Share

ตอนที่ 39 : (っ˘з(˘⌣˘)18+ (1) 

last update Terakhir Diperbarui: 2025-03-17 23:20:12

“พี่ชายมาแล้ว! ตรงเวลาเป๊ะ!” รินรดาอุทานอย่างดีใจ ที่เห็นพี่ชายเดินออกมาจากลิฟต์ เพราะใกล้เวลาที่จะให้สัมภาษณ์กับสื่อเต็มที พลางหันไปมองพนักงานต้อนรับที่เดินตามท้ายขบวนมาด้วย ซึ่งโรงแรมระดับนี้จะอำนวยความสะดวก โดยบริการให้แขกสามารถเช็คอินภายในห้องพักได้เลย เพื่อความเป็นส่วนตัว

“มาเช็คอินใช่ไหมคะ เชิญทางห้องหนังสือได้เลยค่ะ มีเจ้าหน้าที่รออยู่แล้ว” พนักงานก้มตัวโค้งแล้วเดินแยกตัวไป

เจ้าชายอิสราร์ เดินนำหน้าคณะองครักษ์ ก้าวเข้ามาในห้องสวีทอันหรูหรา ภายในโรงแรมที่เจ้าภาพได้จัดเตรียมไว้ให้  พริมโรสรู้จักโรงแรมนี้เป็นอย่างดี ซึ่งเป็นโรงแรมของแบรนด์ลักซูรีสุดหรูชั้นนำระดับเอเชีย ใช้ต้อนรับบุคคลสำคัญระดับประเทศ หรือเชื้อพระวงศ์ของประเทศต่างๆ และโรงแรมแห่งนี้ยังเคยเป็นที่ตั้งของวังเจ้าฟ้าพระองค์หนึ่ง ของทีแลนด์ในอดีตอีกด้วย 

แต่ละห้องจะมีธีม ที่เน้นความหรูหราของราชวงศ์ในแต่ละยุค ซึ่งจะต่างกันที่การตกแต่ง และห้องนี้มีเนื้อที่โดยรวมประมาณห้าร้อยห้าสิบตารางเมตร มีทั้งหมดห้าห้องหลัก เฉพาะห้องนั่งเล่นหรือห้องรับแขก ก็กว้างขวางราวกับรวมเอาพื้นที่ของห้องแสตนดาร์ดสองห้องมารวมกัน ราคาห้องพัก อยู่ที่หนึ่งแสนสามหมื่นบาทต่อคืน และยังไม่ได้รวมราคาของค็อมพัลโซรี กาล่าดินเนอร์เข้าไปด้วย ไม่ว่าจะเข้าร่วมหรือไม่ก็ตาม

รินรดาซึ่งทำหน้าที่เป็นเลขาส่วนตัว นำเอกสารวางไว้บนโต๊ะตรงหน้า ขณะที่เจ้าชายกำลังนั่งลงที่โซฟาหลุยส์ โครงสีทองประกายเงิน แกะสลักลวดลายวิจิตรบรรจงสวยหรู ดูสง่างามจนสะกดทุกสายตาเฉกเช่นเดียวกับตัวเขา

“ว่ามา!” เขาหันมามองอย่างเกียจคร้าน น้ำเสียงเอื่อยเฉื่อย  ออกคำสั่งให้น้องสาว รายงานหมายกำหนดกา รแทนการหยิบเอกสารมาอ่านเอง

“บีบีซีกับกำลังรอสัมภาษณ์เป็นกลุ่มแรก มีถ่ายรูปเพื่อประกอบบทความด้วย เราจำกัดเขาไว้เพียงสามคำถาม เพราะวันนี้มีสื่อหลายหัวของทีแลนด์ มารออยู่หลายคิวเหมือนกันเพคะ”

“ถึงกี่โมง?”

“แค่เที่ยงเพคะ จึงจำกัดเวลาให้สั้นที่สุด”

“อืม งั้นมาเริ่มเลยเถอะ” เขาพูดแล้วหันไปแย้มยิ้มอบอุ่นที่แฝงความนัยลึกซึ้งให้กับหญิงสาวในชุดสูททะมัดทะแมง ที่นั่งอยู่โซฟาด้านหนึ่ง ไกลออกไปตรงผนังห้องทางด้านข้าง 

พริมโรสหัวใจเต้นโครมคราม แทบจะทะลุออกมาจากอก เมื่อนึกถึงความนัยลึกซึ้งที่เขาส่งมาให้นั้น และยิ้มตอบกลับไปอย่างหวานละมุน เพื่อเป็นการตอบย้ำในคำสัญญา

เขามองนัยน์ตาคู่งามเปล่งประกายสว่างไสวเต็มไปด้วยรอยยิ้ม ภายใต้แมสที่คลุมปิดไว้ทั้งจมูกและปาก พลันหัวใจก็เต้นแรงขึ้น แทบอยากจะเร่งเวลาให้ผ่านไปเร็วๆ ก่อนจะหันมาสนใจสิ่งที่ต้องทำตรงหน้า เมื่อได้ยินเสียงของน้องสาว

“มิสเตอร์มอร์เล่ย์เชิญค่ะ คุณมีเพียงสามคำถามในการสัมภาษณ์พร้อมกับถ่ายรูปอีกสามช็อต กรุณารักษาเวลาด้วยนะคะ” 

นักข่าวพยักหน้าอย่างงุนงงเล็กน้อย แอบบ่นในใจว่าทำไมต้องเร่งรีบถึงขนาดนั้น และเขาก็ไม่ได้สนใจในคำพูดของหญิงสาวเท่าไหร่นัก เขาเป็นนักข่าวสำนักใหญ่ ที่มีคนติดตามบนอินสตาแกรมอยู่ทั่วทุกมุมโลก แม้เจ้าชายจะเป็นราชวงศ์ที่มีศักดิ์ฐานะสูง ยังไงก็ต้องเกรงใจ นักข่าวสำนักดังอย่างเขาบ้างอยู่พอสมควร

ใครๆ ก็ชอบที่จะเป็นจุดเด่น เพื่อดึงดูดแสงจากทั่วโลกให้ส่องมาตัวเอง นี่ไม่ใช่โอกาสทองในการสร้างชื่อเสียงของเจ้าชายหรือไง?

อีกอย่าง เขาต้องการจะสร้างประวัติศาตร์อีกหน้าหนึ่ง ให้กับสำนักข่าวของเขา เหมือนกับอดีตนักข่าวอาวุโสคนหนึ่ง ที่ได้เคยสัมภาษณ์เจ้าหญิงราชวงศ์ยุโรป ผู้โด่งดังด้วยคำถามง่ายๆ แต่สร้างความแตกร้าวในชีวิตสมรส จนสะเทือนไปทั้งราชวงศ์ ถูกวิพากษ์วิจารณ์ จากประชาชนจนเกิดความคิดความแตกแยก ลุกลามจนเกิดเหตุการณ์จราจลช็อกโลกมาแล้ว นักข่าวอาวุโสคนนั้น จึงได้กลายเป็นตำนานของวงการนักข่าวทั่วโลก จากวีรกรรมที่ได้เคยทำเอาไว้ และนี่ก็จะเป็นผลงานชิ้นโบว์แดงในตำนานของเขาด้วยเช่นกัน

สายตาดุดันคมกริบลึกล้ำสุดจะหยั่ง นั่งมองท่าทีมั่นอกมั่นใจในตัวเองของนักข่าวคนดัง ที่กำลังนั่งลงตรงข้ามเขาด้วยความสุภาพ บุคลิกที่โดดเด่นสง่างาม ผสมผสานกับความแข็งกร้าวจนกลายเป็นเสน่ห์อันทรงพลังพิเศษเฉพาะตัว เปล่งประกายออร่าออกมา สะกดข่มปมเด่นของผู้คนรอบข้าง จนดูด้อยค่าไปในพริบตา 

นักข่าวรู้สึกประหม่า ขึ้นมาทันทีที่สบตาดำสนิทคมกริบราวกับเหยี่ยว ที่ทำให้ผู้คนได้เห็นเข้าแล้ว ก็คล้ายกับจะถูกดูดลงไปในสายตาคู่นั้น เขาจับมือเชคแฮนด์ตอบมือของเจ้าชาย ที่ยื่นมาทักทายตามมารยาทด้วยอาการเกร็งนิดๆ

"เอ่อ..กะ..กู้ดมอนิ่ง ฮาวอาร์ยู ผมขอเริ่มเลยนะครับ” เขาออกตัวขออนุญาต ซึ่งอีกฝ่ายก็พยักหน้า และผายมือให้เริ่มได้เลย “เอ่อ..ฝ่าบาทคิดว่า..พระองค์จะได้ขึ้นเป็นกษัตริย์ไหมครับ?"

