ณ ที่ประชุมราชสำนัก จักรพรรดิเหวินกำลังประทับอยู่บนพระที่นั่งด้วยสีพระพักตร์ไม่สู้ดีนักในพระหัตถ์ของเขาถือจดหมายจากฉินลิ่วก่านลายมืออักษรนี้ ดูก็รู้ว่าเป็นของฉินลิ่วก่าน!ด่านเป่ยลู่ปิดด่านไปแล้ว!ฉินลิ่วก่านนำกองทหารและม้าเร่งเดินทางไปยังซั่วเป่ย แต่กลับไม่สามารถเข้าด่านเป่ยลู่ได้แม่ทัพรักษาการณ์ของด่านเป่ยลู่ ก็ไม่ใช่หยวนจงอีกแล้วด้วย!แต่เป็นจั่วเริ่น!จั่วเริ่นสั่งให้คนชูป้ายนอกด่านเป่ยลู่ว่า ด่านเป่ยลู่ปิดด่านเวลาหนึ่งเดือน!ฉินลิ่วก่านยืนด่าอยู่นอกด่านเป่ยลู่อยู่ครึ่งชั่วยาม จั่วเริ่นถึงจะสั่งให้คนปล่อยตัวฉินลิ่วก่านเข้ามาแต่ทว่าอนุญาตให้ฉินลิ่วก่านเข้ามาคนเดียวเท่านั้น!คนอื่นๆ ที่ฉินลิ่วก่านพามา ไม่ได้รับอนุญาตให้เข้าไปสักคนหลังจากผ่านไปครึ่งวันเต็ม ฉินลิ่วก่านถึงจะเขียนจดหมายสั่งให้คนส่งกลับไปยังเมืองจักรพรรดิในจดหมายนั้น ฉินลิ่วก่านเองก็ได้รายงานถึงสถานการณ์จริงของด่านเป่ยลู่ให้กับจักรพรรดิเหวินเจ้าหกยังไม่ตาย!เสิ่นลั่วเยี่ยน ฉินชีหู่และตู๋กูเช่อก็ยังไม่ตาย!พวกเขาใช้แผนการของหยุนเจิง โดยแยกกองทหารเป็นสองกลุ่ม กลุ่มหนึ่งนำโดยตู๋กูเช่อ ฝ่าวงล้อมจากแนวหน้
แม้ว่าหยุนเจิงพวกเขาจะสังหารเว่ยซั่ว จับตัวเว่ยเหวินจงไว้ได้ เขาก็ย่อมสามารถคิดว่าหยุนเจิงกำลังแก้แค้นแทนเหล่าทหารที่ตายเพราะเว่ยเหวินจง!แต่หยุนเจิงบังอาจจับตัวหยวนจงสองพ่อลูกและแม่ทัพรักษาการณ์ด่านเป่ยลู่ได้อย่างไร?ใครให้อำนาจเขาในการแต่งตั้งแม่ทัพรักษาการณ์ด่านเป่ยลู่กัน?แม่ทัพรักษาการณ์ด่านเป่ยลู่ มีเพียงเขาที่เป็นจักรพรรดิเท่านั้นถึงจะมีสิทธิ์แต่งตั้งได้!แต่ทว่าจักรพรรดิเหวินคิดไม่ตกว่าเว่ยเหวินจงที่รักษาการณ์ซั่วเป่ยมาหลายปีเช่นนี้ เหตุใดเขาถึงต้องร่วมมือกับศัตรูด้วยการยึดคืนเมืองสามชายแดนกลับคืนมานั้น เจ้าหกก็มีส่วนช่วย แล้วมีหรือที่ตนจะไม่ให้คุณงานความดีกับเว่ยเหวินจง?เหตุใดเว่ยเหวินจงต้องนำชีวิตคนสี่หมื่นกว่าคนไปสู่ความตายด้วย!ไม่สิ หกหมื่นกว่าคนต่างหาก!ยังมีทหารชาวนาชราอ่อนแอที่ขนส่งเสบียงไปยังชายแดนกู้อีกสองหมื่นกว่านาย!เหตุใดเว่ยเหวินจงถึงได้อำมหิตถึงเพียงนี้?หากจะบอกว่าเรื่องนี้ไม่เกี่ยวข้องกับเว่ยเหวินจงเลย เช่นนั้นเพราะเหตุใดทหารมณฑลฝ่ายเหนือถึงได้เปลี่ยนไปอยู่กับเจ้าหกล่ะ?แผ่นอกของจักรพรรดิเหวินอดไม่ได้ที่จะกระเพื่อมขึ้นลง ทว่าในศีรษะกลับสับสนวุ่นวา
