เช้าวันต่อมา ก่อนหลี่หลงหลินไปเข้าประชุมยังถือผงปรุงรสไก่หนึ่งขวดเข้าวังอีกด้วยฮ่องเต้หวู่ตื่นบรรทม ไปเยี่ยมคารวะไทเฮาแล้ว บัดนี้กำลังเสวยพระกระยาหารเช้าอาหารวางเต็มโต๊ะ ฮ่องเต้หวู่ไม่แตะต้องสักอย่างเดียว กินโจ๊กจืดช้าๆช่วยไม่ได้เห็นอาหารโอชะสีสันงดงามมากมาย กลับไม่สามารถกลืนลงไปได้มีเพียงโจ๊กจืดที่แม้รสอ่อนไปบ้าง แต่ยังฝืนกลืนเข้าปากได้เว่ยซวินเดินก้าวเล็กๆ เข้ามา ค้อมตัวพลางเอ่ย “ฝ่าบาท องค์ชายเก้าเข้าวังขอเยี่ยมคารวะ กำลังรออยู่ด้านนอกตำหนักพ่ะย่ะค่ะ...”ฮ่องเต้หวู่ขมวดคิ้ว ตรัสอย่างไม่พอพระทัย “เจ้าเก้าว่างงานเกินไปหรือ? เหตุใดมาขอเยี่ยมคารวะตั้งแต่เช้าเหมือนเจ้าสี่ก็มิปาน? เขาคงไม่คิดว่านี้คือความกตัญญูหรอกกระมัง?”ระยะนี้ฟ้ายังไม่ทันสว่างองค์ชายสี่ก็รออยู่หน้าพระที่นั่งหย่างซินเพื่อขอเยี่ยมคารวะฮ่องเต้หวู่เดิมทีฮ่องเต้หวู่ยังซาบซึ้งใจ คิดว่าองค์ชายสี่มีความกตัญญูทว่านานวันเข้า ฮ่องเต้หวู่ก็นึกรำคาญอยู่บ้างเรางานยุ่งปวดหัวมาตลอดทั้งวันแล้วองค์ชายเจ้าเองก็ไม่รู้จักหาทางคลายกังวลให้เราเช้าเยี่ยมคารวะ เย็นเยี่ยมคารวะ เว้นเสียแต่แสร้งกตัญญูยังมีความนัยอื่นอีก
ก่อนหน้านี้ไม่ว่ากินสิ่งใดก็ล้วนไม่มีรสชาติ ยากจะกลืนลงไป!อึก...เพียงคำเดียว ดวงเนตรของฮ่องเต้หวู่ก็ทอประกายระยับรสชาติเข้มข้นระเบิดทั่วทั้งต่อมรับรส!รสชาติเลิศล้ำเหลือหลาย!ฮ่องเต้หวู่รู้สึกว่าตนเองมิได้กำลังกินโจ๊ก แต่ดื่มน้ำแกงไก่รสเข้มหนึ่งชาม!ภายในยังมีรสชาติหอมหวานของโจ๊กอีกด้วยความรู้สึกนั้นช่างเหลือจะเชื่อโดยแท้!ฮ่องเต้หวู่กินโจ๊กครึ่งถ้วยหมดภายในคำเดียว เช็ดพระโอษฐ์ตรัสว่า “เราไม่เคยกินโจ๊กอร่อยเพียงนี้มาก่อน! สหายเว่ย ไปนำโจ๊กมาให้เราอีกชาม!”เว่ยซวินตื่นเต้นแทบแย่ ขอบตาร้อนผะผ่าว “ฝ่าบาท พระองค์เสวยแล้ว! กระหม่อมจะไปเดี๋ยวนี้...”ฮ่องเต้หวู่เอ่ยเตือน “ใส่ยาด้วย!”ภายใต้การทำงานของผงปรุงรสไก่ ฮ่องเต้หวู่เสวยโจ๊กถึงสามชาม อิ่มแล้วก็เรอออกมา ตรัสอย่างสลดใจ “สบายยิ่งนัก! เรามิได้กินอิ่มนานมากแล้ว!”เว่ยซวินปาดน้ำตา “ใช่แล้วพ่ะย่ะค่ะ ฝ่าบาท! อาการประชวรของพระองค์หายดีแล้ว! ขอบคุณหมอเทวดาซุนมาก! นางยอดเยี่ยมเหลือเกิน ทั้งๆ ที่เป็นดรุณีน้อยคนหนึ่ง กลับสามารถทำยารักษาอาการประชวรของพระองค์ได้ ช่างมีความสามารถโดยแท้!”ฮ่องเต้หวู่หันมองทางหลี่หลงหลิน ตรัสอย่างแปลกพร
