หลี่หลงหลินโคลงศีรษะ เอ่ยถามอย่างไม่เข้าใจ “ความคิด? ความคิดอะไร? ไม่มีขอรับ”ฮูหยินผู้เฒ่าซูมองหลี่หลงหลิน ยิ้มแปลกประหลาด “แต่เหตุใดข้าคิดว่าท่านอยู่กับสะใภ้ทั้งสี่แล้วอารม์ดีมากเหลือเกิน ยิ้มหัวเราะตลอดทั้งวัน? ท่านบอกความจริงข้า ท่านคิดว่าพวกนางเป็นเช่นไร?”หลี่หลงหลินพูดตามสัตย์จริง “พี่สะใภ้ทั้งสี่งดงามอ่อนเยาว์ มีพรสวรรค์มากความสามารถ ล้วนเป็นสตรีที่หาได้ยากยิ่งบนโลกนี้!”ฮูหยินผู้เฒ่าซูถอนหายใจ “ใช่แล้ว พวกนางล้วนเป็นสตรีมากความสามารถ น่าเสียดายชะตาอาภัพ เพิ่งแต่งงานเข้าสกุลซู สามีก็ตายไปแล้ว กลายเป็นแม่ม่าย!”“พวกนางยังอายุน้อย หรือจะรักษาตัวไปชั่วชีวิตกระนั้น?”“ข้าคิดหาสามีที่ดีให้พวกนางมาโดยตลอด ให้พวกนางแต่งออกไป”“ทว่าใต้หล้าจะมีชายสักกี่คนคู่ควรกับพวกนาง?”“มิหนำซ้ำข้าเองก็มิอาจหักใจ! หากพวกนางแต่งออกไป ก็กลายเป็นคนของบ้านอื่น ยากจะไม่ถูกบ้านสามีรังแก! เฮ้อ เพียงข้านึกถึงเรื่องนี้ก็ปวดใจยิ่งนัก!”ฮูหยินผู้เฒ่าซูพูดไป ร้องไห้ออกมาอย่างสุดระงับ ปาดน้ำตาหลี่หลงหลินเองก็ลำบากใจตามลั่วอวี้จู๋ กงซูหว่าน ซุนชิงไต้และหลิ่วหรูเยียน ล้วนเป็นสตรีโดดเด่นพบได้เพียงหนึ่งใน
หลี่หลงหลินพูดความจริงระคนความเท็จ “เรื่องแต่งงาน...”ลั่วอวี้จู๋ตกตะลึง “บัดนี้สกุลซูเกาะขาองค์ชายเก้าเจริญรุ่งเรือง ฮูหยินผู้เฒ่าซูร้อนใจอยากให้พวกท่านรีบแต่งงานกัน ประเดี๋ยวราตรียาวนานจะฝันมากเอาได้”สายตาหลี่หลงหลินกวาดมองใบหน้าของพี่สะใภ้ทั้งสี่ท่าน พูดภายในใจ ไม่เพียงซูเฟิ่งหลิง ฮูหยินผู้เฒ่าซูยังยกพวกท่านทั้งสี่ให้เป็นอนุของข้าอีกด้วย...เรื่องนี้ไม่สามารถให้ซูเฟิ่งหลิงรู้ได้เป็นอันขาดหาไม่แล้ว นางต้องคิดว่าข้าล่อลวงฮูหยินผู้เฒ่า ต้องฆ่าข้าอย่างแน่นอน!ซูเฟิ่งหลิงสวมชุดกระโปรงแดง ใบหน้างดงามร้อนผะผ่าว ความรังเกียจเกลื่อนหน้า “เฮ่อะ! หากมิใช่ฝ่าบาทพระราชทานสมรส ข้าไม่มีวันแต่งกับท่านแน่! เรื่องเพียงแค่นี้ก็ทำได้ไม่ดี! ทั้งๆ ที่ผงปรุงรสไก่เป็นเครื่องปรุง เหตุใดกลายเป็นยาได้เล่า ขายยากยิ่งนัก!”ซุนชิงไต้พยักหน้า “ใช่แล้วๆ! ผงปรุงรสไก่อร่อยมาก! ยากินยากมากนัก! เช่นนี้ไม่กระทบต่อเส้นทางการขายหรือ?”ไม่รอให้หลี่หลงหลินอธิบาย ลั่วอวี้จู๋แย้มยิ้มอ่อนโยน “พวกเจ้าไม่เข้าใจ นี่คือความหลักแหลมขององค์ชายเก้า!”ซูเฟิ่งหลิงไม่ยอมรับ เบ้ปากพลางพูด “หลักแหลมเยี่ยงไร?”สายตาลั่วอวี้จู๋เ
