หลี่หลงหลินพูดความจริงระคนความเท็จ “เรื่องแต่งงาน...”ลั่วอวี้จู๋ตกตะลึง “บัดนี้สกุลซูเกาะขาองค์ชายเก้าเจริญรุ่งเรือง ฮูหยินผู้เฒ่าซูร้อนใจอยากให้พวกท่านรีบแต่งงานกัน ประเดี๋ยวราตรียาวนานจะฝันมากเอาได้”สายตาหลี่หลงหลินกวาดมองใบหน้าของพี่สะใภ้ทั้งสี่ท่าน พูดภายในใจ ไม่เพียงซูเฟิ่งหลิง ฮูหยินผู้เฒ่าซูยังยกพวกท่านทั้งสี่ให้เป็นอนุของข้าอีกด้วย...เรื่องนี้ไม่สามารถให้ซูเฟิ่งหลิงรู้ได้เป็นอันขาดหาไม่แล้ว นางต้องคิดว่าข้าล่อลวงฮูหยินผู้เฒ่า ต้องฆ่าข้าอย่างแน่นอน!ซูเฟิ่งหลิงสวมชุดกระโปรงแดง ใบหน้างดงามร้อนผะผ่าว ความรังเกียจเกลื่อนหน้า “เฮ่อะ! หากมิใช่ฝ่าบาทพระราชทานสมรส ข้าไม่มีวันแต่งกับท่านแน่! เรื่องเพียงแค่นี้ก็ทำได้ไม่ดี! ทั้งๆ ที่ผงปรุงรสไก่เป็นเครื่องปรุง เหตุใดกลายเป็นยาได้เล่า ขายยากยิ่งนัก!”ซุนชิงไต้พยักหน้า “ใช่แล้วๆ! ผงปรุงรสไก่อร่อยมาก! ยากินยากมากนัก! เช่นนี้ไม่กระทบต่อเส้นทางการขายหรือ?”ไม่รอให้หลี่หลงหลินอธิบาย ลั่วอวี้จู๋แย้มยิ้มอ่อนโยน “พวกเจ้าไม่เข้าใจ นี่คือความหลักแหลมขององค์ชายเก้า!”ซูเฟิ่งหลิงไม่ยอมรับ เบ้ปากพลางพูด “หลักแหลมเยี่ยงไร?”สายตาลั่วอวี้จู๋เ
ลั่วอวี้จู๋พูดเกลี้ยกล่อม “ใช่แล้ว น้องหญิง! พวกเราล้วนเป็นครอบครัวเดียวกัน! องค์ชายเก้าทำเช่นนี้ก็เพื่อสกุลซูของพวกเรา! แต่ไหนแต่ไรมาเขาก็ทุ่มเทสุดจิตสุดใจ ทำเพื่อสกุลซูไม่น้อย...”ซูเฟิ่งหลิงจากอายกลายเป็นโกรธ พูดว่า “เช่นนั้นตกลงเขาทำอันใดให้กองทัพสกุลซูบ้างเล่า?”ลั่วอวี้จู๋คิดว่าซูเฟิ่งหลิงไร้เหตุผลอยู่บ้าง อธิบาย “อาหารของกองทัพสกุลซูมีเนื้อทุกมื้อ นี่หรือว่าไม่ใช้เงิน? ยังมีทางฝั่งพี่สะใภ้รองของเจ้า หลังสถาบันวิจัยภูเขาทิศประจิมสร้างเสร็จแล้วก็เริ่มผลิตเหล็กกล้าตีร้อยครั้งได้!”“ไม่ว่าอาวุธหรือเสื้อเกราะก็ล้วนมอบให้กองทัพสกุลซูก่อน!”“เมื่อนั้นกองทัพสกุลซูเตรียมการพรักพร้อม ทหารกล้าม้าแกร่ง...”ขอบตาซูเฟิ่งหลิงแดงก่ำ “ทหารกล้าม้าแกร่ง? ม้าเล่า? กองทัพสกุลซูล้วนไม่มีม้าแม้ตัวเดียว ต่อให้มีอาวุธและชุดเกราะแล้วมีประโยชน์อันใด? หรือต้องอาศัยเท้าเดินต่อสู้กับทหารม้าหุ้มเกราะเหล็กของเผ่าหมาน?”“ท่านรู้ว่ามีความเสียหายมากเพียงใด ทหารมากน้อยเพียงใดต้องสละชีวิตหรือไม่?”“ต่อให้เอาชนะเผ่าหมานได้ คนก็ขี่ม้าหนีไป ท่านจะตามเยี่ยงไร?”“ไม่มีม้า ทั้งหมดก็สูญเปล่า!”พูดจบ ซูเฟิ่งหลิงออ
