ในขณะที่เดินเข้าไป ฉู่เนี่ยนซีก็สามารถจินตนาการได้ถึงสายฟ้าและเสียงฟ้าร้องระหว่างคนทั้งสองได้“อ่ะแฮ่ม!” ฉู่เนี่ยนซีกระแอมขัดจังหวะความต้องการของทั้งสองที่จะต่อสู้กันเมื่อได้ยินเสียง ทั้งคู่ก็มองตามเสียงนั้นไป เมื่อพบว่าเป็นฉู่เนี่ยนซีพวกเขาก็แสร้งทำเป็นประพฤติตัวดีในทันที“ท่านอาจารย์ ท่านไปไหนมา?” เหยียนตั่วเรียกอย่างอ่อนหวานพลางมองไปที่ฉู่เนี่ยนซีด้วยรอยยิ้มเย่ฉงเฉิงทำท่าทางดูแคลน แอบบ่นคนที่อยู่ข้าง ๆ ว่าทำตัวเสแสร้ง แต่เขาก็ยังก้าวไปข้างหน้าและเบียดเหยียนตั่วออกไป พร้อมกับเผยรอยยิ้มบนใบหน้าที่ค่อนข้างประจบประแจง“ท่านหมอเทวดาซานเซิง! ถึงเวลาอาหารกลางวันแล้ว ข้าได้เตรียมสถานที่สะอาดในหอหมื่นบุปผาไว้แล้ว ข้ามั่นใจว่าจะไม่มีใครรบกวนท่าน และแน่นอนว่าจะไม่มีแมลงวันหน้าไม่อายบินไปมาให้รำคาญใจ! ขอท่านหมอโปรดเพลิดเพลินกับอภินันทนาการนี้ด้วย”“ท่าน! กล้าดีอย่างไรมาเรียกคุณหนูเช่นข้าว่าแมลงวัน?!”เหยียนตั่วได้ยินเย่ฉงเฉิงพูด จึงกำลังจะเอ่ยปากปฏิเสธ แต่ทันใดนั้น นางก็สงบลงและยิ้มให้เขาด้วยกลัวรอยยิ้มแปลก ๆ ของเหยียนตั่ว เย่ฉงเฉิงจึงถอยหลังพลางมองนางตั้งแต่หัวจรดเท้าอย่างระมัดระวัง
ทันใดนั้น มันก็บิดตัวเหมือนหนอนผีเสื้อ และรอยแผลเป็นที่มีขนาดใหญ่ครึ่งหนึ่งของใบหน้าก็ซ้อนทับกับผิวหนังอย่างสมบูรณ์หลังจากเปลี่ยนเป็นเสื้อผ้าผู้หญิงอย่างรวดเร็ว ฉู่เนี่ยนซีก็จัดระเบียบทุกอย่างและกลับไปที่จวนอ๋องภายใต้การดูแลของอวี๋ตงและอวี๋หนานในรถม้า ฉู่เนี่ยนซีหลับตาลง พลางคิดว่าพรุ่งนี้นางจะแก้พิษให้เฉินเกออย่างไรด้วยกลิ่นหอมอ่อน ๆ ของดอกไม้ ฉู่เนี่ยนซีก็ผล็อยหลับไปโดยไม่รู้ตัวไม่นานก็มาถึงจวนอ๋องหลีสิ่งที่ทำให้อวี๋หนานและอวี๋ตงประหลาดใจคือการพบเย่เฟยหลียืนอยู่ที่ประตูจวน ดูเหมือนเขาจะรออยู่นานแล้ว“นายหญิง ถึงแล้วขอรับ” อวี๋ตงเม้มริมฝีปาก ปิดบังความประหลาดใจในดวงตาของเขา พลางพูดอย่างเฉยเมยเป็นเวลานานที่ไม่มีคำตอบจากภายในรถม้า และทั้งสองก็มองตากันภายใต้การมองที่เย็นชาของเย่เฟยหลี เขาเปิดม่านรถด้วยความสับสนและพบว่าฉู่เนี่ยนซีเผลอหลับอยู่ตรงมุมหนึ่ง“เกิดอะไรขึ้น?” เย่เฟยหลีก้าวไปข้างหน้าเมื่อเขาเห็นพวกเขาทั้งสองตัวแข็งทื่อ และพูดด้วยน้ำเสียงที่แสดงความกังวลก่อนที่อวี๋ตงจะได้ตอบอะไร เย่เฟยหลีก็เห็นฉู่เนี่ยนซีนอนหลับอย่างสงบสีหน้าเย็นชาของเขามีความอบอุ่นเล็กน้อย เขา
