Share

ตอนที่ 50 : (っ˘з(˘⌣˘)18+

last update Last Updated: 2025-03-18 13:43:20

ฮัลดาเดินตามองครักษ์มายังห้องที่เขาบอกว่าเชคฮ์อิสราร์ให้เธอมาหา ซึ่งอยู่สูงกว่าชั้นที่เธอพักสองชั้น เธอดูข่าวลอบวางระเบิดจากในทีวีรู้สึกเป็นห่วงเขามาก จึงทิ้งงานทุกอย่างในมือแล้วรีบเดินตามมาอย่างรวดเร็ว

องครักษ์แง้มประตูทิ้งไว้ ทำให้เห็นว่าภายในมืดมาก มีเพียงไฟจากนอกหน้าต่างลอดผ่านเข้ามาได้เท่านั้น เธอค่อนข้างกลัวความมืดจึงเดินเข้าไปด้วยความรู้สึกที่หวาดหวั่นนิดๆ 

ปัง!!

ฮัลดายืนสะดุ้งสุดตัวเมื่อได้ยินเสียงประตูปิดดังสนั่น ยกมือทาบหน้าอก ยืนตัวสั่นเทาอยู่กลางห้องด้วยความตกใจ

“ว้าย!” หญิงสาวกระโดดหนีไปทางหนึ่ง เมื่อเห็นเงาวูบวาบเข้ามาใกล้ แต่พอเห็นร่างนั้นถนัดตาก็ยิ่งตกตะลึง

เธอจำเขาได้ คืนที่เธอเสียความบริสุทธิ์ครั้งแรกเขาก็ใส่หน้ากากสีทองครึ่งหน้าแบบนี้ ในตอนนั้นเธอไม่รู้ว่าชายลึกลับเป็นใครจึงดิ้นรนขัดขืน ทำให้ไข้ขึ้นนอนซมเพราะป่วยไปหลายวัน เพราะยิ่งดิ้นเขายิ่งกระทำชำเราอย่างรุนแรงจนเจ็บระบมไปหมด เป็นเวลานานกว่าจะหนำใจเขา แล้วก็จากไปท่ามกลางแสงสลัว เหลือเพียงกระดุมเม็ดหนึ่งทิ้งไว้เท่านั้น

เธอดูแลเสื้อผ้าเขาอยู่มีหรือจะไม่รู้ว่ากระดุมที่มีตัวอักษรไอเอสนั้นเป็นของใคร และพอไปตรวจดูก็พบว่าเสื้อตัวนั้นมีกระดุมขาดไปเม็ดหนึ่งจริงๆ 

ฮัลดายิ้มหวานเดินนวยนาดเข้าไปใกล้ ยกมือข้างหนึ่งวางไว้ที่หน้าอกแล้วลูบไล้เบาๆ มืออีกข้างลูบไล้จากโคนลำคอสูงขึ้นไปเรื่อยๆ แล้วจับขอบของหน้ากากสีทองนั้นไว้เตรียมจะดึงออก

ชายลึกลับรู้ทัน จึงสะบัดหลังมือไปบนใบหน้าขาวนวล อย่างแรง ได้ยินเสียงเหมือนของแข็งกระแทกลงบนบางส่วนที่แข็งกว่าเนื้อหนังดังเข้ามาในโสตประสาท คล้ายว่าส่วนที่ถูกกระทบนั้นกำลังถูกทำให้แตกร้าว ความแรงของหลังมือทำให้ร่างบอบบางเซถลาลงไปนอนหมอบอยู่กับพื้น 

หญิงสาวเงยหน้าขึ้นมอง เลือดไหลกลบปากและจมูก แต่เจ้าตัวกลับเหยียดริมฝีปาก เผยรอยยิ้มเยือกเย็นออกมา แววตาเป็นประกายวาววับ คล้ายกับว่ารู้สึกสมใจในอะไรบางอย่าง กำมือข้างหนึ่งไว้แน่น ราวกับกุมความลับที่สามารถเปลี่ยนโลกทั้งใบของเธอได้ไว้ในมือ 

ร่างสูงของชายลึกลับเดินย่างสามขุมเข้ามาหา ขยุ้มคอเสื้อของคนที่นั่งอยู่กับพื้นดึงจนตัวลอยขึ้นราวกับไร้น้ำหนัก แล้วใช้มืออีกข้างฉีกเสื้อผ้าให้แยกออกเป็นสองซีก จนเกิดเป็นเสียงแคว้กยาวอยู่หลายวินาที 

เนื่องจากเสื้อกระโปรงเนื้อนิ่ม ที่หญิงสาวสวมยากต่อการทำให้ฉีกขาด เขาจึงต้องออกแรงมากกว่าเดิม ร่างบอบบางที่เปลือยเปล่าจึงถูกเหวี่ยงสะบัดไปมาตามแรงกระชากอย่างทุกลักทุเล 

เขาโยนเธอลงพื้น ราวกับโยนเสื้อผ้า อย่างไม่ปรานีปราศรัย มือข้างหนึ่งจับบรากระชากจนหลุดติดมือ แล้วเหวี่ยงแบบไม่สนทิศทาง ดึงขอบกางเกงตัวจิ๋วให้รูดออกตามไปด้วยอย่างไร้การทะนุถนอม จากนั้นก็ถลกชายเสื้อโต๊ป ที่เป็นชุดคลุมยาวของตัวเองขึ้นมา แล้วรวบไปไว้ด้านหลัง จับสองขาเรียวขาวให้อ้าออกแล้วกระแทกอัดความเป็นชายเข้าไปในทันที 

ฮัลดาผวาตัวลอยขึ้นมาจากพื้น ใบหน้าเหยเกด้วยความเจ็บปวด แต่ก็ยังกัดริมฝีปากตัวเองไว้แน่น ถึงเธอจะอดกลั้นไม่ให้เสียงตัวเองเล็ดลอดออกมาได้ แต่ห้ามน้ำตาไม่ให้ไหลไม่ได้ 

หญิงสาวตั้งคำถามกับตัวเองอยู่ในใจ ทำไมผู้หญิงโมสเลมต้องมาอดทนเจ็บปวดกับความกักขฬะของผู้ชายแบบนี้ พวกเขาทำราวกับว่าผู้หญิงเป็นเพียงแค่สิ่งระบายความเครียดทางเพศ ไร้ซึ่งการดูแลเอาใจใส่ ไร้ซึ่งความอ่อนโยนทะนุถนอม ไม่เหมือนในนิยายโรแมนซ์ของคนตะวันตกที่เธอเคยแอบอ่านเลย หรือเป็นเพราะโลกแห่งความเป็นจริงมันเจ็บปวด ผู้คนจึงได้สร้างโลกแห่งจินตนาการขึ้นมาเพื่อเอาไว้เยียวยาตัวเอง

แรงกระแทกกระทั้นที่เพิ่มระดับขึ้นเรื่อยๆ ทำให้เธอตื่นจากภวังค์ความคิด กัดฟันแน่นด้วยความอดทน น้ำตารินไหลไม่ขาดสายจนผมบริเวณเหนือใบหูเปียกชื้นไปหมด แต่ยังนับว่าเธอโชคดีที่เขาไม่เพิ่มความสุขทางเพศด้วยการทุบตีอย่างทารุณ ไม่อย่างนั้นเธอคงจะบอบช้ำจนปางตายไปมากกว่านี้

หญิงสาวมองร่างสูง ที่เสร็จกามกิจแล้ว ถอยออกไปยืนจังก้าตรงระหว่างขาของเธอที่ยังนอนกางอ้าอยู่ และกำลังสาละวนกับการถอดถุงยางออก เธออยากรู้เหลือเกินว่าสายตาภายใต้หน้ากากที่เฉยเมยนั้นกำลังมองเธออยู่หรือเปล่า เพราะตั้งแต่ต้นจนจบเห็นเพียงท่าทีที่เย็นชาไม่มีสรรพเสียงใดๆ หลุดลอดออกมาเลยสักนิด แม้แต่เสียงครางก็ยังไม่ได้ยิน 

เขาปล่อยชายเสื้อคลุมลงแล้วเดินออกไปเลย เก็บหลักฐานทุกอย่างเรียบหมด แม้แต่ถุงยางก็ไม่ทิ้งร่องรอยเอาไว้ 

ฮัลดาแบมือข้างหนึ่งออก มองเม็ดกลมในมืออย่างกระหยิ่มยิ้มย่อง คราวนี้เธอจะไม่เก็บเงียบเพื่อรอคอยความเมตตาจากเขาอีกต่อไปแล้ว ถึงคราวที่เธอจะต้องเปลี่ยนการเสพสมที่ดูไร้ค่านี้ ให้กลายเป็นเลอค่าขึ้นมาเสียที

…………………….

