แชร์

บทที่ 45

ผู้เขียน: ใบไม้ร่วงในเมืองร้าง
เหล่าสตรีล้อมรอบฉงชูโม่ทันที ทั้งยังลูบไล้มือและใบหน้าของนางอีกด้วย

“คุณชายหล่อเหลาจริง ๆ มาเลยเจ้าค่ะ วันนี้ตัวพี่หญิงอารมณ์ดี จะขอบริการท่านฟรีสักครั้ง”

“ใช่ ใช่ ใช่ ค่าใช้จ่ายของท่านพวกเราจัดการเอง วันนี้เราจะผลัดกันดูแลท่าน รับรองว่าท่านจะติดใจจนลืมมิลง”

หญิงสาวเหล่านั้นหัวเราะคิกคักไม่หยุด และลากฉงชูโม่เข้าไปยังหอบุปผาเมลัย

ฉงชูโม่อับอาย และตะโกนอย่างโกรธจัดว่า “ปล่อยข้า ปล่อยข้าเดี๋ยวนี้!”

“เอ๋ คุณชายอย่าอายไปเลย พวกเรามิทำรุนแรงหรอก”

“ดูสิว่าท่านร้อนรนเพียงใด ยังบริสุทธิ์อยู่ใช่หรือไม่?”

“ดูเหมือนจะใช่ ฮิฮิ ท่านผ่อนคลายเถิด เราจะมิทำให้ท่านเจ็บหรอกเจ้าค่ะ”

พวกนางลากฉงชูโม่ขึ้นไปชั้นบน

ใบหน้าอันงดงามของฉงชูโม่เย็นชา เตรียมจะลงมือ

ในเวลานี้ มีสตรีนางหนึ่งบังเอิญสัมผัสหน้าอกของนางและอุทานว่า “เจ้าเป็นสตรีรึ?!”

“หือ? สตรี?”

“ถุย ถุย ถุย เราก็นึกว่าเจ้าเป็นบุตรชายตระกูลเศรษฐี ที่ไหนได้กลับเป็นสตรี รีบไปให้พ้นเลย!”

สตรีหลายคนถ่มน้ำลายด้วยสีหน้ามิพอใจ

ฉงชูโม่จ้องมองพวกนาง แต่ก็มิอยากต่อปากต่อคำด้วย จึงหันหลังกลับแล้วลงไปชั้นล่าง

ในเวลานี้เอง นางเงยหน้าขึ้นมองชั้นบนโดยมิไ
บทที่ถูกล็อก
อ่านต่อที่ GoodNovel
สแกนรหัสเพื่อดาวน์โหลดแอป

บทที่เกี่ยวข้อง

  • องค์รัชทายาทแห่งต้าเหยียน   บทที่ 46

    เมื่อได้ยินเช่นนี้ ฉินซูก็เดินไปที่ห้องที่หนึ่งและเตะประตูให้เปิดออกแต่เพื่อมิให้ฉงชูโม่สงสัย เขาจึงมิได้ใช้กำลังมากนักเมื่อเห็นว่าเขามิแม้แต่จะเตะเปิดประตูได้ ฉงชูโม่ก็พูดด้วยสีหน้ารังเกียจ “หลีกไป หม่อมฉันเอง”หลังจากพูดอย่างนั้น นางก็เตะประตูให้เปิดออก ในห้องนั้น ชายวัยกลางคนคนหนึ่งกำลังกอดหญิงสาวที่ดูเย้ายวน และนอนอยู่บนเตียงในสภาพเปลือยเปล่าเมื่อเห็นฉากนี้ ฉงชูโม่ก็หันหลังหนีทันที อยากจะควักลูกตาออกมาล้างให้สะอาดเสียเดี๋ยวนั้นในเวลานี้ คนทั้งสองบนเตียงก็สังเกตเห็นว่าประตูถูกเปิดออก พวกเขาก็ตกใจกลัวอย่างมากชายวัยกลางคนตะโกนด่า “พวกเจ้าเป็นใคร กล้ามารบกวนความสำราญของข้า เจ้าจะเชื่อหรือไม่หากข้าบอกว่าข้าจะฆ่าพวกเจ้า รีบไสหัวออกไปเดี๋ยวนี้!”ฉินซูเหลือบมองบุคคลนี้ และจำเขาได้ทันทีเขาคือเส้าหวยอัน รองเสนาบดีกรมโยธาธิการ!“รองเสนาบดีเส้า เพลิดเพลินมิเบาเลยนะ กล้ามามั่วสุมที่หอบุปผาเมลัยกลางวันแสก ๆ ช่างทำให้ข้าเปิดหูเปิดตาจริง ๆ!”หลังจากที่เส้าหวยอันจำฉินซูได้ในชุดลำลองได้ ใบหน้าของเขาก็ซีดเผือดด้วยความหวาดกลัวเขารีบหยิบกางเกงขึ้นมา กลิ้งตัวลงจากเตียงอย่างทุลักทุเล