วันต่อมา แสงแดดอ่อน ๆ ในยามเช้าพาให้อากาศดีเมื่อคืนคิดว่าคงจะนอนไม่หลับ แต่หลังจากหลับตาไม่กี่นาทีก็เผลอหลับไปหลังจากฉู่เนี่ยนซีอาบน้ำแต่งตัวเสร็จก็ตรงไปที่โรงพนันหุยหุนโดยไม่รับประทานอาหารหลังจากดื่มชาเสร็จ เป่ยถูก็ปรากฏตัวที่โรงพนันหุยหุนสถานที่แห่งนี้ยังคงคึกคักไปด้วยกิจกรรมต่าง ๆ มากมาย เป่ยถูดูเฉยเมย เขาเดินไปที่โต๊ะต้อนรับแล้วใช้พัดเคาะโต๊ะ“ข้ามาหาผู้ดูแลของพวกเจ้า!”เด็กรับใช้คิดว่าเขากำลังมองพินิจเป่ยถูอยู่นิ่ง ๆ แต่จริง ๆ แล้วกลับถูกมองออกทั้งหมดรู้สึกได้ว่านายท่านตรงหน้าไม่ใช่คนที่ควรล้อเล่นด้วย จึงรีบทักทายเขาด้วยรอยยิ้มทันที“ไม่ทราบว่านายท่านมีธุระอะไรถึงมาหาผู้ดูแลของพวกเราขอรับ?”เป่ยถู ขมวดคิ้วเล็กน้อย ด้วยความเป็นคนที่ไม่ชอบพูดเรื่องไร้สาระ ความกดอากาศรอบตัวของเขาต่ำลง และดวงตาของเขาก็เยือกเย็นลงเล็กน้อยเด็กรับใช้ที่เพิ่งมาใหม่ก็ไม่กล้าทำให้แขกขุ่นเคือง ดังนั้นเขาจึงยิ้มอย่างรวดเร็วแล้วพูดว่า “เช่นนั้นรอสักครู่ขอรับ!”จากนั้นเขาก็จึงรีบขอตัวออกไปโชคดีที่อวี๋เป่ยกำลังเดินตรวจตราอยู่แถวนี้ ปรายตามองไปเห็นเด็กรับใช้เดินไปมาโดยไม่รู้เหนือรู้ใต้ละเลยหน
หลังจากนั้นไม่นาน เป่ยถูและฉู่เนี่ยนซีก็เดินไปด้านในสุดของห้องมืดทุกอย่างที่นี่สร้างจากหิน เพราะอยู่ลึกเข้าไปดังนั้นจึงรู้สึกเย็นมากฉู่เนี่ยนซีมองเฉินเกอที่ถูกห่อไว้แน่นบนเตียงหินตรงกลาง แล้ววางหีบห่อลง พร้อมกับสั่งการกับเป่ยถู"ช่วยเอาของที่ไม่จำเป็นบนร่างกายของเขาออกที"เขามองเตียงหินอย่างลังเลด้วยสายตาที่เป็นกังวล "มันจะไม่เป็นอะไรหรือ?"ฉู่เนี่ยนซีจัดการวางสมุนไพรและสิ่งอื่น ๆ และไม่แม้แต่จะมองดูเขาด้วยซ้ำก่อนจะตอบไปทันทีว่า "ไม่ต้องกังวล มันจะไม่มีปัญหาอะไร"หลังจากจ้องมองฉู่เนี่ยนซีอยู่ครู่หนึ่ง เป่ยถูก็เม้มริมฝีปากแน่นก่อนจะดึงผ้าออกจากตัวของเฉินเกอทันใดนั้น อุณหภูมิในห้องมืดก็อุ่นขึ้นกว่าเดิมเล็กน้อยเฉินเกอหลับลึกอยู่บนเตียงหินด้วยใบหน้าที่สงบฉู่เนี่ยนซียื่นมือออกไปสัมผัสร่างกายของเฉินเกอ อุณหภูมิร่างกายของเขาสูงเล็กน้อย นางดึงมือกลับ และสวมถุงมืออย่างใจเย็นจากนั้นก็หยิบถุงมืออีกคู่ส่งให้เป่ยถู “สวมมันแล้วช่วยข้าถอดเสื้อผ้าของเขาด้วย”"ได้"เป่ยถูสวมถุงมืออย่างรวดเร็ว หลังจากมีประสบการณ์ครั้งที่แล้วจากนั้นเขาก็ถอดเสื้อผ้าของเฉินเกอออกภายในไม่กี่ขั้นตอนเมื่อม
