Share

ตอนที่ 33

last update Last Updated: 2025-03-17 23:16:34

“ฝ่าบาท…” เสียงหวานเรียกเขาอย่างแผ่วระโหย เมื่อความหิวประท้วงขึ้นมาอีก 

“หืม?” ชายหนุ่มหันมาทันทีเมื่อได้ยินเสียงเรียกแผ่วเบาจากคนข้างๆ “เป็นไงบ้าง หิวไหม?”

“หิวเพคะ” เขาคลี่ยิ้มอบอุ่น วางเอกสารในมือ แล้วหันไปหยิบโทรศัพท์ที่โต๊ะหัวเตียง

“เอาอาหารอ่อนๆ มาให้คุณผู้หญิง” เขาวางโทรศัพท์ ถอดแว่นวางไว้คู่กัน ขยับตัวลงนอนแล้วรวบร่างบอบบางเข้ามาชิด ประทับจุมพิตที่หน้าผาก เลื่อนลงมาจุ๊บที่ริมฝีปากเบาๆ ทีหนึ่ง พริมโรสหลับตาซึมซับรับความอบอุ่นที่เขาถ่ายทอดมาให้

“ยังเพลียอยู่ไหม?” ฝ่ามือใหญ่ไล้พวงแก้มนวลด้วยโคนนิ้วโป้งเบาๆ ในใจเต็มตื้นไปด้วยความลึกซึ้งที่กำลังปรี่ล้นขึ้นมาจนเต็มช่องอก ความรู้สึกทั้งรักทั้งเอ็นดูพร่างพรายอยู่ในแววตา

“เพคะ ถ้าไม่ใช่เพราะหิวก็อยากจะนอนต่ออีกหน่อย เราอยู่ที่ไหนเพคะ?” หญิงสาวกวาดสายตามองอยากแปลกใจ 

“อยู่บนเครื่องบิน เรากำลังจะไปทีแลนด์”  พิมพ์โรสเบิกตากว้างให้กับความหรูหราที่เห็นอย่างตื่นตะลึง ลักษณะการตกแต่งคล้ายห้องพักในโรงแรม มากกว่าที่จะเป็นห้องบนเครื่องบินเสียอีก 

หญิงสาวขยับตัวลุกขึ้นนั่ง เขาลุกขึ้นมาประคอง เธอเลยเห็นสภาพตัวเองบางแห่งที่เต็มไปด้วยผ้าพันแผล

“หม่อมฉันกลายเป็นมัมมี่ไปแล้ว!” 

เขายิ้มอย่างเอ็นดู มองเธอด้วยดวงตาเป็นประกายหวานล้ำ บีบพวงแก้มอิ่มของหญิงสาวเบาๆ  ความกังวลที่อัดแน่นมาตลอดทั้งวันคลายตัวลง สัมผัสได้ถึงความสุขอย่างที่ไม่เคยรู้สึกมาก่อน

“เป็นมัมมี่ที่น่ารักมาก” 

เธอเหลือบตามองเขาทีหนึ่ง รู้สึกหัวใจตัวเองเต้นตึกตักผิดจังหวะขึ้นมา ทั้งยังสั่นหวิวและรัวเร็วไปกับการแสดงออกที่อ่อนโยนของเขา แววตาที่อบอุ่น น้ำเสียงทุ้มนุ่มปลายเสียงออดอ้อน ทั้งคำพูดยังละมุนแฝงความอ่อนหวาน 

ความรู้สึกดีๆ ที่เกิดขึ้นโดยไม่รู้ตัวมาก่อนหน้า บวกกับความรู้สึกในช่วงเวลานี้คืออะไรกันแน่ ใช่สิ่งที่เขาเรียกกันว่า..’ความรัก’ หรือเปล่านะ?

ทำไมจู่ๆ ก็รู้สึกว่าเขาหล่อจนเกินต้านขึ้นมา จิตใจของฉันเริ่มไม่อยู่กับเนื้อกับตัวแล้ว!

หญิงสาวรีบหันไปมองทางอื่น ปกปิดความรู้สึกที่หวั่นไหวภายในใจของตัวเอง มองสภาพโอ่โถง และการตกแต่งที่เลิศหรูอลังการภายในห้อง ที่เน้นสีขาวทองเป็นหลัก และดูเหมือนสีทองเหล่านี้ จะเป็นทองคำแท้เสียด้วย 

“เครื่องบินส่วนตัวหรือเพคะ?”

“อืม ชั้นนี้จะแบ่งห้องนอนเป็นสองโซน พวกเราจะอยู่ชั้นบน ส่วนพนักงานกับผู้ติดตามจะอยู่ชั้นล่างทั้งหมด”

“โอ้โห! ไม่เคยคิดเลยว่าแต้มบุญของหม่อมฉันจะสูงถึงเพียงนี้ ได้มีโอกาสนั่งเครื่องบินส่วนตัวกับเขาด้วย เราออกไปด้านนอกกันไหมเพคะ หม่อมฉันอยากเห็นแล้ว!”

“ไปสิ เดี๋ยวพนักงานจะยกของกินมาให้ที่ห้องอาหาร” ชายหนุ่มประคองหญิงสาวลุกขึ้น โอบไหล่ไว้หลวมๆ พาเดินออกไปชมห้องต่างๆ

“เป็นของแอร์บัสหรือโบอิ้งเพคะ?”

“แอร์บัสสามแปดศูนย์ เทคโนโลยีล่าสุด และขนาดใหญ่กว่าโบอิ้งทุกรุ่น”

“มีกี่ห้องเพคะ?” 

“มีห้าห้องหลัก ห้องทำงาน ห้องนั่งเล่น ห้องอาหาร สองห้องนอน สองห้องน้ำ จะมีสองโซนด้านหน้าและด้านหลัง”

“ตกแต่งสวยจังเลยเพคะ! ทั้งยังกว้างขวาง!”

“จริงๆ แล้วเป็นเครื่องบินประจำตำแหน่งขององค์สุลต่าน พระบิดาของผมสั่งทำไว้สองลำรุ่นเก่าจะเป็นของโบอิ้ง ลำนี้เป็นรุ่นล่าสุด หลังจากพระบิดาสวรรคตก็เลยตกทอดเป็นสมบัติของท่านพี่”

“มีของส่วนพระองค์เองด้วยไหมเพคะ”

“ของผมจะเป็นเครื่องบินเจ็ตส่วนตัว เป็นของแอร์บัสเหมือนกัน แต่ลำเล็กกว่านี้” 

“แล้วฝ่าบาทขับเครื่องบินได้ไหมเพคะ?”

“ได้สิ ชั่วโมงบินของผมเริ่มจากการขับเครื่องบินรบตอนอายุสิบห้า”

ชายหนุ่มพาหญิงสาวเดินดูทีละห้อง จนมานั่งคุยกันในห้องอาหาร พอดีกับพนักงานเข็นทรอลลี่เข้ามา กลิ่นหอมละมุนของซุปทรัฟเฟิลลอยฟุ้งมาในอากาศแต่ไกล

“ผมมีข่าวดีกับข่าวร้ายจะฟังข่าวไหนก่อน?” เขาพูดขึ้นมาขณะพนักงานลำเลียงถ้วยซุปและน้ำชาลงบนโต๊ะ พร้อมเค้กชิ้นเล็กๆ หลากหลายหน้าตา ที่วางรวมกันมาในจานขนาดใหญ่

“อืม ขอข่าวดีก่อน” เขายกยิ้มมุมปาก เพราะเดาทางเธอถูก คนทั่วไปส่วนใหญ่มักจะเลือกฟังข่าวร้ายก่อน แล้วค่อยกลบเรื่องตื่นเต้นด้วยข่าวที่น่ายินดี

“ทีมของผู้กองเตวิชกลับมาแล้ว เขาไปถูกทางเลยช่วยตัวประกันได้อย่างปลอดภัย รวมถึงเพื่อนของคุณด้วย ส่วนข่าวร้ายเรายังหาตัวผู้หมวดจอมทัพไม่พบ”

“แย่ล่ะ! แต่ยังส่งทีมค้นหาอยู่ใช่ไหมเพคะ?” 

