Share

ตอนที่ 32 : (っ˘з(˘⌣˘)18+

last update Last Updated: 2025-03-17 23:15:54

คามิลล่าเดินนวยนาดไปลงสระน้ำ แก้มก้นบดเบียดยามโยกย้ายอย่างน่าดู ขณะที่ลงมาในน้ำก็แอบคลายปมเชือกที่ผูกเอวไว้ออก แล้วว่ายกางแขนกางขาไปกลางสระ ชายหนุ่มสูงศักดิ์เดินมาหยุดยืนมอง เห็นขอบขากางเกงบิกินี่ของคนในน้ำแง้มออกตามแรงกระเพื่อมไหว เผยให้เห็นร่องเนื้อกลางเนินสวาทแย้มเข้าแย้มออก ยามที่กางขาว่ายชิดติดผิวน้ำ

สุลต่านโอมาร์เดินไปนั่งลงที่บันได แช่ส่วนล่างนั่งอยู่ในน้ำ พลันได้ยินเสียงเดินมาจากทางข้างหลังจึงหันไปดู

"หมอมาถึงแล้วพ่ะย่ะค่ะ" องครักษ์ส่วนพระองค์วางแก้วไวน์และเครื่องดื่มของเจ้านายไว้ที่ขอบสระ 

"อืม บอกเขาให้รอสักครู่ ส่วนนายสองคนรออยู่แถวนี้"

"พ่ะย่ะค่ะ" เขารับคำแล้วหันหลังเดินออกไปยืนรอหลังแผงกั้นรั้วไม้ระแนง ที่ล้อมสระด้านหนึ่งไว้เพื่อความเป็นส่วนตัว

คามิลล่ารู้สึกขัดใจที่อีกฝ่ายไม่เล่นตามเกมของเธอ ยังคงนั่งเล่นตัวอยู่อย่างนั้นไม่ตามมาไล่จับกันในน้ำตามแผน เธอลอบถอนหายใจออกมา แล้วว่ายเข้ามาหาเขาที่ริมสระเสียเอง

โดยที่ไม่ทันได้ตั้งตัว เขาคว้าข้อมือเธอไว้แล้วลากเข้าหา ทำให้สองขาเรียวกางอ้าออกคร่อมตัวบนหน้าตักของเขาพอดี ฝ่ามือใหญ่จับเอวไว้แน่นแล้วกดลง ในขณะที่เขาก็ยกตัวแอ่นสะโพกเข้าปะทะดันแก่นกายมุดหายเข้าไปในร่างเธอทันทีในชั่วพริบตา เป็นเพราะได้น้ำในสระเป็นตัวช่วยหล่อลื่นจึงทำให้สอดใส่ได้ง่ายขึ้น

“อ๊าาา!” น้ำเสียงของหญิงสาวคล้ายจะตกใจ แต่ก็ไม่ได้แสดงท่าทีขัดขืน

ฝ่ามือทั้งสองของเขาจับกระชับไว้ที่เอวคอด แล้วยกขึ้นลงเป็นเชิงบอกให้อีกฝ่ายยกสะโพกเด้งขึ้น คามิลล่ารีบยกแขนเรียวโอบไปรอบคอด้วยความเต็มใจ รู้สึกกระสันจนสั่นระริก เธอต้องการสิ่งนี้มาตั้งแต่เมื่อวานแล้ว จึงขยับโยกสะโพกเด้งขึ้นเด้งลงอย่างรู้งาน รู้สึกสาสมใจในความใหญ่ยาวของเขา ไฟราคะร่านร้อนพลุ่งพล่านเสียจนทำให้ลืมทุกสิ่งรอบตัวไปหมด

"อ๊าาาา!..ฝะ..ฝ่าบาท!..เสียวเหลือเกินเพคะ" คามิลล่าเสียวสะท้านจนตัวสั่นเทา หนีบขาเขาไว้แน่น ภายในขมิบตอดรัดอย่างเต็มที่ พลางซบหน้าผากลงกับไหล่ กระชับสองแขนที่รอบคอเขาเอาไว้

"อ้าขาออก!" เขาสั่งเสียงเรียบ หญิงสาวทำตามอย่างว่าง่าย แต่ความเสียวซ่านที่วูบวาบขึ้นมาเป็นระยะๆ ทำให้สองขาเกร็งเผลอหนีบเข้ามาอีก 

ชายหนุ่มคิ้วขมวดมุ่นอย่างขัดใจ แต่ก็ไม่ได้พูดอะไรออกมา หันไปหยิบแก้วไวน์มาจ่อที่ริมฝีปากอิ่ม หญิงสาวชะงัก ชะลอความแรงลง เปลี่ยนมาบดเอวส่ายร่อนคลึงแท่งหินของเขาอย่างเนิบช้า ขณะที่ดื่มไวน์ไปด้วยจนหมดแก้ว

เขานำแก้วไปวางไว้ที่ขอบสระ แล้วหันมาจับตัวหญิงสาวยกลอยขึ้นแล้วให้นั่งที่บันไดแทน ตัวเขาลงไปยืนที่พื้นล่าง จับสองขาเรียวให้ฉีกอ้าออกกว้าง แล้วดุนดันลำเอ็นเข้าไปทันที

คามิลล่าร้องเสียงหลงด้วยความสาสมใจในความดิบเถื่อนของเขา ทำให้เธอตื่นเต้นเร้าอารมณ์จนถึงขีดสุด โดยไม่สนใจความเจ็บเป็นระยะๆ ที่กำลังกระแทกกระทั้นเข้ากับขอบขั้นบันไดทางด้านหลัง ราวกับว่าความเจ็บนี้เป็นส่วนหนึ่งของการเพิ่มอรรถรสในการเสพสังวาสให้น่ารื่นรมย์มากยิ่งขึ้น

"อ๊าาา!..อ๊ะๆๆๆๆ"

"อ้าาาาา!..ซี้ดดด!..อาาา" ชายหนุ่มหอบหายใจแรง ขยับโยกสะโพกรัวถี่ ถาโถมท่อนเอ็นเข้าออกอย่างหนักหน่วงเมามัน ก่อนจะคำรามเสียงต่ำออกมายาวนาน

เขาถอนออกมาทันทีที่เสร็จกิจ ไม่สนใจสายตางุนงงของอีกฝ่าย หันไปส่งสัญญาณมือให้องครักษ์ที่ยืนรออยู่หลังแผงกั้น

"ฝะ..ฝ่าบาท!..หม่อมฉันยัง.."

"เอาตัวไป!" 

"พ่ะย่ะค่ะ!"

"อะไรกัน! ฝ่าบาท! ทำอะไรเพคะ? จะพาฉันไปไหน? ฝ่าบาท! ช่วยหม่อมด้วยเพคะ! ฝ่าบาทๆๆ!"

ชายหนุ่มเอื้อมมือ ไปหยิบแก้วกรานมอลต์ขึ้นมา ดื่มจนหมดแก้ว มุมปากยกยิ้มเยาะหยันออกมา ในขณะที่เดินขึ้นจากสระตรงไปยังห้องรับแขก ซึ่งมีหมอกำลังรอฉีดยาให้เขาอยู่ ผู้หญิงคนนี้ใช้มารยาสกปรกกับเขาอย่างไร้ยางอาย สมควรแล้วที่จะเป็นกระโถนรองรับของเหลวของคนอื่น เขามัวแต่ทำงานไม่มีอารมณ์คิดถึงเรื่องพวกนี้เท่าไหร่ และไม่ได้ปลดปล่อยมานานหลายเดือนแล้ว ถือโอกาสนี้ได้ระบายออกไปบ้างก็ดีเหมือนกัน

ขณะที่กำลังเดินอยู่ดีๆ เขาก็ชะงักนิ่งก้าวขาไม่ออก เกิดอาการเนื้อตัวสั่นเทาขึ้นมาอย่างฉับพลันจนหยุดไม่อยู่ หลังงองุ้มทรุดนั่งลงไปคุกเข่ากับพื้น มือข้างหนึ่งยันพื้นไว้ อีกข้างกำแน่นไว้ที่ขอบกางเกง เพียงแค่เขาเผลอคิดถึงใบหน้าของคนคนหนึ่งขึ้นมาแวบเดียว ถึงกับทำให้เสียวแปลบขึ้นมาจนตัวสั่นขนาดนี้ 

นี่เป็นเพราะฤทธิ์ยา หรือว่าเป็นความต้องการจากส่วนลึกกันแน่นะ?

