แชร์

บทที่ 247

ผู้เขียน: ชาผลไม้
last update ปรับปรุงล่าสุด: 2024-01-17 16:00:00
เมื่อมองไปยังเย่เฟยหลีที่นิ่งเฉยด้วยความสับสนเล็กน้อย ฉู่เนี่ยนซีก็บ่นในใจ เกิดอะไรขึ้นกับชายคนนี้? หรือเขาจะถูกงูพิษกัดตอนที่นางออกไปข้างนอก?

เมื่อเห็นใบหน้าที่ค่อนข้างซีดเซียวของเย่เฟยหลีและมีเหงื่อบาง ๆ อยุ่บนหน้าผากของเขา ฉู่เนี่ยนซีก็ยืนยันความคิดของตัวเองทันทีและรีบตรวจสอบว่าเขามีอาการบาดเจ็บบนร่างกายบ้างหรือไม่

เมื่อคว้ามือที่กำลังทำรุ่มร่ามของฉู่เนี่ยนซี เย่เฟยหลีก็จ้องมองนางอย่างใกล้ชิด

“เจ้าจะทำอะไร?” น้ำเสียงเย็นชาของมีความเคอะเขินแฝงอยู่ในที

“ข้าคิดว่าท่านถูกงูพิษกัด ข้ากังวลก็เลย... นี่ อย่าเข้าใจผิดนะ!”

เมื่อปล่อยมือนาง เย่เฟยหลีก็เม้มปากบาง ความเยือกเย็นในดวงตาของเขาจางลงเล็กน้อย และรังสีแห่งความนุ่มนวลก็เอ่อล้นออกมา

“ข้าไม่ได้ถูกกัด”

แสงจันทร์ช่างน่ารื่นรมย์ และสายลมก็พัดผ่านผมปลิวไสว

ภายใต้แสงจันทร์สลัว ทั้งสองมองหน้ากัน หัวใจของพวกเขาปะทะกันท่ามกลางความว่างเปล่า และบรรยากาศก็เริ่มคลุมเครือขึ้นมา

ด้วยความรู้สึกของเขาที่มี เย่เฟยหลีจึงก้าวไปข้างหน้าและค่อย ๆ ก้มศีรษะลงราวกับต้องมนตร์

ในทางกลับกัน ฉู่เนี่ยนซีที่ยืนอยู่อย่างงงงวย ก็จ้องมองเย่เฟยหลีด้วย
บทที่ถูกล็อก
อ่านต่อเรื่องนี้บน Application

บทที่เกี่ยวข้อง

  • องค์ชายหลีกับชายาลี้รัก   บทที่ 248

    ฉู่เนี่ยนซีเดินอย่างรวดเร็วไปที่เรือน อวี๋ตงและคนอื่น ๆ ที่นั่งอยู่รอบ ๆ เมื่อได้ยินการเคลื่อนไหวพวกเขาก็ติดตามเสียงนั้นไปผมของฉู่เนี่ยนซียุ่งเหยิงเล็กน้อยและใบหน้าของนางก็แดงก่ำเนื่องจากการก้าวที่เร่งรีบ ทุกคนดูสับสนเมื่อได้เห็นดังนั้นเสี่ยวเถาเดินออกไปอย่างสบาย ๆ พร้อมจานขนม เมื่อนางเห็นฉู่เนี่ยนซีที่ยืนหอบนางก็ก้าวไปข้างหน้าทันทีเพื่อพยุงนางไว้“พระชายามาทางนี้เพคะ” เสี่ยวเถารีบรินน้ำให้ฉู่เนี่ยนซีพลางมองนางด้วยความกังวล“นายหญิง เกิดอะไรขึ้น?” ดวงตาของอวี๋ตงจริงจังและหรี่ตาลงอย่างระแวดระวังฉู่เนี่ยนซีดื่มชาหมดถ้วยในอึกเดียว หลังจากถอนหายใจออกมาสองสามทีก็ทำสีหน้าเคร่งเครียด ดวงตาของนางซับซ้อนและแสดงความน่ากลัวออกมา“อวี๋ตง พรุ่งนี้เจ้าไปตรวจสอบปริมาณการขายผงสลายเส้นเอ็นและจัดทำรายชื่อคนซื้อมาให้ข้า”อวี๋ตงพยักหน้าโดยไม่ถามเหตุผล “พ่ะย่ะค่ะนายหญิง”ไม่รู้ว่าเมื่อใดที่พระจันทร์เต็มดวงซ่อนตัวอยู่ในเมฆหนาทึบจนมองไม่เห็นอีกครั้ง ทำให้บรรยากาศมืดมนอย่างแปลกประหลาดวันรุ่งขึ้น เนื่องด้วยเหตุการณ์เรื่องงูที่เกิดขึ้น ฉู่เนี่ยนซีจึงตรงไปยังพระตำหนักหย่างซินเพื่อเข้าเฝ้าองค์จักรพรร

