Share

ตอนที่ 43 

last update Last Updated: 2025-03-18 13:38:12

“อะไรนะ!! มันกล้าพูดออกมาแบบนี้!?!” ท่านอักมัลตะคอกออกมาด้วยน้ำเสียงโกรธขึ้ง รู้สึกอารมณ์เสียแต่เช้าเมื่อรู้ว่าลูกสาวสุดรักสุดหวงถูกเหยียดหยาม ความไม่พอใจจากเหตุการณ์ในอดีตที่ผ่านมา นับจนถึงตอนนี้จึงมีมากเป็นทวีคูณ

“เพคะ! ท่านพี่โมโหจนเกือบเสียกิริยาออกไป ท่านพ่อต้องอย่าปล่อยให้เขามาหยามเกียรติตระกูลของเรานะเพคะ!” เนญ่ารู้ว่าการที่สาดน้ำมันราดเข้ากองไฟให้ยิ่งลุกโหม จะทำให้ได้ผลลัพธ์ที่ตัวเองต้องการ เพราะพี่สาวเป็นคนที่ชอบเอาชนะ และบิดาก็จะต้องทำทุกทาง เพื่อให้ลูกสาวคนโปรดได้ทุกอย่างสมดังใจ

ผู้เป็นพ่อมองลูกสาวคนโตที่นั่งเงียบอย่างใช้ความคิด เขาเพิ่งจะได้รับข่าวการเคลื่อนไหว ของคนผู้หนึ่งก่อนที่จะมาทีแลนด์ และไม่แน่ว่าบุคคลผู้นี้ จะนำพาเขาและลูกสาวไปถึงเป้าหมายได้เร็วกว่าการแต่งงานกับอิสราร์เสียอีก เพียงแต่คิดว่าจะทำยังไงให้เธอเห็นด้วยกับวิธีของเขา และยอมทำตามอย่างไม่มีเงื่อนไข

“มันหยามเกียรติลูกกี่ครั้งแล้ว นับวันยิ่งหนักข้อขึ้นทุกที แล้วอย่างนี้ยังต้องการแต่งงานกับมันอยู่อีกรึ?” เขาหันไปถามลูกสาวสุดรักสุดหวงอย่างขัดใจ

“แต่ลูกมองไม่เห็นใครที่โดดเด่น และเหมาะสมกับลูกเท่ากับเขาอีกแล้ว!” อีกอย่างเธอกำลังจะเลยวัยแต่งงาน ถ้ายังรอเวลา เฟ้นหาผู้ที่เหมาะสมต่อไปอีก เกรงว่าเธอคงต้องออกเรือนกับเชื้อพระวงศ์ในตระกูลที่ต่ำศักดิ์กว่าแน่ๆ ซึ่งเป็นเรื่องที่เธอยอมรับไม่ได้ ผู้เป็นพ่อได้ยินดังนั้นจึงถอนหายใจ

“ไลลาฟังพ่อ สถานการณ์ตอนนี้มันเปลี่ยนไปแล้ว ที่พ่อมาทีแลนด์ครั้งนี้ ก็เพื่อพบคนสำคัญคนหนึ่ง และพ่อได้ตัดสินใจที่จะร่วมมือกับเขา ซึ่งเป็นหนึ่งในแกนนำของสหพันธ์ฯ และพวกเขาจะทำการรัฐประหารเร็วๆ นี้!”

“เขาเป็นผู้นำสหพันธ์เฮซบุลหรือเพคะ?” ไลลาเบิกตากว้างอย่างตกใจ “คงไม่ใช่ท่านลุงอัชรอฟ?”

“เขานั่นแหละ!”

“เขาจะกบฏหรือเพคะ?”

“ไม่ใช่! นี่เป็นการทวงคืนบัลลังก์ของเขา อิสราร์เป็นเพียงรุ่นหลาน แต่กลับทำลายกฎการสืบราชสมบัติ ที่กำหนดให้สืบผ่านบังลังก์จากพี่สู่น้องได้เท่านั้น ท่านลุงต้องการรักษาธรรมเนียมที่ปฎิบัติกันมาตลอดชั่วอายุคนให้ยังคงอยู่ เมื่อสิ้นท่านลุงแล้ว พ่อก็จะได้ขึ้นครองราชย์เป็นคนต่อไป!”

ถึงแม้เขาจะรู้อยู่แก่ใจว่า การเปลี่ยนถ่ายอำนาจจากรุ่นพ่อสู่รุ่นลูกแบบนี้มันเป็นระบบที่ไม่ชัดเจนนัก ในวันหนึ่งข้างหน้าก็ต้องถ่ายโอนอำนาจสู่ยุคของรุ่นหลานอยู่ดี แต่ถ้าส่งมอบกันข้ามรุ่นก็ต้องผ่านการต่อต้านจากฝ่ายที่ไม่เห็นด้วย รวมไปถึงรัชทายาทในสายอื่นๆ ซึ่งก็มีเป็นจำนวนมากที่พร้อมจะเข้าร่วมคัดค้านการแหวกกฎลักษณะนี้ 

แต่เขาจะใช้กฎนั้นเป็นข้ออ้าง อาศัยความไม่พอใจที่สมาชิกราชวงศ์อาวุโสมีต่ออิสราร์เป็นโล่ห์กำบัง แล้วส่งต่อบัลลังก์ให้สวามีของลูกสาว เพื่อเป็นการเปลี่ยนถ่ายการปกครองไปสู่คนรุ่นใหม่อย่างแนบเนียน ซึ่งเป็นข้อตกลงระหว่างเขา และพี่ชายที่เห็นพ้องต้องกัน และได้ประโยชน์ร่วมกันทั้งสองฝ่าย

“เมื่อถึงตอนนั้น เกียรติและฐานะของลูกก็จะยิ่งสูงขึ้นไปอีก จนไม่มีบุรุษในวัยใกล้เคียงกัน ที่คู่ควรกับลูกอีกแล้วใช่ไหมเพคะ?” ไลลาพ้อออกมาด้วยเสียงกระเง้ากระงอด แต่ผู้เป็นพ่อกลับยกยิ้มมุมปากอย่างมีแผนบางอย่างอยู่ภายในใจ

“ในสถานการณ์ตอนนี้อิดรีสกลับเป็นตัวเลือกที่ดี! ด้วยวัยที่ยังหนุ่มแน่น และศักดิ์ฐานะของเขาที่เป็นลูกชายคนเล็กของท่านลุง ในภายภาคหน้า เขาจะมีทั้งอำนาจและบารมีที่สูงส่ง ไม่ว่าตระกูลสายไหนก็เทียบชั้นเขาไม่ได้ และนี่คือสิ่งที่พ่อจะเตือน หากลูกยืนกรานจะแต่งกับอิสราร์ให้ได้ ชีวิตของลูกอาจจะแขวนอยู่บนเส้นด้าย เพราะอิสราร์คือคนที่โค่นล้มฐานอำนาจของท่านลุงโดยตรง โอมาร์ไม่ใช่เป้าหมายของเขา!” ไลลาแค่นทำเสียงฮึในลำคออย่างไม่สบอารมณ์

“ถึงเชคฮ์อิดรีส จะมีความสามารถไม่เป็นรองเชคฮ์อิสราร์ แต่นิสัยใจคอกลับตรงกันข้าม ชีวิตของลูกก็คงไม่ต่างกับการแขวนอยู่บนเส้นด้ายอยู่ดี หรืออาจจะเลวร้ายกว่า!”

“แต่ดูเขาจะมีใจให้ลูกอยู่มากนะ เคยพูดเกริ่นๆ มากับพ่อหลายครั้งแล้ว อีกอย่าง..ลูกจะต้องไปสนใจอะไร ต่อให้เขาร้ายกับคนทั้งโลก ขอเพียงเขาทะนุถนอมลูกเพียงคนเดียวก็พอแล้วนี่! ลูกดูชายาของตระกูลอื่นสิ มีภรรยาคนไหนบ้างที่มีอิทธิเหนือจิตใจของสามี!”

“พวกเขาวางแผนจะโค่นอำนาจของสุลต่านโอมาร์ โดยเริ่มจากเชคฮ์อิสราร์เป็นคนแรกหรือเพคะ?”