เจ้าชายอิสราร์เลิกคิ้ว แววตาแฝงไปด้วยอารมณ์ความรู้สึกชนิดหนึ่งที่อ่านยาก สีหน้าคล้ายยิ้มแต่ไม่ยิ้ม เอ่ยตอบด้วยท่าทีเรียบเฉย

"ไม่มีใครที่รู้คำตอบนี้นอกจากท่านศาสดา ที่ได้รับสารมาจากพระเจ้า และแน่นอนว่าคำถามนี้ก็อยู่ในความคิดของคนเปเรซทั้งประเทศด้วยเช่นกัน แต่ใครเล่าจะรู้ว่า โชคชะตาในวันข้างหน้าจะเป็นอย่างไร!"

นักข่าวไม่ได้คำตอบที่ต้องการ จึงตั้งคำถามใหม่โดยเปลี่ยนคำพูด แต่ก็ยังมีความหมายที่เป็นนัยยะเดิมอยู่ดี

"พระองค์ทรงมีความคิด ที่อยากจะขึ้นเป็นกษัตริย์หรือไม่?" ประกายประหลาด ฉายวาบในแววตาของผู้ถูกถาม อยู่เพียงวูบหนึ่ง ก่อนจะถูกแทนที่ด้วยนัยน์ตาสีดำสนิท สาดแววลึกลับเข้าใจยาก เอ่ยตอบคำถามด้วยเสียงเรียบ

"ผมถูกถามถึงประเด็นนี้บ่อยๆ ในช่วงสองสามปีที่ผ่านมา เป็นคำถามที่คล้ายจะยั่วยุ ให้มกุฏราชกุมารมีปัญหาขัดแย้งกับองค์เหนือหัวให้ได้ ซึ่งผมก็เข้าใจเจตนาของสื่อทุกสำนักเป็นอย่างดี ในฐานะน้องชาย ผมเห็นว่าการที่พี่ชายทรงรับภาระหน้าที่ความรับผิดชอบทั้งหมด ของประเทศมาแบกไว้บนไหล่เสียเอง ในขณะที่ผมสามารถใช้ชีวิตได้อย่างอิสระเสรี แล้วทำไมผมจะต้องเอาก้อนหินขนาดมหาศาลเช่นนั้น มากดทับตัวเองให้อึดอัดด้วยล่ะ?"

"ถ้าการเป็นกษัตริย์ ทำให้ฝ่าบาทรู้สึกว่ามีข้อจำกัดมากมายขนาดนั้น คิดว่าพระองค์เหมาะสม ที่จะเป็นกษัตริย์ในอนาคตหรือไม่?" นักข่าวเผลอกลั้นใจมองอีกฝ่ายว่าจะตอบเขาอย่างไร

ใบหน้าสง่างามยกยิ้มมุมปากอย่างร้ายกาจ ก่อนที่จะเอ่ยปากตอบคำถามอย่างหนักแน่น

"ทุกเรื่องที่เกิดขึ้นในชีวิตผม ไม่ว่าจะเหมาะสมหรือไม่ ควรหรือไม่ควรอย่างไร มันก็ไม่สำคัญอะไรกับผมเลย ถ้าสิ่งนั้นจำเป็นต้องทำผมก็จะทำมันโดยไม่ลังเล"

นักข่าวลอบก่นด่าในใจกับประโยคที่ได้รับ ซึ่งเป็นการถามเหมือนไม่ได้ถาม ตอบเหมือนไม่ได้ตอบ เขาจึงคิดว่าพูดยั่วยุไปตรงๆ เลยน่าจะได้ผลกว่า แววตาคมฉายแววนักล่า รอยยิ้มเจ้าเล่ห์ฉายชัดอยู่บนใบหน้า ก่อนที่จะเอ่ยปากถามอย่างมั่นใจ

"ถ้าอย่างนั้นการทำรัฐประหาร..."

"มิสเตอร์มอร์เล่ย์! หมดเวลาของคุณแล้วค่ะ ต่อไปเป็นคิวของทีแลนด์แมกกาซีน"

"ได้โปรดมิส! ผมขออีกคำถามเดียว!" เขารู้สึกเหมือนวิมานในฝันกำลังล่มถล่มลงมาบนหัว ความพยายามในครั้งนี้กำลังเสียเปล่า บทสัมภาษณ์แบบนี้จะเอาไปขายได้อย่างไร และโอกาสแบบนี้ก็ไม่ได้มีมาบ่อยๆ

"ต้องขอโทษด้วยค่ะ เชคฮ์เพิ่งจะลงจากเครื่องก็มาให้สัมภาษณ์ทันที จึงมีอาการเจ็ทแลคเล็กน้อย ยังปรับตัวไม่ได้ เราจึงต้องจัดสรรเวลาของสื่อ ที่มารอเป็นจำนวนมากให้กระชับที่สุด เพื่อให้ท่านได้พักผ่อนอย่างเต็มที่ ก่อนงานสำคัญในวันพรุ่งนี้ ขอความร่วมมือด้วยนะคะ เชิญค่ะ"

รินรดาลอบยิ้มในใจ เหลือบไปเห็นแววตาดุดันคล้ายต้องการสังหารคน มุมปากยกยิ้มอย่างชั่วร้ายของพี่ชายก็เข้าใจกันทันที เจอคำตอบไปป่วนของเหลวในหัวของคนพี่แล้ว ทีนี้ก็เจอนิสัยกากๆ ของน้องสาวอย่างเธอไปด้วยแล้วกัน 

คนบางคนก็ใช้โอกาสที่ได้รับมาอย่างสิ้นเปลือง ในบางครั้งใช่ว่าจะได้มันมาง่ายๆ พอได้มาแล้ว แทนที่จะถนอมกลับไม่รู้จักใช้ให้เกิดประโยชน์ ถ้าถามอะไรที่สร้างสรรค์กว่านี้ ก็จะยืดเวลาให้อยู่หรอก แต่คำถามที่มีความสุขบนความทุกข์ผู้อื่นเช่นนี้ ไม่ควรค่าแก่การใส่ใจ

ให้ยึดบีบีซีงั้นรึ? ได้!! เดี๋ยวจะตามไปยึด ยันสำนักงานใหญ่เลย!!  อยากจะรู้เหมือนกันว่า ถ้าอยู่ในกำมือฉันแล้ว ยังจะมีความกล้าแบบนี้อีกไหม!!

พริมโรสเห็นสองพี่น้องสบตากัน ก็รู้ทันทีว่าคงจะแอบทำอะไรลับหลังผู้คนอีกแล้ว ทำให้นึกสงสารนักข่าวคนนี้อยู่ไม่น้อย แต่อีกใจก็แอบขบขันที่เขาดวงไม่ดี จำเพาะต้องมาเจอพี่น้องมหาประลัยคู่นี้ แต่ใครให้เขามีปากไว้เพื่อกินข้าวอย่างเดียว แต่ไม่รู้จักพูดอะไรที่มันสร้างสรรค์กันล่ะ 

คำถามแบบนี้ไม่ต้องตอบก็ได้! โชคดีแค่ไหนแล้วที่ไม่ต้องกินข้าวผ่านธูป!!