    ปรับปรุงล่าสุด : 2024-01-17
  • องค์ชายหลีกับชายาลี้รัก   บทที่ 249

    “ฝ่าบาท วันนี้หม่อมฉันมาที่นี่เพราะมีเรื่องจะมากราบทูลเพคะ!” เนื่องจากนางอยู่ในตำหนักของไทเฮา ฉู่เนี่ยนซีจึงขี้คร้านเกินกว่าจะอยู่ต่อไปได้ ดังนั้นนางจึงเริ่มเปิดประเด็นและเล่าสิ่งที่เกิดขึ้นเมื่อคืนนี้ในตอนแรกองค์จักรพรรดิดูไม่แยแส แต่สีหน้าของเขาก็ค่อย ๆ จริงจังขึ้น และนั่งตัวตรงไทเฮาที่อยู่ข้าง ๆ กลับไม่สนใจเรื่องนี้เลยแม้แต่น้อย ทำเหมือนว่าสิ่งที่ฉู่เนี่ยนซีเล่าเป็เพียงเรื่องตลกที่ถูกแต่งขึ้น“ข้าก็ได้ยินเกี่ยวกับเหตุการณ์นี้เหมือนกัน แต่ไม่คาดคิดว่าเรื่องราวจะเป็นเช่นนี้” หลังจากฟังเรื่องราวของฉู่เนี่ยนซีแล้ว องค์จักรพรรดิก็พูดอย่างจริงจังว่า “เจ้าหมายถึง…นี่เป็นฝีมือของคนเช่นนั้นหรือ? มีคนต้องการจะทำร้ายเจ้าหรือ?”“เพคะ!” ริมฝีปากสีแดงของฉู่เนี่ยนซีเอ่ยขึ้นเบา ๆ และพูดอย่างตรงไปตรงมาว่า “เมื่อวานมีคนนำกระถางดอกสายน้ำผึ้งมา ตอนนั้นซีเอ๋อร์ไม่ได้ใส่ใจ ดังนั้นจึงประสบปัญหาเช่นนี้เพคะ!”ได้ยินดังนั้น องค์จักรพรรดิและไทเฮาก็ไม่ได้พูดอะไร แต่ซุนจื่อซีที่อยู่ด้านข้างกลับสูดลมหายใจลึกและมองฉู่เนี่ยนซีด้วยความกลัวประกอบกับมีความกังวลบนใบหน้าของนาง“เกิดเรื่องเช่นนี้ในหอตำราได้อย่

    ปรับปรุงล่าสุด : 2024-01-17
  • องค์ชายหลีกับชายาลี้รัก   บทที่ 250

    ฉู่เนี่ยนซีมองไทเฮาด้วยสายตาเย็นชา แม้ว่าสีหน้าของนางจะไม่มีอารมณ์ความรู้สึกใดใด แต่ดวงตาของนางก็เผยให้เห็นอารมณ์ที่อธิบายไม่ได้โดยปกติแล้ว นางไม่สามารถพูดเรื่องการมีภูมิต้านทานต่อพิษทุกชนิดได้ ความคิดที่ไม่เป็นมิตรของไทเฮาในปัจจุบันที่มีต่อนาง บวกกับความจริงที่ว่านางคาดเดาซุนจื่อซีอยู่ข้าง ๆ ไม่ออก ปัจจัยที่ไม่แน่นอนเหล่านี้ หากเล่าเรื่องนี้ไปมีแต่จะสร้างปัญหาและนำอันตรายมาสู่ตัวเองคิ้วของฉู่เนี่ยนซีขมวดเล็กน้อย จากนั้นดูเหมือนนางจะนึกถึงอะไรออก นางได้สติกลับมา จากนั้นก็ค่อย ๆ หยิบยาออกมาจากแขนเสื้อแล้วชูขึ้นสูง“ยาเม็ดนี้เรียกว่ายาล้างพิษ สามารถแก้พิษได้หลายร้อยชนิด นอกจากนี้ยังสามารถแก้พิษจากผงสลายเส้นเอ็นได้ด้วยเพคะ”ฉู่เนี่ยนซีค่อย ๆ หรี่ตาลงขณะที่พูด พลางมองไปรอบ ๆ ยังนางกำนัลและขันทีอย่างใจเย็น เสียงของนางดังขึ้นและเยือกเย็น “ทันทีที่รู้ว่ามีบางอย่างผิดปกติ หม่อมฉันก็กินยาดักไว้ แม้ว่าผงนั้นจะไม่มีสีและกลิ่นก็ตาม...การโจมตีที่กะทันหันนั้นมีกระบวนการ ตราบใดที่แก้ทันไขเวลาก็จะไม่ติดพิษเพคะ”ขณะที่ฉู่เนี่ยนซีพูด นางก็มองไปรอบ ๆ แต่ก็ไม่มีนางกำนัลหรือขันทีคนไหนแสดงสีหน้าผิดปก