ฮ่องเต้หวู่มิได้ผิดคำพูดพระราชโองการหนึ่งฉบับก็ประกาศให้คนทั่วหล้ารู้ในวันนี้เลย!ชื่อของหมอเทวดาซุนชิงไต้ นับตั้งแต่นี้ไปเป็นชื่อที่ผู้คนต่างรู้จักทั่วบ้านทั่วเมืองชื่อที่มาพร้อมกับซุนชิงไต้ยังมียาเทวดาผงปรุงรสไก่อีกด้วยทั่วทั้งเมืองหลวง ไม่ว่าพระญาติราชวงศ์ หรือพ่อค้าอันธพาล ทั้งหมดต่างพากันพูดคุยกันถึงเรื่องนี้ตกลงวิชาแพทย์ของซุนชิงไต้ล้ำเลิศมากเพียงใดยาเทวดาผงปรุงรสไก่นี้ มีรสชาติเช่นไรทว่าไม่มีคนรู้กลับทำให้คนนับไม่ถ้วนประหลาดใจมากยิ่งขึ้น!ณ จวนสกุลซูฮูหยินผู้เฒ่าหลั่งน้ำตาเป็นสาย จับมือเล็กของซุนชิงไต้ “สวรรค์มีเมตตา! กงซูหว่านเป็นขุนนาง ซุนชิงไต้มีชื่อเสียงโด่งดังทั่วหล้า สร้างชื่อเสียงให้สกุลซู! ข้าดีใจมากเหลือเกิน!”ลั่วอวี้จู๋พูดยิ้มๆ “ฮูหยินผู้เฒ่า นี่มิใช่ความดีความชอบของสวรรค์! แต่เป็นความดีความชอบขององค์ชายเก้าเจ้าค่ะ!”ฮูหยินผู้เฒ่าซูพยักหน้า “ใช่แล้ว! นับตั้งแต่องค์ชายเก้ามา ไม่เพียงกวาดล้างความชั่วร้ายของสกุลซู ทุกวันเต็มไปด้วยเสียงหัวเราะ! พวกเจ้าแต่ละคนยังมีความสามารถมากยิ่งขึ้นไปอีกด้วย!”“เฮ้อ เว้นเสียแต่ซูเฟิ่งหลิงเด็กคนนี้ โง่เขลาเบาปัญญา ทำ
“ลูกรัก”“ดื่มเหล้าพิษจอกนี้!”“แม่ร่วมเดินสู่ยมโลกพร้อมกับเจ้า!”หลี่หลงหลินลืมตาขึ้น พบว่าตนอยู่ในชุดนักโทษ ถูกขังอยู่ในคุกที่มืดมิดหญิงงามในชุดชาววังแสนสง่า ร่ำไห้ดั่งสาลี่ต้องหยาดพิรุณ น้ำตานองหน้า มือถือจอกทอง ดวงหน้างามสะพรั่งเปี่ยมไปด้วยความสิ้นหวังชั่วพริบตา ความทรงจำมากมายพรั่งพรูเข้ามาในความคิด!ราชวงศ์ต้าเซี่ย ราชวงศ์หนึ่งที่ไม่มีในหน้าประวัติศาสตร์!ข้าทะลุมิติกลายมาเป็นองค์ชายเก้า!หญิงงามในชุดชาววังตรงหน้า คือมารดาของข้า พระชายาโหรวสตรีที่ฮ่องเต้หวู่ทรงโปรดปรานมากที่สุด!ผู้สืบเชื้อสายแห่งราชวงศ์ สมาชิกราชสกุล ร่ำรวยสมบัติวิบูลย์ทรัพย์ สระสุราเมรัยพงไพรเนื้อ หญิงงามละลานตา ช่างเป็นสิ่งที่ผู้คนเสาะแสวงเสียเนี่ยกระไร!ทว่าหลี่หลงหลินกลับไม่ดีใจแม้แต่น้อยชื่อเสียงเรียงนามขององค์ชายเก้าแย่มาก เป็นเศษสวะที่ทุกคนทราบกัน!ไม่เพียงแค่นี้เขายังทำความผิดร้ายแรง ทำให้ฮ่องเต้หวู่พิโรธ สังหารสายเลือดเพื่อธำรงไว้ซึ่งความยุติธรรม!เสือถึงร้ายก็ไม่กินลูกตัวเอง!ต้องเป็นความผิดบาปใดกัน ทำให้ฮ่องเต้หวู่ไม่เห็นแก่ความเป็นพ่อเป็นลูก จำต้องสังหารตนให้ได้?ความทรงจำของหลี่