รามิลขับเรือยอร์ชมาที่ท่าเทียบเรือด้านนอกของโรงแรมริมน้ำ ซึ่งเป็นหนึ่งในกลุ่มธุรกิจโรงแรมของมหัทธนะกิตติ์ ท่าจอดเรือที่อยู่ติดกับโรงแรมก็เป็นของทางบริษัทฯด้วยเหมือนกัน 

นอกจากจะรับฝากจอดเรือ บำรุงรักษาและดูแลเรือแล้ว ยังมีบริการให้เช่าเหมาลำแล้วแต่ความต้องการของลูกค้า ซึ่งจะมีขนาดเรือให้เลือกตั้งแต่ห้าคนจนถึงสี่สิบคนอีกด้วย

พอใกล้จะถึงท่าจอด เขายกคันเร่งขึ้นเพื่อปลดเป็นเกียร์ว่าง ปล่อยให้เรือไหลมาตามแรงเฉื่อย แล้วหมุนพังงาไปจนสุด จับคันเร่งข้างขวาโยกลง เพื่อเปลี่ยนเป็นเกียร์ถอยให้ท้ายเรือสไลด์ข้างเข้าเทียบทุ่น พอเห็นขอบโป๊ะจึงโยกคันเร่งซ้ายเพื่อหยุดการทำงานของเครื่องยนต์ไม่ให้เรือกระแทก เจ้าหน้าที่ของโรงแรมที่อยู่บนโป๊ะกระโดดมาที่ท้ายเรือ โยนทุ่นกันกระแทกลงไปแล้วตะโกนบอกเสียงดัง เขายกคันเร่งปลดเป็นเกียร์ว่างแล้วดับเครื่อง

ชายหนุ่มกำลังเดินไปที่ท้ายเรือ แต่สายตาเหลือบไปเห็นร่างบอบบางในชุดเสื้อเชิ้ตขาวกับกางเกงบลูยีนส์ สวมหมวกแคปของแบรนด์ดังกำลังเดินมายังท่าเทียบเรืออย่างรีบร้อน และมาหยุดยืนอยู่ใกล้เรือยอร์ช แล้วเงยหน้าขึ้นมามองเขาที่ยืนอยู่ท้ายเรือด้วยสีหน้าฉงน ในขณะที่ชายหนุ่มเองก็มองไปที่อีกฝ่ายอย่างตื่นตะลึง

“เรือลำนี้ใช่ไหมคะ?” รามิลมองหญิงสาวที่หันหน้าไปถามสุเมธเลขาของเขาที่กำลังเดินตามมาติดๆ พร้อมชี้นิ้วมาที่เรือ

“ใช่ครับ! อ่า..นี่บอสของผมคุณรามิล บอสครับท่านนี้คือท่านหญิงรินรดา” รามิลตัวชาเมื่อได้ยินชื่อของหญิงสาว

รดา!!

รามิลก้าวยาวมาที่ท่าเรือ คว้าข้อมือของหญิงสาวที่ยื่นมาเพื่อทำความรู้จัก แล้วเดินลิ่วตรงไปยังรถที่จอดอยู่หน้าโรงแรม

“ว้าย! นี่คุณ คุณจะพาฉันไปไหน?” ริมฝีปากอิ่มที่กำลังแย้มยิ้มเพื่อทักทาย เปลี่ยนเป็นอ้าปากร้องเสียงหลงอย่างตื่นตระหนกในการกระทำของอีกฝ่าย 

เธอไม่รู้ว่าเขาเป็นผีบ้าอะไร ทำไมต้องมากระชากลากถูร่างของเธออย่างไม่ปรานีปราศรัยเช่นนี้ด้วย คนรู้จักสนิทก็ไม่ใช่แค่เคยช่วยเหลือเธอไว้เพียงครั้งเดียวเท่านั้น

“ผมมีเรื่องให้คุณช่วย รบกวนท่านหญิงไปกับผมสักครู่ คุณเมธไปขับรถ!!” สุเมธยืนงงไปชั่วขณะ ที่เห็นปฏิกิริยาของเจ้านายหนุ่ม เขาไม่รู้มาก่อนว่า บอสของเขาสนิทสนมกับท่านหญิงถึงขนาดนี้ ซึ่งเขาเองก็อึ้งไปเหมือนกันที่เห็นหน้าของท่านหญิงเต็มตาในครั้งแรก

“คุณเมธ!!”

“ครับๆ!!” เสียงตวาดราวกับอสุนีบาตฟาดลงมาบนหัว กระตุ้นให้เขารีบออกเดินไปอย่างรวดเร็ว

ชายหนุ่มเปิดประตูรถเพื่อให้หญิงสาวขึ้นไปนั่ง แต่เธอหันมาเผชิญหน้า ขึ้นเสียงอย่างไม่พอใจ

“นี่! ฉันตั้งใจจะไปหาพี่ชาย! ถ้าคุณไม่อธิบาย ฉันก็จะไม่ไปไหนกับคุณทั้งนั้น!!”  

“ผมอยากให้คุณพบใครคนหนึ่ง” เสียงทุ้มมีร่องรอยของความพยายามสะกดกั้นอารมณ์ ก่อนจะเอ่ยปรามเสียงดัง “หยุด! อย่าเพิ่งถาม เห็นแล้วจะรู้เอง!” 

รินรดาอ้าปากค้าง นอกจากพี่ชายจอมเผด็จการแล้ว ไม่เคยมีใครกล้าบังคับให้เธอทำนู่นทำนี่โดยไม่มีเหตุผลมาก่อน แต่เธอก็เงียบไปโดยอัตโนมัติ เพราะคำพูดของเขาแฝงไปด้วยอำนาจที่เหนือกว่าทำให้ดูน่าเกรงขาม เหมือนกับคนที่คุ้นกับการออกคำสั่ง และไม่ต้องการให้ใครปฏิเสธ

“ก็ได้! ถ้าไม่สมเหตุสมผลล่ะก็ คุณโดนดีแน่!! ฉันจะฟ้องพี่ชาย!! ฮึ!” หญิงสาวพูดระบายอารมณ์เสร็จก็เข้าไปนั่งอย่างไม่สบอารมณ์ เขายกยิ้มมุมปากข้างหนึ่ง น้ำเสียงหวานที่เอ่ยคำพูดคาดโทษออกมาอย่างดุดันนั้น ทำไมกลับฟังดูน่ารักในความรู้สึกของเขา ถ้าเป็นไปได้อยากจะให้เธอมาข่มขู่ใกล้ๆ ตลอดยี่สิบสี่โมงเลยทีเดียว 

“ผมขอถามอะไรหน่อยได้ไหม?” รามิลเอ่ยขึ้นมาทำลายความเงียบ หลังจากที่รถแล่นออกมาได้พักใหญ่ๆ

“ยกเว้นเรื่องส่วนตัว!” เสียงพูดห้วนๆ เอ่ยตอบโดยไม่หันหน้ามามอง ทำให้ชายหนุ่มลอบขำในใจ 

นี่คงเป็นอาการต่อต้านอย่างเงียบๆ ของเธอสินะ ฤทธิ์เยอะไม่เบา!

“คุณเป็นชาวเปเรซโดยกำเนิดเลยหรือเปล่าครับ?”

“ขอโทษ เป็นเรื่องส่วนตัว!”

“ทำไมชื่อของคุณถึงเหมือนคนเอชียตะวันออกเฉียงใต้มากกว่าล่ะ?”

“นี่ก็ส่วนตัว!” หญิงสาวกระแทกเสียง 

สรุปว่าเธอจะไม่ตอบอะไรทั้งนั้นใช่ไหม?

