บุรุษผู้นี้มาทำอะไรที่จวนของตนกัน?มิน่าล่ะ ทำไมผู้คนถึงมาล้อมอยู่หน้าประตูไม่ยอมให้เขาเข้าไป!นี่คือ ราชครูแห่งเป่ยหวน!หากปล่อยให้เขาเข้าไป จะทำให้ผู้อื่นไปพูดกันได้ไม่ใช่หรือ?เมื่อมองไปที่ปานปู้แล้ว ดวงตาของตู้กุยหยวนและจั่วเริ่นทั้งสามคนแทบจะลุกเป็นไฟหากไม่ใช่เพราะตระหนักว่าปานปู้มาที่ต้าเฉียนในฐานะคณะทูตล่ะก็ เกรงว่าพวกเขาคงสับปานปู้เป็นชิ้นๆ แล้วเมื่อห้าปีก่อน หากไม่ใช่เพราะความแยบยลของปานปู้ ต้าเฉียนก็คงไม่สูญเสียหนักเพียงนี้กองทหารโลหิตเองก็คงไม่กระจัดกระจายไปอย่างสิ้นเชิงด้วย!ทั้งสามคนจ้องไปที่ปานปู้้ตาเขม็ง อยากจะสับหัวปานปู้เพื่อล้างแค้นให้พี่น้องของตนแต่เมื่อเทียบกับพวกเขาแล้ว ปานปู้และผู้ติดตามนั่นกลับดูสงบไม่สะทกสะท้านเลยสักนิดราวกับว่า ไม่มองตู้กุยหยวนและคนอื่นๆ ไว้ในสายตาด้วยซ้ำพวกเขามั่นใจว่าคนเหล่านี้ไม่กล้าแตะต้องพวกเขาดังนั้น ปานปู้จึงกล้ามาพร้อมกับผู้ติดตามเพียงคนเดียว“องค์ชายหก ในที่สุดท่านก็กลับมาแล้ว!”ปานปู้มองดูหยุนเจิงด้วยรอยยิ้ม “หากท่านยังไม่กลับมาอีก เกรงว่าคนในจวนท่านคงได้สับข้าเป็นชิ้นๆ แน่”"ราชครูพูดเล่นแล้ว"หยุนเจิงค่อยๆ เดิ
"แค่นี้น่ะหรือ?"หยุนเจิงส่ายศีรษะแล้วยิ้ม “แต่ในสายตาของข้า ราชครูต่างหากที่ชนะ ข้าแพ้!”“โอ๋?”ปานปู้ไม่เข้าใจ “เหตุใดองค์ชายหกจึงพูดเช่นนี้ องค์ชายกำลังดูถูกข้าหรือ?”หยุนเจิงส่ายศีรษะ ถอนหายใจ "ตามที่เราได้เดิมพันไว้ ของที่เป่ยหวนควรจะให้แก่ต้าเฉียน ทว่าสุดท้ายกลับให้ต้าเฉียนใช้เสบียงจำนวนสามล้านชุดไปแลก! หากนี่ไม่ถือว่าข้าแพ้ แล้วคืออะไรกัน?”ปานปู้สะดุ้งเล็กน้อย ทว่าก็เข้าใจความหมายของหยุนเจิงเขาไม่พอใจกับข้อตกลงระหว่างเป่ยหวนกับต้าเฉียน!“องค์ชายหกผิดแล้ว!”ปานปู้ยิ้มแล้วพูดด้วยสีหน้าเย่อหยิ่งว่า “แม้นจะไม่ใช่เพราะการเดิมพันทั้งสองครั้งขององค์ชายหก เป่ยหวนของข้าไม่ลงของอะไรด้วยก็ตาม ต้าเฉียนก็ต้องมอบเสบียงจำนวนสามล้านชุดให้กับเป่ยหวนอยู่ดี!”คำพูดของปานปู้ทำให้ทุกคนคันฟันความหมายปานปู้เข้าใจง่ายมาก เป่ยหวนต้องการเสบียง ต้าเฉียนไม่กล้าไม่ให้!หากไม่ใช่เพราะสถานะตัวตนของพวกเขาไม่เหมาะที่จะขัดจังหวะล่ะก็ ตอนนี้พวกเขาคงกระโดดไปทักทายบรรพบุรุษสิบแปดรุ่นของปานปู้แล้ว“อาจจะ!”หยุนเจิงถอนหายใจเบาๆ แล้วเงยหน้ามองปานปู้ “ราชครูอยากจะเดิมพันอะไรล่ะ?”“ในเมื่อองค์ชายหกเก่งเ
