แชร์

บทที่ 44

ผู้เขียน: ใบไม้ร่วงในเมืองร้าง
“ทำดอกไม้ไฟ!” ฉินซูตอบแล้วเดินเข้ามา

“ท่านทำดอกไม้ไฟได้ด้วยหรือ?”

ทั้งฉงชูโม่และตู๋กูโฉ่วเยวี่ยดูประหลาดใจไปตาม ๆ กัน

ฉินซูพูดอย่างคลุมเครือ “นั่นมิใช่ประเด็น ในเมื่อหาผงดินปืนได้ยาก เช่นนั้นพวกเจ้าไปซื้อดินประสิว กำมะถัน และถ่านไม้มาให้ข้าหน่อย”

“กำมะถันและถ่านหาซื้อได้ทั่วไป ข้ามิเคยได้ยินเรื่องดินประสิวที่องค์รัชทายาทพูดถึงมาก่อน เจ้ารู้ไหมว่ามันคืออะไร ชูโม่?”

“ข้ามิรู้ ในเมื่อองค์รัชทายาทบอกให้เจ้าไปหา เจ้าก็ไปลองหาดูสิ”

“เอาเถอะ พวกท่านทั้งสองรอข้าอยู่ที่นี่ ข้าจะไปลองถามคนดู”

ตู๋กูโฉ่วเยวี่ยหันหลังกลับ และหายลับเข้าไปในฝูงชน

ฉงชูโม่มองไปรอบ ๆ และถามด้วยน้ำเสียงเบา “องค์รัชทายาท ท่านยังมิได้ตอบคำถามเมื่อคืนของหม่อมฉันเลยนะเพคะ?”

“เรื่องที่ว่าเหตุใดเมื่อคืนนี้ข้าถึงเลือดกำเดาไหล ข้าก็ตอบคำถามของเจ้าไปแล้วมิใช่หรือ?”

“ฉินซู ท่านอย่าบีบให้หม่อมฉันลงมือต่อหน้าธารกํานัล อย่าลืมว่าหม่อมฉันได้รับอนุญาตจากองค์จักรพรรดิ หากท่านกล้าต่อต้าน ก็ถือว่าท่านขัดต่อราชโองการ!”

ฉินซูพูดอย่างมิสบอารมณ์ว่า “เช่นนั้นเจ้าอยากจะถามสิ่งใดเล่า? ข้าจะตอบตามจริงก็แล้วกัน”

“ท่านอยู่ในระดับใดกั
บทที่ถูกล็อก
อ่านต่อที่ GoodNovel
สแกนรหัสเพื่อดาวน์โหลดแอป

บทที่เกี่ยวข้อง

  • องค์รัชทายาทแห่งต้าเหยียน   บทที่ 45

    เหล่าสตรีล้อมรอบฉงชูโม่ทันที ทั้งยังลูบไล้มือและใบหน้าของนางอีกด้วย“คุณชายหล่อเหลาจริง ๆ มาเลยเจ้าค่ะ วันนี้ตัวพี่หญิงอารมณ์ดี จะขอบริการท่านฟรีสักครั้ง”“ใช่ ใช่ ใช่ ค่าใช้จ่ายของท่านพวกเราจัดการเอง วันนี้เราจะผลัดกันดูแลท่าน รับรองว่าท่านจะติดใจจนลืมมิลง”หญิงสาวเหล่านั้นหัวเราะคิกคักไม่หยุด และลากฉงชูโม่เข้าไปยังหอบุปผาเมลัยฉงชูโม่อับอาย และตะโกนอย่างโกรธจัดว่า “ปล่อยข้า ปล่อยข้าเดี๋ยวนี้!”“เอ๋ คุณชายอย่าอายไปเลย พวกเรามิทำรุนแรงหรอก”“ดูสิว่าท่านร้อนรนเพียงใด ยังบริสุทธิ์อยู่ใช่หรือไม่?”“ดูเหมือนจะใช่ ฮิฮิ ท่านผ่อนคลายเถิด เราจะมิทำให้ท่านเจ็บหรอกเจ้าค่ะ”พวกนางลากฉงชูโม่ขึ้นไปชั้นบนใบหน้าอันงดงามของฉงชูโม่เย็นชา เตรียมจะลงมือในเวลานี้ มีสตรีนางหนึ่งบังเอิญสัมผัสหน้าอกของนางและอุทานว่า “เจ้าเป็นสตรีรึ?!”“หือ? สตรี?”“ถุย ถุย ถุย เราก็นึกว่าเจ้าเป็นบุตรชายตระกูลเศรษฐี ที่ไหนได้กลับเป็นสตรี รีบไปให้พ้นเลย!”สตรีหลายคนถ่มน้ำลายด้วยสีหน้ามิพอใจฉงชูโม่จ้องมองพวกนาง แต่ก็มิอยากต่อปากต่อคำด้วย จึงหันหลังกลับแล้วลงไปชั้นล่างในเวลานี้เอง นางเงยหน้าขึ้นมองชั้นบนโดยมิไ