พริมโรสอยู่ในสระน้ำส่วนตัวหน้าห้องพัก พวงแก้มแดงระเรื่อ นัยน์ตาหวานเยิ้ม ริมฝีปากเผยอแย้ม ขณะที่ใบหน้าหล่อเหลาคมคายกำลังก้มลงมาหาอย่างเชื่องช้า อยู่ใกล้เสียจนได้กลิ่นลมหายใจหอมที่คุ้นเคย ทั้งกลิ่นอายและร่างอันอบอุ่นของเขาก็โอบล้อมอยู่รอบตัว แต่แล้วก็ต้องรีบถอยออกห่าง ทันทีที่ได้ยินเสียงหวานใสตะโกนดังลั่นมาจากภายในห้อง

“พี่ชาย! พี่สะใภ้! ดูนี่บทสัมภาษณ์ในแมกกาซีนของทีแลนด์ออกมาแล้ว ไวมากๆ เลย ผ่านไปไม่กี่ชั่วโมงเอง แต่เอ๊ะ!” รินรดาชะงักเท้าที่กำลังก้าวเดิน ขณะที่สายตาเพ่งมองนิตยสารที่กำลังกางอยู่ในมือ

“เป็นอะไร?” ชายหนุ่มถามอย่างสงสัย

“น้องอุตส่าห์หลบมุมกล้องแล้ว พวกเขายังถ่ายติดไปได้อีก มีรูปพี่สะใภ้ติดไปด้วยรูปหนึ่ง” ปากสวยเชิดขึ้นอย่างไม่พอใจ

“ทำไมล่ะ กลัวความลับเปิดเผยหรือไง?”

“ก็ใช่น่ะสิ! เดี๋ยวคนในสำนักข่าวที่เปเรซก็รู้กันหมดว่า น้องเป็นผู้บริหาร ไม่ได้เป็นแค่นักข่าวธรรมดา!”

“ท่านหญิงเป็นนักข่าวด้วยหรือเพคะ?” 

“ฉันทำหลายอย่างเลยค่ะ สุดแต่ว่าพี่ชายเขาจะให้ทำอะไร”

“ที่เราตามหาตัวประกันได้รวดเร็วกว่าที่คิด ทั้งๆ ที่พวกมันย้ายสถานที่กันเป็นว่าเล่นก็เพราะยัยนี่แหละ นับว่ามีประโยชน์อยู่ไม่น้อย!”

“ฮึ! ถ้าไม่ทำงานให้ ก็จะไร้ประโยชน์อย่างงั้นสิ?” ปลายคางมนเชิดขึ้นเถียงตอบอย่างเย่อหยิ่ง ท่าทางคล้ายผู้เป็นพี่ราวกับพิมพ์

“อย่าบอกนะว่า นักข่าวที่ไม่ทราบสัญชาติที่ถูกจับตัวไปด้วยในตอนนั้น ก็คือท่านหญิง!” พริมโรสเบิกตากว้างอย่างคาดไม่ถึง รู้สึกประหลาดใจ

“ฉันเองค่ะ! แถมยังรู้ด้วยว่าคนบงการเป็นพวกไหน และมีใครบ้าง!”

“ท่านหญิงไม่กลัวอันตรายเลยหรือเพคะ?”

“ฉันเอาตัวรอดได้ค่ะ ยิงปืนแม่นด้วย ขอบอก!”

“แรงเท่ามดจะเอาตัวรอดไปได้สักกี่น้ำ อย่ามาทำเป็นคุย ทีหลังทำอะไรโดยพละการแบบนี้อีก จะสั่งจับขังสักเดือน! ท่านแม่เป็นห่วงมากแค่ไหนรู้บ้างหรือเปล่า?”

“โธ่! ท่านพี่ ตั้งแต่กลับมานี่ก็บ่นไม่เลิก! เหตุการณ์มันคับขัน ถ้าไม่ทำอย่างนั้นจะช่วยเหลือคนอื่นๆ ได้ยังไงล่ะ! ไม่เอาและ จู๋จี๋กันไปเลย ไม่อยู่เป็นก้างแล้วก็ได้!” หญิงสาวพูดจบก็สะบัดหน้าพรืด กระทืบเท้าจากไปอย่างแง่งอน 

พริมโรสมัวแต่ยิ้มอย่างเอ็นดู เลยไม่ทันรู้ตัวเมื่อแขนแข็งแรงโอบมารอบเอวแล้วดึงเข้าหาตัวจับหันหลังพิงกับขอบสระ พร้อมกับดึงสายบิกินี่ที่ผูกไว้ที่เอวออก

“ฝ่าบาท! นี่มันกลางแจ้งนะเพคะ!”

“สระส่วนตัว! ใครแหลมเข้ามาจะสั่งพักงานให้หมด!” น้ำเสียงดุดัน แต่นัยน์ตากลับหวานล้ำเสียจนใจสั่น

“ฮื้อ! เอาแต่ใจ..” เธอยังพูดไม่ทันจบ ก็ถูกฝ่ามือใหญ่สอดเข้าไปในกลุ่มผมบริเวณท้ายทอย แล้วกำไว้ดึงให้ใบหน้าเงยแหงน ปลายลิ้นปาดเลียที่ริมฝีปากล่าง แล้วขบเม้มเบาๆ ไล้ปลายลิ้นไปตามเรียวปากนุ่ม แล้วดูดที่ริมฝีปากบน ประทับจุมพิตเบาๆ ก่อนที่จะถาโถมจูบอย่างหนักหน่วง เปลี่ยนเสียงประท้วงให้เป็นเสียงครวญครางอยู่ในลำคอได้ในพริบตา 

เขาจับสองขาเรียวให้รัดสะโพกของเขาไว้ ในขณะที่ยังจุมพิตไปด้วย แล้วสอดใส่ท่อนเนื้อหนาเข้าหาโพรงเนื้อที่หุบแน่น ก่อนจะค่อยๆ โยกสะโพกขยับ 

พริมโรสรีบยกแขนสองข้างจับไหล่เขาไว้เป็นหลัก ใจหนึ่งก็กลัวคนอื่นจะมาเห็น อีกใจก็แอบตื่นเต้นไปกับการกระทำของเขาอยู่ไม่น้อย ซึ่งเป็นการสร้างประสบการณ์แปลกใหม่ที่เธอไม่เคยเจอมาก่อน

เขาถอนริมฝีปากออก ซุกไซ้ที่ซอกคอนุ่ม รู้สึกเสียวไปตลอดทั้งหน้าขา

“อาาา~..ขนาดอยู่ในน้ำก็ยังแนบแน่นเสียจนแทบขยับไม่ได้เลย!”

“ฝ่าบาท~..อาาา~..เสียวเหลือเกินเพคะ” แรงเสียดสีของลำเอ็นกับโพรงเนื้อนุ่มผสมกับแรงดันของน้ำที่กระเพื่อนไหวไหลลื่นอยู่รอบตัว ทำให้รู้สึกเสียวกระสันเสียจนเหมือนกับมีกระแสไฟฟ้าวิ่งพล่านไปทั่วทั้งร่าง จนหลุดปากครางออกมาอย่างวาบหวิว สองแขนโอบกอดคอเขาไว้แน่น

“โรสจ๋า~..แต่งงานกับผมนะ..จดทะเบียนกันที่นี่เลยดีไหม?” เสียงแหบพร่ากระซิบที่ข้างหู พร้อมกับควงสะโพกกระแทกเข้ามาซ้ำๆ รัวถี่ 

เดี๋ยวนะ!! นี่เป็นการขอแต่งานที่พิสดารที่สุดในสามโลกแล้วใช่ไหม?? ฮือ..ฉากขอแต่งงานที่สุดแสนโรแมนติกแบบในฝัน ได้ระเหยหายไปในอากาศเสียแล้ว!!

......................