    ปรับปรุงล่าสุด : 2024-01-18
  • องค์ชายหลีกับชายาลี้รัก   บทที่ 251

    ฉู่เนี่ยนซีมองไทเฮาด้วยดวงตาที่เย็นชาอย่างอธิบายไม่ถูก และพูดอีกครั้งว่า “ไทเฮาทรงถามหม่อมฉันซ้ำแล้วซ้ำเล่าและโต้แย้งหม่อมฉันตลอด...ทรงไม่อยากตามหาผู้ที่อยู่เบื้องหลังหรือทรงแค่มีความเห็นต่อต้านหม่อมฉัน เพิกเฉยต่อกฎหมายและปล่อยให้คนอื่นทำตามที่พวกเขาต้องการ อีกทั้งยังทำให้ระเบียบในพระราชวังปั่นป่วนเล่าเพคะ?”ขณะที่พูด เสียงของฉู่เนี่ยนซีก็ต่ำลงเรื่อย ๆ แต่น้ำเสียงของนางไม่สั่นคลอนราวกับว่าอากาศรอบตัวกำลังเบาบางลง“เจ้ากล้าดีอย่างไรมาตั้งคำถามกับข้า?!” ไทเฮาขมวดคิ้วด้วยสีหน้าโกรธเกรี้ยวฉู่เนี่ยนซีส่งเสียงหึ ดวงตาของนางสุกใสเสมือนหลุดเข้าไปในทางช้างเผือกขนาดมหึมา แม้ว่านางจะยิ้ม แต่กลับให้รู้สึกเย็นยะเยือก“ไทเฮาทรงตั้งคำถามกับหม่อมฉันได้ เหตุใดหม่อมฉันจะตั้งคำถามกับพระองค์บ้างไม่ได้ล่ะเพคะ?”“เจ้า...” ไทเฮาสะอึกและพูดไม่ออกอยู่ครู่หนึ่ง“ดื้อด้านนัก! ไยเจ้ายังไม่ขอโทษเสด็จย่าของเจ้าอีก?!” องค์จักรพรรดิทรงดุฉู่เนี่ยนซีทันที แม้ว่าน้ำเสียงขอบเขาจะเต็มไปด้วยความเข้มงวดและไม่เห็นด้วย แต่เขาก็ไม่ได้ตำหนินางเลยท้ายที่สุด ในฐานะองค์จักรพรรดิผู้ชาญฉลาด เขาก็มองเห็นเจตนาที่ไทเฮามีต่อฉู่

    ปรับปรุงล่าสุด : 2024-01-18
  • องค์ชายหลีกับชายาลี้รัก   บทที่ 252

    วันรุ่งขึ้น มีองครักษ์เพิ่มมากขึ้นมายืนเฝ้ายามที่หอตำราหลวงวันถัดมา ฉู่เนี่ยนซีมาที่หอตำราแต่เช้าอีกครั้ง ก่อนที่นางจะเข้าไป นางก็ถูกนางกำนัลข้างกายของไทเฮาพาตัวไปหลังจากสิ่งที่เกิดขึ้นครั้งก่อนฉู่เนี่ยนซีก็รู้สึกเสียใจ หากไทเฮาทรงตั้งใจจะทำให้นางอับอายจริง ๆ คงไม่ง่ายนักที่จะตอบโต้ฉู่เนี่ยนซีมองดูทิวทัศน์รอบ ๆ โดยไม่รู้ตัว พบว่านางกำนัลไม่ได้พานางไปที่ตำหนักบรรทมของไทเฮา แต่กลับพามาที่ศาลาศาลาแต่ละหลังมีแปดทิศ ล้อมรอบด้วยน้ำ และแต่ละด้านถูกคลุมด้วยผ้าโปร่ง ทำให้ดูพร่ามัวและลึกลับฉู่เนี่ยนซีมีท่าทีเฉยเมย สีหน้าของนางสงบและไม่ได้หงุดหงิด นางโค้งคำนับเล็กน้อยไปทางศาลา “ถวายบังคมไทเฮาเพคะ”“เข้ามาได้!” เสียงอันสง่างามและเศร้าหมองของไทเฮาดังมาจากศาลาหลังจากนั้นไม่นาน นางกำนัลสองคนก็เปิดทางให้เมื่อเห็นดังนั้น ฉู่เนี่ยนซีก็เดินเข้าไปอย่างสบาย ๆ ภายนอกค่อนข้างเย็น แต่ไม่ใช่กับข้างในเลย คงเป็นผลจากม่านเมื่อมองไปรอบ ๆ อย่างใจเย็น มีนางกำนัลแปดคนยืนอยู่ทุกด้าน ในศาลามีตั่งยาวและโต๊ะทรงจีนวางอยู่ด้านหนึ่งไทเฮาทรงเอนกาย พลางถือผลไม้ไว้ในพระหัตถ์ ชิมอย่างละเมียด มีนางกำนัลสองคนอย

    ปรับปรุงล่าสุด : 2024-01-18
  • องค์ชายหลีกับชายาลี้รัก   บทที่ 253

    ได้ยินเช่นนั้น ไทเฮาก็เบิกตากว้างขึ้นทันที นี่กำลังหลอกด่าทางอ้อมว่านางป่วยจิตรึ?ตอนแรกก็คิกว่าฉู่เนี่ยนซีจงใจหมายความเช่นนั้น นางไม่ได้ดูอบอุ่นหรือเฉยเมย แต่ด้วยสายตาที่ดูเป็นห่วงประกอบกับความกังวลบนใบหน้าของนางกลับทำให้ไทเฮาทรงกลืนคำดุด่านั้นลงคอไป“ไม่ต้อง เจ้าไปเถอะ!”“เช่นนั้น ซีเอ๋อร์ขอตัวก่อนเพคะ!”หลังจากฉู่เนี่ยนซีพูดจบ นางก็หันหลังกลับออกไป ตอนที่หันกลับไปนั้นก็รีบปกปิดสายตาเจ้าเล่ห์ไว้หลายวันต่อมา ฉู่เนี่ยนซีก็ถูกให้ไปอยู่ข้าง ๆ ไทเฮาเสมอ แม้ทุกครั้งจะเป็นสถานการณ์ที่ลำบาก แต่ฉู่เนี่ยนซีก็แก้ไขปัญหาจนผ่านไปได้ด้วยดีอีกทั้งช่วงเย็นในหลายวันมานี้ เย่เฟยหลีมารับฉู่เนี่ยนซีกลับเรือนด้วยตลอด จนทั้งสองคนเข้าใจกันไปโดยปริยายพริบตาเดียว ในเวลาจำกัดเจ็ดวันก็เหลือเพียงวันเดียวเท่านั้นฉู่เนี่ยนซีตรวจสอบความรู้ทางการแพทย์เกือบทั้งหมดในหอตำรา แม้กระทั่งอ่านเหตุการณ์สำคัญ ๆ ทั้งหมดในหลายปีที่ผ่านมา แต่ก็ไม่มีวี่แววของเหตุการณ์ที่เกี่ยวข้องกับพิษกู่ชนิดนี้ฉู่เนี่ยนซีรู้สึกผิดหวังเล็กน้อย นางทรุดตัวลงกับพื้น พิงชั้นหนังสือ พลางใช้หนังสือปิดหน้าหลังจากงีบไป ฉู่เนี่ยนซีก็จั