ลั่วอวี้จู๋พูดเกลี้ยกล่อม “ใช่แล้ว น้องหญิง! พวกเราล้วนเป็นครอบครัวเดียวกัน! องค์ชายเก้าทำเช่นนี้ก็เพื่อสกุลซูของพวกเรา! แต่ไหนแต่ไรมาเขาก็ทุ่มเทสุดจิตสุดใจ ทำเพื่อสกุลซูไม่น้อย...”ซูเฟิ่งหลิงจากอายกลายเป็นโกรธ พูดว่า “เช่นนั้นตกลงเขาทำอันใดให้กองทัพสกุลซูบ้างเล่า?”ลั่วอวี้จู๋คิดว่าซูเฟิ่งหลิงไร้เหตุผลอยู่บ้าง อธิบาย “อาหารของกองทัพสกุลซูมีเนื้อทุกมื้อ นี่หรือว่าไม่ใช้เงิน? ยังมีทางฝั่งพี่สะใภ้รองของเจ้า หลังสถาบันวิจัยภูเขาทิศประจิมสร้างเสร็จแล้วก็เริ่มผลิตเหล็กกล้าตีร้อยครั้งได้!”“ไม่ว่าอาวุธหรือเสื้อเกราะก็ล้วนมอบให้กองทัพสกุลซูก่อน!”“เมื่อนั้นกองทัพสกุลซูเตรียมการพรักพร้อม ทหารกล้าม้าแกร่ง...”ขอบตาซูเฟิ่งหลิงแดงก่ำ “ทหารกล้าม้าแกร่ง? ม้าเล่า? กองทัพสกุลซูล้วนไม่มีม้าแม้ตัวเดียว ต่อให้มีอาวุธและชุดเกราะแล้วมีประโยชน์อันใด? หรือต้องอาศัยเท้าเดินต่อสู้กับทหารม้าหุ้มเกราะเหล็กของเผ่าหมาน?”“ท่านรู้ว่ามีความเสียหายมากเพียงใด ทหารมากน้อยเพียงใดต้องสละชีวิตหรือไม่?”“ต่อให้เอาชนะเผ่าหมานได้ คนก็ขี่ม้าหนีไป ท่านจะตามเยี่ยงไร?”“ไม่มีม้า ทั้งหมดก็สูญเปล่า!”พูดจบ ซูเฟิ่งหลิงออ
ณ ศาลากลางทะเลสาบซูเฟิ่งหลิงสวมชุดกระโปรงแดง กำลังร้องไห้สะอึกสะอื้นหลี่หลงหลินไอ้คนชั่ว ทุกวันล้วนเกียจคร้าน รู้เพียงหาเงินๆ!รู้เพียงหาเงินเท่านั้น เทียบกับตู้เหวินยวนพวกขุนนางทุจริตเหล่านั้น แตกต่างกันที่ใด?รอจนกระทั่งกองทัพเผ่าหมานบุกมาแล้ว หาเงินมากมายยังมีประโยชน์อันใด?ยังมิใช่เย็บชุดเจ้าสาวแทนคนอื่นอีกหรือ?มิหนำซ้ำตนเองก็กล่าวคำสาบานไปแล้ว ชนเผ่าป่าเถื่อนทางแดนเหนือไม่ถอยทัพ ก็ไม่มีวันแต่งงานเป็นอันขาดเหตุใดเขาไม่เข้าใจ?หรือต้องให้ตนเองไม่แต่งกับใครไปชั่วชีวิตกระนั้นรึ?“อย่าร้องเลย!”ไม่รู้หลี่หลงหลินมาอยู่ข้างหลังนางตั้งแต่ยามใด เอ่ยปลอบเสียงนุ่มนวลซูเฟิ่งหลิงว้าวุ่น ปาดน้ำตาบนใบหน้า “ฮึ! เจ้าไม่ต้องสนใจข้า! ยิ่งไปกว่านั้น ใครร้องไห้กันเล่า!”หลี่หลงหลินพูดยิ้มๆ “เช่นนั้นบนหน้าเจ้าคือสิ่งใด?”ซูเฟิ่งหลิงยังปากแข็งดังเดิม “ลมแรงทรายพัดเข้าตา มิได้หรือ?”หลี่หลงหลินพูดสีหน้าจริงจัง “เมื่อครู่ข้าคุยกับพวกพี่สะใภ้แล้ว! คิดว่าเจ้าพูดมีเหตุผล! มีเพียงขี่ม้าถึงจะสามารถต่อสู้กับทหารม้าได้!”ซูเฟิ่งหลิงชะงัก มองหลี่หลงหลินอย่างไม่เข้าใจ “นี่ท่านกำลังพูดเรื่องใด?”