หลี่หลงหลินขมวดคิ้วเป็นปมคิดไม่ถึงว่า ตนเกิดเป็นมนุษย์มาถึงสองชาติภพ ต้องเผชิญกับเหตุการณ์สิ้นหวังเช่นนี้!ความคิดความอ่านของฮ่องเต้หวู่ยากจะหยั่งถึง จิตใจลึกลับซับซ้อนดั่งเหวเสมือนทะเลราชวงศ์ต้าเซี่ย เต็มไปด้วยขุนนางน้อยใหญ่ ที่เปี่ยมไปด้วยความสามารถ ฉลาดปราดเปรื่องดูไม่ออกหรือว่า ตนถูกปรักปรำ?พวกเขาต่างรู้ดีแก่ใจ!ถึงขึ้นที่ว่า แม้แต่แม่ทัพผู้เฒ่าซูก็ตระหนักรู้ว่า เป็นฝีมือของขุนนางชั้นสูงในราชสำนักที่ปล่อยข่าวรั่วไหล ทำให้ทหารตระกูลซูตกอยู่ในวงล้อม นำมาซึ่งความพ่ายแพ้!ดังนั้น แม่ทัพผู้เฒ่าซูจึงสู้สุดชีวิต ปกป้องและพาตนเองตีฝ่าวงล้อมออกมา!เพียงแต่น่าเสียดาย แม่ทัพผู้เฒ่าซูสู้รบเพียงลำพัง จนหมดแรงแล้วสิ้นใจในที่สุดก่อนตาย เขาทิ้งจดหมายเขียนด้วยเลือดไว้หนึ่งฉบับ ให้ตนนำไปให้ฮ่องเต้หวู่ เพื่อพิสูจน์ความบริสุทธิ์!หลี่หลงหลินรีบกุมแผ่นอก พบว่าจดหมายเขียนด้วยเลือดยังอยู่ เขาจึงค่อยโล่งอก!จดหมายเขียนด้วยเลือดฉบับนี้ เป็นความหวังเดียวในการพลิกชะตาชีวิตของตน!ทว่าหลี่หลงหลินคิดทบทวนหลายครั้ง เขาไม่คิดจะเอาจดหมายเขียนด้วยเลือดฉบับนี้ออกมา แล้วให้ฮ่องเต้หวู่โดยตรงเหตุผลนั
เมืองหลวงจวนตระกูลซูพรึ่บ!ณ ลานกลางจวน ลำแสงสีเงินเคลื่อนผ่าน!นั่นไม่ใช่สายฟ้า แต่เป็นลำแสงสะท้อนจากหอกยาว!เงาตามติดการเคลื่อนไหวของหอก หอกพุ่งตัวดุจดั่งมังกร!นางสวมเสื้อเกราะ ด้านหลังมีผ้าคลุมสีแดงโบกสะบัด ไม่ได้สวมหมวกเกราะ ผมยาวสลวยถึงกลางหลังมัดรวบเป็นหางม้า พริ้วไหวขึ้นลงวีรชนผู้กล้าหาญ สตรีไม่แพ้บุรุษ!สตรีผู้นั้นคือซูเฟิ่งหลิงหลานสาวแม่ทัพผู้เฒ่าซู!ตึ้ง!หอกยาวในมือซูเฟิ่งหลิงทิ่มแทงด้วยความรุนแรง เจาะทะลุหุ่นไม้ แตกเป็นเสี่ยงๆ!บนศีรษะของหุ่นไม้มีแผ่นกระดาษติดไว้ สามตัวอักษร...หลี่หลงหลิน!หญิงสาวข้างกายปรบมือ “คุณหนู วิชาหอกของคุณหนูพัฒนาขึ้นอีกแล้วเจ้าค่ะ!”ซูเฟิ่งหลิงกำหมัดแน่น ทรวงอกอิ่มกระเพื่อมขึ้นลงอย่างแรง ดวงตาหงส์น้ำตารื้น พูดด้วยความโมโห “วิชาหอกเก่งกาจ มีประโยชน์อะไร? ข้าเจ็บใจที่ไม่อาจสังหารไอ้คนสารเลวหลี่หลงหลินด้วยตนเอง ไม่อาจแก้แค้นให้ตระกูลซูที่จงรักภักดีได้!”พวกสตรีได้ยินเช่นนั้น ต่างก้มหน้าลง สีหน้าฉายความโกรธเคืองตระกูลซูจงรักภักดีทุกชั่วอายุคน ภักดีต่อต้าเซี่ย!เพราะคนสารเลวหลี่หลงหลิน ทำให้ผู้ชายของตระกูลซูตายอย่างอนาถ เหลือเพียงห