  • องค์รัชทายาทแห่งต้าเหยียน   บทที่ 46

    เมื่อได้ยินเช่นนี้ ฉินซูก็เดินไปที่ห้องที่หนึ่งและเตะประตูให้เปิดออกแต่เพื่อมิให้ฉงชูโม่สงสัย เขาจึงมิได้ใช้กำลังมากนักเมื่อเห็นว่าเขามิแม้แต่จะเตะเปิดประตูได้ ฉงชูโม่ก็พูดด้วยสีหน้ารังเกียจ “หลีกไป หม่อมฉันเอง”หลังจากพูดอย่างนั้น นางก็เตะประตูให้เปิดออก ในห้องนั้น ชายวัยกลางคนคนหนึ่งกำลังกอดหญิงสาวที่ดูเย้ายวน และนอนอยู่บนเตียงในสภาพเปลือยเปล่าเมื่อเห็นฉากนี้ ฉงชูโม่ก็หันหลังหนีทันที อยากจะควักลูกตาออกมาล้างให้สะอาดเสียเดี๋ยวนั้นในเวลานี้ คนทั้งสองบนเตียงก็สังเกตเห็นว่าประตูถูกเปิดออก พวกเขาก็ตกใจกลัวอย่างมากชายวัยกลางคนตะโกนด่า “พวกเจ้าเป็นใคร กล้ามารบกวนความสำราญของข้า เจ้าจะเชื่อหรือไม่หากข้าบอกว่าข้าจะฆ่าพวกเจ้า รีบไสหัวออกไปเดี๋ยวนี้!”ฉินซูเหลือบมองบุคคลนี้ และจำเขาได้ทันทีเขาคือเส้าหวยอัน รองเสนาบดีกรมโยธาธิการ!“รองเสนาบดีเส้า เพลิดเพลินมิเบาเลยนะ กล้ามามั่วสุมที่หอบุปผาเมลัยกลางวันแสก ๆ ช่างทำให้ข้าเปิดหูเปิดตาจริง ๆ!”หลังจากที่เส้าหวยอันจำฉินซูได้ในชุดลำลองได้ ใบหน้าของเขาก็ซีดเผือดด้วยความหวาดกลัวเขารีบหยิบกางเกงขึ้นมา กลิ้งตัวลงจากเตียงอย่างทุลักทุเล

  • องค์รัชทายาทแห่งต้าเหยียน   บทที่ 47

    วิชานี้ลึกซึ้งยิ่งนัก จนแม้แต่เขาเองก็ยังมิอาจเข้าใจได้อย่างถ่องแท้และเขาก็รู้สึกได้โดยสัญชาตญาณว่า หากฝึกฝนวิชานี้ได้ถึงขีดสุด จะต้องทรงพลังมากอย่างแน่นอน“มิคิดเลยว่า หลังจากเดินทางมายังโลกนี้แล้ว ฉันจะได้พบกับวิชาที่ลึกล้ำเช่นนี้ ดูเหมือนว่าตาแก่คนนี้จะมีอะไรดีจริง ๆ สินะ!”ฉินซูพึมพำด้วยความประหลาดใจต่อมาเขาเปลี่ยนสีหน้าเป็นจริงจัง แล้วถามว่า “จี้หยกนี้มีชื่อเจ้าของสลักอยู่ เจ้ากล้าสวมมันบนร่างกายของเจ้าได้อย่างไร? คิดจะรนหาที่ตายหรือ?”“องค์รัชทายาท โปรดไว้ชีวิตหม่อมฉันด้วย หม่อมฉันมิรู้หนังสือ เมื่อมิกี่วันก่อน เมื่อหม่อมฉันบังเอิญเจอสิ่งนี้ตอนที่เข้าไปหลบฝนในวัดศาลหลักเมืองร้าง หม่อมฉันจึงหยิบติดมือมา หากหม่อมฉันรู้ว่านี่เป็นขององค์รัชทายาท หม่อมฉันคงมิกล้าเอามาเป็นของตัวเองแน่เพคะ”เมื่อเห็นความเข้าใจผิดของนาง ฉินซูจึงมิใส่ใจจะอธิบาย ดังนั้นเขาจึงหยิบเงินหนึ่งตำลึงออกจากสาบเสื้อแล้วโยนให้อีกฝ่าย“หยกนี้ข้าจะเก็บไว้ เงินนี้เจ้าก็รับไป”สตรีคนนั้นรู้สึกปลื้มใจมาก จนมิรู้ว่าจะพูดอะไรอยู่ครู่หนึ่งตอนนั้นเอง ตู๋กูโฉ่วเยวี่ยก็เดินขึ้นมาเมื่อเขาเห็นเส้าหวยอัน เขาก็พูดด้ว

