ฉู่เนี่ยนซีรู้ดีว่าเป่ยถูเป็นห่วงเฉินเกอ ดังนั้นนางจึงไม่ได้ใส่ใจ แต่นางก็จะไม่ยอมถูกคนโมโหใส่โดยเปล่าประโยชน์“อะแฮ่ม!” ฉู่เนี่ยนซีกระแอมไอเบา ๆ ทำลายความเงียบ ทำให้เป่ยถูหันไปมอง ฉู่เนี่ยนซีชูสองนิ้วขึ้นมาพร้อมกับเลิกคิ้วขึ้นเล็กน้อย แล้วพูดด้วยเสียงหนักแน่น "ข้าไม่ยอมถูกโมโหใส่โดยเปล่าประโยชน์หรอกนะ เอาอย่างนี้ก็แล้วกัน สมุนไพรที่เคยสัญญากับข้าไว้ปรับขึ้นเป็นสองเท่า! ว่าอย่างไร?"เมื่อเห็นว่าอีกฝ่ายหาทางออกให้แล้ว บวกกับเขาที่ใจร้อนเกินไปจริง ๆ เป่ยถูจึงพยักหน้าอย่างจำยอม "ตกลง"“อ้อ เมื่อครู่ท่านบอกว่ามันคือพิษ แต่ก่อนหน้านี้ท่านบอกว่ามันคือพิษกู่ไม่ใช่หรือ?”ฉู่เนี่ยนซีดึงเข็มเงินออกมาจากเฉินเกอทีละเล่ม นางยิ้มเล็กน้อย หลังจากที่นางยืนยันว่ามันคือพิษ เมื่อวานนี้ นางก็คิดวิธีรักษานี้ขึ้นมาได้ด้วยเช่นกันหน้าที่ของยาผายพิษแตกต่างจากยาฆ่าเชื้อ ยาผายพิษสามารถขับเซลล์ที่คุกคามร่างกายได้ก่อนหน้านี้นางสงสัยมาโดยตลอดว่าพิษชนิดใดที่อยู่ในร่างกายของเฉินเกอ มันถึงได้ขัดแย้งกับพิษกู่และกระตุ้นซึ่งกันและกันเช่นนี้เนื่องจากความคิดเริ่มซับซ้อนเกินไป จึงลืมไปว่าตัวเองสามารถถอนพิษจากวิ
แต่ผ่านไปสักครู่มันก็นูนขึ้นมาบนผิวหนังของเขาอีกครั้ง แต่คราวนี้มันปรากฏที่หน้าท้องของเขาหลังจากผ่านไปหลายครั้ง ฉู่เนี่ยนซีก็พบว่าสิ่งนี้ยอมเคลื่อนย้ายไปที่อื่นมากกว่าจะเข้าใกล้แขนขวาของเฉินเกอดวงตาที่เย็นชาของนางดูสงสัยมากขึ้นเล็กน้อย ดูเหมือนว่าวิธีการที่นางเคยใช้ไปก่อนหน้านี้มันจะไม่มีผลกับสิ่งนี้เลย“เกิดอะไรขึ้น?” เป่ยถูรู้สึกเป็นกังวลเมื่อเห็นฉู่เนี่ยนซีขมวดคิ้วและดูหนักใจ เขาจึงอดไม่ได้ที่จะถามขึ้นฉู่เนี่ยนซีขมวดคิ้วและไม่ตอบเป่ยถู นางเม้มริมฝีปากสีแดงแน่นและมีเหงื่อผุดขึ้นบนหน้าผากนางยกมือขึ้นและลองฝังเข็มลงไปอีกครั้ง นางต้องการทำให้ส่วนที่นูนขึ้นมานี้หายไปน่าเสียดายที่ส่วนที่นูนขึ้นมามันค่อย ๆ กระสับกระส่าย และเคลื่อนไหวอย่างบ้าคลั่งอยู่ภายในร่างกายของเขาราวกับถูกกระตุ้นแม้แต่ฉู่เนี่ยนซีก็ไม่คิดว่าจะเกิดเหตุการณ์แบบนี้เม็ดเหงื่อรวมตัวกันระหว่างปีกจมูกของฉู่เนี่ยนซี นางงอนิ้วเล็กน้อย และกัดริมฝีปากสีแดง ดวงตาของนางเต็มไปด้วยความสับสนเป่ยถูที่อยู่ด้านข้างสังเกตเห็นความสับสนของคนตรงหน้า และสีหน้าที่ไม่อาจเข้าใจได้ เสียงเย็นชาจึงดังขึ้นในห้องมืด “หรือท่านจะลองดึงม