ภายนอกเมืองหลวง ในระยะห้าสิบลี้ณ ค่ายทหารซีเหลียงธงโบกสะบัด เสียงหัวเราะดังออกจากภายในค่ายเป็นบางครั้งซีเหลียงอ๋องหลี่เฟิงอวิ๋นกำลังกินดื่มอย่างยิ่งใหญ่กับทหารซีเหลียงทั้งหมด มีความสุขมาก“ท่านอ๋อง!”“องค์ชายสี่ขอเข้าพบพ่ะย่ะค่ะ!”ทหารคนหนึ่งวิ่งขึ้นมาอย่างว่องไว รายงานต่อหลี่เฟิงอวิ๋นหลี่เฟิงอวิ๋นพยักหน้า “เจ้าสี่มาแล้วรึ! ให้เขาเข้ามา!”ครู่ต่อมาองค์ชายสี่หลี่จือสวมใส่ชุดทั่วไปเข้ามาในกระโจมของกองทัพ ค้อมตัวคารวะหลี่เฟิงอวิ๋น “พี่สาม!”“นั่ง!”หลี่เฟิงอวิ๋นไล่ทางซ้ายและขวาออกไป หลังหลี่จือนั่งลงแล้ว เอ่ยปากถาม “ระยะนี้เจ้าเก้าทำอันใด?”หลี่จือเข่นเขี้ยวเคี้ยวฟัน “เจ้าเก้าไอ้ชั่วนั่นทำร้ายเสด็จแม่ข้าอย่างโหดร้าย จนตอนนี้ยังไม่ยอมกินอะไร เพียงกินเข้าไปก็อาเจียนออกมา! บัดนี้เขายังพูดว่าต้องการสร้างกองทัพทหารม้า!”หลี่เฟิงอวิ๋นหรี่ตาลง ยิ้มเย็นพูดว่า “ทหารม้า? เจ้าเก้าไม่มีม้าศึก สร้างกองทัพทหารม้าบ้าอะไร?”หลี่จือส่ายหน้า สายตาอำมหิต “ข้าเองก็ไม่แน่ใจ! ข้ามาเพื่อเตือนพี่สาม ไม่ว่าเจ้าเก้าเสนอราคาเยี่ยงไร ท่านอย่าได้ขายม้าให้เขาเป็นอันขาด!”หลี่เฟิงอวิ๋นมองหลี่จืออย่า
แม่ทัพซีเหลียงทางด้านข้างเผยแววตาอำมหิต “ท่านอ๋อง จะให้หลอกองค์ชายเก้าเข้าค่าย ลอบสังหารเขาหรือไม่!”หลี่เฟิงอวิ๋นครุ่นคิด พูดเสียงเย็น “นั่นไม่จำเป็น! ออกคำสั่งนักดาบ ลอบเตรียมความพร้อม! ข้าจะไปพบหน้าเจ้าเก้า ดูว่าปากสุนัขของเขาจะคายสิ่งใดออกมา!”แม่ทัพประกบมือ “น้อมรับคำสั่ง!”ขณะเดียวกันหลี่หลงหลินและซูเฟิ่งหลิงสองคนรออยู่ที่ด้านนอกค่ายทหารซีเหลียงหลี่หลงหลินยังเหมือนปกติ สวมเสื้อคลุม เพียงแต่ภายในยังสวมเกราะชั้นในอีกด้วยซูเฟิ่งหลิงกลับคล้ายเผชิญหน้ากับศัตรูตัวฉกาจ สวมชุดเกราะเต็มยศ แบกทวนเงินไว้บนหลัง เอวยังแขวนดาบและกระบี่อีกด้วยดาบคือดาบปักลาย กระบี่คือกระบี่อาญาสิทธิ์วิหคมังกรแห่งต้าเซี่ย!ซูเฟิ่งหลิงมองทหารสวมเกราะถืออาวุธคมกริบของซีเหลียง สีหน้าไม่สบอารมณ์ “หลี่หลงหลิน ท่านบ้าไปแล้วจริงๆ! ถึงขั้นให้ข้ามาพบซีเหลียงอ๋องกับท่าน! ยึดตามอุปนิสัยโหดเหี้ยมของเขา พวกเราต้องตายอย่างแน่นอน!”หลี่หลงหลินพูดยิ้มๆ “พวกเราสองสามีภรรยาก็ฝังร่วมกัน จะได้เป็นยวนยางชะตาผูกกันพอดี!”ซูเฟิ่งหลิงสบถอย่างมีโทสะ “ไสหัวไป! ใครอยากฝังร่วมกับท่าน!”กระชับสั้นเพียงสองประโยค ซูเฟิ่งหลิงกลั