  • องค์รัชทายาทแห่งต้าเหยียน   บทที่ 48

    ฉินซูเอามือไพล่หลังแล้วเย้ยหยัน “ข้าใส่ร้ายเจ้าหรือ?”“องค์รัชทายาทใส่ร้ายกระหม่อมหรือไม่ ท่านน่าจะรู้อยู่แก่ใจดี?”เส้าหวยอันประสานมือโค้งคำนับไปทางฉินอู๋ต้าวอีกครั้งและกล่าวต่อด้วยท่าทางน่าเชื่อถือ “ฝ่าบาท ที่กระหม่อมใกล้ชิดกับอ๋องจิ้นล้วนมิใช่ความลับ องค์รัชทายาทจึงมิลังเลที่จะใส่ร้ายกระหม่อม คิดจะใช้กระหม่อมเป็นเครื่องมือปราบอ๋องจิ้น และสร้างอำนาจของตน หวังว่าฝ่าบาทจะทรงพิจารณาอย่างรอบคอบพ่ะย่ะค่ะ!”เมื่อได้ยินสิ่งนี้ ดวงตาของฉินอู๋ต้าวก็หรี่ลงเล็กน้อยใบหน้าอันสง่างามของเขาเผยแววสงสัยออกมาอยู่บ้าง และมองไปที่ฉินซูอย่างสงบแม้ว่าเขาจะมิได้พูดอะไร แต่ก็เห็นได้ชัดว่าเขากำลังรอคำอธิบายของฉินซูฉินซูยังคงยืนไพล่มือไปทางด้านหลัง มองเส้าหวยอันด้วยรอยยิ้มเย้ยหยันเมื่อเห็นสิ่งนี้ ฉินอู๋ต้าวจึงถามว่า “รัชทายาท รองเสนาบดีเส้าบอกว่าเจ้าใส่ร้ายเขา เช่นนั้นเจ้าจะมิอธิบายหรือ?”“เสด็จพ่อ ลูกคิดว่าเดี๋ยวน้องหกก็จะมาที่นี่แล้ว หลังจากที่เขามา เขาจะขอให้ลูกแสดงหลักฐานอย่างแน่นอน ดังนั้นเรารอจนกว่าเขาจะมาถึงก่อนจะดีกว่าพ่ะย่ะค่ะ”ทันทีที่ฉินซูพูดจบ เสียงของขันทีหนุ่มก็ดังมาจากด้านนอกประตู

  • องค์รัชทายาทแห่งต้าเหยียน   บทที่ 49

    เมื่อได้ยินความหมายในคำพูดของเส้าหวยอัน กลายเป็นว่าตู๋กูโฉ่วเยวี่ยและองค์รัชทายาทร่วมมือกันจงใจใส่ร้ายเขา สิ่งนี้จะมิทำให้เขาโกรธได้อย่างไรเส้าหวยอันรีบแก้ต่าง “ข้ามิได้หมายความเช่นนั้น ข้าเพียงต้องการบอกว่า องค์รัชทายาทส่งคนมาตีหัวข้า พระองค์พาข้าไปที่หอบุปผาเมลัยแล้วก็แจ้งให้สำนักหอดูดาวหลวงของเจ้ารู้ เพื่อที่เจ้าจะได้จับข้าคาหนังคาเขา”ตู๋กูโฉ่วเยวี่ยดุด้วยความโกรธ “โกหก นอกจากองค์รัชทายาทแล้ว ชูโม่ก็อยู่ที่นั่นด้วยในเวลานั้น หรือท่านจะบอกว่า ชูโม่ก็ร่วมกับองค์รัชทายาทใส่ร้ายท่านด้วยเล่า”เส้าหวยอันวิงวอนทั้งน้ำมูกน้ำตากับฉินอู๋ต้าว “ฝ่าบาท ข้าน้อยถูกกล่าวหาอย่างมิยุติธรรมจริง ๆ ในเวลานั้นมีเพียงองค์รัชทายาทและชายหนุ่มที่ค่อนข้างหล่อเหลาคนหนึ่งเท่านั้น แต่ตอนนี้ตู๋กูโฉ่วเยวี่ยกลับบอกว่าชูโม่ก็อยู่ที่นั่นด้วย พวกเขาใส่ร้ายกระหม่อมเช่นนี้ กระหม่อมมิสามารถโต้แย้งอะไรได้จริง ๆ พ่ะย่ะค่ะ"ฉินเหยี่ยนหรี่ตาลงเล็กน้อยและพูดอย่างมีความหมาย “เสด็จพ่อ สำนักหอดูดาวหลวงเป็นดาบที่เสด็จพ่อพึ่งพามากที่สุด แต่ตอนนี้ดาบเล่มนี้ดูเหมือนจะเข้าข้างองค์รัชทายาทแล้ว นั่นแสดงให้เห็นว่า วิธีการขององค์รั

  • องค์รัชทายาทแห่งต้าเหยียน   บทที่ 50

    ทันทีที่ฉินซูพูดจบ เขาก็ป้ายลงไปที่ใต้จมูกของฉงชูโม่สองครั้งทันใดนั้นฉงชูโม่ก็ดูเหมือนจะไว้หนวดเคราขึ้นมาแล้ว!“องค์รัชทายาท ท่าน...”ฉงชูโม่กำลังจะโกรธ เมื่อเขาเห็นฉินซูวาดหนวดเคราบนหน้าตัวเองต่อหน้าธารกำนัลฉินซูรีบอธิบายว่า “มีเพียงวิธีนี้เท่านั้นที่รองเสนาบดีเส้าจะจำเจ้าได้ แม่ทัพฉงอดทนหน่อยแล้วกัน”เมื่อได้ยินสิ่งนี้ ฉงชูโม่ก็มิอยากจะเช็ดหมึกออกจากใบหน้า ขณะเดียวกันก็ยังสงสัยว่า หมึกบนมือของฉินซูมาจากที่ใดเมื่อเส้าหวยอันเห็นฉงชูโม่ในเวลานี้ ใบหน้าของเขาก็ซีดเผือดลงเม็ดเหงื่อขนาดใหญ่พอ ๆ กับถั่วหล่นลงมาบนหน้าผากของเขา ทำให้เขาตื่นตระหนกจนสิ้นท่าเมื่อเห็นเขาเป็นเช่นนี้ หัวใจของฉินเหยี่ยนก็จมดิ่งลง และรู้สึกได้ถึงลางร้ายฉินซูถามด้วยรอยยิ้ม “รองเสนาบดีเส้า เหตุใดเจ้าจึงเหงื่อออกมากนัก? เจ้าร้อนมากเลยรึ?”“กระหม่อม… กระหม่อม… กระหม่อม…”เส้าหวยอันพูดมิออก ได้แต่อ้ำอึ้งอยู่อย่างนั้น และเอาแต่เช็ดเหงื่อเย็นบนหน้าผากของเขาไปเรื่อย ๆในเวลานี้ ฉินอู๋ต้าวก็รู้ว่าเส้าหวยอันกำลังทำตัวมีพิรุธเขาจึงถามฉงชูโม่ว่า “ชูโม่ เรื่องมันเป็นอย่างไร?”“ทูลฝ่าบาท ในเวลานั้น หม่อมฉันกำล