  • องค์รัชทายาทแห่งต้าเหยียน   บทที่ 47

    วิชานี้ลึกซึ้งยิ่งนัก จนแม้แต่เขาเองก็ยังมิอาจเข้าใจได้อย่างถ่องแท้และเขาก็รู้สึกได้โดยสัญชาตญาณว่า หากฝึกฝนวิชานี้ได้ถึงขีดสุด จะต้องทรงพลังมากอย่างแน่นอน“มิคิดเลยว่า หลังจากเดินทางมายังโลกนี้แล้ว ฉันจะได้พบกับวิชาที่ลึกล้ำเช่นนี้ ดูเหมือนว่าตาแก่คนนี้จะมีอะไรดีจริง ๆ สินะ!”ฉินซูพึมพำด้วยความประหลาดใจต่อมาเขาเปลี่ยนสีหน้าเป็นจริงจัง แล้วถามว่า “จี้หยกนี้มีชื่อเจ้าของสลักอยู่ เจ้ากล้าสวมมันบนร่างกายของเจ้าได้อย่างไร? คิดจะรนหาที่ตายหรือ?”“องค์รัชทายาท โปรดไว้ชีวิตหม่อมฉันด้วย หม่อมฉันมิรู้หนังสือ เมื่อมิกี่วันก่อน เมื่อหม่อมฉันบังเอิญเจอสิ่งนี้ตอนที่เข้าไปหลบฝนในวัดศาลหลักเมืองร้าง หม่อมฉันจึงหยิบติดมือมา หากหม่อมฉันรู้ว่านี่เป็นขององค์รัชทายาท หม่อมฉันคงมิกล้าเอามาเป็นของตัวเองแน่เพคะ”เมื่อเห็นความเข้าใจผิดของนาง ฉินซูจึงมิใส่ใจจะอธิบาย ดังนั้นเขาจึงหยิบเงินหนึ่งตำลึงออกจากสาบเสื้อแล้วโยนให้อีกฝ่าย“หยกนี้ข้าจะเก็บไว้ เงินนี้เจ้าก็รับไป”สตรีคนนั้นรู้สึกปลื้มใจมาก จนมิรู้ว่าจะพูดอะไรอยู่ครู่หนึ่งตอนนั้นเอง ตู๋กูโฉ่วเยวี่ยก็เดินขึ้นมาเมื่อเขาเห็นเส้าหวยอัน เขาก็พูดด้ว

  • องค์รัชทายาทแห่งต้าเหยียน   บทที่ 48

    ฉินซูเอามือไพล่หลังแล้วเย้ยหยัน “ข้าใส่ร้ายเจ้าหรือ?”“องค์รัชทายาทใส่ร้ายกระหม่อมหรือไม่ ท่านน่าจะรู้อยู่แก่ใจดี?”เส้าหวยอันประสานมือโค้งคำนับไปทางฉินอู๋ต้าวอีกครั้งและกล่าวต่อด้วยท่าทางน่าเชื่อถือ “ฝ่าบาท ที่กระหม่อมใกล้ชิดกับอ๋องจิ้นล้วนมิใช่ความลับ องค์รัชทายาทจึงมิลังเลที่จะใส่ร้ายกระหม่อม คิดจะใช้กระหม่อมเป็นเครื่องมือปราบอ๋องจิ้น และสร้างอำนาจของตน หวังว่าฝ่าบาทจะทรงพิจารณาอย่างรอบคอบพ่ะย่ะค่ะ!”เมื่อได้ยินสิ่งนี้ ดวงตาของฉินอู๋ต้าวก็หรี่ลงเล็กน้อยใบหน้าอันสง่างามของเขาเผยแววสงสัยออกมาอยู่บ้าง และมองไปที่ฉินซูอย่างสงบแม้ว่าเขาจะมิได้พูดอะไร แต่ก็เห็นได้ชัดว่าเขากำลังรอคำอธิบายของฉินซูฉินซูยังคงยืนไพล่มือไปทางด้านหลัง มองเส้าหวยอันด้วยรอยยิ้มเย้ยหยันเมื่อเห็นสิ่งนี้ ฉินอู๋ต้าวจึงถามว่า “รัชทายาท รองเสนาบดีเส้าบอกว่าเจ้าใส่ร้ายเขา เช่นนั้นเจ้าจะมิอธิบายหรือ?”“เสด็จพ่อ ลูกคิดว่าเดี๋ยวน้องหกก็จะมาที่นี่แล้ว หลังจากที่เขามา เขาจะขอให้ลูกแสดงหลักฐานอย่างแน่นอน ดังนั้นเรารอจนกว่าเขาจะมาถึงก่อนจะดีกว่าพ่ะย่ะค่ะ”ทันทีที่ฉินซูพูดจบ เสียงของขันทีหนุ่มก็ดังมาจากด้านนอกประตู