เซวียเช่อไม่ได้พูดอย่างชัดเจนทว่าก็เข้าใจความหมายที่จะสื่อการบุกโจมตีด่านเป่ยลู่นั้นเสมือนกับส่งคนไปตาย!อีกอย่าง เขาแสดงความในใจออกมาทันทีว่าหากจะบุกโจมตีด่านเป่ยลู่ เขาขอปฏิเสธการนำทัพ!วินาทีนี้ จู่ๆ เซวียเช่อก็รู้สึกอิจฉาเซียวว่านโฉวขึ้นมาหากตนป่วยเหมือนเซียวว่านโฉวก็คงดีเช่นนั้น ตนก็ไม่ต้องกังวลกับเรื่องพรรค์นี้แล้วหลังจากได้ยินคำพูดของเซวียเช่อแล้ว แววตาเย็นชาพลันผุดขึ้นนัยน์ตาของหยุนลี่ตาเฒ่านี่!ไม่บุกโจมตีด่านเป่ยลู่ แล้วจะรอให้เจ้าหกไอ้สุนัขนั่นเป็นใหญ่หรือไง?หากไม่เร่งกำจัดเจ้าหกตอนนี้ ต่อไปเกรงว่าเจ้าหกต้องกำจัดเขาเป็นแน่!เจ้าหกอาจจะเตรียมแผนการกำจัดเขาไว้แล้วด้วยซ้ำ!เจ้าหกไอ้สุนัขนั่นต้องจงใจไม่สังหารเว่ยเหวินจงแน่ๆ!ไอ้สุนัขนั่นต้องคิดจะใช้เว่ยเหวินจงมาข่มขู่ตนแน่ๆ!เมื่อได้ยินคำพูดของเซวียเช่อแล้ว จักรพรรดิเหวินก็เงียบอย่างอดไม่ได้ถึงแม้เขาจะไม่รู้เรื่องยุทธการเท่าแม่ทัพอาวุโสอย่างเซวียเช่อเขานัก แต่อย่างน้อยเขาก็เป็นจักรพรรดิที่ทรงนำทัพเองด่านเป่ยลู่!เขาจะไม่รู้ได้อย่างไรว่าด่านเป่ยลู่โจมตียากแค่ไหน!หากไม่ใช่เช่นนั้น เขาสั่งให้คนโจมตีด่านเ
จางฮว๋ายรีบเอ่ยแนะนำ “บัดนี้สถานการณ์เป็นอย่างไรยังไม่แน่ชัด การบุกโจมตีด่านเป่ยลู่โดยพลการ คนที่บาดเจ็บและตายล้วนแต่เป็นบุรุษของต้าเฉียนเราทั้งนั้น! กระหม่อมขอร้องให้ฝ่าบาททรงเชื่อใจหรงกั๋วกง หรงกั๋วกงกล้าเอาศีรษะเป็นเดิมพันแทนองค์ชายหก เช่นนั้นก็แสดงว่า…”“เจ้าเองก็คิดว่าเจ้าหกไม่มีทางก่อกบฏนั้นหรือ?” จักรพรรดิเหวินถามจางฮว๋ายหน้านิ่ง“เอ่อ…”จางฮว๋ายชะงักเล็กน้อย เขาลังเลอยู่ครู่หนึ่ง แล้วตอบด้วยสีหน้าจริงจังว่า “กระหม่อมเชื่อว่าองค์ชายหกไม่มีทางก่อกบฏแน่นอน!”“เพราะเหตุใด?”จักรพรรดิเหวินจ้องจางฮว๋ายด้วยสายตาเฉียบคม “ตอนนั้นก็ไม่มีใครเชื่อว่าผู้ก่อตั้งจักรพรรดิจะตั้งกองทหารก่อกบฏเช่นกัน!”จางฮว๋ายอ้าปากเล็กน้อย เงียบกริบในทันใดจริง!จักรพรรดิเกาจู่เองก็เคยเป็นขุนนางผู้ซื่อสัตย์ในสายตาของฝูงชนเช่นเดียวกันแต่สุดท้าย ก็ตั้งกองทหารก่อกบฏอยู่ดีไม่ใช่หรือ?ขณะที่จางฮว๋ายไม่รู้จะพูดอะไรอยู่นั้น ขันทีก็ได้ยกสุราและจอกสุราพร้อมกับกับแกล้มอีกสี่อย่าง“ถอยออกไปให้หมด!”จักรพรรดิเหวินโบกมือ สั่งให้คนรับใช้ทุกคนรวมถึงมู่ซุ่นออกไปให้หมดมู่ซุ่นปฏิบัติตามคำสั่ง แล้วรีบพาทุกคนทั้งนา
