Share

บทที่ 447

Author: ชาผลไม้
last update Last Updated: 2024-03-25 16:00:00
ในที่สุดเย่เฟยหลีก็ถอนหายใจด้วยความโล่งอก และเริ่มเพลิดเพลินกับอาหารเย็นของเขาอย่างมีความสุข

ขณะกำลังทานอาหาร ฉู่เนี่ยนซีก็ขมวดคิ้ว ก่อนจะถามเย่เฟยหลีหลังจากกลืนบะหมี่ลงคอ “ท่านใส่อะไรผิดแผกลงไปอีกหรือเปล่า?”

“ไม่นะ ก็แค่ไข่กับบะหมี่”

เย่เฟยหลีมองดูฉู่เนี่ยนซีด้วยความสงสัย กลัวว่าเขาจะทำทุกอย่างพัง

“รสชาติมันกรุบกรอบ เหมือน...”

เหมือนเปลือกไข่

ทันใดนั้น ฉู่เนี่ยนซีก็รู้แล้วว่าสิ่งนั้นคืออะไร แต่เมื่อเห็นเย่เฟยหลีมีสีหน้ากังวล และคิดว่านี่คงเป็นครั้งแรกที่เขาทำบะหมี่ นางจึงกลืนคำพูดกลับลงคอไป

“เหมือนกับว่าเส้นบะหมี่ถูกนวดมาเป็นเวลานานจึงมีความเหนียวนุ่มมากน่ะเจ้าค่ะ”

“อาจเป็นเพราะท่านอ๋องฝึกวรยุทธตลอดทั้งปี จึงได้แข็งแกร่งกว่าพ่อครัว ดังนั้นแป้งที่นวดออกมาจึงเหนียวนุ่มกว่ากระมังเพคะ”

เสี่ยวเถาที่อยู่ด้านข้างคาดเดา

ฉู่เนี่ยนซีพยักหน้าและพอใจกับการเดาของเสี่ยวเถามาก เมื่อเห็นสายตาที่จ้องมองอย่างยินดีของเย่เฟยหลี ฉู่เนี่ยนซีจึงทำได้เพียงต้องกินบะหมี่ชามนี้ให้หมดเท่านั้น

โชคดีที่เปลือกไข่มีไม่มาก หากมองข้ามข้อบกพร่องนี้ไป รสชาติของมันก็ถือว่าไม่เลวเลยทีเดียว

หลังอาหารเย็น แสงสีฟ
Locked Chapter
Continue to read this book on the APP

Related chapters

  • องค์ชายหลีกับชายาลี้รัก   บทที่ 448

    ความยิ่งใหญ่ของพระราชวังทั้งหมดถูกปกคลุมไปด้วยหิมะเป็นส่วนใหญ่ แต่เมื่อเข้าไปในพระราชวังจะยังคงตื่นตาไปกับการตกแต่งอันงดงามซุนจื่อซียืนอยู่ข้างกระจกสี่เหลี่ยมและถอดปิ่นปักผมออกจากศรีษะ ก่อนจะวางลงบนโต๊ะอย่างระมัดระวังทั้งห้องเต็มไปด้วยความอบอุ่น แต่ใบหน้าเล็ก ๆ ของนางยังคงดูอ่อนแรง“ซีเอ๋อร์รู้สึกว่าท่านป้าดูอ่อนเยาว์ลงอีกแล้วนะเพคะ ดูเหมือนว่าอายุจะทำอะไรท่านป้าไม่ได้เลย”เสียงที่อ่อนหวานของซุนจื่อซีทำให้ไทเฮายิ้มไม่หุบ ไทเฮามองผ่านกระจกและเฝ้าดูซุนจื่อซีที่กำลังหวีผมให้นางอย่างอ่อนโยน ความรักในหัวใจของนางก็ลึกซึ้งขึ้นไปอีกนางเอ่ยขึ้นด้วยความเสียใจ “ซีเอ๋อร์ ข้าจะหาผู้ชายดี ๆ ในท้องพระโรงให้เจ้าเอง ในโลกนี้ใช่ว่าจะมีอย่างหลีเอ๋อร์แค่ผู้เดียว”รอยยิ้มบนใบหน้าของซุนจื่อซีจางลง เมื่อนึกถึงการถูกปฏิเสธในวันนั้นนางยังคงรู้สึกเสียใจ แต่นางก็ระงับอารมณ์ไว้ไม่แสดงออกมา“ซีเอ๋อร์รู้ว่าท่านป้ารักและเอ็นดูซีเอ๋อร์เพียงใด และซีเอ๋อร์ก็เคยคิดด้วยว่าหากไม่ได้ท่านป้า ป่านนี้ซีเอ๋อร์อาจกลายเป็นคนเร่ร่อนอยู่ที่ใดสักแห่งก็ได้เพคะ”“ซีเอ๋อร์อยู่ดูแลท่านป้ามานานหลายปี จึงมีนิสัยและความคิดคล้

