공유

บทที่ 40

작가: ใบไม้ร่วงในเมืองร้าง
ฉินซูยิ้มอย่างชั่วร้ายและกระซิบข้างหูของฉงชูโม่ “แน่นอน เป็นเพราะได้เห็นรูปร่างอันน่าภาคภูมิใจของแม่ทัพฉงน่ะสิ!”

“ฉ่า!”

ใบหน้าอันงดงามของฉงชูโม่พลันเปลี่ยนเป็นสีแดงราวกับพระอาทิตย์ยามตกดินทันที

ด้วยความโกรธ นางยกมือขึ้นตบหน้าฉินซู

“โอ๊ย! หากเจ้าลงมือ ข้าจะเปิดเผยเรื่องเมื่อคืนออกไปนะ!”

เมื่อได้ยินสิ่งนี้ ฉงชูโม่ก็รีบหยุดมือ และสาปแช่งอย่างเกลียดชังว่า “คนต่ำช้า ไร้ยางอาย!”

“แหม เจ้าแอบเข้าไปอาบน้ำในบ่ออาบน้ำของข้า แล้วเจ้ายังแอบดูข้าและหลินชิงเหยาอีก... ข้ายังมิได้คิดบัญชีกับเจ้าเลย เจ้ายังกล้าเปิดปากพูดได้อีก!”

“ถุย ถุย ถุย ใครแอบดูพวกท่านกัน หม่อมฉันเห็นภาพมิน่าดูนั่นก็ทำให้หม่อมฉันอยากจะควักลูกตาตัวเองออกมาล้างให้สะอาดแล้ว!”

“ถ้าอย่างนั้นเจ้าก็ควักออกมาสิ!”

“ท่าน… หึ หม่อมฉันมิเคยเห็นใครต่ำช้าและไร้ยางอายเช่นนี้มาก่อนเลย”

ฉงชูโม่หันหลังกลับและจากไปด้วยความโกรธ

นางถึงกับลืมถามเรื่องระดับพลังของฉินซูไปเลยด้วยซ้ำ

ฉินซูยิ้มอย่างภาคภูมิใจและกล่าวว่า “เด็กน้อย เรื่องอย่างนี้ ข้าจะใช้เวลามิกี่อึดใจก็จัดการเจ้าได้อยู่มือแล้ว!”

ในเวลาเดียวกัน

ในโถงหลักของสำนักหอดูดาวหลวง เหลยเจ
이 책을 계속 무료로 읽어보세요.
QR 코드를 스캔하여 앱을 다운로드하세요
잠긴 챕터

관련 챕터

  • องค์รัชทายาทแห่งต้าเหยียน   บทที่ 41

    “มะเส็ง ฟ้าดินขัดแย้ง นี่คือสัญลักษณ์คำทำนายที่เป็นลางร้ายอย่างยิ่ง…”เขาบ่นแล้วเดินไปที่ประตูโถงมองขึ้นไปบนท้องฟ้าทางทิศใต้ในแววตาชราเฒ่าและลึกซึ้งนั้น มีร่องรอยของความกังวลที่หาได้ยาก…… ตำหนักบูรพาหลังจากที่ตู๋กูโฉ่วเยวี่ยเข้ามา เขาก็ไปเข้าเฝ้าฉินซูก่อนฝ่ายหลังพูดด้วยรอยยิ้ม “ตู๋กูโฉ่วเยวี่ย ข้าจะไปเดินเล่นที่ตลาด เจ้าไปกับข้าด้วยแล้วกัน”“พ่ะย่ะค่ะ กระหม่อมจะไปเรียกองครักษ์คนอื่น ๆ มาด้วย”หลังจากตู๋กูโฉ่วเยวี่ยพูดจบ เขาก็หันหลังกลับและจากไปฉินซูโบกมือแล้วพูดว่า “เอาพวกทหารองครักษ์ไปเยอะ ๆ คนอื่นคงรู้ว่าข้าเป็นองค์รัชทายาท จะสนุกตรงไหนกันเล่า”“เช่นนั้นองค์รัชทายาททรงหมายความว่า...”“เจ้าไปกับข้าก็พอ ด้วยความแข็งแกร่งของเจ้า เจ้ายังกลัวว่าจะมีใครมาสร้างปัญหาให้ข้าอีกรึ?”“จริงด้วย เชิญองค์รัชทายาทพ่ะย่ะค่ะ”ทั้งสองกำลังจะออกไปข้างนอก ตอนนั้นเองที่ฉงชูโม่รีบติดตามมาและถามว่า “องค์รัชทายาท พระองค์จะเสด็จไปที่ใดเพคะ?”“ไปเดินเล่นที่ตลาด มิเช่นนั้นอยู่แต่ในตำหนักบูรพาจะเบื่อตายเสียก่อน”“มิได้เพคะ ฝ่าบาทเคยรับสั่งให้หม่อมฉันคอยควบคุมให้ท่านอ่านตำรานักปราชญ์”ฉินซูข

