แชร์

บทที่ 1171

ผู้เขียน: เหลียงซานเหลากุ่ย
last update ปรับปรุงล่าสุด: 2024-11-21 17:00:01
ล่อลวงหยุนเจิงเป็นฝ่ายเคลื่อนทัพ?

เจียเหยาหนังตากระตุก เริ่มขบคิดขึ้นมาทันที

หลังจากนั้นชั่วครู่ เจียเหยานัยน์ตาไหววูบสว่างไสว “อย่าว่าไป นี่มีความเป็นไปได้!”

โฉวฉื่อและแคว้นต้าเย่ว์มาตรึงกำลังหลักของกองทหารมณฑลทางเหนือ กุ่ยฟางย้อนด้วยการส่งทหารสร้างความประหลาดใจ ตัดเส้นทางหลังของกองทหารมณฑลทางเหนือ นี่เป็นแผนการทำศึกที่ไม่เลวเลย

แต่แผนการนี้มีปัญหาหนึ่งอันตรายถึงชีวิต เส้นทางการจัดสรรห่างไกลเกินไป!

โดยเฉพาะสำหรับกุ่ยฟาง!

หากหยุนเจิงเป็นฝ่ายเคลื่อนทัพโจมตีโฉวฉือและแคว้นต้าเย่ว์ กุ่ยฟางสามรถเคลื่อทัพอย่างรวดเร็วจากฉวนหรง บรรลุเป้าหมายเชิงกลยุทธ์อย่างรวดเร็วในการตัดเส้นทางด้านหลังของกองทัพมณฑลทางเหนือ

เช่นนี้ ไม่เพียงแต่จะช่วยลดระยะเวลาในการเดินทัพของพวกเขาได้อย่างมากเท่านั้น ยังสามารถย่นระยะทางการจัดสรรของพวกเขาด้วย

ส่วนพวกเขาล้อมกำลังหลักของกองทหารมณฑลทางเหนือเอาไว้ การโจมตีกำลังเสริมของกองทหารมณฑลทางเหนือก็ยังสามารถบรรลุเป้าหมายได้เหมือนเดิม

สิ่งสำคัญที่สุดคือ แผนการนี้ไม่จำเป็นต้องพึ่งพาเป่ยหวนมากเกินไป

จอแค่หยุนเจิงทำเช่นนี้ ไม่ว่าเป่ยหวนจะมีท่าทีเช่นไร พวกเขาล้วนสามารถบรร
บทที่ถูกล็อก
อ่านต่อเรื่องนี้บน Application

บทที่เกี่ยวข้อง

  • องค์ชายหกผู้ไร้เทียมทาน   บทที่ 1172

    “ไม่ได้ลำบากอย่างที่เจ้าคิด”หยุนเจิงส่ายหน้ายิ้ม “ตอนนี้ศัตรูกำลังวางกับดักพวกเรา เจ้าไม่จำเป็นต้องใช้ตัวเองเข้าสู่กับดัก สามารถเป็นฝ่ายหาแผนการทำลายกับดักก่อนเข้าสู่กับดักได้!”เป็นฝ่ายหาแผนการทำลายกับดักหรือ?เจียเหยาครุ่นคิดเงียบๆ ขมวดคิ้วกล่าว “เจ้าคงไม่คิดให้ข้าเป็นฝ่ายเริ่มบุกโจมตีกุ่ยฟางกระมัง?”ในชั่วพริบตา เจียเหยารู้สึกว่าหยุนเจิงกำลังวางแผนใส่นางอีกแล้วหยุนเจิงหัวเราะอย่างแฝงเลศนัย “ความจริง กลยุทธตอนแรกสุดของพวกเราไม่ค่อยมีปัญหาใหญ่ เพียงแต่ ทางนี้ข้าจำเป็นต้องเปลี่ยนทิศทางการบุกโจมตีก็เท่านั้น...”ทิศทางการบุกโจมตี?“ความหมายของเจ้าคือ เจ้าบุกโจมตีแคว้นต้าเย่ว์ เปลี่ยนเป็นบุกโจมตีโฉวฉื่อ?”เจียเหยาครุ่นคิดเล็กน้อย จากนั้นก็เข้าใจความหมายของหยุนเจิงแล้วนี่ก็ไม่ยากที่จะคาดเดาถึงเช่นไร กำลังทหารของแคว้นต้าเย่ว์และโฉวฉื่อต่างก็รวมตัวกันอยู่ที่ชายแดนของทั้งสองแคว้นหากหยุนเจิงบุกโจมตีแคว้นต้าเย่ว์ เปลี่ยนไปเดินทางไกลบุกเข้าสู่กุ้ยฟางโจมตีด้านหลังกุ่ยฟาง ค่อนข้างไม่สมเหตุสมผลวิธีที่ดีที่สุด ย่อมเป็นการฉวยโอกาสใช้ประโยชน์จากสถานที่อื่นของโฉวฉื่อที่กำลังทหารว่างเป

