เมื่อกลับไปถึงป้อมเมืองจิ้งอัน หยุนเจิงก็ได้สั่งการให้กองทหารใหญ่เริ่มเตรียมการเดินทางสู่ชายแดนกู้ครั้งนี้ พวกเขาจะไม่ผิดพลาดเหมือนครั้งก่อนอีกการจะเข้าสู่ชายแดนกู้นั้นต้องรอให้เสบียงอาหารที่ตามมาถึงก่อน โดยกองทหารหลายหมื่นนายนี้จะเป็นผู้ขนส่งเสบียงไปยังชายแดนกู้เองอีกอย่าง วัสดุที่ซ่อมแซมกำแพงเมืองเหล่านั้น รวมถึงไม้และถ่านก็ต้องเตรียมไว้มากพอเขาไม่อยากเผชิญกับเหตุการณ์ฆ่าม้าศึกเพื่อเป็นอาหารเลี้ยงปากท้อง แต่ก็ยังไม่มีของที่จะมาทำให้เนื้อสุกอีกแล้วขณะที่กองทหารกำลังเตรียมตัวสำหรับการเดินทางสู่ชายแดนกู้อยู่นั้น ในที่สุดหยุนเจิงเองก็มีเวลาไปเยี่ยมฮั่วกู้และรองแม่ทัพของเขาสักทีเมื่อได้เจอกับหยุนเจิงอีกครั้ง ฮั่วกู้รู้สึกเกร็งมากกว่าแต่ก่อนนักบัดนี้ หยุนเจิงเป็นผู้มีอำนาจสูงสุดที่ควบคุมความเป็นความตายของเขาแล้ว!ถึงแม้เขาจะช่วยหยุนเจิงจับตัวเว่ยเหวินจง แต่เขาก็ไม่รู้ว่าหยุนเจิงจะเป็นคนเจ้าคิดเจ้าแค้นหรือไม่“แม่ทัพฮั่ว เราไม่ได้เจอกันนานเลย”หยุนเจิงเงยหน้ามองฮั่วกู้ด้วยสีหน้ายิ้มแย้ม“ใช่แล้ว…”ฮั่วกู้มองหยุนเจิงอย่างระมัดระวัง “ครั้งก่อนตอนที่อยู่ซั่วฟาง ข้าเองก็…”“
เขาไม่คิดจะจับตัวฮั่วกู้ไว้อยู่แล้วมีเวลาทำเช่นนั้น เขาไม่ต้องใช้งานฮั่วกู้ หรือไม่ก็สั่งให้เขาติดตามเขาไปสั่งชายแดนกู้ดีกว่าตอนนี้เขาจำเป็นต้องโอนพวกพ้องของเขาในซั่วฟางออกไป มีคนออก ก็ย่อมมีคนเข้ามาแทนจะปล่อยให้ทั้งเมืองนี้ปราศจากแม่ทัพรักษาการณ์ที่ยอดเยี่ยมไม่ได้หรอกกระมัง?เมื่อได้ยินคำพูดของหยุนเจิงแล้ว ในที่สุดฮั่วกู้ก็ขจัดความกังวลในใจ แล้วรับคำสั่งอย่างเต็มใจขณะนั้นเอง จู่ๆ ก็มีเสียงสู้กันดังขึ้นจากข้างนอกหยุนเจิงกำลังจะถาม ก็มีทหารนายหนึ่งวิ่งเข้ามาอย่างรีบร้อน “ท่านอ๋อง มีคนอ้างว่าเป็นคนของหรงกั๋วกงฉินลิ่วก่านมาก่อเรื่องข้างนอกขอรับ เรียกร้องจะพบท่านอ๋องให้ได้…”“ใครนะ?”เปลือกตาหยุนเจิงกระตุก“หรงกั๋วกง ฉินลิ่วก่าน!”ทหารตอบอีกครั้งให้ตายเถอะ!คงไม่ใช่ตาเฒ่าโรคจิตนั่นจริงหรอกกระมัง?หยุนเจิงยิ้มขมขื่นในใจ แล้วสั่งการทันที “ไปเรียกฉินชีหู่มา!”กล่าวจบ หยุนเจิงก็สั่งให้ฮั่วกู้และชวีจื้อถอยออกไปก่อน แล้วรีบออกไปข้างนอกทันทีเมื่อได้ยินว่าฉินลิ่วก่านมา องครักษ์ข้างกายของหยุนเจิงเองก็ไม่รอช้า รีบตามออกไปด้วยทันที กลัวว่าฉินลิ่วก่านตาเฒ่าโรคจิตคนนี้จะชักดาบใส่ห