“ใช่! พ่อถึงอยากให้ลูกตัดสินใจให้ดี ถ้าลูกอยากจะเป็นสตรีอันดับหนึ่ง เป็นราชินีของประเทศในวัยที่ยังสาวยังสวย อิดรีสคือตัวเลือกแรกที่ดีที่สุด เทียบกับอิสราร์กว่าจะได้ขึ้นครองราชย์ ลูกก็คงผ่านวัยสาวไปแล้วครึ่งค่อนชีวิต!”

“แต่ถ้าสุลต่านสวรรณคตในเวลาอันใกล้นี้ สตรีอันดับหนึ่งก็อยู่ในกำมือของลูกอยู่ดีนี่เพคะ!”

“ลูกคิดว่าอิสราร์.. จะได้ครองอำนาจได้ง่ายดายขนาดนั้นเชียวหรือ เทียบกับฐานอำนาจของอิดรีส ที่มีท่านลุงคอยหนุนหลังให้อยู่ตอนนี้ ดูเหมือนอิสราร์จะด้อยกว่ามาก เฉพาะความร่วมมือจากเครือข่ายนอกประเทศ ก็มองเห็นชัดๆ แล้วว่าบัลลังก์นี้มันจะตกไปอยู่ในมือของใคร!” 

“ท่านพ่อหมายถึง..ท่านลุงจะยอมยกบัลลังก์ให้กับเขา?”

“ใช่! นั่นเท่ากับว่าพ่อส่งต่อบัลลังก์ให้กับลูกสาวของพ่อเช่นกัน! มิสู้เราเลือกข้างเสียแต่ตอนนี้ จะมิได้ประโยชน์สูงสุดมากกว่าหรอกหรือ? ถ้าเรารอเวลาไม่รีบตัดสินใจเสียแต่ตอนนี้ เมื่อถึงเวลานั้นเขาอาจจะไม่เห็นคุณค่าของเราแล้ว จนต้องตกเป็นรองให้เขาข่มเหง และอาจจะเป็นได้แค่เบี้ยตัวหนึ่ง ในชีวิตของเขาเท่านั้น!”

ไลลาได้คิด ถ้าตัดสินใจตั้งแต่ตอนนี้ เขาก็จะเทิดทูนให้เกียรติและยกย่องเธอเป็นสตรีอันดับหนึ่ง แต่ถ้ารอจนถึงตอนนั้นเธอคงนั่งชี้นิ้วบงการใครไม่ได้อีก 

“งั้นลูกขอไปพบเชคฮ์อิดรีส เพื่อหยั่งเชิงเขาดูก่อนได้ไหมเพคะ ถ้าดูแล้วมีความเป็นไปได้ว่าจะเป็นอย่างที่เราคิด ลูกก็จะขอเลือกเขาโดยไม่ลังเลอีกต่อไป!”

“ได้สิ! พ่อพามาที่ทีแลนด์ ก็เพื่อให้ลูกตัดสินใจให้เด็ดขาด อิดรีสก็พักอยู่ที่นี่ด้วยเหมือนกัน ชีวิตแต่งงานเลือกได้ครั้งเดียว ลูกจำเป็นต้องเลือกสิ่งที่ดีที่สุดให้กับตัวเอง เป็นสิ่งที่ถูกต้องที่สุดแล้ว!”

……………………

:: ณ ศูนย์ประชุมนานาชาติทีแลนด์ ::

ภายใต้การจัดการรักษาความปลอดภัยของพริมโรส มีการคุ้มกันอย่างแน่นหนา หญิงสาวเดินเข้าเดินออกในห้องโถงพิธีอยู่หลายรอบ เพื่อตรวจสอบซ้ำๆ ให้แน่ชัด 

เธอขอความร่วมมือ จากเจ้าหน้าที่ผู้จัดงาน ตั้งแต่ได้รับข่าวร้ายจากเจ้าชาย และขอให้มีการตรวจสอบบุคคลที่จะเข้าไปในห้องโถงอย่างเข้มงวด แม้แต่กล้องของนักข่าวก็ต้องเปิดดู เพื่อตรวจสอบว่าไม่มีการซ่อนอาวุธของมีคมเอาไว้

หญิงสาวไม่ได้ออกตัวว่าเป็นคนทีแลนด์ หน้าที่ในการแปลภาษาจึงเป็นของเลขาส่วนพระองค์

เมื่อเจ้าชายอิสราร์มาถึงสถานที่จัดงาน เธอก็รีบตามประกบเขาอยู่ด้านหลัง และคอยสังเกตพฤติกรรมของผู้คนโดยรอบ

เสียงเจ้าหน้าที่ประกาศชื่อ คณะของผู้แทนพระองค์ ของประเทศเปเรซดังขึ้น เมื่อเจ้าชายอิสราร์และคณะก้าวเข้ามาในห้องโถงพิธี พระองค์ทรงเดินนำหน้าคณะผู้ติดตามไปด้วยบุคลิกที่งามสง่า เรือนร่างสูงโปร่งในชุดสูทสีดำ ยิ่งช่วยเสริมบุคลิกให้ดูภูมิฐานและดูโดดเด่น แม้จะพบเจอผู้นำแต่ละประเทศที่มีศักดิ์และฐานะสูงกว่า ก็ยังไม่อาจสะกดข่มลักษณะที่โดดเด่นนี้ลงไปได้ 

โดยเฉพาะดวงตาที่เปี่ยมเสน่ห์คู่นั้น ยิ่งมองยิ่งคล้ายห้วงน้ำอันลึกล้ำดำมืด แต่ยามที่กลอกสายตาเคลื่อนไหว ก็คล้ายจะสามารถเปลี่ยนเป็นเปลวไฟขึ้นมาได้อย่างเร่าร้อน ดวงตาที่มีความขัดแย้งกันในตัวเองแบบนี้ ผสมผสานกันจนกลายเป็นเสน่ห์อันทรงพลัง และเป็นแบบฉบับเฉพาะตัวอย่างหนึ่งของเขา ทำให้ทันทีที่ผู้คนได้พบเห็น ก็คล้ายจะถูกดูดลงไปในสายตาคู่นั้น 

และด้วยใบหน้าที่หล่อเหลาคมคาย แฝงแววความอันตรายและความน่าเกรงขามเอาไว้ ตรงกับมาตรฐานความเป็นชายในอุดมคติของเหล่าบรรดาสตรีเป็นส่วนใหญ่ จึงทำให้เขาเป็นที่สนใจของสื่อมวลชนทุกสำนัก ต่างก็จับจ้องและรุมถ่ายรูป ลั่นชัตเตอร์รัวเร็วจนแสงแฟลชสว่างวาบอยู่ตลอดเวลา ราวกับมีสปอตไลท์ส่องตามเขาไปทุกย่างก้าว จนถึงแบลคดรอปสำหรับถ่ายภาพด้านหน้าห้องประชุม

 …

ก่อนงานจะเริ่มไม่กี่นาที หนึ่งในราชองครักษ์ที่ประจำอยู่ที่ศูนย์รักษาความปลอดภัย รับภารกิจคอยตรวจสอบกล้องวงจรปิดทุกตัวภายในงาน ได้ส่งข่าวมาแจ้งว่าพบคนที่แอบปลอมตัวเป็นนักข่าวเข้ามา และสามารถจัดการบุคคลนั้นเรียบร้อยแล้ว เธอจึงเข้าไปกระซิบเบาๆ ข้างพระกรรณ เพื่อให้พระองค์ทรงตื่นตัวเอาไว้ โดยไม่รู้ตัวเลยว่า ตัวเธอเองเป็นที่จับจ้องของคนผู้หนึ่งอยู่ตลอดเวลา ถึงแม้จะปกปิดตัวตน โดยใส่วิกปลอมที่เป็นผมรองทรงอย่างบุรุษ เขียนคิ้วเข้มหนา ใส่แมสปิดปากไว้ ก็ยังไม่แนบเนียนในสายตาของคนผู้นี้อยู่ดี

พริมโรสมองไปรอบห้องอย่างสำรวจตรวจตรา เพื่อไม่ให้สิ่งผิดปกติหลุดรอดสายตาไปได้ ถึงแม้ดูเผินๆ จะเป็นการมองกราดแบบไม่ตั้งใจก็ตามที เธอสะดุ้งเล็กน้อย เมื่อเจ้าชายกระตุกมือคล้ายจะพูดด้วย จึงโน้มตัวเข้าไปใกล้เพื่อรอรับคำสั่ง