    ปรับปรุงล่าสุด : 2024-01-19
  • องค์ชายหลีกับชายาลี้รัก   บทที่ 254

    เมื่อเห็นว่าในที่สุด อวี๋ตงก็ให้ความสนใจเขา ดวงตาของเย่ฉงเฉิงก็เปล่งประกายด้วยความสำเร็จ แต่เมื่อเขาเงยหน้าขึ้น แววตานั้นก็หายไปครู่หนึ่ง และสีหน้าเจ็บปวดก็เข้ามาแทนที่“โอ๊ย โอ๊ย ข้าเจ็บเหลือเกิน !”เสียงร้องแห่งความเจ็บปวดดังขึ้นเรื่อย ๆ อวี๋ตงไม่มีทางเลือกอื่นนอกจากสั่งให้เด็กรับใช้ไปตามหมอไม่นาน หมอก็มาถึง ขณะที่เขากำลังจะตรวจชีพจร ลูกละตาของเย่ฉงเฉิงก็เบิกโพลงขึ้นมา พลางตะโกนขึ้น “เจ็บ!” เสียงตะโกนทำให้หมอตกใจ และรีบถามอย่างกังวลใจว่า “ไม่ทราบว่าท่านอ๋องเฉิงเจ็บตรงไหนพ่ะย่ะค่ะ? ตรงนี้ หรือว่าตรงนี้?”ขณะที่พูด หมอก็ยื่นมือออกไปสัมผัสหลายจุดบนร่างกายของเย่ฉงเฉิงมาแตะกันแบบนี้ก็ดีเลยสิ! เย่ฉงเฉิงตะโกนอีกครั้งโดยบอกว่าเขาทนเจ็บไม่ไหวคราวนี้หมอกำลังลำบากและยืนนิ่งอยู่ตรงนั้นอย่างคนทำอะไรไม่ถูกเขาไม่เคยเห็นโรคแปลก ๆ เช่นนี้มาก่อน ดังนั้นเขาจึงหันไปขอความช่วยเหลือจากอวี๋ตง และถามอย่างเงียบ ๆ ว่าเขาควรทำ แน่นอนว่าอวี๋ตงไม่อยากสนใจเกี่ยวกับชีวิตและความตายของเย่ฉงเฉิง แต่ด้วยฝูงชนที่อยู่รอบ ๆ อย่างหนาแน่นที่ด้านนอก เขาจึงไม่มีทางเลือกอื่นนอกจากกัดฟันเชิญฉู่เนี่ยนซีมาลองตรวจดู

    ปรับปรุงล่าสุด : 2024-01-19
  • องค์ชายหลีกับชายาลี้รัก   บทที่ 255

    อย่างไรก็ตาม เขาไม่อยากถูกบุคคลต้นแบบของเขาเกลียดและเข้าใจผิด เย่ฉงเฉิงรู้สึกกังวลจึงรีบขอโทษอย่างรวดเร็ว “ขออภัยด้วย! ข้าไม่ได้ตั้งใจจริง ๆ!”หลังจากนั้นในทันใด เย่ฉงเฉิงก็คุกเข่าลงโดยไม่พูดอะไรสักคำ ดวงตาของเขาร้อนรน พลางขอร้องว่า "ได้โปรดขอให้ท่านหมอเทวดาซานเซิงยอมรับข้าเป็นศิษย์ด้วยเถิด!”ฉู่เนี่ยนซีเคยได้ยินเย่ฉงเฉิงพูดถึงการขอเป็นศิษย์มานานแล้ว แต่คาดไม่ถึงว่าเขาจะละทิ้งความหยิ่งยโสและคุกเข่าลงเช่นนี้แม้ว่าจะประหลาดใจ แต่ฉู่เนี่ยนซีก็พูดตรง ๆ โดยไม่ต้องคิดว่า “กระหม่อมไม่รับศิษย์! ท่านอ๋องเฉิงโปรดกลับไปเถอะ!”"ไม่! ท่านหมอเทวดาซานเซิงโปรดรับข้าเป็นศิษย์ของท่านเถอะ!” เย่ฉงเฉิงปฏิเสธที่จะยอมแพ้และขวางทางฉู่เนี่ยนซีอย่างรวดเร็ว “ข้ามีความสามารถและเรียนรู้ทุกสิ่งทุกอย่างได้ไว! อีกทั้งข้าเองก็เป็นอ๋อง ข้าจะให้ความเคารพท่านมาก ๆ เลยด้วย! หากเลือกข้าก็ไม่เสียหายอะไร! ท่านหมอเทวดาซานเซิงโปรดรับข้าเป็นศิษย์ของท่านเถิด!”เมื่อเห็นเย่ฉงเฉิงเซ้าซี้ไม่หยุดหย่อน ฉู่เนี่ยนซีก็นึกถึงพฤติกรรมที่ไม่ดีก่อนหน้านี้ของเขาที่เคยทำใส่นาง จึงเผยรอยยิ้มที่เหมือนจะไม่ใช่รอยยิ้ม สายตาฉายแววเยาะเย้ยและ