…………………….

คามิลล่านอนตาลอยมองเพดาน ความมืดนอกหน้าต่างเริ่มคลายตัว ฟ้าใกล้จะสางแล้ว พอดีกับฤทธิ์ยาเพิ่งจะจางลง กลิ่นของบุรุษเพศลอยคละคลุ้งในอากาศฟุ้งตลบอบอวลไปทั่วห้อง ผู้ชายสี่คนเพิ่งจะถอยออกจากร่างเธอไปได้สักครู่ แล้วทิ้งตัวลงนอนแผ่หมดแรงกันอยู่ที่พื้น เธอต้องโดนวางยาแน่ๆ ซึ่งไม่รู้ว่าใครเป็นคนทำ และทำตอนไหน

อาจจะเป็นในแก้วไวน์ที่เธอดื่มในตอนนั้น หรืออาจจะเป็นขวดเดียวกันกับที่คนทั้งสองจับกรอกใส่ปากให้เธอดื่มตอนที่เข้ามาในห้อง เธออยากรู้เหลือเกินว่าเขาคนนั้นรู้เห็นเป็นใจด้วยหรือเปล่า

หลังจากที่เธอถูกผู้ชายสองคนหิ้วร่างเปลือยเปล่าเข้ามาในนี้ พวกเขาก็ให้เธอดื่มไวน์จากขวดไปหลายอึก แล้วก็แบ่งกันดื่มจนหมดขวด จากนั้นก็รีบถอดเสื้อผ้าของตัวเอง จับท่อนเอ็นจรดจ่อที่ร่องเสียว แล้วสอดใส่เข้ามาทันทีทั้งด้านหน้าและด้านหลัง โดยไม่มีใครยอมเสียเวลาที่จะเล้าโลมเธอก่อน แต่ด้วยฤทธิ์ยาทำให้ร่างกายเธอในตอนนั้นพร้อมรับได้ในทุกรูปแบบอยู่แล้ว และรู้สึกเมามันในอารมณ์อย่างบอกไม่ถูก เธอจำได้ลางๆ ว่า หวีดร้องโหยหวนอย่างเสียวสุดขีดออกมาหลายต่อหลายครั้ง 

แต่ที่จำไม่ได้เลย คือผู้ชายอีกสองคนที่มาทีหลังนี้ ได้เข้ามาร่วมวงด้วยตอนไหน รู้ตัวอีกทีก็เห็นว่าพวกเขากำลังผลัดเปลี่ยนหมุนเวียนกันเสพสมบนร่างของเธออย่างบ้าคลั่งมาจนถึงตอนนี้

แต่ก็ไม่ใช่ว่าจะแย่ไปเสียทีเดียว เธอรู้สึกสาสมใจกับเซ็กส์หมู่แบบนี้จริงๆ ถึงแม้ไม่เคยเจออะไรแบบนี้มาก่อน แต่ก็ทำให้แรงราคะที่เดือดพล่านอยู่แล้วยิ่งเร่าร้อนมากขึ้นราวกับไฟ เธอเสียวสยิวจนขนลุกไปทั่วร่าง เมื่อคิดถึงตอนที่โดนสอดใส่ทั้งทางด้านหน้าและด้านหลัง ซ้ำยังถูกทะลวงเข้ามาในปาก อีกคนก็คอยเล้าโลมเนื้อตัวอยู่ด้านข้าง เธอไม่เคยเจอประสบการณ์ที่เสียวสุดยอดแบบนี้มาก่อนเลย 

คามิลล่าถอนใจยาวออกมาอย่างเป็นสุข ทั้งที่อ่อนล้าและปวดระบมไปทั่วทั้งร่างกาย หลับตาพริ้มนึกย้อนหลังถึงเพศรสแปลกใหม่ที่เพิ่งจะได้ลิ้มลองรสชาติจนหลับไปอย่างอ่อนแรง

…………………….

บุรุษผู้สูงศักดิ์ ยืนเอามือไพล่หลังอยู่หน้ากระจกยาวใส ของอาคารรับรองส่วนพระองค์ ในค่ายหน่วยรบพิเศษของกองทัพฯ สายตามองตรงไปที่ทางเดิน ด้านหน้าอาคารนิ่งนาน เฝ้ารอการมาของคนสำคัญอย่างใจจดใจจ่อ

นัยน์ตาคมเข้มสีดำสนิทฉายแววลุ่มลึก เมื่อเห็นคนที่กำลังคิดถึงเดินตัวปลิวเข้ามาในชุดฝึกสีดำทั้งชุด ด้วยรูปร่างที่สมส่วนเพรียวบาง เมื่อใส่ชุดนี้แล้วทำให้ดูเธอเป็นสาวเซ็กซี่มากกว่าลักษณะที่ห้าวหาญอย่างบุรุษเสียอีก 

เขาชะงักไปนิดหนึ่ง เมื่อเห็นสีหน้าที่เต็มไปด้วยความเกรี้ยวกราด ราวกับกำลังจะเป็นศัตรูกับคนทั้งโลก ขณะที่เดินเลี้ยวเข้ามาด้านใน

หัวใจเขาเต้นผิดจังหวะไปทันทีที่เพิ่งจะได้คิดว่า หญิงสาวกำลังอยู่ภาวะอารมณ์ที่ตึงเครียดอย่างรุนแรง หลังจากผ่านการฝึกขั้นสูงสุดที่มีผลต่อร่างกายและจิตใจ เพื่อทดสอบความแข็งแกร่ง 

ซึ่งผู้ที่ได้รับการฝึก จะต้องเผชิญกับความเลวร้าย และความทรมานขั้นสาหัสทุกรูปแบบชนิดจัดเต็ม ในตอนนี้หญิงสาวจึงมีภาวะจิตตกอย่างหนัก และอาจจะควบคุมตัวเองไม่ได้ แถมร่างกายยังสะบักสะบอมบอบช้ำไปทั้งตัวด้วยอีก 

ดังนั้นหลังการฝึกเสร็จสิ้น จำเป็นจะต้องได้รับการฟื้นฟูร่างกายและเยียวยาจิตใจเสียก่อน ด้วยการเข้าคอร์สการผ่อนคลายความเครียดประมาณหนึ่งสัปดาห์ จึงจะสามารถกลับมาอยู่ในสภาวะอารมณ์ที่ปกติได้ 

ประตูถูกกระชากเปิดออก แล้วกระแทกปิดจนเกิดเสียงดังปังสนั่นหวั่นไหว หญิงสาวในชุดฝึกสีดำทั้งตัวก้าวเข้ามาในห้อง ผมที่มัดไว้อย่างเรียบร้อยหลุดลุ่ยยุ่งเหยิง ปากแดงอิ่มที่เคยแดงระเรื่อ ตอนนี้กลับดูเป็นสีเขียวคล้ำ ใบหน้าซีดเซียวเกรี้ยวกราดเต็มเปี่ยมไปด้วยไอพิฆาตเข้มข้น แววตาลุกเรืองราวกับไฟ อัดแน่นด้วยเพลิงโทสะที่กำลังลุกโชนแผดเผา แต่กลับชวนให้ผู้คนที่อยู่ใกล้หนาวสั่นไปจนถึงกระดูก

“พอใจแล้วใช่ไหม!! เห็นแบบนี้แล้วสะใจหรือยัง!! ยังต้องให้ทำอะไรอีก!! ห๊า!!”