เขารู้ว่าเธอเริ่มที่จะรวนเลยไม่ได้ถามอะไรอีก ปล่อยบรรยากาศให้เดทแอร์ไปเสียอย่างนั้น จนผ่านไปครู่ใหญ่หญิงสาวจึงหันมามองอย่างอดไม่ได้ เห็นเขาเอาศอกข้างหนึ่งค้ำยันกับประตูปลายนิ้วแตะไว้ตรงข้างขมับ นั่งหลับตาอย่างไม่สนสิ่งใดรอบตัว จึงรู้สึกขัดเคืองในใจขึ้นมาอีก

คนบ้า! บังคับขืนใจเขามาแล้วก็มาทำตัวไม่สนโลก ไร้เหตุผลสิ้นดี!!

“ฮึ!” รินรดาหมั่นไส้สะบัดหน้าพรืดกลับไปมองบรรยากาศข้างทางตามเดิม

ชายหนุ่มไม่ได้ลืมตา แต่ยกยิ้มมุมปากขึ้นข้างหนึ่งอย่างชอบใจ เมื่อได้ยินน้ำเสียงแสดงอารมณ์ที่ขุ่นมัวของอีกฝ่าย เขาอยากทำให้เธอหงุดหงิดมากกว่านี้ด้วยซ้ำ โมโหจนลงไม้ลงมือกับเขาเลยยิ่งดี เขายอมเจ็บตัวเพื่อแลกกับการได้สัมผัสถึงพลังชีวิตของเธอ ได้อยู่ใกล้ ได้หายใจในอากาศเดียวกัน และเขาจะต้องหาทางพิสูจน์ให้ได้ว่า เธอคือรดาของเขาจริงๆ

“ถึงแล้วครับบอส” สุเมธดึงเบรคมือ แล้วหันมารายงานเจ้านาย จากนั้นก็รีบลงไปเปิดประตูให้ท่านหญิง

โรงพยาบาล? ทำไมต้องพามาที่นี่?

รินรดาหันมามองเขาเป็นเชิงถาม เขาเดินมายืนข้างๆ ไม่พูดอะไรไม่อธิบายเหมือนเดิม เพียงผายมือให้เธอออกเดินไปกับเขา

…………………….

“ฝ่าบาทจะไปอาบน้ำได้หรือยังเพคะ ถ้าท่านหญิงมาถึงแล้วจะได้ทานข้าวพร้อมกัน” พริมโรสเดินถือถาดน้ำชาสองแก้ว ที่เพิ่งจะรับมาจากองครักษ์ นำมาวางไว้ที่โต๊ะหน้าเตียง

“อืม” เขาพูดแล้วหย่อนขาลงข้างเตียง อ้าแขนออกสองข้าง

หญิงสาวยิ้มหวานเข็นวีลแชร์เข้ามาใกล้ๆ เดินมาหยุดยืนระหว่างขาของเขาแล้วปลดกระดุมเสื้อเชิ้ต

“อ๊ะ! หม่อมฉันเพิ่งจะสังเกต ที่กระดุมเชิ้ตมีอักษรย่ออยู่ด้วย!”

“ชื่อผม”

“เก๋กู้ด! เหมือนราชวงศ์ในยุโรปเลยเพคะ”

“แต่ของผมจะไม่เหมือนคนอื่น” เขายิ้มเมื่อเห็นภรรยาทำสีหน้าแปลกใจจึงชี้ให้ดู ”ที่ตัวอักษรนี่เห็นไหม? มันจะสะท้อนแสงแบล็คไลท์ได้…”

เคร้ง!!

ยังไม่ทันที่เขาจะพูดอะไรต่อ ก็ได้ยินเสียงขวดที่พริมโรสแอบนำไปตั้งไว้ที่ข้างประตูด้านนอกล้มลงกระแทกพื้น เนื่องจากคอนโดนี้สร้างมาเพื่อให้คนทั่วไปได้อยู่อาศัย ไม่ได้ออกแบบเพื่อป้องกันการโจรกรรมระดับชาติ เธอจึงต้องอาศัยวิธีพื้นๆ ป้องกันตัวเอง

ทั้งสองสบตากันทันที แล้วแยกกันทำงานอย่างว่องไวโดยไร้คำพูดในเวลาที่จำกัด

หญิงสาวรีบไปที่โต๊ะหัวเตียง ยกขาเรียวเปลือยเปล่าตั้งชันบนที่นอน แล้วหยิบซองปืนมารัดต้นขาไว้สองกระบอกทั้งด้านในและด้านนอก จากนั้นผูกเชือกมัดปมเสื้อคลุมอาบน้ำไว้อย่างแน่นหนา เนื่องจากเธอเพิ่งจะอาบน้ำเสร็จทั้งตัวจึงมีเพียงผ้าคลุมชิ้นเดียวปิดบังร่างกายอยู่

เจ้าชายอิสราร์เอื้อมมือมาปิดโคมไฟหัวเตียง รับปืนที่หญิงสาวส่งให้มาถือไว้ในมือ แล้วเดินกระเผลกไปตรงตำแหน่งหลังประตู

พริมโรสเอาหมอนสองใบยัดเข้าไปในผ้าห่ม ตบตรงกลางระหว่างหมอนสองใบให้เป็นร่อง คว้าเสื้อเชิ้ตของเขาติดมือไปด้วยแล้วไปนั่งใกล้ๆ กัน

ไม่กี่อึดใจประตูที่ล็อคไว้จากด้านในก็ถูกสะเดาะออก ได้ยินเสียงดังกริ๊กทีหนึ่ง จากนั้นประตูห้องก็แง้มออกเบาๆ ปราการต่อไปคือโซ่ที่คล้องอยู่ 

ท่อนแขนกำยำข้างหนึ่ง ยื่นเข้ามาในห้อง แล้วแปะอะไรสักอย่างที่หลังประตู พอเขาคลายมือออกจึงเห็นว่าเป็นเทปกาวแลคซีนที่แปะยึดยางยืดด้านหนึ่งไว้ ปลายยางอีกด้านมัดคล้องไว้ที่โซ่ ซึ่งถ้าประตูปิดยางยืดจะหดตัวทำให้ตัวคล้องโซ่หลุดออกจากสลัก

มือไวเท่าความคิด หญิงสาวรีบลุกพรวดขึ้น ยื่นมือไปสะกิดเทปกาวออก พอประตูเปิดอีกครั้งโซ่จึงไม่ได้หลุดออกจากสลักอย่างที่อีกฝ่ายคิด

พลั่ก!!

“ไอ้โง่! มึงนี่! XO!#!$#!”

มีเสียงคล้ายใครสักคน โดนตบศีรษะอย่างแรง อยู่หลังบานประตูที่เปิดแง้มอยู่ ตามด้วยเสียงกระซิบก่นด่าอย่างหยายคายเบาๆ พริมโรสกัดริมฝีปากล่างตัวเองไว้ได้ทัน เธอเกือบจะหลุดขำพรืดออกไปเสียแล้ว

“ถอยไป! เดี๋ยวกูทำเอง!”

กลุ่มผู้บุกรุกยามวิกาลยังไม่ยอมแพ้ พยายามสอดท่อนแขนเข้ามาแปะเทปกาวอีกรอบ คราวนี้พริมโรสไม่ขัดขวางเพียงแต่กระชับปืนในมือไว้มั่น ขยับตัวไปนั่งซ้อนหน้าสามีที่ยังไม่หายดี เป็นการปกป้องเขาไว้ชั้นหนึ่งก่อน เตรียมรับสถานการณ์เต็มที่

ชายชุดดำก้าวเข้ามาในห้องทีละคน เดินเข้าไปใกล้เตียงนอนแล้วเหนี่ยวไกปืนรัวยิงกระหน่ำ พริมโรสเบะปาก ให้กับการใช้อาวุธอย่างไร้สติของพวกมัน จึงอาศัยช่วงที่เสียงดังต่อเนื่องนี้เหนี่ยวไกไปสองนัด สองคนหลังสุดตัวสะบัดล้มคว่ำทั้งยืน สองคนหน้านั้นก็โดนสามีเธอสอยร่วงในระยะเวลาใกล้เคียงกัน 

พริมโรสหันมามองสบตาของสามี ท่ามกลางความสลัวเมื่อเขาจับต้นแขนเธอไว้กระชับ แล้วสะบัดใบหน้าไปทางประตู เป็นอันรู้กันโดยไม่ต้องพูดว่าห้ามเคลื่อนไหวให้เงียบไว้ก่อน เขาคิดว่าพวกมันคงไม่ได้มีแค่นี้แน่ๆ