ฉู่เนี่ยนซีรู้ดีว่าเป่ยถูเป็นห่วงเฉินเกอ ดังนั้นนางจึงไม่ได้ใส่ใจ แต่นางก็จะไม่ยอมถูกคนโมโหใส่โดยเปล่าประโยชน์“อะแฮ่ม!” ฉู่เนี่ยนซีกระแอมไอเบา ๆ ทำลายความเงียบ ทำให้เป่ยถูหันไปมอง ฉู่เนี่ยนซีชูสองนิ้วขึ้นมาพร้อมกับเลิกคิ้วขึ้นเล็กน้อย แล้วพูดด้วยเสียงหนักแน่น "ข้าไม่ยอมถูกโมโหใส่โดยเปล่าประโยชน์หรอกนะ เอาอย่างนี้ก็แล้วกัน สมุนไพรที่เคยสัญญากับข้าไว้ปรับขึ้นเป็นสองเท่า! ว่าอย่างไร?"เมื่อเห็นว่าอีกฝ่ายหาทางออกให้แล้ว บวกกับเขาที่ใจร้อนเกินไปจริง ๆ เป่ยถูจึงพยักหน้าอย่างจำยอม "ตกลง"“อ้อ เมื่อครู่ท่านบอกว่ามันคือพิษ แต่ก่อนหน้านี้ท่านบอกว่ามันคือพิษกู่ไม่ใช่หรือ?”ฉู่เนี่ยนซีดึงเข็มเงินออกมาจากเฉินเกอทีละเล่ม นางยิ้มเล็กน้อย หลังจากที่นางยืนยันว่ามันคือพิษ เมื่อวานนี้ นางก็คิดวิธีรักษานี้ขึ้นมาได้ด้วยเช่นกันหน้าที่ของยาผายพิษแตกต่างจากยาฆ่าเชื้อ ยาผายพิษสามารถขับเซลล์ที่คุกคามร่างกายได้ก่อนหน้านี้นางสงสัยมาโดยตลอดว่าพิษชนิดใดที่อยู่ในร่างกายของเฉินเกอ มันถึงได้ขัดแย้งกับพิษกู่และกระตุ้นซึ่งกันและกันเช่นนี้เนื่องจากความคิดเริ่มซับซ้อนเกินไป จึงลืมไปว่าตัวเองสามารถถอนพิษจากวิ
แต่ผ่านไปสักครู่มันก็นูนขึ้นมาบนผิวหนังของเขาอีกครั้ง แต่คราวนี้มันปรากฏที่หน้าท้องของเขาหลังจากผ่านไปหลายครั้ง ฉู่เนี่ยนซีก็พบว่าสิ่งนี้ยอมเคลื่อนย้ายไปที่อื่นมากกว่าจะเข้าใกล้แขนขวาของเฉินเกอดวงตาที่เย็นชาของนางดูสงสัยมากขึ้นเล็กน้อย ดูเหมือนว่าวิธีการที่นางเคยใช้ไปก่อนหน้านี้มันจะไม่มีผลกับสิ่งนี้เลย“เกิดอะไรขึ้น?” เป่ยถูรู้สึกเป็นกังวลเมื่อเห็นฉู่เนี่ยนซีขมวดคิ้วและดูหนักใจ เขาจึงอดไม่ได้ที่จะถามขึ้นฉู่เนี่ยนซีขมวดคิ้วและไม่ตอบเป่ยถู นางเม้มริมฝีปากสีแดงแน่นและมีเหงื่อผุดขึ้นบนหน้าผากนางยกมือขึ้นและลองฝังเข็มลงไปอีกครั้ง นางต้องการทำให้ส่วนที่นูนขึ้นมานี้หายไปน่าเสียดายที่ส่วนที่นูนขึ้นมามันค่อย ๆ กระสับกระส่าย และเคลื่อนไหวอย่างบ้าคลั่งอยู่ภายในร่างกายของเขาราวกับถูกกระตุ้นแม้แต่ฉู่เนี่ยนซีก็ไม่คิดว่าจะเกิดเหตุการณ์แบบนี้เม็ดเหงื่อรวมตัวกันระหว่างปีกจมูกของฉู่เนี่ยนซี นางงอนิ้วเล็กน้อย และกัดริมฝีปากสีแดง ดวงตาของนางเต็มไปด้วยความสับสนเป่ยถูที่อยู่ด้านข้างสังเกตเห็นความสับสนของคนตรงหน้า และสีหน้าที่ไม่อาจเข้าใจได้ เสียงเย็นชาจึงดังขึ้นในห้องมืด “หรือท่านจะลองดึงม