ณ ศาลากลางทะเลสาบซูเฟิ่งหลิงสวมชุดกระโปรงแดง กำลังร้องไห้สะอึกสะอื้นหลี่หลงหลินไอ้คนชั่ว ทุกวันล้วนเกียจคร้าน รู้เพียงหาเงินๆ!รู้เพียงหาเงินเท่านั้น เทียบกับตู้เหวินยวนพวกขุนนางทุจริตเหล่านั้น แตกต่างกันที่ใด?รอจนกระทั่งกองทัพเผ่าหมานบุกมาแล้ว หาเงินมากมายยังมีประโยชน์อันใด?ยังมิใช่เย็บชุดเจ้าสาวแทนคนอื่นอีกหรือ?มิหนำซ้ำตนเองก็กล่าวคำสาบานไปแล้ว ชนเผ่าป่าเถื่อนทางแดนเหนือไม่ถอยทัพ ก็ไม่มีวันแต่งงานเป็นอันขาดเหตุใดเขาไม่เข้าใจ?หรือต้องให้ตนเองไม่แต่งกับใครไปชั่วชีวิตกระนั้นรึ?“อย่าร้องเลย!”ไม่รู้หลี่หลงหลินมาอยู่ข้างหลังนางตั้งแต่ยามใด เอ่ยปลอบเสียงนุ่มนวลซูเฟิ่งหลิงว้าวุ่น ปาดน้ำตาบนใบหน้า “ฮึ! เจ้าไม่ต้องสนใจข้า! ยิ่งไปกว่านั้น ใครร้องไห้กันเล่า!”หลี่หลงหลินพูดยิ้มๆ “เช่นนั้นบนหน้าเจ้าคือสิ่งใด?”ซูเฟิ่งหลิงยังปากแข็งดังเดิม “ลมแรงทรายพัดเข้าตา มิได้หรือ?”หลี่หลงหลินพูดสีหน้าจริงจัง “เมื่อครู่ข้าคุยกับพวกพี่สะใภ้แล้ว! คิดว่าเจ้าพูดมีเหตุผล! มีเพียงขี่ม้าถึงจะสามารถต่อสู้กับทหารม้าได้!”ซูเฟิ่งหลิงชะงัก มองหลี่หลงหลินอย่างไม่เข้าใจ “นี่ท่านกำลังพูดเรื่องใด?”
“ลูกรัก”“ดื่มเหล้าพิษจอกนี้!”“แม่ร่วมเดินสู่ยมโลกพร้อมกับเจ้า!”หลี่หลงหลินลืมตาขึ้น พบว่าตนอยู่ในชุดนักโทษ ถูกขังอยู่ในคุกที่มืดมิดหญิงงามในชุดชาววังแสนสง่า ร่ำไห้ดั่งสาลี่ต้องหยาดพิรุณ น้ำตานองหน้า มือถือจอกทอง ดวงหน้างามสะพรั่งเปี่ยมไปด้วยความสิ้นหวังชั่วพริบตา ความทรงจำมากมายพรั่งพรูเข้ามาในความคิด!ราชวงศ์ต้าเซี่ย ราชวงศ์หนึ่งที่ไม่มีในหน้าประวัติศาสตร์!ข้าทะลุมิติกลายมาเป็นองค์ชายเก้า!หญิงงามในชุดชาววังตรงหน้า คือมารดาของข้า พระชายาโหรวสตรีที่ฮ่องเต้หวู่ทรงโปรดปรานมากที่สุด!ผู้สืบเชื้อสายแห่งราชวงศ์ สมาชิกราชสกุล ร่ำรวยสมบัติวิบูลย์ทรัพย์ สระสุราเมรัยพงไพรเนื้อ หญิงงามละลานตา ช่างเป็นสิ่งที่ผู้คนเสาะแสวงเสียเนี่ยกระไร!ทว่าหลี่หลงหลินกลับไม่ดีใจแม้แต่น้อยชื่อเสียงเรียงนามขององค์ชายเก้าแย่มาก เป็นเศษสวะที่ทุกคนทราบกัน!ไม่เพียงแค่นี้เขายังทำความผิดร้ายแรง ทำให้ฮ่องเต้หวู่พิโรธ สังหารสายเลือดเพื่อธำรงไว้ซึ่งความยุติธรรม!เสือถึงร้ายก็ไม่กินลูกตัวเอง!ต้องเป็นความผิดบาปใดกัน ทำให้ฮ่องเต้หวู่ไม่เห็นแก่ความเป็นพ่อเป็นลูก จำต้องสังหารตนให้ได้?ความทรงจำของหลี่
