”คือ...”โจวมี่เองก็ไม่รู้จะอธิบายกับหยุนเจิงว่าโรคไข้หนาวคือโรคใด ทำได้เพียงพรรณนาอาการของโรคไข้หนาวให้หยุนเจิงฟังที่เรียกว่าไข้หนาว ก็คือมีอาการเป็นไข้เดี๋ยวร้อน เดี๋ยวหนาวเป็นระยะ เหงื่อออกจำนวนมาก ทำให้ร่างกายสั่นอย่างควบคุมไม่ได้นี่เป็นโรคร้ายแรงประมาทเพียงเล็กน้อย ชีวิตก็ไม่อาจรักษาเอาไว้ได้แล้วโดยเฉพาะ เสิ่นเนี่ยนฉือเพิ่งอายุไม่ถึงเจ็ดขวบ ยิ่งอันตรายเมื่อได้ฟังคำอธิบายของโจวมี่ หยุนเจิงพลันชะงักในใจมิน่าเล่าเสิ่นลั่วเยี่ยนเมื่อครู่จึงมาเขาด้วยสายตาเช่นนั้น!ไข้หนาวนี่นึกไม่ถึงว่าจะร้ายแรงเช่นนี้?เสิ่นลั่วเยี่ยนร้อนใจมาก สั่งโจวมี่ด้วยใจที่สับสนยุ่งเหยิง “ไปแจ้งให้หมอที่ติดตามมากับพวกเรา บอกให้พวกเขาไปกับข้า!”หมอที่ติดตามพวกเขาล้วนเป็นหมอที่วังเชิญมาฝีมือแพทย์บางทีอาจจะดีหน่อยพาพวกเขาไปตรวจ ไม่แน่อาจช่วยได้เสิ่นเนี่ยนฉือเป็นองค์หญิงน้อยของจวนเสิ่น เป็นเลือดเนื้อเชื้อไขเดียวของพี่ใหญ่!นางไม่มีทางยอมให้เกิดสิ่งใดขึ้นกับเสิ่นเนี่ยนฉือ“ขอรับ!”โจวมี่ไม่กล้าชักช้า รีบไปทำตามคำสั่งหยุนเจิงคิดจะปลอบใจเสิ่นลั่วเยี่ยน ทว่าไม่รู้จะปลอบเช่นไรมารดาเขาสิ!คนด
ในที่สุด หยุนเจิงก็เจอต้นโกฐจุฬาลัมพาเมื่อรู้ว่าเสิ่นเนี่ยนฉือป่วยหนักกะทันหัน เมี่ยวอินก็เสนอตัวขอตามไปดูด้วย“เจ้าจะอยากไปดูเรื่องครื้นเครงอะไรล่ะ”ตอนนี้เสิ่นลั่วเยี่ยนรู้สึกกังวลมาก จนใครหน้าไหนมาพูดด้วยก็ชักสีหน้าใส่เมี่ยวอินเข้าใจอารมณ์ของนาง แต่ไม่สนใจท่าทีของนาง ตอบด้วยรอยยิ้มบางๆ ว่า “ข้ารู้ทักษะทางการแพทย์ แถมยังมีทักษะทางการแพทย์ดีกว่าพวกหมอส่วนใหญ่นั่นอีก”“เจ้ารู้ทักษะทางการแพทย์ด้วยงั้นหรือ”หยุนเจิงรู้สึกประหลาดใจนี่คือสิ่งที่เขาไม่คาดคิด!“เจ้ายังเข้าใจทักษะทางการแพทย์ได้ ทำไมข้าจะเข้าใจบ้างไม่ได้”เมี่ยวอินเลิกคิ้วยิ้มๆ “อาจารย์ของข้ามีความสนใจที่หลากหลาย และทักษะทางการแพทย์ก็เป็นหนึ่งในนั้น”เอาเถอะ!การมีอาจารย์ที่ดีเป็นเรื่องดีจริงๆ!หยุนเจิงแอบถอนหายใจในใจ เขาไม่ร่ำรี้ร่ำไรอีก ออกเดินทางไปกับทุกคนทันทีลั่วอันยังอยู่ในเขตสุยโจว ห่างจากหุบเขาไป๋ฮวามากกว่าหนึ่งร้อยลี้พวกเขาห่วงพะวงสถานการณ์ของเสิ่นเนี่ยนฉือ เร่งรุดเดินทางมาอย่างรวดเร็วตลอดเมื่อท้องฟ้าเพิ่งมืดลง พวกเขาก็มาถึงลั่วอันแล้วภายใต้การนำของหม่าซาน พวกเขามาถึงอารามร้างที่ตระกูลเสิ่นทุกคน