  • องค์รัชทายาทแห่งต้าเหยียน   บทที่ 51

    “หม่อมฉันรับพระบัญชาเพคะ!”ฉงชูโม่ประสานมือโค้งคำนับ แล้วจากไปเช่นกันฉินอู๋ต้าวขมวดคิ้ว พึมพำกับตัวเองว่า “องค์รัชทายาทที่กำลังจะถูกปลด กลับพูดว่าจะทำดอกไม้ไฟ ฮึ ก็ดี ข้าจะรอดูว่าอย่างเจ้าจะทำอะไรออกมาได้”......นอกวังหลวงฉินเหยี่ยนพูดด้วยน้ำเสียงประชดประชันว่า “เสด็จพี่รัชทายาท บัญชีนี้ข้าจำไว้แล้ว เราคอยดูกันต่อไป!”หลังจากพูดทิ้งท้าย เขาก็เดินจากไปโดยมิหันกลับมามองฉินซูก็คร้านจะต่อล้อต่อเถียงกับเขา เดินไปทางตำหนักบูรพาอย่างสบายอารมณ์ตู๋กูโฉ่วเยวี่ยก็เดินตามไปติด ๆระหว่างทางกลับ ฉินซูถามอย่างเนียน ๆ ว่า “ตู๋กูโฉ่วเยวี่ย เขาว่าอาจารย์ของเจ้าเป็นยอดฝีมืออันดับหนึ่งของเมืองหลงเฉิง นี่มิใช่คำพูดเกินจริงใช่หรือไม่?”“แน่นอนว่ามิใช่พ่ะย่ะค่ะ ด้วยความสามารถของเขา หากมองไปทั่วทั้งแคว้นต้าเหยียน เกรงว่าคงมีมิกี่คนที่เป็นคู่ต่อสู้ของเขาได้พ่ะย่ะค่ะ”“แล้วเจ้าในฐานะศิษย์ของเขา เจ้ารู้หรือไม่ว่าวรยุทธที่เขาชำนาญที่สุดคืออะไร?”ตู๋กูโฉ่วเยวี่ยกล่าวโดยมิต้องคิดเลย “แน่นอนว่าเป็นยุทธที่เขาคิดค้นขึ้นมาเอง วิชาจิตแห่งอนันต์ นี่เป็นวรยุทธทักษะการฝึกจิตให้แข็งแกร่งที่ลึกซึ้ง แม้แต่คนฉ

  • องค์รัชทายาทแห่งต้าเหยียน   บทที่ 52

    ตู๋กูโฉ่วเยวี่ยถามกลับด้วยความอยากรู้อยากเห็นเล็กน้อย “เรื่องอันใดหรือพ่ะย่ะค่ะ?”“ไปรวบรวมหลักฐานความผิดของอ๋องจิ้นและอ๋องฉีให้ข้า! ตราบใดที่ตัวข้าโค่นพวกเขาได้ ตำแหน่งของข้าก็จะไม่มีใครทำให้สั่นคลอนได้ อย่างน้อยก็จนถึงวันชุนเฟินปีหน้า! ถึงตอนนั้น เจ้าก็จะมีเวลาได้อยู่กับฉงชูโม่มากขึ้น!”ฉินซูคิดว่า ตู๋กูโฉ่วเยวี่ยจะตอบตกลงโดยมิลังเลแต่กลับกลายเป็นว่าเขาส่ายหัวอย่างหนักแน่น และพูดว่า “องค์รัชทายาท กระหม่อมช่วยเรื่องนี้มิได้พ่ะย่ะค่ะ ข้อแรก ห้ามเข้าไปยุ่งเกี่ยวกับการต่อสู้แย่งชิงอำนาจภายในพรรค นี่คือกฎเหล็กของสำนักหอดูดาวหลวงของเรา ข้อสอง หากอาจารย์เฒ่าของกระหม่อมรู้ว่า กระหม่อมยังคงช่วยเหลือท่าน เขาจะต้องหักขากระหม่อม แล้วขังข้าไว้สามถึงห้าปีเป็นแน่”“ไม่หรอกกระมัง? อย่างไรเจ้าก็เป็นศิษย์เขา เขาจะใจร้ายขนาดนี้เชียวหรือ?”“แม้แต่ศิษย์พี่หญิงใหญ่ยังถูกเขาขังมาเป็นปีแล้ว ตอนนี้ยังไม่มีทีท่าว่าจะปล่อยเลย ท่านว่าเขาใจร้ายหรือไม่เล่า?”“หืม? เจ้ายังมีศิษย์พี่หญิงใหญ่ด้วยรึ?” จุดนี้ทำให้ฉินซูรู้สึกประหลาดใจตู๋กูโฉ่วเยวี่ยถอนหายใจเบา ๆ แล้วพูดว่า “เฮ้อ พูดแล้ว ศิษย์พี่หญิงใหญ่ก็ช่างเ