คำถามของปานปู้ ทำให้หยุนเจิงชะงักทันใดพนันหรือ ได้!สิ่งสำคัญคือ เดิมพันด้วยอะไรปานปู้พวกเขามีด้วยกันอยู่สองคนเท่านั้นดูทั้งสองแล้ว ก็ไม่มีอะไรที่มีค่าเลยด้วย!หรือจะให้ทั้งสองถอดเสื้อผ้าวิ่งกลับไปดี?เช่นนี้จะถือเป็นการดูหมิ่นเป่ยหวนเกินไป แต่ตนคิดทางออกที่ดีกว่านี้ไม่ได้แล้วนี่!หยุนเจิงครุ่นคิดอยู่ครู่หนึ่ง แล้วถามปานปู้ยิ้มๆ ว่า “คณะทูตเป่ยหวนครั้งนี้มากันกี่คน แล้วก็ม้ากี่ตัว?”หืม?ปานปู้มึนงงเหตุใดเขาถึงถามเช่นนี้?หรือว่าเขาคิดจะเดิมพันด้วยชีวิตของคนทั้งคณะทูตเป่ยหวน?หากหยุนเจิงเดิมพันเช่นนี้จริง เขาจะดีใจมากเพราะเขารู้ดีว่าหากเดิมพันเช่นนี้ ถึงแม้เขาจะแพ้ ต้าเฉียนก็ไม่กล้าเอาชีวิตของคนเหล่านี้ไปแน่นอน มิเช่นนั้น พวกเขาจะต้องรับมือกับความเกรี้ยวกราดของทหารม้าเป่ยหวนเมื่อคิดเช่นนี้แล้ว ปานปู้ก็ตอบด้วยรอยยิ้มทันทีว่า “คณะทูตเป่ยหวนรวมถึงองครักษ์คุ้มกันที่มาพร้อมกันในครั้งนี้มีทหารมากกว่าสามร้อยนาย และม้าศึกมากกว่าหกร้อยตัว!”ครั้งนี้พวกเขามาเป็นทูตที่ต้าเฉียนอย่างเร่งด่วน ดังนั้นเพื่อให้มาทันเวลา พวกเขาจึงมีม้าสองตัวต่อคนแท้จริงแล้วนี่ไม่ใช่ความลับอะไรพว
“องค์ชายดูเหมือนจะมั่นใจในชัยชนะนะ?”ปานปู้มองดูหยุนเจิงด้วยสีหน้ายิ้มแย้มหยุนเจิงยิ้มอย่างไม่เต็มใจ “ราชครูเองก็มั่นใจเหมือนกันไม่ใช่หรือ?”"ฮ่าๆ!"ปานปู้หัวเราะร่าแล้วพูดว่า “ในเมื่อเราทั้งสองต่างก็มั่นใจในชัยชนะ หรือว่าเราเพิ่มสิ่งเดิมพันอีกดีหรือไม่?”"โอ๋?"หยุนเจิงเริ่มมีความสนใจ “ราชครูอยากจะเพิ่มอย่างไร?”ปานปู้หัวเราะฮี่ๆ “ได้ยินมาว่าองค์ชายหกกำลังจะเข้าพิธีวิวาห์ หากข้าชนะ พระชายาองค์ชายหกขององค์ชายหกจะตกเป็นของข้าด้วย ว่าอย่างไร?”“โจรเฒ่าไร้ยางอาย!”เยี่ยจื่อทนไม่ไหวอีกต่อไป นางตะโกนออกไปด้วยความโกรธ"เป็นไปไม่ได้!"หยุนเจิงส่ายศีรษะโดยไม่คิดปานปู้หัวเราะเยาะ “องค์ชายมั่นใจไม่ใช่หรือว่าจะชนะ? แต่ไม่กล้าเดิมพันด้วยสิ่งนี้เนี่ยนะ?”หยุนเจิงส่ายศีรษะแล้วเอ่ยว่า "ถึงแม้ว่าข้าจะไร้ประโยชน์ แต่ข้าไม่เคยคิดจะเดิมพันด้วยผู้หญิงของข้า! นี่ไม่ใช่กล้าเดิมพันหรือไม่ แต่เป็นเรื่องของหลักการ!"เมื่อได้ยินคำพูดของหยุนเจิง ดวงตาของเยี่ยจื่อพลันฉายแววแปลกๆคำพูดของหยุนเจิงกระแทกเข้าไปในจิตใจของนางกล้าเดิมพันหรือไม่กล้าเดิมพัน กับสามารถนำมาเดิมพันหรือไม่สามารถนำมาเดิมพันนั