“เบื่อเป็นบ้า! อยากกอดคุณจะแย่แล้ว!” เขาพูดด้วยนัยน์ตาเป็นประกายซุกซนราวกับวัยรุ่นที่กำลังมีความรัก ทำให้พริมโรสต้องแอบถลึงตาใส่ในความไม่เลือกเวลาของเขา กระซิบตอบเสียงเบา

“ฝ่าบาท! ตั้งใจทำงานไป! อย่าทำให้หม่อมฉันต้องเสียสมาธิ!” เขาทำปากเบ้ไม่สบอารมณ์เมื่อถูกภรรยาดุใส่ หันไปคุยอย่างจริงจังกับผู้นำของประเทศหนึ่งที่นั่งอยู่ใกล้กัน

พริมโรสรู้สึกว่ากำลังถูกจ้องมองจากที่ไหนสักที่ จึงพยายามตั้งใจมองไปรอบๆ อย่างละเอียดกว่าเดิม จนมาสะดุดที่โต๊ะแถวหลังของกลุ่มเจ้าหน้าที่รักษาความปลอดภัย

“ท่านหญิง ฉันจะเดินไปตรวจหน้าเวทีก่อนนะคะ”

“ได้ค่ะ” รินรดาหันมาพยักหน้ารับรู้ พริมโรสตบต้นแขนองครักษ์คนหนึ่งให้ดูแลแทน ก่อนจะเดินตรงไปยังตำแหน่งที่หมายตาไว้

“ไง? ว่างเกินไปใช่ไหม ถึงได้โดดงานมาเที่ยวเล่นที่นี่!”

“นี่ก็เป็นส่วนหนึ่งของงานเหมือนกันนะหัวหน้า!”

“ตรงไหน? ฉันให้แกไปคุ้มครองตัวประกันที่เปเรซ ไม่ใช่ติดตามผู้นำเปเรซกลับมาที่นี่!”

“ก็เขาน่ะ สามารถช่วยเหลือเรื่องกำลังคนในการค้นหาตัวประกัน ซึ่งตอนนี้ช่วยกลับมาได้แล้ว และนี่คือข้อแลกเปลี่ยนของงานเหมือนกัน”

“จริงรึ? เมื่อไหร่?”

“เพิ่งได้ข่าวเมื่อวานซืน ว่าแต่พ่อมีอะไรบิดปังหนูอยู่หรือเปล่า?”

“แกคิดว่าฉันซุกมีดไว้ในกระเป๋าหรือไง?”

“ใครจะรู้ดีไปกว่าพ่ออีกล่ะ บอกหนูมาดีกว่าว่าของที่ให้ไปรับคืออะไร?”

“ถ้าแกไปเอามาได้ก็ลองเปิดดูเอาเอง แล้วก็ให้คำตอบฉันมาหลังจากที่เปิดดูแล้ว”

“หือ? ร้ายแรงขั้นนั้นเชียว ถึงกับต้องเลือกข้าง?”

“ฉันจะไม่ตัดสินใจแทนแก ถึงฉันจะเลี้ยงแกมากับมือ ก็ไม่ได้หมายความว่าจะเป็นเจ้าชีวิต!” พริมโรสอึ้ง พ่อพูดถึงขนาดนี้ แสดงว่าต้องเป็นเรื่องที่ลำบากใจจริงๆ ทำให้เธอถึงกับพูดไม่ออก

“เมื่อวานหนูติดต่อไป แต่พ่อไม่รับสายและก็ไม่โทรกลับ พ่อสบายดีไหมคะ?” 

“เหมือนเดิม แกล่ะ? ทำไมทั้งตัวมีแต่รอยแผล?” ผู้ที่เป็นทั้งพ่อและเจ้านายมองกราดไปตามใบหน้าและลำคอที่ไร้เครื่องสำอางค์ ทั้งยังหลุบตาลงมองมือเรียวที่ยังทิ้งร่องรอยแผลเป็นเอาไว้

“ไปทดสอบความสามารถพิเศษมา ต้องแลกกับพลังชีวิตไปเล็กน้อย แต่ก็ผ่านไปได้ด้วยดี” เธอไม่ได้พูดออกไปตรงๆ เพราะมีความเกี่ยวพันกับกองทัพและราชวงศ์ อีกอย่างมันเป็นเรื่องที่เธอทำนอกเหนือหน้าที่ อาจมีความผิดได้

“เกี่ยวพันกับท่านนั้นด้วยหรือเปล่า?” เขาบุ้ยปากไปทางตัวแทนผู้นำประเทศเปเรซ

“ก็..นิดนึง แต่เป็นหนูที่เลือกที่จะเจ็บตัวเองมากกว่า พ่อจะเอาผิดทางวินัยหนูหรือไง?”

“แกเต็มใจแกว่งเท้าหาเสี้ยนเอง ฉันจะไปทำอะไรได้! อย่าให้เสียงานก็แล้วกัน!” เขาพูดจบก็ลุกขึ้น ขยับเข้ามาชิดแล้วพูดเสียงเบาที่ได้ยินเพียงแค่สองคน

“มีข่าวที่ยังไม่ได้กรองแจ้งเข้ามาว่า อาจมีผู้ก่อการร้ายแฝงตัวเข้ามาสร้างความไม่สงบที่นี่ แกก็ระวังตัวไว้ด้วยล่ะ! ถ้ายังไงอยู่ให้ห่างประธานาธิบดีอเมริโกยเอาไว้!”

พริมโรสหันขวับไปมองหน้า ซึ่งเขาก็เดินห่างออกไปแล้ว จึงได้แต่มองตามหลังบิดาไปด้วยความรู้สึกที่บรรยายไม่ถูก จากนั้นก็เหลียวมองระบบรักษาความปลอดภัยโดยรอบ ซึ่งก็ดูเหมือนจะเตรียมความพร้อมไว้เป็นอย่างดี 

แต่แล้วก็เหมือนจะรู้สึกถึงสายตาคมกริบของสามีจับจ้องอยู่ จึงหันหน้ากลับมามองและสบสายตากับเขาพอดี เธออ่านความคิดได้จากสีหน้าและท่าทีที่ไม่สบอารมณ์ของเขา แต่ก็มองตอบกลับไปด้วยสีหน้าเรียบเฉยแล้วเดินไปทางเวที

วิทยากรประกาศออกไมค์ เชิญชวนผู้นำแต่ละประเทศให้ขึ้นไปบนเวทีเพื่อถ่ายรูป พริมโรสยืนรอเขาอยู่ด้านข้าง สายตาจับจ้องที่เขาเพื่อระแวดระวัง 

เขาเดินเร็วมาหยุดยืนใกล้ๆ คล้ายรอให้คนอื่นทยอยเดินกันไปก่อน และโดยที่ไม่มีใครเห็นเขาเอื้อมมือมาบีบมือเธอเบาๆ แล้วไล้หัวแม่มือกลับไปกลับมาตามข้อนิ้ว ประจุไฟฟ้าเล็กๆ จู่โจมภายใต้ผิวตรงที่มีแรงกดจากหัวแม่มือ พุ่งเข้าสู่กระแสเลือดแล้วแผ่ซ่านไปทั่วทั้งเรือนร่าง 

พริมโรสเงยหน้ามองอย่างอบอุ่น แต่เขากลับส่งประกายตาดุแฝงแววข่มขู่มาให้ คล้ายเป็นสัญญาณเตือนการแสดงความเป็นเจ้าของอย่างเป็นนัยๆ เธอเชิดคางมองตอบอย่างไม่สะทกสะท้าน ทำให้เขาเม้มริมฝีปากจนเห็นเป็นเส้นตรง รู้สึกไม่พอใจที่ถูกอีกฝ่ายต่อต้านกลับมาอย่างถือดี จึงจ้องเขม็งมองกลับไปคล้ายจะบอกว่าฝากไว้ก่อน แล้วหันหลังเดินขึ้นไปบนเวที

Continue to read this book for free
Scan code to download App

Related chapters

  • อย่าให้เขารู้ว่าฉันร้าย   ตอนที่ 44 : ลอบสังหาร (1)