หญิงสาวพยักหน้า มงสไนเปอร์ลงประทับร่างที่ไม่ไหวติง แม้ลมหายใจก็ยังบังคับให้ปล่อยออกมาเพียงแผ่วๆ เธอเคยใช้เวลากว่าเจ็ดสิบสองชั่วโมงในการซุ่มโจมตีมือสไนเปอร์ของฝ่ายศัตรู จนได้รับการยอมรับจากกองทัพมาแล้ว มันเป็นนาทีของการวัดใจว่าใครจะมีความอดทนในการรอคอยที่มากกว่ากัน

Continue to read this book for free
Scan code to download App

Related chapters

  • อย่าให้เขารู้ว่าฉันร้าย   ตอนที่ 51

    ขณะที่กำลังอยู่ในช่วงเวลาของการวัดใจ จู่ๆ โทรศัพท์ที่หัวเตียงก็ดังขึ้น พร้อมๆ กับเงาใต้ประตูที่ผ่านไปวูบหนึ่งอย่างรวดเร็ว เนื่องจากภายในห้องนอนปิดไฟมืดแต่ด้านนอกเปิดไฟสว่าง ทำให้ผู้บุกรุกอยู่ในจุดที่เสียเปรียบ เจ้าชายอิสราร์ชูนิ้วขึ้นสองนิ้วแล้วกระดกสองครั้งชี้ไปที่ประตู หญิงสาวพยักหน้า เพราะเธอก็เห็นเหมือนกันว่ามีสองเงาที่วิ่งผ่านไปพร้อมๆ กันพริมโรสทำสัญญาณบอกเขาว่าเธอจะจัดการไอ้คนนี้ แล้วจะย้ายไปอยู่ฝั่งตรงข้าม เขาทำสัญญาณมือตอบกลับว่าโอเคตามแผนของเธอไม่กี่วินาทีประตูก็แง้มออกอย่างเชื่องช้า ปลายกระบอกปืนโผล่เข้ามาอย่างเงียบเชียบ เธอรอให้ประตูเปิดกว้างขึ้นอีกหน่อย จากนั้นก็กระแทกเท้าถีบไปโดยแรงปึง!! “โอ๊ก!!” คนร้ายร้องออกมาอย่างตกใจเมื่อถูกประตูกระแทกที่หัวก่อนจะกระเด็นไปอัดอยู่ระหว่างประตูกับผนัง ทันใดนั้นพริมโรสก็ทะลึ่งตัวลุกพรวดขึ้น ฟาดกระบอกปืนไปที่ข้อมือของมันจนปืนร่วงลงพื้น แล้วตีลังกาข้ามไปอยู่อีกด้านหนึ่งเหนี่ยวไกปืนเล็งไปที่หัวของมันสองนัดคนร้ายตัวสะบัดล้มทั้งยืนคาปากประตู เธอโยนปืนของคนร้ายลอยออกไปนอกห้อง ในพริบตานั้นก็มีเสียงปืนยิงวัตถุที่เธอเพิ่งจะโยนออกไปอย่างกระหน่

    Last Updated : 2025-03-18
  • อย่าให้เขารู้ว่าฉันร้าย   ตอนที่ 52

    ฮัลดาเดินฮัมเพลงในลำคอมาตลอดทาง หลังจากองครักษ์คนเมื่อวันก่อน มาตามให้เธอไปที่ห้องเดิมอีกครั้ง เมื่อตอนเช้ามืด เพื่อนๆ ในห้องไม่มีใครรู้ว่าเธอหายไปและเพิ่งจะกลับเข้ามา หญิงสาวเปิดประตูเข้าไปในห้องขนาดกว้างขวางที่พักรวมกันอยู่สี่คน พอเห็นว่าทุกคนกำลังวุ่นวายรีดผ้า อีกคนพับ อีกคนแขวน อีกคนนั่งปักผ้า เธอก็เลยเดินแยกตัวไปนั่งตรงอื่น กินน้ำชากับของว่างอย่างสบายใจ เพื่อนร่วมห้องคนหนึ่งหันมาเห็นจึงพูดออกไปตรงๆ“ฮัลดา! เธอเห็นไหมว่าพวกเรากำลังทำงานมือไม่ว่างกันทุกคน”“เห็น! แล้วยังไงหรอ?” ฮัลดาตอบอย่างไม่ใส่ใจ“แล้วเธอจะนั่งให้รากงอกเป็นเจ้านาย เพื่อเอาเปรียบพวกเราอยู่อย่างนั้นหรือไง?”“ก็ฝึกตัวเองให้ชินสิ! อีกหน่อยไม่มีฉันอยู่ช่วยทำงาน พวกเธอจะทำยังไงกันล่ะ!”“ฟังจากน้ำเสียง เหมือนเธอจะออกจากวังไปแต่งงาน?”“โลกนี้อะไรก็ไม่แน่นอน เหมือนในนิทานไง ทำงานเป็นนางซินงกๆ วันนี้ อาจจะปุบปับเปลี่ยนฐานะเป็นเจ้าหญิงในวันพรุ่งนี้ก็เป็นได้ใครจะรู้!”“แต่นี่มันโลกแห่งความเป็นจริง! มาช่วยฉันทำงานเดี๋ยวนี้!!”ประตูห้องพักถูกเปิดพรวดออก หญิงสาวสี่ห้าคนเดินเร็วเข้ามาด้วยอาการดีอกดีใจ“ทุกคนๆ! เชคฮ์อิสราร์กับพ

    Last Updated : 2025-03-18
  • อย่าให้เขารู้ว่าฉันร้าย   ตอนที่ 53 : มีความรุนแรง โปรดใช้วิจารณญาณในการรับสาร

    พอพ้นสายตาผู้คนฮัลดาก็กัดฟันกรอด มือสองข้างกำไว้แน่น ไม่เคยรู้สึกพ่ายแพ้เช่นนี้มาก่อน เมื่อนึกตอนที่เจ้าชายอิสราร์แนะนำผู้หญิงที่ไม่มีหัวนอนปลายเท้าผู้นั้นในฐานะพระคู่หมั้นให้พวกเธอได้รู้จัก หัวใจของฮัลดารู้สึกเจ็บแปลบ หน้าอกหายใจสะท้อนรัวถี่ด้วยความโกรธ พูดตอกย้ำตัวเองราวกับสะกดจิตว่ายอมรับเรื่องนี้ไม่ได้ เชคฮ์เป็นที่รักและเคารพของประชาชน สมควรจะสมรสกับคนในชาติและศาสนาเดียวกัน เธอไม่มีวันยอมให้คนนอกมาทำให้ศาสนาที่บริสุทธิ์ในนามของพระเจ้าต้องเสื่อมเสียเป็นอันขาดฮัลดาเดินวนไปวนมาอยู่ในห้องส่วนตัว อย่างใช้ความคิด เค้นสมองหาหนทาง ที่จะปกป้องบุคคลที่ตัวเองรัก จากคนที่ไม่เหมาะสมอย่างเต็มที่ และสิ่งแรกที่เธอคิดได้ก็คือ ต้องหาวิธีบังคับข่มขู่หรือลักพาตัว เพื่อให้คนผู้นั้นเห็นว่าการอยู่ใกล้ชิด กับเชคฮ์อิสราร์ มันอันตรายต่อชีวิตมากแค่ไหน พอคิดได้ดังนั้น เธอก็ส่งข้อความหา คนที่จะสามารถช่วยให้แผนนี้ของเธอสัมฤทธิ์ผลในทันที…………………….วันนี้เจ้าชายอิสราร์จะอยู่ที่ทีแลนด์เป็นคืนสุดท้าย จึงชวนพริมโรสไปดินเนอร์ แบบเชฟส์เทเบิ้ลที่ห้องอาหาร และบาร์สุดชิคบนดาดฟ้าของโรงแรม หญิงสาวตอบรับด้วยความยินดีเพ