    ปรับปรุงล่าสุด : 2024-01-19

บทล่าสุด

  • องค์ชายหลีกับชายาลี้รัก   บทที่ 550

    เมื่อได้ยินดังนั้น ฉู่เนี่ยนซีจึงฟาดไปที่ไหล่ของเขาหนึ่งที พลางมองดูสีหน้าเจ็บปวดของอีกฝ่าย “เช่นนั้นท่านก็ถอดเสื้อออก ข้าจะดูแผลให้”เดิมทีไม่รู้สึกอะไร แต่เมื่อเห็นเย่เฟยหลีถอดเสื้อผ้าทีละชิ้นตรงหน้า ฉู่เนี่ยนซีก็หันหน้าหนีด้วยความเขินอาย แม้ว่าเขาจะทำอย่างองอาจ แต่ก็ยังทำให้นางอายจนต้องเบือนหน้าหนี“เสร็จแล้ว”ฉู่เนี่ยนซีหันกลับมาจับแผ่นหลังกว้างของเย่เฟยหลีไว้ แต่นางก็ไม่เขินอายอีกต่อไป เพราะร่องรอยบาดแผลจากการสู้รบในอดีตทำให้ใจของนางสั่นสะท้านนางค่อย ๆ แกะผ้าพันแผลออกทีละชั้น เมื่อแกะชั้นสุดท้าย เย่เฟยหลีก็ทนต่อความเจ็บปวดจนตัวสั่นฉู่เนี่ยนซีรีบโรยผงยาลงบนผ้าผ้าพันแผลทันที ซึ่งไม่เพียงแต่บรรเทาความเจ็บปวดของเย่เฟยหลีเท่านั้น แต่ยังช่วยให้ปลดผ้าพันแผลออกได้ง่ายขึ้นอีกด้วยผงยานำความเย็นแพร่ไปตามบาดแผลทั่วทั้งแผ่นหลัง เย่เฟยหลีจึงคลายคิ้วที่ขมวดอยู่ช้าๆฉู่เนี่ยนซีมองไปยังบาดแผลไฟไหม้ที่สภาพดูไม่ได้“นอนลงบนเตียง ข้าจะทายาให้ท่านใหม่”“ได้”เย่เฟยหลีทำตามอย่างเชื่อฟัง เขาคว่ำตัวเหยียดยาวอยู่บนเตียงฉู่เนี่ยนซีโรยผงยาอีกขวดบนแผลให้เสมอกัน ผงยานี้ให้ผลลัพธ์ที่น่าอัศจรรย

  • องค์ชายหลีกับชายาลี้รัก   บทที่ 549

    ซุนจื่อซีที่อยู่ข้าง ๆ ไทเฮา ครุ่นคิดแล้วพูดว่า “ท่านป้า เนื่องด้วยจื่อซีและพระชายาหลีอยู่ด้วยกันมาระยะหนึ่งแล้วจึงได้รู้ว่าหากตระกูลไม่มีการอบรมสั่งสอนที่เข้มงวด พวกเขาก็จะไม่สามารถเลี้ยงดูบุตรีให้เติบโตมาอย่างดีเช่นนี้ได้ ฉู่กุ้ยเฟยต้องถูกใส่ร้ายแน่นอนเพคะ ได้โปรดทรงอย่าปล่อยให้คนบริสุทธิ์ต้องรับผิดอย่างไม่เป็นธรรมเลยนะเพคะ”องค์จักรพรรดิคิดว่าเขาไม่สามารถลงโทษสนมไป๋ได้เพียงเพราะการคาดเดาของหยางเหอ แต่สนมไป๋ ล่วงเกินฉู่กุ้ยเฟยซ้ำแล้วซ้ำเล่า ซึ่งนั่นเป็นความจริงที่แน่ชัด จึงมีรับสั่งให้สนมไป๋ถูกปรับเงินเดือนครึ่งปีและถูกกักบริเวณในตำหนักเป็นเวลาหนึ่งเดือน และไม่ได้รับอนุญาตให้ออกไปข้างนอกโดยพลการองค์จักรพรรดิมีรับสั่งให้เย่เหลียนและเย่เฟยหลีสืบเรื่องนี้ด้วยกัน หลังจากเหตุการณ์เลวร้ายพ้นผ่าน งานเลี้ยงในพระราชวังก็สูญเสียบรรยากาศที่สนุกสนานไป องค์จักรพรรดิทรงกังวลว่าไทเฮาจะทรงหวาดกลัว จึงประคองไทเฮาเสด็จกลับไปยังพระตำหนักอันชิ่งเพื่อพักผ่อนทุกคนที่หมดสนุกแล้วจึงหยุดทุกอย่างและรีบพากันกลับจวนช่องว่างเล็ก ๆ ของหน้าต่างหน้าต่างสีแดงลายมังกรถูกปิดลงอย่างเงียบ ๆ อย่างไม่มีใครสังเกตเผย