แม้ว่าทุกคนอยากจะห้ามปราม แต่กลับทำไม่ได้ไม่นาน ซินเซิงก็จุดธูปปานปู้ปลีกตัวไปเขียนคำตอบข้างๆ องครักษ์ติดตามของเขาเฝ้าดูไม่ห่างราวกับกลัวว่าจะมีใครเข้ามาแอบดูคำตอบอย่างไรอย่างนั้นหยุนเจิงยิ้ม แล้วหยิบปากกาขนนกออกมาเริ่มคำนวณภายใต้สายตาที่อยากรู้อยากเห็นของทุกคนเยี่ยจื่อเหลือบมองปากกาขนนกในมือของหยุนเจิงด้วยความประหลาดใจ แล้วเดินเข้าไปใกล้หยุนเจิง ดูเขาแก้โจทย์ด้วยความอยากรู้อยากเห็นX Y อะไรนั่น เยี่ยจื่อไม่เข้าใจเลยนางเพียวแค่เห็นหยุนเจิงขีดเขียนอยู่ตรงนั้นอย่างรวดเร็วy=(100-5x)/3ไม่นาน หยุนเจิงก็ร่างสมการออกมาแล้วเริ่มแทนค่าจากหนึ่งถึงยี่สิบ เพียงแค่แทนค่าที่ใกล้เคียงกันเป็นพอเพียงแค่ไม่กี่นาที หยุนเจิงก็ได้คำตอบถึงหกคำตอบด้วยกันเมื่อเห็นคำตอบทั้งหกข้อของหยุนเจิงแล้ว เยี่ยจื่อก็เข้าใจในทันทีมิน่าล่ะ ปานปู้ถึงได้มั่นใจเพียงนั้น แท้จริงแล้วก็มีคำตอบมากมายเพียงนี้นี่เองสมแล้วที่เป็นราชครูของเป่ยหวน เก่งเลขจริงๆ!ขณะที่เยี่ยจื่อกำลังตรวจสอบคำตอบเหล่านี้ในใจทีละคำตอบอยู่นั้น หยุนเจิงพลันวางปากกาลงแล้วพูดด้วยรอยยิ้มว่า "ราชครู ตรวจคำตอบได้แล้ว!"ในเวลานี้ ธูปเ
พ่อบ้านไม่สนใจสิ่งอื่นใดอีกต่อไปและวิ่งออกไปด้วยความตื่นตระหนกเขาต้องรีบบอกข่าวให้คนของจักรพรรดิเหวินทราบหากจักรพรรดิเหวินเสด็จมา บางทีองค์ชายหกอาจจะมีโอกาสรอดก็เป็นได้เมื่อเห็นพ่อบ้านที่วิ่งออกไปอย่างตื่นตระหนกแล้ว ปานปู้ถึงกับหัวเราะลั่น “องค์ชายหก อย่ารอช้าเลย รีบเผยคำตอบมาดีกว่า วันนี้ข้าจะทำให้ท่านแพ้อย่างราบคราบ!”“ราชครูหัวเราะอะไรน่ะ?”หยุนเจิงมองปานปู้ด้วยสีหน้าดำคล้ำ“ข้ากำลังหัวเราะองค์ชายหกผู้โง่เขลาอยู่น่ะ!”ปานปู้หัวเราะอย่างภาคภูมิใจ “องค์ชายหกคิดว่าคำถามนี้จะง่ายขนาดนี้เชียวหรือ องค์ชายหกท่านอวดดีเกินไปแล้ว! และการอวดดีนั้นมีราคาที่ต้องจ่ายเสมอ!”“อืม พูดดี!”หยุนเจิงพยักหน้าเล็กน้อย “การอวดดีย่อมต้องมีราคาที่ต้องจ่าย!!”ระหว่างนั้น หยุนเจิงพลันเผยคำตอบของตนออกมาเมื่อเห็นคำตอบที่หยุนเจิงเผยออกมานั้น ปานปู้มึนงงในทันใดวินาทีต่อมาเสียงหัวเราะของปานปู้ก็หยุดลงกะทันหันหกคำตอบ?หยุนเจิงหาได้หกคำตอบนั้นหรือ?เมื่อเห็นคำตอบของหยุนเจิงแล้ว คนรับใช้ในจวนเองก็ตกตะลึงเช่นกันเกิดอะไรขึ้น?เกิดอะไรขึ้น?แต่ไม่นานทุกคนก็กลับมาเศร้าอีกครั้งคำตอบของปานปู้มีทั