สายตาของซูเฟิ่งหลิงค่อนข้างสิ้นหวังค่ายใหญ่สามพันคน ซึ่งทุกคนในนั้นล้วนมีความฮึกเหิม หากตัวเองอยากจะฆ่าตัวตายเพื่อออกไป นั้นยากยิ่งกว่าขึ้นสวรรค์ บางที ตัวเองอาจจะต้องตายพร้อมกับหลี่หลงหลินจริงๆ และกลายเป็นเป็ดยวนยางที่มีชะตาชีวิตเหมือนกัน“เจ้าเก้าเอ๋ยเจ้าเก้า!”หลี่เฟิงอวิ๋นมีสีหน้าเยาะเย้ย “ก่อนที่เจ้าจะตาย ก็ยังหลบอยู่หลังสตรี ไม่รู้สึกขายหน้าบ้างหรือ? แม้ว่าเจ้าจะเป็นสวะ แต่สาวน้อยตระกูลซูผู้นี้ คือแม่ทัพหญิงที่กล้าหาญไม่เป็นรองสตรี”“ช่างเป็นดอกไม้ในกองอึจริงๆ”หลี่เฟิงอวิ๋นยิ้มขี้เล่น แล้วมองไปที่ซูเฟิ่งหลิงตั้งแต่หัวจดเท้า “สิ่งที่ข้าชอบที่สุดก็คือสตรีเช่นเจ้า ตราบใดที่เจ้ายอมจำนน ข้าจะไว้ชีวิตของเจ้า แล้วให้เจ้าเป็นของเล่นของข้า”ใบหน้างดงามของซูเฟิ่งหลิงแดงเรื่อ กัดริมฝีปากสีแดงของนาง “ข้าเกิดมาเป็นคนขององค์ชายเก้า ตายก็เป็นผีของหลี่หลงหลิน เจ้าเลิกเพ้อเจ้อเสียเถอะ”หน้าสิ่วหน้าขวาน ซูเฟิ่งหลิงย่อมพูดสิ่งที่ในใจคิดออกมาจริงๆ แล้ว นางรักหลี่หลงหลินมานานแล้วถ้าตอนนี้ยังไม่พูด ต่อไปก็อาจจะไม่มีโอกาสได้พูดแล้วหลี่หลงหลินได้ยินเช่นนั้น ก็อดไม่ได้ที่จะยิ้ม “วางใจเถอ
ซูเฟิ่งหลิงสูดหายใจเข้าอ๋องซีเหลียง ช่างโหดเหี้ยมจริงๆเรื่องโหดเหี้ยมเช่นนี้ ก็สามารถทำออกมาได้เขาแค่ต้องการกักบริเวณตนและหลี่หลงหลิน เลยบอกว่าให้มาเป็นแขกหลี่หลงหลินยิ้ม “พี่สาม เจ้าเป็นคนฉลาด ไม่มีทางทำให้ตัวเองมีเรื่องอันตรายหรอก ยิ่งไปกว่านั้น การที่ข้ามาที่นี่ ก็เพื่อจะคุยธุระกิจใหญ่กับเจ้า”หลี่เฟิงอวิ๋นตะลึง มันเหนือที่คาดไว้เดิมทีเขาคิดว่าหลี่หลงหลินเจอเบาะแสของเจ้าสี่ เลยติดตามมาตลอดทางนอกจากนี้ หลี่หลงหลินยังไม่รู้จักประเมินกำลังของตัวเอง ต้องการใช้ความสัมพันธ์ของตนกับเจ้าสี่มาข่มขู่ตนเองดังนั้นหลี่เฟิงอวิ๋นจึงเด็ดขาดเช่นนี้ ไม่ให้หลี่หลงหลินมีโอกาสใดๆ เขาโยนถ้วยลงเพื่อเป็นสัญญา ให้นักดาบลงมือสุดท้าย หลี่หลงหลินไม่ได้พูดถึงเจ้าสี่เลย แต่กลับบอกว่าต้องหาจะหารือเรื่องธุรกิจอย่างนั้นหรือ?หรือว่าตนจะเข้าใจผิด?เจ้าเก้าไม่ได้พบเจ้าสี่ แต่มาหาเขาโดยเฉพาะ?ไม่อย่างนั้นจะอธิบายได้อย่างไรว่าเขาแจ้งฮ่องเต้หวู่โดยเฉพาะก่อนออกเดินทาง?หลี่เฟิงอวิ๋นเงียบกริบ พูดอย่างเย็นชาว่า “ธุรกิจอะไร? พูดมาให้ฟังหน่อย!”หลี่หลงหลินก็กล่าวด้วยรอยยิ้มว่า “พี่สาม เจ้าน่าจะได้ยินว
“ตงอิ๋ง? ก็แค่แคว้นเล็กๆ เท่านั้น ไม่ควรค่าให้เอ่ยถึง!”สายตาหลี่หลงหลินเผยแววหมิ่นแคลน“ตงอิ๋งเล็กๆ เป็นเพียงเกาะแห่งหนึ่งเท่านั้น เดิมทีก็ไม่คู่ควรต่อคำว่าทวีปใหม่สองคำนี้”ทุกคนตกตะลึงภายในความรู้ของเหล่าสะใภ้ ตงอิ๋งก็คือจุดสิ้นสุดของมหาสมุทรอันเวิ้งว้าง เหนือตงอิ๋งก็ไม่มีอันใดอีกคำพูดของหลี่หลงหลินทำให้ความรู้ที่พวกนางมีอยู่เปลี่ยนไปทั้งหมด!