    Last Updated : 2025-03-18
  • อย่าให้เขารู้ว่าฉันร้าย   ตอนที่ 54

    “ท่านหญิง คุณรามิลมาขอพบเจ้าค่ะ”พวงแก้มนวลแดง ระเรื่อขึ้นทันทีที่ได้ยินชื่อ ที่กำลังคิดถึงอยู่ เธอกำลังทบทวนเหตุการณ์ในคืนนั้นที่ทำให้หัวใจเต้นแรงจนควบคุมไม่ได้“บอกให้เขารอสักครู่”“เจ้าค่ะ”วันนั้นที่เธอหมดสติในโรงพยาบาล แต่กลับฟื้นขึ้นมาในลักษณะที่นอนหนุนเขาอยู่ครึ่งตัว ศีรษะวางอยู่บนต้นแขนแก้มแนบอยู่กับอก ปลายนิ้วเรียวของเขาลูบไล้พวงแก้มอย่างทะนุถนอม แม้หลับตาก็ยังสัมผัสได้ว่าดวงตารุ่มร้อนคู่นั้นจ้องมองเธออยู่ตลอดเวลา พอเธอลืมตาขึ้นจึงสบประสานสายตาลึกล้ำดำสนิทของเขาราวกับกำลังต้องมนต์ไปโดยไม่รู้ตัว เธอยังมองเห็นความปีติยินดีที่ไม่สามารถอธิบายได้ เปี่ยมล้นจนเผยออกมาให้เห็นทางดวงตาของเขา ความห่วงใยฉายชัดออกมาอย่างชัดเจน และบอกเล่าถึงความรักความคิดถึงที่ฝังลึกอยู่ในหัวใจและไม่เคยจะลบเลือน เธอมองสีหน้าที่กำลังเคลิบเคลิ้ม อยู่กับความทรงจำอันสวยงามในอดีตนานอยู่ชั่วครู่ ในที่สุดเขาก็เอ่ยขึ้นมาอย่างตื้นตันใจ “ผมอยากจูบคุณ อนุญาตไหม?” หญิงสาวหลับตาสัมผัสความรู้สึกจากอ้อมกอดอันทรงพลังที่กำลังถ่ายเทความอบอุ่นมาให้เธออย่างต่อเนื่อง กลิ่นอายของเขาแผ่อวลเข้ามาปะทะจมูกแล้วโอบล้อมเธอเอาไว้

    Last Updated : 2025-03-18
  • อย่าให้เขารู้ว่าฉันร้าย   ตอนที่ 55

    วิ่งตามกันมาได้สักพัก เขาก็ชะลอความเร็ว แล้วผลักประตูบันไดหนีไฟให้เปิดออก ดึงมือหญิงสาวให้ตามเข้ามาแล้วผลักร่างบางให้ติดผนัง ล็อกข้อมือข้างหนึ่งกดไว้เหนือศีรษะ โน้มใบหน้าฉกวูบเข้ามาหมายจะประกบจุมพิตที่ริมฝีปากอิ่ม พริมโรสตกใจแต่ยังเบนหน้าออกข้างเบี่ยงหนีได้ทัน จุมพิตจึงพลาดเป้าไปกระแทกโดนที่แก้มนุ่ม ฝ่ามือใหญ่ข้างที่ยังว่างประคองใบหน้าด้านข้างของเธอไว้ แล้วบังคับให้หันเข้าหาริมฝีปากเขาอย่างมุ่งร้ายหญิงสาวผ่อนแรงต่อต้านลงนิดหนึ่ง แล้วสอดมือข้างที่ยังเป็นอิสระลอดเข้ามาตรงที่ว่างระหว่างช่องแขนด้านในอย่างว่องไว ชูมือขึ้นเหนือลำคอ แล้วกระแทกนิ้วชี้ กับนิ้วกลาง จิ้มตรงตำแหน่งกรามใต้หูอย่างรวดเร็วและหนักหน่วง “โอ๊ยย!!” ร่างสูงสะดุ้งสุดตัวร้องออกมาเสียงลั่นอย่างคิดไม่ถึง เขาพยายามเอียงตัวหนีความเจ็บปวด แต่นิ้วที่ร้ายพอๆ กับนิสัยของเจ้าของก็ยังตามกดย้ำอย่างหนักหน่วงไม่ลดละ จนร่างของอีกฝ่ายโค้งเอียงลงไปตามศีรษะลักษณะคล้ายน้ำในหูไม่เท่ากันจนเสียสมดุล พอกดได้ระยะที่ต้องการก็เหนี่ยวคอเป้าหมายเพื่อยกตัวเขาให้ลอยขึ้น พร้อมกับง้างเข่าโจมตีไปที่รังไข่อย่างเต็มเหนี่ยว“โอ๊กกก!!” ร่างสูงตัวงอลงคล้า

    Last Updated : 2025-03-18
  • อย่าให้เขารู้ว่าฉันร้าย   ตอนที่ 56

    “ชัยค์เคาะฮ์ไลลา เชคฮ์อักมัลฝากข้อความให้ทูลฝ่าบาทว่ามีเรื่องด่วนที่เปเรซต้องรีบไปจัดการ ขอเดินทางกลับไปก่อน อนุญาตให้ฝ่าบาทอยู่เที่ยวที่ทีแลนด์สักเดือนสองเดือนค่อยเดินทางกลับก็ได้เพคะ”“หือ? ด่วนขนาดต้องยอมเดินทางแออัดไปกับคนทั่วไปเลยเนี่ยนะ? แล้วเนญ่าล่ะออกมาจากห้องหรือยัง?” “ชัยค์เคาะฮ์เนญ่าออกไปก่อนฝ่าบาทอีกเพคะ และยังไม่กลับเข้ามา”“ไปไหน?”“มีนัดกับเชคฮ์อิสราร์เพคะ”“อะไรนะ?” ไลลาตกใจ เรื่องนี้เป็นไม่ได้อย่างแน่นอน เธอเพิ่งจะแยกกับเชคฮ์อิสรามาได้สักพัก คิดว่าต้องมีอะไรที่ไม่ชอบมาพากลแน่ๆ จึงหยิบโทรศัพท์ส่งข้อความหาเจ้าชายอิดรีสทันที…“ฝ่าบาท! จากการตรวจสอบกล้องวงจรปิดของโรงแรม ช่วงเวลาที่เด็กรับใช้ของชัยค์เคาะฮ์เนญ่าแจ้งมา ปรากฏว่าไม่มีพ่ะย่ะค่ะ ช่วงเวลาดังกล่าวหายไปกลายเป็นจอดำ ตอนนี้ทางทีมรักษาความปลอดภัยของโรงแรมกำลังสืบสวนเรื่องนี้ และสอบถามทางเราว่าต้องการจะแจ้งความไว้ก่อนหรือไม่”“แล้วช่วงเวลาก่อนหน้าล่ะ? เช็กย้อนหลังไปยี่สิบสี่ชั่วโมงเลย ดูว่าได้ออกจากห้องไปไหนมาก่อนที่จะไปตามนัดหรือเปล่า!”“ตรวจสอบเรียบร้อยพ่ะย่ะค่ะ ตามคลิปและผลรายงานที่สรุปส่งไปให้เมื่อสักครู่”เจ้าชา

    Last Updated : 2025-03-18
  • อย่าให้เขารู้ว่าฉันร้าย   ตอนที่ 57

    “ว่าไง? มีอะไรก็รีบๆ พูด กำลังจะขึ้นเครื่องแล้ว!” ท่านอักมัลเร่งปลายสาย เพราะได้ยินแอร์กราวนด์ประกาศเรียกผู้โดยสารในโซนที่นั่งของเขาให้ขึ้นเครื่อง ดังขึ้นมาพอดี“เหมืองบิทคอยน์ที่รัฐบีถูกพบแล้วพ่ะย่ะค่ะ เจ้าหน้าที่ได้ตรวจยึดทรัพย์สินไปทั้งหมด!”“อะไรนะ!! เพิ่งจะโดนที่รัฐเอไปหยกๆ แล้วที่รัฐบีโดนทุกที่เลยหรือเปล่า?”“ทุกที่กระหม่อม! เหมือนกับมีคนชี้เป้าระบุตำแหน่งให้เจ้าหน้าที่ ตอนนี้เหลือเพียงที่รัฐดี แต่พวกเราได้เคลื่อนย้ายเครื่องมือออกจากพื้นที่ เคลียร์สถานที่และทำลายหลักฐานหมดแล้วพ่ะย่ะค่ะ!”“แล้วก่อนหน้านั้นพวกนายมัวทำอะไรกันอยู่ ไม่มีใครแจ้งเตือนก่อนเจ้าหน้าที่จะบุกเข้ามาเลยหรือไง?”“พวกเขาตัดสัญญาการเชื่อมต่ออินเนอร์เนต จากนั้นก็ตัดสัญญาณไฟฉุกเฉิน ช่างและคนที่อยู่เวรในช่วงนั้นๆ จึงมัวแต่แก้ปัญหากันอยู่ พอเจ้าหน้าที่บุกเข้ามาจึงไม่มีใครรู้ตัวเลยกระหม่อม! และเข้ายึดพร้อมกันหมดเลยทุกที่!”“แล้วคนล่ะ ยังอยู่หรือเปล่า?”“พระชนนีถูกพาตัวไปแล้วพ่ะย่ะค่ะ!”“หึย!! ไอ้พวกบ้า! ไร้ประโยชน์จริงๆ!” ท่านอักมัลตัดสายอุทานออกมาด้วยความเดือดดาล โดนบุกทลายแหล่งทำเงินก็ช่างเถอะ แต่พาคนสำคัญไปด้วยนี่

