แชร์

บทที่ 39

ผู้เขียน: ใบไม้ร่วงในเมืองร้าง
ใบหน้าอันงดงามของฉงชูโม่เปลี่ยนเป็นเย็นชาและถามว่า “นี่ท่านหมายความว่าอย่างไร? หม่อมฉันฝ่าฝืนกฎเมื่อใดตอนไหนกัน?”

เมื่อเห็นการเผชิญหน้าระหว่างทั้งสองคน หลินชิงเหยาจึงรีบเข้ามาไกล่เกลี่ยและพูดว่า “พี่หญิงชูโม่ องค์รัชทายาทมิได้หมายความว่าเจ้าทำผิดกฎเกณฑ์ เจ้าเข้าใจผิดแล้ว”

“หลินชิงเหยา เจ้ายังมิได้ออกเรือนแท้ ๆ กลับพูดแทนเขาแล้วหรือ?”

“ข้า… ข้าแค่พูดความจริงก็เท่านั้น” หลินชิงเหยากระซิบด้วยความรู้สึกน้อยเนื้อต่ำใจ

“ชิงเหยา แม่ทัพฉงเพิ่งกลับมาจากสนามรบ นางย่อมมีอารมณ์ฉุนเฉียวเป็นธรรมดา เราอย่าไปถือสานางเลย”

“โอ้ หม่อมฉันรับทราบเพคะ”

ฉินซูยิ้มด้วยความพึงพอใจและพูดกับฉงชูโม่ “ดูสิ ข้าชอบนิสัยอ่อนหวานของชิงเหยา และนางยังเก่งการครัวอีก นางทั้งเข้าครัวได้และออกงานสังคมได้ แถมยังมีน้ำใจอีก เป็นคนที่น่าชื่นชมจริง ๆ”

เมื่อได้ยินฉินซูยกย่องตัวเอง หลินชิงเหยารู้สึกพึงพอใจในใจ

ฉงชูโม่พูดด้วยความมิพอใจเล็กน้อย “แค่เรื่องการครัว ใครๆ ก็ทำได้ มีอะไรน่าคุยโวกัน”

ฉินซูถามด้วยความประหลาดใจ “โอ้? แม่ทัพฉงก็รู้เรื่องการครัวด้วยหรือ?”

ฉงชูโม่เท้าเอว แล้วพูดอย่างภาคภูมิใจ “แน่นอนว่าหม่อมฉันทำได้!”
บทที่ถูกล็อก
อ่านต่อที่ GoodNovel
สแกนรหัสเพื่อดาวน์โหลดแอป

บทที่เกี่ยวข้อง

  • องค์รัชทายาทแห่งต้าเหยียน   บทที่ 40

    ฉินซูยิ้มอย่างชั่วร้ายและกระซิบข้างหูของฉงชูโม่ “แน่นอน เป็นเพราะได้เห็นรูปร่างอันน่าภาคภูมิใจของแม่ทัพฉงน่ะสิ!”“ฉ่า!”ใบหน้าอันงดงามของฉงชูโม่พลันเปลี่ยนเป็นสีแดงราวกับพระอาทิตย์ยามตกดินทันทีด้วยความโกรธ นางยกมือขึ้นตบหน้าฉินซู“โอ๊ย! หากเจ้าลงมือ ข้าจะเปิดเผยเรื่องเมื่อคืนออกไปนะ!”เมื่อได้ยินสิ่งนี้ ฉงชูโม่ก็รีบหยุดมือ และสาปแช่งอย่างเกลียดชังว่า “คนต่ำช้า ไร้ยางอาย!”“แหม เจ้าแอบเข้าไปอาบน้ำในบ่ออาบน้ำของข้า แล้วเจ้ายังแอบดูข้าและหลินชิงเหยาอีก... ข้ายังมิได้คิดบัญชีกับเจ้าเลย เจ้ายังกล้าเปิดปากพูดได้อีก!”“ถุย ถุย ถุย ใครแอบดูพวกท่านกัน หม่อมฉันเห็นภาพมิน่าดูนั่นก็ทำให้หม่อมฉันอยากจะควักลูกตาตัวเองออกมาล้างให้สะอาดแล้ว!”“ถ้าอย่างนั้นเจ้าก็ควักออกมาสิ!”“ท่าน… หึ หม่อมฉันมิเคยเห็นใครต่ำช้าและไร้ยางอายเช่นนี้มาก่อนเลย”ฉงชูโม่หันหลังกลับและจากไปด้วยความโกรธนางถึงกับลืมถามเรื่องระดับพลังของฉินซูไปเลยด้วยซ้ำฉินซูยิ้มอย่างภาคภูมิใจและกล่าวว่า “เด็กน้อย เรื่องอย่างนี้ ข้าจะใช้เวลามิกี่อึดใจก็จัดการเจ้าได้อยู่มือแล้ว!”ในเวลาเดียวกันในโถงหลักของสำนักหอดูดาวหลวง เหลยเจ