ณ ตระกูลเซียวขณะที่เซียวว่านโฉวกำลังยืดเส้นยืดสายอยู่ในห้อง จู่ๆ ก็มีเสียงเคาะประตูดังขึ้น“ก๊อก…ก็อกๆ…”เสียงสั้นหนึ่งเสียงยาวสองคนตระกูลเซียวเองกำลังเคาะประตู“เข้ามา!”เซียวว่านโฉวเพิ่งกล่าวจบ เซียวติ้งอู่ก็ผลักประตูเข้าไปทันทีพร้อมปิดประตูอย่างรวดเร็ว“ท่านพ่อ เกิดเรื่องแล้วขอรับ!”เซียวติ้งอู่เข้าไปถึงก็รีบกล่าวกับบิดาว่า “ได้ยินว่าองค์ชายหกควบคุมกองทหารมณฑลฝ่ายเหนืออยู่ ด่านเป่ยลู่ก็อยู่ในการควบคุมของเขาด้วย และตอนนี้ด่านเป่ยลู่ก็ถูกปิดแน่นแล้ว…”เซียวว่านโฉวชะงักเล็กน้อย แล้วยิ้มแห้งต่อบุตรชาย “เป็นอย่างไร ตอนนี้เจ้าเชื่อข้าหรือยัง?”เซียวติ้งอู่พยักหน้าหงึกๆ แล้วมองบิดาด้วยสีหน้ายกย่องนับถือสองสามวันนี้ ซั่วเป่ยส่งข่าวเรื่องที่หยุนเจิงตายแล้วกลับมา ทั่วทั้งราชสำนักต่างก็เชื่อสนิทใจมีเพียงท่านพ่อเท่านั้นที่บอกว่าหยุนเจิงยังไม่ตาย คิดว่าพวกเขาเริ่มดำเนินแผนการยึดอำนาจกองทหารมณฑลฝ่ายเหนือแล้ว!ไม่คาดคิดว่าท่านพ่อจะพูดถูกจริงๆ!เมื่อคิดถึงเรื่องนี้ เซียวติ้งอู่ก็เสียวสันหลังวาบขึ้นมาดีนะที่ตนไม่ใช่แม่ทัพรักษาการณ์ของด่านเป่ยลู่แล้ว!ไม่เช่นนั้น ด่านเป่ยลู่คงต้อ
ชั้นน้ำแข็งของแม่น้ำไป๋สุ่ยก็เริ่มมีร่องรอยของการละลายแล้วอย่างมากอีกสิบวัน ก็คงไม่สามารถวิ่งม้าบนแม่น้ำไป๋สุ่ยแล้วหยุนเจิงนำพาแม่ทัพกลุ่มหนึ่งมาถึงโขดเป่ยหยวนถึงแม้ร่างศพที่ถอดจากโขดเป่ยหยวนจนถึงโขดชายแดนกู้จะถูกเก็บกวาดเรียบร้อยแล้ว แต่บนผิวน้ำแข็งก็ยังมีร่องรอยคราบเลือดหลงเหลืออยู่อย่างเห็นได้ชัดมีทั้งคราบเลือดจากทหารต้าเฉียน และทหารเป่ยหวนดูคราบเลือดที่แทงตาแทงใจนั่นแล้ว เหล่าแม่ทัพต่างก็กริ้วโกรธขึ้นมาทหารสามหมื่นกว่านาย!เพราะการร่วมมือกับศัตรูของเว่ยเหวินจง ทำให้ทหารสามหมื่นกว่านายต้องตายอย่างอนาถอยู่ที่นี่!หากไม่ใช่เพราะหยุนเจิงห้ามเอาไว้ กลุ่มคนคงฆ่าเว่ยเหวินจงไม่ให้เหลือแม้แต่วิญญาณไปตั้งนานแล้วหยุนเจิงสูดหายใจเข้าลึกๆ แล้วกล่าวเสียงดุดันว่า “พาตัวขึ้นมา!”สิ้นเสียงหยุนเจิง เว่ยเหวินจงที่ถูกล่ามด้วยโซ่ตรวนก็ถูกพาขึ้นมาส่วนทหารอีกคนหนึ่งถือศีรษะของเว่ยซั่ว แล้ววางศีรษะของเว่ยซั่วไว้ตรงหน้าโต๊ะจุดธูปเว่ยเหวินจงรู้ว่าหยุนเจิงพวกเขาคิดจะทำอะไร จึงพยายามขัดขืนสุดฤทธิ์แต่แล้วก็ไร้ประโยชน์“คุกเข่าซะ!”ทหารสองคนที่พาตัวเว่ยเหวินจงมาใช้เท้าเตะหลังเข่าเว่ยเหว