    ปรับปรุงล่าสุด : 2024-11-21
  • องค์ชายหกผู้ไร้เทียมทาน   บทที่ 1173

    หลังกินข้าวเสร็จ พวกหยุนเจิงพาเจียเหยาเดินทางไปทะเลสาบไป๋หลางทางนั้นไม่ได้มีเพียงโรงเตาเผา ยังมีโรงงานผลิตถ่านหินรังผึ้งด้วยคนที่อพยพมากจากเป่ยหวนมากมยาถูกจัดให้ทำงานอยู่ทางนั้น ตั้งแต่ช่วงระยะนี้ ทางนั้นกลายเป็นตำบลขนาดย่อมแห่งหนึ่ง“เจ้าคิดจะสร้างป้อมปราการกี่แห่ง?”ระหว่างทางไปยังทะเลสาบไป๋หลาง จู่ๆ เจียเหยาก็ถามหยุนเจิง“ตอนนี้คิดจะสร้างป้อมปราการสามแห่งกระมัง!”หยุนเจิงไม่ปิดบัง “แต่ว่า ความยากของการสร้างป้อมปราการไม่เล็ก ค่อยเป็นค่อยไปทีละก้าวเถอะ! ความจริง สิ่งที่ข้าหวังมากที่สุดคือ หนึ่งเมืองไม่ต้องมีป้อมปราการ”หนึ่งเมืองไม่ต้องมีป้อมปราการหรือ?เจียเหยาแอบหัวเราะขมขื่นในใจนางฟังความหมายอื่นของหยุนเจิงออกจุดประสงค์ที่สำคัญในการสร้างป้อมปราการของหยุนเจิง ก็เพื่อกดขี่เป่ยกวนหากเป็นกวนยอมสวามิภักดิ์ ไม่คิดมีใจเป็นอื่น เขาหนึ่งเมืองไม่จำเป็นต้องมีป้อมปราการแล้วแต่นี่เป็นไปได้หรือ?ย่อมเป็นไปไม่ได้!ต่อให้นางบอกว่าเป็นกวนไม่มีทางมีใจเป็นอื่นตลอดไป หยุนเจิงก็ไม่มีทางเชื่อ!ดังนั้น ป้อมปราการของหยุนเจิงเป็นสิ่งที่หลีกเลี่ยงไม่ได้นานถึงขั้นคิดได้ถึงตำแหน่งโดยป