  • องค์รัชทายาทแห่งต้าเหยียน   บทที่ 41

    “มะเส็ง ฟ้าดินขัดแย้ง นี่คือสัญลักษณ์คำทำนายที่เป็นลางร้ายอย่างยิ่ง…”เขาบ่นแล้วเดินไปที่ประตูโถงมองขึ้นไปบนท้องฟ้าทางทิศใต้ในแววตาชราเฒ่าและลึกซึ้งนั้น มีร่องรอยของความกังวลที่หาได้ยาก…… ตำหนักบูรพาหลังจากที่ตู๋กูโฉ่วเยวี่ยเข้ามา เขาก็ไปเข้าเฝ้าฉินซูก่อนฝ่ายหลังพูดด้วยรอยยิ้ม “ตู๋กูโฉ่วเยวี่ย ข้าจะไปเดินเล่นที่ตลาด เจ้าไปกับข้าด้วยแล้วกัน”“พ่ะย่ะค่ะ กระหม่อมจะไปเรียกองครักษ์คนอื่น ๆ มาด้วย”หลังจากตู๋กูโฉ่วเยวี่ยพูดจบ เขาก็หันหลังกลับและจากไปฉินซูโบกมือแล้วพูดว่า “เอาพวกทหารองครักษ์ไปเยอะ ๆ คนอื่นคงรู้ว่าข้าเป็นองค์รัชทายาท จะสนุกตรงไหนกันเล่า”“เช่นนั้นองค์รัชทายาททรงหมายความว่า...”“เจ้าไปกับข้าก็พอ ด้วยความแข็งแกร่งของเจ้า เจ้ายังกลัวว่าจะมีใครมาสร้างปัญหาให้ข้าอีกรึ?”“จริงด้วย เชิญองค์รัชทายาทพ่ะย่ะค่ะ”ทั้งสองกำลังจะออกไปข้างนอก ตอนนั้นเองที่ฉงชูโม่รีบติดตามมาและถามว่า “องค์รัชทายาท พระองค์จะเสด็จไปที่ใดเพคะ?”“ไปเดินเล่นที่ตลาด มิเช่นนั้นอยู่แต่ในตำหนักบูรพาจะเบื่อตายเสียก่อน”“มิได้เพคะ ฝ่าบาทเคยรับสั่งให้หม่อมฉันคอยควบคุมให้ท่านอ่านตำรานักปราชญ์”ฉินซูข

  • องค์รัชทายาทแห่งต้าเหยียน   บทที่ 42

    ฉงชูโม่พูดอย่างน่าเชื่อถือ “แน่นอนว่าหม่อมฉันต้องจับตาดูท่าน มิให้ท่านก่อปัญหาอีก”“ฮ่าฮ่า ด้วยรูปลักษณ์ปานล่มเมืองเช่นเจ้า และรูปร่างหน้าตาเจ้าโดดเด่นกว่าผู้ใด หากติดตามข้าไป เกรงว่าเจ้าจะเป็นคนแรกที่สร้างปัญหา”เมื่อเห็นฉินซูหันกลับมาชมรูปร่างหน้าตาของนาง ฉงชูโม่ก็หน้าแดงโดยมิรู้ตัวนางพึมพำ “อย่างไรหม่อมฉันก็จะไปด้วย นี่เป็นพระราชโองการของฝ่าบาท หากองค์รัชทายาทคิดว่าหม่อมฉันดึงดูดความสนใจเกินไป เช่นนั้นหม่อมฉันจะไปเปลี่ยนชุด”“เช่นนั้นก็รีบไป”ฉงชูโม่รีบหันหลังกลับและเดินไปที่ห้องของตนมินานหลังจากนั้น นางก็เปลี่ยนมาสวมอาภรณ์บุรุษ และผมสีดำมันวาวของนางก็ถูกมัดด้วยปิ่นปักผมไม้แม้ว่าในเวลานี้นางจะแต่งตัวเป็นบุรุษ แต่ทั้งใบหน้าที่บอบบางไร้ที่ติของนาง และรูปร่างอันสะโอดสะองของนางก็ยังสะดุดตาเป็นพิเศษใครก็ตามที่มีสติปัญญาเพียงเล็กน้อยก็ยังสามารถบอกได้ว่า นางเป็นสตรีปลอมตัวเป็นบุรุษยิ่งไปกว่านั้น การสวมอาภรณ์ของบุรุษนี้ดูจะมิเข้ากับนางเอาเสียเลยฉินซูบ่นอย่างมิสบอารมณ์ “แม่ทัพฉง เจ้าคิดว่าเพียงเจ้าเปลี่ยนมาสวมอาภรณ์ของบุรุษ คนอื่นจะดูมิออกว่าเจ้าเป็นสตรีรึ?"“เช่นนั้นท่านคิด