“เรื่องนี้...ข้าไม่รู้...”ใบหน้าของเว่ยซวงเต็มไปด้วยน้ำตา ไม่รู้ว่าจะตอบคำถามของหยุนเจิงอย่างไรหยุนเจิงขมวดคิ้วเล็กน้อย แล้วถามทันทีว่า “เช่นนั้นก่อนที่นางจะไข้ขึ้น พวกท่านเคยอยู่ในสถานที่ที่มียุงเยอะหรือไม่”“อืม”ฮูหยินเสิ่นเข้ามาตอบแทนนาง กล่าวทั้งที่ยังร้องไห้ว่า “เมื่อคืนก่อนเราอยู่ไกลจากตัวเมือง ข้าเห็นว่าทุกคนเหนื่อยแล้ว จึงให้ทุกคนหาสถานที่พักค้างคืนชั่วคราวในป่า...”นั่นน่าจะเป็นเพราถูกยุงกัดทำให้เป็นไข้มาลาเรีย!หยุนเจิงมีแผนอยู่ในใจแล้ว เขารีบเรียกคนรับใช้ของจวนเสิ่นทันที ยื่นโกศจุฬาลัมพาในมือให้คนรับใช้ แล้วสั่งว่า “รีบหาอะไรมาบดให้ละเอียด แช่น้ำ แล้วห่อด้วยผ้าขาวบางสะอาด บีบน้ำออก...”“องค์ชาย เจ้าจะใช้สิ่งนี้รักษาอาการเจ็บป่วยของเนี่ยนฉือ?” ฮูหยินเสิ่นมีปฎิกิริยาโต้ตอบทันที “อื้ม!”หยุนเจิงพยักหน้าและพูดว่า “ข้าอ่านเจอยาสมุนไพรพื้นบ้านจากตำราโบราณเล่มนั้น...”หยุนเจิงนำตำราโบราณสารพัดนึกออกมาอีกครั้งเมื่อเสิ่นลั่วเยี่ยนได้ยินเช่นนี้ ก็โกรธจัด “ตำราโบราณของเจ้าไม่ใช่สิ่งที่ทำได้สารพัด! ไม่รู้ด้วยซ้ำว่ามีพิษหรือไม่ ถ้าเกิด...”“ไม่มีพิษ!”หยุนเจิงกล่าวด้วยค
หลังจากนั้นไม่นาน คนรับใช้ในจวนเสิ่นก็แช่โกศจุฬาลัมพา บดแล้วคั้นน้ำออกมา ได้น้ำสีเขียวเข้มข้นมาชามใหญ่คนรับใช้นำน้ำสมุนไพรสีเขียวมาอย่างระมัดระวัง ยังหันจมูกไปอีกด้านโดยไม่รู้ตัวเห็นได้ชัดว่าของสิ่งนี้กลิ่นไม่ค่อยน่าอภิรมย์นัก ฮูหยินเสิ่นหยิบน้ำสมุนไพรมาวางที่ปลายจมูก แล้วขมวดคิ้วทันทีกลิ่นนี้ เหม็นจริงๆทั้งฉุนทั้งเหม็น“สิ่งนี้...สามารถใช้เป็นยาได้จริงหรือ”ฮูหยินเสิ่นในตอนนี้อดไม่ได้ที่จะเริ่มสงสัยสิ่งที่มีกลิ่นเหม็นเช่นนี้ สามารถใช้เป็นยาได้จริงหรือ“ได้!”หยุนเจิงพยักหน้ายืนยัน “ข้าไม่รับประกันว่าสิ่งนี้จะรักษาเนี่ยนฉือได้แน่นอนหรือไม่ แต่ข้ารับประกันได้ว่าสิ่งนี้ไม่มีพิษแน่นอน!”เมื่อพูดเช่นนั้น หยุนเจิงก็เอื้อมมือไปหยิบชามในมือของฮูหยินเสิ่นพูดจนปากเปื่อยปากแฉะ ไม่สู้ดื่มยืนยันไปเลย“ไปซะ!”เสิ่นลั่วเยี่ยนผลักหยุนเจิงออกไป “เรื่องนี้ไม่เกี่ยวกับเจ้า”เมื่อพูดเช่นนั้นแล้ว เสิ่นลั่วเยี่ยนก็หยิบชามจากมือมารดา ระงับความรู้สึกคลื่นไส้ และนำน้ำสมุนไพรเข้าปากของตัวเองขณะที่ฮูหยินเสิ่นกำลังจะห้าม เสิ่นลั่วเยี่ยนก็ดื่ม ‘อึกๆ’ ไปสองคำแล้วเมื่อเห็นการกระทำของเสิ่นล