    Last Updated : 2024-03-26
  • องค์ชายหลีกับชายาลี้รัก   บทที่ 449

    ซุนจื่อซีกำลังจะไปป้อนยาให้ไทเฮา เมื่อนางเปิดม่าน นางก็เห็นเย่เฟยหลียืนโอบฉู่เนี่ยนซีอยู่ที่ทางเข้า รอยยิ้มบนใบหน้าของนางจึงแข็งทื่อเล็กน้อย แต่ก็กลับคืนสู่สภาพปกติในทันที นางทำความเคารพเย่เฟยหลีและฉู่เนี่ยนซีอย่างสุภาพนอบน้อม “ถวายบังคมท่านอ๋องเหลียนและพระชายาหลี ข้างนอกอากาศหนาวมาก เข้ามาอบอุ่นร่างกายก่อนเถอะเพคะ”ไทเฮาที่นอนอยู่บนเตียงก็มีสีหน้าไม่ดีเมื่อได้ยินว่าฉู่เนี่ยนซีมา แต่คนดูแลตำหนักไม่สามารถไล่ฉู่เนี่ยนซีออกไปได้ ดังนั้นพวกเขาจึงทำได้แค่แสร้งทำเป็นไม่เห็นนางตรงทางเข้า ฉู่เนี่ยนซีให้เสี่ยวเถาถอดเสื้อคลุมของนางออกแล้วเดินเข้าไปในพระตำหนักกับเย่เฟยหลีเพื่อทำความเคารพไทเฮา“หลานขอทำความเคารพเสด็จย่าพ่ะย่ะค่ะ”“ถวายบังคมไทเฮาเพคะ”“หลีเอ๋อร์มาแล้วหรือ รีบลุกขึ้นเถิด”ไทเฮามองแค่เย่เฟยหลีเท่านั้น แต่เมื่อคิดถึงตอนที่เย่เฟยหลีต่อต้านนางอย่างเปิดเผยในวันนั้น นางก็ยังคงโกรธอยู่เล็กน้อย อีกทั้งสายตาของนางก็ไม่ได้แสดงความรักและเอ็นดูเหมือนเมื่อก่อนอีกต่อไปแล้วเย่เฟยหลีพยุงฉู่เนี่ยนซีให้ยืนขึ้นพร้อมกัน นางกำนัลอาวุโสซิวเหลียงนำตั่งม้านั่งมาให้พวกเขาและนำชาร้อนสองถ้วยมาให้ด้วย

    Last Updated : 2024-03-26
  • องค์ชายหลีกับชายาลี้รัก   บทที่ 450

    บรรยากาศในหอนอนเริ่มเยือกเย็นเล็กน้อย แม้แต่นางกำนัลอาวุโสซิวเหลียงเองก็ยังไม่รู้ว่าจะคลี่คลายสถานการณ์กลืนไม่เข้าคายไม่ออกนี้ได้อย่างไร แต่เมื่อเห็นซุนจื่อซีมาพร้อมกับถาดเคลือบเงานางก็รู้สึกโล่งใจ“เสด็จย่า ซีเอ๋อร์เตรียมขนมฝูหรงกรอบไว้ให้ท่านด้วย ยังร้อนอยู่เลยเพคะ หากเสวยโอสถแล้วรู้สึกขม ท่านสามารถใช้ความหวานของขนมฝูหรงกรอบเพื่อลดความขมได้เพคะ”เสียงที่สดใสของซุนจื่อซีคืนความอบอุ่นและความมีชีวิตชีวาราวกับฤดูใบไม้ผลิให้ทั่วทั้งหอนอนนางจะไม่รับรู้ได้อย่างไรว่าเกิดอะไรขึ้น ซุนจื่อซีส่ายหน้าให้เย่เฟยหลีอย่างเงียบ ๆ เป็นการบอกเขาว่าอย่าได้ใส่ใจพลางพูดอย่างอ่อนโยนอีกครั้งซุนจื่อซีวางจานเคลือบไว้บนโต๊ะอาหารและนั่งลงบนเตียงพร้อมชามยา รอยยิ้มบนใบหน้าของนางช่างอ่อนหวานและละเอียดอ่อนราวกับดอกกุหลาบ นางเกลี้ยกล่อมไทเฮาว่า “ยานี้กำลังอุ่น ๆ เสด็จย่าเสวยได้เลยนะเพคะ”ไทเฮาผลักยาออกไปอย่างไม่พอใจพลางเอียงศีรษะมองเย่เฟยหลี แม้นางจะดูเหมือนเด็กที่มีอารมณ์ฉุนเฉียว แต่ในดวงตาของนางก็มีความน่าเกรงขามที่ไม่อาจต้านทานได้ “หลีเอ๋อร์ หากเจ้ารู้สึกเห็นใจย่าจริง ๆ ก็แต่งงานกับซีเอ๋อร์สิ”ท่าทางของเย่