บทล่าสุด

  • องค์รัชทายาทแห่งต้าเหยียน   บทที่ 580

    เมื่อได้ยินคำพูดของฉินซู ทุกคนก็ชะงักไป และมองเขาด้วยสายตาที่แปลกไปเล็กน้อยสวี่จิ้นกล่าวด้วยความสงสัยว่า "องค์รัชทายาท พระองค์เข้าพระทัยผิดเกี่ยวกับธนูสองหินแล้วกระมังพ่ะย่ะค่ะ? ธนูที่แข็งแกร่งเช่นนี้ แม้แต่ทหารป้อมปราการที่กรำศึกมาอย่างโชกโชนก็แทบจะไม่มีใครดึงได้ นับประสากระไรกับคนธรรมดา"เหวินเยวี่ยนซานกล่าวสำทับ "ใช่แล้วพ่ะย่ะค่ะ ธนูสองหินต้องใช้กำลังแขนสองร้อยชั่งจึงจะดึงได้ ทหารป้อมปราการที่มีกำลังแขนแข็งแรงบางคนอาจจะทำได้ ทว่าหากใช้มันยิงศัตรู ยิงได้มิกี่ดอกก็หมดแรงเสียแล้ว ยากที่จะใช้ต่อเนื่องได้พ่ะย่ะค่ะ"ฉินซูโบกมือ "ใต้เท้าทั้งสอง ธนูของข้ามิเหมือนกับธนูทั่วไป นอกจากจะมีอานุภาพดุจธนูสองหินแล้ว ยังรับประกันได้ว่าคนธรรมดาก็ดึงได้ เพียงแต่มิรู้ว่ากรมโยธาธิการต้องใช้เวลานานเพียงใดจึงจะสร้างออกมาได้"เมื่อได้ยินดังนั้น เหล่าขุนนางระดับสูงต่างก็มองหน้ากันด้วยความสับสนธนูสองหินที่คนธรรมดาก็ดึงได้?เป็นไปได้อย่างไร!ฉินอู๋ต้าวบนบัลลังก์มังกรใบหน้าฉายแววประหลาดใจ เห็นได้ชัดว่าเขาสนใจธนูที่ฉินซูพูดมากสวี่จิ้นกล่าวอย่างมั่นใจว่า "องค์รัชทายาท ตราบใดที่มีแบบจำลอง กรมโยธาธิการข

  • องค์รัชทายาทแห่งต้าเหยียน   บทที่ 579

    ฉินซูเหลือบมองหวังฉือโดยมิรู้ตัวหวังฉือเองก็มองมาที่เขาด้วยท่าทีครุ่นคิดในเวลาเดียวกันทั้งสองสบตากัน ก็เข้าใจสิ่งที่อยู่ในใจของอีกฝ่ายหลังจากที่ฉินซูส่งซุยหลีไปแล้ว เขาก็กระซิบกับหวังฉือว่า "ซุยหลีเพิ่งทูลกับเสด็จพ่อว่า บุตรสาวของใต้เท้าหลิวมีดวงชะตาหยินสุดขั้ว ตกกลางคืนบุตรสาวของใต้เท้าหลิวก็ถูกลักพาตัวไปทันที หากบอกว่าทั้งสองเรื่องนี้มิเกี่ยวข้องกัน ท่านเชื่อหรือไม่?""ข้าน้อยมิเชื่อ แต่ประเด็นคือ ตอนนี้เราไม่มีหลักฐานที่เป็นรูปธรรม คงนำเรื่องนี้ไปตั้งคำถามกับฝ่าบาทมิได้ถูกหรือไม่พ่ะย่ะค่ะ?""แน่นอนว่ามิได้ แต่ตัวข้ากับท่านจำต้องรู้ว่าเสด็จพ่อทรงซ่อนความลับที่หาได้มีใครล่วงรู้ไม่เท่านั้น ส่วนร่างหยินบริสุทธิ์มีประโยชน์อย่างไร ข้าจะหาโอกาสถามหัวหน้าโหรหลวงในภายหลัง""ข้าน้อยเข้าใจพ่ะย่ะค่ะ แต่หัวหน้าโหรหลวงขอลาพักกับฝ่าบาท ช่วงนี้คงจะมิมาเข้าเฝ้า"ฉินซูชะงักไปเล็กน้อย แล้วเอ่ยถาม "เพราะเหตุใด?""เรื่องนี้ข้าน้อยเองก็มิทราบ เดาว่าเพราะท่านหัวหน้าโหรหลวงจะไปกักตนบำเพ็ญเพียรกระมังพ่ะย่ะค่ะ"เมื่อได้ยินดังนั้น ดวงตาฉินซูก็ฉายประกายเล็กน้อย และมิได้พูดอะไรอีกครู่ต่อมาในพระต