  • องค์รัชทายาทแห่งต้าเหยียน   บทที่ 43

    “เขาเคยพูดกับข้าก่อน!”ฉินซูชี้ตรงไปที่ตู๋กูโฉ่วเยวี่ยฝ่ายหลังตกตะลึงอยู่ครู่หนึ่ง จากนั้นส่ายหน้าอย่างแรงแล้วรีบปฏิเสธ “ข้าเปล่า ข้ามิได้พูด องค์รัชทายาท ท่านอย่าตรัสโป้ปดสิพ่ะย่ะค่ะ!"“ตู๋กูโฉ่วเยวี่ย!!”ฉงชูโม่คำราม และดึงแส้ออกจากสาบเสื้อของนางเมื่อเห็นว่าสถานการณ์มิดี ตู๋กูโฉ่วเยวี่ยจึงวิ่งหนีไปฉงชูโม่ตามทันเขาในพริบตาครู่ต่อมา เสียงกรีดร้องของตู๋กูโฉ่วเยวี่ยก็ดังมาแต่ไกลฉินซูเหงื่อแตกพลั่กและพึมพำ “อารมณ์ร้ายขนาดนี้ เจ้ายังบอกว่าเจ้ามิใช่แม่มดอีก”เขาส่ายหน้า และมุ่งตรงไปยังตลาดสิบห้านาทีต่อมาฉงชูโม่ตามมาทัน แม้ว่านางยังคงมีใบหน้าบึ้งตึง แต่นางก็มิได้โกรธเท่าเดิมแล้วข้างหลังนั้นตู๋กูโฉ่วเยวี่ยตามมาด้วยจมูกช้ำและใบหน้าบวมปูด มองฉินซูด้วยดวงตาเศร้าสร้อยเป็นครั้งคราวเมื่อสังเกตเห็นท่าทางเศร้าโศกของตู๋กูโฉ่วเยวี่ยแล้ว ฉินซูก็ชูมือขึ้นแล้วพูดว่า “ข้ามิได้ตีเจ้าเสียหน่อย เหตุใดเจ้าจึงมองข้าเช่นนั้น”“องค์รัชทายาท พระองค์ไม่มีเมตตาเลย กระหม่อมบอกเมื่อใดว่าชูโม่เป็นแม่… แค่กแค่ก กระหม่อมมิเคยพูดเช่นนั้นเลย”ฉินซูกระซิบข้างหู “เจ้าโง่หรือไร? ข้ากำลังสร้างโอกาสให้กั

  • องค์รัชทายาทแห่งต้าเหยียน   บทที่ 44

    “ทำดอกไม้ไฟ!” ฉินซูตอบแล้วเดินเข้ามา“ท่านทำดอกไม้ไฟได้ด้วยหรือ?”ทั้งฉงชูโม่และตู๋กูโฉ่วเยวี่ยดูประหลาดใจไปตาม ๆ กันฉินซูพูดอย่างคลุมเครือ “นั่นมิใช่ประเด็น ในเมื่อหาผงดินปืนได้ยาก เช่นนั้นพวกเจ้าไปซื้อดินประสิว กำมะถัน และถ่านไม้มาให้ข้าหน่อย”“กำมะถันและถ่านหาซื้อได้ทั่วไป ข้ามิเคยได้ยินเรื่องดินประสิวที่องค์รัชทายาทพูดถึงมาก่อน เจ้ารู้ไหมว่ามันคืออะไร ชูโม่?”“ข้ามิรู้ ในเมื่อองค์รัชทายาทบอกให้เจ้าไปหา เจ้าก็ไปลองหาดูสิ”“เอาเถอะ พวกท่านทั้งสองรอข้าอยู่ที่นี่ ข้าจะไปลองถามคนดู”ตู๋กูโฉ่วเยวี่ยหันหลังกลับ และหายลับเข้าไปในฝูงชน ฉงชูโม่มองไปรอบ ๆ และถามด้วยน้ำเสียงเบา “องค์รัชทายาท ท่านยังมิได้ตอบคำถามเมื่อคืนของหม่อมฉันเลยนะเพคะ?”“เรื่องที่ว่าเหตุใดเมื่อคืนนี้ข้าถึงเลือดกำเดาไหล ข้าก็ตอบคำถามของเจ้าไปแล้วมิใช่หรือ?”“ฉินซู ท่านอย่าบีบให้หม่อมฉันลงมือต่อหน้าธารกํานัล อย่าลืมว่าหม่อมฉันได้รับอนุญาตจากองค์จักรพรรดิ หากท่านกล้าต่อต้าน ก็ถือว่าท่านขัดต่อราชโองการ!”ฉินซูพูดอย่างมิสบอารมณ์ว่า “เช่นนั้นเจ้าอยากจะถามสิ่งใดเล่า? ข้าจะตอบตามจริงก็แล้วกัน”“ท่านอยู่ในระดับใดกั

  • องค์รัชทายาทแห่งต้าเหยียน   บทที่ 45

    เหล่าสตรีล้อมรอบฉงชูโม่ทันที ทั้งยังลูบไล้มือและใบหน้าของนางอีกด้วย“คุณชายหล่อเหลาจริง ๆ มาเลยเจ้าค่ะ วันนี้ตัวพี่หญิงอารมณ์ดี จะขอบริการท่านฟรีสักครั้ง”“ใช่ ใช่ ใช่ ค่าใช้จ่ายของท่านพวกเราจัดการเอง วันนี้เราจะผลัดกันดูแลท่าน รับรองว่าท่านจะติดใจจนลืมมิลง”หญิงสาวเหล่านั้นหัวเราะคิกคักไม่หยุด และลากฉงชูโม่เข้าไปยังหอบุปผาเมลัยฉงชูโม่อับอาย และตะโกนอย่างโกรธจัดว่า “ปล่อยข้า ปล่อยข้าเดี๋ยวนี้!”“เอ๋ คุณชายอย่าอายไปเลย พวกเรามิทำรุนแรงหรอก”“ดูสิว่าท่านร้อนรนเพียงใด ยังบริสุทธิ์อยู่ใช่หรือไม่?”“ดูเหมือนจะใช่ ฮิฮิ ท่านผ่อนคลายเถิด เราจะมิทำให้ท่านเจ็บหรอกเจ้าค่ะ”พวกนางลากฉงชูโม่ขึ้นไปชั้นบนใบหน้าอันงดงามของฉงชูโม่เย็นชา เตรียมจะลงมือในเวลานี้ มีสตรีนางหนึ่งบังเอิญสัมผัสหน้าอกของนางและอุทานว่า “เจ้าเป็นสตรีรึ?!”“หือ? สตรี?”“ถุย ถุย ถุย เราก็นึกว่าเจ้าเป็นบุตรชายตระกูลเศรษฐี ที่ไหนได้กลับเป็นสตรี รีบไปให้พ้นเลย!”สตรีหลายคนถ่มน้ำลายด้วยสีหน้ามิพอใจฉงชูโม่จ้องมองพวกนาง แต่ก็มิอยากต่อปากต่อคำด้วย จึงหันหลังกลับแล้วลงไปชั้นล่างในเวลานี้เอง นางเงยหน้าขึ้นมองชั้นบนโดยมิไ