    Last Updated : 2024-03-27
  • องค์ชายหลีกับชายาลี้รัก   บทที่ 451

    ไทเฮาจ้องมองด้วยความโกรธ ความขุ่นเคืองและความไม่พอใจในอกของนางก็พลุ่งพล่านออกมาจากลำคอ นางหวังว่านางจะกลายเป็นเชือกฟางผูกมัดเย่เฟยหลี เพื่อให้เขาและซุนจื่อซีได้เข้าหอลงโลง“สิ่งที่หลานต้องการให้เสด็จย่าทำไม่ใช่การขอร้อง แต่เป็นการยอมแพ้ ตอนนั้นซ่างกวานเยียนเอาตัวมารับดาบแทนหลาน หลานไม่รู้จะตอบแทนอย่างไรจึงให้นางแต่งเข้ามาเป็นชายารองตามที่นางปรารถนา แต่ตอนนี้แม้จื่อซีจะมารับดาบแทนหลานอีก หลานก็จะไม่ยอมรับนางเป็นชายารองหรือชายาเอกอีกคน” “หากเสด็จย่ายืนกรานที่จะไม่เสวยยา แล้วเกิดอะไรขึ้น หลานก็จะขอติดตามเสด็จย่าไปยังปรภพ และจะไปขอการอภัยต่อเจ้าแห่งนรก หลานกับซีเอ๋อร์ต้องขอตัวก่อน ขอเสด็จย่าทรงรักษาพระพลานามัยด้วยพ่ะย่ะค่ะ”เมื่อพูดจบ เย่เฟยหลีก็คำนับไทเฮา พลางจับมือของฉู่เนี่ยนซีอีกครั้งแล้วออกจากพระตำหนักไป“หลีเอ๋อร์ เจ้า!”ไทเฮานั่งตัวตรงด้วยความโกรธ พลางมองตามร่างที่หายไปหลังประตูอย่างไม่พอใจ นางไม่สามารถระบายความหดหู่ในอกได้ ซุนจื่อซีไม่มีทางเลือกอื่นนอกจากต้องระงับสีหน้าโศกเศร้าของตัวเอง และลูบหลังของไทเฮาเพื่อทำให้นางสงบลงหลังออกจากพระตำหนักอันชิ่งแล้ว เย่เฟยหลีจึงสงบลงได้

    Last Updated : 2024-03-28
  • องค์ชายหลีกับชายาลี้รัก   บทที่ 452

    “แม้อุทยานของวังหลวงในฤดูร้อนจะดูสดชื่นไปด้วยดอกไม้ที่บานสะพรั่ง แต่ทิวทัศน์ก็แตกต่างไปจากช่วงฤดูหนาว เจ้าไปเดินเล่นดูก่อนสิ หากรู้สึกหนาวก็ค่อยมาหาข้า”เย่เฟยหลีแนะนำฉู่เนี่ยนซี เมื่อนางพยักหน้าตกลง เขาก็จากไปพร้อมกับขันทีเฉินเสี่ยวเถาที่รออยู่ข้าง ๆ มาหาฉู่เนี่ยนซีและสวมเสื้อคลุมให้นาง ในขณะที่มัดเชือกอย่างระมัดระวัง นางก็พูดอย่างมีความสุข “พระชายา บ่าวเองก็เห็นว่าท่านอ๋องทรงห่วงใยท่านอย่างแท้จริงนะเจ้าคะ”ฉู่เนี่ยนซีทำเพียงพยักหน้า ไม่ตอบสนองต่อคำพูดของเสี่ยวเถาณ ตอนนี้มีแต่ความอ่อนโยนและความวาบหวาม แล้วต่อไปเล่า? คนเราเวลาที่ใช้ชีวิตไม่ควรมองอะไรเพียงผิวเผิน ชีวิตนั้นยังอีกยาวไกล ใครจะคาดเดาได้ว่าวันพรุ่งนี้จะมีอะไรเปลี่ยนแปลงไปหรือไม่อุทยานวังหลวงละลานตาไปด้วยสีขาวบริสุทธิ์และดอกเหมยสีแดงที่ลอดผ่านหิมะ ซึ่งเผยกลิ่นหอมออกมา สีแดงและสีขาวตัดกันได้สวยงามยิ่งแทบไม่มีใครเดินผ่านทางเดินที่เต็มไปด้วยหิมะนี้ ทำให้ผืนหิมะราบเรียบจนรู้สึกราวกับอยู่ในแดนสวรรค์ฉู่เนี่ยนซีมีบางอย่างอยู่ในใจ ดังนั้นนางจึงเดินชมดอกเหมยอย่างหลงลืมเวลา นางได้ยินเพียงเสียงหิมะบนกิ่งก้านที่ถูกลมพัดตกลงสู

    Last Updated : 2024-03-29
  • องค์ชายหลีกับชายาลี้รัก   บทที่ 453

    พูดจบ ท่าทางของฉู่เนี่ยนซีก็เปลี่ยนเป็นเย็นชาทันที ประกายที่เล็ดลอดออกมาจากดวงตาของนางทั้งเฉียบคมและน่าเกรงขาม“ท่านอ๋องระวังตนไว้ดีกว่า หากมากล่าววาจาไม่รื่นหูต่อหน้าหม่อมฉันอีก หม่อมฉันก็ไม่รู้ว่าตัวเองจะทำอะไรลงไปบ้าง”ฉู่เนี่ยนซีเดินไปหาเย่เหลียนพลางมองดูกิ่งก้านเปลือยเปล่าที่ทอดยาวอยู่รอบ ๆ เสียงของนางแผ่วเบาแต่แฝงไปด้วยความสมเพช “ท่านไปเอาความมั่นใจมาจากไหนถึงได้คิดว่าตนเองแข็งแกร่งกว่าท่านอ๋องหลี? เกรงว่าคงจะมีท่านคนเดียวที่คิดเช่นนั้น”เสี่ยวเถาเดินตามรอยเท้าของฉู่เนี่ยนซีออกจากอุทยานวังหลวง ระหว่างทางเสี่ยวเถาก็พูดกับฉู่เนี่ยนซีด้วยความโกรธ “ทูลให้ท่านอ๋องทราบเรื่องดีกว่าเพคะ จากนั้น…”ฉู่เนี่ยนซีมองเสี่ยวเถาอย่างจนใจ พลางบีบแก้มนางแล้วถามว่า “เจ้าเป็นคนของข้าหรือของเขา?”“แต่ว่าท่านอ๋อง...”“เอาเป็นว่าแก้ปัญหาเรื่องนี้เรียบร้อยแล้ว มันไม่ใช่เรื่องยากอะไร เรื่องแบบนี้ไม่ควรค่าแก่การจดจำแม้แต่น้อย เหตุใดจึงต้องกังวลอีก?”เสี่ยวเถาคิดว่าสิ่งที่ฉู่เนี่ยนซีพูดนั้นสมเหตุสมผลมาก จากนั้นเสี่ยวเถาก็เดินตามนางไปที่พระตำหนักหย่างซิน เมื่อขันทีเฉินเห็นพวกนางทั้งสองมาเขาก็เชิญไปที่