หลี่หลงหลินขมวดคิ้วเป็นปมคิดไม่ถึงว่า ตนเกิดเป็นมนุษย์มาถึงสองชาติภพ ต้องเผชิญกับเหตุการณ์สิ้นหวังเช่นนี้!ความคิดความอ่านของฮ่องเต้หวู่ยากจะหยั่งถึง จิตใจลึกลับซับซ้อนดั่งเหวเสมือนทะเลราชวงศ์ต้าเซี่ย เต็มไปด้วยขุนนางน้อยใหญ่ ที่เปี่ยมไปด้วยความสามารถ ฉลาดปราดเปรื่องดูไม่ออกหรือว่า ตนถูกปรักปรำ?พวกเขาต่างรู้ดีแก่ใจ!ถึงขึ้นที่ว่า แม้แต่แม่ทัพผู้เฒ่าซูก็ตระหนักรู้ว่า เป็นฝีมือของขุนนางชั้นสูงในราชสำนักที่ปล่อยข่าวรั่วไหล ทำให้ทหารตระกูลซูตกอยู่ในวงล้อม นำมาซึ่งความพ่ายแพ้!ดังนั้น แม่ทัพผู้เฒ่าซูจึงสู้สุดชีวิต ปกป้องและพาตนเองตีฝ่าวงล้อมออกมา!เพียงแต่น่าเสียดาย แม่ทัพผู้เฒ่าซูสู้รบเพียงลำพัง จนหมดแรงแล้วสิ้นใจในที่สุดก่อนตาย เขาทิ้งจดหมายเขียนด้วยเลือดไว้หนึ่งฉบับ ให้ตนนำไปให้ฮ่องเต้หวู่ เพื่อพิสูจน์ความบริสุทธิ์!หลี่หลงหลินรีบกุมแผ่นอก พบว่าจดหมายเขียนด้วยเลือดยังอยู่ เขาจึงค่อยโล่งอก!จดหมายเขียนด้วยเลือดฉบับนี้ เป็นความหวังเดียวในการพลิกชะตาชีวิตของตน!ทว่าหลี่หลงหลินคิดทบทวนหลายครั้ง เขาไม่คิดจะเอาจดหมายเขียนด้วยเลือดฉบับนี้ออกมา แล้วให้ฮ่องเต้หวู่โดยตรงเหตุผลนั
เมืองหลวงจวนตระกูลซูพรึ่บ!ณ ลานกลางจวน ลำแสงสีเงินเคลื่อนผ่าน!นั่นไม่ใช่สายฟ้า แต่เป็นลำแสงสะท้อนจากหอกยาว!เงาตามติดการเคลื่อนไหวของหอก หอกพุ่งตัวดุจดั่งมังกร!นางสวมเสื้อเกราะ ด้านหลังมีผ้าคลุมสีแดงโบกสะบัด ไม่ได้สวมหมวกเกราะ ผมยาวสลวยถึงกลางหลังมัดรวบเป็นหางม้า พริ้วไหวขึ้นลงวีรชนผู้กล้าหาญ สตรีไม่แพ้บุรุษ!สตรีผู้นั้นคือซูเฟิ่งหลิงหลานสาวแม่ทัพผู้เฒ่าซู!ตึ้ง!หอกยาวในมือซูเฟิ่งหลิงทิ่มแทงด้วยความรุนแรง เจาะทะลุหุ่นไม้ แตกเป็นเสี่ยงๆ!บนศีรษะของหุ่นไม้มีแผ่นกระดาษติดไว้ สามตัวอักษร...หลี่หลงหลิน!หญิงสาวข้างกายปรบมือ “คุณหนู วิชาหอกของคุณหนูพัฒนาขึ้นอีกแล้วเจ้าค่ะ!”ซูเฟิ่งหลิงกำหมัดแน่น ทรวงอกอิ่มกระเพื่อมขึ้นลงอย่างแรง ดวงตาหงส์น้ำตารื้น พูดด้วยความโมโห “วิชาหอกเก่งกาจ มีประโยชน์อะไร? ข้าเจ็บใจที่ไม่อาจสังหารไอ้คนสารเลวหลี่หลงหลินด้วยตนเอง ไม่อาจแก้แค้นให้ตระกูลซูที่จงรักภักดีได้!”พวกสตรีได้ยินเช่นนั้น ต่างก้มหน้าลง สีหน้าฉายความโกรธเคืองตระกูลซูจงรักภักดีทุกชั่วอายุคน ภักดีต่อต้าเซี่ย!เพราะคนสารเลวหลี่หลงหลิน ทำให้ผู้ชายของตระกูลซูตายอย่างอนาถ เหลือเพียงห