Compulsory Gala Dinner — ดินเนอร์หรูหราแบบบังคับจ่าย มักจัดในเทศกาลใหญ่ๆ ให้ผู้สนใจรับประทานอาหารพร้อมเพลิดเพลินกับบรรยากาศได้เข้าร่วมตามความสมัครใจ ส่วนใหญ่จะเป็นคืนวันส่งท้ายปีเก่า วันนคริสต์มาสอีฟ หรืออาจจะเป็นวันลอยกระทงของแต่ละปี

Lanjutkan membaca buku ini secara gratis
Pindai kode untuk mengunduh Aplikasi

Bab terkait

  • อย่าให้เขารู้ว่าฉันร้าย   ตอนที่ 40 : (っ˘з(˘⌣˘)18+ (2)

    เจ้าชายอิสราร์ลงลายมือชื่อเสร็จ ก็ยื่นปากกาพร้อมกับเลื่อนแฟ้มเอกสารตรงหน้ามาให้พริมโรส เธอรับปากกามาจากมือเขา และจรดเซ็นชื่อและนามสกุลของตัวเอง ลงไปบนกระดาษ จากนั้นส่งต่อให้ท่านหญิง และท่านทูตเปเรซประจำทีแลนด์ลงลายมือชื่อเป็นสักขีพยานรินรดาเตรียมการทุกอย่างเร็วมาก สมกับเป็นเลขาทรงประสิทธิภาพ เพียงได้รับคำสั่งจากพี่ชายทันที ที่เขาขึ้นจากสระน้ำ ก็ใช้เวลาเตรียมการประมาณหนึ่งชั่วโมง ไม่ว่าจะเป็นติดต่อสถานทูต ขอใบรับรอง ยื่นคำร้อง เตรียมบุคคลที่จะร่วมเป็นพยาน จนไปถึงเชิญเจ้าหน้าที่ มาทำการจดทะเบียนสมรสให้ ภายใต้กฎหมายของทีแลนด์ และดำเนินการเสร็จเรียบร้อยทุกอย่างภายในชั่วโมงที่สองเจ้าหน้าที่สถานทูตส่งเอกสารสมรสมาให้สองแผ่น พร้อมคำอวยพรให้กับคู่สมรสใหม่ และชี้แจงว่าเมื่อไปถึงเปเรซไม่จำเป็นต้องจดทะเบียนสมรสซ้ำอีก สามารถนำเอกสารนี้ติดต่อสถานทูตเพื่อขอรับรองการจดทะเบียนได้เลยทันที จากนั้นจึงโค้งกายถวายความเคารพต่อเจ้าชายพร้อมกับท่านทูต ก่อนจะขอตัวกลับออกไป…พริมโรสเดินเข้ามาในห้องนอนชั้นใน เพื่อจะเปลี่ยนชุด แต่แล้วก็รู้สึกว่ามีเรือนกายสูงโปร่ง ของบุรุษในสูทรสากลก้าวเข้ามายืนประกบที่ด้านหลัง

    Terakhir Diperbarui : 2025-03-17
  • อย่าให้เขารู้ว่าฉันร้าย   ตอนที่ 41 

    พริมโรสเดินออกจากห้องน้ำ ก็พบว่ามีชุดออกงานวางพาดไว้บนที่นอน หญิงสาวอึ้งไปเล็กน้อยเมื่อเห็นชุดที่เขาจะให้สวม ซึ่งปิดทั้งคอทั้งแขน ตัวกระโปรงก็ยาวมาก คาดว่าคงจะปิดกระทั่งปลายเท้า มีกางเกงขายาวตัวใน มิหนำซ้ำเป็นสีพื้นทั้งชุดเสียอีกแม่เจ้า!! จบงานนี้ฉันคงต้องเตรียมตัวเข้าคอนแวนต์ได้เลย ถ้าให้คลุมผมด้วยก็ไม่ต่างอะไรกับชุดของซิสเตอร์!!เจ้าชายอิสราร์เดินออกมาจากห้องแต่งตัว ถือกล่องกำมะหยี่ทรงแบนขนาดใหญ่คล้ายกล่องเครื่องประดับติดมือมาด้วย"รดาเลือกสีได้ถูกใจผมมาก แต่งตัวเร็วจะสวมเครื่องประดับให้""นี่ชุดประจำชาติหรือเปล่าเพคะ?" หญิงสาวเอ่ยปากถาม หยิบชุดขึ้นมาทาบตัว ทำให้เพิ่งจะเห็นแสงสะท้อนเหลือบประกายมุกของลวดลายบนเนื้อผ้ายามที่แสงไฟตกกระทบ อ้อ! เป็นผ้าไหมทอมือนี่เอง สวยเหมือนกันแฮะ! "รูปแบบน่ะใช่ แต่เนื้อผ้าเป็นของที่นี่ ผมเอาชุดของคุณไปเป็นต้นแบบ คุณจะออกงานในฐานะคู่หมั้นอย่างไม่เป็นทางการ แต่…” นัยน์ตาคมกริบราวกับมีดหรี่ลงคล้ายเตรียมจะแทงให้ทะลุเนื้อหนังมังสา เหลือบมองด้วยหางตา “ดูจากสีหน้าเหมือนคุณจะไม่ถูกใจ คงอยากจะแต่งชุดอื่นที่เปิดเผยเนื้อตัวกว่านี้สินะ?" พริมโรสสะดุ้งในใจ รีบเง

    Terakhir Diperbarui : 2025-03-18
  • อย่าให้เขารู้ว่าฉันร้าย   ตอนที่ 42 

    รามิลได้แจ้งกับเลขาท่านทูตเปเรซไว้แล้วว่า จะขอพบทันทีที่ท่านคุยธุระเสร็จ จากนั้นเขาก็ไปทักทายท่านนายกฯตามมารยาท แต่ขณะที่กำลังเดินลับมุมตรงหน้าเวที จู่ๆ หญิงสาวคนหนึ่งก็ทำท่าว่ากำลังจะล้ม เขาจึงรีบเดินเข้าชิดโดยอัตโนมัติ เพื่อให้เธอได้เกาะไหล่เขาไว้เป็นหลักพยุงตัว “ว้าย!! เอ่อ..ขอบคุณค่ะ” น้ำเสียงหวานเอ่ยขอบคุณเขาเป็นภาษาอังกฤษรองเท้าส้นสูงของรินรดากำลังพลิก ขาข้างหนึ่งเสียศูนย์ทำให้ตัวเอียง โชคดีว่าสุภาพบุรุษคนนี้ก้าวเข้ามายืนชิดทันทีที่เห็นเหตุการณ์ และจังหวะที่ร่างสูงเบี่ยงตัวเล็กน้อยทำให้เสื้อสูทเปิดออก ฝ่ามือซ้ายของเธอก็ทาบไปที่หน้าอกด้านซ้ายของเขา ผ่านเสื้อเชิ้ตเนื้อบางจนแทบจะเหมือนสัมผัสถูกกับเนื้อหนัง ฝ่ามือใหญ่ข้างหนึ่งของเขาจับข้อศอกเธอไว้ มืออีกข้างทาบลงบนหลังมือของเธออย่างไม่รู้ตัว“อุ้ปส์!” รินรดาตกใจดึงมือออก เพราะเหมือนกับมีประจุไฟฟ้าช๊อตที่ฝ่ามือแล้วแล่นปราดมาตามแขนพุ่งเข้าสู่หัวใจองครักษ์ถลาเข้ามาพยุงให้เธอทรงตัวขึ้น หญิงสาวเหลือบสายตาไปเห็นสีหน้าของสุภาพบุรุษคนนั้น ซึ่งเห็นว่าเขาก็ตกใจเช่นเดียวกัน ดูเหมือนจะตัวแข็งค้างราวกับกำลังเกิดอาการช็อกจากอะไรสักอย่าง เธอกำ

    Terakhir Diperbarui : 2025-03-18
  • อย่าให้เขารู้ว่าฉันร้าย   ตอนที่ 43 

    “อะไรนะ!! มันกล้าพูดออกมาแบบนี้!?!” ท่านอักมัลตะคอกออกมาด้วยน้ำเสียงโกรธขึ้ง รู้สึกอารมณ์เสียแต่เช้าเมื่อรู้ว่าลูกสาวสุดรักสุดหวงถูกเหยียดหยาม ความไม่พอใจจากเหตุการณ์ในอดีตที่ผ่านมา นับจนถึงตอนนี้จึงมีมากเป็นทวีคูณ“เพคะ! ท่านพี่โมโหจนเกือบเสียกิริยาออกไป ท่านพ่อต้องอย่าปล่อยให้เขามาหยามเกียรติตระกูลของเรานะเพคะ!” เนญ่ารู้ว่าการที่สาดน้ำมันราดเข้ากองไฟให้ยิ่งลุกโหม จะทำให้ได้ผลลัพธ์ที่ตัวเองต้องการ เพราะพี่สาวเป็นคนที่ชอบเอาชนะ และบิดาก็จะต้องทำทุกทาง เพื่อให้ลูกสาวคนโปรดได้ทุกอย่างสมดังใจผู้เป็นพ่อมองลูกสาวคนโตที่นั่งเงียบอย่างใช้ความคิด เขาเพิ่งจะได้รับข่าวการเคลื่อนไหว ของคนผู้หนึ่งก่อนที่จะมาทีแลนด์ และไม่แน่ว่าบุคคลผู้นี้ จะนำพาเขาและลูกสาวไปถึงเป้าหมายได้เร็วกว่าการแต่งงานกับอิสราร์เสียอีก เพียงแต่คิดว่าจะทำยังไงให้เธอเห็นด้วยกับวิธีของเขา และยอมทำตามอย่างไม่มีเงื่อนไข“มันหยามเกียรติลูกกี่ครั้งแล้ว นับวันยิ่งหนักข้อขึ้นทุกที แล้วอย่างนี้ยังต้องการแต่งงานกับมันอยู่อีกรึ?” เขาหันไปถามลูกสาวสุดรักสุดหวงอย่างขัดใจ“แต่ลูกมองไม่เห็นใครที่โดดเด่น และเหมาะสมกับลูกเท่ากับเขาอีกแล้ว!”