"โรส…" เขาพูดคล้ายรำพึงออกมาได้เท่านั้น พยายามตั้งสติรับเหตุการณ์ไม่คาดฝันที่อาจจะเกิดขึ้น

หญิงสาวไม่พูดพล่ามอะไรอีก เงื้อมือกำหมัดแน่นพุ่งตรงไปหาเขาอย่างมุ่งร้าย เขาเบี่ยงตัวหันออกข้าง เพื่อมายืนอยู่ด้านหลัง แล้วสอดแขนทั้งสองของเขาเข้าไปใต้ต้นแขนเล็ก ยกมือทั้งสองข้างขึ้นมาประกบเข้าหากันที่บริเวณท้ายทอยของเธอ แล้วออกแรงดันที่มือ กดศีรษะเล็กลงไปกับโต๊ะทำงาน

“ปล่อยนะ! ไอ้คนบ้า! ฉันเจ็บ!! ปล๊อย!!” หญิงสาวตะเบ็งเสียงเกรี้ยวกราด พยายามดิ้นรนเพื่อสะบัดร่างออก แต่ตอนนี้เธอที่กำลังอ่อนเพลียจากการทดสอบมาตลอดยี่สิบสี่ชั่วโมง จึงเสียเปรียบเขาทุกทาง

“พริมโรส!! ตั้งสติเดี๋ยวนี้!!” เขาตวาดกลับเสียงดังน่ากลัว  ออกแรงกดศีรษะเล็กกับโต๊ะ ให้รู้สึกเจ็บมากยิ่งขึ้น เพื่อเรียกสติ พริมโรสชะงัก ยุติการดิ้นรน ตัวไหวเล็กน้อยจากการหายใจเข้าและออก

“ดี! หายใจเข้า-นับ!  กลั้น-นับ!  หายใจออก-นับ!  กลั้น-นับ!” เขาออกคำสั่งเสียงเข้มดุดัน พูดวนซ้ำๆ เพื่อช่วยให้สัญญาณอยู่สี่ห้ารอบ พอรู้สึกว่าหญิงสาวตัวอ่อนลง จึงคลายมือออก 

นับได้ว่ามีจิตใจที่เข้มแข็งไม่เลว ใช้เวลาเพียงไม่กี่นาทีก็เรียกสติกลับมาได้แล้ว ซึ่งต่างไปจากผู้ที่ได้เข้ารับการฝึกส่วนใหญ่ อาจเป็นเพราะเพศหญิงมีความอดทน และรองรับการทรมานได้ดีกว่าเพศชายก็เป็นได้

แม้เขาจะปล่อยให้เป็นอิสระ แต่เธอก็ไม่มีเรี่ยวแรงเหลือพอที่จะยันตัวเองให้ลุกขึ้นอีกแล้ว ได้แต่นอนพาดโต๊ะอยู่อย่างนั้น เขาจึงช้อนตัวอุ้มเข้ามาในอ้อมแขน แล้วพาเดินออกไปทันที

พริมโรสปรือตาขึ้นมอง เห็นเพียงแนวคางที่ขึ้นสันนูนราวกับเจ้าของได้กัดฟันเอาไว้แน่น แววตามองตรงไปข้างหน้าทว่ากระด้างดุดันจนดูน่ากลัว แต่อ้อมกอดกลับอบอุ่นอ่อนโยนเป็นอย่างยิ่ง เธอคุ้นเคยกับสัมผัสนี้เหลือเกิน ขอแค่ได้อยู่ในอ้อมกอดนี้ เธอก็รู้สึกปลอดภัยจากทุกสิ่งรอบตัวแล้ว ริมฝีปากอิ่มแย้มรอยยิ้มหวานละมุนออกมาเพียงเล็กน้อย ก่อนที่สติจะดับวับไปในที่สุด

……………………

เสียงพลิกกระดาษแว่วเข้ามาในหูเบาๆ พริมโรสพยายามเปิดเปลือกตาขึ้นอย่างสลึมสลือ คล้ายว่าร่างกายทำงานไม่สัมพันธ์กัน ตายังง่วงแต่กระเพาะรู้สึกหิวจนแสบท้องไปหมด สมองเลยงุนงง จนไม่รู้จะเข้าข้างอวัยวะส่วนไหนก่อนดี 

เธอหันหน้าไปมองตามแสงไฟอ่อนๆ ที่หัวเตียง เห็นบุรุษรูปงามใบหน้าเกลี้ยงเกลาใส่แว่นตากรอบทอง นั่งกึ่งเอนพิงหลังกับพนักหัวเตียง ตั้งอกตั้งใจอ่านเอกสารในมือ แล้วใช้ปากกาเขียนไปที่เอกสารนั้น 

เธอไม่เคยเห็นเขาโกนหนวดเกลี้ยงเกลามาก่อน ภายใต้เครายาวรกรุงรังนั่น มักจะมีไรหนวดเขียวครึ้มที่เพิ่งจะงอกใหม่อยู่บนใบหน้าเสมอ พอเห็นแบบนี้แล้วจึงดูแปลกตาไปไม่น้อย คล้ายว่าจะหล่อเหลาคมคายมากไปกว่าเดิมเสียอีก

พริมโรสมองเขาเงียบๆ นึกย้อนถึงตอนที่อยู่ในช่วงทดสอบความแข็งแกร่ง เธอคิดถึงเขาอยู่ตลอดเวลา บ่อยครั้งที่เกือบจะสิ้นสติหมดลมหายใจ แต่เพราะนึกเป็นห่วงความปลอดภัยของเขา ทำให้มีแรงฮึดที่จะสู้ เพื่อที่จะมีชีวิตอยู่ต่อไปให้ได้ เธอรู้สึกตกใจไม่น้อยที่รู้ใจตัวเองในตอนนั้น ไม่เคยคาดคิดมาก่อนเลยว่า หัวใจของเธอได้แอบซ่อนความรู้สึกดีๆ ที่มีต่อเขาเอาไว้โดยไม่รู้ตัว

Continue to read this book for free
Scan code to download App

Related chapters

  • อย่าให้เขารู้ว่าฉันร้าย   ตอนที่ 33

    “ฝ่าบาท…” เสียงหวานเรียกเขาอย่างแผ่วระโหย เมื่อความหิวประท้วงขึ้นมาอีก “หืม?” ชายหนุ่มหันมาทันทีเมื่อได้ยินเสียงเรียกแผ่วเบาจากคนข้างๆ “เป็นไงบ้าง หิวไหม?”“หิวเพคะ” เขาคลี่ยิ้มอบอุ่น วางเอกสารในมือ แล้วหันไปหยิบโทรศัพท์ที่โต๊ะหัวเตียง“เอาอาหารอ่อนๆ มาให้คุณผู้หญิง” เขาวางโทรศัพท์ ถอดแว่นวางไว้คู่กัน ขยับตัวลงนอนแล้วรวบร่างบอบบางเข้ามาชิด ประทับจุมพิตที่หน้าผาก เลื่อนลงมาจุ๊บที่ริมฝีปากเบาๆ ทีหนึ่ง พริมโรสหลับตาซึมซับรับความอบอุ่นที่เขาถ่ายทอดมาให้“ยังเพลียอยู่ไหม?” ฝ่ามือใหญ่ไล้พวงแก้มนวลด้วยโคนนิ้วโป้งเบาๆ ในใจเต็มตื้นไปด้วยความลึกซึ้งที่กำลังปรี่ล้นขึ้นมาจนเต็มช่องอก ความรู้สึกทั้งรักทั้งเอ็นดูพร่างพรายอยู่ในแววตา“เพคะ ถ้าไม่ใช่เพราะหิวก็อยากจะนอนต่ออีกหน่อย เราอยู่ที่ไหนเพคะ?” หญิงสาวกวาดสายตามองอยากแปลกใจ “อยู่บนเครื่องบิน เรากำลังจะไปทีแลนด์” พิมพ์โรสเบิกตากว้างให้กับความหรูหราที่เห็นอย่างตื่นตะลึง ลักษณะการตกแต่งคล้ายห้องพักในโรงแรม มากกว่าที่จะเป็นห้องบนเครื่องบินเสียอีก หญิงสาวขยับตัวลุกขึ้นนั่ง เขาลุกขึ้นมาประคอง เธอเลยเห็นสภาพตัวเองบางแห่งที่เต็มไปด้วยผ้าพันแผล“หม่อ