ข้างในห้อง ฉินลิ่วก่านกำลังนั่งอยู่ตรงนั้นด้วยสีหน้าเคร่งขรึมเมื่อเห็นหยุนเจิงเข้ามาตามลำพัง นัยน์ตาจึงเผยแววสงสัยออกมา“ไอ้ระยำนั่นล่ะ?”หยุนเจิงยังไม่ทันเดินเข้าไป ฉินลิ่วก่านก็ถามขึ้น“ข้าสั่งให้เด็กไปเรียกแล้ว”หยุนเจิงยิ้มตอบ แล้วเดินไปยกกาน้ำชามารินชาร้อนให้กับฉินลิ่วก่านแก้วหนึ่ง “ข้ารู้ว่าท่านเตรียมตัวจะก่นด่าแล้ว ดื่มชาร้อนเปิดเส้นเสียงสักหน่อยดีกว่า!”“…”ฉินลิ่วก่านชะงักเล็กน้อย ทั้งโกรธทั้งน่าขัน “องค์ชายรู้ตัวดีจริงๆ!”กล่าวจบ ฉินลิ่วก่านจึงยกแก้วชาขึ้นมาแล้วดื่ม ‘อึกๆ’ ลงไปจนหมดตุบ!ฉินลิ่วก่านวางแก้วชาบนโต๊ะแรงๆ แล้วหยิบราชโองการออกมาจากอกมอบให้กับหยุนเจิง “ดูเอาเอง!”ราชโองการ?หยุนเจิงสงสัยหมายความว่าอย่างไร?เหตุใดตาเฒ่าโรคจิตนี่ถึงได้มาพร้อมกับราชโองการล่ะ?เสด็จพ่อคงไม่ออกราชโองการให้ตนยอมแพ้หรอกกระมัง?รู้ทั้งรู้ว่าเป็นไปไม่ได้ แล้วจะออกราชโองการทำไมกัน?หยุนเจิงรีบเปิดอ่านราชโองการด้วยความอยากรู้อยากเห็นเมื่ออ่านเนื้อหาในราชโองการแล้ว หยุนเจิงจำต้องปั้นหน้าขรึมทันใดชื่อเรียกมรณกรรม อู่เลี่ย!สงสัยเสด็จพ่อจะคิดว่าตนตายไปแล้วจริงๆ!แม้แต่ชื
รวมถึงแม่ทัพของด่านเป่ยลู่ที่ถูกจับตัวพวกนั้นด้วย ล้วนแต่เป็นหมากที่เขาจะนำไปต่อรองกับจักรพรรดิเหวินทั้งนั้นเขาจะใช้คนเหล่านี้ไปแลกครอบครัวของตู๋กูเช่อและคนอื่นๆ กลับมา“เจ้าคิดว่าพ่อเจ้าจะตกลงหรือ?”ฉินลิ่วก่านตอบอย่างไม่พอใจนัก “ส่งครอบครัวของตู๋กูเช่อพวกเขามาที่ซั่วเป่ย เช่นนั้นพวกเขาก็จะไม่เป็นพะวงใดๆ อีก และจะจงรักภักดีต่อเจ้าไปตลอดน่ะสิ?”“ข้าคิดว่าเสด็จพ่อน่าจะตกลง!”หยุนเจิงยิ้ม “หากพระองค์ฆ่าครอบครัวของตู๋กูเช่อพวกเขา เช่นนั้นก็เท่ากับจงใจทำให้พวกเขาเกิดความคิดก่อกบฏไม่ใช่หรือ?”“อีกอย่าง เว่ยเหวินจงทำให้คนตายไปมากเพียงนี้ เสด็จพ่อไม่อยากจัดการเว่ยเหวินจงด้วยพระองค์เองเลยหรือ?”“แล้วก็หันจิ้นพวกเขาต่างก็เป็นคนที่ติดตามพระองค์มานานหลายปี พระองค์จะยอมให้ข้าจับตัวคนเหล่านี้ไว้ตลอดจริงหรือ?”“พวกข้าไม่คิดจะก่อกบฏเสียหน่อย ซ้ำยังช่วยพระองค์ยึดดินแดนที่เสียไปกลับมา และขยายอาณาเขตอีกด้วย พระองค์คงไม่พระทัยดำเพียงนั้นหรอกกระมัง?”เมื่อได้ยินคำพูดของหยุนเจิงแล้ว ฉินลิ่วก่านก็ทำหน้าบึ้งอย่างอดไม่ได้ไอ้สารเลวนี่คิดไว้ตั้งนานแล้วนี่!เขาคิดจะทำให้พ่อของเขาหมดหนทางจริงๆ นั้นหร