“อืม ไม่เจอไม่เลิกรา”

“แล้วพระชนนี?”

“รู้เบาะแสแล้วกำลังเร่งติดตาม เห็นว่าผู้กองเตวิชจะไปเข้าร่วมทีมค้นหาด้วย”

ขณะที่กำลังคุยกันอยู่ ก็มีเสียงวีดีโอคอลเข้ามาที่โทรศัพท์ภายในเครื่องบิน เขาเปิดช่องเก็บอุปกรณ์ทางด้านข้าง หยิบโทรศัพท์ออกมาสไลด์เพื่อรับสาย แว่วเสียงจอมทัพกับจักรินเอ่ยคำทักทายและทำความเคารพ เขาพยักหน้าตอบรับ แล้ววางโทรศัพท์ไว้บนที่ตั้ง จับหมุนหันไปทางหญิงสาว

“เฮ้! ยัยจิ้งจอกอมตะ! ถูกพันจนเป็นดักแด้อย่างนี้แล้ว ทำไมเธอยังไม่ตายอีก!” เตวิชส่งเสียงทักทาย และไม่รอช้าที่จะแสดงความเป็นห่วงด้วยเจตนาที่ดี

“ก็ขนาดนายยังไม่ตาย ฉันก็มีสิทธิ์อยู่ได้สิ!” หญิงสาวโต้กลับอย่างไม่ยอมแพ้

“เฮอะ! ฉันเป็นห่วงเธอขนาดนี้ยังจะมายอกย้อน”

“เก็บความเป็นห่วงจอมปลอมของนายไปไกลๆ เลย นายเป็นห่วงฉันหรือห่วงเงินของนายกันแน่!”

“ฉันเกลียดเธอก็ตรงนี้แหละ! อ่านใจฉันออกอย่างกับเสกพยาธิเข้ามาในไส้ในปอด อะไรก็รู้ทันไปหมด!”

“หยุดเลยทั้งสองคน! เคยคุยกันดีๆ เกินสองประโยคไหม?” จักรินถามขึ้นมา

“ไม่เคย! | ไม่เคย!” และทั้งคู่ก็ตอบพร้อมกันทันที เสียงจักรินหัวเราะดังลั่น ผู้พันอิฟราอิมเลิกคิ้ว มองหญิงสาวถลึงตาใส่โทรศัพท์อย่างนึกขัน

เขาขยับมานั่งฝั่งเดียวกัน แต่อยู่นอกรัศมีของกล้อง หยิบถ้วยซุปมาวางตรงหน้าตัวเอง แล้วตักขึ้นมาเป่าไล่ความร้อน ก่อนที่จะส่งไปจ่อที่ปากคนที่มัวแต่ห่วงคุยจนลืมหิว หญิงสาวอ้าปากรับอัตโนมัติ แล้วพูดต่อ

“นี่นายจักร! แฟนนายน่ะทำตัวน่าสงสัยมาก เจตนาติดเครื่องติดตามบนตัวฉันด้วย ฉันเลยให้นายเตไปสืบมาให้ ถามหน่อย..นายรู้จักแฟนนายดีแค่ไหน? ฮึ?” พูดจบก็อ้าปากรับช้อนที่มาจ่อพอดี หญิงสาวทำเหมือนเป็นเรื่องปกติธรรมชาติที่เขาจะต้องคอยดูแลเอาอกเอาใจเธอ แต่อีกฝั่งหนึ่งของสัญญาณ อิจฉาจนแทบจะตาเหลือกกันแล้ว

“อย่าให้เหลาเดี๋ยวจะแหลม! แค่นึกถึงยังแค้นไม่หาย ยัยนี่แสบนัก! แถมยังขวัญกล้าคิดขโมยแหวนของฉัน ฉันเองก็ไร้เดียงสาเกินไป คงเพราะหน้าตาดูใสซื่อ เลยถูกเขาหลอกได้ง่ายๆ!” 

“เฮอะ! หน้าตานายไม่ได้มีปัญหาหรอก สมองนายเป็นรูเองต่างหาก ถ้าไม่ได้ผู้พันเป็นหูเป็นตาให้ ฉันก็คงโดนยัยนี่ตลบหลังเหมือนกัน!” พูดจบก็อ้าปากรับช้อนที่มาจ่ออย่างได้จังหวะพอดิบพอดี

“แหม! นี่เธอดูจะสนิทสนมกับเขาเกินหน้าที่ไปหรือเปล่าห๊ะ!  ยัยซื่อบื้อ! ไหนบอกว่าเสียแค่นิ้วที่ถูกยึดครองไง! คำพูดเธอมันฝืนกฏของธรรมชาติชัดๆ ที่พวกฉันเห็นอยู่กับตาตอนนี้มันเลี่ยนจนล้นออกนอกหน้าไปแล้วนะ! ถามเด็กประถมยังรู้เลยว่า ความสัมพันธ์ไปถึงขั้นไหนแล้ว!” เตวิชวิจารณ์แรง อย่างไม่เกรงใจบุคคลที่สาม เพราะรู้ว่าเขาฟังไม่เข้าใจ

พริมโรสหน้าแดงก่ำอย่างมีพิรุธในใจ รีบพลิกลิ้นโวยวายใส่อีกฝ่ายทันทีเพื่อกลบเกลื่อน มั่นหน้าว่าถ้าไม่มีหลักฐาน ก็ไม่มีทางที่ใครจะมารู้เท่าทัน ก็แค่ยืนกระต่ายขาเดียวเข้าไว้ ตีหน้าทำเป็นไม่รู้ไม่ชี้ให้แนบเนียนก็ใช้ได้แล้ว

“อะไร! นี่ฉันก็มาทำงานให้เขาเหมือนกันนะ เขาก็ต้องรับผิดชอบดูแลฉันเสะ! ที่ฉันสะบักสะบอมขนาดนี้ก็เพราะเขาไม่ใช่หรือไง!” พอพูดจบ ก็อ้าปากรับเค้กชิ้นเล็กพอคำที่มาจ่อรออยู่ทันทีอย่างหงุดหงิดคู่สนทนา พร้อมบ่นต่อทั้งๆ ที่ยังเต็มปาก “ว่าแต่นายเถอะ! จะอยู่เฉยๆ อย่างวางใจได้เหรอ? นายจอมยังหาตัวไม่เจอเลยนะ!”

“มีมารยาทหน่อยเหอะ เธอเป็นผู้หญิงนะ รู้จักอายผู้พันเขาซะบ้าง! พูดทั้งๆ ยังเต็มปากแบบนั้นได้ยังไง!” เตวิชบ่นพร้อมอบรมมารยาทสตรี 

จักรินเห็นหน้าเพื่อนแล้วนึกขำในใจ ตบไหล่เขาเบาๆ สองสามที

“เอาน่า! ลองเอาอกเอาใจกันถึงขนาดนี้ เขาคงชินแล้วล่ะ แค่นี้ฉันยังถือว่ายัยนี่ให้เกียรติเขาแล้ว!” จักรินชี้ให้เห็นข้อดีของหญิงสาว

“โห! นายจักร! นายด่าฉันมาตรงๆ เลยก็ได้ คำพูดประโยคนี้ของนาย ฉันรับไม่ไหวจริงๆ!” เตวิชกับจักรินหัวเราะพร้อมกันอย่างเห็นด้วย

ชายหนุ่มที่นั่งข้างๆ ส่งแก้วน้ำชาให้ เธอรับมาดื่มอัตโนมัติ แล้วพูดต่อ

“ฉันเอาข้อมูลออกมาจากแหวนแล้วนะ ตรวจสอบแล้วด้วย ยัยนั่นถูกนายต้มจนยุ่ย ไม่มีกุญแจไขปริศนาอะไรทั้งนั้น ข้อมูลดิบทั้งดุ้น ว่าแต่นายซ่อนอาวุธชีวภาพไว้ที่ไหน?”