กงซูหว่านพูดเสียงสั่นๆ “องค์ชาย ความนัยของท่านคือนอกจากตงอิ๋งแล้วยังมีทวีปใหญ่อีกหรือ?”หลี่หลงหลินพยักหน้าและพูดว่า “ไม่เพียงมีทวีปใหญ่ แต่ยังเป็นดินแดนอันอุดมสมบูรณ์อย่างมากอีกด้วย!”พูดไป สายตาหลี่หลงหลินก็ทอดมองไปยังทิศทางหนึ่งกงซูหว่านพูดด้วยความแปลกใจ “อุดมสมบูรณ์อย่างมาก? อุดมสมบูรณ์มากเพียงใด เทียบกับต้าเซี่ยแล้วเป็นเช่นไร?”สายตาทุกคนล้วนเปี่ยมความแปลกใจ วางตะเกียบและชามข้าวในมือลงรับฟังหลี่หลงหลินเล่าเรื่องทวีปใหม่เงียบๆหลี่หลงหลินส่ายหน้าและพูดว่า “แผ่นดินต้าเซี่ยกว้างใหญ่และอุดมสมบูรณ์ มีผลผลิตและทรัพยากรมากมาย เป็นดินแดนอันอุดมสมบูรณ์แห่งหนึ่ง แต่ทวีปใหม่มีที่ราบมาก แผ่นดินอันอุดมสมบูรณ์ทอดยาวนับพันลี้ ทุกหนแห่งล้วนค
น้ำ...น้ำ!หลิ่วหรูเยียนถูกความเผ็ดทำให้หน้าแดงก่ำ มุกเหงื่อผุดพราวเต็มหน้าผาก ทำให้ผิวพรรณขาวดุจหิมะถูกแต้มด้วยสีแดงเรื่อหลี่หลงหลินยื่นน้ำเย็นที่เตรียมไว้ดีแล้วให้หลิ่วหรูเยียนหลิ่วหรูเยียนดื่มลงไปหนึ่งอึก จากนั้นเอ่ยปากชม “องค์ชาย! อร่อยเหลือเกิน หม่อมฉันไม่เคยกินของอร่อยถึงเพียงนี้มาก่อนเลย มีความสุขยิ่งนัก!”เวลาเพียงชั่วพริบตา หัวปลาจานใหญ่ก็หายไปจนหมดเหล่าสะใภ้แต่ละคนหน้าแดงก่ำ เหงื่อเม็ดเล็กผุดพราวเต็มศีรษะ ปอยผมติดบนหน้าผาก ขับให้ดูมีเสน่ห์มากเป็นพิเศษซูเฟิ่งหลิงถูกความเผ็ดทำให้ริมฝีปากแดงเจ่อ ความสงสัยที่มีต่อหลี่หลงหลินเมื่อครู่มลายหายไปราวกับหมอกผ่านตาซุนชิงไต้ยกชามข้าว จับจ้องหลี่หลงหลินและเอ่ยถาม “องค์ชาย ยังมีหัวปลาอีกหรือไม่ เมื่อครู่กินเร็วเกินไป ยังไม่รู้รสเพคะ”หลี่หลงหลินเผยสีหน้าเอือมระอาพี่สะใภ้สามคิดว่ากำลังกินโสมกระมัง จึงกินได้ไม่รู้รสก็แค่ตะกละเท่านั้นหลี่หลงหลินพยักหน้าและตอบว่า “พี่สะใภ้สาม ท่านวางใจได้ หากท่านชอบ ภายภาคหน้าจะทำให้พวกพี่สะใภ้กินจนพอใจ!”ซุนชิงไต้เผยสีหน้าดีใจ คีบผลสีแดงเข้าปาก จากนั้นถูกความเผ็ดทำให้หน้าบิดเบี้ยว แต่นาง
ที่ต้าเซี่ย นับตั้งแต่โบราณมาไม่คุ้นชินกับการกินหัวปลา ปกติแล้วจะตัดหัวตัดหางเลือกเพียงลำตัว หัวปลาย่อมถูกทิ้งไปแต่บัดนี้หลี่หลงหลินถึงขั้นนำหัวปลาที่เหลือมาทำอาหารหนึ่งชนิดทำให้ทุกคนรู้สึกเหลือจะเชื่ออยู่บ้างยิ่งไปกว่านั้นหัวปลาหวงฮื้อใหญ่ยังมีขนาดใหญ่มาก ขนาดเล็กที่สุดก็ราวฝ่ามือ มองดูแล้วน่ากลัว ชนิดที่ว่าทำให้คนรู้สึกขนหัวลุกอยู่บ้างเหล่าสะใภ้ตกใจจนใบหน้างดงามเผือดซีดนิ้วเรียวยาวของซูเฟิ่งหลิงปิดปากไว้ อุทานออกมาด้วยความตกตะลึง “องค์ชาย เจ้าสิ่งนี้กินเยี่ยงไร? มองดูแล้วน่ากลัวมากเหลือเกิน!”