  • องค์รัชทายาทแห่งต้าเหยียน   บทที่ 49

    เมื่อได้ยินความหมายในคำพูดของเส้าหวยอัน กลายเป็นว่าตู๋กูโฉ่วเยวี่ยและองค์รัชทายาทร่วมมือกันจงใจใส่ร้ายเขา สิ่งนี้จะมิทำให้เขาโกรธได้อย่างไรเส้าหวยอันรีบแก้ต่าง “ข้ามิได้หมายความเช่นนั้น ข้าเพียงต้องการบอกว่า องค์รัชทายาทส่งคนมาตีหัวข้า พระองค์พาข้าไปที่หอบุปผาเมลัยแล้วก็แจ้งให้สำนักหอดูดาวหลวงของเจ้ารู้ เพื่อที่เจ้าจะได้จับข้าคาหนังคาเขา”ตู๋กูโฉ่วเยวี่ยดุด้วยความโกรธ “โกหก นอกจากองค์รัชทายาทแล้ว ชูโม่ก็อยู่ที่นั่นด้วยในเวลานั้น หรือท่านจะบอกว่า ชูโม่ก็ร่วมกับองค์รัชทายาทใส่ร้ายท่านด้วยเล่า”เส้าหวยอันวิงวอนทั้งน้ำมูกน้ำตากับฉินอู๋ต้าว “ฝ่าบาท ข้าน้อยถูกกล่าวหาอย่างมิยุติธรรมจริง ๆ ในเวลานั้นมีเพียงองค์รัชทายาทและชายหนุ่มที่ค่อนข้างหล่อเหลาคนหนึ่งเท่านั้น แต่ตอนนี้ตู๋กูโฉ่วเยวี่ยกลับบอกว่าชูโม่ก็อยู่ที่นั่นด้วย พวกเขาใส่ร้ายกระหม่อมเช่นนี้ กระหม่อมมิสามารถโต้แย้งอะไรได้จริง ๆ พ่ะย่ะค่ะ"ฉินเหยี่ยนหรี่ตาลงเล็กน้อยและพูดอย่างมีความหมาย “เสด็จพ่อ สำนักหอดูดาวหลวงเป็นดาบที่เสด็จพ่อพึ่งพามากที่สุด แต่ตอนนี้ดาบเล่มนี้ดูเหมือนจะเข้าข้างองค์รัชทายาทแล้ว นั่นแสดงให้เห็นว่า วิธีการขององค์รั

  • องค์รัชทายาทแห่งต้าเหยียน   บทที่ 50

    ทันทีที่ฉินซูพูดจบ เขาก็ป้ายลงไปที่ใต้จมูกของฉงชูโม่สองครั้งทันใดนั้นฉงชูโม่ก็ดูเหมือนจะไว้หนวดเคราขึ้นมาแล้ว!“องค์รัชทายาท ท่าน...”ฉงชูโม่กำลังจะโกรธ เมื่อเขาเห็นฉินซูวาดหนวดเคราบนหน้าตัวเองต่อหน้าธารกำนัลฉินซูรีบอธิบายว่า “มีเพียงวิธีนี้เท่านั้นที่รองเสนาบดีเส้าจะจำเจ้าได้ แม่ทัพฉงอดทนหน่อยแล้วกัน”เมื่อได้ยินสิ่งนี้ ฉงชูโม่ก็มิอยากจะเช็ดหมึกออกจากใบหน้า ขณะเดียวกันก็ยังสงสัยว่า หมึกบนมือของฉินซูมาจากที่ใดเมื่อเส้าหวยอันเห็นฉงชูโม่ในเวลานี้ ใบหน้าของเขาก็ซีดเผือดลงเม็ดเหงื่อขนาดใหญ่พอ ๆ กับถั่วหล่นลงมาบนหน้าผากของเขา ทำให้เขาตื่นตระหนกจนสิ้นท่าเมื่อเห็นเขาเป็นเช่นนี้ หัวใจของฉินเหยี่ยนก็จมดิ่งลง และรู้สึกได้ถึงลางร้ายฉินซูถามด้วยรอยยิ้ม “รองเสนาบดีเส้า เหตุใดเจ้าจึงเหงื่อออกมากนัก? เจ้าร้อนมากเลยรึ?”“กระหม่อม… กระหม่อม… กระหม่อม…”เส้าหวยอันพูดมิออก ได้แต่อ้ำอึ้งอยู่อย่างนั้น และเอาแต่เช็ดเหงื่อเย็นบนหน้าผากของเขาไปเรื่อย ๆในเวลานี้ ฉินอู๋ต้าวก็รู้ว่าเส้าหวยอันกำลังทำตัวมีพิรุธเขาจึงถามฉงชูโม่ว่า “ชูโม่ เรื่องมันเป็นอย่างไร?”“ทูลฝ่าบาท ในเวลานั้น หม่อมฉันกำล

  • องค์รัชทายาทแห่งต้าเหยียน   บทที่ 51

    “หม่อมฉันรับพระบัญชาเพคะ!”ฉงชูโม่ประสานมือโค้งคำนับ แล้วจากไปเช่นกันฉินอู๋ต้าวขมวดคิ้ว พึมพำกับตัวเองว่า “องค์รัชทายาทที่กำลังจะถูกปลด กลับพูดว่าจะทำดอกไม้ไฟ ฮึ ก็ดี ข้าจะรอดูว่าอย่างเจ้าจะทำอะไรออกมาได้”......นอกวังหลวงฉินเหยี่ยนพูดด้วยน้ำเสียงประชดประชันว่า “เสด็จพี่รัชทายาท บัญชีนี้ข้าจำไว้แล้ว เราคอยดูกันต่อไป!”หลังจากพูดทิ้งท้าย เขาก็เดินจากไปโดยมิหันกลับมามองฉินซูก็คร้านจะต่อล้อต่อเถียงกับเขา เดินไปทางตำหนักบูรพาอย่างสบายอารมณ์ตู๋กูโฉ่วเยวี่ยก็เดินตามไปติด ๆระหว่างทางกลับ ฉินซูถามอย่างเนียน ๆ ว่า “ตู๋กูโฉ่วเยวี่ย เขาว่าอาจารย์ของเจ้าเป็นยอดฝีมืออันดับหนึ่งของเมืองหลงเฉิง นี่มิใช่คำพูดเกินจริงใช่หรือไม่?”“แน่นอนว่ามิใช่พ่ะย่ะค่ะ ด้วยความสามารถของเขา หากมองไปทั่วทั้งแคว้นต้าเหยียน เกรงว่าคงมีมิกี่คนที่เป็นคู่ต่อสู้ของเขาได้พ่ะย่ะค่ะ”“แล้วเจ้าในฐานะศิษย์ของเขา เจ้ารู้หรือไม่ว่าวรยุทธที่เขาชำนาญที่สุดคืออะไร?”ตู๋กูโฉ่วเยวี่ยกล่าวโดยมิต้องคิดเลย “แน่นอนว่าเป็นยุทธที่เขาคิดค้นขึ้นมาเอง วิชาจิตแห่งอนันต์ นี่เป็นวรยุทธทักษะการฝึกจิตให้แข็งแกร่งที่ลึกซึ้ง แม้แต่คนฉ