ไข้ลดลงแล้ว?หยุนเจิงรู้สึกดีใจ รีบวิ่งเข้าไปในอารามร้างทันทีเขารีบวิ่ง ไม่ได้ระวังตัว จู่ๆ ก็สะดุดเถาวัลย์ที่โผล่มาจากไหนไม่รู้“องค์ชาย!”เมื่อเห็นหยุนเจิงสะดุด คนรับใช้ของจวนเสิ่นก็รีบวิ่งเข้าไปช่วยประคองเขา“ไม่เป็นไร ไม่เป็นไร!”หยุนเจิงโบกมือ ยืนขึ้นอย่างฝืนทนต่อความเจ็บปวดให้ตายเถอะ นิ้วหัวแม่มือบนฝ่ามือกระแทกเข้ากับหินคมๆ จนชิ้นเนื้อหลุด!“องค์ชาย มือของท่านมีเลือดออก!”คนรับใช้พูดด้วยความตื่นตระหนก “ข้าน้อยจะช่วยพันผ้าพันแผลให้นะเจ้าคะ!”“ไม่ต้องสนใจ รอฆ่าเชื้อก่อนค่อยว่ากัน”หยุนเจิงโบกมือแล้วเดินเข้าไปในอารามร้างอย่างรวดเร็วฆ่าเชื้อ?คนรับใช้มองดูแผ่นหลังของหยุนเจิงด้วยสายตาว่างเปล่า แล้วถามคนรับใช้ที่ถือโกฐจุฬาลัมพาว่า “ฆ่าเชื้อคืออะไร”“ข้าจะรู้ได้อย่างไร!”คนอื่นๆ ส่ายหัว กล่าวด้วยความชื่นชมว่า “องค์ชายเทพจริงๆ โรคที่คนหลายคนหมดปัญญารักษา เขากลับรักษาให้หายได้ด้วยน้ำสมุนไพรเพียงเล็กน้อย...”“อื้มๆ”คนรับใช้ที่ถือคบเพลิงพยักหน้า เอ่ยเตือนว่า “เจ้าต้องถือไม้โกศจุฬาลัมพา...เหม็นๆ พวกนี้ไว้ให้ดี สิ่งนี้เป็นของล้ำค่า มีค่ามากกว่าทองคำด้วยซ้ำ!”นี่คือยาสมุน
“เจ้านี่สุดยอดจริงๆ!”“ชะตากรรมที่ผูกมัดเจ้าสองคนไว้ด้วยกันด้วยโซ่เหล็ก ก็สามารถถูกเจ้าตัดขาดได้...”ในขณะที่พันแผลบนมือของหยุนเจิง เมี่ยวอินก็ล้อเลียนหยุนเจิงอย่างอดไม่ได้ใช่สิ!เสิ่นลั่วเยี่ยนหวังดีจะช่วยดูดเลือดจากบาดแผลให้เขา เพื่อจะช่วยให้เลือดหยุดเร็วๆ แต่เขากลับดี พอเอ่ยปากก็หาว่าเสิ่นลั่วเยี่ยนเป็นสุนัขทันทีก็เป็นแบบนี้ สมควรแล้วที่เสิ่นลั่วเยี่ยนใจร้ายกับเขา“ข้ามันปากเสียพอใจหรือยัง”หยุนเจิงเหลือบมองเสิ่นลั่วเยี่ยนที่ยังคงบึ้งตึง และในขณะที่แอบยิ้มอย่างขมขื่น ก็พูดกับเมี่ยวอินว่า “วิธีการฆ่าเชื้อของเจ้าแบบนี้ใช้ไม่ได้ ประเดี๋ยวเราต้องเอาสุรามากลั่นใหม่อีก วันหน้าหากมีสงครามขึ้น ของสิ่งนี้ไม่รู้จะช่วยชีวิตได้อีกกี่คน...”วันนี้เพราะเขาได้รับบาดเจ็บ จู่ๆ ก็ฉุกใจคิดได้ว่าแอลกอฮอล์นี้เป็นยาฆ่าเชื้อประเด็นก็คือ แอลกอฮอล์หาได้ง่ายมาก ไม่ต้องคำนวณวิทยาศาสตร์อะไรทั้งนั้น อย่างไรก็ตาม ค่าใช้จ่ายคงค่อนข้างสูงอย่างแน่นอนท้ายที่สุดแล้ว ปริมาณแอลกอฮอล์ของสุราในต้าเฉียนนั้นไม่สูงมาก โดยทั่วไปราคาไม่ถูกสุราห้าจินใช่ว่าจะสามารถผลิตแอลกอฮอล์หนึ่งจินที่ตรงตามมาตรฐานทางการแพท