ลั่วอวี้จู๋เผยสีหน้าลำบากใจ “หัวปลานี้กินได้แน่หรือ?”ตอนนี้ทุกคนไม่เพียงสงสัยหลี่หลงหลิน แต่ยังสงสัยต่อหัวปลานี้หลี่หลงหลินหัวเราะเบาๆ “ปลาหวงฮื้อล้ำค่าทั้งตัว หัวปลาย่อมสามารถกินได้ ไม่เพียงแค่นี้ หัวปลายังเป็นส่วนที่มีคุณค่าทางอาหารมากที่สุด!”“จริงหรือ?” ซูเฟิ่งหลิงยังสงสัยดังเดิม ในสายตาของนาง หลี่หลงหลินกำลังปลอบตน ต้องการเห็นเรื่องตลกของตนซุนชิงไต้มองซูเฟิ่งหลิงด้วยสีหน้าจริงจังและเปล่งเสียงเคร่งขรึม “องค์ชายไม่พูดความเท็จ หัวปลาหวงฮื้อใหญ่นี้กินได้จริงๆ ยิ่งไปกว่านั้นยัง
ลั่วอวี้จู๋พูดอยู่ทางด้านข้าง “ใช่แล้ว องค์ชาย เรื่องเหล่านี้ยกให้สะใภ้สามเถอะเพคะ”หลี่หลงหลินกลับยืดอกตรงดุจต้นไผ่ พูดเสียงเรียบๆ ว่า “พวกพี่สะใภ้วางใจก็พอ ถึงตอนนั้นจะต้องถูกปากพวกพี่สะใภ้แน่”.....พลบค่ำเหล่าสะใภ้และซูเฟิ่งหลิงรอในห้องอาหารนานแล้ว ล้วนแปลกใจตกลงหลี่หลงหลินจะนำความแปลกใจอันใดมาอีกแต่ไหนแต่ไรมาหลี่หลงหลินไม่เคยทำให้ทุกคนผิดหวัง เรื่องที่เขาทำล้วนไม่เคยได้ยินมาก่อน แต่ก็แปลกใหม่ไม่เหมือนผู้ใดสองมือของซูเฟิ่งหลิงยกขึ้นเท้าคาง คนหิวแทบแย่ “ก็ไม่รู้ว่าองค์ชายเล่นพิเรนทร์อันใดอีก จะต้องลงมือเข้าครัวด้วยตนเองให้ได้ สำคัญที่สุดคือองค์ชายทำอาหารเป็นแน่หรือ?”ซูเฟิ่งหลิงรู้จักหลี่หลงหลินดีมาก แม้พูดว่าฉลาดหลักแหลม แต่ไม่ได้หมายความว่าเขาจะเชี่ยวชาญทุกอย่าง ยิ่งไปกว่านั้นนับตั้งแต่เกิดก็มีคนคอยปรนนิบัติ จนกระทั่งตอนนี้ก็ไม่เคยมีเรื่องให้กังวล น่ากลัวว่าแม้แต่ประตูห้องครัวก็ไม่เคยเฉียดเข้าไป นับประสาอะไรกับฆ่าปลาทำอาหารเล่า?ซูเฟิ่งหลิงส่ายหน้า สีหน้าหมดอาลัยตายอยาก “ดูท่าแล้ว คืนนี้ข้าจะต้องหิวตาย”ลั่วอวี้จู๋อ่านความคิดของซูเฟิ่งหลิงออกจึงเอ่ยปลอบ “น้องหญิงเล็ก ผ
หลังผ่านไปหนึ่งชั่วยามหลี่หลงหลินเปิดฝาโอ่งน้ำใหญ่ด้วยใบหน้าลึกลับเหล่าสะใภ้ต่างคาดหวัง เตรียมเป็นพยานความอัศจรรย์ซี้ด!ไอเย็นเสียดแทงกระดูกสายหนึ่งส่งเข้ามา ทำให้เหล่าสะใภ้ไม่เพียงตัวสั่น ภาพเบื้องหน้ายังชวนให้คนตกตะลึงพรึงเพริด!มองเห็นน้ำในโอ่งน้ำใหญ่ทั้งหมดกลายเป็นก้อนน้ำแข็ง เย็นจนคนรู้สึกหนาว!ทุกคนกลับหายใจเย็นเฮือกหนึ่ง หันมองทางหลี่หลงหลินด้วยสายตาตกตะลึงพรึงเพริด สีหน้าเผือดซีด!ใบหน้ากงซูหว่านล้วนคือความตกตะลึง ในสายตาของนางหลี่หลงหลินไม่ต่างอันใดจากตำนานเสกหินให้เป็นทอง เพียงใช้เกลือหมางเซียวก็สามารถทำให้น้ำกลายเป็นน้ำแข็งได้แล้วหรือ? นี่เหลือจะเชื่อเกินไปแล้ว!กงซูหว่านเอ่ยถามด้วยความแปลกใจ “องค์ชาย นี่ทำได้เยี่ยงไร? นี่หรือว่าเป็นวิชาเซียนจริง?”หลี่หลงหลินหยิบถุงเกลือหมางเซียวในมือออกมาและพูดว่า “ตอนผสมเกลือหมางเซียวนี้กับน้ำจะสามารถดูดความร้อนมหาศาลได้ สามารถทำให้อุณหภูมิลดลงจนเหลือศูนย์องศา ดังนั้นภายใต้สถานการณ์เช่นนี้น้ำย่อมกลายเป็นน้ำแข็ง”หลี่หลงหลินไม่ปกปิด เล่าหลักการทั้งหมดให้กงซูหว่านฟัง อย่างไรเสียภายภาคหน้ายังต้องการให้มีคนไปสอนราษฎร์ตงไห่ทำน้ำแข็