  • องค์รัชทายาทแห่งต้าเหยียน   บทที่ 52

    ตู๋กูโฉ่วเยวี่ยถามกลับด้วยความอยากรู้อยากเห็นเล็กน้อย “เรื่องอันใดหรือพ่ะย่ะค่ะ?”“ไปรวบรวมหลักฐานความผิดของอ๋องจิ้นและอ๋องฉีให้ข้า! ตราบใดที่ตัวข้าโค่นพวกเขาได้ ตำแหน่งของข้าก็จะไม่มีใครทำให้สั่นคลอนได้ อย่างน้อยก็จนถึงวันชุนเฟินปีหน้า! ถึงตอนนั้น เจ้าก็จะมีเวลาได้อยู่กับฉงชูโม่มากขึ้น!”ฉินซูคิดว่า ตู๋กูโฉ่วเยวี่ยจะตอบตกลงโดยมิลังเลแต่กลับกลายเป็นว่าเขาส่ายหัวอย่างหนักแน่น และพูดว่า “องค์รัชทายาท กระหม่อมช่วยเรื่องนี้มิได้พ่ะย่ะค่ะ ข้อแรก ห้ามเข้าไปยุ่งเกี่ยวกับการต่อสู้แย่งชิงอำนาจภายในพรรค นี่คือกฎเหล็กของสำนักหอดูดาวหลวงของเรา ข้อสอง หากอาจารย์เฒ่าของกระหม่อมรู้ว่า กระหม่อมยังคงช่วยเหลือท่าน เขาจะต้องหักขากระหม่อม แล้วขังข้าไว้สามถึงห้าปีเป็นแน่”“ไม่หรอกกระมัง? อย่างไรเจ้าก็เป็นศิษย์เขา เขาจะใจร้ายขนาดนี้เชียวหรือ?”“แม้แต่ศิษย์พี่หญิงใหญ่ยังถูกเขาขังมาเป็นปีแล้ว ตอนนี้ยังไม่มีทีท่าว่าจะปล่อยเลย ท่านว่าเขาใจร้ายหรือไม่เล่า?”“หืม? เจ้ายังมีศิษย์พี่หญิงใหญ่ด้วยรึ?” จุดนี้ทำให้ฉินซูรู้สึกประหลาดใจตู๋กูโฉ่วเยวี่ยถอนหายใจเบา ๆ แล้วพูดว่า “เฮ้อ พูดแล้ว ศิษย์พี่หญิงใหญ่ก็ช่างเ

  • องค์รัชทายาทแห่งต้าเหยียน   บทที่ 53

    เมื่อพูดถึงตรงนี้ เซี่ยหลานก็ถามด้วยความตกใจว่า “ชูโม่ เจ้าคิดว่าเป็นไปได้หรือไม่ที่หลินชิงเหยาไม่มีที่ไป ดังนั้นจึงต้องไปที่ตำหนักบูรพา?”“หากเป็นเช่นนั้น เรื่องก็ง่ายขึ้นแล้ว กลัวก็แต่ว่านางจะไปที่นั่นพร้อมกับภารกิจ เช่นนั้นสถานการณ์ของนางก็ลำบากแล้ว”เซี่ยหลานมีสีหน้ามิเข้าใจ “ถึงนางจะไปที่นั่นพร้อมกับภารกิจ แล้วมันจะลำบากอะไร? องค์รัชทายาทก็ประกาศต่อหน้าทุกคนแล้วว่านางเป็นสตรีของพระองค์มิใช่หรือ?”ฉงชูโม่อธิบายด้วยสีหน้าเคร่งขรึมว่า “หลังจากที่ข้าลองสังเกตและทำความเข้าใจในช่วงสองวันที่ผ่านมา องค์รัชทายาทมิได้เรียบง่ายอย่างที่เห็นภายนอก แม้กระทั่งตอนนี้ ข้าก็ยังมีอาจมองพระองค์ได้อย่างทะลุปรุโปร่ง”“หา? องค์รัชทายาทก็แค่สุรุ่ยสุร่าย หมกมุ่นอยู่แต่กับสุราและนารีทั้งวันวี่มิใช่หรือ? พระองค์จะมิเรียบง่ายตรงไหนกัน?”“หากเจ้าคิดเช่นนั้นจริง ๆ เจ้าก็ประเมินพระองค์ต่ำไปแล้ว เอาเถอะ ข้าจะมิพูดอะไรมากไปกว่านี้ แค่จำไว้ว่าอย่าไปยุ่งกับองค์รัชทายาทมากนัก ข้ารู้สึกว่า องค์รัชทายาทมีอะไรบางอย่างที่ซ่อนอยู่”เซี่ยหลานเบ้ปากอย่างมิเห็นด้วย “ชูโม่ ข้าว่าเจ้าโดนเขาหลอกแล้วกระมัง ใคร ๆ ทั้งในและ