    Last Updated : 2025-03-18
  • อย่าให้เขารู้ว่าฉันร้าย   ตอนที่ 58

    เจ้าชายอิสราร์ นั่งกึ่งเอนพิงพนักหัวเตียง อ่านรายงานขอเสนออนุมัติโครงการของบริษัทที่รินรดานำมาให้เขาเซ็น พออ่านจบก็ลงลายมือชื่อเพื่อให้ดำเนินการได้ จากนั้นก็ปิดแฟ้มนำไปวางที่หัวเตียง ถอดแว่นตาวางไว้ด้านบน แล้วหยิบโทรศัพท์มาอ่านข่าวทั่วไปเพื่อฆ่าเวลาเขารู้ว่าห้ามภรรยาไม่ให้กลับไปที่เกิดเหตุอีกไม่ได้ จึงทำเป็นนิ่งเฉยแล้วตรงเข้ามาห้องนอนเลย รอเวลาให้เธอได้ทำในสิ่งที่อยากทำให้เต็มที่ เสร็จแล้วก็คงกลับมาเอง…พริมโรสออกมาจากลิฟต์แล้วตรงไปที่ห้องเกิดเหตุ บอกตรงๆ ว่าเธอไม่ใว้ใจใครทั้งนั้น โดยเฉพาะเพื่อนที่เจ้าเล่ห์อย่างเจ้าชายอิดรีส ขนาดบางรายเป็นเพื่อนที่คบกันมาเกือบสิบปี ยังลงมือทำร้ายกันได้ภายในสิบวินาที เพียงแค่มีความเห็นที่แตกต่างและมีผลประโยชน์เข้ามาเกี่ยวข้อง ถ้าเพื่อนยังกลายมาเป็นศัตรูได้แบบนี้เราก็ไม่ต้องกลัวใครอีกแล้ว เพราะศัตรูที่น่ากลัวที่สุดก็คือคนที่เราเชื่อได้อย่างสนิทใจกรณีนี้ก็เช่นกัน ใครจะรู้ว่าเขาอาจจะเป็นคนเดียวกันกับคนร้ายที่สร้างสถานการณ์เช่นนี้ขึ้นมาเพื่อใส่ร้ายสามีเธอก็ได้ เพราะนี่มันเป็นพื้นที่ของเขา เพราะฉะนั้นหาหลักฐานเพื่อเป็นการป้องกันตัวเองไว้ก่อนจึงเป็นการดี

    Last Updated : 2025-03-18

Latest chapter

  • อย่าให้เขารู้ว่าฉันร้าย   ตอนที่ 70 

    “ฮ่าๆๆ ไง! ถึงกลับโกรธจนตัวเนื้อสั่นเลยเหรอ เป็นยังไงบ้างล่ะ รสชาติของการสูญเสีย ขมขื่นถึงอกถึงใจดีไหม?” คำพูดประโยคนี้ของเขาทำให้หญิงสาวแน่ใจได้ทันทีว่าอุบัติเหตุที่เกิดขึ้นนี้ไม่ใช่เรื่องบังเอิญ“ฉันเกลียดแกจนอยากจะเป็นคนถ่อย จะได้ถ่มถุยใส่หน้าส้นตึกของแกให้สาสมกับความรู้สึกขยะแขยง!” ชารีฟหรือณัทธรสะอึก เมื่อเจอความโกรธเกลียดอย่างรุนแรงจากผู้หญิงที่เขารัก“เกลียดฉันงั้นรึ? ต้องเป็นฉันไหมที่จะพูดประโยคนั้น แทบไม่อยากจะเชื่อเลยว่า เธอจะลืมฉันได้อย่างง่ายดายและไปแต่งงานใหม่!"“ฉันไม่ได้แต่งงานใหม่! นี่เป็นการแต่งงานครั้งแรกและครั้งเดียวของฉัน และอะไรคือลืมได้อย่างง่ายดาย? นายหนีตายไปเป็นปีๆ แล้วฉันจะต้องไปบวชชี เพื่ออุทิศส่วนกุศลให้นายด้วยอย่างนั้นรึ! เรารักกันดูดดื่มขนาดนั้นตั้งแต่เมื่อไหร่? ก่อนที่นายจะฆ่าพ่อฉัน เขายังพูดไม่ให้ฉันยึดติดกับตัวเขาเลย! ตรรกะของนายมันบิดเบี้ยวเป็นเวย์เดียวกับพวกโรคจิต ที่นายกับฉันมาถึงจุดนี้เป็นเพราะการตัดสินใจเลือกของตัวเองทั้งนั้น อย่าเอาฉันมาเป็นข้ออ้างเพื่อปกปิดยีนขี้แพ้ในตัวหน่อยเลย!”“ไม่ต้องมาทำปากดียั่วอารมณ์ให้ฉันรู้สึกละอายใจหรอก คำพูดยั่วยุของ

  • อย่าให้เขารู้ว่าฉันร้าย   ตอนที่ 69 : ตามไล่ล่า (3)

    “ฮัลโหล? ว่าไง?”“ไอ้ชารีฟ! ไอ้ห่วย! สายของแกทำงานยังไงวะถึงได้รายงานผิดพลาด! เป้าหมายไปเส้นทางอื่นไม่ได้เฉียดมาทางนี้เลยด้วยซ้ำ!!”“จะเป็นไปได้ยังไง? ไม่ผิดแน่ๆ!! นายดักซุ่มอยู่ที่นั่นแหละเผื่อว่าจะเป็นแผนลวง!”ชารีฟหรือณัทธร กดปุ่มตัดสาย แล้วดึงหูฟังบลูทูธออกอย่างหงุดหงิด จะเกิดการผิดพลาดไปได้ยังไง ในเมื่อเขาเพิ่งจะได้รับการยืนยันเส้นทางมาจากสายที่แฝงตัวอยู่ในกลุ่มผู้ใต้บังคับบัญชาของเชคฮ์อิสราร์เมื่อไม่กี่นาทีมานี้เองหรือว่าเปลี่ยนเส้นทางกระทันหัน??เขาคิดว่าน่าจะมีการเปลี่ยนแปลงแบบฉุกเฉินมากกว่าการที่อีกฝ่ายจะรู้ตัวว่ามีข่าวรั่วไหลชายหนุ่มยกนาฬิกาข้อมือขึ้น เพื่อดูเวลาก่อนการตัดสินใจ ในเมื่อภารกิจลอบสังหารเชคฮ์อิสราร์ได้ผิดพลาดไปแล้ว เขาเลยคิดว่าไปปิดจ๊อบหนี้เก่าของตัวเองก่อนจะดีกว่า แล้วค่อยกลับไปรายงานภารกิจที่ล้มเหลว ซึ่งถ้ารีบไปตอนนี้ก็น่าจะไปทันเวลากับที่เป้าหมายขับมาถึงในจุดที่เขากำหนดเอาไว้ในแผนพอดี…ชารีฟหยิบโทรศัพท์มือถือขึ้นมา เปิดแอพพลิเคชันที่ใช้ตรวจสอบสัญญาณจีพีเอส เพื่อหาตำแหน่งปัจจุบันของรถเป้าหมาย ซึ่งก็เห็นในแผนที่ว่ารถยนต์คันดังกล่าว กำลังจะแล่นผ่านสี่แยกไฟแดง

  • อย่าให้เขารู้ว่าฉันร้าย   ตอนที่ 68 : ตามไล่ล่า (2)