“ฮูหยินผู้เฒ่า!”คนทั้งตระกูลซูพากันทำความเคารพหญิงชราแม้ซูเฟิ่งหลิงจะหยุดการกระทำของตน ทว่ายังเจ็บใจยิ่งนัก “ท่านย่า! แทงครั้งเดียว ข้าก็สังหารเจ้าคนสารเลวหลี่หลงหลินได้แล้ว!”ฮูหยินผู้เฒ่าซูหัวเราะในลำคอ “โชคดีที่ข้ามาทันเวลา หากเจ้าทำให้เว่ยกงกงบาดเจ็บ เช่นนั้นเจ้าก็เท่ากับว่าเจ้าทำความผิดร้ายแรง! ยังไม่รีบถอยออกไปอีก!”ซูเฟิ่งหลิงไม่กลัวฟ้าไม่กลัวดิน กลัวแค่เพียงฮูหยินผู้เฒ่าซูเวลาโมโหเท่านั้น แม้จะเจ็บใจ แต่นางก็ถอยไปยืนข้างๆ อย่างเชื่อฟังทว่าดวงตาหงส์คู่นั้น ยังคงจ้องเขม็งไปที่หลี่หลงหลิน แทบอยากจะกลืนกินเขาทั้งเป็น!เว่ยซวินดึงสติกลับมา ก้าวขึ้นหน้าหนึ่งก้าวแล้วทำเคารพ “คารวะฮูหยินผู้เฒ่าซู! ไม่พบเจอกันนาน ฮูหยินผู้เฒ่าซูเป็นเช่นไรบ้าง สุขภาพแข็งแรงดีหรือไม่?”เว่ยกงกงเป็นขันทีคนโปรดของฮ่องเต้หวู่ ถูกขนานนามว่าเก้าพันปีแต่กระทั่งเก้าพันปีท่านนี้ ยังต้องทำความเคารพฮูหยินผู้เฒ่าซูอย่างว่าง่าย!เห็นได้ชัดว่าฮูหยินผู้เฒ่าคนนี้ไม่เพียงมีอำนาจในตระกูลซู แม้แต่ในราชสำนัก ก็น่าเกรงขามยิ่งนัก!ถึงอย่างไร ทหารรักษาแคว้นสิบแปดนายของตระกูลซู นางเป็นคนสอนมากับมือ!เมื่อครั้นฮ
ฮูหยินผู้เฒ่าซูอ่านจดหมายเลือดวนซ้ำหลายรอบ พูดด้วยความไม่เข้าใจ “หลี่หลงหลิน! เหตุใดท่านไม่เอาจดหมายเลือด ให้ฝ่าบาท เพื่อพิสูจน์ความบริสุทธิ์ของตน?”หลี่หลงหลินส่ายหน้าด้วยรอยยิ้มเศร้าหมอง “ไม่มีใครรู้จักลูกชายดีเท่ากับบิดา! นิสัยของเสด็จพ่อ ข้ารู้จักเป็นอย่างดี! ด้วยความหวาดระแวงและดื้อรั้นของเสด็จพ่อ จะเชื่อข้าหรือ?”ฮูหยินผู้เฒ่าซูเงียบนางเองก็รู้ดีว่าฮ่องเต้หวู่เป็นคนอย่างไรตระกูลซู จงรักภักดีต่อต้าเซี่ย ปกป้องดินแดนทางเหนือมาหลายชั่วอายุคน ไม่รู้ว่ามีวิญญาณจงรักภักดีมากมายเพียงใดที่ถูกฝังในต่างแดน แต่ฮ่องเต้หวู่กลับยังคงหวาดระแวงและคอยกดตระกูลซูสถานการณ์ในราชสำนัก ฮูหยินผู้เฒ่าซูก็พอได้ยินมาบ้างขุนนางฝ่ายบุ๋นรักเงินทอง ขุนนางฝ่ายบู๊รักชีวิตบวกกับฮ่องเต้หวู่ไม่ยอมแต่งตั้งองค์รัชทายาทนอกจากองค์ชายเก้าหลี่หลงหลินที่เสเพลเกินไป ไม่มีขุนนางคนใดสนับสนุนขุนนางคนอื่นล้วนลอบสนับสนุนองค์ชายพระองค์ เสมือนองค์ชายทั้งเก้าในสมัยราชวงศ์ชิงช่วงชิงบัลลังก์!หลายฝ่ายในราชสำนักแก่งแย่งชิงดี โจมตีซึ่งกันและกัน จนโกลาหลเสียงร้องทุกข์ของไพร่ฟ้าท่วมท้องถนน ชีวิตลำบากข้นแค้น!เวลานี้