    ปรับปรุงล่าสุด : 2024-11-21
  • องค์ชายหกผู้ไร้เทียมทาน   บทที่ 1174

    เขาให้เสบียงอาหารกับนางแค่สามแสนหาบ นึกไม่ถึงว่านางจะไม่ต่อรองราคา?นี่ไม่เหมือนนิสัยของเจียเหยาเลย!“เหตุใดเจ้าไม่ต่อรองราคา?”สุดท้ายเมี่ยวอินก็อดไม่ได้ที่จะถาม“เจ้าคิดว่า เขาจะให้โอกาสข้าต่อรองราคาหรือ?”เจียเหยาเบ้ปาก สายตาทอดมองหยุนเจิง“ไม่ให้!”หยุนเจิงหัวเราะ มองเจียเหยาด้วยความชื่นชม “ไม่เลว เรียนรู้ที่จะฉลาดแล้ว!”เจียเหยาเมื่อได้ฟัง ก็จ้องมองหยุนเจิงด้วยความโหดร้ายอย่างควบคุมไม่อยู่นางไม่ใช่เรียนรู้ที่จะฉลาดแล้ว!นางถูกบีบบังคับต่อให้ทองคำล้ำค่าเพียงใด ก็ไม่อาจกินแทนข้าวได้ตอนนี้ หยุนเจิงมีอาหารอยู่ในมือ หยุนเจิงยอมขายให้นาง นางก็ต้องขอบคุณสวรรค์แล้วนางต่อรองราคา หยุนเจิงไม่ขายอาหารให้นาง นางก็ทำได้เพียงแต่ร้องไห้โดยไร้น้ำตาแล้วสนทนากันตลอดทาง ในที่สุดพวกเขาก็มาถึงทะเลสาบไป๋หลางแล้วเจียเหยาจำได้ ครั้งก่อนที่ผ่านมาทางนี้ เป็นเมื่อเกือบสามเดือนที่แล้วระยะเวลาสั้นๆ ไม่ถึงสามเดือน ที่นี่เปลี่ยนแปลกไปมากมองจากที่ไกลๆ สามารถมองเห็นภาพเงาคนทำงานไม่น้อยเตาเผาอิฐขนาดยักษ์แต่ละเตาสร้างขึ้นมาแล้ว ควันหนาทึบลอยมาจากปล่องไฟแต่ว่า ภายในอากาศที่นี่มีกลิ่นแสบจม

    ปรับปรุงล่าสุด : 2024-11-21
  • องค์ชายหกผู้ไร้เทียมทาน   บทที่ 1175

    เจียเหยาพูดไป ด้านหนึ่งก็ส่งสายตาให้คนเหล่านั้น อยู่ที่นี่ ไม่มีองค์หญิงเจียเหยาแห่งเป่ยหวนมีเพียงฮูหยินเจียเหยาตั้งแต่เมื่อครู่ที่นางเห็นหยุนเจิง หยุนเจิงก็ได้แสดงท่าทีชัดเจนแล้วต่อให้เขาต้องทำความเคารพ ก็ต้องทำความเคารพหยุนเจิงก่อนตอนนี้พวกเขาเป็นราษฎรต้าเฉียนแล้ว ไม่อาจเอาแต่คิดถึงนางที่เป็นองค์หญิงผู้นี้ได้อยู่ใต้ชายคาผู้อื่น ไม่อาจไม่ก้มหัว!แม้จะโหดร้าย แต่หากพวกเขาใช้ชีวิตดีขึ้นหน่อย ก็จะเป็นต้องเคารพกฎเกณฑ์ข้อนี้พวกเขาน่าจะรู้ดี หยุนเจิงไม่ใช่คนดีมีเมตตาด้วยการส่งสัญญาอย่างบ้าคลั่งของเจียเหยา ในที่สุดทุกคนก็เข้าใจแล้ว รีบคุกเข่าลง ก้มตัวลงต่ำ “ข้าน้อยคาราวะท่านอ๋อง คาราวะฮูหยินเมี่ยวอิน...”หยุนเจิงใบหน้าบึ้งตึง ช้อนลูกตามองพวกเขา น้ำเสียงและหน้าตาดุดัน “เห็นแก่นี่เป็นความผิดครั้งแรก ครั้งนี้จะปล่อยพวกเจ้าไป! หากมีครั้งหน้า อย่าหาว่าข้าไม่เกรงใจ!”“ขอรับ!”ทุกคนก้มหน้าเอาเป็นเอาตาย พากันตอบด้วยความกลัวตัวสั่น“ลุกขึ้นเถอะ!”หยุนเจิงถากถางเสียงเบา จากนั้นก็ออกคำสั่ง “ปลดผ้าปิดหน้า”เจียเหยาคิดว่าหยุนเจิงต้องการจำหน้าตาของคนเหล่านี้ จะได้คิดบัญชีกับพวกเขาใน