  • องค์รัชทายาทแห่งต้าเหยียน   บทที่ 42

    ฉงชูโม่พูดอย่างน่าเชื่อถือ “แน่นอนว่าหม่อมฉันต้องจับตาดูท่าน มิให้ท่านก่อปัญหาอีก”“ฮ่าฮ่า ด้วยรูปลักษณ์ปานล่มเมืองเช่นเจ้า และรูปร่างหน้าตาเจ้าโดดเด่นกว่าผู้ใด หากติดตามข้าไป เกรงว่าเจ้าจะเป็นคนแรกที่สร้างปัญหา”เมื่อเห็นฉินซูหันกลับมาชมรูปร่างหน้าตาของนาง ฉงชูโม่ก็หน้าแดงโดยมิรู้ตัวนางพึมพำ “อย่างไรหม่อมฉันก็จะไปด้วย นี่เป็นพระราชโองการของฝ่าบาท หากองค์รัชทายาทคิดว่าหม่อมฉันดึงดูดความสนใจเกินไป เช่นนั้นหม่อมฉันจะไปเปลี่ยนชุด”“เช่นนั้นก็รีบไป”ฉงชูโม่รีบหันหลังกลับและเดินไปที่ห้องของตนมินานหลังจากนั้น นางก็เปลี่ยนมาสวมอาภรณ์บุรุษ และผมสีดำมันวาวของนางก็ถูกมัดด้วยปิ่นปักผมไม้แม้ว่าในเวลานี้นางจะแต่งตัวเป็นบุรุษ แต่ทั้งใบหน้าที่บอบบางไร้ที่ติของนาง และรูปร่างอันสะโอดสะองของนางก็ยังสะดุดตาเป็นพิเศษใครก็ตามที่มีสติปัญญาเพียงเล็กน้อยก็ยังสามารถบอกได้ว่า นางเป็นสตรีปลอมตัวเป็นบุรุษยิ่งไปกว่านั้น การสวมอาภรณ์ของบุรุษนี้ดูจะมิเข้ากับนางเอาเสียเลยฉินซูบ่นอย่างมิสบอารมณ์ “แม่ทัพฉง เจ้าคิดว่าเพียงเจ้าเปลี่ยนมาสวมอาภรณ์ของบุรุษ คนอื่นจะดูมิออกว่าเจ้าเป็นสตรีรึ?"“เช่นนั้นท่านคิด

  • องค์รัชทายาทแห่งต้าเหยียน   บทที่ 43

    “เขาเคยพูดกับข้าก่อน!”ฉินซูชี้ตรงไปที่ตู๋กูโฉ่วเยวี่ยฝ่ายหลังตกตะลึงอยู่ครู่หนึ่ง จากนั้นส่ายหน้าอย่างแรงแล้วรีบปฏิเสธ “ข้าเปล่า ข้ามิได้พูด องค์รัชทายาท ท่านอย่าตรัสโป้ปดสิพ่ะย่ะค่ะ!"“ตู๋กูโฉ่วเยวี่ย!!”ฉงชูโม่คำราม และดึงแส้ออกจากสาบเสื้อของนางเมื่อเห็นว่าสถานการณ์มิดี ตู๋กูโฉ่วเยวี่ยจึงวิ่งหนีไปฉงชูโม่ตามทันเขาในพริบตาครู่ต่อมา เสียงกรีดร้องของตู๋กูโฉ่วเยวี่ยก็ดังมาแต่ไกลฉินซูเหงื่อแตกพลั่กและพึมพำ “อารมณ์ร้ายขนาดนี้ เจ้ายังบอกว่าเจ้ามิใช่แม่มดอีก”เขาส่ายหน้า และมุ่งตรงไปยังตลาดสิบห้านาทีต่อมาฉงชูโม่ตามมาทัน แม้ว่านางยังคงมีใบหน้าบึ้งตึง แต่นางก็มิได้โกรธเท่าเดิมแล้วข้างหลังนั้นตู๋กูโฉ่วเยวี่ยตามมาด้วยจมูกช้ำและใบหน้าบวมปูด มองฉินซูด้วยดวงตาเศร้าสร้อยเป็นครั้งคราวเมื่อสังเกตเห็นท่าทางเศร้าโศกของตู๋กูโฉ่วเยวี่ยแล้ว ฉินซูก็ชูมือขึ้นแล้วพูดว่า “ข้ามิได้ตีเจ้าเสียหน่อย เหตุใดเจ้าจึงมองข้าเช่นนั้น”“องค์รัชทายาท พระองค์ไม่มีเมตตาเลย กระหม่อมบอกเมื่อใดว่าชูโม่เป็นแม่… แค่กแค่ก กระหม่อมมิเคยพูดเช่นนั้นเลย”ฉินซูกระซิบข้างหู “เจ้าโง่หรือไร? ข้ากำลังสร้างโอกาสให้กั

