดไม่เหมือนกัน แต่ต่างก็เป็นกำลังสำคัญของกองทัพทั้งคู่ นางไม่กล้าเดินไปมามากนัก นอกจากจะเป็นการเสียมารยาทแล้ว ยังกลัวผู้ที่อาจจะหลงเหลืออยู่ เห็นเงาของนางอยู่ในนี้ นางจึงนั่งคุดคู้อยู่ข้างเตียง เฝ้าฟังเสียงการเคลื่อนไหวด้านนอก ทั้งเสียงตะโกนสั่งการ เสียงทหารเกือบหมื่นนายตอบรับคำสั่ง การขยับเท้า ชุดเกราะที่เสียดสีกันและเสียงอาวุธหลากชนิด รวมถึงเสียงม้า ทุกอย่างเป็นไปอย่างพร้อมเรียงและน่าเกรงขาม จนนางนึกอยากจะเห็นภาพนั้นด้วยตาตัวเอง และเป็นส่วนหนึ่งในกองทัพ หากแต่นางก็รู้ดีว่าต่อให้นางจะแข็งแรงเพียงใด แต่ผู้ที่ไม่เคยฝึกฝน ไม่มีทางที่จะอยู่รอดในวงล้อมแห่งความทรหดเช่นนั้นได้ นางนึกเสียใจที่ไม่ได้เตรียมการสำหรับเรื่องนี้มาก่อน หากนางขอให้องครักษ์ช่วยสอน อย่างน้อยนางก็คงจะไม่ต้องมาหลบเป็นตัวตุ่นเพราะจับอาวุธไม่เป็นเช่นนี้หรอก ยังมีทหารอยู่ข้างนอกที่เดินผ่านมาแล้วก็ผ่านไป น่าจะเป็นทหารเวรที่ทำหน้าที่เฝ้าค่าย หยางจูยังคงนั่งอยู่แบบนั้น

    Last Updated : 2024-11-23

Latest chapter

  • อุบายรักแม่ทัพหน้านิ่ง   ตอนที่ 36

    ข่าวที่ได้รับทำเอาเซี่ยหานปิงผู้มีหน้าที่รับผิดชอบชีวิตของ องค์หญิงหยางจูนั่งไม่ติดที่ เมื่อได้รู้ว่านางถูกจับตัวไปโดยฝีมือของไอ้พวกบกฏเล่นไม่ซื่อ ช่างเป็นเรื่องไร้ศักดิ์ศรีอย่างไม่น่าให้อภัย เมื่อพวกมันใช้วิธีการสกปรกเพื่อจะต่อรองกับแม่ทัพมู่หรงเซียวหนานเช่นนี้ แม้จะเข้าใจถึงข้อจำกัดของท่านแม่ทัพ ในการช่วยเหลือผู้ที่ตนเข้าใจว่าเป็นเพียงเด็กรับใช้ และบุรุษเช่นนั้นคงไม่เอากองทัพไปแลกกับคนเพียงหนึ่งคน แต่อย่างน้อย ก็ควรทำสิ่งใดบ้าง ในเมื่อใคร ๆ ต่างก็ดูออกว่าท่านแม่ทัพมีจิตผูกพันรักใคร่นางไม่มากก็น้อย แต่สิ่งที่เขาเห็นมีเพียงความนิ่งเฉย รองแม่ทัพหรือแม้แต่ทหารรับใช้ที่เป็นสหายขององค์หญิงยังเป็นเดือดเป็นร้อนมากกว่า หากเซี่ยหานปิงไม่สามารถพึ่งพาชายที่มีทหารให้เลือกใช้นับหมื่นในมือ เขาก็หวังว่าตนเองจะพอมีทางช่วยเหลือองค์หญิงกลับมาอย่างปลอดภัย เพียงแต่ตอนนี้เขายังมองไม่เห็นทางนัก แต่ก็รู้ดีว่าจะรอช้าไม่ได้ เขายังไม่รู้ว่าจะบอกลู่อิงอย่างไร ไม่ให้นางสิ้นสติหรือร้องไห้คร่ำครวญ ไม่แน่ว่าหากเขาหาทางบอกหรือเลือกคำพูดไม่ดีพอ นางอาจจะทั้งสิ้นสติและฟื้นขึ้นมาร้องไห้คร่ำครวญ ต่