    Terakhir Diperbarui : 2025-03-18
  • อย่าให้เขารู้ว่าฉันร้าย   ตอนที่ 44 : ลอบสังหาร (1)

    พริมโรสหันหลังให้เวทีทันที เมื่อเห็นผู้แทนพิเศษจากเปเรซขึ้นไปยืนจับมือกับบรรดาผู้นำแต่ละประเทศ เพื่อให้ผู้สื่อข่าวได้ถ่ายรูป หญิงสาวกวาดสายตามองไปรอบห้อง แสกนหาสิ่งผิดปกติจากความเคลื่อนไหวเพื่อความเรียบร้อย จากนั้นล้วงโทรศัพท์ออกจากกระเป๋าเสื้อ รีบกดเปิดแอปพลิเคชันแชทเลือกชื่อผู้รับ แล้วพิมพ์ข้อความบางอย่างลงไปอย่างรวดเร็ว กดปุ่มส่งแล้วสอดเก็บในเสื้อสูททันทีโดยที่ไม่ได้ดูหน้าจอด้วยซ้ำ“ฉันนี่แทบจะกรีดร้อง! ทำไมเจ้าชายเปเรซถึงงานดีขนาดนี้นะ!” พริมโรสเหลือบตาดูคนตรงหน้า เห็นนักข่าวคนหนึ่งหน้าตาแดงระเรื่อ แววตาคลั่งไคล้ ยกหลังมืออุดปากทำท่าคล้ายอยากจะกรีดร้องออกมาจริงๆ“ใช่ๆ เห็นแล้วน้ำเดิน! งานดีขนาดนี้ไม่ควรมีคนเดียวในโลกจริงๆ!”ข้างบนเวทีถ่ายรูปเสร็จแล้ว และกำลังทยอยเดินกันลงมา เจ้าชายหยิบโทรศัพท์ขึ้นมาเปิดดูข้อความที่เข้ามาก่อนหน้านี้ พลันปากอ้าตาค้าง สีหน้าเปี่ยมไปด้วยความไม่อยากเชื่อ ตะลึงงันจนขาชะงักนิ่งยืนอยู่กับที่ แต่แล้วก็ยกยิ้มมุมปากอย่างยากสังเกตเห็น ความยโสบนใบหน้าหายไปอย่างไร้ร่องรอย แววตาอ่อนโยนทอดมองไปยังแผ่นหลังเล็กบางของคนที่อยู่ข้างหน้าเวทีด้านล่างอย่างอบอุ่น“ตายแล้ว

    Terakhir Diperbarui : 2025-03-18
  • อย่าให้เขารู้ว่าฉันร้าย   ตอนที่ 45 : ลอบสังหาร (2)

    ฝ่ายองครักษ์ชักปืน ยิงปะทะกับคนร้ายเสียงลั่นสนั่นเมือง จนรถยนต์ที่สัญจรไปมาทางฝั่งคู่ขนาน ต้องหักรถหลบเบี่ยงหนีวิถีกระสุนกันเป็นการใหญ่ ชายหนุ่มสะดุ้งสุดตัว พร้อมกับเปล่งเสียงอุทาน รู้สึกเหมือนถูกบางอย่างกระแทก และเจาะเข้าไปในผิวเนื้อที่ขาอย่างรุนแรง ก่อนจะรู้สึกหนักและชาไปทั้งแถบ แต่ถึงอย่างนั้นก็ไม่ได้คลายแรงที่กอดรัดร่างเล็กบางออกแม้แต่น้อยแต่แล้วเสียงรัวสาดกระสุนนัดแล้วนัดเล่าก็หยุดลง พร้อมกับร่างของคนร้ายที่ถูกระดมยิงจุดตายที่ไร้สิ่งป้องกัน จนเป็นรูพรุนไปทั่วใบหน้า และลำคอ แทบมองไม่เห็นเนื้อดี อาบด้วยสีแดงฉานที่เต็มไปด้วยเลือดทั่วทั้งร่าง นอนแผ่หราท่ามกลางปลอกกระสุน ที่ร่วงกราวราวกับลูกเห็บอย่างน่าสยดสยอง“ฝ่าบาท! ฝ่าบาท! หัวหน้า!” บรรดาองครักษ์ที่รอดชีวิตกรูกันมาดึงร่างที่ไร้ชีวิต ของเพื่อนร่วมงาน ที่นอนทับถมบนตัวของเจ้านายออก “โรส! คุณเป็นไงบ้าง?” เสียงทุ้มกระซิบถามเสียงแผ่วโหย ดูอ่อนแรงอย่างผิดปกติ“หม่อมฉันจะไม่กินกล้วยทับอีกเลยตลอดชีวิต!” หญิงสาวพูดเล่นด้วยความโล่งใจหวังจะให้เขาหัวเราะ แต่เขากลับหน้าซีดจนแทบไม่มีสีเลือด“โอ๊ย!!” ชายหนุ่มร้องออกมาอย่างเจ็บปวด แล้วกัดฟันแน่

    Terakhir Diperbarui : 2025-03-18
  • อย่าให้เขารู้ว่าฉันร้าย   ตอนที่ 46 

    “หัวหน้าจากสัญญาณจีพีเอส เป้าหมายอยู่อาคารทางขวามือนี้ครับ!”“เลี้ยวเข้าไปเลย!”คนขับรถได้เลี้ยวเข้าไปในโมเทล และจอดใกล้กับตำแหน่งของหมุดที่ปักอยู่บนแผนที่ในสมาร์ทโฟน ซึ่งอยู่ด้านหน้าที่จอดรถของห้องหนึ่งที่มีม่านปิดบังไว้อย่างมิดชิด ชายฉกรรจ์ร่างกำยำที่มีรอยแผลเป็นตรงกึ่งกลางคิ้วซ้าย ได้เปิดประตูลงมาจากรถเป็นคนแรก พร้อมชักอาวุธออกมาจากซองปืนข้างเอวมาเตรียมพร้อมไว้ในมือ ตามมาด้วยชายคนที่ถือสมาร์ทโฟน เขามีหน้าที่คอยตรวจจับหาสัญญาณจีพีเอสจากชิปติดตามตัวของเชื้อพระวงศ์พระองค์หนึ่ง คนขับรถเปิดประตูลงมาทีหลัง แต่เดินนำหน้าไปก่อนอย่างรวดเร็ว เขายื่นมือกำผ้าม่านที่บังสายตาสะบัดไปข้างหนึ่งให้เปิดออกกว้าง แล้วเบี่ยงตัวหันไปมองชายที่มีรอยแผลเป็นที่เดินตามมาด้านหลัง ซึ่งก็พยักหน้าเป็นการยืนยันทันที ที่เห็นว่าเป็นรถยนต์ของเป้าหมายที่กำลังตามหาอยู่ชายคนที่ทำหน้าที่ตรวจจับสัญญาณ มองที่หน้าจอสมาร์ทโฟน ตรงตำแหน่งปัจจุบันของลูกศร เขาเงยหน้าขึ้นแล้วชี้นิ้วทำสัญญาณมือไปยังห้องที่ปิดสนิทอยู่นั้นคนขับรถชักปืนออกมาเตรียมพร้อม แต่ขณะที่กำลังจะเดินตรงไปที่ประตู กลับมีเสียงโหวกเหวกโวยวายดังขึ้น ที่ด้านหลัง

    Terakhir Diperbarui : 2025-03-18
  • อย่าให้เขารู้ว่าฉันร้าย   ตอนที่ 47 : หรือจะเป็นคนที่ใช่?