“หายไปแล้ว! ฉันเอาติดตัวมาด้วยตอนขึ้นเครื่อง แต่ช่วงชุลมุนตอนที่โดนจับเป็นตัวประกัน อยู่ๆ ก็หายไปอย่างไร้ร่องรอย!” 

“เอาล่ะสิ! ตกไปอยู่ในมือใครก็ไม่รู้ จะเกิดเรื่องร้ายแรงขึ้นไหม?”

“อาจจะ! นักวิทยาศาสตร์ที่เป็นหนึ่งในทีมวิจัยไวรัสพวกนี้เขาได้บอกกับฉันว่า ด็อกเตอร์เอ็มเจแจ้งข่าวลวงกับทางบริษัทฯ ว่าไวรัสได้ถูกขโมยไปแล้ว หลังจากที่เขาส่งมาให้ฉัน ทางบริษัทฯจึงได้จับตัวเขาไว้ และบังคับให้ทำการทดลองขึ้นมาใหม่ แต่ด็อกเตอร์เอ็มเจไม่อยากให้ความร่วมมืออีก เพราะทางบริษัทฯได้ใช้ข้อมูลที่เขาทำการวิจัย สร้างไวรัสที่อันตรายพวกนี้ขึ้นมา เพื่อใช้เป็นอาวุธชีวภาพ ซึ่งมันเป็นอะไรที่เขาไม่ต้องการ!”

“อานุภาพมันรุนแรงแค่ไหน?” เตวิชเอ่ยปากถาม

“ร้ายแรงมาก!! หลังจากได้รับเชื้อไวรัสตัวนี้ ผลของมันจะทำให้เซลล์ภายในเปื่อยยุ่ยจนเสียชีวิตภายในเจ็ดสิบสองชั่วโมง! พวกเราคงต้องขอความช่วยเหลือจากผู้พันอีกแล้วล่ะงานนี้!”

“ได้! เดี๋ยวจะลองคุยกับเขาดู” 

“พริม!” จักรรินเรียกแล้วก็หยุดพูดอย่างลังเลว่าจะพูดหรือไม่พูดดีกว่า

“ว่า?”

“ฉัน..ฉันเจอณัทธร เขายังไม่ตาย!” พริมโรสตกตะลึง ตาโตเบิกกว้าง

“จะเป็นไปได้ยังไง? นายเต! นายเห็นกับตาตัวเองไม่ใช่หรือไง?”

“ก็ใช่! พอรู้เรื่อง..ฉันยังไม่อยากจะเชื่อหูตัวเองเลย!”

“เพราะได้เขาแอบช่วยเหลือ ฉันจึงอยู่รอดมาได้จนถึงตอนนี้ เขาแฝงตัวอยู่ในกลุ่มของพวกมัน ไม่ยอมเปิดเผยว่าทำภารกิจอะไร แต่ที่ฉันแปลกใจคือ..เขามาถามหาที่ซ่อนอาวุธชีวภาพกับฉัน แล้วเขายังบอกอีกว่า..ได้เจอเธอด้วยครั้งหนึ่ง แต่เธอจำเขาไม่ได้!” พริมโรสตกใจจนหนังศีรษะชาวาบ ไม่คิดว่าผู้ชายเอเชียคนที่เธอสงสัยคนนั้นจะเป็นคนคนเดียวกัน 

เพล้ง!!

แก้วน้ำชาหลุดออกจากมือกระแทกกับพื้นโต๊ะจนแตก เสียงตกกระทบที่ดังสนั่นทำให้เธอได้สติ และพยายามเอื้อมมือจะไปหยิบชิ้นส่วนที่กระจัดกระจายอยู่นั้นอย่างเผลอไผล คล้ายจิตใจยังไม่ค่อยอยู่กับเนื้อกับตัวมากนัก แต่เจ้าชายอิสราร์ไวกว่า เขาปัดมือเธอออกโดยแรง หันที่วางโทรศัพท์กลับมาสไลด์วางสาย แล้วช้อนร่างบอบบางอุ้มขึ้น พาเดินออกจากห้องอาหารทันที

“เป็นอะไรไป?” เขาถามด้วยน้ำเสียงเป็นห่วง

“หม่อมฉัน..หม่อมฉัน…” หญิงสาวพูดติดอ่าง นึกคำพูดต่อไปไม่ออก เพราะกำลังสับสนในหัวเต็มที ส่วนในใจพลางทบทวนความทรงจำ นึกย้อนไปถึงเหตุการณ์วันนั้นแล้วก็ชาวาบไปทั้งตัว

ผ่านไปสองปีแล้วแต่เขายังไม่ตาย!! แล้วทำไมต้องสร้างเหตุการณ์ให้คนอื่นเข้าใจว่าตัวเองต้องตาย? เขาเลือกที่จะละทิ้งตัวตนเพราะอะไร? แม้แต่ต้องแลกกับการตัดขาดจากฉันก็ยังยินยอม!!

“โรส! โรส!” พริมโรสได้สติ กระพริบตาปริบๆ มองหน้าเขา

“คะ?”

“มีอะไร? บอกผม!” น้ำเสียงเขาฟังดูเข้มขึ้น คาดคั้นถามอย่างไม่พอใจ

“มีเรื่องน่าตกใจเกิดขึ้นกับหม่อมฉัน…” คำพูดหายไปจากปาก เธอรู้สึกอยากจะร้องไห้แต่ก็ไร้น้ำตา เธอจะเล่าให้เขาฟังอย่างไรดี เรื่องนี้มันซับซ้อนเกินไป จู่ๆ คู่หมั้นคนเก่ายังมีชีวิตอยู่ คู่หมั้นกำมะลอคนปัจจุบัน ก็กลับกลายมาเป็นความสัมพันธ์ที่ลึกซึ้ง และดูเหมือนว่าเริ่มจะเป็นคนสำคัญในชีวิตจริงเข้าไปทุกที

นี่สวรรค์จะไม่ละเว้นฉันจริงๆ ใช่ไหม!!

Continue to read this book for free
Scan code to download App

Related chapters

  • อย่าให้เขารู้ว่าฉันร้าย   ตอนที่ 34 : (っ˘з(˘⌣˘)18+

    ชายหนุ่มเดินเข้ามาในห้องนอน วางหญิงสาวลงอย่างทนุถนอม แล้วไปนั่งกึ่งเอนพิงพนักที่หัวเตียงเหมือนเดิม หยิบเอกสารที่โต๊ะหัวเตียงมาอ่าน โดยไม่สนใจจะไต่ถามอะไรอีกเธอลอบมองเขา เห็นสีหน้าด้านข้างเย็นชาเฉยเมย ริมฝีปากบางเม้มจนเป็นเส้นตรง นัยน์ตาฉายชัดถึงความไม่พอใจชัดเจน แต่พยายามเก็บอารมณ์อยู่ พริมโรสใจหายวาบ พอเธอไม่เล่าให้ฟังเขาก็แสดงออกอย่างที่เห็นตอนนี้ แต่ถ้าเล่าออกไปแล้วเขาจะอยู่ในอารมณ์แบบไหนกันล่ะ จะรุนแรงมากกว่าเดิมหรือเปล่าหญิงสาวรู้สึกจิตใจไม่สงบ นิ่งคิดหาวิธีที่จะทำให้เขาหายหงุดหงิดเสียก่อน แล้วค่อยจับเข่าคุยกันดีๆ เผื่อว่าเขาอาจจะมีคำแนะนำดีๆ ให้เธอก็ได้ เพียงแต่เธอไม่รู้ว่า เวลาที่คนอื่นไม่เข้าใจกัน เขาง้องอนอีกฝ่ายยังไง คู่อื่นๆ ที่เขาคบหาดูใจกันแบบปกติ ก็คงจะมีวิธีเฉพาะตัวที่รู้ใจกัน และเข้าใจกันเองได้โดยง่าย แต่กรณีของเธอกับเขา คงยังไม่สามารถทำได้ถึงขนาดนั้น“ฝ่าบาท…” มือเรียวยื่นไปจับแขนเสื้อเชิ้ตเขาไว้ด้วยข้อนิ้วชี้กับนิ้วโป้ง แล้วกระตุกเบาๆ น้ำเสียงออดอ่อยคล้ายเจ้าตัวจงใจทำให้ดูน่าสงสารไว้ก่อน ทั้งสีหน้าและแววตาเปล่งประกายใสซื่อบริสุทธิ์อย่างกับเด็กไร้เดียงสา ปากยู่แก้ม