    พริมโรสหันหลังให้เวทีทันที เมื่อเห็นผู้แทนพิเศษจากเปเรซขึ้นไปยืนจับมือกับบรรดาผู้นำแต่ละประเทศ เพื่อให้ผู้สื่อข่าวได้ถ่ายรูป หญิงสาวกวาดสายตามองไปรอบห้อง แสกนหาสิ่งผิดปกติจากความเคลื่อนไหวเพื่อความเรียบร้อย จากนั้นล้วงโทรศัพท์ออกจากกระเป๋าเสื้อ รีบกดเปิดแอปพลิเคชันแชทเลือกชื่อผู้รับ แล้วพิมพ์ข้อความบางอย่างลงไปอย่างรวดเร็ว กดปุ่มส่งแล้วสอดเก็บในเสื้อสูททันทีโดยที่ไม่ได้ดูหน้าจอด้วยซ้ำ“ฉันนี่แทบจะกรีดร้อง! ทำไมเจ้าชายเปเรซถึงงานดีขนาดนี้นะ!” พริมโรสเหลือบตาดูคนตรงหน้า เห็นนักข่าวคนหนึ่งหน้าตาแดงระเรื่อ แววตาคลั่งไคล้ ยกหลังมืออุดปากทำท่าคล้ายอยากจะกรีดร้องออกมาจริงๆ“ใช่ๆ เห็นแล้วน้ำเดิน! งานดีขนาดนี้ไม่ควรมีคนเดียวในโลกจริงๆ!”ข้างบนเวทีถ่ายรูปเสร็จแล้ว และกำลังทยอยเดินกันลงมา เจ้าชายหยิบโทรศัพท์ขึ้นมาเปิดดูข้อความที่เข้ามาก่อนหน้านี้ พลันปากอ้าตาค้าง สีหน้าเปี่ยมไปด้วยความไม่อยากเชื่อ ตะลึงงันจนขาชะงักนิ่งยืนอยู่กับที่ แต่แล้วก็ยกยิ้มมุมปากอย่างยากสังเกตเห็น ความยโสบนใบหน้าหายไปอย่างไร้ร่องรอย แววตาอ่อนโยนทอดมองไปยังแผ่นหลังเล็กบางของคนที่อยู่ข้างหน้าเวทีด้านล่างอย่างอบอุ่น“ตายแล้ว

    Last Updated : 2025-03-18
  • อย่าให้เขารู้ว่าฉันร้าย   ตอนที่ 45 : ลอบสังหาร (2)

    ฝ่ายองครักษ์ชักปืน ยิงปะทะกับคนร้ายเสียงลั่นสนั่นเมือง จนรถยนต์ที่สัญจรไปมาทางฝั่งคู่ขนาน ต้องหักรถหลบเบี่ยงหนีวิถีกระสุนกันเป็นการใหญ่ ชายหนุ่มสะดุ้งสุดตัว พร้อมกับเปล่งเสียงอุทาน รู้สึกเหมือนถูกบางอย่างกระแทก และเจาะเข้าไปในผิวเนื้อที่ขาอย่างรุนแรง ก่อนจะรู้สึกหนักและชาไปทั้งแถบ แต่ถึงอย่างนั้นก็ไม่ได้คลายแรงที่กอดรัดร่างเล็กบางออกแม้แต่น้อยแต่แล้วเสียงรัวสาดกระสุนนัดแล้วนัดเล่าก็หยุดลง พร้อมกับร่างของคนร้ายที่ถูกระดมยิงจุดตายที่ไร้สิ่งป้องกัน จนเป็นรูพรุนไปทั่วใบหน้า และลำคอ แทบมองไม่เห็นเนื้อดี อาบด้วยสีแดงฉานที่เต็มไปด้วยเลือดทั่วทั้งร่าง นอนแผ่หราท่ามกลางปลอกกระสุน ที่ร่วงกราวราวกับลูกเห็บอย่างน่าสยดสยอง“ฝ่าบาท! ฝ่าบาท! หัวหน้า!” บรรดาองครักษ์ที่รอดชีวิตกรูกันมาดึงร่างที่ไร้ชีวิต ของเพื่อนร่วมงาน ที่นอนทับถมบนตัวของเจ้านายออก “โรส! คุณเป็นไงบ้าง?” เสียงทุ้มกระซิบถามเสียงแผ่วโหย ดูอ่อนแรงอย่างผิดปกติ“หม่อมฉันจะไม่กินกล้วยทับอีกเลยตลอดชีวิต!” หญิงสาวพูดเล่นด้วยความโล่งใจหวังจะให้เขาหัวเราะ แต่เขากลับหน้าซีดจนแทบไม่มีสีเลือด“โอ๊ย!!” ชายหนุ่มร้องออกมาอย่างเจ็บปวด แล้วกัดฟันแน่

    Last Updated : 2025-03-18
  • อย่าให้เขารู้ว่าฉันร้าย   ตอนที่ 46 

    “หัวหน้าจากสัญญาณจีพีเอส เป้าหมายอยู่อาคารทางขวามือนี้ครับ!”“เลี้ยวเข้าไปเลย!”คนขับรถได้เลี้ยวเข้าไปในโมเทล และจอดใกล้กับตำแหน่งของหมุดที่ปักอยู่บนแผนที่ในสมาร์ทโฟน ซึ่งอยู่ด้านหน้าที่จอดรถของห้องหนึ่งที่มีม่านปิดบังไว้อย่างมิดชิด ชายฉกรรจ์ร่างกำยำที่มีรอยแผลเป็นตรงกึ่งกลางคิ้วซ้าย ได้เปิดประตูลงมาจากรถเป็นคนแรก พร้อมชักอาวุธออกมาจากซองปืนข้างเอวมาเตรียมพร้อมไว้ในมือ ตามมาด้วยชายคนที่ถือสมาร์ทโฟน เขามีหน้าที่คอยตรวจจับหาสัญญาณจีพีเอสจากชิปติดตามตัวของเชื้อพระวงศ์พระองค์หนึ่ง คนขับรถเปิดประตูลงมาทีหลัง แต่เดินนำหน้าไปก่อนอย่างรวดเร็ว เขายื่นมือกำผ้าม่านที่บังสายตาสะบัดไปข้างหนึ่งให้เปิดออกกว้าง แล้วเบี่ยงตัวหันไปมองชายที่มีรอยแผลเป็นที่เดินตามมาด้านหลัง ซึ่งก็พยักหน้าเป็นการยืนยันทันที ที่เห็นว่าเป็นรถยนต์ของเป้าหมายที่กำลังตามหาอยู่ชายคนที่ทำหน้าที่ตรวจจับสัญญาณ มองที่หน้าจอสมาร์ทโฟน ตรงตำแหน่งปัจจุบันของลูกศร เขาเงยหน้าขึ้นแล้วชี้นิ้วทำสัญญาณมือไปยังห้องที่ปิดสนิทอยู่นั้นคนขับรถชักปืนออกมาเตรียมพร้อม แต่ขณะที่กำลังจะเดินตรงไปที่ประตู กลับมีเสียงโหวกเหวกโวยวายดังขึ้น ที่ด้านหลัง

    Last Updated : 2025-03-18
  • อย่าให้เขารู้ว่าฉันร้าย   ตอนที่ 47 : หรือจะเป็นคนที่ใช่?