  • องค์รัชทายาทแห่งต้าเหยียน   บทที่ 44

    “ทำดอกไม้ไฟ!” ฉินซูตอบแล้วเดินเข้ามา“ท่านทำดอกไม้ไฟได้ด้วยหรือ?”ทั้งฉงชูโม่และตู๋กูโฉ่วเยวี่ยดูประหลาดใจไปตาม ๆ กันฉินซูพูดอย่างคลุมเครือ “นั่นมิใช่ประเด็น ในเมื่อหาผงดินปืนได้ยาก เช่นนั้นพวกเจ้าไปซื้อดินประสิว กำมะถัน และถ่านไม้มาให้ข้าหน่อย”“กำมะถันและถ่านหาซื้อได้ทั่วไป ข้ามิเคยได้ยินเรื่องดินประสิวที่องค์รัชทายาทพูดถึงมาก่อน เจ้ารู้ไหมว่ามันคืออะไร ชูโม่?”“ข้ามิรู้ ในเมื่อองค์รัชทายาทบอกให้เจ้าไปหา เจ้าก็ไปลองหาดูสิ”“เอาเถอะ พวกท่านทั้งสองรอข้าอยู่ที่นี่ ข้าจะไปลองถามคนดู”ตู๋กูโฉ่วเยวี่ยหันหลังกลับ และหายลับเข้าไปในฝูงชน ฉงชูโม่มองไปรอบ ๆ และถามด้วยน้ำเสียงเบา “องค์รัชทายาท ท่านยังมิได้ตอบคำถามเมื่อคืนของหม่อมฉันเลยนะเพคะ?”“เรื่องที่ว่าเหตุใดเมื่อคืนนี้ข้าถึงเลือดกำเดาไหล ข้าก็ตอบคำถามของเจ้าไปแล้วมิใช่หรือ?”“ฉินซู ท่านอย่าบีบให้หม่อมฉันลงมือต่อหน้าธารกํานัล อย่าลืมว่าหม่อมฉันได้รับอนุญาตจากองค์จักรพรรดิ หากท่านกล้าต่อต้าน ก็ถือว่าท่านขัดต่อราชโองการ!”ฉินซูพูดอย่างมิสบอารมณ์ว่า “เช่นนั้นเจ้าอยากจะถามสิ่งใดเล่า? ข้าจะตอบตามจริงก็แล้วกัน”“ท่านอยู่ในระดับใดกั

  • องค์รัชทายาทแห่งต้าเหยียน   บทที่ 45

    เหล่าสตรีล้อมรอบฉงชูโม่ทันที ทั้งยังลูบไล้มือและใบหน้าของนางอีกด้วย“คุณชายหล่อเหลาจริง ๆ มาเลยเจ้าค่ะ วันนี้ตัวพี่หญิงอารมณ์ดี จะขอบริการท่านฟรีสักครั้ง”“ใช่ ใช่ ใช่ ค่าใช้จ่ายของท่านพวกเราจัดการเอง วันนี้เราจะผลัดกันดูแลท่าน รับรองว่าท่านจะติดใจจนลืมมิลง”หญิงสาวเหล่านั้นหัวเราะคิกคักไม่หยุด และลากฉงชูโม่เข้าไปยังหอบุปผาเมลัยฉงชูโม่อับอาย และตะโกนอย่างโกรธจัดว่า “ปล่อยข้า ปล่อยข้าเดี๋ยวนี้!”“เอ๋ คุณชายอย่าอายไปเลย พวกเรามิทำรุนแรงหรอก”“ดูสิว่าท่านร้อนรนเพียงใด ยังบริสุทธิ์อยู่ใช่หรือไม่?”“ดูเหมือนจะใช่ ฮิฮิ ท่านผ่อนคลายเถิด เราจะมิทำให้ท่านเจ็บหรอกเจ้าค่ะ”พวกนางลากฉงชูโม่ขึ้นไปชั้นบนใบหน้าอันงดงามของฉงชูโม่เย็นชา เตรียมจะลงมือในเวลานี้ มีสตรีนางหนึ่งบังเอิญสัมผัสหน้าอกของนางและอุทานว่า “เจ้าเป็นสตรีรึ?!”“หือ? สตรี?”“ถุย ถุย ถุย เราก็นึกว่าเจ้าเป็นบุตรชายตระกูลเศรษฐี ที่ไหนได้กลับเป็นสตรี รีบไปให้พ้นเลย!”สตรีหลายคนถ่มน้ำลายด้วยสีหน้ามิพอใจฉงชูโม่จ้องมองพวกนาง แต่ก็มิอยากต่อปากต่อคำด้วย จึงหันหลังกลับแล้วลงไปชั้นล่างในเวลานี้เอง นางเงยหน้าขึ้นมองชั้นบนโดยมิไ

  • องค์รัชทายาทแห่งต้าเหยียน   บทที่ 46

    เมื่อได้ยินเช่นนี้ ฉินซูก็เดินไปที่ห้องที่หนึ่งและเตะประตูให้เปิดออกแต่เพื่อมิให้ฉงชูโม่สงสัย เขาจึงมิได้ใช้กำลังมากนักเมื่อเห็นว่าเขามิแม้แต่จะเตะเปิดประตูได้ ฉงชูโม่ก็พูดด้วยสีหน้ารังเกียจ “หลีกไป หม่อมฉันเอง”หลังจากพูดอย่างนั้น นางก็เตะประตูให้เปิดออก ในห้องนั้น ชายวัยกลางคนคนหนึ่งกำลังกอดหญิงสาวที่ดูเย้ายวน และนอนอยู่บนเตียงในสภาพเปลือยเปล่าเมื่อเห็นฉากนี้ ฉงชูโม่ก็หันหลังหนีทันที อยากจะควักลูกตาออกมาล้างให้สะอาดเสียเดี๋ยวนั้นในเวลานี้ คนทั้งสองบนเตียงก็สังเกตเห็นว่าประตูถูกเปิดออก พวกเขาก็ตกใจกลัวอย่างมากชายวัยกลางคนตะโกนด่า “พวกเจ้าเป็นใคร กล้ามารบกวนความสำราญของข้า เจ้าจะเชื่อหรือไม่หากข้าบอกว่าข้าจะฆ่าพวกเจ้า รีบไสหัวออกไปเดี๋ยวนี้!”ฉินซูเหลือบมองบุคคลนี้ และจำเขาได้ทันทีเขาคือเส้าหวยอัน รองเสนาบดีกรมโยธาธิการ!“รองเสนาบดีเส้า เพลิดเพลินมิเบาเลยนะ กล้ามามั่วสุมที่หอบุปผาเมลัยกลางวันแสก ๆ ช่างทำให้ข้าเปิดหูเปิดตาจริง ๆ!”หลังจากที่เส้าหวยอันจำฉินซูได้ในชุดลำลองได้ ใบหน้าของเขาก็ซีดเผือดด้วยความหวาดกลัวเขารีบหยิบกางเกงขึ้นมา กลิ้งตัวลงจากเตียงอย่างทุลักทุเล