ทุกคนล้วนตกตะลึง ไม่เคยได้ยินมาก่อน ทั้งยังไม่เคยพบเห็นแต่ไหนแต่ไรมาไม่เคยได้ยินผู้ใดเอ่ยถึงเจ้าสิ่งนี้ซูเฟิ่งหลิงแปลกใจอยู่บ้าง “องค์ชาย เหตุใดคนสามารถทำน้ำแข็งได้เล่า? ไม่ใช่ขุดมาจากพื้นที่หนาวแดนเหนือหรอกหรือ หรือว่าสามารถทำให้อุณหภูมิของตงไห่ลดลงได้?”ซูเฟิ่งหลิงรู้ว่าน้ำแข็งเป็นผลผลิตของฤดูหนาว แต่นางนึกไม่ออกว่าคนทำน้ำแข็งที่หลี่หลงหลินพูดคือสถานการณ์เช่นไร ในสายตานางมันเป็นเรื่องเพ้อฝัน และไม่มีวันเป็นจริงได้หลี่หลงหลินยิ้มน้อยๆ และพูดว่า “อีกเดี๋ยวเจ้าจะได้รู้”ทุกคนมองหลี่หลงหลินด้วยสายตาตกตะลึง คิดว่าเขาอาจเป็นเทพเซียนกลับชาติมาเกิด หาไม่แล้วจะทำเรื่องชวนให้คนรู้สึกเหลือจะเชื่อได้เยี่ยงไร?หลี่หลงหลินมองซุนชิงไต้และพูดว่า “พี่สะใภ้สาม ไม่รู้ท่านที่นั่นมีเกลือหมางเซียวหรือไม่?”เกลือหมางเซียวหรืออีกชื่อคือดินประสิว เป็นของสำคัญที่หลี่หลงหลินใช้รักษาโรคอยู่ที่ต้าเซี่ย เกลือหมางเซียวมิใช่ของหายาก เพียงแต่ถูกคนนำมาทำเป็นยาระบายขับพิษ ชนิดที่ว่ามีคนนำไปให้สัตว์ใช้แรงกิน สามารถเพิ่มความแข็งของเปลือกไข่ในสัตว์ปีกได้ สามารถพบเห็นได้ทั่วไปและราคาถูกมากซุนชิงไต้มองหลี่หลง
จวนอ๋องตงไห่ ลั่วอวี้จู๋มองเหล่าทหารที่ลำเลียงปลาหวงฮื้อใหญ่เข้ามาในวังทีละคันรถ ในดวงตาเต็มไปด้วยความยินดี “องค์รัชทายาท ท่านช่างยอดเยี่ยมจริงๆ! มีวิธีการจับปลานี้แล้ว ชาวบ้านทะเลตงไห่ทุกครัวเรือนก็จะได้กินเนื้อ ไม่ต้องกังวลเรื่องอาหารอีกต่อไป” ความกังวลก่อนหน้านี้ของลั่วอวี้จู๋มลายหายไปสิ้น ขอเพียงชาวบ้านมีกินมีใช้ ก็จะไม่เกิดเรื่องราววุ่นวายขึ้นอีก ทุกคนอยู่อย่างสงบสุข ทะเลตงไห่ก็จะปรองดองสามัคคี การก่อกบฏก็จะสงบลงไปเอง มิเช่นนั้นหากมีคนชั่วก่อความวุ่นวาย คอยขัดขวางอยู่เบื้องหลัง สุดท้ายผู้ที่ได้รับผลกระทบก็คือเหล่าชาวบ้านอยู่ดี ซุนชิงไต้จ้องมองปลาหวงฮื้อใหญ่รถแล้วรถเล่าตาไม่กะพริบ น้ำลายไหลออกมาอย่างควบคุมไม่ได้: “ปลาหวงฮื้อใหญ่นี้ทั้งอ้วนทั้งอร่อย ชาวทะเลตงไห่คราวนี้จะได้ลิ้มรสของอร่อยแล้ว!” หลังจากได้ปลาหวงฮื้อใหญ่กลับมา ซุนชิงไต้ก็ลงครัวด้วยตนเอง ไม่ว่าจะทอด ผัด ต้ม ตุ๋น ล้วนเป็นรสเลิศแห่งโลกมนุษย์ เพียงแต่หากปลาหวงฮื้อใหญ่ไม่ได้รับการเก็บรักษาที่ดี ด้วยอุณหภูมิของทะเลตงไห่ในตอนนี้ ยิ่งปลาอ้วนเท่าใด ปริมาณโปรตีนในตัวก็ยิ่งสูง อัตราการเน่าเสียก็ยิ่งเร็วขึ้นเท่านั้น