    Last Updated : 2025-03-17
  • อย่าให้เขารู้ว่าฉันร้าย   ตอนที่ 35 : (っ˘з(˘⌣˘)18+

    เขาใช้นิ้วกรีดไปตามร่องแล้วแหวกออก เผยให้เห็นแคมกลีบเล็กสีชมพูอมแดงที่ถูกปกปิดไว้ภายใน ลักษณะคล้ายปีกผีเสื้อบอบบางน่าทะนุถนอม เขาก้มลงแลบลิ้นเลียน้ำหวานที่ฉ่ำเยิ้มไปทีหนึ่ง พลางสูดกลิ่นหอมจางๆ ซึ่งเป็นกลิ่นเดียวกับผิวกายของเธอ“อ้าาาา~” ทันใดนั้นพริมโรสก็ผวาสะดุ้งเฮือก ใบหน้าแดงก่ำไปด้วยเลือดที่ฉีดซ่าน ขณะที่ลิ้นของเขาไล้เลียสัมผัสความเปียกชื้นในแนวร่องที่ถูกปกปิดอยู่ เขาจับเรียวขาให้พาดไปบนไหล่ ฝ่ามือล็อกต้นขาเอาไว้ แล้วจับอ้าออกให้กว้างขึ้น แคมกลีบบางที่เบียดชิดจนมองไม่เห็นทางเข้าจึงแยกออกมา น้ำใสเยิ้มเปียกชุ่มปกคลุมไปหมดทั้งสองกลีบ เขากลืนน้ำลายนิดหนึ่ง เมื่อเห็นเม็ดน้อยสีชมพูระเรื่อเคลือบไว้ด้วยน้ำรักสีใสฉ่ำจนแวววาว ดูสวยน่ากินจนน้ำลายสอเขาอดใจไม่ไหว ก้มหน้าลงลิ้นตวัดไปที่ปลายเม็ดเสียว วนไล้ปลายลิ้นเล้าโลมไปรอบๆ ปุ่มกระสัน ดูดเลียน้ำรักรสหวานอย่างนุ่มนวลดูดดื่ม แล้วห่อลิ้นเรียวยาวสอดล้วงเข้าไปด้านในอย่างเนิบช้าเป็นจังหวะ กระตุ้นความต้องการของหญิงสาวให้ลุกโชนขึ้นการกระทำของเขา เร้าอารมณ์ของหญิงสาวให้พลุ่งพล่าน มือเรียวข้างหนึ่งกำมือเขาที่วางไว้ที่ต้นขาไว้แน่น นิ้วเรียวอีกข้างสอด

    Last Updated : 2025-03-17
  • อย่าให้เขารู้ว่าฉันร้าย   ตอนที่ 36 : ღ(≧ ◡ ≦)ღ

    ติ๊ดๆๆๆ!! ตี้ดดด!! ติ๊ดๆๆๆ!! ตี้ดดด !!เสียงโทรศัพท์มือถือของพริมโรสดังขึ้น เจ้าชายอิสราร์ เอื้อมมือไปหยิบมาสไลค์รับสาย แล้วเปิดสปีคเกอร์โฟนยื่นมาใกล้ๆ ใบหน้าของเธอ“เฮลโล?” หญิงสาวตอบรับด้วยสีหน้างุนงงเล็กน้อย“หัวหน้า! พวกเรามากันพร้อมแล้วครับ กำลังรอให้หัวหน้ามาเปิดประชุม!” หญิงสาวเลิกคิ้ว เหลือบตามองไปทางคนที่กำลังถือโทรศัพท์อยู่อย่างสงสัย“รอสักครู่ กำลังจะออกไป!” ชายหนุ่มกลับตอบรับเสียเอง “ผมลืมไปเลย เรียกประชุมองครักษ์สำหรับวางแผนงานของวันพรุ่งนี้เอาไว้ คุณคงต้องรีบหน่อย ถ้าไม่อยากให้ลูกน้องรู้ว่าหัวหน้าเข้าประชุมช้าเพราะอะไร!” พริมโรสตวัดสายตาค้อนใส่เขาไปทีหนึ่ง ก่อนที่จะรีบลุกขึ้นไปแต่งตัว…ภาพที่เจ้านายผู้สูงศักดิ์ เดินกุมมือหัวหน้าหน่วยพิเศษราชองครักษ์เข้ามาในห้องประชุมนั้น ทำให้บรรดาหนุ่มน้อยหนุ่มใหญ่ที่นั่งกันหน้าสลอนราวห้าสิบกว่าคน ต่างก็หน้าแดงและกลืนน้ำลายเข้าไปอึกใหญ่ด้วยความอิจฉาตาร้อน ผสมผสานไปด้วยความรู้สึกเสียดายและความหวาดหวั่นกลัวเกรง ซึ่งบางคนก็ยังแยกไม่ออกด้วยซ้ำว่ากำลังอยู่ในอารมณ์ไหนมากกว่ากันสายตาทุกคู่เอาแต่จ้องมองหญิงสาวใบหน้าสวยหวาน ที่มีผมดำยาวสยา

    Last Updated : 2025-03-17
  • อย่าให้เขารู้ว่าฉันร้าย   ตอนที่ 37 : (っ˘з(˘⌣˘)18+

    "อาาา..เสียวเป็นบ้าเลย~" เสียงครางต่ำเอื้อนเอ่ยออกมาอย่างถูกอกถูกใจ เมื่อถูกเรียวลิ้นอุ่นชื้นไล้เลียส่วนหัวของท่อนเนื้อแข็งจนเปียกชุ่ม คล้ายกำลังละเลียดไอศกรีมแท่งโปรดรสหวานที่ไม่อยากให้หมดเร็วเกินไปนัก สลับกับการปาดลิ้นฉวัดเฉวียนไปมาเพื่อสร้างความสุข ตามด้วยเม้มริมฝีปากดูดดุน แล้วแกล้งงับเบาๆ ไปทีละนิดอย่างนุ่มนวล"อร่อยไหม?~" เขาถามด้วยน้ำเสียงแหบพร่า นัยน์ตาล้ำลึกส่องประกายหวานเยิ้ม สีหน้าคล้ายยิ้มแต่ไม่ยิ้ม หญิงสาวเงยหน้าขึ้นมาคลี่ยิ้มอย่างมีเสน่ห์ ทว่ากลับแฝงอุบายอันร้ายกาจเอาไว้ หลุบตาลงมองมือตัวเองที่กำลังกอบกุมแท่งเนื้ออวบอุ่น แล้วชักรูดสลับขึ้นลงอย่างต่อเนื่อง ก่อนจะเกร็งปลายลิ้นกดเซาะไปตามแนวร่อง ตวัดปาดน้ำหล่อลื่นสีใสไล้เลียดูดดื่มอย่างเอร็ดอร่อย แล้วซอกซอนลงมากระตุ้นความซาบซ่านตรงส่วนคอที่หยักโค้งโดยรอบ ก่อนที่จะบรรจงจรดปลายลิ้นสะกิดเล้าโลมเส้นเอ็นสองสลึงอย่างแผ่วเบา“ซี้ดดด~..อือ~..โรสจ๋า~”พริมโรสเหลือบตามองคนที่กำลังฟินจนหลับตาพริ้ม หงายหน้าครวญครางออกมาเสียงต่ำนั้นอีกครั้ง เธอลอบยิ้มในใจที่สามารถทำให้ความกำหนัดของเขาพวยพุ่งขึ้นมาจนเคลิบเคลิ้มได้ แต่ก็ยังไม่พอเท่าที่ใ