คำตอบสองคำตอบตรวจสอบไม่ยากนักเพียงแค่บวกเพิ่มเข้าไปก็พอขณะที่ปานปู้ตรวจสอบคำตอบที่เพิ่มออกมาทั้งสองตัวแล้ว เขาก็ทำตัวไม่ถูกทันทีถูก!คำตอบทั้งสองตัวนี้เป็นคำตอบที่ถูกต้อง!โจทย์ข้อนี้มีคำตอบทั้งหมดหกตัวจริงๆ?เป็นเช่นนี้ได้อย่างไร?ทั้งๆ ที่ตนคิดรอบคอบแล้วนี่!เหตุใดจึงมีหกคำตอบ?“เป็นไปไม่ได้ๆ...”ปานปู้เช็ดเหงื่อออกจากหน้าผากอย่างร้อนรน แล้วเริ่มคำนวณขึ้นอีกครั้งเมื่อเห็นการกระทำของปานปู้แล้ว ตู้กุยหยวนและคนอื่นๆ ต่างตะลึงงันทันทีเกิดอะไรขึ้น?หรือว่าองค์ชายหกคิดถูกแล้ว?เป็นปานปู้ที่คิดออกมาไม่หมดนั้นหรือ?ในขณะที่ทุกคนกำลังตกตะลึงอยู่นั้น เยี่ยจื่อพลันพยุงซินเซิงที่ยังไม่ทันไม่สติดีขึ้นพลางเอ่ยเสียงเบาว่า "เจ้าเด็กโง่ หยุดร้องไห้ได้แล้ว องค์ชายหกชนะแล้ว!"นางคิดคำนวณดูแล้วคำตอบของหยุนเจิงทั้งหกตัวนี้เป็นคำตอบที่ถูก!ถึงแม้ปานปู้จะคำนวณอีกเป็นร้อยครั้งก็ยังถูกอยู่ดี!“องค์ชาย...ชนะแล้ว?”ซินเซิงมองเยี่ยจื่ออย่างโง่เขลาราวกับไม่เชื่อหูตนเองอย่างไรอย่างนั้นเหตุใดองค์ชายถึงชนะอีกแล้ว?ขณะที่ทั้งสองคุยกัน ปานปู้ก็ล้มลงกับพื้นถูกจริงๆ ด้วย!คำตอบอีกสองตัวท
องครักษ์จับปานปู้ไว้ แล้วพูดอย่างดุเดือดว่า "เราจะไป หากต้าเฉียนคิดจะขัดขวาง ให้ถามกองทัพม้าเหล็กของเป่ยหวนก่อนว่ายอมไหม!”เมื่อเห็นว่าเป่ยหวนพยายามโกง ตู้กุยหยวนจึงชัดกระบี่ไปจากมือของเกาเหอโดยตรง“ยอมรับความพ่ายแพ้หรือไม่?”ตู้กุยหยวนยืนถือมีดไว้ที่แขนข้างหนึ่ง จ้องมองทั้งสองคนด้วยสีหน้าเย็นชา “คิดจะเดินจากไป ถามกระบี่ในมือข้าแล้วหรือยัง!”“วอนหาที่ตาย!”องครักษ์ของปานปู้ชักดาบออกมาเผชิญหน้ากันทันที"เก็บ!"ปานปู้ตะโกนด้วยความโกรธและกัดฟันพูด "ข้าลูกผู้ชายแห่งเป่ยหวน ยอมรับความพ่ายแพ้! อย่าให้ต้าเฉียนมองเป่ยหวนเป็นเรื่องตลก!""ราชครู!"องครักษ์โกรธจัด “ท่านเป็นราชครูของเป่ยหวน ท่านทำเช่นนี้ได้อย่างไรกัน...”"หุบปาก!"ปานปู้ตะคอกเสียงดังและกำหมัดแน่นเขาเองก็อยากจะโกงเช่นเดียวกันแต่ตอนนี้ไม่ใช่เวลาที่จะโกงถ้าเขาโกงตอนนี้ เขาอาจจะไม่ได้เสบียงจากต้าเฉียนก็เป็นได้หากไม่มีเสบียงนั่น เป่ยหวนคงไม่สามารถอยู่รอดได้ในฤดูหนาวอันหนาวเหน็บนี้แน่นอนปานปู้สูดหายใจเข้าลึกๆ แล้วคลายหมัดออกช้าๆความอัปยศอดสูในวันนี้ เขาจะเอาคืนเป็นสิบเท่าในภายภาคหน้า!ปานปู้พูดในใจอย่างชั่วร้ายแล