มุมปากของฉินลิ่วก่านกระตุกเล็กน้อย แววตาที่มองไปที่หยุนเจิงก็แปลกๆเจ้าเด็กนี่ กล้าใช้วิธีนี้ในการเพิ่มเสบียงนั่นรึ?แต่จะว่าไปก็เป็นวิธีที่ดีเช่นกัน!เพียงแต่ไม่รู้ว่ารัชทายาทจะตกลงหรือไม่“ตามหลักแล้ว เขาไม่มีทางตกลงแน่นอน”หยุนเจิงกล่าวยิ้มๆ “เพราะอย่างไร สำหรับเขาแล้ว การส่งเสบียงมาให้พวกเขานั้นถือเป็นการเลี้ยงเสือให้เกิดปัญหา! แต่ข้าคิดว่า เขายอมเลี้ยงเสือให้เกิดปัญหา ก็ไม่ยอมเสียตำแหน่งองค์รัชทายาทไปหรอก ทันทีที่เว่ยเหวินจงเปิดโปงเขาออกมา อย่าว่าแต่ตำแหน่งองค์รัชทายาทเลย แม้แต่ชีวิตน้อยๆ ของเขาก็ยากที่จะปกป้องไว้ได้”ฉินลิ่วก่านได้ยินดังนั้นพลันตกอยู่ในภวังค์อีกครั้งจริง!เลี้ยงเสือให้เกิดปัญหา ก็แค่เลี้ยงเสือดื้อรั้นตัวหนึ่งเท่านั้น!ต่อจากนี้ยังมีโอกาสเชือดอีกมากมาย!แต่หากรัชทายาทไม่ตกลง ทันทีที่เว่ยเหวินจงเปิดโปงเขาออกมา เช่นนั้นผลที่จะตามมาไม่ใช่เรื่องที่เขาจะรับไหวได้แน่นอน!“เจ้ามั่นใจขนาดนั้นเชียวหรือว่าเว่ยเหวินจงจะเปิดโปงเขาน่ะ?”ฉินลิ่วก่านสงสัย “หากข้าเป็นเว่ยเหวินจง ข้ายอมตายก็ไม่ยอมเปิดโปงองค์รัชทายาทแน่นอน! เพราะอย่างไรก็ต้องตายอยู่ดี เหตุใดข้าถึงต้องช
ขอแค่มีชีวิตรอดก็พอ!“เอ่อ…”หยุนเจิงมองฉินลิ่วก่านอย่างกลืนไม่เข้าคายไม่ออก “หรงกั๋วกง ท่านไม่ต้องกังวลเรื่องนี้เลย คนที่จะคุ้มกันเว่ยเหวินจงไป ข้าจัดการไว้แต่แรกแล้ว ข้าส่งคนให้ไปส่งจดหมายที่เมืองจักรพรรดิแล้วด้วย และข้ายังเพิ่มเงื่อนไขให้กับเสด็จพ่อข้อหนึ่งด้วย!”“เงื่อนไขอะไร?”ฉินลิ่วก่านจ้องหยุนเจิงอย่างไม่สบอารมณ์ “เจ้าไม่สร้างปัญหาให้พ่อเจ้าสักวันจะตายหรือไงกัน?”“ไม่ได้สร้างปัญหาจริงๆ!”หยุนเจิงกล่าวด้วยสีหน้ายิ้มแย้ม “ข้ากำลังแบ่งเบาภาระให้กับพระองค์ต่างหาก!”“แบ่งเบาภาระ?”ฉินลิ่วก่านไม่เข้าใจ “เจ้าเพิ่มเงื่อนไขให้กับเขา แล้วยังช่วยแบ่งเบาภาระกับเขาด้วยนั้นหรือ?”“ข้าพูดจริง!”หยุนเจิงกล่าวยิ้มๆ “ข้าขอให้เสด็จพ่อสั่งให้เสด็จพี่สามนำทหารมาคุ้มกันเว่ยเหวินจงที่ด่านเป่ยลู่กลับไปด้วยตนเอง!”อะไรนะ?เมื่อได้ยินคำพูดของหยุนเจิงแล้ว สีหน้าของฉินลิ่วก่านก็ดูตื่นเต้นขึ้นมาผ่านไปนาน ในที่สุดฉินลิ่วก่านก็อดหัวเราะลั่นออกมาไม่ได้เขาหัวเราะอยู่นาน ถึงจะกล่าวด้วยสีหน้ายิ้มแย้มว่า “ดี ในเมื่อเป็นเช่นนี้ ข้าก็จะเขียนจดหมายให้พ่อเจ้าอีกฉบับหนึ่ง พยายามให้เขาตอบตกลงเงื่อนไขของ