    ความร้ายกาจของบิดาที่เธอได้ยินจากปากของคนอื่น เป็นเหมือนหนามแหลมคม ที่คอยทิ่มแทงจิตใจอยู่ตลอด แต่กระบวนการให้อภัย พยายามดิ้นรนที่จะผลักความคิด และความรู้สึกด้านลบเหล่านี้ออกไป ด้วยการจดจ่อกับความรัก และความทรงจำดีๆ นึกถึงช่วงเวลาที่ยากลำบาก ที่เขามักจะแบกรับความเจ็บปวดเหล่านั้นไว้แทนอยู่เสมอ แล้วผลักดันให้เธอก้าวข้ามผ่านช่วงเวลาเลวร้ายนั้นไปให้ได้ ฝึกฝนเธอให้เข้มแข็ง สอนให้ยอมรับทุกความผิดพลาด และความล้มเหลว แล้วเรียนรู้ที่จะเยียวยาตัวเองเพื่อปิดกั้นทุกความเจ็บปวดเธอรู้ดีว่าการยึดติดกับความรู้สึกในทางลบ รังแต่จะเพิ่มความทุกข์ให้กับชีวิตมากขึ้น และขัดขวางไม่ให้หัวใจได้พบกับความสงบสุข แต่การที่จะละวางด้วยการให้อภัยนั้น ก็ทำให้เกิดความรู้สึกผิด ต่อบุคคลที่ต้องเสียชีวิตไปอย่างไม่เป็นธรรมนั้นด้วยเช่นกันแต่เมื่อมองในมุมกลับกัน เขาก็เป็นเพียงแค่มนุษย์คนหนึ่ง ซึ่งไม่ว่าใครก็สามารถทำผิดได้ เธอเองก็ไม่ได้รับการยกเว้น ความผิดหวังมักจะทำให้คนเราจมอยู่กับอดีต จนลืมมองความสุขที่กำลังได้รับอยู่ในปัจจุบัน และกำลังจะตามมาอีกมากมายในอนาคต จึงเป็นความคิดที่โง่เขลาอยู่ไม่ใช่น้อย ถ้าเรายังหยุดอยู่ที่ควา

  • อย่าให้เขารู้ว่าฉันร้าย   ตอนที่ 67 : ตามไล่ล่า (1)

    “ตรวจสอบชายสองคนที่สิบสองนาฬิกา ประตูทางเข้าด้านนอก ในมือถือผ้าสีดำห่อหุ้มวัตถุลักษณะเป็นแท่งยาวทรงกระบอก เปลี่ยน!”“แลนด์โรเวอร์สีดำขับเข้ามาจอดหน้าประตูทางเข้าออกของพนักงานชั้นใต้ดินสองคัน คันหนึ่งประมาณห้าคนใส่ชุดพนักงานรักษาความปลอดภัยเดินเข้าไปด้านใน มีอาวุธปืนติดตัว เปลี่ยน!”“ประตูทางออกอาคารผู้โดยสารหนึ่งที่เก้านาฬิกา พนักงานรักษาความปลอดภัยกำลังลากโซ่ตะปูเรือใบมาขวางถนน คาดว่าไม่ใช่เจ้าหน้าที่ของสนามบิน เปลี่ยน!”“ประตูทางออกฉุกเฉินของอาคารผู้โดยสารสอง ทางสะดวก ชาลีทีมเตรียมพร้อม รอรับคำสั่ง เปลี่ยน!” เสียงรายงานผ่านวิทยุสื่อสารเข้ามาเป็นระยะๆ หลังจากที่กระจายกำลังไปประจำตามจุดสำคัญต่างๆ เพื่อสังเกตความเคลื่อนไหวของฝ่ายตรงข้าม“พวกมันเริ่มทยอยกันเข้ามาแล้ว แจ้งเจ้าหน้าที่รักษาความปลอดภัยให้เตรียมอพยพประชาชนหากมีเหตุฉุกเฉิน! แจ้งเจ้าหน้าที่ตำรวจกับดับเพลิงหรือยัง?”“เรียบร้อยแล้วพ่ะย่ะค่ะ!”“อืม ถ้าพร้อมแล้วก็ไปกันตอนนี้เลย!”“รับคำสั่ง!” องครักษ์รับคำสั่งแล้วแจ้งแต่ละทีมผ่านวิทยุสื่อสารทันที “อัลฟ่าทีมเคลียร์พื้นที่ บราโวเตรียมรถบรรทุกเปิดทางออกแล้วรอรับคำสั่ง ชาลีทีมวีไอพีเ

  • อย่าให้เขารู้ว่าฉันร้าย   ตอนที่ 66

    ไลลานอนตัวอ่อนระทวยอยู่ครู่หนึ่ง สักพักก็ขยับตัวยกศีรษะขึ้นมานอนหนุนแขนแข็งแรงข้างหนึ่งของสามี เบียดเรือนร่างบอบบางเข้าชิดเพื่อขอความอบอุ่นจากร่างกายของเขา ซึ่งชายหนุ่มเองก็เพิ่งผ่อนคลายจากอาการหัวใจเต้นแรง หายใจหอบเหนื่อย เขาพลิกตัวตะแคง รั้งต้นขาของหญิงสาว ให้ขึ้นมาก่ายเกยอยู่ครึ่งๆ บนร่างกายของเขา ขาของเธอเบียดชิดจนเขารู้สึกอบอุ่นและชุ่มชื้นในซอกลี้ลับ ไล้ฝ่ามือจากโค้งสะโพกเลยมาถึงต้นขา ลูบผิวเรียบเนียนไปมาเบาๆ เป็นจังหวะอย่างเพลิดเพลิน พร้อมๆ กับปลอบโยนให้เธอคลายความอ่อนเพลีย เพื่อเข้าสู่โหมดพักผ่อน “ฝ่าบาทเพคะ?” “หืม?” ชายหนุ่มผงกศีรษะขึ้นมองอย่างแปลกใจเมื่อได้ยินเสียงของอีกฝ่าย ซึ่งเขาคิดว่าน่าจะเคลิ้มหลับไปแล้ว“คืนนี้เนญ่าเขาประกาศว่าจะเข้าหอกับฝ่าบาท แล้วทำไมพระองค์ถึงมาหาหม่อมฉันล่ะเพคะ?”“ก็ไม่อยากจะมา ตั้งใจจะสั่งสอนให้รู้สำนึกเสียหน่อยว่า การผลักดันให้ผัวไปมีผู้หญิงอื่น โดยไม่เต็มใจนั้นน่ะมันจะให้ผลยังไง แต่เผอิญว่าเห็นคนบางคน น้ำตาคลอเบ้าเลยมาดูเสียหน่อย ไม่รู้ว่าเสแสร้งแกล้งทำ หรือรู้จักที่จะหึงหวงผัวขึ้นมาบ้างแล้ว!”“หึงจริงๆ น่ะแหละเพคะ” ไลลายอมรับออกไปตรงๆ ถึงแม้ใ

  • อย่าให้เขารู้ว่าฉันร้าย   ตอนที่ 65 : นาทีระทึกขวัญ (2)

    กัปตันลุกขึ้นแล้วเดินออกประตูไปก่อน ผงกศีรษะให้นิดหนึ่งเมื่อเห็นพริมโรสยืนอยู่หน้าประตู เจ้าชายอิสราร์ยืนมองหญิงสาวผ่านช่องประตูห้องนักบินอยู่ครู่หนึ่ง ก่อนจะเอื้อมมือมาคว้าแขนเรียวเล็กดึงเข้ามาปะทะอกกว้าง รวบร่างบางเข้ามากอดรัดอย่างแนบแน่น ฝ่ามือข้างหนึ่งประคองไว้หลังศีรษะ แล้วบดขยี้ริมฝีปากร้อนระอุกับริมฝีปากนุ่มอย่างหิวกระหาย เร่าร้อนและดุเดือด เพราะอะดรีนาลีนที่หลั่งออกมาหลังจากเพิ่งจะผ่านเหตุการณ์เฉียดตาย กระตุ้นให้อารมณ์ของเขาพลุ่งพล่าน“อื้อ!..” ปลายลิ้นเงอะงะถูกดูดดุนและเกี่ยวกระหวัดไว้ด้วยลิ้นเร่าร้อนของอีกฝ่ายโดยไม่เปิดโอกาสให้ได้พักหายใจ ทำให้เกิดเสียงประท้วงแผ่วๆ ในลำคอ“ที่รัก~..ผมรักคุณ” เขาถอนริมฝีปากออก กระซิบเสียงแหบพร่าแนบชิดกับริมฝีปากนุ่มอุ่น เรียวลิ้นไล่ระไปบนริมฝีปากของอีกฝ่าย ก่อนประทับริมฝีปากลงมาอีกครั้ง หญิงสาวยกท่อนแขนขึ้นโอบรอบลำคอเขาไว้ ตอบรับจุมพิตด้วยจังหวะที่สอดรับกันเป็นอย่างดี เบียดร่างบอบบางเข้าแนบชิดร่างกำยำอย่างออดอ้อน ฝ่ามือหนาของเขาลูบไล้ไปตามแผ่นหลังไล่ลงไปถึงโค้งสะโพกกลมมนแล้วกดเข้าหาลำตัวตามแรงอารมณ์ที่กำลังเพิ่มมากขึ้น“เอ่อ..ทูลฝ่าบาท พายุท