  • องค์ชายหลีกับชายาลี้รัก   บทที่ 548

    ฉู่เนี่ยนซีมาอยู่ข้างกายฉู่กุ้ยเฟยร่วมกับหยางเหอ หลังจากจับชีพจรและตรวจดูให้แน่ใจว่านางไม่เป็นอะไรแล้ว ก็สั่งให้คนรับใช้นำเบาะขนห่านมาวางไว้ด้านหลังฉู่กุ้ยเฟยหยางเหอดูเหมือนจะมีอะไรจะพูด แต่นางก็ไม่กล้าพูด ทว่าเมื่อเห็นฉู่กุ้ยเฟยเอนตัวอยู่บนเก้าอี้ หัวใจของนางก็เต้นรัวและสุดท้ายนางก็ลุกขึ้นยืนทันใดนั้นสายตาของทุกคนก็จับจ้องไปที่หยางเหอ นางหายใจเข้าลึก ๆ พลางมองตรงไปที่องค์จักรพรรดิ“โปรดทรงอภัยในความอวดดีของหม่อมฉัน แต่หม่อมฉันไม่สามารถทนเห็นกุ้ยเฟยถูกกล่าวหาอย่างผิด ๆ เช่นนี้ได้ แม้จะเสี่ยงต่อการถูกบั่นหัว แต่หม่อมฉันก็ต้องพูดอะไรบางอย่างเพคะ”“เกิดอะไรขึ้น?”องค์จักรพรรดิทรงโน้มตัวไปข้างหน้าเล็กน้อยและหรี่ตามองไปยังหยางเหอที่กำลังคุกเข่าด้วยใบหน้าแห่งความยุติธรรม“สนมไป๋ที่เข้ามาใหม่ไม่มีความเคารพต่อกุ้ยเฟยเลย เมื่อใดก็ตามที่ได้พบกับกุ้ยเฟย นางมักจะใช้คำพูดที่แฝงเป็นนัยเสียดสีอยู่เสมอ ไม่ก็สาปแช่งให้กุ้ยเฟยรักษาพระโอรสไว้ไม่ได้หรือไม่ก็เสียดสีว่ากุ้ยเฟยไม่คู่ควรกับตำแหน่งสูง กุ้ยเฟยไม่ต้องการโต้เถียงกับสนมไป๋จึงลืมมันไปทุกครั้งเพคะ”“สาวใช้ต่ำช้า กล้าพูดจาว่าร้ายข้าอย่างนั้นห

  • องค์ชายหลีกับชายาลี้รัก   บทที่ 547

    เย่เฟยหลีอาศัยโอกาสนี้จับมือนาง รู้สึกดีกับการตรวจดูอย่างละเอียดของอีกฝ่ายพลางพูดเสียงอ่อน “ข้าไม่เป็นไร แค่เป็นแผลนิดหน่อย หมอหลวงจ่ายยาให้ข้าเรียบร้อยแล้ว”“เจ้ามาดูสิ นี่มันคืออะไร?”เย่เฟยหลีพาฉู่เนี่ยนซีไปยังจุดที่เพิ่งเกิดเพลิงไหม้ พื้นถูกไฟไหม้และมีรอยดำเต็มไปหมด เก้าอี้เอียงตะแคงโดยมีขาหักไปฉู่เนี่ยนซีนั่งยอง ๆ พลางใช้นิ้วชี้ขวาสัมผัสพื้น จากนั้นยกมาที่ปลายจมูกสูดดมเบาๆ ก่อนพูดด้วยความตกใจ “มันคือดินปืน แต่ไม่ใช่ดินปืนบริสุทธิ์ มันจึงไม่ทำให้เกิดการระเบิด แค่ติดไฟเร็วเท่านั้น”“ใช่ มีคนโปรยดินปืนประเภทนี้ไว้ตั้งแต่แรก แต่ท้องฟ้ามืดจนมองไม่เห็น คนจึงคิดว่ามันดูเหมือนฝุ่นกรวดทั่วไป”เย่เฟยหลีเหยียดแขนออกไปประคองให้ฉู่เนี่ยนซียืนขึ้นฉู่เนี่ยนซีขึ้นไปที่ลานถงฮวาอีกครั้งและมองไปที่เครื่องมือที่ฉู่กุ้ยเฟยใช้ในการจุดไฟ มันปนเปื้อนด้วยเศษสะเก็ดไฟบางส่วน แม้จะเผาไหม้ได้ แต่มันก็อยู่ได้ไม่นานและเปลวไฟก็ไม่ลุกลามมากเท่ากับดินปืนโดยทั่วไปนางยืนอยู่บนลานพลางมองไปที่เย่เฟยหลี ดวงตาของนางก็ค่อย ๆ ดูน่ากลัวมากขึ้น น้ำเสียงของนางก็เยือกเย็นลงตามลมหนาว“รู้หรือไม่ว่าใครมาที่นี่บ้างก่อ