    “ฝ่าบาท…ชัยเคาะฮ์ไลลามาขอพบพ่ะย่ะค่ะ” เจ้าชายอิดรีส กำลังดูข่าวเหตุการณ์ระเบิด ที่ศูนย์ประชุมนานาชาติในทีวี พอได้ยินชื่อของคนที่มาพบจึงเลิกคิ้วสูงอย่างแปลกใจไลลาเดินตามหลังเด็กรับใช้เข้ามาด้านใน ฝืนข่มความรู้สึกหวาดหวั่นอยู่ในใจลึกๆ เนื่องจากเคยได้ยินคำเล่าลือเกี่ยวกับอุปนิสัยของท่านลุงซึ่งเป็นบิดาของเขา ที่มีพฤติกรรมคล้ายกับพวกไซโคพาธ ที่มีความผิดปกติทางจิตใต้สำนึก ขาดความยับยั้งชั่งใจ ไม่เกรงกลัวต่อการกระทำผิด อย่างการลอบวางยาพิษสังหารบิดา ทั้งยังปลอมแปลงพระบรมราชโองการแต่งตั้งตัวเองเป็นกษัตริย์ เขาซึ่งเป็นลูกชายย่อมมียีนที่ไร้จิตสำนึก ของฆาตกรถ่ายทอดมาทางพันธุกรรม มาบ้างเป็นแน่ แต่ระดับของความรุนแรงจะน้อยหรือมาก คงขึ้นอยู่กับการเลี้ยงดูในวัยเด็กประกอบไปด้วยเธอได้ยินมานานแล้วว่า เขาเป็นคนเก็บตัวไม่ออกสื่อ ทั้งยังเป็นพวกชอบต่อต้านสังคม เย็นชาและไม่แยแสกับทุกสิ่งรอบตัว และอีกกระแสหนึ่งก็บอกว่าเขาเป็นพวกเพลย์บอยเจ้าชู้เสเพล เป็นด้านมืดที่ไม่เปิดเผยให้ใครได้เห็น ยิ่งทำให้เธอมั่นใจว่าเขาคงมีความสับสนเกี่ยวกับบุคลิกภาพในตัวเองอยู่พอสมควร และคงได้รับความผิดปกตินั้นมาด้วยเป็นแน่แท้ เพีย

    Terakhir Diperbarui : 2025-03-18

Bab terbaru

  • อย่าให้เขารู้ว่าฉันร้าย   ตอนที่ 70 

    “ฮ่าๆๆ ไง! ถึงกลับโกรธจนตัวเนื้อสั่นเลยเหรอ เป็นยังไงบ้างล่ะ รสชาติของการสูญเสีย ขมขื่นถึงอกถึงใจดีไหม?” คำพูดประโยคนี้ของเขาทำให้หญิงสาวแน่ใจได้ทันทีว่าอุบัติเหตุที่เกิดขึ้นนี้ไม่ใช่เรื่องบังเอิญ“ฉันเกลียดแกจนอยากจะเป็นคนถ่อย จะได้ถ่มถุยใส่หน้าส้นตึกของแกให้สาสมกับความรู้สึกขยะแขยง!” ชารีฟหรือณัทธรสะอึก เมื่อเจอความโกรธเกลียดอย่างรุนแรงจากผู้หญิงที่เขารัก“เกลียดฉันงั้นรึ? ต้องเป็นฉันไหมที่จะพูดประโยคนั้น แทบไม่อยากจะเชื่อเลยว่า เธอจะลืมฉันได้อย่างง่ายดายและไปแต่งงานใหม่!"“ฉันไม่ได้แต่งงานใหม่! นี่เป็นการแต่งงานครั้งแรกและครั้งเดียวของฉัน และอะไรคือลืมได้อย่างง่ายดาย? นายหนีตายไปเป็นปีๆ แล้วฉันจะต้องไปบวชชี เพื่ออุทิศส่วนกุศลให้นายด้วยอย่างนั้นรึ! เรารักกันดูดดื่มขนาดนั้นตั้งแต่เมื่อไหร่? ก่อนที่นายจะฆ่าพ่อฉัน เขายังพูดไม่ให้ฉันยึดติดกับตัวเขาเลย! ตรรกะของนายมันบิดเบี้ยวเป็นเวย์เดียวกับพวกโรคจิต ที่นายกับฉันมาถึงจุดนี้เป็นเพราะการตัดสินใจเลือกของตัวเองทั้งนั้น อย่าเอาฉันมาเป็นข้ออ้างเพื่อปกปิดยีนขี้แพ้ในตัวหน่อยเลย!”“ไม่ต้องมาทำปากดียั่วอารมณ์ให้ฉันรู้สึกละอายใจหรอก คำพูดยั่วยุของ

  • อย่าให้เขารู้ว่าฉันร้าย   ตอนที่ 69 : ตามไล่ล่า (3)

    “ฮัลโหล? ว่าไง?”“ไอ้ชารีฟ! ไอ้ห่วย! สายของแกทำงานยังไงวะถึงได้รายงานผิดพลาด! เป้าหมายไปเส้นทางอื่นไม่ได้เฉียดมาทางนี้เลยด้วยซ้ำ!!”“จะเป็นไปได้ยังไง? ไม่ผิดแน่ๆ!! นายดักซุ่มอยู่ที่นั่นแหละเผื่อว่าจะเป็นแผนลวง!”ชารีฟหรือณัทธร กดปุ่มตัดสาย แล้วดึงหูฟังบลูทูธออกอย่างหงุดหงิด จะเกิดการผิดพลาดไปได้ยังไง ในเมื่อเขาเพิ่งจะได้รับการยืนยันเส้นทางมาจากสายที่แฝงตัวอยู่ในกลุ่มผู้ใต้บังคับบัญชาของเชคฮ์อิสราร์เมื่อไม่กี่นาทีมานี้เองหรือว่าเปลี่ยนเส้นทางกระทันหัน??เขาคิดว่าน่าจะมีการเปลี่ยนแปลงแบบฉุกเฉินมากกว่าการที่อีกฝ่ายจะรู้ตัวว่ามีข่าวรั่วไหลชายหนุ่มยกนาฬิกาข้อมือขึ้น เพื่อดูเวลาก่อนการตัดสินใจ ในเมื่อภารกิจลอบสังหารเชคฮ์อิสราร์ได้ผิดพลาดไปแล้ว เขาเลยคิดว่าไปปิดจ๊อบหนี้เก่าของตัวเองก่อนจะดีกว่า แล้วค่อยกลับไปรายงานภารกิจที่ล้มเหลว ซึ่งถ้ารีบไปตอนนี้ก็น่าจะไปทันเวลากับที่เป้าหมายขับมาถึงในจุดที่เขากำหนดเอาไว้ในแผนพอดี…ชารีฟหยิบโทรศัพท์มือถือขึ้นมา เปิดแอพพลิเคชันที่ใช้ตรวจสอบสัญญาณจีพีเอส เพื่อหาตำแหน่งปัจจุบันของรถเป้าหมาย ซึ่งก็เห็นในแผนที่ว่ารถยนต์คันดังกล่าว กำลังจะแล่นผ่านสี่แยกไฟแดง

  • อย่าให้เขารู้ว่าฉันร้าย   ตอนที่ 68 : ตามไล่ล่า (2)