    Last Updated : 2025-03-17
  • อย่าให้เขารู้ว่าฉันร้าย   ตอนที่ 38 

    พริมโรสลืมตาตื่นขึ้นมาอย่างสดชื่น เธอหยิบโทรศัพท์ขึ้นมาดูเวลา เห็นว่าใกล้จะหกนาฬิกาแล้ว อีกครึ่งชั่วโมงก็จะถึงที่หมาย เมื่อคืนนี้ กว่าเขาจะปล่อยเธอออกจากอ้อมแขน ก็ล่วงเลยไปจนเกือบตีหนึ่งตีสอง ถึงแม้จะนอนเพียงไม่กี่ชั่วโมง แต่กลับไม่มีอาการง่วงงุนเลยแม้แต่น้อย อาจเป็นเพราะตื่นเต้นที่จะได้กลับประเทศบ้านเกิดก็เป็นได้หญิงสาวลุกขึ้นเตรียมจะไปอาบน้ำ แต่จู่ๆ ก็มีแสงสว่างวาบที่ปลายหางตาจึงเหลียวไปมอง เห็นเป็นข้อความเข้ามาในโทรศัพท์มือถือของเขา จึงหยิบขึ้นมาดูอย่างถือวิสาสะ[ หม่อมฉันคิดถึงฝ่าบาท คิดถึงคืนนั้นของเรา อนุญาตให้หม่อมฉันไปหาได้ไหมเพคะ? ]หญิงสาวมองอย่างตื่นตะลึง มือไม้สั่นไปหมดด้วยความโกรธ เพิ่งรู้ว่าตัวเองเป็นสตรีที่โง่งมที่สุดในโลก แถมยังไร้เดียงสาเสียจนเปิดโอกาสให้คนอื่นมารังแกได้ง่ายๆเธอเหวี่ยงโทรศัพท์ลงบนที่นอน เดินเข้าห้องน้ำไปด้วยอารมณ์ที่หงุดหงิด ผู้ชายสมควรตายผู้นี้เห็นเธอเป็นตัวอะไร…“พี่ชาย! ตื่นแต่เช้าเลย! เป็นเพราะสดชื่นเกินไป หรือเพราะนอนไม่หลับเพคะ”“หน้าตาดีอย่างนี้ ดูเหมือนคนอดนอนอย่างนั้นรึ?”“อ๊ะ! ใครว่าไม่ใช่! เดี๋ยวคงต้องสังเกตสีหน้าของพี่สะใภ้ร่วมด้วย ว่าพ

    Last Updated : 2025-03-17
  • อย่าให้เขารู้ว่าฉันร้าย   ตอนที่ 39 : (っ˘з(˘⌣˘)18+ (1) 

    “พี่ชายมาแล้ว! ตรงเวลาเป๊ะ!” รินรดาอุทานอย่างดีใจ ที่เห็นพี่ชายเดินออกมาจากลิฟต์ เพราะใกล้เวลาที่จะให้สัมภาษณ์กับสื่อเต็มที พลางหันไปมองพนักงานต้อนรับที่เดินตามท้ายขบวนมาด้วย ซึ่งโรงแรมระดับนี้จะอำนวยความสะดวก โดยบริการให้แขกสามารถเช็คอินภายในห้องพักได้เลย เพื่อความเป็นส่วนตัว“มาเช็คอินใช่ไหมคะ เชิญทางห้องหนังสือได้เลยค่ะ มีเจ้าหน้าที่รออยู่แล้ว” พนักงานก้มตัวโค้งแล้วเดินแยกตัวไปเจ้าชายอิสราร์ เดินนำหน้าคณะองครักษ์ ก้าวเข้ามาในห้องสวีทอันหรูหรา ภายในโรงแรมที่เจ้าภาพได้จัดเตรียมไว้ให้ พริมโรสรู้จักโรงแรมนี้เป็นอย่างดี ซึ่งเป็นโรงแรมของแบรนด์ลักซูรีสุดหรูชั้นนำระดับเอเชีย ใช้ต้อนรับบุคคลสำคัญระดับประเทศ หรือเชื้อพระวงศ์ของประเทศต่างๆ และโรงแรมแห่งนี้ยังเคยเป็นที่ตั้งของวังเจ้าฟ้าพระองค์หนึ่ง ของทีแลนด์ในอดีตอีกด้วย แต่ละห้องจะมีธีม ที่เน้นความหรูหราของราชวงศ์ในแต่ละยุค ซึ่งจะต่างกันที่การตกแต่ง และห้องนี้มีเนื้อที่โดยรวมประมาณห้าร้อยห้าสิบตารางเมตร มีทั้งหมดห้าห้องหลัก เฉพาะห้องนั่งเล่นหรือห้องรับแขก ก็กว้างขวางราวกับรวมเอาพื้นที่ของห้องแสตนดาร์ดสองห้องมารวมกัน ราคาห้องพัก อยู่ที่หน

    Last Updated : 2025-03-17
  • อย่าให้เขารู้ว่าฉันร้าย   ตอนที่ 40 : (っ˘з(˘⌣˘)18+ (2)

    เจ้าชายอิสราร์ลงลายมือชื่อเสร็จ ก็ยื่นปากกาพร้อมกับเลื่อนแฟ้มเอกสารตรงหน้ามาให้พริมโรส เธอรับปากกามาจากมือเขา และจรดเซ็นชื่อและนามสกุลของตัวเอง ลงไปบนกระดาษ จากนั้นส่งต่อให้ท่านหญิง และท่านทูตเปเรซประจำทีแลนด์ลงลายมือชื่อเป็นสักขีพยานรินรดาเตรียมการทุกอย่างเร็วมาก สมกับเป็นเลขาทรงประสิทธิภาพ เพียงได้รับคำสั่งจากพี่ชายทันที ที่เขาขึ้นจากสระน้ำ ก็ใช้เวลาเตรียมการประมาณหนึ่งชั่วโมง ไม่ว่าจะเป็นติดต่อสถานทูต ขอใบรับรอง ยื่นคำร้อง เตรียมบุคคลที่จะร่วมเป็นพยาน จนไปถึงเชิญเจ้าหน้าที่ มาทำการจดทะเบียนสมรสให้ ภายใต้กฎหมายของทีแลนด์ และดำเนินการเสร็จเรียบร้อยทุกอย่างภายในชั่วโมงที่สองเจ้าหน้าที่สถานทูตส่งเอกสารสมรสมาให้สองแผ่น พร้อมคำอวยพรให้กับคู่สมรสใหม่ และชี้แจงว่าเมื่อไปถึงเปเรซไม่จำเป็นต้องจดทะเบียนสมรสซ้ำอีก สามารถนำเอกสารนี้ติดต่อสถานทูตเพื่อขอรับรองการจดทะเบียนได้เลยทันที จากนั้นจึงโค้งกายถวายความเคารพต่อเจ้าชายพร้อมกับท่านทูต ก่อนจะขอตัวกลับออกไป…พริมโรสเดินเข้ามาในห้องนอนชั้นใน เพื่อจะเปลี่ยนชุด แต่แล้วก็รู้สึกว่ามีเรือนกายสูงโปร่ง ของบุรุษในสูทรสากลก้าวเข้ามายืนประกบที่ด้านหลัง