  • องค์รัชทายาทแห่งต้าเหยียน   บทที่ 578

    หวังฉือขมวดคิ้ว กล่าวด้วยสีหน้าที่เต็มไปด้วยความงุนงงว่า "องค์รัชทายาท ข้าน้อยยังมิเข้าใจว่าใครเป็นคนสังหารกู้ตงเฟิงกันแน่?""วรยุทธ์ของเจ้าปีศาจเฒ่าผู้นี้หาได้อ่อนด้อยไม่ หลังจากพักฟื้นหลายวัน อาการบาดเจ็บของเขาคงจะหายดีเจ็ดถึงแปดส่วนแล้ว คนที่สังหารเขาได้ อย่างน้อยก็ต้องเป็นจอมยุทธ์ระดับปฐพีขั้นกลางขึ้นไป มองไปทั่วเมืองหลงเฉิง เห็นจะมีจอมยุทธ์ระดับนี้อยู่เพียงหยิบมือ!""มีมิมากจริงดังท่านว่า ช่วงนี้ไม่มียอดฝีมือจากยุทธภพเข้ามาในเมือง นอกจากศิษย์ของหัวหน้าโหรหลวงสำนักหอดูดาวหลวงแล้ว คนที่มีฝีมือระดับนี้ก็มีแต่ยอดฝีมือในวังหลวงเท่านั้น..."พูดถึงตรงนี้ หวังฉือก็เบาเสียงลงเนื่องจากเพิ่งรู้ตัว "องค์รัชทายาท หรือนี่จะเป็นฝีมือของราชองครักษ์พ่ะย่ะค่ะ?""หากมีส่วนเกี่ยวข้องกับราชองครักษ์ เรื่องนี้คงหนีมิพ้นเสด็จพ่อ ตอนนี้เรายังไม่มีหลักฐานใด ๆ ท่านอย่าเพิ่งแพร่งพรายออกไปเด็ดขาด""วางพระทัยเถิดพ่ะย่ะค่ะ องค์รัชทายาท คำพูดเหล่านี้ข้าน้อยกล้าพูดกับพระองค์เท่านั้น""เช่นนั้นก็ดีแล้ว ให้พวกเขาค้นหาเบาะแสต่อไป ดูว่าจะพบบุตรสาวของใต้เท้าหลิวหรือไม่""รับพระบัญชา!"หวังฉือประสานมือคารวะแล้ว

  • องค์รัชทายาทแห่งต้าเหยียน   บทที่ 577

    "ได้ เช่นนั้นเจ้าก็ระวังตัวด้วย"หลิวเว่ยโบกมือให้ผู้ใต้บังคับบัญชายกร่างไร้วิญญาณของกู้ตงเฟิงไปสองเค่อต่อมาในห้องเก็บศพของศาลต้าหลี่ร่างไร้วิญญาณของกู้ตงเฟิงนอนอยู่บนแท่นหินเย็นเยียบหวังฉือมองดูอีกฝ่ายหลายครั้ง แต่ก็ยังมิอยากเชื่อสายตาตนเองเขาถามตงฟางไป๋ว่า "ใต้เท้าตงฟาง เจ้าแน่ใจหรือว่าเขาคือกู้ตงเฟิง?"ตงฟางไป๋พยักหน้าหนักแน่น "แน่ใจขอรับ เมื่อก่อนตอนที่พวกข้าท่องยุทธภพ เคยเจอเจ้าโจรเฒ่าผู้นี้หลายครา ข้าไม่มีทางจำหน้าตาของเขาผิดเป็นแน่"ในขณะนั้นเอง ฉินซูก็มาถึงทุกคนคารวะต่อเขาฉินซูโบกมือแล้วเดินเข้าไปอย่างรวดเร็วเมื่อเห็นร่างไร้วิญญาณของกู้ตงเฟิงบนแท่นหิน เขาก็แสดงสีหน้าประหลาดใจกู้ตงเฟิงตายแล้วจริง ๆ กระนั้นหรือ?!หากมิใช่เพราะรูปร่างหน้าตาน่าขนลุกของกู้ตงเฟิงตราตรึงจิตใจผู้พบเห็นเกินไป และแขนซ้ายที่ถูกทำลายไป ฉินซูคงอดสงสัยมิได้ว่าเขาจำผิดคนหรือไม่ฉินซูเลิกคิ้วถาม "พบศพของกู้ตงเฟิงที่ใด?""ทูลองค์รัชทายาท พบที่ตรอกผิงอี่ในตลาดหย่งเล่อพ่ะย่ะค่ะ! ข้าน้อยสำรวจบริเวณใกล้เคียงแล้ว มิพบเบาะแสอื่นใดเลยพ่ะย่ะค่ะ""แล้วพวกเจ้าพบศพของเขาได้อย่างไร?"ตงฟางไป๋จึงเล