    “ฝ่าบาท…ชัยเคาะฮ์ไลลามาขอพบพ่ะย่ะค่ะ” เจ้าชายอิดรีส กำลังดูข่าวเหตุการณ์ระเบิด ที่ศูนย์ประชุมนานาชาติในทีวี พอได้ยินชื่อของคนที่มาพบจึงเลิกคิ้วสูงอย่างแปลกใจไลลาเดินตามหลังเด็กรับใช้เข้ามาด้านใน ฝืนข่มความรู้สึกหวาดหวั่นอยู่ในใจลึกๆ เนื่องจากเคยได้ยินคำเล่าลือเกี่ยวกับอุปนิสัยของท่านลุงซึ่งเป็นบิดาของเขา ที่มีพฤติกรรมคล้ายกับพวกไซโคพาธ ที่มีความผิดปกติทางจิตใต้สำนึก ขาดความยับยั้งชั่งใจ ไม่เกรงกลัวต่อการกระทำผิด อย่างการลอบวางยาพิษสังหารบิดา ทั้งยังปลอมแปลงพระบรมราชโองการแต่งตั้งตัวเองเป็นกษัตริย์ เขาซึ่งเป็นลูกชายย่อมมียีนที่ไร้จิตสำนึก ของฆาตกรถ่ายทอดมาทางพันธุกรรม มาบ้างเป็นแน่ แต่ระดับของความรุนแรงจะน้อยหรือมาก คงขึ้นอยู่กับการเลี้ยงดูในวัยเด็กประกอบไปด้วยเธอได้ยินมานานแล้วว่า เขาเป็นคนเก็บตัวไม่ออกสื่อ ทั้งยังเป็นพวกชอบต่อต้านสังคม เย็นชาและไม่แยแสกับทุกสิ่งรอบตัว และอีกกระแสหนึ่งก็บอกว่าเขาเป็นพวกเพลย์บอยเจ้าชู้เสเพล เป็นด้านมืดที่ไม่เปิดเผยให้ใครได้เห็น ยิ่งทำให้เธอมั่นใจว่าเขาคงมีความสับสนเกี่ยวกับบุคลิกภาพในตัวเองอยู่พอสมควร และคงได้รับความผิดปกตินั้นมาด้วยเป็นแน่แท้ เพีย

    Last Updated : 2025-03-18
  • อย่าให้เขารู้ว่าฉันร้าย   ตอนที่ 48 : (っ˘з(˘⌣˘)18+ (1)

    พนักงานส่วนใหญ่เลิกงานแล้ว แต่รามิลกับเลขายังต้องอยู่ล่วงเวลาเป็นประจำทุกวัน เขากำลังเซ็นเอกสารอนุมัติ พลันเหลือบไปเห็นแสงสว่างที่หน้าจอโทรศัพท์มือถือที่วางอยู่ข้างแฟ้ม จึงสไลด์กดรับแล้วเปิดสปีคเกอร์โฟน“พี่ชาย!”“ว่าไง! มีอะไรด่วนหรือเปล่าโทรมาป่านนี้?”“ยายหนูค่ะ อยู่ๆ ก็หลับไปยี่สิบชั่วโมง เป็นแบบนี้มาสองวันแล้ว ศิดากับคุณรามเลยพาแกไปโรงพยาบาล หมอวินิจฉัยว่าเป็นโรคเจ้าหญิงนิทราที่ทำให้อยู่ในภาวะหลับนาน แกตื่นมาตอนหิวแล้วก็กินเยอะมาก จำใครไม่ได้เลยเหมือนกำลังละเมอ แล้วก็หลับไปอีก พี่ชายจะมาเยี่ยมแกหน่อยไหมคะ?”“ภาวะแทรกซ้อนอื่นล่ะ?”“ไม่มีค่ะ แสกนสมองก็ปกติ คุณหมอยังแปลกใจ”“เคยล้มหรือได้รับความกระทบเทือนถึงสมองหรือเปล่า ทำไมหลับมาราธอนขนาดนั้น?”“ไม่เคยเลยค่ะ ศิดายืนยัน! และนี่แหละที่คุณหมอยังหาสาเหตุไม่ได้ เพราะคนในครอบครัว ก็ไม่มีใครมีความผิดปกติในเรื่องนี้เลย.. พี่ชาย! ยังมีอีกเรื่องหนึ่งค่ะ! เลขาศิดาเพิ่งจะเอามาให้ดู มีบทสัมภาษณ์ของเจ้าชายเปเรซพระองค์หนึ่งในแมกกาซีน ทีนี้มีอยู่ภาพหนึ่งถ่ายติดหญิงสาวที่ยืนอยู่ด้านหลังท่าน หน้าเหมือนศิดาราวกับฝาแฝดเลยค่ะ ถึงแม้จะหันข้างแต่ดูยังไง

    Last Updated : 2025-03-18
  • อย่าให้เขารู้ว่าฉันร้าย   ตอนที่ 49 : (っ˘з(˘⌣˘)18+ (2)

    เขาถอนปากออกมาเล็กน้อย ก่อนจะขยับใบหน้าแนบชิดสัมผัสกับกลีบปากนุ่มอีกครั้ง ขบเม้มอย่างอ้อยอิ่ง บดคลึงแล้วดูดดึงซ้ำแล้วซ้ำเล่าจนริมฝีปากอิ่มบวมแดงไปหมด ยิ่งสัมผัสก็ยิ่งรู้สึกถึงความหอมหวาน ไม่ว่าจะตักตวงเท่าไหร่ก็ยังรู้สึกว่าไม่เพียงพอร่างเล็กบางประกบอยู่ระหว่างความร้อนผ่าวจากตัวเขา และความแข็งเย็นของผนัง แผงอกหนาภายใต้เนื้อผ้าเสียดสีกับความอวบอิ่มใต้บราเนื้อบางอย่างจงใจต้นขาด้านในถูกความแข็งนูน ที่กำลังร้อนจัดจากร่างของเขาแผดเผาทั้งที่มีเสื้อผ้ากีดขวางอยู่ ความรู้สึกเสียวซ่านยากจะบรรยายเกิดขึ้นจากจุดที่อ่อนไหวแล้วค่อยๆ ลุกลามแผ่ซ่านไปทั่วท้องน้อยพร้อมกับความวาบหวิวที่แทรกซึมไปทั่วทั้งร่าง แรงต่อต้านของเธอแทบจะไม่มีเหลือแล้วชายหนุ่มครางเสียงต่ำในลำคอ ปลายลิ้นว่องไวไล้ความชุ่มชื้นตรงผนังด้านในริมฝีปากล่างนุ่มอุ่น ก่อนจะถอนริมฝีปากออก ลมหายใจเป่ารดอยู่ที่ใบหูบอบบางเบาๆ ขณะที่ฝ่ามือใหญ่ อุ่นร้อนสอดเข้าไปใต้บราเนื้อบางทางด้านหลัง แล้วปลดตะขออย่างคล่องแคล่ว ลูบไล้แผ่นหลังที่ร่างเปลือยเปล่า นุ่มเนียนมืออย่างอดใจไม่ไหว จากนั้นก็ค่อยๆ เลื่อนมาด้านหน้าแล้วกอบกุมไว้เต็มในอุ้งมือ เคล้นคลึงความ

    Last Updated : 2025-03-18
  • อย่าให้เขารู้ว่าฉันร้าย   ตอนที่ 50 : (っ˘з(˘⌣˘)18+

    ฮัลดาเดินตามองครักษ์มายังห้องที่เขาบอกว่าเชคฮ์อิสราร์ให้เธอมาหา ซึ่งอยู่สูงกว่าชั้นที่เธอพักสองชั้น เธอดูข่าวลอบวางระเบิดจากในทีวีรู้สึกเป็นห่วงเขามาก จึงทิ้งงานทุกอย่างในมือแล้วรีบเดินตามมาอย่างรวดเร็วองครักษ์แง้มประตูทิ้งไว้ ทำให้เห็นว่าภายในมืดมาก มีเพียงไฟจากนอกหน้าต่างลอดผ่านเข้ามาได้เท่านั้น เธอค่อนข้างกลัวความมืดจึงเดินเข้าไปด้วยความรู้สึกที่หวาดหวั่นนิดๆ ปัง!!ฮัลดายืนสะดุ้งสุดตัวเมื่อได้ยินเสียงประตูปิดดังสนั่น ยกมือทาบหน้าอก ยืนตัวสั่นเทาอยู่กลางห้องด้วยความตกใจ“ว้าย!” หญิงสาวกระโดดหนีไปทางหนึ่ง เมื่อเห็นเงาวูบวาบเข้ามาใกล้ แต่พอเห็นร่างนั้นถนัดตาก็ยิ่งตกตะลึงเธอจำเขาได้ คืนที่เธอเสียความบริสุทธิ์ครั้งแรกเขาก็ใส่หน้ากากสีทองครึ่งหน้าแบบนี้ ในตอนนั้นเธอไม่รู้ว่าชายลึกลับเป็นใครจึงดิ้นรนขัดขืน ทำให้ไข้ขึ้นนอนซมเพราะป่วยไปหลายวัน เพราะยิ่งดิ้นเขายิ่งกระทำชำเราอย่างรุนแรงจนเจ็บระบมไปหมด เป็นเวลานานกว่าจะหนำใจเขา แล้วก็จากไปท่ามกลางแสงสลัว เหลือเพียงกระดุมเม็ดหนึ่งทิ้งไว้เท่านั้นเธอดูแลเสื้อผ้าเขาอยู่มีหรือจะไม่รู้ว่ากระดุมที่มีตัวอักษรไอเอสนั้นเป็นของใคร และพอไปตรวจดูก็พบว่