  • องค์รัชทายาทแห่งต้าเหยียน   บทที่ 46

    เมื่อได้ยินเช่นนี้ ฉินซูก็เดินไปที่ห้องที่หนึ่งและเตะประตูให้เปิดออกแต่เพื่อมิให้ฉงชูโม่สงสัย เขาจึงมิได้ใช้กำลังมากนักเมื่อเห็นว่าเขามิแม้แต่จะเตะเปิดประตูได้ ฉงชูโม่ก็พูดด้วยสีหน้ารังเกียจ “หลีกไป หม่อมฉันเอง”หลังจากพูดอย่างนั้น นางก็เตะประตูให้เปิดออก ในห้องนั้น ชายวัยกลางคนคนหนึ่งกำลังกอดหญิงสาวที่ดูเย้ายวน และนอนอยู่บนเตียงในสภาพเปลือยเปล่าเมื่อเห็นฉากนี้ ฉงชูโม่ก็หันหลังหนีทันที อยากจะควักลูกตาออกมาล้างให้สะอาดเสียเดี๋ยวนั้นในเวลานี้ คนทั้งสองบนเตียงก็สังเกตเห็นว่าประตูถูกเปิดออก พวกเขาก็ตกใจกลัวอย่างมากชายวัยกลางคนตะโกนด่า “พวกเจ้าเป็นใคร กล้ามารบกวนความสำราญของข้า เจ้าจะเชื่อหรือไม่หากข้าบอกว่าข้าจะฆ่าพวกเจ้า รีบไสหัวออกไปเดี๋ยวนี้!”ฉินซูเหลือบมองบุคคลนี้ และจำเขาได้ทันทีเขาคือเส้าหวยอัน รองเสนาบดีกรมโยธาธิการ!“รองเสนาบดีเส้า เพลิดเพลินมิเบาเลยนะ กล้ามามั่วสุมที่หอบุปผาเมลัยกลางวันแสก ๆ ช่างทำให้ข้าเปิดหูเปิดตาจริง ๆ!”หลังจากที่เส้าหวยอันจำฉินซูได้ในชุดลำลองได้ ใบหน้าของเขาก็ซีดเผือดด้วยความหวาดกลัวเขารีบหยิบกางเกงขึ้นมา กลิ้งตัวลงจากเตียงอย่างทุลักทุเล

  • องค์รัชทายาทแห่งต้าเหยียน   บทที่ 47

    วิชานี้ลึกซึ้งยิ่งนัก จนแม้แต่เขาเองก็ยังมิอาจเข้าใจได้อย่างถ่องแท้และเขาก็รู้สึกได้โดยสัญชาตญาณว่า หากฝึกฝนวิชานี้ได้ถึงขีดสุด จะต้องทรงพลังมากอย่างแน่นอน“มิคิดเลยว่า หลังจากเดินทางมายังโลกนี้แล้ว ฉันจะได้พบกับวิชาที่ลึกล้ำเช่นนี้ ดูเหมือนว่าตาแก่คนนี้จะมีอะไรดีจริง ๆ สินะ!”ฉินซูพึมพำด้วยความประหลาดใจต่อมาเขาเปลี่ยนสีหน้าเป็นจริงจัง แล้วถามว่า “จี้หยกนี้มีชื่อเจ้าของสลักอยู่ เจ้ากล้าสวมมันบนร่างกายของเจ้าได้อย่างไร? คิดจะรนหาที่ตายหรือ?”“องค์รัชทายาท โปรดไว้ชีวิตหม่อมฉันด้วย หม่อมฉันมิรู้หนังสือ เมื่อมิกี่วันก่อน เมื่อหม่อมฉันบังเอิญเจอสิ่งนี้ตอนที่เข้าไปหลบฝนในวัดศาลหลักเมืองร้าง หม่อมฉันจึงหยิบติดมือมา หากหม่อมฉันรู้ว่านี่เป็นขององค์รัชทายาท หม่อมฉันคงมิกล้าเอามาเป็นของตัวเองแน่เพคะ”เมื่อเห็นความเข้าใจผิดของนาง ฉินซูจึงมิใส่ใจจะอธิบาย ดังนั้นเขาจึงหยิบเงินหนึ่งตำลึงออกจากสาบเสื้อแล้วโยนให้อีกฝ่าย“หยกนี้ข้าจะเก็บไว้ เงินนี้เจ้าก็รับไป”สตรีคนนั้นรู้สึกปลื้มใจมาก จนมิรู้ว่าจะพูดอะไรอยู่ครู่หนึ่งตอนนั้นเอง ตู๋กูโฉ่วเยวี่ยก็เดินขึ้นมาเมื่อเขาเห็นเส้าหวยอัน เขาก็พูดด้ว