บทล่าสุด

  • องค์รัชทายาทแห่งต้าเหยียน   บทที่ 514

    เมื่อเห็นหยกครึ่งซีกนี้ ดวงตาของซ่างกวนอวิ๋นซีก็หดเล็กลง ใบหน้างดงามฉายแววตกใจ!หยกนี้เป็นหยกที่นางมอบให้ซือคงเหยียนเมื่อครานั้นพลังที่อยู่ภายในนั้นเทียบเท่ากับการลงมือของนางหนึ่งครั้งหลังจากฉินซูขว้างหยกนี้ออกไป พลันอุ้มกู้เสวี่ยเจี้ยนขึ้นมา แล้วร่างก็วูบหายไปในป่าเขาใช้ปราณบริสุทธิ์ในร่างกายอย่างเต็มที่ ความเร็วของเขาเร็วมากจนน่าตกตะลึงในขณะเดียวกันหลังจากที่หยกนั้นชนเข้ากับฝ่ามือลวงตาน่าสะพรึงกลัวนั้น มันก็แตกออกพลังอันน่าพรั่นพรึงระดับเดียวกันก็ปะทุออกมาจากภายในตู้ม...เสียงดังสนั่นหวั่นไหวระเบิดออก พื้นดินสั่นสะเทือนอย่างรุนแรง ปรากฏรอยแตกคล้ายใยแมงมุมมากมายภายใต้แรงกดดันมหาศาลนี้ ทำให้กลางลำต้นของต้นไม้เกือบทั้งหมดในรัศมีหลายลี้หักลง!โครม!จากป่าที่อยู่ไกลออกไปนั้นมีนกจำนวนนับมิถ้วนบินหนีออกกระจัดกระจายไปทุกทิศทางส่วนฉินซูและกู้เสวี่ยเจี้ยนหลบพ้นจากรัศมีของแรงระเบิดไปอย่างฉิวเฉียดเมื่อเห็นป่าด้านหลังถูกทำลายราบเป็นหน้ากลอง กู้เสวี่ยเจี้ยนก็ตกใจจนพูดมิออกฉินซูเองก็รู้สึกเสียวสันหลังมิแพ้กันแต่ตอนนี้เขาไม่มีเวลาให้คิดมาก พลันใช้ปราณทั้งหมดไปกับวิชาตัวเบ

  • องค์รัชทายาทแห่งต้าเหยียน   บทที่ 513

    เมื่อเห็นภาพนั้นฉินซูก็ขมวดคิ้ว รู้สึกได้ถึงลางร้ายซ่างกวนอวิ๋นซีส่งเสียงหึ "เจ้าฉินซู เจ้าองค์รัชทายาทผู้รอวันปลด กล้าสังหารบุตรแห่งนักปราชญ์และผู้อาวุโสหอดารารักษ์ของข้า วันนี้ ข้าจะให้เจ้าชดใช้ด้วยเลือด ตอบแทนด้วยชีวิต!"เมื่อสิ้นเสียง กลิ่นอายสังหารน่าสะพรึงกลัวก็พุ่งออกมาจากร่างของนางจากนั้นนางก็สะบัดสองนิ้ว ลำแสงกระบี่ราวกับจับต้องได้สายหนึ่งก็พุ่งตรงมาหาฉินซูฉินซูผลักกู้เสวี่ยเจี้ยนออกไป จากนั้นก็กำหมัดกระแทกออกทันใดเงาหมัดแฝงด้วยปราณวายุอันพลุ่งพล่านพุ่งเข้าปะทะกับปราณแห่งกระบี่ของซ่างกวนอวิ๋นซีตูม...หลังจากเสียงระเบิดดังขึ้น ฉินซูและซ่างกวนอวิ๋นซีก็ถอยหลังไปคนละก้าว!เมื่อเห็นดังนั้น กู้เสวี่ยเจี้ยนก็อ้าปากค้างจนกรามแทบหลุด!ซ่างกวนอวิ๋นซีเป็นถึงเจ้าสำนักหอดารารักษ์ วรยุทธ์ของนางกล้าแกร่ง เกรงว่าจะมิด้อยไปกว่าหัวหน้าโหรหลวงทีเดียวแต่บัดนี้ฉินซูกลับต่อสู้กับนางได้อย่างสูสี แล้วจะมิให้นางตกใจได้อย่างไร!นางย่อมมิรู้ว่า ตอนนี้พลังในร่างของซ่างกวนอวิ๋นซีถูกหัวหน้าโหรหลวงสะกดเอาไว้ วรยุทธ์จึงอยู่ที่ระดับสวรรค์ขั้นสูงสุดเท่านั้นส่วนฉินซูขมวดคิ้วและรู้สึกงุนงงเล็ก