ทุกสิ่งในโลกล้วนส่งผลกระทบต่อกันเป็นทอด ๆ พิษกู่เองก็มีสิ่งที่กลัวเช่นกัน อย่างไรก็ตามสิ่งเดียวที่สามารถอยู่รอดในร่างกายได้คือพิษกู่อีกชนิดหนึ่งที่สามารถเอาชนะพิษกู่หลับใหลได้เพียงแต่ไม่รู้ว่าพิษกู่ชนิดนี้คืออะไร?ฉู่เนี่ยนซีมองเห็นความสับสนในดวงตาของเป่ยถู และคิดว่าเขาคงไม่ยอมพูดอะไร นางจึงกำลังจะหันหลังกลับและจากไปเงียบ ๆ ก็ได้ยินเสียงต่ำที่น่าสะพรึงกลัวของเป่ยถูดังมาจากด้านหลัง“ข้าเต็มใจเชื่อคุณหนู เพียงแต่เรื่องนี้มันสำคัญมาก และมันก็ไม่ใช่เรื่องของข้าเองด้วย หวังว่าคุณหนูจะเก็บสิ่งที่จะได้ยินข้าพูดต่อไปนี้เป็นความลับ”ท่าทีขี้เล่นของเป่ยถูตอนนี้เต็มไปด้วยความจริงจัง แม้ว่าน้ำเสียงของเขาจะฟังดูให้ความเคารพ แต่ดวงตาที่เย็นชาของเขาก็เต็มไปด้วยคำเตือนเขาบอกนางอย่างไม่มีทางเลือก ถ้าฉู่เนี่ยนซีมีความคิดอื่นใด ความตายจะรอคอยนางอยู่!เพราะคนตายจะเก็บความลับได้ดีที่สุด!ฉู่เนี่ยนซีหยุดฝีเท้า หันกลับมาและพบกับสายตาอันน่ากลัวของเป่ยถูม่านตาสีเข้มเหล่านั้นเย็นชาราวกับน้ำเย็น และมีกลิ่นอายของการเยาะเย้ย“สายตาของท่านคงหมายความว่าหากข้าคิดที่จะเปิดเผยออกไป เกรงว่าวันนี้ในปีหน้าจะเ
“ข้าไม่ลืมแน่นอน!” เมื่อนึกถึงเหตุการณ์เมื่อครู่ ดวงตาของฉู่เนี่ยนซีก็เย็นชายิ่งขึ้น แม้แต่น้ำเสียงของนางก็เต็มไปด้วยความเย็นยะเยือก“แต่ท่านจงใจปกปิดมันกับข้า ดังนั้นต้องเพิ่มเบี้ยเสียหน่อย”เป่ยถูอดไม่ได้ที่จะกระตุกมุมปาก ตำแหน่งชายาหลีนี้ องค์ชายหลีไม่จ่ายค่าเลี้ยงดูนางสินะ"ตกลง!"ฉู่เนี่ยนซีไม่ได้สนใจเป่ยถูอีกต่อไป นางหันกลับมาและหยิบเข็มเงินออกจากร่างกายของเฉินเกอช่วงนี้นางอ่านตำรามาเยอะมาก และรู้เกี่ยวกับวิธีการกำจัดพิษกู่ ดังนั้นฉู่เนี่ยนซีจึงมีวิธีจัดการอยู่ในใจแล้วดวงตาของฉู่เนี่ยนซีสว่างขึ้นแล้วสงบลง การกำจัดพิษนับว่าไม่ใช่เรื่องยาก แต่ตอนนี้ขาดสมุนไพรอยู่หนึ่งอย่าง และสิ่งที่ขาดไปก็คืออำพันทะเลก่อนหน้านี้หุบเขาสมุนไพรเคยจะมอบให้นางเป็นของขวัญ แต่นางปฏิเสธอย่างสุภาพ พอตอนนี้มาคิดดู ดูเหมือนว่าจะต้องใช้ความพยายามเสียหน่อยแล้วเป่ยถูมองฉู่เนี่ยนซีอย่างลังเล ดวงตาของเขาสั่นไหว และถามด้วยน้ำเสียงทุ้มลึกว่า "เกิดอะไรขึ้น? มีปัญหาอะไรหรือ?"เป่ยถูรู้จักพิษกู่ดี และเขาก็รู้ว่าการกำจัดมันเป็นเรื่องที่ยากมาก ดังนั้นจึงไม่แปลกที่ฉู่เนี่ยนซีจะมีสีหน้าเช่นนี้ฉู่เนี่ยนซี มอ