บทล่าสุด

  • องค์รัชทายาทแห่งต้าเหยียน   บทที่ 514

    เมื่อเห็นหยกครึ่งซีกนี้ ดวงตาของซ่างกวนอวิ๋นซีก็หดเล็กลง ใบหน้างดงามฉายแววตกใจ!หยกนี้เป็นหยกที่นางมอบให้ซือคงเหยียนเมื่อครานั้นพลังที่อยู่ภายในนั้นเทียบเท่ากับการลงมือของนางหนึ่งครั้งหลังจากฉินซูขว้างหยกนี้ออกไป พลันอุ้มกู้เสวี่ยเจี้ยนขึ้นมา แล้วร่างก็วูบหายไปในป่าเขาใช้ปราณบริสุทธิ์ในร่างกายอย่างเต็มที่ ความเร็วของเขาเร็วมากจนน่าตกตะลึงในขณะเดียวกันหลังจากที่หยกนั้นชนเข้ากับฝ่ามือลวงตาน่าสะพรึงกลัวนั้น มันก็แตกออกพลังอันน่าพรั่นพรึงระดับเดียวกันก็ปะทุออกมาจากภายในตู้ม...เสียงดังสนั่นหวั่นไหวระเบิดออก พื้นดินสั่นสะเทือนอย่างรุนแรง ปรากฏรอยแตกคล้ายใยแมงมุมมากมายภายใต้แรงกดดันมหาศาลนี้ ทำให้กลางลำต้นของต้นไม้เกือบทั้งหมดในรัศมีหลายลี้หักลง!โครม!จากป่าที่อยู่ไกลออกไปนั้นมีนกจำนวนนับมิถ้วนบินหนีออกกระจัดกระจายไปทุกทิศทางส่วนฉินซูและกู้เสวี่ยเจี้ยนหลบพ้นจากรัศมีของแรงระเบิดไปอย่างฉิวเฉียดเมื่อเห็นป่าด้านหลังถูกทำลายราบเป็นหน้ากลอง กู้เสวี่ยเจี้ยนก็ตกใจจนพูดมิออกฉินซูเองก็รู้สึกเสียวสันหลังมิแพ้กันแต่ตอนนี้เขาไม่มีเวลาให้คิดมาก พลันใช้ปราณทั้งหมดไปกับวิชาตัวเบ

  • องค์รัชทายาทแห่งต้าเหยียน   บทที่ 513

    เมื่อเห็นภาพนั้นฉินซูก็ขมวดคิ้ว รู้สึกได้ถึงลางร้ายซ่างกวนอวิ๋นซีส่งเสียงหึ "เจ้าฉินซู เจ้าองค์รัชทายาทผู้รอวันปลด กล้าสังหารบุตรแห่งนักปราชญ์และผู้อาวุโสหอดารารักษ์ของข้า วันนี้ ข้าจะให้เจ้าชดใช้ด้วยเลือด ตอบแทนด้วยชีวิต!"เมื่อสิ้นเสียง กลิ่นอายสังหารน่าสะพรึงกลัวก็พุ่งออกมาจากร่างของนางจากนั้นนางก็สะบัดสองนิ้ว ลำแสงกระบี่ราวกับจับต้องได้สายหนึ่งก็พุ่งตรงมาหาฉินซูฉินซูผลักกู้เสวี่ยเจี้ยนออกไป จากนั้นก็กำหมัดกระแทกออกทันใดเงาหมัดแฝงด้วยปราณวายุอันพลุ่งพล่านพุ่งเข้าปะทะกับปราณแห่งกระบี่ของซ่างกวนอวิ๋นซีตูม...หลังจากเสียงระเบิดดังขึ้น ฉินซูและซ่างกวนอวิ๋นซีก็ถอยหลังไปคนละก้าว!เมื่อเห็นดังนั้น กู้เสวี่ยเจี้ยนก็อ้าปากค้างจนกรามแทบหลุด!ซ่างกวนอวิ๋นซีเป็นถึงเจ้าสำนักหอดารารักษ์ วรยุทธ์ของนางกล้าแกร่ง เกรงว่าจะมิด้อยไปกว่าหัวหน้าโหรหลวงทีเดียวแต่บัดนี้ฉินซูกลับต่อสู้กับนางได้อย่างสูสี แล้วจะมิให้นางตกใจได้อย่างไร!นางย่อมมิรู้ว่า ตอนนี้พลังในร่างของซ่างกวนอวิ๋นซีถูกหัวหน้าโหรหลวงสะกดเอาไว้ วรยุทธ์จึงอยู่ที่ระดับสวรรค์ขั้นสูงสุดเท่านั้นส่วนฉินซูขมวดคิ้วและรู้สึกงุนงงเล็ก