    Last Updated : 2025-03-17
  • อย่าให้เขารู้ว่าฉันร้าย   ตอนที่ 41 

    พริมโรสเดินออกจากห้องน้ำ ก็พบว่ามีชุดออกงานวางพาดไว้บนที่นอน หญิงสาวอึ้งไปเล็กน้อยเมื่อเห็นชุดที่เขาจะให้สวม ซึ่งปิดทั้งคอทั้งแขน ตัวกระโปรงก็ยาวมาก คาดว่าคงจะปิดกระทั่งปลายเท้า มีกางเกงขายาวตัวใน มิหนำซ้ำเป็นสีพื้นทั้งชุดเสียอีกแม่เจ้า!! จบงานนี้ฉันคงต้องเตรียมตัวเข้าคอนแวนต์ได้เลย ถ้าให้คลุมผมด้วยก็ไม่ต่างอะไรกับชุดของซิสเตอร์!!เจ้าชายอิสราร์เดินออกมาจากห้องแต่งตัว ถือกล่องกำมะหยี่ทรงแบนขนาดใหญ่คล้ายกล่องเครื่องประดับติดมือมาด้วย"รดาเลือกสีได้ถูกใจผมมาก แต่งตัวเร็วจะสวมเครื่องประดับให้""นี่ชุดประจำชาติหรือเปล่าเพคะ?" หญิงสาวเอ่ยปากถาม หยิบชุดขึ้นมาทาบตัว ทำให้เพิ่งจะเห็นแสงสะท้อนเหลือบประกายมุกของลวดลายบนเนื้อผ้ายามที่แสงไฟตกกระทบ อ้อ! เป็นผ้าไหมทอมือนี่เอง สวยเหมือนกันแฮะ! "รูปแบบน่ะใช่ แต่เนื้อผ้าเป็นของที่นี่ ผมเอาชุดของคุณไปเป็นต้นแบบ คุณจะออกงานในฐานะคู่หมั้นอย่างไม่เป็นทางการ แต่…” นัยน์ตาคมกริบราวกับมีดหรี่ลงคล้ายเตรียมจะแทงให้ทะลุเนื้อหนังมังสา เหลือบมองด้วยหางตา “ดูจากสีหน้าเหมือนคุณจะไม่ถูกใจ คงอยากจะแต่งชุดอื่นที่เปิดเผยเนื้อตัวกว่านี้สินะ?" พริมโรสสะดุ้งในใจ รีบเง

    Last Updated : 2025-03-18

Latest chapter

  • อย่าให้เขารู้ว่าฉันร้าย   ตอนที่ 70 

    “ฮ่าๆๆ ไง! ถึงกลับโกรธจนตัวเนื้อสั่นเลยเหรอ เป็นยังไงบ้างล่ะ รสชาติของการสูญเสีย ขมขื่นถึงอกถึงใจดีไหม?” คำพูดประโยคนี้ของเขาทำให้หญิงสาวแน่ใจได้ทันทีว่าอุบัติเหตุที่เกิดขึ้นนี้ไม่ใช่เรื่องบังเอิญ“ฉันเกลียดแกจนอยากจะเป็นคนถ่อย จะได้ถ่มถุยใส่หน้าส้นตึกของแกให้สาสมกับความรู้สึกขยะแขยง!” ชารีฟหรือณัทธรสะอึก เมื่อเจอความโกรธเกลียดอย่างรุนแรงจากผู้หญิงที่เขารัก“เกลียดฉันงั้นรึ? ต้องเป็นฉันไหมที่จะพูดประโยคนั้น แทบไม่อยากจะเชื่อเลยว่า เธอจะลืมฉันได้อย่างง่ายดายและไปแต่งงานใหม่!"“ฉันไม่ได้แต่งงานใหม่! นี่เป็นการแต่งงานครั้งแรกและครั้งเดียวของฉัน และอะไรคือลืมได้อย่างง่ายดาย? นายหนีตายไปเป็นปีๆ แล้วฉันจะต้องไปบวชชี เพื่ออุทิศส่วนกุศลให้นายด้วยอย่างนั้นรึ! เรารักกันดูดดื่มขนาดนั้นตั้งแต่เมื่อไหร่? ก่อนที่นายจะฆ่าพ่อฉัน เขายังพูดไม่ให้ฉันยึดติดกับตัวเขาเลย! ตรรกะของนายมันบิดเบี้ยวเป็นเวย์เดียวกับพวกโรคจิต ที่นายกับฉันมาถึงจุดนี้เป็นเพราะการตัดสินใจเลือกของตัวเองทั้งนั้น อย่าเอาฉันมาเป็นข้ออ้างเพื่อปกปิดยีนขี้แพ้ในตัวหน่อยเลย!”“ไม่ต้องมาทำปากดียั่วอารมณ์ให้ฉันรู้สึกละอายใจหรอก คำพูดยั่วยุของ

  • อย่าให้เขารู้ว่าฉันร้าย   ตอนที่ 69 : ตามไล่ล่า (3)

    “ฮัลโหล? ว่าไง?”“ไอ้ชารีฟ! ไอ้ห่วย! สายของแกทำงานยังไงวะถึงได้รายงานผิดพลาด! เป้าหมายไปเส้นทางอื่นไม่ได้เฉียดมาทางนี้เลยด้วยซ้ำ!!”“จะเป็นไปได้ยังไง? ไม่ผิดแน่ๆ!! นายดักซุ่มอยู่ที่นั่นแหละเผื่อว่าจะเป็นแผนลวง!”ชารีฟหรือณัทธร กดปุ่มตัดสาย แล้วดึงหูฟังบลูทูธออกอย่างหงุดหงิด จะเกิดการผิดพลาดไปได้ยังไง ในเมื่อเขาเพิ่งจะได้รับการยืนยันเส้นทางมาจากสายที่แฝงตัวอยู่ในกลุ่มผู้ใต้บังคับบัญชาของเชคฮ์อิสราร์เมื่อไม่กี่นาทีมานี้เองหรือว่าเปลี่ยนเส้นทางกระทันหัน??เขาคิดว่าน่าจะมีการเปลี่ยนแปลงแบบฉุกเฉินมากกว่าการที่อีกฝ่ายจะรู้ตัวว่ามีข่าวรั่วไหลชายหนุ่มยกนาฬิกาข้อมือขึ้น เพื่อดูเวลาก่อนการตัดสินใจ ในเมื่อภารกิจลอบสังหารเชคฮ์อิสราร์ได้ผิดพลาดไปแล้ว เขาเลยคิดว่าไปปิดจ๊อบหนี้เก่าของตัวเองก่อนจะดีกว่า แล้วค่อยกลับไปรายงานภารกิจที่ล้มเหลว ซึ่งถ้ารีบไปตอนนี้ก็น่าจะไปทันเวลากับที่เป้าหมายขับมาถึงในจุดที่เขากำหนดเอาไว้ในแผนพอดี…ชารีฟหยิบโทรศัพท์มือถือขึ้นมา เปิดแอพพลิเคชันที่ใช้ตรวจสอบสัญญาณจีพีเอส เพื่อหาตำแหน่งปัจจุบันของรถเป้าหมาย ซึ่งก็เห็นในแผนที่ว่ารถยนต์คันดังกล่าว กำลังจะแล่นผ่านสี่แยกไฟแดง

  • อย่าให้เขารู้ว่าฉันร้าย   ตอนที่ 68 : ตามไล่ล่า (2)