  • อุบายรักแม่ทัพหน้านิ่ง   ตอนที่ 35

    การดำเนินการเรื่องเสบียงคืบหน้าไปมาก แต่ก็ยังไม่เร็วพอที่จะแน่ใจได้ว่าในระหว่างการสู้รบที่กำลังจะมาถึงและต้องใช้เสบียงมากกว่าปกติจะมีเพียงพอหรือไม่ ในขณะเดียวกัน ทัพของข้าศึกก็แข็งแกร่งพอที่จะเริ่มโจมตีกำแพงอยู่ทุกเมื่อเชื่อวัน แม้จะถูกสังหารไปมาก แต่พวกมันก็ไม่เคยยอมแพ้ ส่งผลให้กองทัพที่เจอทั้งปัญหาเรื่องความเหนื่อยล้า ม้าล้มตาย กำลังใจถดถอย เสบียงก็ร่อยหรอลง อาวุธที่มีอยู่ก็ดูเหมือนจะมีไม่พอระส่ำระสายขึ้นมา ข่าวลือหนาหูว่าท่านแม่ทัพเป็นพวกตัดแขนเสื้อ ทำให้หลายฝ่ายเกิดความไม่พอใจ มู่หรงเซียวหนานรู้ดีถึงข้อครหาที่เกิดขึ้น จึงสร้างระยะห่างเอาไว้เพราะความเป็นชายที่มันค้ำคอ และเพื่อรักษาเกียรติยศของวงศ์ตระกูล จางซื่อหมิงมักจะตำหนิใครก็ตามที่กล้าเอาเรื่องนี้มาพูด แต่ยิ่งห้าม ก็เหมือนเรื่องจะลุกลามไปเร็วขึ้น พอดีกับที่ฟาหยาง เจ้าคนพาลออกมาจากคุก แม้สติไม่สมประกอบนัก แต่ก็ยังจำได้ว่าใครเป็นคนทำให้ตัวเองต้องเข้าไปอยู่ในนั้น จึงได้วางแผนร้ายอยู่ในใจเพื่อที่จะได้แก้แค้นให้สาสม “ท่านแม่ทัพ คืนนี้จะให้ข้าอยู่ช่วยงานหรือไม่ขอรับ” หลายวันมานี้ หยางจูรู้สึกได้ว่าทั้งคู่มีระยะห

  • อุบายรักแม่ทัพหน้านิ่ง   ตอนที่ 34

    “ข้ากลับมาใหม่ดีกว่า” นางถอยหลัง “จะไปไหน ข้าต้องการให้เจ้าช่วยอยู่พอดี” “ชะ...ช่วย ช่วยอะไรหรือขอรับ” หากให้ช่วยถอดท่อนล่างด้วย นางไม่ตายเลยหรือนี่ ขอให้นางไปตั้งหลักก่อนมิได้หรือไร “ช่วยหาเสื้อสะอาด ๆ มาให้ข้าสวมที เย็นนี้จะไม่ออกไปไหนแล้ว นี่คิดว่าข้าจะให้ทำสิ่งใด ถึงได้ทำหน้าปะหลับปะเหลือกเพียงนั้น” หยางจูสั่นหน้าระรัว รีบค้นเอาเสื้อออกมาตามคำสั่ง แต่เขากลับกางแขนออก แล้วทำท่าให้นางช่วยสวมให้ หยางจูมือไม้สั่นรีบจัดการสวมเสื้อให้เขาโดยเร็ว “ขอบใจเจ้ามาก” เขากล่าวเมื่อนางถอยห่างออกมา “ขอรับ ท่านหิวแล้วหรือยังขอรับ” “อีกสักพักหนึ่ง หรือเจ้าหิวแล้ว” “ข้าจะรอให้ท่านกินอิ่มก่อนแล้วค่อยไป” “ข้าจะให้เจ้าเอามากินด้วยกัน เพราะเจ้าต้องช่วยงานข้าอีกมาก อาจจะแล้วเสร็จตอนดึกโน่น” เขากล่าวเนิบ ๆ ดูไม่ได้มีจุดประสงค์ใดแอบแฝง แต่หยางจูเองก็รู้สึกได้ว่ามู่หรงเซียวหนานชอบเรียกหานางและใช้เวลาอยู่ด้วยนานขึ้น “แต่มันอาจจะไม่เหมาะสมหรือเปล่าขอรับ” “แล้วใครจะเป็นผู้บอกว่าเหมาะสมหรือไม่ นอกจากข้าคนนี้ หรือหากมีใครมารังแกเจ้า แค่เพรา