  • องค์รัชทายาทแห่งต้าเหยียน   บทที่ 47

    วิชานี้ลึกซึ้งยิ่งนัก จนแม้แต่เขาเองก็ยังมิอาจเข้าใจได้อย่างถ่องแท้และเขาก็รู้สึกได้โดยสัญชาตญาณว่า หากฝึกฝนวิชานี้ได้ถึงขีดสุด จะต้องทรงพลังมากอย่างแน่นอน“มิคิดเลยว่า หลังจากเดินทางมายังโลกนี้แล้ว ฉันจะได้พบกับวิชาที่ลึกล้ำเช่นนี้ ดูเหมือนว่าตาแก่คนนี้จะมีอะไรดีจริง ๆ สินะ!”ฉินซูพึมพำด้วยความประหลาดใจต่อมาเขาเปลี่ยนสีหน้าเป็นจริงจัง แล้วถามว่า “จี้หยกนี้มีชื่อเจ้าของสลักอยู่ เจ้ากล้าสวมมันบนร่างกายของเจ้าได้อย่างไร? คิดจะรนหาที่ตายหรือ?”“องค์รัชทายาท โปรดไว้ชีวิตหม่อมฉันด้วย หม่อมฉันมิรู้หนังสือ เมื่อมิกี่วันก่อน เมื่อหม่อมฉันบังเอิญเจอสิ่งนี้ตอนที่เข้าไปหลบฝนในวัดศาลหลักเมืองร้าง หม่อมฉันจึงหยิบติดมือมา หากหม่อมฉันรู้ว่านี่เป็นขององค์รัชทายาท หม่อมฉันคงมิกล้าเอามาเป็นของตัวเองแน่เพคะ”เมื่อเห็นความเข้าใจผิดของนาง ฉินซูจึงมิใส่ใจจะอธิบาย ดังนั้นเขาจึงหยิบเงินหนึ่งตำลึงออกจากสาบเสื้อแล้วโยนให้อีกฝ่าย“หยกนี้ข้าจะเก็บไว้ เงินนี้เจ้าก็รับไป”สตรีคนนั้นรู้สึกปลื้มใจมาก จนมิรู้ว่าจะพูดอะไรอยู่ครู่หนึ่งตอนนั้นเอง ตู๋กูโฉ่วเยวี่ยก็เดินขึ้นมาเมื่อเขาเห็นเส้าหวยอัน เขาก็พูดด้ว

  • องค์รัชทายาทแห่งต้าเหยียน   บทที่ 48

    ฉินซูเอามือไพล่หลังแล้วเย้ยหยัน “ข้าใส่ร้ายเจ้าหรือ?”“องค์รัชทายาทใส่ร้ายกระหม่อมหรือไม่ ท่านน่าจะรู้อยู่แก่ใจดี?”เส้าหวยอันประสานมือโค้งคำนับไปทางฉินอู๋ต้าวอีกครั้งและกล่าวต่อด้วยท่าทางน่าเชื่อถือ “ฝ่าบาท ที่กระหม่อมใกล้ชิดกับอ๋องจิ้นล้วนมิใช่ความลับ องค์รัชทายาทจึงมิลังเลที่จะใส่ร้ายกระหม่อม คิดจะใช้กระหม่อมเป็นเครื่องมือปราบอ๋องจิ้น และสร้างอำนาจของตน หวังว่าฝ่าบาทจะทรงพิจารณาอย่างรอบคอบพ่ะย่ะค่ะ!”เมื่อได้ยินสิ่งนี้ ดวงตาของฉินอู๋ต้าวก็หรี่ลงเล็กน้อยใบหน้าอันสง่างามของเขาเผยแววสงสัยออกมาอยู่บ้าง และมองไปที่ฉินซูอย่างสงบแม้ว่าเขาจะมิได้พูดอะไร แต่ก็เห็นได้ชัดว่าเขากำลังรอคำอธิบายของฉินซูฉินซูยังคงยืนไพล่มือไปทางด้านหลัง มองเส้าหวยอันด้วยรอยยิ้มเย้ยหยันเมื่อเห็นสิ่งนี้ ฉินอู๋ต้าวจึงถามว่า “รัชทายาท รองเสนาบดีเส้าบอกว่าเจ้าใส่ร้ายเขา เช่นนั้นเจ้าจะมิอธิบายหรือ?”“เสด็จพ่อ ลูกคิดว่าเดี๋ยวน้องหกก็จะมาที่นี่แล้ว หลังจากที่เขามา เขาจะขอให้ลูกแสดงหลักฐานอย่างแน่นอน ดังนั้นเรารอจนกว่าเขาจะมาถึงก่อนจะดีกว่าพ่ะย่ะค่ะ”ทันทีที่ฉินซูพูดจบ เสียงของขันทีหนุ่มก็ดังมาจากด้านนอกประตู