    Last Updated : 2024-03-30
  • องค์ชายหลีกับชายาลี้รัก   บทที่ 454

    รถม้าเคลื่อนช้า ๆ ไปยังประตูจวนตระกูลเหยียน เสี่ยวเถาที่อยู่ในรถม้ายกม่านขึ้นพลางพูดกับฉู่เนี่ยนซี่ “พวกเรามาถึงแล้วเพคะ พระชายา”เป่าจูซึ่งรออยู่ที่ประตูมาเป็นเวลานาน เมื่อเห็นรถม้าที่เข้ามาใกล้เป็นรถม้าของจวนอ๋องหลี นางจึงรีบลงบันไดไปทักทายทันทีคนขับรถม้าจัดแท่นรอง เสี่ยวเถาลงจากรถก่อนแล้วจึงช่วยฉู่เนี่ยนซีลงจากรถม้าตามลงมา“ถวายความเคารพพระชายาเพคะ” เป่าจูมาหาฉู่เนี่ยนซีพร้อมทำความเคารพนาง “คุณหนูให้หม่อมฉันออกมาดูหลายครั้ง เพื่อรอพระชายาเพคะ”เมื่อเห็นว่าไม่มีความตื่นตระหนกบนใบหน้าของเป่าจู ฉู่เนี่ยนซีก็สงสัย “ใบหน้าคุณหนูของเจ้ามีอะไรผิดปกติอีกแล้วหรือ?”เป่าจูเชิญฉู่เนี่ยนซี่เข้าไปข้างใน พวกเขาเดินไปตามทางเดินที่ถูกปกคลุมไปด้วยหิมะที่ร่วงหล่นและเถาวัลย์ที่ตายแล้ว จากนั้นนางก็พูดด้วยความเคารพและอ่อนโยน “คุณหนูสบายดีเพคะ เพียงแต่นางมีเรื่องส่วนตัวจะพูดกับพระชายาเท่านั้น”หลังจากมาถึงห้องส่วนตัวของเหยียนจือซิน เสี่ยวเถาและเป่าจูก็ถอยออกไปทันทีที่เหยียนจือซินเห็นฉู่เนี่ยนซี่ นางก็วิ่งไปทันทีและดึงฉู่เนี่ยนซี่ให้นั่งข้าง ๆ ดวงตาของนางเต็มไปด้วยความอ่อนโยน แต่ก็มีความกังวลและค

    Last Updated : 2024-03-31
  • องค์ชายหลีกับชายาลี้รัก   บทที่ 455

    หน้าผากของฉู่เนี่ยนซีกระตุก เมื่อเห็นว่าเหยียนจือซินกำลังจะเพ้อฝันต่อ นางจึงรีบขัดจังหวะ “สิ่งที่สำคัญที่สุดที่ต้องเตรียมตอนนี้คือสิ่งที่เจ้าต้องใช้ในวันแต่งงาน อากาศข้างนอกช่างดีเหลือเกิน เหตุใดเราไม่ลองออกไปดูกันเสียหน่อย”“ได้เพคะ” เหยียนจือซินเห็นด้วยอย่างไม่รู้ตัว แล้วนางกับฉู่เนี่ยนซีก็ออกไปขึ้นรถม้าหิมะสีขาวสะท้อนแสงอาทิตย์สีซีดทำให้โลกทั้งใบสว่างไสว คนสองคนในรถม้านั่งด้วยกันพลางพูดคุยกันเรื่องร้านขายเครื่องประดับแห่งใหม่ที่เปิดในถนนทางใต้ หากร้านนั้นมีการออกแบบที่หลากหลายก็สามารถเลือกเพิ่มอีกสักสองสามชิ้นได้สองสาวเสี่ยวเถาและเป่าจูกลายเป็นเพื่อนกันอย่างรวดเร็ว พวกนางพูดคุยกันข้างรถม้าราวกับนกกระจอกตัวน้อยกำลังสนทนากันรถม้าแล่นผ่านหอจุ้ยเยว่ที่มีความพลุกพล่าน ที่ประตูจะได้ยินคนข้างในพูดภาษาต่าง ๆ เสี่ยวเถาที่ได้กลิ่นหอมมาจากข้างในก็พูดขึ้น “พระชายา หม่อมฉันได้ยินมาว่าที่หอจุ้ยเยว่มีขนมใหม่ ๆ หลายอย่างเลยเพคะ”ฉู่เนี่ยนซีและเหยียนจือซินยิ้มหลังจากได้ยินดังนั้น สั่งให้คนขับม้าหยุดรถพาสาว ๆ ไปชิมขนมของหอจุ้ยเยว่“หากรสชาติดีก็ซื้อมาไว้บนโต๊ะจัดเลี้ยงแขกได้”ฉู่เนี่ยนซีหัน