“เปิดยุ้งฉางแจกข้าวหรือขอรับ?” พ่อบ้านชราประหลาดใจอย่างยิ่ง ข้าวสารเหล่านี้ซื้อมาเป็นพิเศษเพื่อปั่นราคา หลายวันก่อนหลู่จงหมิงเพิ่งจะกำชับไว้ว่า หากไม่มีคำสั่งของตน ห้ามผู้ใดเปิดฉางข้าวเป็นอันขาด เพียงไม่กี่วัน สถานการณ์ก็พลิกผัน การเปลี่ยนแปลงรวดเร็วจนน่าตกใจ ทำให้คนตั้งตัวไม่ติด พ่อบ้านยังไม่เข้าใจเจตนาของหลู่จงหมิง หลู่จงหมิงเอ่ยเสียงเข้ม: “ฉวยโอกาสตอนที่พวกตระกูลขุนนางยังไม่เริ่มเทขายข้าวสารในมือ ชิงลงมือก่อนได้เปรียบ! มิฉะนั้นราคาจะยิ่งต่ำลงไปอีก!” “บัดนี้จงนำข้าวสารในมือพวกเราทั้งหมดเทขายออกไปในราคาต่ำสุด! ขอเพียงขายออกไปได้ จะต่ำเพียงใดก็ได้!” หลู่จงหมิงกลัวสถานการณ์เช่นนี้ที่สุด หลี่หลงหลินสอนชาวบ้านจับปลา ไม่เพียงแต่ได้ใจประชาชน แต่ยังแก้ปัญหาเรื่องอาหารที่คับขันได้อีกด้วย สุดท้าย ก็เหลือเพียงตนเองที่ขาดทุนย่อยยับไม่เหลือแม้แต่กางเกงใน หลู่จงหมิงเอ่ยเสียงเข้ม: “ไม่ได้! ข้าจะไปขายข้าวด้วยตนเอง!” ผู้ได้ใจประชาชนย่อมได้ครอบครองแผ่นดิน ในความคิดของหลู่จงหมิง บัดนี้ขอเพียงยอมขายข้าวให้ชาวบ้าน ก็จะเป็นผู้ช่วยให้รอดในใจของชาวบ้านแล้วแม้ว่าจะช้ากว่าหลี่หลงหลิ
หญิงชรามองสุ่ยเซิง เอ่ยอย่างจริงจัง: “สุ่ยเซิง เจ้าบอกความจริงกับแม่มา เจ้าไปลักขโมยปลาของผู้อื่นมาพร้อมกับเถี่ยจู้ใช่หรือไม่?” ในความคิดของหญิงชรา หากไม่ใช่การลักขโมย วันเดียวจะหาปลาได้มากมายเช่นนี้ได้อย่างไร? สุ่ยเซิงยิ้มแล้วชี้ไปยังชาวประมงที่บรรทุกปลาเต็มลำกลับมา: “ท่านแม่! ลูกจะไปลักขโมยปลาของผู้อื่นได้อย่างไร ปลาเหล่านี้ล้วนจับมาได้จากทะเลตามวิธีที่องค์รัชทายาททรงสอนด้วยพระองค์เอง ท่านดูสิ ทุกคนก็จับมาได้ไม่น้อย” หญิงชรามองไป พบว่าชาวประมงที่กลับมาต่างก็มีปลาหวงฮื้อใหญ่ติดมือมาไม่มากก็น้อย เพียงแต่สุ่ยเซิงโชคดีกว่า จับปลาได้มากกว่าเล็กน้อย “องค์รัชทายาททรงสอนพวกเจ้าด้วยพระองค์เองหรือ?” หญิงชรามีสีหน้าลังเล สุ่ยเซิงพยักหน้า ชี้ไปยังท่าเทียบเรือที่ไม่ไกลนัก: “เมื่อวานก็ที่ตรงนั้น องค์รัชทายาทไม่เพียงแต่แบ่งปลาให้พวกเรา ยังทรงสอนวิธีการจับปลาให้พวกเราโดยเฉพาะ ถ่ายทอดเคล็ดวิชาให้พวกเราอย่างไม่ปิดบัง” ฟุบ! หญิงชราทรุดตัวลงนั่งกับพื้น พนมมือ ดวงตาพร่ามัวด้วยน้ำตา: “สวรรค์มีตา สวรรค์มีตาโดยแท้! ต้าเซี่ยมีองค์รัชทายาทเช่นนี้ วันคืนอันแสนลำบากของพวกเราชาวบ้าน ในที่สุดก็จ