    ความร้ายกาจของบิดาที่เธอได้ยินจากปากของคนอื่น เป็นเหมือนหนามแหลมคม ที่คอยทิ่มแทงจิตใจอยู่ตลอด แต่กระบวนการให้อภัย พยายามดิ้นรนที่จะผลักความคิด และความรู้สึกด้านลบเหล่านี้ออกไป ด้วยการจดจ่อกับความรัก และความทรงจำดีๆ นึกถึงช่วงเวลาที่ยากลำบาก ที่เขามักจะแบกรับความเจ็บปวดเหล่านั้นไว้แทนอยู่เสมอ แล้วผลักดันให้เธอก้าวข้ามผ่านช่วงเวลาเลวร้ายนั้นไปให้ได้ ฝึกฝนเธอให้เข้มแข็ง สอนให้ยอมรับทุกความผิดพลาด และความล้มเหลว แล้วเรียนรู้ที่จะเยียวยาตัวเองเพื่อปิดกั้นทุกความเจ็บปวดเธอรู้ดีว่าการยึดติดกับความรู้สึกในทางลบ รังแต่จะเพิ่มความทุกข์ให้กับชีวิตมากขึ้น และขัดขวางไม่ให้หัวใจได้พบกับความสงบสุข แต่การที่จะละวางด้วยการให้อภัยนั้น ก็ทำให้เกิดความรู้สึกผิด ต่อบุคคลที่ต้องเสียชีวิตไปอย่างไม่เป็นธรรมนั้นด้วยเช่นกันแต่เมื่อมองในมุมกลับกัน เขาก็เป็นเพียงแค่มนุษย์คนหนึ่ง ซึ่งไม่ว่าใครก็สามารถทำผิดได้ เธอเองก็ไม่ได้รับการยกเว้น ความผิดหวังมักจะทำให้คนเราจมอยู่กับอดีต จนลืมมองความสุขที่กำลังได้รับอยู่ในปัจจุบัน และกำลังจะตามมาอีกมากมายในอนาคต จึงเป็นความคิดที่โง่เขลาอยู่ไม่ใช่น้อย ถ้าเรายังหยุดอยู่ที่ควา

  • อย่าให้เขารู้ว่าฉันร้าย   ตอนที่ 67 : ตามไล่ล่า (1)

    “ตรวจสอบชายสองคนที่สิบสองนาฬิกา ประตูทางเข้าด้านนอก ในมือถือผ้าสีดำห่อหุ้มวัตถุลักษณะเป็นแท่งยาวทรงกระบอก เปลี่ยน!”“แลนด์โรเวอร์สีดำขับเข้ามาจอดหน้าประตูทางเข้าออกของพนักงานชั้นใต้ดินสองคัน คันหนึ่งประมาณห้าคนใส่ชุดพนักงานรักษาความปลอดภัยเดินเข้าไปด้านใน มีอาวุธปืนติดตัว เปลี่ยน!”“ประตูทางออกอาคารผู้โดยสารหนึ่งที่เก้านาฬิกา พนักงานรักษาความปลอดภัยกำลังลากโซ่ตะปูเรือใบมาขวางถนน คาดว่าไม่ใช่เจ้าหน้าที่ของสนามบิน เปลี่ยน!”“ประตูทางออกฉุกเฉินของอาคารผู้โดยสารสอง ทางสะดวก ชาลีทีมเตรียมพร้อม รอรับคำสั่ง เปลี่ยน!” เสียงรายงานผ่านวิทยุสื่อสารเข้ามาเป็นระยะๆ หลังจากที่กระจายกำลังไปประจำตามจุดสำคัญต่างๆ เพื่อสังเกตความเคลื่อนไหวของฝ่ายตรงข้าม“พวกมันเริ่มทยอยกันเข้ามาแล้ว แจ้งเจ้าหน้าที่รักษาความปลอดภัยให้เตรียมอพยพประชาชนหากมีเหตุฉุกเฉิน! แจ้งเจ้าหน้าที่ตำรวจกับดับเพลิงหรือยัง?”“เรียบร้อยแล้วพ่ะย่ะค่ะ!”“อืม ถ้าพร้อมแล้วก็ไปกันตอนนี้เลย!”“รับคำสั่ง!” องครักษ์รับคำสั่งแล้วแจ้งแต่ละทีมผ่านวิทยุสื่อสารทันที “อัลฟ่าทีมเคลียร์พื้นที่ บราโวเตรียมรถบรรทุกเปิดทางออกแล้วรอรับคำสั่ง ชาลีทีมวีไอพีเ

  • อย่าให้เขารู้ว่าฉันร้าย   ตอนที่ 66

    ไลลานอนตัวอ่อนระทวยอยู่ครู่หนึ่ง สักพักก็ขยับตัวยกศีรษะขึ้นมานอนหนุนแขนแข็งแรงข้างหนึ่งของสามี เบียดเรือนร่างบอบบางเข้าชิดเพื่อขอความอบอุ่นจากร่างกายของเขา ซึ่งชายหนุ่มเองก็เพิ่งผ่อนคลายจากอาการหัวใจเต้นแรง หายใจหอบเหนื่อย เขาพลิกตัวตะแคง รั้งต้นขาของหญิงสาว ให้ขึ้นมาก่ายเกยอยู่ครึ่งๆ บนร่างกายของเขา ขาของเธอเบียดชิดจนเขารู้สึกอบอุ่นและชุ่มชื้นในซอกลี้ลับ ไล้ฝ่ามือจากโค้งสะโพกเลยมาถึงต้นขา ลูบผิวเรียบเนียนไปมาเบาๆ เป็นจังหวะอย่างเพลิดเพลิน พร้อมๆ กับปลอบโยนให้เธอคลายความอ่อนเพลีย เพื่อเข้าสู่โหมดพักผ่อน “ฝ่าบาทเพคะ?” “หืม?” ชายหนุ่มผงกศีรษะขึ้นมองอย่างแปลกใจเมื่อได้ยินเสียงของอีกฝ่าย ซึ่งเขาคิดว่าน่าจะเคลิ้มหลับไปแล้ว“คืนนี้เนญ่าเขาประกาศว่าจะเข้าหอกับฝ่าบาท แล้วทำไมพระองค์ถึงมาหาหม่อมฉันล่ะเพคะ?”“ก็ไม่อยากจะมา ตั้งใจจะสั่งสอนให้รู้สำนึกเสียหน่อยว่า การผลักดันให้ผัวไปมีผู้หญิงอื่น โดยไม่เต็มใจนั้นน่ะมันจะให้ผลยังไง แต่เผอิญว่าเห็นคนบางคน น้ำตาคลอเบ้าเลยมาดูเสียหน่อย ไม่รู้ว่าเสแสร้งแกล้งทำ หรือรู้จักที่จะหึงหวงผัวขึ้นมาบ้างแล้ว!”“หึงจริงๆ น่ะแหละเพคะ” ไลลายอมรับออกไปตรงๆ ถึงแม้ใ

  • อย่าให้เขารู้ว่าฉันร้าย   ตอนที่ 65 : นาทีระทึกขวัญ (2)

    กัปตันลุกขึ้นแล้วเดินออกประตูไปก่อน ผงกศีรษะให้นิดหนึ่งเมื่อเห็นพริมโรสยืนอยู่หน้าประตู เจ้าชายอิสราร์ยืนมองหญิงสาวผ่านช่องประตูห้องนักบินอยู่ครู่หนึ่ง ก่อนจะเอื้อมมือมาคว้าแขนเรียวเล็กดึงเข้ามาปะทะอกกว้าง รวบร่างบางเข้ามากอดรัดอย่างแนบแน่น ฝ่ามือข้างหนึ่งประคองไว้หลังศีรษะ แล้วบดขยี้ริมฝีปากร้อนระอุกับริมฝีปากนุ่มอย่างหิวกระหาย เร่าร้อนและดุเดือด เพราะอะดรีนาลีนที่หลั่งออกมาหลังจากเพิ่งจะผ่านเหตุการณ์เฉียดตาย กระตุ้นให้อารมณ์ของเขาพลุ่งพล่าน“อื้อ!..” ปลายลิ้นเงอะงะถูกดูดดุนและเกี่ยวกระหวัดไว้ด้วยลิ้นเร่าร้อนของอีกฝ่ายโดยไม่เปิดโอกาสให้ได้พักหายใจ ทำให้เกิดเสียงประท้วงแผ่วๆ ในลำคอ“ที่รัก~..ผมรักคุณ” เขาถอนริมฝีปากออก กระซิบเสียงแหบพร่าแนบชิดกับริมฝีปากนุ่มอุ่น เรียวลิ้นไล่ระไปบนริมฝีปากของอีกฝ่าย ก่อนประทับริมฝีปากลงมาอีกครั้ง หญิงสาวยกท่อนแขนขึ้นโอบรอบลำคอเขาไว้ ตอบรับจุมพิตด้วยจังหวะที่สอดรับกันเป็นอย่างดี เบียดร่างบอบบางเข้าแนบชิดร่างกำยำอย่างออดอ้อน ฝ่ามือหนาของเขาลูบไล้ไปตามแผ่นหลังไล่ลงไปถึงโค้งสะโพกกลมมนแล้วกดเข้าหาลำตัวตามแรงอารมณ์ที่กำลังเพิ่มมากขึ้น“เอ่อ..ทูลฝ่าบาท พายุท