  • อุบายรักแม่ทัพหน้านิ่ง   ตอนที่ 33

    จางซื่อหมิงมาดักรอหยางจูระหว่างเดินกลับจากกระโจมของท่านแม่ทัพ เนื่องจากลู่อิงได้รอเอาอาหารและของใช้ส่วนตัวมาให้ พร้อมทั้งรับจดหมายที่องค์หญิงต้องเขียนตอบองค์ชายชาง การจะลอบเจอกันยากเย็นขึ้นทุกที นอกจากจะต้องหลบเลี่ยงสายตาของคนทั้งค่าย ซึ่งแม้จะอยากรู้อยากเห็นแต่ไม่กล้าที่จะจุ้นจ้านวุ่นวายกับเขามากนัก แต่ช่วงหลังมานี้ เรื่องที่ยากลำบากกว่านั้นคือ มู่หรงเซียวหนานเอาแต่จับจ้องเมื่อใดก็ตามที่เขาเข้าใกล้องค์หญิงหยางจู ซ้ำยังกีดกันทุกครั้งที่มีโอกาสด้วย อย่างวันก่อนตอนที่เขาเสนอจะเดินหมากด้วยเพื่อฆ่าเวลาก่อนการออกไปคุ้มกันเสบียงที่ส่งเข้ามา มู่หรงเซียวหนานก็เอาแต่รบเร้าให้เขารีบไป ไหนจะตอนที่เขาเอาขนมจากข้างนอกมาฝาก แม่ทัพหนุ่มก็แย่งจากมือขององค์หญิงไปกินหน้าตาเฉย ไม่ใช่ว่าหลงรักคนข้างกายของตนเองแล้วไม่ยอมรับหรอกหรือ “ท่านรองแม่ทัพ” เสียงเรียกดังมาจากหลังต้นไม้ที่อยู่หลังห้องเก่า ๆ ผุพังอีกที “องค์หญิง แม่นางลู่อิงมารออยู่ที่เดิม เมื่อพบนางแล้ว ให้กลับมาโดยเร็วนะพ่ะย่ะค่ะ” เขาบอกแม้จะมองไม่เห็นตัวของนาง “เข้าใจแล้ว ท่านอย่างเพิ่งไปไหน ข้ามีเรื่องจะคุยด้วย”

  • อุบายรักแม่ทัพหน้านิ่ง   ตอนที่ 32

    “เหตุใดชิงเอ๋อร์จึงเอ่ยถึงเรื่องรัก ๆ ใคร่ ๆ เช่นนี้ขึ้นมาได้ ข้าไม่ได้ถามถึงเรื่องนี้เสียหน่อย” เขาถอนหายใจ พับจดหมายกลับใส่ซองเอาไว้เหมือนเดิม ก่อนจะนั่งลงตกตะกอนความคิดอยู่ครู่หนึ่ง ปล่อยใจทำในสิ่งที่อยากทำอย่างนั้นหรือ เขาพึมพำกับตัวเอง ฉับพลันก็นึกถึงหน้าของหยางหยางขึ้นมา “แล้วเราจะไปนึกถึงเจ้านั่นทำไมกัน” ชายหนุ่มถูหัวคิ้วอย่างหวั่นวิตกแบบที่ไม่เคยเป็นมาก่อน พักหลังมานี้ ตั้งแต่ให้หยางหยางมาเป็นทหารรับใช้ ห้วงความคิดของมู่หรงเซียวหนานก็มักจะวนเวียนอยู่กับเจ้าตัวเล็กหน้าหวาน คอยห่วงว่าจะโดนคนอื่นกลั่นแกล้งหรือไม่ อาหารการกินเป็นอย่างไร หรือแม้แต่คืนที่เจ้าตัวหอบผ้าหอบผ่อนเดินลับ ๆ ล่อ ๆ แล้วพูดปดกับเขา เขากลับไม่มีกะจิตกะใจจะซักถามเอาความในเรื่องนั้น แต่กลับไปจดจำความนุ่มนวลในกิริยาท่าทางและกลิ่นกายหอมกรุ่นเสียได้ มันเกิดสิ่งใดขึ้นกับตัวเขากันแน่ หรือเขาจะเขียนไปบอกชิงเอ๋อร์อีกรอบโดยละเอียด แต่ถ้าหากเขียนไปว่าว้าวุ่นใจเพราะชายคนหนึ่ง มันจะต้องเป็นเรื่องที่หนักหนาสาหัสแม้แต่กับคนเช่นนางแน่ หรือไม่ใช่ มู่หรงเซียวหนานถอนหายใจเฮือกใหญ่ สอดจดหมายเ