  • องค์รัชทายาทแห่งต้าเหยียน   บทที่ 512

    "ว่ากระไรนะ? เจ้าสำนักหอดารารักษ์?!"ฉินซูเบิกตากว้าง แทบมิเชื่อสายตา!ไฉนเจ้าสำนักหอดารารักษ์จึงได้อ่อนเยาว์เช่นนี้?ในดวงตาคู่สวยของซ่างกวนอวิ๋นซีเผยความประหลาดใจ นางเหลือบมองกู้เสวี่ยเจี้ยนเมื่อเห็นลายปักกลุ่มดาวหมีใหญ่ที่ปักอยู่บนชุดของนาง ก็แค่นเสียงหัวเราะเย็นชา "ตาเจ้ายังพอมีแววอยู่บ้าง มิเสียทีที่เป็นศิษย์ของตาเฒ่าเหลยเจิ้นนั่น!"กู้เสวี่ยเจี้ยนหัวใจเย็นวาบ รีบกระซิบบอกกับฉินซู "เจ้าสำนักหอดารารักษ์มีพลังลึกล้ำเกินหยั่งถึง ควานหาทั่วต้าเหยียน มีเพียงอาจารย์ของหม่อมฉันเท่านั้นที่ต้านทานนางได้ ท่านหนีไปเถิด หม่อมฉันจะพยายามถ่วงเวลานางไว้ให้นานที่สุด"เมื่อได้ยินเช่นนั้น ฉินซูก็เผยรอยยิ้มขมขื่นตั้งแต่ที่ซ่างกวนอวิ๋นซีปรากฏตัว เขาก็รู้สึกได้ถึงแรงกดดันรุนแรงที่แผ่ซ่านมาจากนางนี่แสดงให้เห็นว่า พลังของอีกฝ่ายแข็งแกร่งจนน่าตกใจกู้เสวี่ยเจี้ยนต้องการถ่วงเวลานางก็มิต่างกระไรจากเรื่องเพ้อฝันเมื่อเห็นฉินซูนิ่งเฉย กู้เสวี่ยเจี้ยนก็เร่งเร้าอย่างร้อนรน "ไยท่านยังยืนอยู่อีก รีบไปเร็วเข้า"ฉินซูส่ายหน้าอย่างจนปัญญา "เจ้าถ่วงเวลานางมิได้หรอก อีกทั้งเป้าหมายของนางคือข้า เจ้าหลบไป

  • องค์รัชทายาทแห่งต้าเหยียน   บทที่ 511

    ฉินซูชะงักไป และจำใจต้องทำภารกิจอีกครั้งผ่านไปอีกกว่าสองเค่อ กู้เสวี่ยเจี้ยนจึงลุกขึ้นแต่งตัวอย่างพอใจนางมองฉินซูด้วยสายตาอ่อนโยน แล้วเร่งเร้า "ข้างนอกฝนหยุดแล้ว พวกเราเร่งเดินทางกันเถิด มิเช่นนั้นฟ้าจะมืดเสียก่อนไปถึงเป่ยเซียง"ดวงตาของฉินซูเป็นประกาย เขาเสนอ "หรือว่าเราจะออกเดินทางวันพรุ่งนี้?"กู้เสวี่ยเจี้ยนมองออกว่าฉินซูคิดอะไรอยู่ในใจ ทีแรกนางตั้งใจจะปฏิเสธ แต่แล้วกลับพยักหน้าตกลงอย่างน่าประหลาดเมื่อเห็นดังนั้นฉินซูก็ลิงโลด พลันรีบพูดต่อ "เช่นนั้นข้าจะไปจับกระต่ายป่าสักสองสามตัว คืนนี้พวกเรากินกระต่ายย่างกันเถอะ"ฉินซูรีบแต่งตัวแล้วเหาะออกไปกู้เสวี่ยเจี้ยนถอนหายใจเบา ๆ ดวงตาคู่งามเต็มไปด้วยความโศกเศร้ามินานฉินซูก็กลับมาพร้อมกับกระต่ายป่าที่ทำความสะอาดแล้วสองสามตัวหลังจากกินอิ่ม ท้องฟ้าก็มืดลงทั้งสองจึงนอนบนพื้นข้างกองไฟแต่ยังมิทันผล็อยหลับ กู้เสวี่ยเจี้ยนก็ปีนขึ้นคร่อมร่างฉินซูอีกครั้งคืนนั้น ฉินซูแทบมิได้นอนทั้งคืน!วันรุ่งขึ้นฉินซูขอบตาดำคล้ำและหาวมิหยุดส่วนกู้เสวี่ยเจี้ยนมีใบหน้าแดงเปล่งปลั่ง ดูสดชื่นกระปรี้กระเปร่าหลังจากออกจากถ้ำกู้เสวี่ยเจี้ยนก็ข

  • องค์รัชทายาทแห่งต้าเหยียน   บทที่ 510

    ด้านนอกถ้ำ พายุฝนยังคงตกกระหน่ำอย่างต่อเนื่องภายในถ้ำ เวลาเหมือนจะหยุดนิ่งฉินซูนอนอยู่บนพื้นราวกับกลายเป็นหิน มือทั้งสองยังกอดเอวบางของกู้เสวี่ยเจี้ยนไว้ส่วนกู้เสวี่ยเจี้ยนทอดกายบนร่างของเขา ริมฝีปากแดงอ่อนหวานของนางแนบสนิทกับริมฝีปากของเขาเข้าพอดีทั้งสองสบตากัน รู้สึกได้ถึงจังหวะการเต้นของหัวใจที่เร็วขึ้นเรื่อย ๆ!อุณหภูมิระหว่างกันก็ยิ่งชัดเจน!ฉินซูกลืนน้ำลายอย่างยากลำบาก กำลังจะทำอะไรบางอย่างแต่เมื่อสังเกตเห็นกระบี่ยาวข้าง ๆ กู้เสวี่ยเจี้ยน เขาก็เกิดลังเลหากเผลอทำให้กู้เสวี่ยเจี้ยนโกรธแล้วนางเกิดคิดฆ่าเขาขึ้นมาจะทำอย่างไร?เพราะท้ายที่สุดแล้ว นี่มิใช่ครั้งแรกกับกู้เสวี่ยเจี้ยน หากครั้งนี้ยังมิสามารถทำให้นางยอมจำนนด้วยใจจริงได้ ก็คงจะมีเพียงสวรรค์เท่านั้นที่รู้ว่านางจะทำเรื่องระห่ำอะไรออกมาแต่โอกาสดีเช่นนี้ ฉินซูมิอยากพลาดไปเลยจริง ๆในขณะที่เขากำลังลังเล ริมฝีปากแดงของกู้เสวี่ยเจี้ยนก็เริ่มขยับ!เห็นเพียงจมูกโด่งของนางเต็มไปด้วยลมหายใจร้อนระอุ ริมฝีปากคู่สวยจุมพิตลงบนริมฝีปากของฉินซูอย่างตะกละตะกลามฉินซูมีหรือจะทนไหว รีบตอบสนองอย่างกระตือรือร้นโดยมิรู้ตัว ทั้