  • องค์รัชทายาทแห่งต้าเหยียน   บทที่ 512

    "ว่ากระไรนะ? เจ้าสำนักหอดารารักษ์?!"ฉินซูเบิกตากว้าง แทบมิเชื่อสายตา!ไฉนเจ้าสำนักหอดารารักษ์จึงได้อ่อนเยาว์เช่นนี้?ในดวงตาคู่สวยของซ่างกวนอวิ๋นซีเผยความประหลาดใจ นางเหลือบมองกู้เสวี่ยเจี้ยนเมื่อเห็นลายปักกลุ่มดาวหมีใหญ่ที่ปักอยู่บนชุดของนาง ก็แค่นเสียงหัวเราะเย็นชา "ตาเจ้ายังพอมีแววอยู่บ้าง มิเสียทีที่เป็นศิษย์ของตาเฒ่าเหลยเจิ้นนั่น!"กู้เสวี่ยเจี้ยนหัวใจเย็นวาบ รีบกระซิบบอกกับฉินซู "เจ้าสำนักหอดารารักษ์มีพลังลึกล้ำเกินหยั่งถึง ควานหาทั่วต้าเหยียน มีเพียงอาจารย์ของหม่อมฉันเท่านั้นที่ต้านทานนางได้ ท่านหนีไปเถิด หม่อมฉันจะพยายามถ่วงเวลานางไว้ให้นานที่สุด"เมื่อได้ยินเช่นนั้น ฉินซูก็เผยรอยยิ้มขมขื่นตั้งแต่ที่ซ่างกวนอวิ๋นซีปรากฏตัว เขาก็รู้สึกได้ถึงแรงกดดันรุนแรงที่แผ่ซ่านมาจากนางนี่แสดงให้เห็นว่า พลังของอีกฝ่ายแข็งแกร่งจนน่าตกใจกู้เสวี่ยเจี้ยนต้องการถ่วงเวลานางก็มิต่างกระไรจากเรื่องเพ้อฝันเมื่อเห็นฉินซูนิ่งเฉย กู้เสวี่ยเจี้ยนก็เร่งเร้าอย่างร้อนรน "ไยท่านยังยืนอยู่อีก รีบไปเร็วเข้า"ฉินซูส่ายหน้าอย่างจนปัญญา "เจ้าถ่วงเวลานางมิได้หรอก อีกทั้งเป้าหมายของนางคือข้า เจ้าหลบไป

  • องค์รัชทายาทแห่งต้าเหยียน   บทที่ 511

    ฉินซูชะงักไป และจำใจต้องทำภารกิจอีกครั้งผ่านไปอีกกว่าสองเค่อ กู้เสวี่ยเจี้ยนจึงลุกขึ้นแต่งตัวอย่างพอใจนางมองฉินซูด้วยสายตาอ่อนโยน แล้วเร่งเร้า "ข้างนอกฝนหยุดแล้ว พวกเราเร่งเดินทางกันเถิด มิเช่นนั้นฟ้าจะมืดเสียก่อนไปถึงเป่ยเซียง"ดวงตาของฉินซูเป็นประกาย เขาเสนอ "หรือว่าเราจะออกเดินทางวันพรุ่งนี้?"กู้เสวี่ยเจี้ยนมองออกว่าฉินซูคิดอะไรอยู่ในใจ ทีแรกนางตั้งใจจะปฏิเสธ แต่แล้วกลับพยักหน้าตกลงอย่างน่าประหลาดเมื่อเห็นดังนั้นฉินซูก็ลิงโลด พลันรีบพูดต่อ "เช่นนั้นข้าจะไปจับกระต่ายป่าสักสองสามตัว คืนนี้พวกเรากินกระต่ายย่างกันเถอะ"ฉินซูรีบแต่งตัวแล้วเหาะออกไปกู้เสวี่ยเจี้ยนถอนหายใจเบา ๆ ดวงตาคู่งามเต็มไปด้วยความโศกเศร้ามินานฉินซูก็กลับมาพร้อมกับกระต่ายป่าที่ทำความสะอาดแล้วสองสามตัวหลังจากกินอิ่ม ท้องฟ้าก็มืดลงทั้งสองจึงนอนบนพื้นข้างกองไฟแต่ยังมิทันผล็อยหลับ กู้เสวี่ยเจี้ยนก็ปีนขึ้นคร่อมร่างฉินซูอีกครั้งคืนนั้น ฉินซูแทบมิได้นอนทั้งคืน!วันรุ่งขึ้นฉินซูขอบตาดำคล้ำและหาวมิหยุดส่วนกู้เสวี่ยเจี้ยนมีใบหน้าแดงเปล่งปลั่ง ดูสดชื่นกระปรี้กระเปร่าหลังจากออกจากถ้ำกู้เสวี่ยเจี้ยนก็ข

  • องค์รัชทายาทแห่งต้าเหยียน   บทที่ 510

    ด้านนอกถ้ำ พายุฝนยังคงตกกระหน่ำอย่างต่อเนื่องภายในถ้ำ เวลาเหมือนจะหยุดนิ่งฉินซูนอนอยู่บนพื้นราวกับกลายเป็นหิน มือทั้งสองยังกอดเอวบางของกู้เสวี่ยเจี้ยนไว้ส่วนกู้เสวี่ยเจี้ยนทอดกายบนร่างของเขา ริมฝีปากแดงอ่อนหวานของนางแนบสนิทกับริมฝีปากของเขาเข้าพอดีทั้งสองสบตากัน รู้สึกได้ถึงจังหวะการเต้นของหัวใจที่เร็วขึ้นเรื่อย ๆ!อุณหภูมิระหว่างกันก็ยิ่งชัดเจน!ฉินซูกลืนน้ำลายอย่างยากลำบาก กำลังจะทำอะไรบางอย่างแต่เมื่อสังเกตเห็นกระบี่ยาวข้าง ๆ กู้เสวี่ยเจี้ยน เขาก็เกิดลังเลหากเผลอทำให้กู้เสวี่ยเจี้ยนโกรธแล้วนางเกิดคิดฆ่าเขาขึ้นมาจะทำอย่างไร?เพราะท้ายที่สุดแล้ว นี่มิใช่ครั้งแรกกับกู้เสวี่ยเจี้ยน หากครั้งนี้ยังมิสามารถทำให้นางยอมจำนนด้วยใจจริงได้ ก็คงจะมีเพียงสวรรค์เท่านั้นที่รู้ว่านางจะทำเรื่องระห่ำอะไรออกมาแต่โอกาสดีเช่นนี้ ฉินซูมิอยากพลาดไปเลยจริง ๆในขณะที่เขากำลังลังเล ริมฝีปากแดงของกู้เสวี่ยเจี้ยนก็เริ่มขยับ!เห็นเพียงจมูกโด่งของนางเต็มไปด้วยลมหายใจร้อนระอุ ริมฝีปากคู่สวยจุมพิตลงบนริมฝีปากของฉินซูอย่างตะกละตะกลามฉินซูมีหรือจะทนไหว รีบตอบสนองอย่างกระตือรือร้นโดยมิรู้ตัว ทั้