แม้ว่าฉินลิ่วก่านจะตีฉินชีหู่อยู่ แต่ก็พอรู้ขอบเขตบ้างเพียงแค่ต้องการให้ฉินชีหู่เจ็บที่ผิวหนังเท่านั้น ไม่ได้เจ็บไปถึงกระดูหรือปราณภายในหลังจากตีไปยกใหญ่ ฉินลิ่วก่านก็ลากตัวฉินชีหู่กลับไปในห้อง“เรื่องเว่ยเหวินจงจริงแท้แค่ไหน?”ทันทีที่เข้ามาในห้อง ฉินลิ่วก่านก็ถามด้วยสีหน้าเรียบนิ่งทันที“จริงแท้แน่นอน”ฉินชีหู่มองฉินลิ่วก่านแวบหนึ่ง แล้วตอบว่า “ตอนที่องค์หญิงเจียเหยาแห่งเป่ยหวนมอบจดหมายให้กับองค์ชายหก ข้ากับตู๋กูเช่อก็อยู่ด้วย! ถึงแม้ว่าจดหมายฉบับนั้นจะไม่ใช่ลายมือของเว่ยเหวินจง แต่มีเพียงเว่ยเหวินจงเท่านั้นที่จะทำเรื่องพรรค์นั้นได้…”กล่าวจบ ฉินชีหู่ก็เล่าเนื้อหาในจดหมายให้เขาฟังหลังจากฟังจบแล้ว ฉินลิ่วก่านก็ขมวดคิ้วมุ่นขึ้นอย่างอดไม่ได้เมื่อพูดเช่นนี้แล้ว ก็เป็นฝีมือของเว่ยเหวินจงแท้แน่นอน!เพราะอย่างไร การเคลื่อนย้ายกำลังพลทหารขนส่งเสบียงเหล่านั้น มีเพียงเว่ยเหวินจงเท่านั้นที่จะทำได้หลังจากครุ่นคิดอยู่พักหนึ่ง ฉินลิ่วก่านก็ถามขึ้น “เหตุใดองค์หญิงอ่อนหัดของเป่ยหวนนั่นถึงต้องมอบจดหมายให้องค์ชายหกด้วย?”“ก็เพราะคิดว่าชัยชนะอยู่ในมือแล้วน่ะสิ!”ฉินชีหู่ฟุดฟิดจมูก แล้
ฉินลิ่วก่านสีหน้าอึมครึม ด่ากราดรุนแรง “จับตาแก่สารเลวบ้านเจ้าสิ!”“……”ฉินชีหู่สีหน้าเอือมระอาและกล่าวพึมพำ “ท่านไม่ใช่ตาแก่ของข้าหรือไร?”“ข้า...”ฉินลิ่วก่านโกรธตัวสั่น ยกมือขึ้นหมายจะตบศีรษะฉินชีหู่อีกครั้งฉินชีหู่หนังตากระตุก กุมศีรษะไว้ทันทีแต่ว่า เขารออยู่นานสองนาน มือของฉินลิ่วก่านก็ยังไม่หวดลงมาฉินชีหู่เงยหน้า มองบิดาด้วยสายตาผิดปกติมือของฉินลิ่วก่านยกค้างไว้เช่นนั้น ทว่าก็ไม่ฟาดลงมา ราวกับถูกคนร่ายเวทมนต์ใส่ฉินชีหู่เห็นดังนั้น ในใจยิ่งรู้สึกผิดปกติตาแก่ ผิดปกติ!เนิ่นนาน ฉินลิ่วก่านค่อยๆ เก็บมือของตน จากนั้นก็ถอนหายใจอย่างไร้เรี่ยวแรง “ข้าจับตัวเขาไปได้หรือไม่ก็ยังไม่แน่! เจ้าหนุ่มนี่นับว่าเป็นวีรบุรุษของต้าเฉียนเรา หากข้าจับเขาจริง ชาตินี้ทั้งชาติข้าคงไม่สงบใจ...”“ใช่ๆ!”ฉินชีหู่ดีใจ พยักหน้าหงึกๆ “ข้าก็คิดเช่นนี้! เขารบชนะมากมาย ทำลายชาวเป่ยหวนไปมากมายเพียงนั้น ทั้งยังใกล้ช่วยต้าเฉียนพิชิตดินแดนกลับมาได้แล้ว หากท่านลักพาตัวเขา เช่นนั้นก็ไม่เป็นโจรเฒ่าทรราชหรือ?”“โจรเฒ่าทรราชยายเจ้าสิ!”ฉินลิ่วก่านผรุสวาทด้วยสีหน้าบึ้งตึง แทบจะยกมือขึ้นมาตกอีกครั้งคร