최신 챕터

  • องค์รัชทายาทแห่งต้าเหยียน   บทที่ 710

    ฉินซูขมวดคิ้วกล่าวว่า “ตอนนี้ข้าก็แค่คาดเดา ยังไม่มีหลักฐานที่แน่ชัด จะสอบสวนเลยได้อย่างไร? ยิ่งกว่านั้นพวกเขายังเป็นศิษย์เอกของท่านทั้งสิ้น หากเรื่องนี้แพร่งพรายออกไป เกรงว่าจะส่งผลเสียได้”เหลยเจิ้นส่ายหน้าอย่างจนใจ กล่าวว่า “ที่แท้องค์รัชทายาทก็แค่คาดเดาไปเอง แต่ข้าน้อยบอกท่านได้เต็มปากว่า นอกจากเสวี่ยเจี้ยน โฉ่วเยวี่ยและจีอันแล้ว ข้าน้อยล้วนจับศิษย์คนอื่น ๆ ขังแยกกันไว้ในห้องลับของสำนักหอดูดาวหลวงตั้งแต่ครึ่งปีก่อน พวกเขาไม่มีรอดพ้นจากสายตาข้าน้อยได้อย่างเงียบเชียบแน่นอนพ่ะย่ะค่ะ”“อ้อ? ถูกท่านขังไว้หมดเลยหรือ?”ต่อมความอยากรู้อยากเห็นของฉินซูถูกกระตุ้นขึ้นมาทันที เขาถามต่อว่า “ท่านหัวหน้าโหรหลวงขังพวกเขาไว้ด้วยเหตุผลใดหรือ?”กล้ามเนื้อบนใบหน้าของเหลยเจิ้นกระตุกสองสามครั้ง เขายกมือขึ้นลูบหน้าผากแล้วตอบว่า “ช่างเถิด ข้าน้อยมิกลัวองค์รัชทายาทจะหัวเราะเยาะอยู่แล้ว ศิษย์เอกของข้าน้อยแต่ละคนล้วนมีสันดานทรยศ ข้าน้อยแน่ใจว่าท่านก็พอจะรู้นิสัยใจคอของโฉ่วเยวี่ยและจีอันอยู่บ้าง ดังนั้นข้าน้อยจึงทำได้เพียงปล่อยให้พวกเขาไตร่ตรองถึงความผิดพลาดของตนเท่านั้น”“เช่นนั้น ศิษย์เอกทั้งเจ็ดคนของท

  • องค์รัชทายาทแห่งต้าเหยียน   บทที่ 709

    ทันทีที่เขาลงบันไดมา จีอันก็ถามด้วยรอยยิ้มเจ้าเล่ห์ว่า “ศิษย์พี่รอง โดนดุมาหรือไร?”“ไป ๆ ๆ หัวโขกจนปูดไปหมด เรื่องนี้ข้ายังมิได้คิดบัญชีกับเจ้าเลย!”“ดูเถอะ ขี้ใจน้อยเหมือนสตรีไปได้”“นี่ เจ้าอยู่ดี ๆ มิชอบใช่หรือไม่? ข้าจะฟาดเจ้าคอยดูเถอะ!” ตู๋กูโฉ่วเยวี่ยไปหาแส้ยาวมาจากไหนก็มิทราบจีอันแคะขี้มูกแล้วกล่าวอย่างมิได้ยี่หระว่า “ข้ามิกลัวเจ้าหรอก ถึงอย่างไรท่านก็สู้ข้ามิได้”“ข้า… เจ้ามันร้ายกาจ ข้ายอมแพ้!”ตู๋กูโฉ่วเยวี่ยหมดความอดทนใดทันที จีอันผู้นี้ขึ้นชื่อเรื่องหนังหนา อีกทั้งยังเก่งกาจจนน่าขนลุก สู้มิได้ เขาหลบดีกว่าพูดจบเขาก็หันหลังเดินออกไปครู่ต่อมา ฉินซูและฉงชูโม่ก็มาถึงเมื่อเห็นฉินซู จีอันก็อุทานด้วยความประหลาดใจว่า “โอ้โหแฮะ องค์รัชทายาท มิไปประกาศศักดาที่ใดหรือ ไฉนจึงมาเยือนสำนักหอดูดาวหลวงของเราได้?”ฉินซูงงงวยเล็กน้อย จึงถามกลับว่า “ตัวข้าต้องไปประกาศศักดาที่ใดเล่า? อวดอ้างกระไร?”“ท่านมิทรงทราบหรือ? ยึดครองแคว้นหนานเยวี่ยง่ายเหมือนปอกกล้วยเช่นนี้ ผลงานระดับนี้ไยมิไปประกาศให้ทั่วเล่า? หากเป็นข้าน้อย ข้าน้อยจะร้องแรกแหกกระเชอคุยโวไปสามวันสามคืนเต็ม ๆ ท่านนี่ช่าง