  • องค์รัชทายาทแห่งต้าเหยียน   บทที่ 509

    "อะแฮ่ม… อะไรกันเล่า ฝนจะตก หญิงสาวจะออกเรือน เป็นเรื่องที่ห้ามมิได้ เจ้าจะโกรธเป็นฟืนเป็นไฟไปหาปะไร?""หม่อมฉันโกรธเพราะกระไร เจ้ามิรู้อยู่แก่ใจหรอกหรือ!""แค่ก ๆ ข้าไปหาฟืนแห้งมาดีกว่า"ฉินซูกล่าวจบก็เดินหลบไปตามผนังหินที่ยื่นออกมาด้านนอกถ้ำกู้เสวี่ยเจี้ยนแค่นเสียงเย็นชา "หึ ฝนตกหนักขนาดนี้ จะมีฟืนแห้งที่ไหน… ฮัดชิ้ว!"ยังมิทันสิ้นคำ นางก็จามออกมาช่วงต้นเหมันตฤดูผ่านไป อีกมิกี่วันก็จะเป็นช่วงหิมะโปรยปราย ดังนั้นเมื่อฝนตกจึงทำให้รู้สึกหนาวเป็นพิเศษกู้เสวี่ยเจี้ยนย่อตัวลงกับพื้น เอามือกอดอกแน่นลมหนาวพัดมาวูบหนึ่ง นางก็ตัวสั่นสะท้านอย่างห้ามมิได้นางอดมิได้ที่จะมองออกไปนอกถ้ำ ดวงตาคู่สวยเต็มไปด้วยความหวังแม้จะรู้สึกว่าเป็นไปได้ยาก ทว่ายามนี้นางก็หวังเป็นอย่างยิ่งว่าฉินซูจะหาฟืนแห้งมาจุดไฟได้มิฉะนั้นแม้ฝนข้างนอกจะหยุดตก ก็เป็นไปมิได้ที่จะเดินทางต่อด้วยอาภรณ์ที่เปียกชุ่มเช่นนี้ผ่านไปครู่หนึ่ง ฉินซูก็กลับมาเขาหอบฟืนแห้งกองใหญ่ในอ้อมแขนมาด้วย!เมื่อเห็นดังนั้น กู้เสวี่ยเจี้ยนก็ลุกขึ้นอย่างตื่นเต้น พลันรีบเร่งเร้า "เร็ว ๆ เข้า รีบจุดไฟเร็วเพคะ หม่อมฉันหนาวจะตายอยู่แล้ว!

  • องค์รัชทายาทแห่งต้าเหยียน   บทที่ 508

    ซ่างกวนอวิ๋นซีร่ายมือ โล่สีเขียวอ่อนก่อตัวรวมกันอยู่ตรงหน้านางในทันใดทว่าปราณดัชนีที่เหลยเจิ้นปล่อยออกมา กลับมิสนใจโล่ตรงหน้านาง พลันผ่าทะลุเข้าไปภายใต้สายตาตกตะลึงของซ่างกวนอวิ๋นซี ปราณดัชนีนั้นหายวับเข้าไปในร่างของนางในพริบตาในชั่วพริบตาต่อมานั้น ซ่างกวนอวิ๋นซีก็รู้สึกว่ามีพลังต้องห้ามบางอย่างเพิ่มเข้ามาในร่างเมื่อได้สติกลับคืนมา นางก็กระทืบเท้าด้วยโทสะ "เหลยเจิ้น เจ้าเฒ่าไร้สัจจะ ปลิ้นปล้อนกลับกลอก!""ข้าเพียงแต่สะกดการบ่มเพาะตนของเจ้าไว้เท่านั้น มิได้บอกว่าจะมิให้เจ้าไปหาองค์รัชทายาท แล้วจะหาว่าข้ากลับกลอกได้อย่างไร?""เจ้า!!"ซ่างกวนอวิ๋นซีโมโหจนแทบจะระเบิดอารมณ์ ดวงตาเบิกกว้างจ้องมองเหลยเจิ้นเหลยเจิ้นยักไหล่ "แม้การบ่มเพาะตนของเจ้าจะถูกข้าสะกดไว้ แต่อย่างน้อยก็ยังสามารถใช้วรยุทธ์ระดับสวรรค์ได้ เท่านี้ก็เพียงพอให้เจ้าจัดการกับผู้ฝึกยุทธ์ระดับสวรรค์ที่อาจปรากฏตัวในต้าเหยียนได้แล้ว""แล้วองค์รัชทายาทผู้รอวันถูกปลดของพวกเจ้าเล่า? เขาอยู่ในระดับใดกันแน่?"เหลยเจิ้นครุ่นคิดอยู่ครู่หนึ่งแล้วส่ายหน้าซ่างกวนอวิ๋นซีขมวดคิ้ว ถามอย่างมิพอใจ "เจ้าส่ายหน้าหมายความว่าอย่างไร?"