“ฮูหยินผู้เฒ่า!”คนทั้งตระกูลซูพากันทำความเคารพหญิงชราแม้ซูเฟิ่งหลิงจะหยุดการกระทำของตน ทว่ายังเจ็บใจยิ่งนัก “ท่านย่า! แทงครั้งเดียว ข้าก็สังหารเจ้าคนสารเลวหลี่หลงหลินได้แล้ว!”ฮูหยินผู้เฒ่าซูหัวเราะในลำคอ “โชคดีที่ข้ามาทันเวลา หากเจ้าทำให้เว่ยกงกงบาดเจ็บ เช่นนั้นเจ้าก็เท่ากับว่าเจ้าทำความผิดร้ายแรง! ยังไม่รีบถอยออกไปอีก!”ซูเฟิ่งหลิงไม่กลัวฟ้าไม่กลัวดิน กลัวแค่เพียงฮูหยินผู้เฒ่าซูเวลาโมโหเท่านั้น แม้จะเจ็บใจ แต่นางก็ถอยไปยืนข้างๆ อย่างเชื่อฟังทว่าดวงตาหงส์คู่นั้น ยังคงจ้องเขม็งไปที่หลี่หลงหลิน แทบอยากจะกลืนกินเขาทั้งเป็น!เว่ยซวินดึงสติกลับมา ก้าวขึ้นหน้าหนึ่งก้าวแล้วทำเคารพ “คารวะฮูหยินผู้เฒ่าซู! ไม่พบเจอกันนาน ฮูหยินผู้เฒ่าซูเป็นเช่นไรบ้าง สุขภาพแข็งแรงดีหรือไม่?”เว่ยกงกงเป็นขันทีคนโปรดของฮ่องเต้หวู่ ถูกขนานนามว่าเก้าพันปีแต่กระทั่งเก้าพันปีท่านนี้ ยังต้องทำความเคารพฮูหยินผู้เฒ่าซูอย่างว่าง่าย!เห็นได้ชัดว่าฮูหยินผู้เฒ่าคนนี้ไม่เพียงมีอำนาจในตระกูลซู แม้แต่ในราชสำนัก ก็น่าเกรงขามยิ่งนัก!ถึงอย่างไร ทหารรักษาแคว้นสิบแปดนายของตระกูลซู นางเป็นคนสอนมากับมือ!เมื่อครั้นฮ
ฮูหยินผู้เฒ่าซูอ่านจดหมายเลือดวนซ้ำหลายรอบ พูดด้วยความไม่เข้าใจ “หลี่หลงหลิน! เหตุใดท่านไม่เอาจดหมายเลือด ให้ฝ่าบาท เพื่อพิสูจน์ความบริสุทธิ์ของตน?”หลี่หลงหลินส่ายหน้าด้วยรอยยิ้มเศร้าหมอง “ไม่มีใครรู้จักลูกชายดีเท่ากับบิดา! นิสัยของเสด็จพ่อ ข้ารู้จักเป็นอย่างดี! ด้วยความหวาดระแวงและดื้อรั้นของเสด็จพ่อ จะเชื่อข้าหรือ?”ฮูหยินผู้เฒ่าซูเงียบนางเองก็รู้ดีว่าฮ่องเต้หวู่เป็นคนอย่างไรตระกูลซู จงรักภักดีต่อต้าเซี่ย ปกป้องดินแดนทางเหนือมาหลายชั่วอายุคน ไม่รู้ว่ามีวิญญาณจงรักภักดีมากมายเพียงใดที่ถูกฝังในต่างแดน แต่ฮ่องเต้หวู่กลับยังคงหวาดระแวงและคอยกดตระกูลซูสถานการณ์ในราชสำนัก ฮูหยินผู้เฒ่าซูก็พอได้ยินมาบ้างขุนนางฝ่ายบุ๋นรักเงินทอง ขุนนางฝ่ายบู๊รักชีวิตบวกกับฮ่องเต้หวู่ไม่ยอมแต่งตั้งองค์รัชทายาทนอกจากองค์ชายเก้าหลี่หลงหลินที่เสเพลเกินไป ไม่มีขุนนางคนใดสนับสนุนขุนนางคนอื่นล้วนลอบสนับสนุนองค์ชายพระองค์ เสมือนองค์ชายทั้งเก้าในสมัยราชวงศ์ชิงช่วงชิงบัลลังก์!หลายฝ่ายในราชสำนักแก่งแย่งชิงดี โจมตีซึ่งกันและกัน จนโกลาหลเสียงร้องทุกข์ของไพร่ฟ้าท่วมท้องถนน ชีวิตลำบากข้นแค้น!เวลานี้