    ความร้ายกาจของบิดาที่เธอได้ยินจากปากของคนอื่น เป็นเหมือนหนามแหลมคม ที่คอยทิ่มแทงจิตใจอยู่ตลอด แต่กระบวนการให้อภัย พยายามดิ้นรนที่จะผลักความคิด และความรู้สึกด้านลบเหล่านี้ออกไป ด้วยการจดจ่อกับความรัก และความทรงจำดีๆ นึกถึงช่วงเวลาที่ยากลำบาก ที่เขามักจะแบกรับความเจ็บปวดเหล่านั้นไว้แทนอยู่เสมอ แล้วผลักดันให้เธอก้าวข้ามผ่านช่วงเวลาเลวร้ายนั้นไปให้ได้ ฝึกฝนเธอให้เข้มแข็ง สอนให้ยอมรับทุกความผิดพลาด และความล้มเหลว แล้วเรียนรู้ที่จะเยียวยาตัวเองเพื่อปิดกั้นทุกความเจ็บปวดเธอรู้ดีว่าการยึดติดกับความรู้สึกในทางลบ รังแต่จะเพิ่มความทุกข์ให้กับชีวิตมากขึ้น และขัดขวางไม่ให้หัวใจได้พบกับความสงบสุข แต่การที่จะละวางด้วยการให้อภัยนั้น ก็ทำให้เกิดความรู้สึกผิด ต่อบุคคลที่ต้องเสียชีวิตไปอย่างไม่เป็นธรรมนั้นด้วยเช่นกันแต่เมื่อมองในมุมกลับกัน เขาก็เป็นเพียงแค่มนุษย์คนหนึ่ง ซึ่งไม่ว่าใครก็สามารถทำผิดได้ เธอเองก็ไม่ได้รับการยกเว้น ความผิดหวังมักจะทำให้คนเราจมอยู่กับอดีต จนลืมมองความสุขที่กำลังได้รับอยู่ในปัจจุบัน และกำลังจะตามมาอีกมากมายในอนาคต จึงเป็นความคิดที่โง่เขลาอยู่ไม่ใช่น้อย ถ้าเรายังหยุดอยู่ที่ควา

  • อย่าให้เขารู้ว่าฉันร้าย   ตอนที่ 67 : ตามไล่ล่า (1)

    “ตรวจสอบชายสองคนที่สิบสองนาฬิกา ประตูทางเข้าด้านนอก ในมือถือผ้าสีดำห่อหุ้มวัตถุลักษณะเป็นแท่งยาวทรงกระบอก เปลี่ยน!”“แลนด์โรเวอร์สีดำขับเข้ามาจอดหน้าประตูทางเข้าออกของพนักงานชั้นใต้ดินสองคัน คันหนึ่งประมาณห้าคนใส่ชุดพนักงานรักษาความปลอดภัยเดินเข้าไปด้านใน มีอาวุธปืนติดตัว เปลี่ยน!”“ประตูทางออกอาคารผู้โดยสารหนึ่งที่เก้านาฬิกา พนักงานรักษาความปลอดภัยกำลังลากโซ่ตะปูเรือใบมาขวางถนน คาดว่าไม่ใช่เจ้าหน้าที่ของสนามบิน เปลี่ยน!”“ประตูทางออกฉุกเฉินของอาคารผู้โดยสารสอง ทางสะดวก ชาลีทีมเตรียมพร้อม รอรับคำสั่ง เปลี่ยน!” เสียงรายงานผ่านวิทยุสื่อสารเข้ามาเป็นระยะๆ หลังจากที่กระจายกำลังไปประจำตามจุดสำคัญต่างๆ เพื่อสังเกตความเคลื่อนไหวของฝ่ายตรงข้าม“พวกมันเริ่มทยอยกันเข้ามาแล้ว แจ้งเจ้าหน้าที่รักษาความปลอดภัยให้เตรียมอพยพประชาชนหากมีเหตุฉุกเฉิน! แจ้งเจ้าหน้าที่ตำรวจกับดับเพลิงหรือยัง?”“เรียบร้อยแล้วพ่ะย่ะค่ะ!”“อืม ถ้าพร้อมแล้วก็ไปกันตอนนี้เลย!”“รับคำสั่ง!” องครักษ์รับคำสั่งแล้วแจ้งแต่ละทีมผ่านวิทยุสื่อสารทันที “อัลฟ่าทีมเคลียร์พื้นที่ บราโวเตรียมรถบรรทุกเปิดทางออกแล้วรอรับคำสั่ง ชาลีทีมวีไอพีเ

  • อย่าให้เขารู้ว่าฉันร้าย   ตอนที่ 66

    ไลลานอนตัวอ่อนระทวยอยู่ครู่หนึ่ง สักพักก็ขยับตัวยกศีรษะขึ้นมานอนหนุนแขนแข็งแรงข้างหนึ่งของสามี เบียดเรือนร่างบอบบางเข้าชิดเพื่อขอความอบอุ่นจากร่างกายของเขา ซึ่งชายหนุ่มเองก็เพิ่งผ่อนคลายจากอาการหัวใจเต้นแรง หายใจหอบเหนื่อย เขาพลิกตัวตะแคง รั้งต้นขาของหญิงสาว ให้ขึ้นมาก่ายเกยอยู่ครึ่งๆ บนร่างกายของเขา ขาของเธอเบียดชิดจนเขารู้สึกอบอุ่นและชุ่มชื้นในซอกลี้ลับ ไล้ฝ่ามือจากโค้งสะโพกเลยมาถึงต้นขา ลูบผิวเรียบเนียนไปมาเบาๆ เป็นจังหวะอย่างเพลิดเพลิน พร้อมๆ กับปลอบโยนให้เธอคลายความอ่อนเพลีย เพื่อเข้าสู่โหมดพักผ่อน “ฝ่าบาทเพคะ?” “หืม?” ชายหนุ่มผงกศีรษะขึ้นมองอย่างแปลกใจเมื่อได้ยินเสียงของอีกฝ่าย ซึ่งเขาคิดว่าน่าจะเคลิ้มหลับไปแล้ว“คืนนี้เนญ่าเขาประกาศว่าจะเข้าหอกับฝ่าบาท แล้วทำไมพระองค์ถึงมาหาหม่อมฉันล่ะเพคะ?”“ก็ไม่อยากจะมา ตั้งใจจะสั่งสอนให้รู้สำนึกเสียหน่อยว่า การผลักดันให้ผัวไปมีผู้หญิงอื่น โดยไม่เต็มใจนั้นน่ะมันจะให้ผลยังไง แต่เผอิญว่าเห็นคนบางคน น้ำตาคลอเบ้าเลยมาดูเสียหน่อย ไม่รู้ว่าเสแสร้งแกล้งทำ หรือรู้จักที่จะหึงหวงผัวขึ้นมาบ้างแล้ว!”“หึงจริงๆ น่ะแหละเพคะ” ไลลายอมรับออกไปตรงๆ ถึงแม้ใ

  • อย่าให้เขารู้ว่าฉันร้าย   ตอนที่ 65 : นาทีระทึกขวัญ (2)

    กัปตันลุกขึ้นแล้วเดินออกประตูไปก่อน ผงกศีรษะให้นิดหนึ่งเมื่อเห็นพริมโรสยืนอยู่หน้าประตู เจ้าชายอิสราร์ยืนมองหญิงสาวผ่านช่องประตูห้องนักบินอยู่ครู่หนึ่ง ก่อนจะเอื้อมมือมาคว้าแขนเรียวเล็กดึงเข้ามาปะทะอกกว้าง รวบร่างบางเข้ามากอดรัดอย่างแนบแน่น ฝ่ามือข้างหนึ่งประคองไว้หลังศีรษะ แล้วบดขยี้ริมฝีปากร้อนระอุกับริมฝีปากนุ่มอย่างหิวกระหาย เร่าร้อนและดุเดือด เพราะอะดรีนาลีนที่หลั่งออกมาหลังจากเพิ่งจะผ่านเหตุการณ์เฉียดตาย กระตุ้นให้อารมณ์ของเขาพลุ่งพล่าน“อื้อ!..” ปลายลิ้นเงอะงะถูกดูดดุนและเกี่ยวกระหวัดไว้ด้วยลิ้นเร่าร้อนของอีกฝ่ายโดยไม่เปิดโอกาสให้ได้พักหายใจ ทำให้เกิดเสียงประท้วงแผ่วๆ ในลำคอ“ที่รัก~..ผมรักคุณ” เขาถอนริมฝีปากออก กระซิบเสียงแหบพร่าแนบชิดกับริมฝีปากนุ่มอุ่น เรียวลิ้นไล่ระไปบนริมฝีปากของอีกฝ่าย ก่อนประทับริมฝีปากลงมาอีกครั้ง หญิงสาวยกท่อนแขนขึ้นโอบรอบลำคอเขาไว้ ตอบรับจุมพิตด้วยจังหวะที่สอดรับกันเป็นอย่างดี เบียดร่างบอบบางเข้าแนบชิดร่างกำยำอย่างออดอ้อน ฝ่ามือหนาของเขาลูบไล้ไปตามแผ่นหลังไล่ลงไปถึงโค้งสะโพกกลมมนแล้วกดเข้าหาลำตัวตามแรงอารมณ์ที่กำลังเพิ่มมากขึ้น“เอ่อ..ทูลฝ่าบาท พายุท