  • อุบายรักแม่ทัพหน้านิ่ง   ตอนที่ 31

    มู่หรงซียวหนานพับจดหมายสอดใส่ในซอง พร้อมทั้งประทับตราส่งหาน้องสาวด้วยความร้อนรน ขณะยืนมองคนส่งสารเดินออกไปนั้น เขาก็กระวนกระวายจดจ่อที่จะได้รับคำตอบจากคนที่เขาให้ความไว้วางใจอย่างสูง เรื่องที่เขียนฝากไปนั้น ก็จำเป็นจะต้องใช้ความละเอียดอ่อนในการตอบ มันจึงต้องเป็นเยว่ชิงเพียงคนเดียวเท่านั้นที่จะให้คำตอบแก่เขาได้ จดหมายมาถึงมู่หรงเยว่ชิงในหลายวันต่อมา นางเองก็ฉงนใจที่พี่ชายระบุเอาไว้ว่าให้ส่งจดหมายนี้ถึงมือนางเท่านั้น เพราะโดยปกติแล้ว เขาจะเขียนถึงบิดามารดาและรวมเอาน้องทั้งสามเข้าไปด้วยในคราวเดียวกัน นางเปิดจดหมายออกอ่านด้วยหัวใจลุ้นระทึก เห็นลายมือที่เป็นระเบียบน้อยกว่าปกติของพี่ชายก็รับรู้ได้ทันทีว่าเป็นเรื่องสำคัญ นางจึงต้องเดินเข้ามาในห้องชั้นในแล้วอ่านคนเดียว ชิงเอ๋อร์น้องพี่ พี่มีเรื่องร้อนใจจะถามความคิดเห็นของเจ้า เมื่อไม่นานมานี้พี่เกิดอาการแปลกประหลาด แต่ไม่อาจบอกได้ว่ามันคือสิ่งใด แต่อาการนั้นรบกวนจิตใจพี่จนอยู่ไม่สุข เพราะมันผิดต่อฟ้าดินและความเป็นชายอกสามศอก รวมถึงตำแหน่งแม่ทัพที่พี่ดำรงอยู่ พี่แค่อยากจะถามว่าหากเป็นเจ้าแล้ว เจ้าจะกล้าฝืนทุกอย่างเพื่

  • อุบายรักแม่ทัพหน้านิ่ง   ตอนที่ 30

    หรือจะพูดคุยกันเช่นนี้เป็นประจำ “ฮึ!” “ท่านแม่ทัพ ข้าเห็นท่านไม่สบอารมณ์ตั้งแต่เมื่อครู่ ขอถามได้หรือไม่ว่าเกิดอันใดขึ้น หรือกองทัพของเราติดปัญหาที่ตรงไหน” จางซื่อหมิงเดินตามสหายออกมาด้วยความกังวล “เจ้ากับหยางหยางคุ้นเคยกันดีหรือ” “หา!” “คำถามนี้เข้าใจยากตรงไหน” มันไม่ได้เข้าใจยาก แต่ไม่คิดว่าจะถูกถามต่างหาก จางซื่อหมิงเลียริมฝีปาก หรือท่านแม่ทัพจะระแคะระคายสถานะขององค์หญิงเข้า ทุกคนเดือดร้อนกันหมดแน่ “ไม่ถึงขนาดสนิทสนมหรอกท่าน เพียงแต่หยางหยางไหวพริบดี ทำงานเก่ง แล้วยังเป็นเกลอกับเจ้าลี่ถัง ทหารร่วมเป็นร่วมตายของข้า ข้าจึงเอ็นดูหยางหยางเป็นพิเศษ” คิ้วเข้มเลิกขึ้นคล้ายจะไม่เชื่อในคำพูดนั้นเท่าใดนัก “เพียงแต่เอ็นดูเท่านั้นหรือ” “หรือท่านไม่คิดว่าเขาน่าเอ็นดู” ถามกลับพลางทำสีหน้าลึกลับ พานให้คนถามรู้สึกราวกับถูกล่วงรู้ความลับ แต่...เขามีความลับอะไรที่ไหนกัน “ก็ใช่ แต่บางครั้งก็เปิ่นเป๋อเกินไป” “นั่นแหละที่ทำให้หยางหยางน่าเอ็นดูมิใช่หรือ” มู่หรงเซียวหนานไม่ตอบ ความขุ่นเคืองที่เพิ่งทุเลาลงโหมกระพือขึ้นมา