    Last Updated : 2025-03-18
  • อย่าให้เขารู้ว่าฉันร้าย   ตอนที่ 51

    ขณะที่กำลังอยู่ในช่วงเวลาของการวัดใจ จู่ๆ โทรศัพท์ที่หัวเตียงก็ดังขึ้น พร้อมๆ กับเงาใต้ประตูที่ผ่านไปวูบหนึ่งอย่างรวดเร็ว เนื่องจากภายในห้องนอนปิดไฟมืดแต่ด้านนอกเปิดไฟสว่าง ทำให้ผู้บุกรุกอยู่ในจุดที่เสียเปรียบ เจ้าชายอิสราร์ชูนิ้วขึ้นสองนิ้วแล้วกระดกสองครั้งชี้ไปที่ประตู หญิงสาวพยักหน้า เพราะเธอก็เห็นเหมือนกันว่ามีสองเงาที่วิ่งผ่านไปพร้อมๆ กันพริมโรสทำสัญญาณบอกเขาว่าเธอจะจัดการไอ้คนนี้ แล้วจะย้ายไปอยู่ฝั่งตรงข้าม เขาทำสัญญาณมือตอบกลับว่าโอเคตามแผนของเธอไม่กี่วินาทีประตูก็แง้มออกอย่างเชื่องช้า ปลายกระบอกปืนโผล่เข้ามาอย่างเงียบเชียบ เธอรอให้ประตูเปิดกว้างขึ้นอีกหน่อย จากนั้นก็กระแทกเท้าถีบไปโดยแรงปึง!! “โอ๊ก!!” คนร้ายร้องออกมาอย่างตกใจเมื่อถูกประตูกระแทกที่หัวก่อนจะกระเด็นไปอัดอยู่ระหว่างประตูกับผนัง ทันใดนั้นพริมโรสก็ทะลึ่งตัวลุกพรวดขึ้น ฟาดกระบอกปืนไปที่ข้อมือของมันจนปืนร่วงลงพื้น แล้วตีลังกาข้ามไปอยู่อีกด้านหนึ่งเหนี่ยวไกปืนเล็งไปที่หัวของมันสองนัดคนร้ายตัวสะบัดล้มทั้งยืนคาปากประตู เธอโยนปืนของคนร้ายลอยออกไปนอกห้อง ในพริบตานั้นก็มีเสียงปืนยิงวัตถุที่เธอเพิ่งจะโยนออกไปอย่างกระหน่

    Last Updated : 2025-03-18

Latest chapter

  • อย่าให้เขารู้ว่าฉันร้าย   ตอนที่ 70 

    “ฮ่าๆๆ ไง! ถึงกลับโกรธจนตัวเนื้อสั่นเลยเหรอ เป็นยังไงบ้างล่ะ รสชาติของการสูญเสีย ขมขื่นถึงอกถึงใจดีไหม?” คำพูดประโยคนี้ของเขาทำให้หญิงสาวแน่ใจได้ทันทีว่าอุบัติเหตุที่เกิดขึ้นนี้ไม่ใช่เรื่องบังเอิญ“ฉันเกลียดแกจนอยากจะเป็นคนถ่อย จะได้ถ่มถุยใส่หน้าส้นตึกของแกให้สาสมกับความรู้สึกขยะแขยง!” ชารีฟหรือณัทธรสะอึก เมื่อเจอความโกรธเกลียดอย่างรุนแรงจากผู้หญิงที่เขารัก“เกลียดฉันงั้นรึ? ต้องเป็นฉันไหมที่จะพูดประโยคนั้น แทบไม่อยากจะเชื่อเลยว่า เธอจะลืมฉันได้อย่างง่ายดายและไปแต่งงานใหม่!"“ฉันไม่ได้แต่งงานใหม่! นี่เป็นการแต่งงานครั้งแรกและครั้งเดียวของฉัน และอะไรคือลืมได้อย่างง่ายดาย? นายหนีตายไปเป็นปีๆ แล้วฉันจะต้องไปบวชชี เพื่ออุทิศส่วนกุศลให้นายด้วยอย่างนั้นรึ! เรารักกันดูดดื่มขนาดนั้นตั้งแต่เมื่อไหร่? ก่อนที่นายจะฆ่าพ่อฉัน เขายังพูดไม่ให้ฉันยึดติดกับตัวเขาเลย! ตรรกะของนายมันบิดเบี้ยวเป็นเวย์เดียวกับพวกโรคจิต ที่นายกับฉันมาถึงจุดนี้เป็นเพราะการตัดสินใจเลือกของตัวเองทั้งนั้น อย่าเอาฉันมาเป็นข้ออ้างเพื่อปกปิดยีนขี้แพ้ในตัวหน่อยเลย!”“ไม่ต้องมาทำปากดียั่วอารมณ์ให้ฉันรู้สึกละอายใจหรอก คำพูดยั่วยุของ

  • อย่าให้เขารู้ว่าฉันร้าย   ตอนที่ 69 : ตามไล่ล่า (3)

    “ฮัลโหล? ว่าไง?”“ไอ้ชารีฟ! ไอ้ห่วย! สายของแกทำงานยังไงวะถึงได้รายงานผิดพลาด! เป้าหมายไปเส้นทางอื่นไม่ได้เฉียดมาทางนี้เลยด้วยซ้ำ!!”“จะเป็นไปได้ยังไง? ไม่ผิดแน่ๆ!! นายดักซุ่มอยู่ที่นั่นแหละเผื่อว่าจะเป็นแผนลวง!”ชารีฟหรือณัทธร กดปุ่มตัดสาย แล้วดึงหูฟังบลูทูธออกอย่างหงุดหงิด จะเกิดการผิดพลาดไปได้ยังไง ในเมื่อเขาเพิ่งจะได้รับการยืนยันเส้นทางมาจากสายที่แฝงตัวอยู่ในกลุ่มผู้ใต้บังคับบัญชาของเชคฮ์อิสราร์เมื่อไม่กี่นาทีมานี้เองหรือว่าเปลี่ยนเส้นทางกระทันหัน??เขาคิดว่าน่าจะมีการเปลี่ยนแปลงแบบฉุกเฉินมากกว่าการที่อีกฝ่ายจะรู้ตัวว่ามีข่าวรั่วไหลชายหนุ่มยกนาฬิกาข้อมือขึ้น เพื่อดูเวลาก่อนการตัดสินใจ ในเมื่อภารกิจลอบสังหารเชคฮ์อิสราร์ได้ผิดพลาดไปแล้ว เขาเลยคิดว่าไปปิดจ๊อบหนี้เก่าของตัวเองก่อนจะดีกว่า แล้วค่อยกลับไปรายงานภารกิจที่ล้มเหลว ซึ่งถ้ารีบไปตอนนี้ก็น่าจะไปทันเวลากับที่เป้าหมายขับมาถึงในจุดที่เขากำหนดเอาไว้ในแผนพอดี…ชารีฟหยิบโทรศัพท์มือถือขึ้นมา เปิดแอพพลิเคชันที่ใช้ตรวจสอบสัญญาณจีพีเอส เพื่อหาตำแหน่งปัจจุบันของรถเป้าหมาย ซึ่งก็เห็นในแผนที่ว่ารถยนต์คันดังกล่าว กำลังจะแล่นผ่านสี่แยกไฟแดง

  • อย่าให้เขารู้ว่าฉันร้าย   ตอนที่ 68 : ตามไล่ล่า (2)