    Last Updated : 2025-03-17
  • อย่าให้เขารู้ว่าฉันร้าย   ตอนที่ 34 : (っ˘з(˘⌣˘)18+

    ชายหนุ่มเดินเข้ามาในห้องนอน วางหญิงสาวลงอย่างทนุถนอม แล้วไปนั่งกึ่งเอนพิงพนักที่หัวเตียงเหมือนเดิม หยิบเอกสารที่โต๊ะหัวเตียงมาอ่าน โดยไม่สนใจจะไต่ถามอะไรอีกเธอลอบมองเขา เห็นสีหน้าด้านข้างเย็นชาเฉยเมย ริมฝีปากบางเม้มจนเป็นเส้นตรง นัยน์ตาฉายชัดถึงความไม่พอใจชัดเจน แต่พยายามเก็บอารมณ์อยู่ พริมโรสใจหายวาบ พอเธอไม่เล่าให้ฟังเขาก็แสดงออกอย่างที่เห็นตอนนี้ แต่ถ้าเล่าออกไปแล้วเขาจะอยู่ในอารมณ์แบบไหนกันล่ะ จะรุนแรงมากกว่าเดิมหรือเปล่าหญิงสาวรู้สึกจิตใจไม่สงบ นิ่งคิดหาวิธีที่จะทำให้เขาหายหงุดหงิดเสียก่อน แล้วค่อยจับเข่าคุยกันดีๆ เผื่อว่าเขาอาจจะมีคำแนะนำดีๆ ให้เธอก็ได้ เพียงแต่เธอไม่รู้ว่า เวลาที่คนอื่นไม่เข้าใจกัน เขาง้องอนอีกฝ่ายยังไง คู่อื่นๆ ที่เขาคบหาดูใจกันแบบปกติ ก็คงจะมีวิธีเฉพาะตัวที่รู้ใจกัน และเข้าใจกันเองได้โดยง่าย แต่กรณีของเธอกับเขา คงยังไม่สามารถทำได้ถึงขนาดนั้น“ฝ่าบาท…” มือเรียวยื่นไปจับแขนเสื้อเชิ้ตเขาไว้ด้วยข้อนิ้วชี้กับนิ้วโป้ง แล้วกระตุกเบาๆ น้ำเสียงออดอ่อยคล้ายเจ้าตัวจงใจทำให้ดูน่าสงสารไว้ก่อน ทั้งสีหน้าและแววตาเปล่งประกายใสซื่อบริสุทธิ์อย่างกับเด็กไร้เดียงสา ปากยู่แก้ม

    Last Updated : 2025-03-17
  • อย่าให้เขารู้ว่าฉันร้าย   ตอนที่ 35 : (っ˘з(˘⌣˘)18+

    เขาใช้นิ้วกรีดไปตามร่องแล้วแหวกออก เผยให้เห็นแคมกลีบเล็กสีชมพูอมแดงที่ถูกปกปิดไว้ภายใน ลักษณะคล้ายปีกผีเสื้อบอบบางน่าทะนุถนอม เขาก้มลงแลบลิ้นเลียน้ำหวานที่ฉ่ำเยิ้มไปทีหนึ่ง พลางสูดกลิ่นหอมจางๆ ซึ่งเป็นกลิ่นเดียวกับผิวกายของเธอ“อ้าาาา~” ทันใดนั้นพริมโรสก็ผวาสะดุ้งเฮือก ใบหน้าแดงก่ำไปด้วยเลือดที่ฉีดซ่าน ขณะที่ลิ้นของเขาไล้เลียสัมผัสความเปียกชื้นในแนวร่องที่ถูกปกปิดอยู่ เขาจับเรียวขาให้พาดไปบนไหล่ ฝ่ามือล็อกต้นขาเอาไว้ แล้วจับอ้าออกให้กว้างขึ้น แคมกลีบบางที่เบียดชิดจนมองไม่เห็นทางเข้าจึงแยกออกมา น้ำใสเยิ้มเปียกชุ่มปกคลุมไปหมดทั้งสองกลีบ เขากลืนน้ำลายนิดหนึ่ง เมื่อเห็นเม็ดน้อยสีชมพูระเรื่อเคลือบไว้ด้วยน้ำรักสีใสฉ่ำจนแวววาว ดูสวยน่ากินจนน้ำลายสอเขาอดใจไม่ไหว ก้มหน้าลงลิ้นตวัดไปที่ปลายเม็ดเสียว วนไล้ปลายลิ้นเล้าโลมไปรอบๆ ปุ่มกระสัน ดูดเลียน้ำรักรสหวานอย่างนุ่มนวลดูดดื่ม แล้วห่อลิ้นเรียวยาวสอดล้วงเข้าไปด้านในอย่างเนิบช้าเป็นจังหวะ กระตุ้นความต้องการของหญิงสาวให้ลุกโชนขึ้นการกระทำของเขา เร้าอารมณ์ของหญิงสาวให้พลุ่งพล่าน มือเรียวข้างหนึ่งกำมือเขาที่วางไว้ที่ต้นขาไว้แน่น นิ้วเรียวอีกข้างสอด

    Last Updated : 2025-03-17
  • อย่าให้เขารู้ว่าฉันร้าย   ตอนที่ 36 : ღ(≧ ◡ ≦)ღ

    ติ๊ดๆๆๆ!! ตี้ดดด!! ติ๊ดๆๆๆ!! ตี้ดดด !!เสียงโทรศัพท์มือถือของพริมโรสดังขึ้น เจ้าชายอิสราร์ เอื้อมมือไปหยิบมาสไลค์รับสาย แล้วเปิดสปีคเกอร์โฟนยื่นมาใกล้ๆ ใบหน้าของเธอ“เฮลโล?” หญิงสาวตอบรับด้วยสีหน้างุนงงเล็กน้อย“หัวหน้า! พวกเรามากันพร้อมแล้วครับ กำลังรอให้หัวหน้ามาเปิดประชุม!” หญิงสาวเลิกคิ้ว เหลือบตามองไปทางคนที่กำลังถือโทรศัพท์อยู่อย่างสงสัย“รอสักครู่ กำลังจะออกไป!” ชายหนุ่มกลับตอบรับเสียเอง “ผมลืมไปเลย เรียกประชุมองครักษ์สำหรับวางแผนงานของวันพรุ่งนี้เอาไว้ คุณคงต้องรีบหน่อย ถ้าไม่อยากให้ลูกน้องรู้ว่าหัวหน้าเข้าประชุมช้าเพราะอะไร!” พริมโรสตวัดสายตาค้อนใส่เขาไปทีหนึ่ง ก่อนที่จะรีบลุกขึ้นไปแต่งตัว…ภาพที่เจ้านายผู้สูงศักดิ์ เดินกุมมือหัวหน้าหน่วยพิเศษราชองครักษ์เข้ามาในห้องประชุมนั้น ทำให้บรรดาหนุ่มน้อยหนุ่มใหญ่ที่นั่งกันหน้าสลอนราวห้าสิบกว่าคน ต่างก็หน้าแดงและกลืนน้ำลายเข้าไปอึกใหญ่ด้วยความอิจฉาตาร้อน ผสมผสานไปด้วยความรู้สึกเสียดายและความหวาดหวั่นกลัวเกรง ซึ่งบางคนก็ยังแยกไม่ออกด้วยซ้ำว่ากำลังอยู่ในอารมณ์ไหนมากกว่ากันสายตาทุกคู่เอาแต่จ้องมองหญิงสาวใบหน้าสวยหวาน ที่มีผมดำยาวสยา