  • องค์รัชทายาทแห่งต้าเหยียน   บทที่ 708

    ชิวก่วนกล่าวด้วยสีหน้าเศร้าหมองว่า “หาได้มีโจรผู้ร้ายบุกรุกเข้ามาไม่พ่ะย่ะค่ะ หูก่วงเซิงและพวกตายไปโดยไร้สาเหตุ ก่อนหน้านี้ก็ไม่มีความผิดปกติใด ๆ พ่ะย่ะค่ะ”“ว่ากระไรนะ? หูก่วงเซิงและพวกตายแล้วรึ?”ฉงชูโม่เดินเข้ามาด้วยสีหน้าประหลาดใจฉินซูกล่าวอย่างมิสบอารมณ์ว่า “มิใช่แค่พวกเขา แม้แต่กองทัพส่วนตัวห้าหมื่นนายของอ๋องฉู่ก็ถูกคนช่วยออกไปแล้ว”“ว่ากระไรนะเพคะ?”ฉงชูโม่ตกตะลึงอ้าปากค้าง!เมื่อได้สติกลับมา นางก็ขมวดคิ้วกล่าวว่า “ด้วยกำลังของอ๋องฉู่เพียงลำพัง ไม่มีทางทำเรื่องเหล่านี้ได้แน่ ดังนั้นเบื้องหลังของเขาต้องมียอดฝีมือคอยช่วยเหลือเป็นแน่เพคะ!”ฉินซูครุ่นคิดอยู่ครู่หนึ่ง แล้วกล่าวว่า “ศพของหูก่วงเซิงและพวกอยู่ที่ใด?”“ตอนนี้อยู่ที่ศาลต้าหลี่พ่ะย่ะค่ะ”“ไปดูกัน”ฉินซูกล่าวจบก็เดินจากไปอย่างรวดเร็วหวังฉือเห็นเขาออกมาก็คำนับแล้วกำลังจะกล่าวทว่าฉินซูกลับพูดแทรกขึ้นก่อนว่า “ใต้เท้าหวัง ไปกันเถิด ไปศาลต้าหลี่ของท่านด้วยกัน”เมื่อได้ยินเช่นนั้น หวังฉือก็ชะงักไปเล็กน้อย จากนั้นก็รีบพยักหน้าหนึ่งชั่วยามต่อมาพวกเขาก็มาถึงศาลต้าหลี่เมื่อมองดูร่างไร้วิญญาณของหูก่วงเซิงและพวก ฉ

  • องค์รัชทายาทแห่งต้าเหยียน   บทที่ 707

    ฉงชูโม่พยักหน้าหนักแน่น “ถูกต้องแล้วเพคะ เรื่องนี้มิใช่แค่ข้าน้อยคนเดียวที่เห็นกับตา ทหารทั้งสามทัพหลายนายก็เห็นเช่นกัน”เมื่อได้ยินเช่นนั้น สีหน้าของฉินอู๋ต้าวก็มิสู้ดีขึ้นมาทันตาอดีตองค์รัชทายาทสำมะเลเทเมาบัดนี้กลับสร้างคุณงามความดีครั้งยิ่งใหญ่ อีกทั้งวรยุทธ์ก็ยังลึกล้ำเกินหยั่งถึง นี่มัน… เกินความคาดหมายของเขาไปมาก!ตลอดเวลาที่ผ่านมา เขาคิดว่าเบื้องหลังฉินซูต้องมียอดฝีมือคอยชี้แนะแต่จากที่เห็นในเวลานี้ ยอดฝีมือที่ว่านั้น แท้จริงแล้วก็คือฉินซูเองกล่าวคือ ฉินซูมิเพียงแต่มีกลยุทธ์ที่เหนือชั้น แต่วรยุทธ์ก็ยังก้าวเข้าสู่ระดับที่น่าตกตะลึงซ้ำร้ายฉินซูยังจงใจปิดบังวรยุทธ์ของตนอีกด้วย!เมื่อรวมทุกอย่างเข้าด้วยกัน ความระแวงที่ฉินอู๋ต้าวมีต่อฉินซูก็ยิ่งทวีความรุนแรงขึ้นเมื่อเห็นฉินอู๋ต้าวนิ่งอึ้งไป ฉงชูโม่ก็กล่าวต่ออย่างมีนัยแฝงว่า “ฝ่าบาท ข่าวลือเรื่ององค์รัชทายาททรงทักษะยอดเยี่ยม เกรงว่าอีกมินานคงจะแพร่สะพัดไปทั่วหลงเฉิงเพคะแต่ก็ดีเหมือนกันเพคะ เหล่าคนชั่วที่คิดจะลอบสังหารองค์รัชทายาทจะได้ประมาณตนก่อนจะลงมือ เช่นนี้แล้ว ก็จะได้มิต้องกังวลเรื่องความปลอดภัยขององค์รัชทายาทให้มา

  • องค์รัชทายาทแห่งต้าเหยียน   บทที่ 706

    สวี่จิ้นเสนาบดีกรมโยธาธิการกล่าวว่า “องค์รัชทายาท พระองค์ได้นำหนานเยวี่ยทั้งเจ็ดมณฑลสามสิบแปดเมืองมาอยู่ภายใต้ต้าเหยียนของเรา คุณูปการอันยิ่งใหญ่เช่นนี้ สมควรได้รับการประทานเครื่องยศเก้าประการแล้วพ่ะย่ะค่ะ”ฉินซูส่ายหน้าเล็กน้อย “ใต้เท้าสวี่ ท่านกล่าวผิดแล้ว มีคำกล่าวว่า ใต้หล้าไพศาลล้วนเป็นแผ่นดินขององค์จักรพรรดิ บนแผ่นดินนี้ล้วนเป็นข้ารองพระบาทขององค์จักรพรรดิ ข้าในฐานะองค์รัชทายาทแห่งต้าเหยียน ย่อมถือเอาความผาสุกของราษฎรเป็นภารกิจของตน ทุกสิ่งที่ทำล้วนเป็นหน้าที่”เมื่อกล่าวถึงตรงนี้ ฉินซูก็ประสานมือคำนับฉินอู๋ต้าวอีกครั้ง “เสด็จพ่อ ดังนั้นรางวัลอันยิ่งใหญ่อย่างเครื่องยศเก้าประการนี้ลูกมิกล้ารับไว้จริง ๆ หวังว่าเสด็จพ่อจะทรงเข้าพระทัยพ่ะย่ะค่ะ!”เมื่อได้ยินเช่นนั้น เหล่าขุนนางระดับสูงก็อุทานด้วยความประหลาดใจอีกครั้งรางวัลอันยิ่งใหญ่เช่นเครื่องยศเก้าประการนี้ องค์รัชทายาทกลับปฏิเสธจริง ๆ หรือ?ต้องเท้าความว่า หากฉินซูในฐานะเป็นองค์รัชทายาทรับรางวัลนี้ ในภายภาคหน้า สถานะความสำคัญของเขาในสายตาของขุนนางและราษฎรแห่งต้าเหยียนก็แทบจะเทียบเท่ากับฉินอู๋ต้าวผู้เป็นองค์จักรพรรดิได้เลยทีเ