  • องค์รัชทายาทแห่งต้าเหยียน   บทที่ 509

    "อะแฮ่ม… อะไรกันเล่า ฝนจะตก หญิงสาวจะออกเรือน เป็นเรื่องที่ห้ามมิได้ เจ้าจะโกรธเป็นฟืนเป็นไฟไปหาปะไร?""หม่อมฉันโกรธเพราะกระไร เจ้ามิรู้อยู่แก่ใจหรอกหรือ!""แค่ก ๆ ข้าไปหาฟืนแห้งมาดีกว่า"ฉินซูกล่าวจบก็เดินหลบไปตามผนังหินที่ยื่นออกมาด้านนอกถ้ำกู้เสวี่ยเจี้ยนแค่นเสียงเย็นชา "หึ ฝนตกหนักขนาดนี้ จะมีฟืนแห้งที่ไหน… ฮัดชิ้ว!"ยังมิทันสิ้นคำ นางก็จามออกมาช่วงต้นเหมันตฤดูผ่านไป อีกมิกี่วันก็จะเป็นช่วงหิมะโปรยปราย ดังนั้นเมื่อฝนตกจึงทำให้รู้สึกหนาวเป็นพิเศษกู้เสวี่ยเจี้ยนย่อตัวลงกับพื้น เอามือกอดอกแน่นลมหนาวพัดมาวูบหนึ่ง นางก็ตัวสั่นสะท้านอย่างห้ามมิได้นางอดมิได้ที่จะมองออกไปนอกถ้ำ ดวงตาคู่สวยเต็มไปด้วยความหวังแม้จะรู้สึกว่าเป็นไปได้ยาก ทว่ายามนี้นางก็หวังเป็นอย่างยิ่งว่าฉินซูจะหาฟืนแห้งมาจุดไฟได้มิฉะนั้นแม้ฝนข้างนอกจะหยุดตก ก็เป็นไปมิได้ที่จะเดินทางต่อด้วยอาภรณ์ที่เปียกชุ่มเช่นนี้ผ่านไปครู่หนึ่ง ฉินซูก็กลับมาเขาหอบฟืนแห้งกองใหญ่ในอ้อมแขนมาด้วย!เมื่อเห็นดังนั้น กู้เสวี่ยเจี้ยนก็ลุกขึ้นอย่างตื่นเต้น พลันรีบเร่งเร้า "เร็ว ๆ เข้า รีบจุดไฟเร็วเพคะ หม่อมฉันหนาวจะตายอยู่แล้ว!

  • องค์รัชทายาทแห่งต้าเหยียน   บทที่ 508

    ซ่างกวนอวิ๋นซีร่ายมือ โล่สีเขียวอ่อนก่อตัวรวมกันอยู่ตรงหน้านางในทันใดทว่าปราณดัชนีที่เหลยเจิ้นปล่อยออกมา กลับมิสนใจโล่ตรงหน้านาง พลันผ่าทะลุเข้าไปภายใต้สายตาตกตะลึงของซ่างกวนอวิ๋นซี ปราณดัชนีนั้นหายวับเข้าไปในร่างของนางในพริบตาในชั่วพริบตาต่อมานั้น ซ่างกวนอวิ๋นซีก็รู้สึกว่ามีพลังต้องห้ามบางอย่างเพิ่มเข้ามาในร่างเมื่อได้สติกลับคืนมา นางก็กระทืบเท้าด้วยโทสะ "เหลยเจิ้น เจ้าเฒ่าไร้สัจจะ ปลิ้นปล้อนกลับกลอก!""ข้าเพียงแต่สะกดการบ่มเพาะตนของเจ้าไว้เท่านั้น มิได้บอกว่าจะมิให้เจ้าไปหาองค์รัชทายาท แล้วจะหาว่าข้ากลับกลอกได้อย่างไร?""เจ้า!!"ซ่างกวนอวิ๋นซีโมโหจนแทบจะระเบิดอารมณ์ ดวงตาเบิกกว้างจ้องมองเหลยเจิ้นเหลยเจิ้นยักไหล่ "แม้การบ่มเพาะตนของเจ้าจะถูกข้าสะกดไว้ แต่อย่างน้อยก็ยังสามารถใช้วรยุทธ์ระดับสวรรค์ได้ เท่านี้ก็เพียงพอให้เจ้าจัดการกับผู้ฝึกยุทธ์ระดับสวรรค์ที่อาจปรากฏตัวในต้าเหยียนได้แล้ว""แล้วองค์รัชทายาทผู้รอวันถูกปลดของพวกเจ้าเล่า? เขาอยู่ในระดับใดกันแน่?"เหลยเจิ้นครุ่นคิดอยู่ครู่หนึ่งแล้วส่ายหน้าซ่างกวนอวิ๋นซีขมวดคิ้ว ถามอย่างมิพอใจ "เจ้าส่ายหน้าหมายความว่าอย่างไร?"