    Last Updated : 2025-03-17
  • อย่าให้เขารู้ว่าฉันร้าย   ตอนที่ 37 : (っ˘з(˘⌣˘)18+

    "อาาา..เสียวเป็นบ้าเลย~" เสียงครางต่ำเอื้อนเอ่ยออกมาอย่างถูกอกถูกใจ เมื่อถูกเรียวลิ้นอุ่นชื้นไล้เลียส่วนหัวของท่อนเนื้อแข็งจนเปียกชุ่ม คล้ายกำลังละเลียดไอศกรีมแท่งโปรดรสหวานที่ไม่อยากให้หมดเร็วเกินไปนัก สลับกับการปาดลิ้นฉวัดเฉวียนไปมาเพื่อสร้างความสุข ตามด้วยเม้มริมฝีปากดูดดุน แล้วแกล้งงับเบาๆ ไปทีละนิดอย่างนุ่มนวล"อร่อยไหม?~" เขาถามด้วยน้ำเสียงแหบพร่า นัยน์ตาล้ำลึกส่องประกายหวานเยิ้ม สีหน้าคล้ายยิ้มแต่ไม่ยิ้ม หญิงสาวเงยหน้าขึ้นมาคลี่ยิ้มอย่างมีเสน่ห์ ทว่ากลับแฝงอุบายอันร้ายกาจเอาไว้ หลุบตาลงมองมือตัวเองที่กำลังกอบกุมแท่งเนื้ออวบอุ่น แล้วชักรูดสลับขึ้นลงอย่างต่อเนื่อง ก่อนจะเกร็งปลายลิ้นกดเซาะไปตามแนวร่อง ตวัดปาดน้ำหล่อลื่นสีใสไล้เลียดูดดื่มอย่างเอร็ดอร่อย แล้วซอกซอนลงมากระตุ้นความซาบซ่านตรงส่วนคอที่หยักโค้งโดยรอบ ก่อนที่จะบรรจงจรดปลายลิ้นสะกิดเล้าโลมเส้นเอ็นสองสลึงอย่างแผ่วเบา“ซี้ดดด~..อือ~..โรสจ๋า~”พริมโรสเหลือบตามองคนที่กำลังฟินจนหลับตาพริ้ม หงายหน้าครวญครางออกมาเสียงต่ำนั้นอีกครั้ง เธอลอบยิ้มในใจที่สามารถทำให้ความกำหนัดของเขาพวยพุ่งขึ้นมาจนเคลิบเคลิ้มได้ แต่ก็ยังไม่พอเท่าที่ใ

    Last Updated : 2025-03-17
  • อย่าให้เขารู้ว่าฉันร้าย   ตอนที่ 38 

    พริมโรสลืมตาตื่นขึ้นมาอย่างสดชื่น เธอหยิบโทรศัพท์ขึ้นมาดูเวลา เห็นว่าใกล้จะหกนาฬิกาแล้ว อีกครึ่งชั่วโมงก็จะถึงที่หมาย เมื่อคืนนี้ กว่าเขาจะปล่อยเธอออกจากอ้อมแขน ก็ล่วงเลยไปจนเกือบตีหนึ่งตีสอง ถึงแม้จะนอนเพียงไม่กี่ชั่วโมง แต่กลับไม่มีอาการง่วงงุนเลยแม้แต่น้อย อาจเป็นเพราะตื่นเต้นที่จะได้กลับประเทศบ้านเกิดก็เป็นได้หญิงสาวลุกขึ้นเตรียมจะไปอาบน้ำ แต่จู่ๆ ก็มีแสงสว่างวาบที่ปลายหางตาจึงเหลียวไปมอง เห็นเป็นข้อความเข้ามาในโทรศัพท์มือถือของเขา จึงหยิบขึ้นมาดูอย่างถือวิสาสะ[ หม่อมฉันคิดถึงฝ่าบาท คิดถึงคืนนั้นของเรา อนุญาตให้หม่อมฉันไปหาได้ไหมเพคะ? ]หญิงสาวมองอย่างตื่นตะลึง มือไม้สั่นไปหมดด้วยความโกรธ เพิ่งรู้ว่าตัวเองเป็นสตรีที่โง่งมที่สุดในโลก แถมยังไร้เดียงสาเสียจนเปิดโอกาสให้คนอื่นมารังแกได้ง่ายๆเธอเหวี่ยงโทรศัพท์ลงบนที่นอน เดินเข้าห้องน้ำไปด้วยอารมณ์ที่หงุดหงิด ผู้ชายสมควรตายผู้นี้เห็นเธอเป็นตัวอะไร…“พี่ชาย! ตื่นแต่เช้าเลย! เป็นเพราะสดชื่นเกินไป หรือเพราะนอนไม่หลับเพคะ”“หน้าตาดีอย่างนี้ ดูเหมือนคนอดนอนอย่างนั้นรึ?”“อ๊ะ! ใครว่าไม่ใช่! เดี๋ยวคงต้องสังเกตสีหน้าของพี่สะใภ้ร่วมด้วย ว่าพ

    Last Updated : 2025-03-17
  • อย่าให้เขารู้ว่าฉันร้าย   ตอนที่ 39 : (っ˘з(˘⌣˘)18+ (1) 

    “พี่ชายมาแล้ว! ตรงเวลาเป๊ะ!” รินรดาอุทานอย่างดีใจ ที่เห็นพี่ชายเดินออกมาจากลิฟต์ เพราะใกล้เวลาที่จะให้สัมภาษณ์กับสื่อเต็มที พลางหันไปมองพนักงานต้อนรับที่เดินตามท้ายขบวนมาด้วย ซึ่งโรงแรมระดับนี้จะอำนวยความสะดวก โดยบริการให้แขกสามารถเช็คอินภายในห้องพักได้เลย เพื่อความเป็นส่วนตัว“มาเช็คอินใช่ไหมคะ เชิญทางห้องหนังสือได้เลยค่ะ มีเจ้าหน้าที่รออยู่แล้ว” พนักงานก้มตัวโค้งแล้วเดินแยกตัวไปเจ้าชายอิสราร์ เดินนำหน้าคณะองครักษ์ ก้าวเข้ามาในห้องสวีทอันหรูหรา ภายในโรงแรมที่เจ้าภาพได้จัดเตรียมไว้ให้ พริมโรสรู้จักโรงแรมนี้เป็นอย่างดี ซึ่งเป็นโรงแรมของแบรนด์ลักซูรีสุดหรูชั้นนำระดับเอเชีย ใช้ต้อนรับบุคคลสำคัญระดับประเทศ หรือเชื้อพระวงศ์ของประเทศต่างๆ และโรงแรมแห่งนี้ยังเคยเป็นที่ตั้งของวังเจ้าฟ้าพระองค์หนึ่ง ของทีแลนด์ในอดีตอีกด้วย แต่ละห้องจะมีธีม ที่เน้นความหรูหราของราชวงศ์ในแต่ละยุค ซึ่งจะต่างกันที่การตกแต่ง และห้องนี้มีเนื้อที่โดยรวมประมาณห้าร้อยห้าสิบตารางเมตร มีทั้งหมดห้าห้องหลัก เฉพาะห้องนั่งเล่นหรือห้องรับแขก ก็กว้างขวางราวกับรวมเอาพื้นที่ของห้องแสตนดาร์ดสองห้องมารวมกัน ราคาห้องพัก อยู่ที่หน

    Last Updated : 2025-03-17
  • อย่าให้เขารู้ว่าฉันร้าย   ตอนที่ 40 : (っ˘з(˘⌣˘)18+ (2)