  • องค์ชายหลีกับชายาลี้รัก   บทที่ 546

    เหล่าขันทีและนางกำนัลที่รีบรุดมาพร้อมกับอ่างน้ำเย็น นำมาราดลงบนเปลวไฟที่อยู่บริเวณรอบ ๆ องค์จักรพรรดิและเย่เฟยหลี ทำให้เกิดเสียงน้ำสาดกระเซ็นเย่เฟยหลีไม่รู้สึกถึงความรู้สึกแสบร้อนที่แผ่นหลัง เขาจึงประคององค์จักรพรรดิลุกขึ้นยืนไทเฮาถูกนางกำนัลอาวุโสซิวเหลียงประคองมา ทว่าพระนางยังไม่หายตกใจ องค์จักรพรรดิทอดพระเนตรเห็นคิ้วคมเข้มของเย่เฟยหลีที่ขมวดเล็กน้อยเพราะความเจ็บปวด จึงทอดพระเนตรมองไปยังแผ่นหลังของเขา พบว่าอาภรณ์สีดำของเขาถูกไฟไหม้เป็นวงกว้าง และร่างกายที่แข็งแกร่งของเขาถูกเปลวเพลิงเผาจนเป็นสีแดงเข้ม เลือดที่ไหลออกมาจากบาดแผลยิ่งเพิ่มความเจ็บปวดขึ้นไปอีก“ฝ่าบาท” ฉู่กุ้ยเฟยเอ่ยด้วยเสียงสั่นเครือ รีบคุกเข่าคำนับด้วยความตื่นตระหนกเย่เหลียนตะโกนทันที “ฉู่กุ้ยเฟย นี่ท่านคิดลอบปลงพระชนม์หรือ? ท่านจงใจล่อลวงทุกคนมาที่นี่เพื่อวางแผนลอบปลงพระชนม์เสด็จพ่อหรือ เอาคนมา จับฉู่กุ้ยเฟยไว้!”“ฝ่าบาท หม่อมฉันไม่ได้ทำ! หม่อมฉันไม่มีทางทำเช่นนั้นเด็ดขาด! ขอฝ่าบาทโปรดทรงพิจารณาด้วยเพคะ!”เมื่อเห็นเหล่าราชองครักษ์ในชุดเกราะเข้ามาใกล้ ฉู่กุ้ยเฟยก็ตะโกนทูลต่อองค์จักรพรรดิด้วยความตื่นกลัว“โอหัง!

  • องค์ชายหลีกับชายาลี้รัก   บทที่ 545

    ทุกคนเดินไปที่ลานถงฮวาและเห็นว่ามีโต๊ะและเก้าอี้ตั้งอยู่ด้านล่าง อีกทั้งยังมีน้ำชากับผลไม้ที่จัดอย่างประณีตวางไว้ด้วยบนเวทีมีเสาไม้ห้าต้นสูงประมาณหกศอก ติดตั้งล้อมรอบมุมทั้งสี่และด้านบนตรงกลาง เสาไม้ทั้งหมดนั้นถูกพันด้วยเชือกหากมองลงมาจากหลังคาตำหนักที่อยู่ใกล้ ๆ จะรู้สึกว่าเชือกนั้นเปรียบเสมือนใยแมงมุมขนาดใหญ่ที่ปกคลุมเสาไม้ไว้แม้องค์จักรพรรดิจะทรงสับสน แต่พระองค์ก็ไม่ได้ตรัสถามอะไรมากนัก เพียงแค่ทรงยิ้มมุมปากแล้วตรัสกับไทเฮา “ดูเหมือนว่าฉู่กุ้ยเฟยจะมีอะไรใหม่ ๆ มานำเสนอ เสด็จแม่ทรงนั่งลงก่อนเถิดพ่ะย่ะค่ะ”เหล่าขันทีและนางกำนัลมาช่วยบรรดาผู้เป็นนายหาที่นั่งเพื่อไม่ให้ทุกคนพากันสับสนวุ่นวายนางกำนัลผู้น้อยจัดให้เย่เฟยหลีและฉู่เนี่ยนซีนั่งด้วยกันที่ฝั่งหนึ่ง ทว่ายังไม่ทันจะได้นั่งลง ก็เห็นหลานชุ่ยที่อยู่ข้าง ๆ เย่หลิงเอ๋อร์เดินมาเชิญฉู่เนี่ยนซีไปพูดคุยหลานชุ่ยมาเชิญนางด้วยตนเอง คงจะไม่มีเรื่องหลอกลวง ฉู่เนี่ยนซีเหลือบมองเย่เฟยหลีอย่างสบายใจ หลังจากทำความเคารพองค์จักรพรรดิและไทเฮา นางก็ตามหลานชุ่ยไปทันใดนั้น ลานถงฮวาก็สว่างขึ้นมาก ทุกคนเงยหน้าเห็นเด็กผู้หญิงอายุราวเจ็ดแปดขวบห

  • องค์ชายหลีกับชายาลี้รัก   บทที่ 544

    “ไม่เป็นไร เช่นนั้นก็ให้นางอยู่ด้วยกันต่อไปเถอะ ช่วงนี้เราเข้ากันได้ดี นางอ่อนโยน มีน้ำใจและใฝ่เรียนใฝ่รู้ ข้าชอบนางมาก ดีที่มีนางอยู่ที่จวนแห่งนี้ ข้าจึงคลายความเบื่อลงไปได้บ้าง”สิ่งที่ฉู่เนี่ยนซีพูดนั้นเป็นความจริง ตอนแรกนางสงสัยในเจตนาของซุนจื่อซีที่ช่วยนางจากการตกน้ำ แต่ตอนที่นางตกจากรถม้า ซุนจื่อซีกลับไม่ห่วงตนเองและเอาตัวมารองรับนางไว้ ช่างเป็นสตรีที่จิตใจงามอย่างแท้จริงทันใดนั้น ท้องฟ้าก็สว่างไสวไปด้วยดอกไม้ไฟ ส่องแสงไปทั่วทุกสารทิศ ราวกับแสงสว่างของรุ่งอรุณส่องขึ้นมาจากความมืดมิดประกายแสงนั้นส่องสว่างราวกับหมู่ดาวที่โอบล้อมภูเขาและแม่น้ำอันกว้างใหญ่ที่กระแสน้ำเชี่ยวกราก รวมไปถึงป่าอันงดงามและที่ราบอันไร้ขอบเขต ทำให้ความขุ่นข้องในใจของคนสองคนจางลง และคนทั้งคู่ก็ยังได้มองดูความยิ่งใหญ่ที่พร่างพราวนี้ไปด้วยกันณ พระตำหนักเจาฮุย ซุนจื่อซีกำลังร่ายรำอย่างงดงามดุจนางสวรรค์ หลังจากการแสดงสิ้นสุดลง ผู้คนในโถงยังคงตกอยู่ในภวังค์องค์จักรพรรดิทรงปรบมือใหญ่แล้วหันไปหาไทเฮาพร้อมรอยยิ้ม “ทักษะการร่ายรำของจื่อซีดีขึ้นเรื่อย ๆ ดูเหมือนว่านางจะฝึกฝนอย่างหนักและลำบากไม่น้อย เป็นเสด็จแม่