เมื่อกลับไปถึงป้อมเมืองจิ้งอัน หยุนเจิงก็ได้สั่งการให้กองทหารใหญ่เริ่มเตรียมการเดินทางสู่ชายแดนกู้ครั้งนี้ พวกเขาจะไม่ผิดพลาดเหมือนครั้งก่อนอีกการจะเข้าสู่ชายแดนกู้นั้นต้องรอให้เสบียงอาหารที่ตามมาถึงก่อน โดยกองทหารหลายหมื่นนายนี้จะเป็นผู้ขนส่งเสบียงไปยังชายแดนกู้เองอีกอย่าง วัสดุที่ซ่อมแซมกำแพงเมืองเหล่านั้น รวมถึงไม้และถ่านก็ต้องเตรียมไว้มากพอเขาไม่อยากเผชิญกับเหตุการณ์ฆ่าม้าศึกเพื่อเป็นอาหารเลี้ยงปากท้อง แต่ก็ยังไม่มีของที่จะมาทำให้เนื้อสุกอีกแล้วขณะที่กองทหารกำลังเตรียมตัวสำหรับการเดินทางสู่ชายแดนกู้อยู่นั้น ในที่สุดหยุนเจิงเองก็มีเวลาไปเยี่ยมฮั่วกู้และรองแม่ทัพของเขาสักทีเมื่อได้เจอกับหยุนเจิงอีกครั้ง ฮั่วกู้รู้สึกเกร็งมากกว่าแต่ก่อนนักบัดนี้ หยุนเจิงเป็นผู้มีอำนาจสูงสุดที่ควบคุมความเป็นความตายของเขาแล้ว!ถึงแม้เขาจะช่วยหยุนเจิงจับตัวเว่ยเหวินจง แต่เขาก็ไม่รู้ว่าหยุนเจิงจะเป็นคนเจ้าคิดเจ้าแค้นหรือไม่“แม่ทัพฮั่ว เราไม่ได้เจอกันนานเลย”หยุนเจิงเงยหน้ามองฮั่วกู้ด้วยสีหน้ายิ้มแย้ม“ใช่แล้ว…”ฮั่วกู้มองหยุนเจิงอย่างระมัดระวัง “ครั้งก่อนตอนที่อยู่ซั่วฟาง ข้าเองก็…”“
เขาไม่คิดจะจับตัวฮั่วกู้ไว้อยู่แล้วมีเวลาทำเช่นนั้น เขาไม่ต้องใช้งานฮั่วกู้ หรือไม่ก็สั่งให้เขาติดตามเขาไปสั่งชายแดนกู้ดีกว่าตอนนี้เขาจำเป็นต้องโอนพวกพ้องของเขาในซั่วฟางออกไป มีคนออก ก็ย่อมมีคนเข้ามาแทนจะปล่อยให้ทั้งเมืองนี้ปราศจากแม่ทัพรักษาการณ์ที่ยอดเยี่ยมไม่ได้หรอกกระมัง?เมื่อได้ยินคำพูดของหยุนเจิงแล้ว ในที่สุดฮั่วกู้ก็ขจัดความกังวลในใจ แล้วรับคำสั่งอย่างเต็มใจขณะนั้นเอง จู่ๆ ก็มีเสียงสู้กันดังขึ้นจากข้างนอกหยุนเจิงกำลังจะถาม ก็มีทหารนายหนึ่งวิ่งเข้ามาอย่างรีบร้อน “ท่านอ๋อง มีคนอ้างว่าเป็นคนของหรงกั๋วกงฉินลิ่วก่านมาก่อเรื่องข้างนอกขอรับ เรียกร้องจะพบท่านอ๋องให้ได้…”“ใครนะ?”เปลือกตาหยุนเจิงกระตุก“หรงกั๋วกง ฉินลิ่วก่าน!”ทหารตอบอีกครั้งให้ตายเถอะ!คงไม่ใช่ตาเฒ่าโรคจิตนั่นจริงหรอกกระมัง?หยุนเจิงยิ้มขมขื่นในใจ แล้วสั่งการทันที “ไปเรียกฉินชีหู่มา!”กล่าวจบ หยุนเจิงก็สั่งให้ฮั่วกู้และชวีจื้อถอยออกไปก่อน แล้วรีบออกไปข้างนอกทันทีเมื่อได้ยินว่าฉินลิ่วก่านมา องครักษ์ข้างกายของหยุนเจิงเองก็ไม่รอช้า รีบตามออกไปด้วยทันที กลัวว่าฉินลิ่วก่านตาเฒ่าโรคจิตคนนี้จะชักดาบใส่ห