    เจ้าชายอิสราร์ลงลายมือชื่อเสร็จ ก็ยื่นปากกาพร้อมกับเลื่อนแฟ้มเอกสารตรงหน้ามาให้พริมโรส เธอรับปากกามาจากมือเขา และจรดเซ็นชื่อและนามสกุลของตัวเอง ลงไปบนกระดาษ จากนั้นส่งต่อให้ท่านหญิง และท่านทูตเปเรซประจำทีแลนด์ลงลายมือชื่อเป็นสักขีพยานรินรดาเตรียมการทุกอย่างเร็วมาก สมกับเป็นเลขาทรงประสิทธิภาพ เพียงได้รับคำสั่งจากพี่ชายทันที ที่เขาขึ้นจากสระน้ำ ก็ใช้เวลาเตรียมการประมาณหนึ่งชั่วโมง ไม่ว่าจะเป็นติดต่อสถานทูต ขอใบรับรอง ยื่นคำร้อง เตรียมบุคคลที่จะร่วมเป็นพยาน จนไปถึงเชิญเจ้าหน้าที่ มาทำการจดทะเบียนสมรสให้ ภายใต้กฎหมายของทีแลนด์ และดำเนินการเสร็จเรียบร้อยทุกอย่างภายในชั่วโมงที่สองเจ้าหน้าที่สถานทูตส่งเอกสารสมรสมาให้สองแผ่น พร้อมคำอวยพรให้กับคู่สมรสใหม่ และชี้แจงว่าเมื่อไปถึงเปเรซไม่จำเป็นต้องจดทะเบียนสมรสซ้ำอีก สามารถนำเอกสารนี้ติดต่อสถานทูตเพื่อขอรับรองการจดทะเบียนได้เลยทันที จากนั้นจึงโค้งกายถวายความเคารพต่อเจ้าชายพร้อมกับท่านทูต ก่อนจะขอตัวกลับออกไป…พริมโรสเดินเข้ามาในห้องนอนชั้นใน เพื่อจะเปลี่ยนชุด แต่แล้วก็รู้สึกว่ามีเรือนกายสูงโปร่ง ของบุรุษในสูทรสากลก้าวเข้ามายืนประกบที่ด้านหลัง

    Last Updated : 2025-03-17

Latest chapter

  • อย่าให้เขารู้ว่าฉันร้าย   ตอนที่ 70 

    “ฮ่าๆๆ ไง! ถึงกลับโกรธจนตัวเนื้อสั่นเลยเหรอ เป็นยังไงบ้างล่ะ รสชาติของการสูญเสีย ขมขื่นถึงอกถึงใจดีไหม?” คำพูดประโยคนี้ของเขาทำให้หญิงสาวแน่ใจได้ทันทีว่าอุบัติเหตุที่เกิดขึ้นนี้ไม่ใช่เรื่องบังเอิญ“ฉันเกลียดแกจนอยากจะเป็นคนถ่อย จะได้ถ่มถุยใส่หน้าส้นตึกของแกให้สาสมกับความรู้สึกขยะแขยง!” ชารีฟหรือณัทธรสะอึก เมื่อเจอความโกรธเกลียดอย่างรุนแรงจากผู้หญิงที่เขารัก“เกลียดฉันงั้นรึ? ต้องเป็นฉันไหมที่จะพูดประโยคนั้น แทบไม่อยากจะเชื่อเลยว่า เธอจะลืมฉันได้อย่างง่ายดายและไปแต่งงานใหม่!"“ฉันไม่ได้แต่งงานใหม่! นี่เป็นการแต่งงานครั้งแรกและครั้งเดียวของฉัน และอะไรคือลืมได้อย่างง่ายดาย? นายหนีตายไปเป็นปีๆ แล้วฉันจะต้องไปบวชชี เพื่ออุทิศส่วนกุศลให้นายด้วยอย่างนั้นรึ! เรารักกันดูดดื่มขนาดนั้นตั้งแต่เมื่อไหร่? ก่อนที่นายจะฆ่าพ่อฉัน เขายังพูดไม่ให้ฉันยึดติดกับตัวเขาเลย! ตรรกะของนายมันบิดเบี้ยวเป็นเวย์เดียวกับพวกโรคจิต ที่นายกับฉันมาถึงจุดนี้เป็นเพราะการตัดสินใจเลือกของตัวเองทั้งนั้น อย่าเอาฉันมาเป็นข้ออ้างเพื่อปกปิดยีนขี้แพ้ในตัวหน่อยเลย!”“ไม่ต้องมาทำปากดียั่วอารมณ์ให้ฉันรู้สึกละอายใจหรอก คำพูดยั่วยุของ

  • อย่าให้เขารู้ว่าฉันร้าย   ตอนที่ 69 : ตามไล่ล่า (3)

    “ฮัลโหล? ว่าไง?”“ไอ้ชารีฟ! ไอ้ห่วย! สายของแกทำงานยังไงวะถึงได้รายงานผิดพลาด! เป้าหมายไปเส้นทางอื่นไม่ได้เฉียดมาทางนี้เลยด้วยซ้ำ!!”“จะเป็นไปได้ยังไง? ไม่ผิดแน่ๆ!! นายดักซุ่มอยู่ที่นั่นแหละเผื่อว่าจะเป็นแผนลวง!”ชารีฟหรือณัทธร กดปุ่มตัดสาย แล้วดึงหูฟังบลูทูธออกอย่างหงุดหงิด จะเกิดการผิดพลาดไปได้ยังไง ในเมื่อเขาเพิ่งจะได้รับการยืนยันเส้นทางมาจากสายที่แฝงตัวอยู่ในกลุ่มผู้ใต้บังคับบัญชาของเชคฮ์อิสราร์เมื่อไม่กี่นาทีมานี้เองหรือว่าเปลี่ยนเส้นทางกระทันหัน??เขาคิดว่าน่าจะมีการเปลี่ยนแปลงแบบฉุกเฉินมากกว่าการที่อีกฝ่ายจะรู้ตัวว่ามีข่าวรั่วไหลชายหนุ่มยกนาฬิกาข้อมือขึ้น เพื่อดูเวลาก่อนการตัดสินใจ ในเมื่อภารกิจลอบสังหารเชคฮ์อิสราร์ได้ผิดพลาดไปแล้ว เขาเลยคิดว่าไปปิดจ๊อบหนี้เก่าของตัวเองก่อนจะดีกว่า แล้วค่อยกลับไปรายงานภารกิจที่ล้มเหลว ซึ่งถ้ารีบไปตอนนี้ก็น่าจะไปทันเวลากับที่เป้าหมายขับมาถึงในจุดที่เขากำหนดเอาไว้ในแผนพอดี…ชารีฟหยิบโทรศัพท์มือถือขึ้นมา เปิดแอพพลิเคชันที่ใช้ตรวจสอบสัญญาณจีพีเอส เพื่อหาตำแหน่งปัจจุบันของรถเป้าหมาย ซึ่งก็เห็นในแผนที่ว่ารถยนต์คันดังกล่าว กำลังจะแล่นผ่านสี่แยกไฟแดง

  • อย่าให้เขารู้ว่าฉันร้าย   ตอนที่ 68 : ตามไล่ล่า (2)