  • องค์รัชทายาทแห่งต้าเหยียน   บทที่ 705

    ฉงชูโม่กำลังจะกล่าวต่อ แต่กลับสังเกตเห็นว่าฉินซูกำลังส่ายหน้าให้นางเล็กน้อยเมื่อเห็นดังนั้น คิ้วเรียวก็ขมวดเล็กน้อยด้วยความสงสัยจากนั้นเสียงของฉินซูก็ดังขึ้นในหูของนาง “สถานการณ์เปลี่ยนไปแล้ว หลักฐานสำคัญหายไป”ฉินซูใช้วิชาแห่งกระแสจิต ดังนั้นจึงไม่มีใครสังเกตได้นอกจากฉงชูโม่เมื่อได้ยินถ้อยคำของฉินซู แววตาของฉงชูโม่ก็พลันไหววูบ จากนั้นจึงกล่าวกับฉินอู๋ต้าวว่า “ทูลฝ่าบาท ข้าน้อยไม่มีสิ่งใดจะกล่าวทูลแล้วเพคะ”เมื่อเห็นเช่นนั้น ฉินอู๋ต้าวก็มองฉงชูโม่ด้วยความสงสัยผาดหนึ่งแล้วหันไปมองฉินซูแทน“องค์รัชทายาท รายงานเรื่องคลังหลวงของหนานเยวี่ยหน่อยซิ”“ลูกน้อมรับพระบัญชาพ่ะย่ะค่ะ!”ฉินซูประสานมือแล้วพูดต่อ “ทูลเสด็จพ่อ ในการตรวจค้นคลังหลวงของหนานเยวี่ยครั้งนี้ ลูกพบผ้าไหมแพรพรรณสูงค่ามากมายนับมิถ้วน เงินแท้รวมทั้งสิ้นสิบสามล้านกว่าตำลึง ทองคำสองล้านตำลึง เสบียงอาหารก็มีมากถึงเกือบแสนต้านพ่ะย่ะค่ะ”“ลูกได้จัดสรรเงินจำนวนหนึ่งล้านตำลึงจากทั้งหมดในพระนามของเสด็จพ่อ เพื่อใช้เป็นรางวัลแก่ทหารทั้งสามทัพ ส่วนพืชพรรณธัญหารก็ได้สั่งให้คนนำกลับไปเก็บไว้ที่เจียวโจวแล้วพ่ะย่ะค่ะ”“ยังมีอีกเรื่

  • องค์รัชทายาทแห่งต้าเหยียน   บทที่ 704

    ฉินอู๋ต้าวผงกศีรษะให้ฉินอวี่เล็กน้อย แล้วกล่าวว่า “อ๋องฉู่ ในเมื่อชูโม่เข้าใจตัวเจ้าผิดไป เจ้าก็เล่าเรื่องราวทั้งหมดอีกครั้งเถิด”“ลูกรับพระบัญชาพ่ะย่ะค่ะ!”ฉินอวี่ประสานมือคำนับ แล้วกล่าวช้า ๆ ว่า “ชูโม่ ตอนที่ลงใต้ไปยังเจียวโจว ยามนั้นข้าประมาทเลินเล่อ ถูกคนสนิทขโมยตราประจำตัวไป ภายหลังจึงได้ทราบว่าเจ้าคนสารเลวนั่นถูกเติ้งหม่างซื้อตัวไปนานแล้วแม้แต่หูก่วงเซิงและคนอื่น ๆ ก็ยังแปรพักตร์ไปเข้าข้างหนานเยวี่ย กว่าข้าจะรู้ตัวทัพหนานเยวี่ยก็บุกเข้าประตูเมืองเจียวโจวแล้วด้วยความจำเป็น ข้าจึงต้องถอยกลับมาก่อน จากนั้นก็เดินทางทั้งวันทั้งคืน เมื่อกลับมาถึงหลงเฉิงก็รีบทูลเรื่องนี้ให้เสด็จพ่อทรงทราบในทันที”เมื่อได้ยินเช่นนั้น ฉงชูโม่ก็แค่นยิ้มหยันทันที “ท่านอ๋องฉู่ ท่านทรงคิดว่าแค่โยนความผิดทั้งหมดไปให้คนสนิทขอท่านแล้วเรื่องก็จะจบลงง่าย ๆ เช่นนั้นหรือ?”ฉินอวี่โต้กลับว่า “สิ่งที่ตัวข้าพูดมาทั้งหมดเป็นความจริง จะเรียกว่าโยนความผิดได้อย่างไร?”ฉงชูโม่มิได้โต้เถียงกับเขาต่อ แต่หันไปกล่าวกับฉินอู๋ต้าวว่า “ฝ่าบาท ที่ทะเลตงไห่ ท่านอ๋องฉู่...”ยังมิทันที่นางจะพูดจบ ขันทีน้อยคนหนึ่งก็วิ่งเข้าม