ทุกสิ่งในโลกล้วนส่งผลกระทบต่อกันเป็นทอด ๆ พิษกู่เองก็มีสิ่งที่กลัวเช่นกัน อย่างไรก็ตามสิ่งเดียวที่สามารถอยู่รอดในร่างกายได้คือพิษกู่อีกชนิดหนึ่งที่สามารถเอาชนะพิษกู่หลับใหลได้เพียงแต่ไม่รู้ว่าพิษกู่ชนิดนี้คืออะไร?ฉู่เนี่ยนซีมองเห็นความสับสนในดวงตาของเป่ยถู และคิดว่าเขาคงไม่ยอมพูดอะไร นางจึงกำลังจะหันหลังกลับและจากไปเงียบ ๆ ก็ได้ยินเสียงต่ำที่น่าสะพรึงกลัวของเป่ยถูดังมาจากด้านหลัง“ข้าเต็มใจเชื่อคุณหนู เพียงแต่เรื่องนี้มันสำคัญมาก และมันก็ไม่ใช่เรื่องของข้าเองด้วย หวังว่าคุณหนูจะเก็บสิ่งที่จะได้ยินข้าพูดต่อไปนี้เป็นความลับ”ท่าทีขี้เล่นของเป่ยถูตอนนี้เต็มไปด้วยความจริงจัง แม้ว่าน้ำเสียงของเขาจะฟังดูให้ความเคารพ แต่ดวงตาที่เย็นชาของเขาก็เต็มไปด้วยคำเตือนเขาบอกนางอย่างไม่มีทางเลือก ถ้าฉู่เนี่ยนซีมีความคิดอื่นใด ความตายจะรอคอยนางอยู่!เพราะคนตายจะเก็บความลับได้ดีที่สุด!ฉู่เนี่ยนซีหยุดฝีเท้า หันกลับมาและพบกับสายตาอันน่ากลัวของเป่ยถูม่านตาสีเข้มเหล่านั้นเย็นชาราวกับน้ำเย็น และมีกลิ่นอายของการเยาะเย้ย“สายตาของท่านคงหมายความว่าหากข้าคิดที่จะเปิดเผยออกไป เกรงว่าวันนี้ในปีหน้าจะเ
“ข้าไม่ลืมแน่นอน!” เมื่อนึกถึงเหตุการณ์เมื่อครู่ ดวงตาของฉู่เนี่ยนซีก็เย็นชายิ่งขึ้น แม้แต่น้ำเสียงของนางก็เต็มไปด้วยความเย็นยะเยือก“แต่ท่านจงใจปกปิดมันกับข้า ดังนั้นต้องเพิ่มเบี้ยเสียหน่อย”เป่ยถูอดไม่ได้ที่จะกระตุกมุมปาก ตำแหน่งชายาหลีนี้ องค์ชายหลีไม่จ่ายค่าเลี้ยงดูนางสินะ"ตกลง!"ฉู่เนี่ยนซีไม่ได้สนใจเป่ยถูอีกต่อไป นางหันกลับมาและหยิบเข็มเงินออกจากร่างกายของเฉินเกอช่วงนี้นางอ่านตำรามาเยอะมาก และรู้เกี่ยวกับวิธีการกำจัดพิษกู่ ดังนั้นฉู่เนี่ยนซีจึงมีวิธีจัดการอยู่ในใจแล้วดวงตาของฉู่เนี่ยนซีสว่างขึ้นแล้วสงบลง การกำจัดพิษนับว่าไม่ใช่เรื่องยาก แต่ตอนนี้ขาดสมุนไพรอยู่หนึ่งอย่าง และสิ่งที่ขาดไปก็คืออำพันทะเลก่อนหน้านี้หุบเขาสมุนไพรเคยจะมอบให้นางเป็นของขวัญ แต่นางปฏิเสธอย่างสุภาพ พอตอนนี้มาคิดดู ดูเหมือนว่าจะต้องใช้ความพยายามเสียหน่อยแล้วเป่ยถูมองฉู่เนี่ยนซีอย่างลังเล ดวงตาของเขาสั่นไหว และถามด้วยน้ำเสียงทุ้มลึกว่า "เกิดอะไรขึ้น? มีปัญหาอะไรหรือ?"เป่ยถูรู้จักพิษกู่ดี และเขาก็รู้ว่าการกำจัดมันเป็นเรื่องที่ยากมาก ดังนั้นจึงไม่แปลกที่ฉู่เนี่ยนซีจะมีสีหน้าเช่นนี้ฉู่เนี่ยนซี มอ