    ความร้ายกาจของบิดาที่เธอได้ยินจากปากของคนอื่น เป็นเหมือนหนามแหลมคม ที่คอยทิ่มแทงจิตใจอยู่ตลอด แต่กระบวนการให้อภัย พยายามดิ้นรนที่จะผลักความคิด และความรู้สึกด้านลบเหล่านี้ออกไป ด้วยการจดจ่อกับความรัก และความทรงจำดีๆ นึกถึงช่วงเวลาที่ยากลำบาก ที่เขามักจะแบกรับความเจ็บปวดเหล่านั้นไว้แทนอยู่เสมอ แล้วผลักดันให้เธอก้าวข้ามผ่านช่วงเวลาเลวร้ายนั้นไปให้ได้ ฝึกฝนเธอให้เข้มแข็ง สอนให้ยอมรับทุกความผิดพลาด และความล้มเหลว แล้วเรียนรู้ที่จะเยียวยาตัวเองเพื่อปิดกั้นทุกความเจ็บปวดเธอรู้ดีว่าการยึดติดกับความรู้สึกในทางลบ รังแต่จะเพิ่มความทุกข์ให้กับชีวิตมากขึ้น และขัดขวางไม่ให้หัวใจได้พบกับความสงบสุข แต่การที่จะละวางด้วยการให้อภัยนั้น ก็ทำให้เกิดความรู้สึกผิด ต่อบุคคลที่ต้องเสียชีวิตไปอย่างไม่เป็นธรรมนั้นด้วยเช่นกันแต่เมื่อมองในมุมกลับกัน เขาก็เป็นเพียงแค่มนุษย์คนหนึ่ง ซึ่งไม่ว่าใครก็สามารถทำผิดได้ เธอเองก็ไม่ได้รับการยกเว้น ความผิดหวังมักจะทำให้คนเราจมอยู่กับอดีต จนลืมมองความสุขที่กำลังได้รับอยู่ในปัจจุบัน และกำลังจะตามมาอีกมากมายในอนาคต จึงเป็นความคิดที่โง่เขลาอยู่ไม่ใช่น้อย ถ้าเรายังหยุดอยู่ที่ควา

  • อย่าให้เขารู้ว่าฉันร้าย   ตอนที่ 67 : ตามไล่ล่า (1)

    “ตรวจสอบชายสองคนที่สิบสองนาฬิกา ประตูทางเข้าด้านนอก ในมือถือผ้าสีดำห่อหุ้มวัตถุลักษณะเป็นแท่งยาวทรงกระบอก เปลี่ยน!”“แลนด์โรเวอร์สีดำขับเข้ามาจอดหน้าประตูทางเข้าออกของพนักงานชั้นใต้ดินสองคัน คันหนึ่งประมาณห้าคนใส่ชุดพนักงานรักษาความปลอดภัยเดินเข้าไปด้านใน มีอาวุธปืนติดตัว เปลี่ยน!”“ประตูทางออกอาคารผู้โดยสารหนึ่งที่เก้านาฬิกา พนักงานรักษาความปลอดภัยกำลังลากโซ่ตะปูเรือใบมาขวางถนน คาดว่าไม่ใช่เจ้าหน้าที่ของสนามบิน เปลี่ยน!”“ประตูทางออกฉุกเฉินของอาคารผู้โดยสารสอง ทางสะดวก ชาลีทีมเตรียมพร้อม รอรับคำสั่ง เปลี่ยน!” เสียงรายงานผ่านวิทยุสื่อสารเข้ามาเป็นระยะๆ หลังจากที่กระจายกำลังไปประจำตามจุดสำคัญต่างๆ เพื่อสังเกตความเคลื่อนไหวของฝ่ายตรงข้าม“พวกมันเริ่มทยอยกันเข้ามาแล้ว แจ้งเจ้าหน้าที่รักษาความปลอดภัยให้เตรียมอพยพประชาชนหากมีเหตุฉุกเฉิน! แจ้งเจ้าหน้าที่ตำรวจกับดับเพลิงหรือยัง?”“เรียบร้อยแล้วพ่ะย่ะค่ะ!”“อืม ถ้าพร้อมแล้วก็ไปกันตอนนี้เลย!”“รับคำสั่ง!” องครักษ์รับคำสั่งแล้วแจ้งแต่ละทีมผ่านวิทยุสื่อสารทันที “อัลฟ่าทีมเคลียร์พื้นที่ บราโวเตรียมรถบรรทุกเปิดทางออกแล้วรอรับคำสั่ง ชาลีทีมวีไอพีเ

  • อย่าให้เขารู้ว่าฉันร้าย   ตอนที่ 66

    ไลลานอนตัวอ่อนระทวยอยู่ครู่หนึ่ง สักพักก็ขยับตัวยกศีรษะขึ้นมานอนหนุนแขนแข็งแรงข้างหนึ่งของสามี เบียดเรือนร่างบอบบางเข้าชิดเพื่อขอความอบอุ่นจากร่างกายของเขา ซึ่งชายหนุ่มเองก็เพิ่งผ่อนคลายจากอาการหัวใจเต้นแรง หายใจหอบเหนื่อย เขาพลิกตัวตะแคง รั้งต้นขาของหญิงสาว ให้ขึ้นมาก่ายเกยอยู่ครึ่งๆ บนร่างกายของเขา ขาของเธอเบียดชิดจนเขารู้สึกอบอุ่นและชุ่มชื้นในซอกลี้ลับ ไล้ฝ่ามือจากโค้งสะโพกเลยมาถึงต้นขา ลูบผิวเรียบเนียนไปมาเบาๆ เป็นจังหวะอย่างเพลิดเพลิน พร้อมๆ กับปลอบโยนให้เธอคลายความอ่อนเพลีย เพื่อเข้าสู่โหมดพักผ่อน “ฝ่าบาทเพคะ?” “หืม?” ชายหนุ่มผงกศีรษะขึ้นมองอย่างแปลกใจเมื่อได้ยินเสียงของอีกฝ่าย ซึ่งเขาคิดว่าน่าจะเคลิ้มหลับไปแล้ว“คืนนี้เนญ่าเขาประกาศว่าจะเข้าหอกับฝ่าบาท แล้วทำไมพระองค์ถึงมาหาหม่อมฉันล่ะเพคะ?”“ก็ไม่อยากจะมา ตั้งใจจะสั่งสอนให้รู้สำนึกเสียหน่อยว่า การผลักดันให้ผัวไปมีผู้หญิงอื่น โดยไม่เต็มใจนั้นน่ะมันจะให้ผลยังไง แต่เผอิญว่าเห็นคนบางคน น้ำตาคลอเบ้าเลยมาดูเสียหน่อย ไม่รู้ว่าเสแสร้งแกล้งทำ หรือรู้จักที่จะหึงหวงผัวขึ้นมาบ้างแล้ว!”“หึงจริงๆ น่ะแหละเพคะ” ไลลายอมรับออกไปตรงๆ ถึงแม้ใ

  • อย่าให้เขารู้ว่าฉันร้าย   ตอนที่ 65 : นาทีระทึกขวัญ (2)

    กัปตันลุกขึ้นแล้วเดินออกประตูไปก่อน ผงกศีรษะให้นิดหนึ่งเมื่อเห็นพริมโรสยืนอยู่หน้าประตู เจ้าชายอิสราร์ยืนมองหญิงสาวผ่านช่องประตูห้องนักบินอยู่ครู่หนึ่ง ก่อนจะเอื้อมมือมาคว้าแขนเรียวเล็กดึงเข้ามาปะทะอกกว้าง รวบร่างบางเข้ามากอดรัดอย่างแนบแน่น ฝ่ามือข้างหนึ่งประคองไว้หลังศีรษะ แล้วบดขยี้ริมฝีปากร้อนระอุกับริมฝีปากนุ่มอย่างหิวกระหาย เร่าร้อนและดุเดือด เพราะอะดรีนาลีนที่หลั่งออกมาหลังจากเพิ่งจะผ่านเหตุการณ์เฉียดตาย กระตุ้นให้อารมณ์ของเขาพลุ่งพล่าน“อื้อ!..” ปลายลิ้นเงอะงะถูกดูดดุนและเกี่ยวกระหวัดไว้ด้วยลิ้นเร่าร้อนของอีกฝ่ายโดยไม่เปิดโอกาสให้ได้พักหายใจ ทำให้เกิดเสียงประท้วงแผ่วๆ ในลำคอ“ที่รัก~..ผมรักคุณ” เขาถอนริมฝีปากออก กระซิบเสียงแหบพร่าแนบชิดกับริมฝีปากนุ่มอุ่น เรียวลิ้นไล่ระไปบนริมฝีปากของอีกฝ่าย ก่อนประทับริมฝีปากลงมาอีกครั้ง หญิงสาวยกท่อนแขนขึ้นโอบรอบลำคอเขาไว้ ตอบรับจุมพิตด้วยจังหวะที่สอดรับกันเป็นอย่างดี เบียดร่างบอบบางเข้าแนบชิดร่างกำยำอย่างออดอ้อน ฝ่ามือหนาของเขาลูบไล้ไปตามแผ่นหลังไล่ลงไปถึงโค้งสะโพกกลมมนแล้วกดเข้าหาลำตัวตามแรงอารมณ์ที่กำลังเพิ่มมากขึ้น“เอ่อ..ทูลฝ่าบาท พายุท