    Last Updated : 2024-04-01

Latest chapter

  • องค์ชายหลีกับชายาลี้รัก   บทที่ 550

    เมื่อได้ยินดังนั้น ฉู่เนี่ยนซีจึงฟาดไปที่ไหล่ของเขาหนึ่งที พลางมองดูสีหน้าเจ็บปวดของอีกฝ่าย “เช่นนั้นท่านก็ถอดเสื้อออก ข้าจะดูแผลให้”เดิมทีไม่รู้สึกอะไร แต่เมื่อเห็นเย่เฟยหลีถอดเสื้อผ้าทีละชิ้นตรงหน้า ฉู่เนี่ยนซีก็หันหน้าหนีด้วยความเขินอาย แม้ว่าเขาจะทำอย่างองอาจ แต่ก็ยังทำให้นางอายจนต้องเบือนหน้าหนี“เสร็จแล้ว”ฉู่เนี่ยนซีหันกลับมาจับแผ่นหลังกว้างของเย่เฟยหลีไว้ แต่นางก็ไม่เขินอายอีกต่อไป เพราะร่องรอยบาดแผลจากการสู้รบในอดีตทำให้ใจของนางสั่นสะท้านนางค่อย ๆ แกะผ้าพันแผลออกทีละชั้น เมื่อแกะชั้นสุดท้าย เย่เฟยหลีก็ทนต่อความเจ็บปวดจนตัวสั่นฉู่เนี่ยนซีรีบโรยผงยาลงบนผ้าผ้าพันแผลทันที ซึ่งไม่เพียงแต่บรรเทาความเจ็บปวดของเย่เฟยหลีเท่านั้น แต่ยังช่วยให้ปลดผ้าพันแผลออกได้ง่ายขึ้นอีกด้วยผงยานำความเย็นแพร่ไปตามบาดแผลทั่วทั้งแผ่นหลัง เย่เฟยหลีจึงคลายคิ้วที่ขมวดอยู่ช้าๆฉู่เนี่ยนซีมองไปยังบาดแผลไฟไหม้ที่สภาพดูไม่ได้“นอนลงบนเตียง ข้าจะทายาให้ท่านใหม่”“ได้”เย่เฟยหลีทำตามอย่างเชื่อฟัง เขาคว่ำตัวเหยียดยาวอยู่บนเตียงฉู่เนี่ยนซีโรยผงยาอีกขวดบนแผลให้เสมอกัน ผงยานี้ให้ผลลัพธ์ที่น่าอัศจรรย

  • องค์ชายหลีกับชายาลี้รัก   บทที่ 549

    ซุนจื่อซีที่อยู่ข้าง ๆ ไทเฮา ครุ่นคิดแล้วพูดว่า “ท่านป้า เนื่องด้วยจื่อซีและพระชายาหลีอยู่ด้วยกันมาระยะหนึ่งแล้วจึงได้รู้ว่าหากตระกูลไม่มีการอบรมสั่งสอนที่เข้มงวด พวกเขาก็จะไม่สามารถเลี้ยงดูบุตรีให้เติบโตมาอย่างดีเช่นนี้ได้ ฉู่กุ้ยเฟยต้องถูกใส่ร้ายแน่นอนเพคะ ได้โปรดทรงอย่าปล่อยให้คนบริสุทธิ์ต้องรับผิดอย่างไม่เป็นธรรมเลยนะเพคะ”องค์จักรพรรดิคิดว่าเขาไม่สามารถลงโทษสนมไป๋ได้เพียงเพราะการคาดเดาของหยางเหอ แต่สนมไป๋ ล่วงเกินฉู่กุ้ยเฟยซ้ำแล้วซ้ำเล่า ซึ่งนั่นเป็นความจริงที่แน่ชัด จึงมีรับสั่งให้สนมไป๋ถูกปรับเงินเดือนครึ่งปีและถูกกักบริเวณในตำหนักเป็นเวลาหนึ่งเดือน และไม่ได้รับอนุญาตให้ออกไปข้างนอกโดยพลการองค์จักรพรรดิมีรับสั่งให้เย่เหลียนและเย่เฟยหลีสืบเรื่องนี้ด้วยกัน หลังจากเหตุการณ์เลวร้ายพ้นผ่าน งานเลี้ยงในพระราชวังก็สูญเสียบรรยากาศที่สนุกสนานไป องค์จักรพรรดิทรงกังวลว่าไทเฮาจะทรงหวาดกลัว จึงประคองไทเฮาเสด็จกลับไปยังพระตำหนักอันชิ่งเพื่อพักผ่อนทุกคนที่หมดสนุกแล้วจึงหยุดทุกอย่างและรีบพากันกลับจวนช่องว่างเล็ก ๆ ของหน้าต่างหน้าต่างสีแดงลายมังกรถูกปิดลงอย่างเงียบ ๆ อย่างไม่มีใครสังเกตเผย