  • องค์รัชทายาทแห่งต้าเหยียน   บทที่ 576

    เมื่อครู่ที่อยู่ในพระที่นั่งหย่างซิน ฉินซูมิเห็นสิ่งผิดปกติใด ๆ จากฉินอู๋ต้าวเขาอดคิดมิได้ว่า หรือเขาคิดมากไปเองจริง ๆ ?เขาหันกลับไปมองพระที่นั่งหย่างซิน ก่อนจะเดินจากไปหลังจากที่ฉินซูจากไปได้มินาน ชายคนหนึ่งก็เข้ามาในพระที่นั่งหย่างซินฉินอู๋ต้าวสั่งกับเขาว่า “ทำตามแผนที่วางไว้ จำไว้ให้ขึ้นใจว่า ห้ามทิ้งร่องรอยใด ๆ ไว้เป็นอันขาด!”“รับพระบัญชา!”หวงเฉาขานรับด้วยความเคารพ!หลังจากออกจากพระที่นั่งหย่างซิน หวงเฉาก็มาถึงนอกพระราชวังอย่างรวดเร็วเขาเหลือบมองซ้ายขวา เมื่อแน่ใจว่าไม่มีใครเห็น เขาก็หันหลังเข้าไปในร้านค้าแห่งหนึ่งมินานนัก เขาก็เดินออกมาจากข้างในตอนนี้เขาอยู่ในชุดท่องราตรีสีดำ ใบหน้าถูกปกคลุมด้วยผ้าสีดำ บนบ่าของเขามีกระสอบป่านใบหนึ่งพาดอยู่หลังจากออกจากร้านค้า เขาก็ใช้วิชาตัวเบาพุ่งตัวไปทางศาลต้าหลี่ในเวลาเดียวกันตงฟางไป๋และคนอื่น ๆ กำลังสำรวจตรอกแห่งหนึ่งในขณะนั้นเอง หางตาของตงฟางไป๋กระตุกเล็กน้อย เขาเหลือบไปเห็นเงาร่างหนึ่งพลิกตัวข้ามกำแพงมิไกลออกไปเขาพูดเสียงต่ำ “อยู่ตรงนั้น ตามไปเร็ว!”เหล่าทหารรักษาตำหนักได้ยินดังนั้นก็รีบติดตามไปอย่างรวดเร็วคนก

  • องค์รัชทายาทแห่งต้าเหยียน   บทที่ 575

    แต่จากตัวอักษรที่ปรากฏ มองออกมิยากว่านี่คือวิชายุทธขั้นสุดยอดชายชุดคลุมดำพยักหน้าอย่างพึงพอใจ “ดีมาก มิเสียแรงที่ข้าอุตส่าห์ลำบากช่วยเจ้า”กู้ตงเฟิงลังเลอยู่ครู่หนึ่ง ก่อนจะถามอย่างระมัดระวัง “ท่านผู้มีพระคุณ เมื่อไรข้าน้อยจะออกไปจากที่นี่ได้หรือขอรับ?”ชายชุดคลุมดำมองเขาด้วยสายตาเย็นชา แล้วถามกลับด้วยน้ำเสียงราบเรียบ “กระไรกัน? อยู่ที่นี่กับข้ามันทำให้เจ้าอึดอัดหรือ?”“หามิได้ ๆ ขอรับ ข้าน้อยมิได้หมายความเช่นนั้น เพียงแต่กังวลว่าศัตรูจะมาพบเข้า แล้วจะทำให้ท่านผู้มีพระคุณพลอยเดือดร้อนไปด้วยขอรับ”“เรื่องนี้เจ้าวางใจได้ ที่นี่เป็นสถานที่ที่ปลอดภัยที่สุดในใต้หล้า เจ้าแค่ตั้งใจกักตนบำเพ็ญเพียรอยู่ที่นี่ รอจนกว่าเรื่องซาลง ข้าจะปล่อยเจ้าไปเอง”ได้ยินดังนั้น กู้ตงเฟิงก็พยักหน้าอย่างครุ่นคิดในใจกลับคิดว่า สถานที่ที่ปลอดภัยที่สุดในใต้หล้า ดูเหมือนว่าที่นี่จะอยู่ในพระราชวังจริง ๆ เช่นนั้นแล้วคนที่อยู่ตรงหน้าเขา… หรือว่าจะเป็น...เขามิกล้าคิดต่อไป เพราะมิว่าเขาจะเดาถูกหรือไม่ก็ตาม ล้วนแต่ส่งผลต่อสภาพจิตใจของเขา......“องค์รัชทายาท ดึกดื่นป่านนี้แล้ว เหตุใดพระองค์ถึงเสด็จมาที่นี่พ่ะ

  • องค์รัชทายาทแห่งต้าเหยียน   บทที่ 574

    "องค์รัชทายาท เกิดเรื่องแล้วพ่ะย่ะค่ะ!"หวังฉือมาถึงตำหนักบูรพา ก็กล่าวด้วยสีหน้าเคร่งเครียดฉินซูพอจะคาดเดาได้จากสีหน้าวิตกกังวลของเขา "หรือว่ามีเด็กสาวถูกลักพาตัวไปอีกแล้ว?""ใช่แล้วพ่ะย่ะค่ะ คราวนี้เป็นบุตรสาวของหลิวเหวินซิน เสนาบดีกรมกลาโหมพ่ะย่ะค่ะ!""ท่านว่ากระไรนะ? บุตรสาวของเสนาบดีกรมกลาโหมรึ?!""ถูกต้องพ่ะย่ะค่ะ ก่อนที่ข้าน้อยจะมาที่นี่ หลิวเหวินซินได้ไปแจ้งความต่อศาลต้าหลี่ด้วยตนเอง ตอนนี้ผู้ตรวจการศาลต้าหลี่และทหารรักษาจวนของเขากำลังออกค้นหากันอยู่ แต่มิแน่ใจว่าเรื่องนี้เกี่ยวข้องกับ..."พูดถึงตรงนี้ หวังฉือก็หยุดพูด พร้อมกับชี้ขึ้นไปยังท้องฟ้าเหนือศีรษะฉินซูเข้าใจความหมายของเขาในทันที หากเป็นฝีมือขอองค์จักรพรรดิ บุตรสาวของเสนาบดีกรมกลาโหมต้องตกอยู่ในอันตรายใหญ่หลวงเป็นแน่เขาไตร่ตรองอยู่ครู่หนึ่งแล้วกล่าวว่า "เช่นนั้นตัวข้าจะใช้ข้ออ้างนี้ไปขอเข้าเฝ้าเพื่อหยั่งเชิงเสด็จพ่อดูสักหน่อย""มิได้พ่ะย่ะค่ะ องค์รัชทายาท หากเรื่องนี้เกี่ยวข้องกับฝ่าบาทจริง ๆ และฝ่าบาททรงล่วงรู้เรื่องนี้เข้า ฝ่าบาทอาจกระทำการบางอย่างก็เป็นได้"ที่หวังฉือมาถึงที่นี่ นอกจากกังวลว่าฉินซูจะรีบไ