  • องค์รัชทายาทแห่งต้าเหยียน   บทที่ 507

    เหลยเจิ้นส่ายหน้าเบา ๆ “ขออภัย ทว่าคงทำเช่นนั้นมิได้”ใบหน้างดงามของซ่างกวนอวิ๋นซีเย็นชาลง นางกล่าวเสียงต่ำ “เจ้าจะบังคับให้ข้าลงมือใช่หรือไม่?”“ข้าเพียงต้องการเกลี้ยกล่อมให้เจ้ากลับไป หากเจ้าต้องการลงมือ ข้าก็พร้อมจะเป็นคู่มือ!”“ดี ถ้าเช่นนั้นข้าจะดูว่า วรยุทธ์ของเจ้าก้าวหน้าไปมากเพียงใดเมื่อเทียบกับห้าสิบปีก่อน!”เมื่อซ่างกวนอวิ๋นซีกล่าวจบ ก็ยื่นนิ้วเรียวสวยชี้ไปยังเหลยเจิ้นที่อยู่กลางเวหา!ทันใดนั้นพื้นที่โดยรอบก็ถูกบีบเข้าหากันอย่างกะทันหัน คล้ายกับกรงที่หดตัวเข้าหาเหลยเจิ้น“กลอุบายตื้น ๆ!”เหลยเจิ้นหัวเราะเยาะ เหยียบพื้นเบา ๆ ด้วยฝ่าเท้า“เคร้ง!”เสียงแตกดังขึ้น กรงไร้รูปธรรมของซ่างกวนอวิ๋นซีแตกสลายในทันใดเมื่อเห็นดังนั้น ดวงตาคู่งามของซ่างกวนอวิ๋นซีก็ฉายแววเคร่งขรึม ฉับพลันร่างของนางสั่นไหว กลายเป็นแสงพุ่งขึ้นสู่ท้องฟ้า!หลังจากหมุนตัวหนึ่งตลบ ก็พุ่งไปทางใต้เหลยเจิ้นส่งเสียงหึ ร่างของเขาก็กลายเป็นแสงวาบไล่ตามไปอย่างมิลดละ!บนห้วงเวหายามราตรีแสงสองสายคล้ายดาวตกไล่ตามดวงจันทร์พาดผ่านท้องฟ้าระหว่างนั้น แสงนุ่มนวลหลายสายพลันพุ่งออกมาจากแสงดาวตกสองสาย จากนั้นก็

  • องค์รัชทายาทแห่งต้าเหยียน   บทที่ 506

    สวีหลายเอ่ยถาม “มีเรื่องอันใด?”เฉิงผิงครุ่นคิดเล็กน้อยก่อนจะค่อย ๆ ตอบ “มินานมานี้ทั้งในและนอกราชสำนักต่างร่ำลือกันว่า องค์จักรพรรดิจะทรงปลดองค์รัชทายาทออกจากตำแหน่งหลังจากวันชุนเฟินปีหน้า ข่าวลือนี้เป็นจริงหรือเท็จ?”“จริงแท้แน่นอน”“แต่ข้ามิเข้าใจ หากองค์รัชทายาทจะถูกปลดในปีหน้า เหตุใดอ๋องฉีและอ๋องซิ่นต้องเสียเวลาหาเรื่องใส่ร้ายองค์รัชทายาทด้วย? แค่รอให้ถึงวันชุนเฟินปีหน้าก็พอแล้วมิใช่หรือ?”เฉิงอิงกล่าว “คงเป็นเพราะช่วงนี้องค์รัชทายาททรงโดดเด่นขึ้นมา พวกเขาจึงอยู่เฉยมิได้กระมัง”สวีหลายพยักหน้าเล็กน้อย “ถูกต้อง สถานการณ์ในราชสำนักเปลี่ยนแปลงอย่างรวดเร็วในพริบตา แม้ว่าฝ่าบาทจะทรงตัดสินพระทัยปลดองค์รัชทายาทออกจากตำแหน่งรัชทายาทหลังจากวันชุนเฟินปีหน้า ทว่าตราบใดที่วันนั้นยังมิมาถึง ทุกอย่างย่อมมีโอกาสพลิกผัน อ๋องซิ่นและอ๋องฉีจะร้อนใจก็เป็นเรื่องปกติ”เฉิงผิงขมวดคิ้วบ่นพึมพำ “แต่ข้ายังสงสัยอยู่ดี เหตุใดฝ่าบาทถึงทรงตัดสินพระทัยปลดองค์รัชทายาทในวันชุนเฟินปีหน้า? ในเมื่อทรงมีพระประสงค์เช่นนั้นแล้ว เหตุใดต้องรอถึงปีหน้า?”“ความคิดในพระทัยขององค์จักรพรรดิ ใครเลยจะคาดเดาได้”สวีหลายเ

สแกนรหัสเพื่ออ่านบนแอป
DMCA.com Protection Status