  • อย่าให้เขารู้ว่าฉันร้าย   ตอนที่ 64 : นาทีระทึกขวัญ (1)

    รินรดานั่งเหม่อกำโทรศัพท์ไว้ในมือ หลังจากเพิ่งจะวางสายจากรามิล เขาสัญญาว่าจะรีบเคลียร์งานให้เรียบร้อย และจะตามไปหาที่เปเรซภายในสองวันเธอรู้สึกไม่สบายใจเมื่อนึกถึงความฝันเมื่อคืนที่ผ่านมา แสงสว่างที่ลอยละล่องในความมืดส่องมาที่เธอ พร้อมกับเสียงกระซิบที่แผ่วเบาแต่ชัดเจน เสียงนั้นไม่ใช่เสียงของใครในโลกนี้ มันเหมือนเสียงที่มาจากที่ไกลโพ้น ฟังดูทั้งใกล้และไกลในเวลาเดียวกัน ‘ถึงเวลาแล้ว…จงทำตามสัญญา’หญิงสาวไม่ได้บอกใครว่าหลังจากที่เธอ และพี่ชายฟื้นขึ้นมา เธอได้เห็นถึงความศักดิ์สิทธิ์ของหินพ่อมดลาบราดอไลต์ ด้วยความสงสัยและความหวัง เธอแอบพระมารดาเข้าไปในห้องลับ ท่องบทสวดที่เธอแอบจดเอาไว้ และอธิษฐานถึงสิ่งที่อยากรู้ที่สุดในชีวิตตอนนั้น นั่นก็คือการตามหาครอบครัวที่แท้จริงจากนั้นเธอก็ฝันซ้ำๆ เดิมๆ อยู่หลายครั้งจนมาถึงปัจจุบัน ไม่รู้ว่าบุคคลในฝันเป็นใคร เธอจำเรื่องราวได้ รู้ว่าคนในฝันเป็นผู้หญิงหรือผู้ชาย แต่จำหน้าไม่ได้เลยสักคน และครั้งที่ไปโรงพยาบาลจนเกิดอาการใจสั่น แล้วเจ็บแปลบอย่างรุนแรง จนหมดสติไปในครั้งนั้น ก็ทำให้เธอได้เห็นผู้หญิง ที่มีหน้าตาเหมือนเธอราวกับฝาแฝดชัดเจนเป็นครั้งแรก ในห้วงฝ

  • อย่าให้เขารู้ว่าฉันร้าย   ตอนที่ 63 : (っ˘з(˘⌣˘)18+

    “อะไรนะ!! แล้วได้ลงจอดฉุกเฉินไหม? งั้นถ้าจำเป็นต้องเปลี่ยนแผนโยกย้ายคนจากรัฐดีไปรัฐอีก็ดำเนินการได้เลย! อืม..ฉันอยู่บนเครื่องบินแล้ว คงจะถึงไล่ๆ กัน!...ได้!…เอาตามนั้น!”เจ้าชายอิดรีสชะงักมือที่กำลังวางโทรศัพท์บนโต๊ะหัวเตียง ขณะที่ปรายหางตาเห็นหุ่นอรชรอ้อนแอ้นกำลังเยื้องกรายเข้ามาในห้องด้วยกิริยาท่าทางที่ยั่วยวนหญิงสาวเข้ามายืนห่างจากเตียงไปประมาณหนึ่งช่วงแขน ค่อยๆ ปลดอาภรณ์ออกจากตัวทีละชิ้นอย่างเชื่องช้า พร้อมช้อนสายตาขึ้นมองชายหนุ่มอย่างเย้ายวนชวนเชิญเจ้าชายอิดรีสหยิบหมอนสองใบมาซ้อนหลัง นั่งกึ่งเอนพิงพนักหัวเตียงพาดแขนไว้บนเข่าข้างหนึ่งที่ตั้งชันขึ้น หรี่ตามองด้วยสีหน้าเรียบเฉยแต่ดูเยือกเย็น กิริยาภายนอกยังคงสงบนิ่ง รอบกายยังเผยความเย่อหยิ่งจองหองออกมาด้วยเขาเหลือบตามองนาฬิกาที่โต๊ะหัวเตียง ทำให้รู้ว่าอีกฝ่ายเลือกเวลาได้เหมาะเจาะ ไลลาไปสั่งงานกับเด็กรับใช้ได้สักพักใหญ่ๆ แล้ว และคงกำลังใกล้จะกลับมา เลยเปิดโอกาสให้น้องสาวสวมบทบาทน้องรักหักเหลี่ยมโหดเพื่อทำร้ายจิตใจผู้เป็นพี่ได้อย่างถูกที่ถูกเวลา เขาปล่อยให้อีกฝ่ายทำตามใจ โดยไม่ได้ปริปากเอ่ยทักท้วง เพื่อจะรอดูว่าเธอจะเปิดเผยเนื้อตั

  • อย่าให้เขารู้ว่าฉันร้าย   ตอนที่ 62

    "ฝ่าบาท! แย่แล้วเพคะ! กัปตันถูกทำร้ายขอความช่วยเหลือจากฝ่าบาทด่วนเลยเพคะ!" เจ้าชายอิสราร์ลุกพรวดขึ้น พริมโรสผวาลุกตามแล้วพยุงแขนเขาไว้ข้างหนึ่ง"เกิดอะไรขึ้น?" ชายหนุ่มถามขณะก้าวเท้าออกเดินได้ไม่เร็วนัก มือเรียวจึงจับแขนเขายกขึ้นแล้วก้มตัวลอดศีรษะเข้าไปใต้แขนแข็งแรง ก่อนจะวางแขนเขาให้เกาะไหล่เธอไว้เพื่อช่วยพยุง ทำให้ชายหนุ่มเดินได้เร็วขึ้นกว่าเดิม"นักบินผู้ช่วยลอบทำร้ายกัปตันเพคะ! โชคดีว่าอยู่ในความสูงที่กัปตันเปิดโหมดออโต้ไพลอทเอาไว้ ทันทีที่เกิดเรื่องเขากดอันล็อกประตูทำให้พวกเราได้ยินเสียงและเข้าไปช่วยเหลือเขาไว้ได้ทันเวลา ตอนนี้องครักษ์ลากตัวหมอนั่นออกไปแล้วเพคะ!""ทำไมไม่ตามนักบินเสริมให้ขึ้นมาแทน?""หม่อมฉันไปปลุกแล้วไม่ตื่นเลยทั้งสองคน ไฟล์ทเนิร์ซกำลังดูอาการพวกเขาอยู่ กัปตันเลยให้มาขอความช่วยเหลือจากฝ่าบาทเพคะ!"ลูกเรือต่างก็เห็นพ้องต้องกันทุกคนว่า นาทีนี้ไม่มีใครจะเหมาะสมเท่ากับเจ้านายพระองค์นี้อีกแล้ว เขามีชั่วโมงบินของการเป็นนักบินเอฟสามสิบห้า ของกองทัพรวมห้าพันแปดสิบห้าชั่วโมง ในจำนวนนี้ มีชั่วโมงของการทำหน้าที่นักบินผู้ช่วย อยู่แปดร้อยแปดสิบสี่ชั่วโมงกับเครื่องบินรุ่นนี้

Explore and read good novels for free
Free access to a vast number of good novels on GoodNovel app. Download the books you like and read anywhere & anytime.
Read books for free on the app
SCAN CODE TO READ ON APP
DMCA.com Protection Status