  • องค์ชายหลีกับชายาลี้รัก   บทที่ 543

    ดวงจันทร์ในค่ำคืนนี้ถูกบดบังด้วยเมฆหนาทึบ จนแทบมองเห็นแสงสว่าง เช่นนี้เขาเห็นดวงจันทร์ที่สุกสกาวที่สุดที่ว่านั่นจากที่ใดกัน?“ท่านอ๋องชื่นชมดวงจันทร์ได้อย่างไรหรือ?”ฉู่เนี่ยนซีมองดูแสงสีเหลืองจาง ๆ ที่ขอบฟ้านั้น อย่างกับมันถูกขัดถูจนไร้ซึ่งความแวววาวเย่เฟยหลีทัดผมฉู่เนี่ยนซีไว้ข้างหลังใบหูของนาง พลางพูดด้วยเสียงอ่อนโยน “เพราะดวงจันทร์ที่สุกสกาวที่ว่านี้ไม่ใช่ดวงจันทร์ดวงนั้น”ฉู่เนี่ยนซีหันมาสบตาที่เป็นประกายของเย่เฟยหลี มือที่ค้างเติ่งในตอนแรกเลื่อนมาตรงแก้มของนาง เย่เฟยหลีรู้สึกได้ถึงความร้อนที่ส่งผ่านมายังฝ่ามือ เขาคลี่ยิ้มออกมาเพราะรู้ว่าฉู่เนี่ยนซีกำลังเขินอาย“ข้าได้ยินจากน้องเจ็ดว่าเจ้าคิดว่าซุนจื่อซีกับข้าเป็นคู่ที่เหมาะสมกันมากหรือ?”เย่เฟยหลีดึงนางเข้ามาในอ้อมแขน หางตาของเขาเห็นท่าทางหงุดหงิดของฉู่เนี่ยนซีพลางคิดว่าช่างน่าสนุกฉู่เนี่ยนซีแอบด่าทอเย่ฉงเฉิงในใจว่าเป็นคนที่ไม่น่าเชื่อถือ นางพูดความในใจออกไปเพียงนิดเดียวเขาก็นำไปบอกเจ้าตัวในพริบตาเสียอย่างนั้น“ก็คิดบ้าง เป็นบางครั้ง”ฉู่เนี่ยนซีกะพริบตาและพยายามอย่างมากเพื่อรักษาท่าทางสงบนิ่งอย่างเคย นางไม่สามารถปฏิเส

  • องค์ชายหลีกับชายาลี้รัก   บทที่ 542

    เย่เฟยหลีเหลือบมองอีกฝ่าย “เจ้าว่าเจ้ารู้จักข้าดีที่สุดไม่ใช่หรือ?”“แต่พี่สะใภ้สามไม่รู้จักท่านดีเท่าข้า หากมีเรื่องเข้าใจผิดกันก็ควรรีบแก้ไขเสียดีกว่า ไม่อย่างนั้นข้าก็ช่วยท่านไม่ได้”เมื่อได้ยินเสียงดนตรีดังมาจากพระตำหนักเจาฮุย เขาก็รู้ได้ทันทีว่างานเลี้ยงได้เริ่มขึ้นแล้ว เย่เฟยหลีจึงให้เย่ฉงเฉิง เรียกฉู่เนี่ยนซีมาที่นี่เพราะเขามีเรื่องจะพูดกับนางเย่ฉงเฉิงรับคำสั่งแล้วจากไป ทันทีที่เขาเข้าไปในห้องจัดงาน เขาก็เห็นซุนจื่อซีกำลังร่ายรำอยู่อย่างอ่อนช้อย นางอยู่ในชุดกระโปรงสีแดงราวกับดอกเหมยที่กำลังบานสะพรั่งอยู่ท่ามกลางหิมะขาว ส่งกลิ่นหอมฟุ้งเขาหันไปด้านข้างและกระซิบกับฉู่เนี่ยนซี “พี่สะใภ้สาม พี่สามกำลังรอท่านอยู่ไม่ไกลจากทางเหนือของ พระตำหนักเจาฮุย ท่านรีบไปเถิด”ฉู่เนี่ยนซีเหลือบมองเย่ฉงเฉิงอย่างสงสัยและบอกให้เสี่ยวเถารออยู่ที่นี่ หากใครถามหาก็บอกว่านางออกไปเดินรับลมข้างนอกให้สร่างเมาในห้องจัดงาน ซุนจื่อซีออกท่วงท่าราวกับต้นหลิวที่กำลังแผ่กิ่งก้านสาขาอย่างเพลินใจ ชายแขนเสื้อในมือของนางกระพือเบา ๆ แขนเรียวยาวใต้เสื้อคดเคี้ยวราวกับดอกบ๊วยแดงที่ล่องลอยในอากาศแต่ไม่ว่านางจะพย

DMCA.com Protection Status