    ปรับปรุงล่าสุด : 2024-11-22
  • องค์ชายหกผู้ไร้เทียมทาน   บทที่ 1176

    เจียเหยาไม่พูดจา เพียงแค่กลั้นน้ำตาเดินตามเมี่ยวอินไปมาถึงบริเวณปั้นดินเหนียว ยังไม่ทำรอให้หยางสวี่เข้ามา หยุนเจิงสั่งให้ผู้ชายทุกคนถอดเสื้อออกไม่ผิดจากที่คาด คนเหล่านี้ส่วนล้วนผอมแห้งเห็นกระดูกถึงขั้นมีบางคนร่างกายผอมซูบเซียว ใกล้จะกลายเป็นไม้เสียบผีแล้วภายในนี้ ไม่ได้มีเพียงคนของเป่ยหวน ยังมีชาวต้าเฉียน ชาวเหมิงกู่และเจินเกอด้วยทว่า ชาวตาเฉียนมีเพียงส่วนน้อยหยุนเจิงเรียกชาวเป่ยหวนคนหนึ่งที่ผอมจนเห็นกระดูกมา “เจ้าชื่ออะไร?“ฮ๋าวตู๋”“ค่าแรงทุกวันเจ้าได้เท่าไหร่?”“ค่าแรง? พวกเรา...พวกเราไม่ได้รับค่าแรง!”“ไม่มีค่าแรง?”นัยน์ตาหยุนเจิงฉายแววพยาบาทจากนั้น หยุนเจิงก็ถามติดต่อกันอีกหลายคนนอกจากชาวต้าเฉียน คนเหล่านี้ต่างก็ไม่ได้รับค่าแรงต่อให้เป็นชาวต้าเฉียน ค่าแรงก็ยังน้อยจนน่าสงสารทุกวันพวกเขาได้กินอาหารแค่สองมื้อ อีกทั้งก็เป็นของประเภทน้ำแกงใสกับข้าวกินคู่กัน โดยพื้นฐานแล้วเป็นผักดองเป็นหลักส่วนเนื้อ ไม่ต้องคิดถึงเลย ไม่มีเลยสักนิด!ถามคำถามเหล่านี้จบ สีหน้าของหยุนเจิงเปลี่ยนเป็นดูยากหยางสวี่วิ่งมาด้วยความกังวลเต็มหัวใจ เห็นทุกคนถอดเสื้อท่อนบนหมดแล้ว ใบหน

    ปรับปรุงล่าสุด : 2024-11-22
  • องค์ชายหกผู้ไร้เทียมทาน   บทที่ 1177

    หยางสวี่เป็นคนไร้ศักดิ์ศรีไม่รอให้หยุนเจิงสั่งคนเข้าเครื่องทรมาน หยางสวี่ก็บอกเรื่องราวทุกอย่างออกมาหมดแล้วนอกจากเขาแล้ว นายบัญชีของโรงเตาเผาก็ทุจริตด้วยสิ่งที่เขาบอกกับพวกเป่ยหวน เจินเกอและเหมิงกู่คนทั้งสามเผ่าคือ คนเหล่านี้ต่างก็เป็นคนมีความผิด ให้พวกเขาทำงานที่โรงเตาเผา คือการให้โอกาสพวกเขาได้ทำงานชดเชยความผิด ต้องทำให้ครบหนึ่งปี จึงจะมีค่าแรงคนของสามชนเผ่าเดิมก็ไม่คิดว่าตัวเองจะสามารถมีชีวิตสุขสบายในโรงเตาเผาอยู่แล้ว ขอแค่มีข้าวกิน ไม่หิวตายก็พอแล้วดังนั้นจึงไม่สงสัยเรื่องเงินเดือนหยางสวี่ยังขายจางซูอย่างเปิดเผยตรงไปตรงมา บอกเรื่องที่เขาจ่ายเงินซื้อตำแหน่งห้าหมื่นตำลึงเงินออกมาทั้งหมดหยางสวี่กล่าวด้วยน้ำตานองอยู่ตรงนั้น เมี่ยวอินกลับแอบส่ายหน้าเจ้าคนโง่เขลา!คนเช่นเขา คิดอยากเป็นขุนนาง?ขายจางซูต่อหน้าทุกคน ยังคาดหวังให้ใครสามารถปกป้องเขาได้?ทว่า ตอนนี้จางซูไม่อยู่ที่ซั่วเป่ย พวกเขาก็ไม่อาจพึงพาจางซูได้พูดหรือไม่พูด ก็ไม่ต่างกันแล้วสีหน้าหยุนเจิงเย็นชา ถามด้วยเสียงดุดัน “เงินที่เจ้าทุจริตอยู่ที่ใด?”หยางสวี่ห้องไห้ “อยู่ที่บ้านของข้าน้อย...”หยุนเจิงหน้าบึ้ง