  • องค์ชายหลีกับชายาลี้รัก   บทที่ 548

    ฉู่เนี่ยนซีมาอยู่ข้างกายฉู่กุ้ยเฟยร่วมกับหยางเหอ หลังจากจับชีพจรและตรวจดูให้แน่ใจว่านางไม่เป็นอะไรแล้ว ก็สั่งให้คนรับใช้นำเบาะขนห่านมาวางไว้ด้านหลังฉู่กุ้ยเฟยหยางเหอดูเหมือนจะมีอะไรจะพูด แต่นางก็ไม่กล้าพูด ทว่าเมื่อเห็นฉู่กุ้ยเฟยเอนตัวอยู่บนเก้าอี้ หัวใจของนางก็เต้นรัวและสุดท้ายนางก็ลุกขึ้นยืนทันใดนั้นสายตาของทุกคนก็จับจ้องไปที่หยางเหอ นางหายใจเข้าลึก ๆ พลางมองตรงไปที่องค์จักรพรรดิ“โปรดทรงอภัยในความอวดดีของหม่อมฉัน แต่หม่อมฉันไม่สามารถทนเห็นกุ้ยเฟยถูกกล่าวหาอย่างผิด ๆ เช่นนี้ได้ แม้จะเสี่ยงต่อการถูกบั่นหัว แต่หม่อมฉันก็ต้องพูดอะไรบางอย่างเพคะ”“เกิดอะไรขึ้น?”องค์จักรพรรดิทรงโน้มตัวไปข้างหน้าเล็กน้อยและหรี่ตามองไปยังหยางเหอที่กำลังคุกเข่าด้วยใบหน้าแห่งความยุติธรรม“สนมไป๋ที่เข้ามาใหม่ไม่มีความเคารพต่อกุ้ยเฟยเลย เมื่อใดก็ตามที่ได้พบกับกุ้ยเฟย นางมักจะใช้คำพูดที่แฝงเป็นนัยเสียดสีอยู่เสมอ ไม่ก็สาปแช่งให้กุ้ยเฟยรักษาพระโอรสไว้ไม่ได้หรือไม่ก็เสียดสีว่ากุ้ยเฟยไม่คู่ควรกับตำแหน่งสูง กุ้ยเฟยไม่ต้องการโต้เถียงกับสนมไป๋จึงลืมมันไปทุกครั้งเพคะ”“สาวใช้ต่ำช้า กล้าพูดจาว่าร้ายข้าอย่างนั้นห

  • องค์ชายหลีกับชายาลี้รัก   บทที่ 547

    เย่เฟยหลีอาศัยโอกาสนี้จับมือนาง รู้สึกดีกับการตรวจดูอย่างละเอียดของอีกฝ่ายพลางพูดเสียงอ่อน “ข้าไม่เป็นไร แค่เป็นแผลนิดหน่อย หมอหลวงจ่ายยาให้ข้าเรียบร้อยแล้ว”“เจ้ามาดูสิ นี่มันคืออะไร?”เย่เฟยหลีพาฉู่เนี่ยนซีไปยังจุดที่เพิ่งเกิดเพลิงไหม้ พื้นถูกไฟไหม้และมีรอยดำเต็มไปหมด เก้าอี้เอียงตะแคงโดยมีขาหักไปฉู่เนี่ยนซีนั่งยอง ๆ พลางใช้นิ้วชี้ขวาสัมผัสพื้น จากนั้นยกมาที่ปลายจมูกสูดดมเบาๆ ก่อนพูดด้วยความตกใจ “มันคือดินปืน แต่ไม่ใช่ดินปืนบริสุทธิ์ มันจึงไม่ทำให้เกิดการระเบิด แค่ติดไฟเร็วเท่านั้น”“ใช่ มีคนโปรยดินปืนประเภทนี้ไว้ตั้งแต่แรก แต่ท้องฟ้ามืดจนมองไม่เห็น คนจึงคิดว่ามันดูเหมือนฝุ่นกรวดทั่วไป”เย่เฟยหลีเหยียดแขนออกไปประคองให้ฉู่เนี่ยนซียืนขึ้นฉู่เนี่ยนซีขึ้นไปที่ลานถงฮวาอีกครั้งและมองไปที่เครื่องมือที่ฉู่กุ้ยเฟยใช้ในการจุดไฟ มันปนเปื้อนด้วยเศษสะเก็ดไฟบางส่วน แม้จะเผาไหม้ได้ แต่มันก็อยู่ได้ไม่นานและเปลวไฟก็ไม่ลุกลามมากเท่ากับดินปืนโดยทั่วไปนางยืนอยู่บนลานพลางมองไปที่เย่เฟยหลี ดวงตาของนางก็ค่อย ๆ ดูน่ากลัวมากขึ้น น้ำเสียงของนางก็เยือกเย็นลงตามลมหนาว“รู้หรือไม่ว่าใครมาที่นี่บ้างก่อ