ระหว่างที่พูด เมี่ยวอินยังแลบลิ้นที่อ่อนนุ่มออกมาเลียริมฝีปากของตัวเอง และยังใช้นิ้วมือที่ขาวเผือดของนางลูบหลังฝ่ามือของหยุนเจิงเบาๆเมื่อเห็นท่าทางของเมี่ยวอินที่เต็มไปด้วยการยั่วยวน เลือดร้อนในร่างกายของหยุนเจิงก็พลุ่งพล่านไม่หยุดให้ตายเถอะ!แม่นางยั่วสวาทคนนี้!อยากจะจับนางประหารชีวิตให้รู้แล้วรู้รอดไปเลย!อยากเป็นสัตว์ร้ายเสียจริง!ใครก็ได้ รีบมาเก็บแม่นางยั่วสวาทคนนี้หน่อยสิ!เลือดข้าจะไหลหมดตัวแล้ว!“เรื่องนี้ค่อยคุยกันวันหลังเถอะนะ!”หยุนเจิงยิ้มแห้งๆ และพูดตัดบทในทันที “ท่านอาจารย์ของเจ้าสอนอะไรเจ้าบ้าง?”“มากทีเดียวเพคะ”เมี่ยวอินยิ้มหวานหยาดเยิ้ม และพูดด้วยหน้าตาที่งดงาม “ท่านอาจารย์ของข้ายังเคยสอนศิลปะการร่วมรักด้วยนะเพคะ!”ให้ตายเถอะ?จริงหรือหลอกเนี่ย?แม่นางยั่วสวาทคนนี้!“จะว่าไปแล้ว อาจารย์ของเจ้าเป็นผู้หญิงหรือผู้ชายกัน?”หยุนเจิงถามประเด็นสำคัญในทันทีหากผู้ชายคนหนึ่งสอนศิลปะการร่วมรักกับนาง แบบนั้นก็คงไม่เหมาะสม!“วางใจได้เพคะ ท่านอาจารย์ของข้าเป็นผู้หญิง!”เมี่ยวอินลูบที่หลังมือของหยุนเจิงเบาๆ “ร่างกายของหม่อมฉันยังคงบริสุทธิ์
หลังจากพักผ่อนหนึ่งคืน เสิ่นเนี่ยนฉือแทบไม่มีอาการน่าเป็นห่วงร่างกายของเจ้าหนูน้อยยังคงอ่อนแรงอยู่ แต่มีชีวิตชีวามากขึ้นแล้วเมื่อเห็นว่าอาการของเจ้าหนูน้อยค่อยๆ ฟื้นฟู ทุกคนต่างก็โล่งใจ และรีบเดินทางไปยังหุบเขาไป๋ฮวาหยุนเจิงได้รับบาดเจ็บที่มือ จึงไม่ได้ขี่ม้าอีกแล้ว และนอนอยู่ในรถม้าฮูหยินเสิ่นยังจงใจให้เสิ่นลั่วเยี่ยนเข้าไปในรถม้า เพื่อให้นางอยู่เป็นเพื่อนหยุนเจิง“ยังโกรธอยู่หรือ?”หยุนเจิงมองเสิ่นลั่วเยี่ยนที่กำลังโกรธจัดด้วยใบหน้ายิ้มแย้ม“หม่อมฉันจะกล้าโกรธองค์ชายได้อย่างไรเพคะ!”เสิ่นลั่วเยี่ยนทำเสียงฮึดฮัดเบาๆ แล้วพูดว่า “ตอนนี้ท่านอ๋องกลายเป็นผู้มีบุญคุณที่ช่วยชีวิตของเนี่ยนฉือแล้ว คนทั้งครอบครัวของข้าต่างก็ยืนอยู่ข้างท่านอ๋อง หากหม่อมฉันยังกล้าโมโหท่านอ๋อง ท่านแม่และพี่สะใภ้อีกสองคนคงไม่ปล่อยข้าไปแน่!”“ดูท่าทางของเจ้าสิ ยังกล้าพูดว่าไม่โกรธอีก”หยุนเจิงย้ายตัวเองไปนั่งประกบเสิ่นลั่วเยี่ยน “เพียงแค่ล้อเล่นเท่านั้น เจ้าขี้น้อยใจขนาดนี้เลยหรือ?”“ไปให้ห่างจากข้า!”เสิ่นลั่วเยี่ยนผลักหยุนเจิงออกด้วยโฉมหน้าเดิมของนาง “อย่าเอาโรคหมาบ้าของข้าไปแพร่กระจายใ