  • อย่าให้เขารู้ว่าฉันร้าย   ตอนที่ 64 : นาทีระทึกขวัญ (1)

    รินรดานั่งเหม่อกำโทรศัพท์ไว้ในมือ หลังจากเพิ่งจะวางสายจากรามิล เขาสัญญาว่าจะรีบเคลียร์งานให้เรียบร้อย และจะตามไปหาที่เปเรซภายในสองวันเธอรู้สึกไม่สบายใจเมื่อนึกถึงความฝันเมื่อคืนที่ผ่านมา แสงสว่างที่ลอยละล่องในความมืดส่องมาที่เธอ พร้อมกับเสียงกระซิบที่แผ่วเบาแต่ชัดเจน เสียงนั้นไม่ใช่เสียงของใครในโลกนี้ มันเหมือนเสียงที่มาจากที่ไกลโพ้น ฟังดูทั้งใกล้และไกลในเวลาเดียวกัน ‘ถึงเวลาแล้ว…จงทำตามสัญญา’หญิงสาวไม่ได้บอกใครว่าหลังจากที่เธอ และพี่ชายฟื้นขึ้นมา เธอได้เห็นถึงความศักดิ์สิทธิ์ของหินพ่อมดลาบราดอไลต์ ด้วยความสงสัยและความหวัง เธอแอบพระมารดาเข้าไปในห้องลับ ท่องบทสวดที่เธอแอบจดเอาไว้ และอธิษฐานถึงสิ่งที่อยากรู้ที่สุดในชีวิตตอนนั้น นั่นก็คือการตามหาครอบครัวที่แท้จริงจากนั้นเธอก็ฝันซ้ำๆ เดิมๆ อยู่หลายครั้งจนมาถึงปัจจุบัน ไม่รู้ว่าบุคคลในฝันเป็นใคร เธอจำเรื่องราวได้ รู้ว่าคนในฝันเป็นผู้หญิงหรือผู้ชาย แต่จำหน้าไม่ได้เลยสักคน และครั้งที่ไปโรงพยาบาลจนเกิดอาการใจสั่น แล้วเจ็บแปลบอย่างรุนแรง จนหมดสติไปในครั้งนั้น ก็ทำให้เธอได้เห็นผู้หญิง ที่มีหน้าตาเหมือนเธอราวกับฝาแฝดชัดเจนเป็นครั้งแรก ในห้วงฝ

  • อย่าให้เขารู้ว่าฉันร้าย   ตอนที่ 63 : (っ˘з(˘⌣˘)18+

    “อะไรนะ!! แล้วได้ลงจอดฉุกเฉินไหม? งั้นถ้าจำเป็นต้องเปลี่ยนแผนโยกย้ายคนจากรัฐดีไปรัฐอีก็ดำเนินการได้เลย! อืม..ฉันอยู่บนเครื่องบินแล้ว คงจะถึงไล่ๆ กัน!...ได้!…เอาตามนั้น!”เจ้าชายอิดรีสชะงักมือที่กำลังวางโทรศัพท์บนโต๊ะหัวเตียง ขณะที่ปรายหางตาเห็นหุ่นอรชรอ้อนแอ้นกำลังเยื้องกรายเข้ามาในห้องด้วยกิริยาท่าทางที่ยั่วยวนหญิงสาวเข้ามายืนห่างจากเตียงไปประมาณหนึ่งช่วงแขน ค่อยๆ ปลดอาภรณ์ออกจากตัวทีละชิ้นอย่างเชื่องช้า พร้อมช้อนสายตาขึ้นมองชายหนุ่มอย่างเย้ายวนชวนเชิญเจ้าชายอิดรีสหยิบหมอนสองใบมาซ้อนหลัง นั่งกึ่งเอนพิงพนักหัวเตียงพาดแขนไว้บนเข่าข้างหนึ่งที่ตั้งชันขึ้น หรี่ตามองด้วยสีหน้าเรียบเฉยแต่ดูเยือกเย็น กิริยาภายนอกยังคงสงบนิ่ง รอบกายยังเผยความเย่อหยิ่งจองหองออกมาด้วยเขาเหลือบตามองนาฬิกาที่โต๊ะหัวเตียง ทำให้รู้ว่าอีกฝ่ายเลือกเวลาได้เหมาะเจาะ ไลลาไปสั่งงานกับเด็กรับใช้ได้สักพักใหญ่ๆ แล้ว และคงกำลังใกล้จะกลับมา เลยเปิดโอกาสให้น้องสาวสวมบทบาทน้องรักหักเหลี่ยมโหดเพื่อทำร้ายจิตใจผู้เป็นพี่ได้อย่างถูกที่ถูกเวลา เขาปล่อยให้อีกฝ่ายทำตามใจ โดยไม่ได้ปริปากเอ่ยทักท้วง เพื่อจะรอดูว่าเธอจะเปิดเผยเนื้อตั

  • อย่าให้เขารู้ว่าฉันร้าย   ตอนที่ 62

    "ฝ่าบาท! แย่แล้วเพคะ! กัปตันถูกทำร้ายขอความช่วยเหลือจากฝ่าบาทด่วนเลยเพคะ!" เจ้าชายอิสราร์ลุกพรวดขึ้น พริมโรสผวาลุกตามแล้วพยุงแขนเขาไว้ข้างหนึ่ง"เกิดอะไรขึ้น?" ชายหนุ่มถามขณะก้าวเท้าออกเดินได้ไม่เร็วนัก มือเรียวจึงจับแขนเขายกขึ้นแล้วก้มตัวลอดศีรษะเข้าไปใต้แขนแข็งแรง ก่อนจะวางแขนเขาให้เกาะไหล่เธอไว้เพื่อช่วยพยุง ทำให้ชายหนุ่มเดินได้เร็วขึ้นกว่าเดิม"นักบินผู้ช่วยลอบทำร้ายกัปตันเพคะ! โชคดีว่าอยู่ในความสูงที่กัปตันเปิดโหมดออโต้ไพลอทเอาไว้ ทันทีที่เกิดเรื่องเขากดอันล็อกประตูทำให้พวกเราได้ยินเสียงและเข้าไปช่วยเหลือเขาไว้ได้ทันเวลา ตอนนี้องครักษ์ลากตัวหมอนั่นออกไปแล้วเพคะ!""ทำไมไม่ตามนักบินเสริมให้ขึ้นมาแทน?""หม่อมฉันไปปลุกแล้วไม่ตื่นเลยทั้งสองคน ไฟล์ทเนิร์ซกำลังดูอาการพวกเขาอยู่ กัปตันเลยให้มาขอความช่วยเหลือจากฝ่าบาทเพคะ!"ลูกเรือต่างก็เห็นพ้องต้องกันทุกคนว่า นาทีนี้ไม่มีใครจะเหมาะสมเท่ากับเจ้านายพระองค์นี้อีกแล้ว เขามีชั่วโมงบินของการเป็นนักบินเอฟสามสิบห้า ของกองทัพรวมห้าพันแปดสิบห้าชั่วโมง ในจำนวนนี้ มีชั่วโมงของการทำหน้าที่นักบินผู้ช่วย อยู่แปดร้อยแปดสิบสี่ชั่วโมงกับเครื่องบินรุ่นนี้

Jelajahi dan baca novel bagus secara gratis
Akses gratis ke berbagai novel bagus di aplikasi GoodNovel. Unduh buku yang kamu suka dan baca di mana saja & kapan saja.
Baca buku gratis di Aplikasi
Pindai kode untuk membaca di Aplikasi
DMCA.com Protection Status