  • องค์รัชทายาทแห่งต้าเหยียน   บทที่ 507

    เหลยเจิ้นส่ายหน้าเบา ๆ “ขออภัย ทว่าคงทำเช่นนั้นมิได้”ใบหน้างดงามของซ่างกวนอวิ๋นซีเย็นชาลง นางกล่าวเสียงต่ำ “เจ้าจะบังคับให้ข้าลงมือใช่หรือไม่?”“ข้าเพียงต้องการเกลี้ยกล่อมให้เจ้ากลับไป หากเจ้าต้องการลงมือ ข้าก็พร้อมจะเป็นคู่มือ!”“ดี ถ้าเช่นนั้นข้าจะดูว่า วรยุทธ์ของเจ้าก้าวหน้าไปมากเพียงใดเมื่อเทียบกับห้าสิบปีก่อน!”เมื่อซ่างกวนอวิ๋นซีกล่าวจบ ก็ยื่นนิ้วเรียวสวยชี้ไปยังเหลยเจิ้นที่อยู่กลางเวหา!ทันใดนั้นพื้นที่โดยรอบก็ถูกบีบเข้าหากันอย่างกะทันหัน คล้ายกับกรงที่หดตัวเข้าหาเหลยเจิ้น“กลอุบายตื้น ๆ!”เหลยเจิ้นหัวเราะเยาะ เหยียบพื้นเบา ๆ ด้วยฝ่าเท้า“เคร้ง!”เสียงแตกดังขึ้น กรงไร้รูปธรรมของซ่างกวนอวิ๋นซีแตกสลายในทันใดเมื่อเห็นดังนั้น ดวงตาคู่งามของซ่างกวนอวิ๋นซีก็ฉายแววเคร่งขรึม ฉับพลันร่างของนางสั่นไหว กลายเป็นแสงพุ่งขึ้นสู่ท้องฟ้า!หลังจากหมุนตัวหนึ่งตลบ ก็พุ่งไปทางใต้เหลยเจิ้นส่งเสียงหึ ร่างของเขาก็กลายเป็นแสงวาบไล่ตามไปอย่างมิลดละ!บนห้วงเวหายามราตรีแสงสองสายคล้ายดาวตกไล่ตามดวงจันทร์พาดผ่านท้องฟ้าระหว่างนั้น แสงนุ่มนวลหลายสายพลันพุ่งออกมาจากแสงดาวตกสองสาย จากนั้นก็

  • องค์รัชทายาทแห่งต้าเหยียน   บทที่ 506

    สวีหลายเอ่ยถาม “มีเรื่องอันใด?”เฉิงผิงครุ่นคิดเล็กน้อยก่อนจะค่อย ๆ ตอบ “มินานมานี้ทั้งในและนอกราชสำนักต่างร่ำลือกันว่า องค์จักรพรรดิจะทรงปลดองค์รัชทายาทออกจากตำแหน่งหลังจากวันชุนเฟินปีหน้า ข่าวลือนี้เป็นจริงหรือเท็จ?”“จริงแท้แน่นอน”“แต่ข้ามิเข้าใจ หากองค์รัชทายาทจะถูกปลดในปีหน้า เหตุใดอ๋องฉีและอ๋องซิ่นต้องเสียเวลาหาเรื่องใส่ร้ายองค์รัชทายาทด้วย? แค่รอให้ถึงวันชุนเฟินปีหน้าก็พอแล้วมิใช่หรือ?”เฉิงอิงกล่าว “คงเป็นเพราะช่วงนี้องค์รัชทายาททรงโดดเด่นขึ้นมา พวกเขาจึงอยู่เฉยมิได้กระมัง”สวีหลายพยักหน้าเล็กน้อย “ถูกต้อง สถานการณ์ในราชสำนักเปลี่ยนแปลงอย่างรวดเร็วในพริบตา แม้ว่าฝ่าบาทจะทรงตัดสินพระทัยปลดองค์รัชทายาทออกจากตำแหน่งรัชทายาทหลังจากวันชุนเฟินปีหน้า ทว่าตราบใดที่วันนั้นยังมิมาถึง ทุกอย่างย่อมมีโอกาสพลิกผัน อ๋องซิ่นและอ๋องฉีจะร้อนใจก็เป็นเรื่องปกติ”เฉิงผิงขมวดคิ้วบ่นพึมพำ “แต่ข้ายังสงสัยอยู่ดี เหตุใดฝ่าบาทถึงทรงตัดสินพระทัยปลดองค์รัชทายาทในวันชุนเฟินปีหน้า? ในเมื่อทรงมีพระประสงค์เช่นนั้นแล้ว เหตุใดต้องรอถึงปีหน้า?”“ความคิดในพระทัยขององค์จักรพรรดิ ใครเลยจะคาดเดาได้”สวีหลายเ

สแกนรหัสเพื่ออ่านบนแอป
DMCA.com Protection Status