  • องค์ชายหลีกับชายาลี้รัก   บทที่ 546

    เหล่าขันทีและนางกำนัลที่รีบรุดมาพร้อมกับอ่างน้ำเย็น นำมาราดลงบนเปลวไฟที่อยู่บริเวณรอบ ๆ องค์จักรพรรดิและเย่เฟยหลี ทำให้เกิดเสียงน้ำสาดกระเซ็นเย่เฟยหลีไม่รู้สึกถึงความรู้สึกแสบร้อนที่แผ่นหลัง เขาจึงประคององค์จักรพรรดิลุกขึ้นยืนไทเฮาถูกนางกำนัลอาวุโสซิวเหลียงประคองมา ทว่าพระนางยังไม่หายตกใจ องค์จักรพรรดิทอดพระเนตรเห็นคิ้วคมเข้มของเย่เฟยหลีที่ขมวดเล็กน้อยเพราะความเจ็บปวด จึงทอดพระเนตรมองไปยังแผ่นหลังของเขา พบว่าอาภรณ์สีดำของเขาถูกไฟไหม้เป็นวงกว้าง และร่างกายที่แข็งแกร่งของเขาถูกเปลวเพลิงเผาจนเป็นสีแดงเข้ม เลือดที่ไหลออกมาจากบาดแผลยิ่งเพิ่มความเจ็บปวดขึ้นไปอีก“ฝ่าบาท” ฉู่กุ้ยเฟยเอ่ยด้วยเสียงสั่นเครือ รีบคุกเข่าคำนับด้วยความตื่นตระหนกเย่เหลียนตะโกนทันที “ฉู่กุ้ยเฟย นี่ท่านคิดลอบปลงพระชนม์หรือ? ท่านจงใจล่อลวงทุกคนมาที่นี่เพื่อวางแผนลอบปลงพระชนม์เสด็จพ่อหรือ เอาคนมา จับฉู่กุ้ยเฟยไว้!”“ฝ่าบาท หม่อมฉันไม่ได้ทำ! หม่อมฉันไม่มีทางทำเช่นนั้นเด็ดขาด! ขอฝ่าบาทโปรดทรงพิจารณาด้วยเพคะ!”เมื่อเห็นเหล่าราชองครักษ์ในชุดเกราะเข้ามาใกล้ ฉู่กุ้ยเฟยก็ตะโกนทูลต่อองค์จักรพรรดิด้วยความตื่นกลัว“โอหัง!

  • องค์ชายหลีกับชายาลี้รัก   บทที่ 545

    ทุกคนเดินไปที่ลานถงฮวาและเห็นว่ามีโต๊ะและเก้าอี้ตั้งอยู่ด้านล่าง อีกทั้งยังมีน้ำชากับผลไม้ที่จัดอย่างประณีตวางไว้ด้วยบนเวทีมีเสาไม้ห้าต้นสูงประมาณหกศอก ติดตั้งล้อมรอบมุมทั้งสี่และด้านบนตรงกลาง เสาไม้ทั้งหมดนั้นถูกพันด้วยเชือกหากมองลงมาจากหลังคาตำหนักที่อยู่ใกล้ ๆ จะรู้สึกว่าเชือกนั้นเปรียบเสมือนใยแมงมุมขนาดใหญ่ที่ปกคลุมเสาไม้ไว้แม้องค์จักรพรรดิจะทรงสับสน แต่พระองค์ก็ไม่ได้ตรัสถามอะไรมากนัก เพียงแค่ทรงยิ้มมุมปากแล้วตรัสกับไทเฮา “ดูเหมือนว่าฉู่กุ้ยเฟยจะมีอะไรใหม่ ๆ มานำเสนอ เสด็จแม่ทรงนั่งลงก่อนเถิดพ่ะย่ะค่ะ”เหล่าขันทีและนางกำนัลมาช่วยบรรดาผู้เป็นนายหาที่นั่งเพื่อไม่ให้ทุกคนพากันสับสนวุ่นวายนางกำนัลผู้น้อยจัดให้เย่เฟยหลีและฉู่เนี่ยนซีนั่งด้วยกันที่ฝั่งหนึ่ง ทว่ายังไม่ทันจะได้นั่งลง ก็เห็นหลานชุ่ยที่อยู่ข้าง ๆ เย่หลิงเอ๋อร์เดินมาเชิญฉู่เนี่ยนซีไปพูดคุยหลานชุ่ยมาเชิญนางด้วยตนเอง คงจะไม่มีเรื่องหลอกลวง ฉู่เนี่ยนซีเหลือบมองเย่เฟยหลีอย่างสบายใจ หลังจากทำความเคารพองค์จักรพรรดิและไทเฮา นางก็ตามหลานชุ่ยไปทันใดนั้น ลานถงฮวาก็สว่างขึ้นมาก ทุกคนเงยหน้าเห็นเด็กผู้หญิงอายุราวเจ็ดแปดขวบห

  • องค์ชายหลีกับชายาลี้รัก   บทที่ 544

    “ไม่เป็นไร เช่นนั้นก็ให้นางอยู่ด้วยกันต่อไปเถอะ ช่วงนี้เราเข้ากันได้ดี นางอ่อนโยน มีน้ำใจและใฝ่เรียนใฝ่รู้ ข้าชอบนางมาก ดีที่มีนางอยู่ที่จวนแห่งนี้ ข้าจึงคลายความเบื่อลงไปได้บ้าง”สิ่งที่ฉู่เนี่ยนซีพูดนั้นเป็นความจริง ตอนแรกนางสงสัยในเจตนาของซุนจื่อซีที่ช่วยนางจากการตกน้ำ แต่ตอนที่นางตกจากรถม้า ซุนจื่อซีกลับไม่ห่วงตนเองและเอาตัวมารองรับนางไว้ ช่างเป็นสตรีที่จิตใจงามอย่างแท้จริงทันใดนั้น ท้องฟ้าก็สว่างไสวไปด้วยดอกไม้ไฟ ส่องแสงไปทั่วทุกสารทิศ ราวกับแสงสว่างของรุ่งอรุณส่องขึ้นมาจากความมืดมิดประกายแสงนั้นส่องสว่างราวกับหมู่ดาวที่โอบล้อมภูเขาและแม่น้ำอันกว้างใหญ่ที่กระแสน้ำเชี่ยวกราก รวมไปถึงป่าอันงดงามและที่ราบอันไร้ขอบเขต ทำให้ความขุ่นข้องในใจของคนสองคนจางลง และคนทั้งคู่ก็ยังได้มองดูความยิ่งใหญ่ที่พร่างพราวนี้ไปด้วยกันณ พระตำหนักเจาฮุย ซุนจื่อซีกำลังร่ายรำอย่างงดงามดุจนางสวรรค์ หลังจากการแสดงสิ้นสุดลง ผู้คนในโถงยังคงตกอยู่ในภวังค์องค์จักรพรรดิทรงปรบมือใหญ่แล้วหันไปหาไทเฮาพร้อมรอยยิ้ม “ทักษะการร่ายรำของจื่อซีดีขึ้นเรื่อย ๆ ดูเหมือนว่านางจะฝึกฝนอย่างหนักและลำบากไม่น้อย เป็นเสด็จแม่