นางใช้ยาพิเศษลบรอยแผลเป็นบนใบหน้า และสวมอาภรณ์บุรุษหลังจากนั้นไม่นานประตูก็เปิดออก และบุรุษในชุดขาวก็เดินออกมา อวี๋หนานเดินเข้ามายืนอยู่เคียงข้าง “ไปที่หุบเขาสมุนไพรกันเถอะ!”“ขอรับนายท่าน” อวี๋หนานตอบรับทันที ใบหน้าของเขาเต็มไปด้วยความสุขเพราะเขาไม่ต้องอยู่แต่ในเรือนท้องฟ้าสีคราม สายลมเย็นพัดมาอย่างเปี่ยมสุขไม่รู้ว่าการเดินทางไปหุบเขาสมุนไพรในวันนี้จะสามารถหยิบยืมอำพันทะเลได้สำเร็จหรือไม่เพราะก่อนหน้านี้นางได้คืนของกลับไปแล้ว แต่ตอนนี้กลับต้องการยืมมันค่อนข้างน่าอายเล็กน้อยหลังจากจุดธูปแล้ว รถม้าก็ข้ามทุ่งป่าและขับไปโดยไม่ทราบระยะเวลาก่อนที่จะหยุดอย่างช้า ๆ“ถึงแล้ว!” ฉู่เนี่ยนซีพูด แล้วก้าวนำลงจากรถม้าอวี๋หนานอดไม่ได้ที่จะมองไปรอบ ๆ ป่าด้วยความอยากรู้อยากเห็นฉู่เนี่ยนซีมองไปที่ป่าพิษขนาดใหญ่ตรงหน้าอย่างเย็นชา จากนั้นก็หยิบยาล้างพิษออกจากแขนเสื้อแล้วมอบให้อวี๋หนานเมื่อเห็นอวี๋หนานกลืนยาล้างพิษแล้ว ฉู่เนี่ยนซีจึงเดินนำเข้าไปในป่าพิษทั้งสองเดินไปสักพัก และเพิ่งหลุดออกมาจากป่าพิษ ก็ไม่คิดเลยว่าจะได้เจอเข้ากับเซวียเล่อทันทีเช่นนี้“คุณชายซี! เหตุใดท่านถึงมาที่นี่?
”นายใหญ่!” นางตะโกนในใจด้วยความรู้สึกประหลาดใจ ไม่ ไม่ ไม่ นางไม่น่าจะใช่นายใหญ่ อายุไม่สอดคล้องกันเลย! หรือว่าจะเป็นลูกชายของนายใหญ่อย่างนั้นหรือ? ไม่น่าจะเป็นเช่นนั้น เพราะตอนที่ได้พบกับนายใหญ่ นางบอกว่ากำลังจะมีลูกสาวแต่สุดท้ายก็ได้ข่าวว่านางแท้งและเสียชีวิตไปแล้วแม้ว่าจะเป็นข่าวเท็จในตอนนั้น ก็ควรจะเป็นลูกสาวถึงจะถูก!หัวหน้าหุบเขาพยักหน้า และส่ายหัวสลับกันไปมา ร่องรอยของความประหลาดใจแวบผ่านดวงตาของนางอย่างรวดเร็ว และในพริบตาเดียวดวงตาของนางก็กลับมาเย็นชา ทำให้ผู้คนรู้สึกกดดันเมื่อถูกจ้องมองจากนั้นหัวหน้าหุบเขาก็รีบเดินไปหาเซวียหนานคงและตบหัวเขาโดยไม่พูดอะไรสักคำ และพูดด้วยความโกรธว่า "เจ้าคนฟุ่มเฟือย อีกไม่นานยาในหุบเขาสมุนไพรจะถูกเจ้าส่งออกไปจนหมด!"น้ำเสียงเย็นชา แต่ก็มีอำนาจที่ไม่อาจอธิบายได้เซวียหนานคงผู้ถูกทุบตีกุมศีรษะของตัวเองและมองหัวหน้าหุบเขาอย่างทำอะไรไม่ถูก“ข้าโตขนาดนี้แล้วยังโดนตบหัวอยู่ ไม่ไว้หน้าข้าเลยหรือ!”เมื่อได้ยินว่านางเป็นหัวหน้าหุบเขา ฉู่เนี่ยนซีก็รีบก้าวไปข้างหน้าและโค้งคำนับอย่างสุภาพ "หัวหน้าหุบเขา ข้าคือซานเซิง วันนี้ข้ามาที่นี่เพราะมีเรื่