  • อย่าให้เขารู้ว่าฉันร้าย   ตอนที่ 64 : นาทีระทึกขวัญ (1)

    รินรดานั่งเหม่อกำโทรศัพท์ไว้ในมือ หลังจากเพิ่งจะวางสายจากรามิล เขาสัญญาว่าจะรีบเคลียร์งานให้เรียบร้อย และจะตามไปหาที่เปเรซภายในสองวันเธอรู้สึกไม่สบายใจเมื่อนึกถึงความฝันเมื่อคืนที่ผ่านมา แสงสว่างที่ลอยละล่องในความมืดส่องมาที่เธอ พร้อมกับเสียงกระซิบที่แผ่วเบาแต่ชัดเจน เสียงนั้นไม่ใช่เสียงของใครในโลกนี้ มันเหมือนเสียงที่มาจากที่ไกลโพ้น ฟังดูทั้งใกล้และไกลในเวลาเดียวกัน ‘ถึงเวลาแล้ว…จงทำตามสัญญา’หญิงสาวไม่ได้บอกใครว่าหลังจากที่เธอ และพี่ชายฟื้นขึ้นมา เธอได้เห็นถึงความศักดิ์สิทธิ์ของหินพ่อมดลาบราดอไลต์ ด้วยความสงสัยและความหวัง เธอแอบพระมารดาเข้าไปในห้องลับ ท่องบทสวดที่เธอแอบจดเอาไว้ และอธิษฐานถึงสิ่งที่อยากรู้ที่สุดในชีวิตตอนนั้น นั่นก็คือการตามหาครอบครัวที่แท้จริงจากนั้นเธอก็ฝันซ้ำๆ เดิมๆ อยู่หลายครั้งจนมาถึงปัจจุบัน ไม่รู้ว่าบุคคลในฝันเป็นใคร เธอจำเรื่องราวได้ รู้ว่าคนในฝันเป็นผู้หญิงหรือผู้ชาย แต่จำหน้าไม่ได้เลยสักคน และครั้งที่ไปโรงพยาบาลจนเกิดอาการใจสั่น แล้วเจ็บแปลบอย่างรุนแรง จนหมดสติไปในครั้งนั้น ก็ทำให้เธอได้เห็นผู้หญิง ที่มีหน้าตาเหมือนเธอราวกับฝาแฝดชัดเจนเป็นครั้งแรก ในห้วงฝ

  • อย่าให้เขารู้ว่าฉันร้าย   ตอนที่ 63 : (っ˘з(˘⌣˘)18+

    “อะไรนะ!! แล้วได้ลงจอดฉุกเฉินไหม? งั้นถ้าจำเป็นต้องเปลี่ยนแผนโยกย้ายคนจากรัฐดีไปรัฐอีก็ดำเนินการได้เลย! อืม..ฉันอยู่บนเครื่องบินแล้ว คงจะถึงไล่ๆ กัน!...ได้!…เอาตามนั้น!”เจ้าชายอิดรีสชะงักมือที่กำลังวางโทรศัพท์บนโต๊ะหัวเตียง ขณะที่ปรายหางตาเห็นหุ่นอรชรอ้อนแอ้นกำลังเยื้องกรายเข้ามาในห้องด้วยกิริยาท่าทางที่ยั่วยวนหญิงสาวเข้ามายืนห่างจากเตียงไปประมาณหนึ่งช่วงแขน ค่อยๆ ปลดอาภรณ์ออกจากตัวทีละชิ้นอย่างเชื่องช้า พร้อมช้อนสายตาขึ้นมองชายหนุ่มอย่างเย้ายวนชวนเชิญเจ้าชายอิดรีสหยิบหมอนสองใบมาซ้อนหลัง นั่งกึ่งเอนพิงพนักหัวเตียงพาดแขนไว้บนเข่าข้างหนึ่งที่ตั้งชันขึ้น หรี่ตามองด้วยสีหน้าเรียบเฉยแต่ดูเยือกเย็น กิริยาภายนอกยังคงสงบนิ่ง รอบกายยังเผยความเย่อหยิ่งจองหองออกมาด้วยเขาเหลือบตามองนาฬิกาที่โต๊ะหัวเตียง ทำให้รู้ว่าอีกฝ่ายเลือกเวลาได้เหมาะเจาะ ไลลาไปสั่งงานกับเด็กรับใช้ได้สักพักใหญ่ๆ แล้ว และคงกำลังใกล้จะกลับมา เลยเปิดโอกาสให้น้องสาวสวมบทบาทน้องรักหักเหลี่ยมโหดเพื่อทำร้ายจิตใจผู้เป็นพี่ได้อย่างถูกที่ถูกเวลา เขาปล่อยให้อีกฝ่ายทำตามใจ โดยไม่ได้ปริปากเอ่ยทักท้วง เพื่อจะรอดูว่าเธอจะเปิดเผยเนื้อตั

  • อย่าให้เขารู้ว่าฉันร้าย   ตอนที่ 62

    "ฝ่าบาท! แย่แล้วเพคะ! กัปตันถูกทำร้ายขอความช่วยเหลือจากฝ่าบาทด่วนเลยเพคะ!" เจ้าชายอิสราร์ลุกพรวดขึ้น พริมโรสผวาลุกตามแล้วพยุงแขนเขาไว้ข้างหนึ่ง"เกิดอะไรขึ้น?" ชายหนุ่มถามขณะก้าวเท้าออกเดินได้ไม่เร็วนัก มือเรียวจึงจับแขนเขายกขึ้นแล้วก้มตัวลอดศีรษะเข้าไปใต้แขนแข็งแรง ก่อนจะวางแขนเขาให้เกาะไหล่เธอไว้เพื่อช่วยพยุง ทำให้ชายหนุ่มเดินได้เร็วขึ้นกว่าเดิม"นักบินผู้ช่วยลอบทำร้ายกัปตันเพคะ! โชคดีว่าอยู่ในความสูงที่กัปตันเปิดโหมดออโต้ไพลอทเอาไว้ ทันทีที่เกิดเรื่องเขากดอันล็อกประตูทำให้พวกเราได้ยินเสียงและเข้าไปช่วยเหลือเขาไว้ได้ทันเวลา ตอนนี้องครักษ์ลากตัวหมอนั่นออกไปแล้วเพคะ!""ทำไมไม่ตามนักบินเสริมให้ขึ้นมาแทน?""หม่อมฉันไปปลุกแล้วไม่ตื่นเลยทั้งสองคน ไฟล์ทเนิร์ซกำลังดูอาการพวกเขาอยู่ กัปตันเลยให้มาขอความช่วยเหลือจากฝ่าบาทเพคะ!"ลูกเรือต่างก็เห็นพ้องต้องกันทุกคนว่า นาทีนี้ไม่มีใครจะเหมาะสมเท่ากับเจ้านายพระองค์นี้อีกแล้ว เขามีชั่วโมงบินของการเป็นนักบินเอฟสามสิบห้า ของกองทัพรวมห้าพันแปดสิบห้าชั่วโมง ในจำนวนนี้ มีชั่วโมงของการทำหน้าที่นักบินผู้ช่วย อยู่แปดร้อยแปดสิบสี่ชั่วโมงกับเครื่องบินรุ่นนี้

Explore and read good novels for free
Free access to a vast number of good novels on GoodNovel app. Download the books you like and read anywhere & anytime.
Read books for free on the app
SCAN CODE TO READ ON APP
DMCA.com Protection Status