    ความร้ายกาจของบิดาที่เธอได้ยินจากปากของคนอื่น เป็นเหมือนหนามแหลมคม ที่คอยทิ่มแทงจิตใจอยู่ตลอด แต่กระบวนการให้อภัย พยายามดิ้นรนที่จะผลักความคิด และความรู้สึกด้านลบเหล่านี้ออกไป ด้วยการจดจ่อกับความรัก และความทรงจำดีๆ นึกถึงช่วงเวลาที่ยากลำบาก ที่เขามักจะแบกรับความเจ็บปวดเหล่านั้นไว้แทนอยู่เสมอ แล้วผลักดันให้เธอก้าวข้ามผ่านช่วงเวลาเลวร้ายนั้นไปให้ได้ ฝึกฝนเธอให้เข้มแข็ง สอนให้ยอมรับทุกความผิดพลาด และความล้มเหลว แล้วเรียนรู้ที่จะเยียวยาตัวเองเพื่อปิดกั้นทุกความเจ็บปวดเธอรู้ดีว่าการยึดติดกับความรู้สึกในทางลบ รังแต่จะเพิ่มความทุกข์ให้กับชีวิตมากขึ้น และขัดขวางไม่ให้หัวใจได้พบกับความสงบสุข แต่การที่จะละวางด้วยการให้อภัยนั้น ก็ทำให้เกิดความรู้สึกผิด ต่อบุคคลที่ต้องเสียชีวิตไปอย่างไม่เป็นธรรมนั้นด้วยเช่นกันแต่เมื่อมองในมุมกลับกัน เขาก็เป็นเพียงแค่มนุษย์คนหนึ่ง ซึ่งไม่ว่าใครก็สามารถทำผิดได้ เธอเองก็ไม่ได้รับการยกเว้น ความผิดหวังมักจะทำให้คนเราจมอยู่กับอดีต จนลืมมองความสุขที่กำลังได้รับอยู่ในปัจจุบัน และกำลังจะตามมาอีกมากมายในอนาคต จึงเป็นความคิดที่โง่เขลาอยู่ไม่ใช่น้อย ถ้าเรายังหยุดอยู่ที่ควา

  • อย่าให้เขารู้ว่าฉันร้าย   ตอนที่ 67 : ตามไล่ล่า (1)

    “ตรวจสอบชายสองคนที่สิบสองนาฬิกา ประตูทางเข้าด้านนอก ในมือถือผ้าสีดำห่อหุ้มวัตถุลักษณะเป็นแท่งยาวทรงกระบอก เปลี่ยน!”“แลนด์โรเวอร์สีดำขับเข้ามาจอดหน้าประตูทางเข้าออกของพนักงานชั้นใต้ดินสองคัน คันหนึ่งประมาณห้าคนใส่ชุดพนักงานรักษาความปลอดภัยเดินเข้าไปด้านใน มีอาวุธปืนติดตัว เปลี่ยน!”“ประตูทางออกอาคารผู้โดยสารหนึ่งที่เก้านาฬิกา พนักงานรักษาความปลอดภัยกำลังลากโซ่ตะปูเรือใบมาขวางถนน คาดว่าไม่ใช่เจ้าหน้าที่ของสนามบิน เปลี่ยน!”“ประตูทางออกฉุกเฉินของอาคารผู้โดยสารสอง ทางสะดวก ชาลีทีมเตรียมพร้อม รอรับคำสั่ง เปลี่ยน!” เสียงรายงานผ่านวิทยุสื่อสารเข้ามาเป็นระยะๆ หลังจากที่กระจายกำลังไปประจำตามจุดสำคัญต่างๆ เพื่อสังเกตความเคลื่อนไหวของฝ่ายตรงข้าม“พวกมันเริ่มทยอยกันเข้ามาแล้ว แจ้งเจ้าหน้าที่รักษาความปลอดภัยให้เตรียมอพยพประชาชนหากมีเหตุฉุกเฉิน! แจ้งเจ้าหน้าที่ตำรวจกับดับเพลิงหรือยัง?”“เรียบร้อยแล้วพ่ะย่ะค่ะ!”“อืม ถ้าพร้อมแล้วก็ไปกันตอนนี้เลย!”“รับคำสั่ง!” องครักษ์รับคำสั่งแล้วแจ้งแต่ละทีมผ่านวิทยุสื่อสารทันที “อัลฟ่าทีมเคลียร์พื้นที่ บราโวเตรียมรถบรรทุกเปิดทางออกแล้วรอรับคำสั่ง ชาลีทีมวีไอพีเ

  • อย่าให้เขารู้ว่าฉันร้าย   ตอนที่ 66

    ไลลานอนตัวอ่อนระทวยอยู่ครู่หนึ่ง สักพักก็ขยับตัวยกศีรษะขึ้นมานอนหนุนแขนแข็งแรงข้างหนึ่งของสามี เบียดเรือนร่างบอบบางเข้าชิดเพื่อขอความอบอุ่นจากร่างกายของเขา ซึ่งชายหนุ่มเองก็เพิ่งผ่อนคลายจากอาการหัวใจเต้นแรง หายใจหอบเหนื่อย เขาพลิกตัวตะแคง รั้งต้นขาของหญิงสาว ให้ขึ้นมาก่ายเกยอยู่ครึ่งๆ บนร่างกายของเขา ขาของเธอเบียดชิดจนเขารู้สึกอบอุ่นและชุ่มชื้นในซอกลี้ลับ ไล้ฝ่ามือจากโค้งสะโพกเลยมาถึงต้นขา ลูบผิวเรียบเนียนไปมาเบาๆ เป็นจังหวะอย่างเพลิดเพลิน พร้อมๆ กับปลอบโยนให้เธอคลายความอ่อนเพลีย เพื่อเข้าสู่โหมดพักผ่อน “ฝ่าบาทเพคะ?” “หืม?” ชายหนุ่มผงกศีรษะขึ้นมองอย่างแปลกใจเมื่อได้ยินเสียงของอีกฝ่าย ซึ่งเขาคิดว่าน่าจะเคลิ้มหลับไปแล้ว“คืนนี้เนญ่าเขาประกาศว่าจะเข้าหอกับฝ่าบาท แล้วทำไมพระองค์ถึงมาหาหม่อมฉันล่ะเพคะ?”“ก็ไม่อยากจะมา ตั้งใจจะสั่งสอนให้รู้สำนึกเสียหน่อยว่า การผลักดันให้ผัวไปมีผู้หญิงอื่น โดยไม่เต็มใจนั้นน่ะมันจะให้ผลยังไง แต่เผอิญว่าเห็นคนบางคน น้ำตาคลอเบ้าเลยมาดูเสียหน่อย ไม่รู้ว่าเสแสร้งแกล้งทำ หรือรู้จักที่จะหึงหวงผัวขึ้นมาบ้างแล้ว!”“หึงจริงๆ น่ะแหละเพคะ” ไลลายอมรับออกไปตรงๆ ถึงแม้ใ

  • อย่าให้เขารู้ว่าฉันร้าย   ตอนที่ 65 : นาทีระทึกขวัญ (2)

    กัปตันลุกขึ้นแล้วเดินออกประตูไปก่อน ผงกศีรษะให้นิดหนึ่งเมื่อเห็นพริมโรสยืนอยู่หน้าประตู เจ้าชายอิสราร์ยืนมองหญิงสาวผ่านช่องประตูห้องนักบินอยู่ครู่หนึ่ง ก่อนจะเอื้อมมือมาคว้าแขนเรียวเล็กดึงเข้ามาปะทะอกกว้าง รวบร่างบางเข้ามากอดรัดอย่างแนบแน่น ฝ่ามือข้างหนึ่งประคองไว้หลังศีรษะ แล้วบดขยี้ริมฝีปากร้อนระอุกับริมฝีปากนุ่มอย่างหิวกระหาย เร่าร้อนและดุเดือด เพราะอะดรีนาลีนที่หลั่งออกมาหลังจากเพิ่งจะผ่านเหตุการณ์เฉียดตาย กระตุ้นให้อารมณ์ของเขาพลุ่งพล่าน“อื้อ!..” ปลายลิ้นเงอะงะถูกดูดดุนและเกี่ยวกระหวัดไว้ด้วยลิ้นเร่าร้อนของอีกฝ่ายโดยไม่เปิดโอกาสให้ได้พักหายใจ ทำให้เกิดเสียงประท้วงแผ่วๆ ในลำคอ“ที่รัก~..ผมรักคุณ” เขาถอนริมฝีปากออก กระซิบเสียงแหบพร่าแนบชิดกับริมฝีปากนุ่มอุ่น เรียวลิ้นไล่ระไปบนริมฝีปากของอีกฝ่าย ก่อนประทับริมฝีปากลงมาอีกครั้ง หญิงสาวยกท่อนแขนขึ้นโอบรอบลำคอเขาไว้ ตอบรับจุมพิตด้วยจังหวะที่สอดรับกันเป็นอย่างดี เบียดร่างบอบบางเข้าแนบชิดร่างกำยำอย่างออดอ้อน ฝ่ามือหนาของเขาลูบไล้ไปตามแผ่นหลังไล่ลงไปถึงโค้งสะโพกกลมมนแล้วกดเข้าหาลำตัวตามแรงอารมณ์ที่กำลังเพิ่มมากขึ้น“เอ่อ..ทูลฝ่าบาท พายุท