    ปรับปรุงล่าสุด : 2024-11-22
  • องค์ชายหกผู้ไร้เทียมทาน   บทที่ 1178

    นี่...เป็นเรื่องจริงหรือ?“ขอบคุณท่านอ๋อง!”ขณะที่ทุกคนยัคงยืนตกตะลึงอยู่ตรงนั้น ก็มีคนหนึ่งคุกเข่าลงทันที จากนั้นก็ตะโกนร้องไห้มีคนผู้นี้เป็นแกนนำ ทุกคนราวกับถูกปลุกให้ตื่นจากฝันชั่วพริบตานั้น ทุกคนคุกเข่าลงกันเป็นแถบ“ขอบคุณท่านอ๋อง”“ขอบคุณท่านอ๋องที่ตัดสินให้ข้า...”“ท่านอ๋องฉลาดปรีชา...”ทุกคนพากันคุกเข่าตะโกนร่ำร้องคนไม่น้อยต่างตื้นตันจนร้องไห้ออกมาเวลานี้ ความไม่เป็นธรรมและความโกรธแค้นในใจทุกคนต่างก็ได้ระบายออกมาแล้ว เหลือเพียงความยินดีและความตื้นตันเมื่อเห็นทุกคนคุกเข่าอยู่ที่พื้น นัยน์ตาเจียเหยาไหววูบเป็นประกายไอสารเลวสมควรตาย!ที่แท้ก็รออยู่ตรงนี้เอง!หยุนเจิงยกมือห้ามปรามทุกคน จากนั้นก็ชี้ไปที่หยางสวี่และนายบัญชี “ส่วนพวกสองคนนี้ ข้ามอบให้พวกเจ้าจัดการก่อน! พวกเจ้าโกรธก็ระบายความโกรธ มีแค้นก็ชำระแค้น อย่าทำให้ถึงตายก็พอแล้ว!”เมื่อได้ฟังคำของหยุนเจิง หยางสวี่และนายบัญชีตกใจจนขาอ่อน คุกเข่ากับพื้นร้องไห้อ้อนวอนไม่หยุดทว่า เดิมทีหยุนเจิงก็ไม่ได้สนใจพวกเขา เพียงแค่สั่งให้คนนำสองคนนี้มอบให้เหล่าคนงาน“ตีไอสัตว์เดรัจฉานนี่ให้ตาย!”ไม่รู้ผู้ใดตะโกนนำเป็นคน