  • อุบายรักแม่ทัพหน้านิ่ง   ตอนที่ 29

    เขาเผลอทำเสียงดังไปหน่อย สายตาทุกคู่จึงหันมาหาด้วยความกังขา “ข้าหมายความว่าคนหมดสติล้มพับลงไป เพียงแค่นอนพักเท่านั้นเองหรือ ร่างกายช่างน่ามหัศจรรย์โดยแท้” ยิ่งพูดก็ยิ่งทำให้คนฟังสังเกตเห็นถึงความแปลกประหลาดของท่านแม่ทัพที่เคยสุขุมนุ่มลึก มาบัดนี้กลับร้อนรุ่มเสียจนปิดเอาไว้ไม่มิด เพียงแค่เด็กรับใช้ข้างกายเกิดเจ็บป่วย เช่นเดียวกับทุกคนที่อยู่ที่นี่ มีทหารมากมายร้องโอยโอยอยู่รายรอบ สายตาของมู่หรงเซียวหนานกับมุ่งตรงไปยังคนผู้เดียว เป็นเหตุให้เกิดความคิดมากมายหลายประการ “หยาหยาง” เขาก้มหน้าเข้าไปใกล้ เพ่งมองใบหน้าแดงจัดเพราะพิษไข้และเห่อร้อน ก่อนจะเหลือบมองจางซื่อหมิงที่ยังนั่งติดเตียง โดยไม่รู้เลยว่ากำลังโดนสายตาพิฆาตเล่นงานอยู่ ในใจของจางซื่อหมิงทั้งกังวลทั้งหวาดกลัว นับตั้งแต่องค์หญิง หยางจูมาที่นี่ เขายอมรับว่าไม่สามารถนอนหลับอย่างไร้กังวลได้สักคืน นางก็ถือเป็นความรับผิดชอบอันใหญ่หลวงของเขา ใคร ๆ ต่างก็รู้ว่าฮ่องเต้รักใคร่องค์หญิงหยางจูเพียงใด นอกจากนี้เมื่อได้มารับใช้ใกล้ชิด เขาก็อดจะรู้สึกชื่นชมและผูกพันกับนางแบบข้ารับใช้ที่ซื่อสัตย์ไม่ได้ ยิ่งเป

  • อุบายรักแม่ทัพหน้านิ่ง   ตอนที่ 28

    เมื่อมาถึงกระโจมหยางจูรีบเปิดประตูเข้าไป โยนเสื้อผ้าไว้ในหีบ พร้อมกับล้มตัวลงนอนด้วยความสดชื่นหลังจากที่ไม่ได้อาบน้ำอย่างดีมาหลายวันแล้วโดยไม่รู้เลยว่ามีชายสองคนเห็นนางอยู่ข้างนอก เตรียมจะคาบข่าวไปบอกพี่ใหญ่ที่ติดคุกอยู่ “หยางหยาง” นางสะดุ้งลุกพรวดขึ้นนั่ง จำได้ดีว่านั่นคือเสียงของมู่หรงเซียวหนาน “เขามาที่นี่ทำไม” นางพึมพำ ลังเลใจว่าจะเปิดออกไปเลยหรือแสร้งทำเป็นหลับจนไม่ได้ยินเสียงเรียก “หยางหยาง ข้ามีธุระกับเจ้า” มู่หรงเซียวหนานยืนรออยู่หน้ากระโจม อันที่จริงเขาจะเปิดเข้าไปเลยก็ได้ แต่เขาไม่เห็นความจำเป็นที่ต้องทำอย่างนั้น และการถือวิสาสะแม้จะมีตำแหน่งใหญ่โตนั้นไม่ใช่เรื่องดีนัก หรือเขาจะรู้ว่านางคือสตรี! หยางจูคิดอย่างตื่นตระหนก ไม่ได้การละ นางต้องไปแก้ต่างให้ตัวเอง “ท่านแม่ทัพหรือขอรับ” หยางจูทำเป็นตะโกนถามออกไป “ใช่” เสียงทุ้มห้าวตอบรับ มือเล็กกระชับเสื้อที่สวมใส่อยู่ ก่อนจะเปิดประตูออกไปทั้งที่ยังแสร้งหาว ราวกับว่านางนอนหลับอยู่ในห้องมาโดยตลอด “ข้าได้ยินว่ามีการกลั่นแกล้งกันเกิดขึ้นในหมู่นายทหารชั้นประทวน จึงกังวลว่าอาจจะเป็น

DMCA.com Protection Status