“ท่านอาจารย์...” ศิษย์น้องลืมตาขึ้นมา เหงื่อท่วมตัวเต็มไปด้วยความเจ็บปวดที่แฝงด้วยความเสียใจ“อย่าเพิ่งพูดอะไร ออมแรงเอาไว้” หัวหน้าหุบเขาดูกังวล ดวงตาที่เย็นชาของนางอ่อนลงทันที นางหยิบยาออกมาจากแขนเสื้อแล้วป้อนเข้าไปในปากของศิษย์น้องอย่างอ่อนโยนผ่านไปสักพัก ศิษย์น้องก็กระพริบตาช้า ๆ นางรู้สึกเปลือกตาหนักอึ้ง ก่อนจะค่อย ๆ หลับไปเมื่อเห็นว่านางหลับแล้ว หัวหน้าหุบเขาก็แก้ผ้าพันแผลทีละชั้นแล้วถอดออกทันใดนั้น นิ้วชี้ที่เชื่อมต่อกับผิวหนังที่เต็มไปด้วยเลือดก็ปรากฏขึ้นตรงหน้า“เฮ้อ!” หัวหน้าหุบเขาตรวจสอบ และถอนหายใจแรงอาการบาดเจ็บสาหัส แม้ว่าเลือดจะหยุดไหลแต่นิ้วชี้ก็พิการไปแล้ว“หัวหน้าหุบเขา นิ้วชี้ของศิษย์น้องสามารถต่อกลับได้หรือไม่?”เซวียหนานคงถามด้วยเสียงทุ้มพร้อมกับอารมณ์ที่ซับซ้อนแวบขึ้นมาในดวงตาของเขา“เกรงว่าจะทำไม่ได้”หัวหน้าหุบเขาส่ายหน้าอย่างจนปัญญาทันทีที่คำพูดเหล่านี้หลุดออกมา ทั้งห้องก็ตกอยู่ในอารมณ์ที่หนักอึ้งแม้ว่าหัวหน้าหุบเขาจะมีชื่อเสียงในด้านยาพิษ แต่ในฐานะหัวหน้าหุบเขาทักษะทางการแพทย์ของนางก็ไม่ได้ด้อยเลย ถ้าแม้แต่นางยังบอกว่าไม่ได้ เช่นนั้นก็แสดงว่าไม
หลังจากตรวจสอบว่าทุกอย่างถูกต้อง ฉู่เนี่ยนซีก็หันไปหาหัวหน้าหุบเขาแล้วกล่าวอย่างใจเย็นว่า "หัวหน้าหุบเขาและท่านอื่น ๆ โปรดออกไปก่อนเถิด"นางรู้ดีว่าหมอต้องการความสงบเวลารักษาผู้คน หัวหน้าหุบเขาจึงกลืนสิ่งที่ต้องการจะพูดและพาคนอื่น ๆ ออกไปหลังจากเสียงฝีเท้าหายไป ในห้องก็มีเพียงความเงียบเพื่อป้องกันไม่ให้ศิษย์น้องตื่นขึ้นมาก่อนเวลา ฉู่เนี่ยนซีจึงหยิบเข็มยาชาออกมาจากช่องห้วงมิติแล้วฉีดเข้าไปในร่างกายของนางในขณะที่ตรวจสอบบาดแผลอย่างละเอียด นางก็ฆ่าเชื้อมีดผ่าตัด เข็มและด้ายจากนั้นจึงล้างแผล และวางนิ้วลงในยาพิเศษเพื่อหลีกเลี่ยงการเกิดเนื้อร้ายและการหดตัวของนิ้วหลังจากเตรียมพร้อมแล้ว ฉู่เนี่ยนซีก็วางนิ้วของนางกลับไปยังตำแหน่งเดิมอย่างระมัดระวัง นางทำความสะอาดบาดแผลอีกครั้ง จากนั้นก็กำจัดเนื้อเยื่อที่ตายออก ก่อนจะเชื่อมกระดูกและข้อต่อเข้าด้วยกัน ดูเหมือนไม่ยากแต่ต้องระวังทุกครั้งขั้นตอน และห้ามผิดพลาดแม้แต่น้อยหลังจากนั้นฉู่เนี่ยนซีก็หยิบเข็มและด้ายออกมาแล้วเย็บเอ็นเข้าด้วยกันทันทีขั้นตอนสุดท้ายต้องใช้ความพยายามอย่างมาก และเวลาก็ผ่านไปทีละน้อย ในเวลานี้ หน้าผากของ ฉู่เนี่ยนซี