  • องค์รัชทายาทแห่งต้าเหยียน   บทที่ 703

    “นึกมิถึงว่าเขาจะหนีรอดไปได้ เขาก็มีฝีมือเหมือนกันนี่ ดูท่าทางจะเตรียมการมาอย่างดีเชียว”“องค์รัชทายาท เมื่อกลับถึงหลงเฉิงแล้วเข้าเฝ้าฝ่าบาท จะทูลเรื่องที่อ๋องฉู่สมคบคิดก่อกบฏหรือไม่เพคะ?”“ทูลสิ ต้องทูลอยู่แล้ว ตอนนี้พวกเรามีทั้งพยานบุคคลและพยานวัตถุ ยิ่งกว่านั้นการที่เขาสมคบคิดก่อกบฏก็เป็นความจริง อย่างไรก็ต้องทูล”“แต่ยามนี้อ๋องฉู่หายตัวไปอย่างไร้ร่องรอย ด้วยนิสัยระแวดระวังของฝ่าบาท เกรงว่าพระองค์จะมิทรงเชื่อพวกเราเต็มร้อยกระมังเพคะ”ฉินซูกล่าวอย่างเฉยเมยว่า “หลังจากเรื่องของอ๋องฉู่แดงขึ้นมา เขาก็หายตัวไป นี่เห็นได้ชัดว่าเป็นการหนีความผิด พวกเรากราบทูลตามความจริง บวกกับคำให้การของเหล่าคนสนิทของอ๋องฉู่และทหารห้าหมื่นนายที่ไม่มีรายชื่อในทะเบียน ก็เพียงพอที่จะตัดสินความผิดของอ๋องฉู่ได้แล้ว”“หวังว่าจะเป็นเช่นนั้น กองทัพส่วนตัวห้าหมื่นคนนั้น หม่อมฉันให้พวกตงฟางไป๋นำทางกลับหลงเฉิงล่วงหน้าไปแล้วเพคะ”ฉงชูโม่พูดพลางรู้สึกกระวนกระวายใจแปลก ๆจากนั้น พวกเขาก็พักค้างคืนที่เมืองหลงโย่วก่อนนอน ฉินซูสัมผัสได้ถึงคลื่นพลังมหาศาลที่แผ่ออกมาจากห้องฝั่งตรงข้ามที่นั่นคือห้องของจีอันด้วยคว

  • องค์รัชทายาทแห่งต้าเหยียน   บทที่ 702

    เซวียหมิงมองไปยังทิศทางที่ฉินซูและพรรคพวกจากไปพลางพึมพำกับตัวเอง“คิดมิถึงเลยว่าจะได้เจอกับคนที่สามารถกลืนกินปราณเลือดอาถรรพ์ได้ จีอันหรือ? ข้าจะจำเจ้าเอาไว้!”“แล้วก็ฉินซู เจ้าคอยข้าก่อนเถอะ สักวันข้าจะทำให้เจ้าทุกข์ทรมานจนอยู่ต่อมิไหว จะตายก็มิได้!”“แค่นี้ก็น่าจะพอให้ข้าใช้แล้ว”เขาพูดพลางมองลูกแก้วสีแดงอมม่วงในมือภายในลูกแก้วนั้นคือปราณเลือดอาถรรพ์จุดประสงค์ของการเดินทางครั้งนี้ของเขาคือต้องการหามหาปุโรหิตแห่งสำนักจันทราโรหิต เพื่อขอยืมปราณเลือดอาถรรพ์มาใช้แต่เมื่อเข้าใกล้บริเวณนี้ ก็เห็นเฉินซีถูกฉงชูโม่ล่อลวงไปแล้ว ส่วนสาวกของสำนักจันทราโรหิตก็บาดเจ็บล้มตายกันเป็นเบือ เขาจึงฉวยโอกาสจัดการสาวกที่เหลือของสำนักจันทราโรหิต จากนั้นก็เข้าไปในถ้ำจนได้พบกับแท่นบูชาต่อมาก็ฉวยโอกาสที่ตู๋กูโฉ่วเยวี่ยมิทันระวังจัดการอีกฝ่ายจนสลบไป และเก็บรวบรวมปราณเลือดอาถรรพ์เหล่านี้ได้อย่างง่ายดายจากนั้นเซวียหมิงก็หันหลังเดินออกจากที่นี่ไปเช่นกันขณะที่เขาเดินผ่านป่าแห่งหนึ่ง จู่ ๆ ก็รู้สึกว่าเท้าเหยียบเข้ากับบางสิ่งบางอย่างเมื่อก้มลงมอง ก็พบว่าเป็นขลุ่ยกระดูกสีขาวบริสุทธิ์เขายกมันขึ้นมาด

좋은 소설을 무료로 찾아 읽어보세요
GoodNovel 앱에서 수많은 인기 소설을 무료로 즐기세요! 마음에 드는 책을 다운로드하고, 언제 어디서나 편하게 읽을 수 있습니다
앱에서 책을 무료로 읽어보세요
앱에서 읽으려면 QR 코드를 스캔하세요.
DMCA.com Protection Status