  • อย่าให้เขารู้ว่าฉันร้าย   ตอนที่ 64 : นาทีระทึกขวัญ (1)

    รินรดานั่งเหม่อกำโทรศัพท์ไว้ในมือ หลังจากเพิ่งจะวางสายจากรามิล เขาสัญญาว่าจะรีบเคลียร์งานให้เรียบร้อย และจะตามไปหาที่เปเรซภายในสองวันเธอรู้สึกไม่สบายใจเมื่อนึกถึงความฝันเมื่อคืนที่ผ่านมา แสงสว่างที่ลอยละล่องในความมืดส่องมาที่เธอ พร้อมกับเสียงกระซิบที่แผ่วเบาแต่ชัดเจน เสียงนั้นไม่ใช่เสียงของใครในโลกนี้ มันเหมือนเสียงที่มาจากที่ไกลโพ้น ฟังดูทั้งใกล้และไกลในเวลาเดียวกัน ‘ถึงเวลาแล้ว…จงทำตามสัญญา’หญิงสาวไม่ได้บอกใครว่าหลังจากที่เธอ และพี่ชายฟื้นขึ้นมา เธอได้เห็นถึงความศักดิ์สิทธิ์ของหินพ่อมดลาบราดอไลต์ ด้วยความสงสัยและความหวัง เธอแอบพระมารดาเข้าไปในห้องลับ ท่องบทสวดที่เธอแอบจดเอาไว้ และอธิษฐานถึงสิ่งที่อยากรู้ที่สุดในชีวิตตอนนั้น นั่นก็คือการตามหาครอบครัวที่แท้จริงจากนั้นเธอก็ฝันซ้ำๆ เดิมๆ อยู่หลายครั้งจนมาถึงปัจจุบัน ไม่รู้ว่าบุคคลในฝันเป็นใคร เธอจำเรื่องราวได้ รู้ว่าคนในฝันเป็นผู้หญิงหรือผู้ชาย แต่จำหน้าไม่ได้เลยสักคน และครั้งที่ไปโรงพยาบาลจนเกิดอาการใจสั่น แล้วเจ็บแปลบอย่างรุนแรง จนหมดสติไปในครั้งนั้น ก็ทำให้เธอได้เห็นผู้หญิง ที่มีหน้าตาเหมือนเธอราวกับฝาแฝดชัดเจนเป็นครั้งแรก ในห้วงฝ

  • อย่าให้เขารู้ว่าฉันร้าย   ตอนที่ 63 : (っ˘з(˘⌣˘)18+

    “อะไรนะ!! แล้วได้ลงจอดฉุกเฉินไหม? งั้นถ้าจำเป็นต้องเปลี่ยนแผนโยกย้ายคนจากรัฐดีไปรัฐอีก็ดำเนินการได้เลย! อืม..ฉันอยู่บนเครื่องบินแล้ว คงจะถึงไล่ๆ กัน!...ได้!…เอาตามนั้น!”เจ้าชายอิดรีสชะงักมือที่กำลังวางโทรศัพท์บนโต๊ะหัวเตียง ขณะที่ปรายหางตาเห็นหุ่นอรชรอ้อนแอ้นกำลังเยื้องกรายเข้ามาในห้องด้วยกิริยาท่าทางที่ยั่วยวนหญิงสาวเข้ามายืนห่างจากเตียงไปประมาณหนึ่งช่วงแขน ค่อยๆ ปลดอาภรณ์ออกจากตัวทีละชิ้นอย่างเชื่องช้า พร้อมช้อนสายตาขึ้นมองชายหนุ่มอย่างเย้ายวนชวนเชิญเจ้าชายอิดรีสหยิบหมอนสองใบมาซ้อนหลัง นั่งกึ่งเอนพิงพนักหัวเตียงพาดแขนไว้บนเข่าข้างหนึ่งที่ตั้งชันขึ้น หรี่ตามองด้วยสีหน้าเรียบเฉยแต่ดูเยือกเย็น กิริยาภายนอกยังคงสงบนิ่ง รอบกายยังเผยความเย่อหยิ่งจองหองออกมาด้วยเขาเหลือบตามองนาฬิกาที่โต๊ะหัวเตียง ทำให้รู้ว่าอีกฝ่ายเลือกเวลาได้เหมาะเจาะ ไลลาไปสั่งงานกับเด็กรับใช้ได้สักพักใหญ่ๆ แล้ว และคงกำลังใกล้จะกลับมา เลยเปิดโอกาสให้น้องสาวสวมบทบาทน้องรักหักเหลี่ยมโหดเพื่อทำร้ายจิตใจผู้เป็นพี่ได้อย่างถูกที่ถูกเวลา เขาปล่อยให้อีกฝ่ายทำตามใจ โดยไม่ได้ปริปากเอ่ยทักท้วง เพื่อจะรอดูว่าเธอจะเปิดเผยเนื้อตั

  • อย่าให้เขารู้ว่าฉันร้าย   ตอนที่ 62

    "ฝ่าบาท! แย่แล้วเพคะ! กัปตันถูกทำร้ายขอความช่วยเหลือจากฝ่าบาทด่วนเลยเพคะ!" เจ้าชายอิสราร์ลุกพรวดขึ้น พริมโรสผวาลุกตามแล้วพยุงแขนเขาไว้ข้างหนึ่ง"เกิดอะไรขึ้น?" ชายหนุ่มถามขณะก้าวเท้าออกเดินได้ไม่เร็วนัก มือเรียวจึงจับแขนเขายกขึ้นแล้วก้มตัวลอดศีรษะเข้าไปใต้แขนแข็งแรง ก่อนจะวางแขนเขาให้เกาะไหล่เธอไว้เพื่อช่วยพยุง ทำให้ชายหนุ่มเดินได้เร็วขึ้นกว่าเดิม"นักบินผู้ช่วยลอบทำร้ายกัปตันเพคะ! โชคดีว่าอยู่ในความสูงที่กัปตันเปิดโหมดออโต้ไพลอทเอาไว้ ทันทีที่เกิดเรื่องเขากดอันล็อกประตูทำให้พวกเราได้ยินเสียงและเข้าไปช่วยเหลือเขาไว้ได้ทันเวลา ตอนนี้องครักษ์ลากตัวหมอนั่นออกไปแล้วเพคะ!""ทำไมไม่ตามนักบินเสริมให้ขึ้นมาแทน?""หม่อมฉันไปปลุกแล้วไม่ตื่นเลยทั้งสองคน ไฟล์ทเนิร์ซกำลังดูอาการพวกเขาอยู่ กัปตันเลยให้มาขอความช่วยเหลือจากฝ่าบาทเพคะ!"ลูกเรือต่างก็เห็นพ้องต้องกันทุกคนว่า นาทีนี้ไม่มีใครจะเหมาะสมเท่ากับเจ้านายพระองค์นี้อีกแล้ว เขามีชั่วโมงบินของการเป็นนักบินเอฟสามสิบห้า ของกองทัพรวมห้าพันแปดสิบห้าชั่วโมง ในจำนวนนี้ มีชั่วโมงของการทำหน้าที่นักบินผู้ช่วย อยู่แปดร้อยแปดสิบสี่ชั่วโมงกับเครื่องบินรุ่นนี้

Explore and read good novels for free
Free access to a vast number of good novels on GoodNovel app. Download the books you like and read anywhere & anytime.
Read books for free on the app
SCAN CODE TO READ ON APP
DMCA.com Protection Status