  • องค์ชายหลีกับชายาลี้รัก   บทที่ 543

    ดวงจันทร์ในค่ำคืนนี้ถูกบดบังด้วยเมฆหนาทึบ จนแทบมองเห็นแสงสว่าง เช่นนี้เขาเห็นดวงจันทร์ที่สุกสกาวที่สุดที่ว่านั่นจากที่ใดกัน?“ท่านอ๋องชื่นชมดวงจันทร์ได้อย่างไรหรือ?”ฉู่เนี่ยนซีมองดูแสงสีเหลืองจาง ๆ ที่ขอบฟ้านั้น อย่างกับมันถูกขัดถูจนไร้ซึ่งความแวววาวเย่เฟยหลีทัดผมฉู่เนี่ยนซีไว้ข้างหลังใบหูของนาง พลางพูดด้วยเสียงอ่อนโยน “เพราะดวงจันทร์ที่สุกสกาวที่ว่านี้ไม่ใช่ดวงจันทร์ดวงนั้น”ฉู่เนี่ยนซีหันมาสบตาที่เป็นประกายของเย่เฟยหลี มือที่ค้างเติ่งในตอนแรกเลื่อนมาตรงแก้มของนาง เย่เฟยหลีรู้สึกได้ถึงความร้อนที่ส่งผ่านมายังฝ่ามือ เขาคลี่ยิ้มออกมาเพราะรู้ว่าฉู่เนี่ยนซีกำลังเขินอาย“ข้าได้ยินจากน้องเจ็ดว่าเจ้าคิดว่าซุนจื่อซีกับข้าเป็นคู่ที่เหมาะสมกันมากหรือ?”เย่เฟยหลีดึงนางเข้ามาในอ้อมแขน หางตาของเขาเห็นท่าทางหงุดหงิดของฉู่เนี่ยนซีพลางคิดว่าช่างน่าสนุกฉู่เนี่ยนซีแอบด่าทอเย่ฉงเฉิงในใจว่าเป็นคนที่ไม่น่าเชื่อถือ นางพูดความในใจออกไปเพียงนิดเดียวเขาก็นำไปบอกเจ้าตัวในพริบตาเสียอย่างนั้น“ก็คิดบ้าง เป็นบางครั้ง”ฉู่เนี่ยนซีกะพริบตาและพยายามอย่างมากเพื่อรักษาท่าทางสงบนิ่งอย่างเคย นางไม่สามารถปฏิเส

  • องค์ชายหลีกับชายาลี้รัก   บทที่ 542

    เย่เฟยหลีเหลือบมองอีกฝ่าย “เจ้าว่าเจ้ารู้จักข้าดีที่สุดไม่ใช่หรือ?”“แต่พี่สะใภ้สามไม่รู้จักท่านดีเท่าข้า หากมีเรื่องเข้าใจผิดกันก็ควรรีบแก้ไขเสียดีกว่า ไม่อย่างนั้นข้าก็ช่วยท่านไม่ได้”เมื่อได้ยินเสียงดนตรีดังมาจากพระตำหนักเจาฮุย เขาก็รู้ได้ทันทีว่างานเลี้ยงได้เริ่มขึ้นแล้ว เย่เฟยหลีจึงให้เย่ฉงเฉิง เรียกฉู่เนี่ยนซีมาที่นี่เพราะเขามีเรื่องจะพูดกับนางเย่ฉงเฉิงรับคำสั่งแล้วจากไป ทันทีที่เขาเข้าไปในห้องจัดงาน เขาก็เห็นซุนจื่อซีกำลังร่ายรำอยู่อย่างอ่อนช้อย นางอยู่ในชุดกระโปรงสีแดงราวกับดอกเหมยที่กำลังบานสะพรั่งอยู่ท่ามกลางหิมะขาว ส่งกลิ่นหอมฟุ้งเขาหันไปด้านข้างและกระซิบกับฉู่เนี่ยนซี “พี่สะใภ้สาม พี่สามกำลังรอท่านอยู่ไม่ไกลจากทางเหนือของ พระตำหนักเจาฮุย ท่านรีบไปเถิด”ฉู่เนี่ยนซีเหลือบมองเย่ฉงเฉิงอย่างสงสัยและบอกให้เสี่ยวเถารออยู่ที่นี่ หากใครถามหาก็บอกว่านางออกไปเดินรับลมข้างนอกให้สร่างเมาในห้องจัดงาน ซุนจื่อซีออกท่วงท่าราวกับต้นหลิวที่กำลังแผ่กิ่งก้านสาขาอย่างเพลินใจ ชายแขนเสื้อในมือของนางกระพือเบา ๆ แขนเรียวยาวใต้เสื้อคดเคี้ยวราวกับดอกบ๊วยแดงที่ล่องลอยในอากาศแต่ไม่ว่านางจะพย

DMCA.com Protection Status