  • องค์รัชทายาทแห่งต้าเหยียน   บทที่ 573

    บนกำแพงวังเต็มไปด้วยหน่วยตรวจตรา ทว่ากลับไม่มีใครสังเกตเห็นสิ่งผิดปกติใด ๆในขณะเดียวกันจวนหลังใหญ่ทางทิศตะวันตกของเมืองชายวัยห้าสิบคนหนึ่งกำลังสนทนากับเหล่าผู้ใต้บังคับบัญชาอยู่ที่ห้องรับรองเขาผู้นี้คือหลิวเหวินซิน เสนาบดีกรมกลาโหมเขาขมวดคิ้วเล็กน้อย พลางกล่าวพึมพำ “มิคิดว่าครั้งนี้แคว้นหนานเยวี่ยจะจริงจังถึงขั้นนี้ สงครามปะทุขึ้นแล้ว ชาวบ้านแถบชายแดนทางใต้ต้องทุกข์ยากเพราะสงครามอีกคราแล้วสินะ”“ใต้เท้าหลิว ที่ชายแดนทางใต้มีแม่ทัพฉงคุมทัพอยู่ คงจะไม่มีปัญหามากกระมังขอรับ?”“ใช่แล้ว มีแม่ทัพฉงอยู่ พวกคนนอกด่านแคว้นหนานเยวี่ยก็คงมิกล้าข้ามชายแดนแม้แต่ครึ่งก้าว”หลิวเหวินซินถอนหายใจเบา ๆ แล้วกล่าว “เมื่อเย็นนี้ กรมกลาโหมได้รับข่าวด่วนจากชายแดนทางใต้ พวกคนนอกด่านแบ่งกองทัพออกเป็นสามทางบุกโจมตีพร้อมกันสามด้านแม้ว่าจะมีแม่ทัพฉงคุมกองทัพอยู่ที่เมืองเจียวโจว แต่เวลานี้นางคงดูแลสองด้านมิไหวแน่เสนาบดีกรมกลาโหมไปเข้าเฝ้าฝ่าบาทแล้ว หวังว่าฝ่าบาทจะทรงอนุญาตให้ส่งกองทัพไปเสริมกำลังที่ชายแดนใต้ หากปล่อยให้ถูกโจมตีสามด้าน เมืองเจียวโจวคงจะต้านทานได้อีกมินาน”“ใต้เท้าหลิว เมื่อมินานมา

  • องค์รัชทายาทแห่งต้าเหยียน   บทที่ 572

    เหลยเจิ้นตอบจริงจังว่า “ข้าน้อยมิทำเช่นนั้นแน่ ข้าน้อยให้สัญญากับองค์รัชทายาทไปแล้วว่าจะให้เสวี่ยเจี้ยนแต่งงานกับท่าน ข้าน้อยไม่มีทางผิดคำพูดเป็นแน่พ่ะย่ะค่ะ!”“แต่แปลกนัก เหตุใดเสด็จพ่อถึงทรงตัดสินพระทัยเช่นนี้?”ฉินซูขมวดคิ้วแน่นกว่าเดิมตอนแรกเขาคิดว่าเหลยเจิ้นเปลี่ยนใจ แต่ตอนนี้กลับเห็นว่าอีกฝ่ายก็เองก็ดูมึนงงมิต่างกัน เห็นได้ชัดว่ามิทราบเรื่องราวภายในแม้แต่น้อยเขาอดสงสัยมิได้ว่า เสด็จพ่ออาจจะต้องการให้เขามีพระชายาหลายคน เพื่อมีบุตรสืบสกุลเพิ่มหรือไร?เมื่อคิดได้ดังนั้น เขาจึงถามเหลยเจิ้นด้วยความสงสัยว่า “หัวหน้าโหรหลวงคิดว่า เสด็จพ่อทรงมีพระประสงค์กระไรจึงได้ออกพระราชโองการครั้งนี้?”เหลยเจิ้นยักไหล่ “องค์รัชทายาททรงถามคำถามที่ยากเกินกว่าที่ข้าน้อยจะตอบได้ พระราชดำริของฝ่าบาทข้าน้อยจะคาดเดาได้อย่างไรพ่ะย่ะค่ะ”โธ่ มาสำนักหอดูดาวหลวงเสียเที่ยวแล้วฉินซูบ่นในใจแล้วจึงลาจากไปหลังจากที่ฉินซูจากไป เหลยเจิ้นก็ขมวดคิ้วพึมพำ“จู่ ๆ ฝ่าบาทก็มีพระราชโองการเลือกชายาให้องค์รัชทายาท ฝ่าบาททรงมีแผนอันใดกันแน่?”......บ่ายวันนั้นกรมพิธีการได้รับแผนภูมิดวงชะตาหลายร้อยฉบับนี่คือ

สแกนรหัสเพื่ออ่านบนแอป
DMCA.com Protection Status