  • อย่าให้เขารู้ว่าฉันร้าย   ตอนที่ 64 : นาทีระทึกขวัญ (1)

    รินรดานั่งเหม่อกำโทรศัพท์ไว้ในมือ หลังจากเพิ่งจะวางสายจากรามิล เขาสัญญาว่าจะรีบเคลียร์งานให้เรียบร้อย และจะตามไปหาที่เปเรซภายในสองวันเธอรู้สึกไม่สบายใจเมื่อนึกถึงความฝันเมื่อคืนที่ผ่านมา แสงสว่างที่ลอยละล่องในความมืดส่องมาที่เธอ พร้อมกับเสียงกระซิบที่แผ่วเบาแต่ชัดเจน เสียงนั้นไม่ใช่เสียงของใครในโลกนี้ มันเหมือนเสียงที่มาจากที่ไกลโพ้น ฟังดูทั้งใกล้และไกลในเวลาเดียวกัน ‘ถึงเวลาแล้ว…จงทำตามสัญญา’หญิงสาวไม่ได้บอกใครว่าหลังจากที่เธอ และพี่ชายฟื้นขึ้นมา เธอได้เห็นถึงความศักดิ์สิทธิ์ของหินพ่อมดลาบราดอไลต์ ด้วยความสงสัยและความหวัง เธอแอบพระมารดาเข้าไปในห้องลับ ท่องบทสวดที่เธอแอบจดเอาไว้ และอธิษฐานถึงสิ่งที่อยากรู้ที่สุดในชีวิตตอนนั้น นั่นก็คือการตามหาครอบครัวที่แท้จริงจากนั้นเธอก็ฝันซ้ำๆ เดิมๆ อยู่หลายครั้งจนมาถึงปัจจุบัน ไม่รู้ว่าบุคคลในฝันเป็นใคร เธอจำเรื่องราวได้ รู้ว่าคนในฝันเป็นผู้หญิงหรือผู้ชาย แต่จำหน้าไม่ได้เลยสักคน และครั้งที่ไปโรงพยาบาลจนเกิดอาการใจสั่น แล้วเจ็บแปลบอย่างรุนแรง จนหมดสติไปในครั้งนั้น ก็ทำให้เธอได้เห็นผู้หญิง ที่มีหน้าตาเหมือนเธอราวกับฝาแฝดชัดเจนเป็นครั้งแรก ในห้วงฝ

  • อย่าให้เขารู้ว่าฉันร้าย   ตอนที่ 63 : (っ˘з(˘⌣˘)18+

    “อะไรนะ!! แล้วได้ลงจอดฉุกเฉินไหม? งั้นถ้าจำเป็นต้องเปลี่ยนแผนโยกย้ายคนจากรัฐดีไปรัฐอีก็ดำเนินการได้เลย! อืม..ฉันอยู่บนเครื่องบินแล้ว คงจะถึงไล่ๆ กัน!...ได้!…เอาตามนั้น!”เจ้าชายอิดรีสชะงักมือที่กำลังวางโทรศัพท์บนโต๊ะหัวเตียง ขณะที่ปรายหางตาเห็นหุ่นอรชรอ้อนแอ้นกำลังเยื้องกรายเข้ามาในห้องด้วยกิริยาท่าทางที่ยั่วยวนหญิงสาวเข้ามายืนห่างจากเตียงไปประมาณหนึ่งช่วงแขน ค่อยๆ ปลดอาภรณ์ออกจากตัวทีละชิ้นอย่างเชื่องช้า พร้อมช้อนสายตาขึ้นมองชายหนุ่มอย่างเย้ายวนชวนเชิญเจ้าชายอิดรีสหยิบหมอนสองใบมาซ้อนหลัง นั่งกึ่งเอนพิงพนักหัวเตียงพาดแขนไว้บนเข่าข้างหนึ่งที่ตั้งชันขึ้น หรี่ตามองด้วยสีหน้าเรียบเฉยแต่ดูเยือกเย็น กิริยาภายนอกยังคงสงบนิ่ง รอบกายยังเผยความเย่อหยิ่งจองหองออกมาด้วยเขาเหลือบตามองนาฬิกาที่โต๊ะหัวเตียง ทำให้รู้ว่าอีกฝ่ายเลือกเวลาได้เหมาะเจาะ ไลลาไปสั่งงานกับเด็กรับใช้ได้สักพักใหญ่ๆ แล้ว และคงกำลังใกล้จะกลับมา เลยเปิดโอกาสให้น้องสาวสวมบทบาทน้องรักหักเหลี่ยมโหดเพื่อทำร้ายจิตใจผู้เป็นพี่ได้อย่างถูกที่ถูกเวลา เขาปล่อยให้อีกฝ่ายทำตามใจ โดยไม่ได้ปริปากเอ่ยทักท้วง เพื่อจะรอดูว่าเธอจะเปิดเผยเนื้อตั

  • อย่าให้เขารู้ว่าฉันร้าย   ตอนที่ 62

    "ฝ่าบาท! แย่แล้วเพคะ! กัปตันถูกทำร้ายขอความช่วยเหลือจากฝ่าบาทด่วนเลยเพคะ!" เจ้าชายอิสราร์ลุกพรวดขึ้น พริมโรสผวาลุกตามแล้วพยุงแขนเขาไว้ข้างหนึ่ง"เกิดอะไรขึ้น?" ชายหนุ่มถามขณะก้าวเท้าออกเดินได้ไม่เร็วนัก มือเรียวจึงจับแขนเขายกขึ้นแล้วก้มตัวลอดศีรษะเข้าไปใต้แขนแข็งแรง ก่อนจะวางแขนเขาให้เกาะไหล่เธอไว้เพื่อช่วยพยุง ทำให้ชายหนุ่มเดินได้เร็วขึ้นกว่าเดิม"นักบินผู้ช่วยลอบทำร้ายกัปตันเพคะ! โชคดีว่าอยู่ในความสูงที่กัปตันเปิดโหมดออโต้ไพลอทเอาไว้ ทันทีที่เกิดเรื่องเขากดอันล็อกประตูทำให้พวกเราได้ยินเสียงและเข้าไปช่วยเหลือเขาไว้ได้ทันเวลา ตอนนี้องครักษ์ลากตัวหมอนั่นออกไปแล้วเพคะ!""ทำไมไม่ตามนักบินเสริมให้ขึ้นมาแทน?""หม่อมฉันไปปลุกแล้วไม่ตื่นเลยทั้งสองคน ไฟล์ทเนิร์ซกำลังดูอาการพวกเขาอยู่ กัปตันเลยให้มาขอความช่วยเหลือจากฝ่าบาทเพคะ!"ลูกเรือต่างก็เห็นพ้องต้องกันทุกคนว่า นาทีนี้ไม่มีใครจะเหมาะสมเท่ากับเจ้านายพระองค์นี้อีกแล้ว เขามีชั่วโมงบินของการเป็นนักบินเอฟสามสิบห้า ของกองทัพรวมห้าพันแปดสิบห้าชั่วโมง ในจำนวนนี้ มีชั่วโมงของการทำหน้าที่นักบินผู้ช่วย อยู่แปดร้อยแปดสิบสี่ชั่วโมงกับเครื่องบินรุ่นนี้

Explore and read good novels for free
Free access to a vast number of good novels on GoodNovel app. Download the books you like and read anywhere & anytime.
Read books for free on the app
SCAN CODE TO READ ON APP
DMCA.com Protection Status