    ปรับปรุงล่าสุด : 2024-11-22
  • องค์ชายหกผู้ไร้เทียมทาน   บทที่ 1179

    ไม่ผิดจากที่คาดการณ์ ผ่านการแนะนำของทุกคน ชายชราชาวเป่ยหวนผู้หนึ่งกลายเป็นผู้ดูแลคนใหม่เจียเหยารู้จักชายชราผู้นี้ท่านผู้นี้ก่อนหน้านี้เคยเป็นหัวหน้าชนเผ่าแห่งหนึ่ง ได้รับความเคารพอย่างสูงจากคนในชนเผ่าดูแลโรงเตาเผา น่าจะไม่มีปัญหาใดหลังจากยืนยันตำแหน่งผู้ดูแลคนใหม่แล้ว หยุนเจิงสั่งเมี่ยวอินต่อหน้าทุกคน ให้นางกลับไปหานายบัญชีคนใหม่ส่งมาต่อไป หยุนเจิงก็มอบหมายงานต่างๆ ง่ายๆ จากนั้นก็พาคนจากไปส่วนหยางสวี่และนายบัญชี ก็ทิ้งไว้พักรักษาตัวที่นี่ก่อน รอให้หายดีแล้ว ค่อยเริ่มทำงาน“ทั้งบุญคุณทั้งอำนาจควบคู่กัน วิธีท่านอ๋องยอดเยี่ยม!”ระหว่างทางกลับ เจียเหยาก็กล่าวกับหยุนเจิงด้วยความโกรธและโมโหหยุนเจิงตักเตือนชาวเป่ยหวนที่ทำความเคารพให้นาง เป็นการแสดงอำนาจหยุนเจิงลงโทษสองคนที่ทุจริตอย่างหนักต่อหน้าทุกคน ไม่เพียงชดเชยค่าแรงของคนเหล่าคนงานให้ครบถ้วน ยังเพิ่มเงินพิเศษห้าสิบเหวินเป็นการชดเชยค่าอาหาร ถึงขั้นให้พวกเขาแนะนำผู้ดูแลคนใหม่กันเอง ล้วนเป็นการแสดงบุญคุณ!ทั้งบุญคุณทั้งอำนาจควบคู่กัน ได้รับหัวใจคนง่ายที่สุดผู้ดูแลคนใหม่ ย่อมต้องทำงานแทนเขาอย่างสุดความสามารถใช้ชาวเป่ยหวน

    ปรับปรุงล่าสุด : 2024-11-23

บทล่าสุด

  • องค์ชายหกผู้ไร้เทียมทาน   บทที่ 1390

    “จะใช้เงินมากมายขนาดไหนกัน?” “ก็เยอะจริงพ่ะย่ะค่ะ แม้แต่ลูกเองยังไม่อยากเชื่อเลยว่าลูกใช้เงินไปมากขนาดนี้” หยุนเจิงทำหน้ามุ่ยเหมือนคนมีทุกข์ จนเยี่ยจื่อที่อยู่ข้างๆ แทบอยากจะตีเขา เจ้าคนนี้นี่! พูดเกินจริงก็ต้องมีขอบเขตบ้างสิ! เสด็จพ่ออย่างไรก็เป็นถึงกษัตริย์ แม้จะไม่ทราบรายละเอียดว่าการสร้างเมืองใช้เงินเท่าไร แต่ก็น่าจะพอรู้คร่าวๆ อยู่บ้าง สิบล้านตำลึงขึ้นไป เขากล้าพูดออกมาได้อย่างไร? นี่มันก็เหมือนกับการโกหกเสด็จพ่ออย่างโจ่งแจ้งเลยไม่ใช่หรือ? “พอแล้ว อย่ามาทำตัวพล่ามเป็นคนจนให้ข้าฟังเลย!” จักรพรรดิเหวินเหลือบมองหยุนเจิงด้วยหางตา “ข้าไม่ได้อยากได้เงินของเจ้าหรือธุรกิจทำเงินของเจ้า! และเจ้าก็อย่าหวังจะได้สักตำลึงจากข้าเลย ท้องพระคลังตอนนี้ไม่มีเงินให้เจ้าแล้ว!” พล่ามว่าจนหรือ? เขาอยากพล่ามว่าจนนักหรือ! ในปีนี้ ต้าเฉียนก็ถือว่าเจอภัยพิบัติไม่น้อย ใช้เงินไปเหมือนน้ำไหล ถ้าไม่ใช่เพราะเงินสะสมจากหลายปีที่ผ่านมา ราชสำนักคงอดอยากไปแล้ว! “ก็ได้ๆ!” หยุนเจิงพยักหน้ารับหลายครั้ง ในใจโล่งอกอย่างยิ่ง เขายังกลัวว่าเสด็จพ่อจะมาที่นี่เพื่อมารีดไถ โดยเ

  • องค์ชายหกผู้ไร้เทียมทาน   บทที่ 1389

    วันถัดมา จักรพรรดิเหวินที่เหนื่อยล้าจากการเดินทางก็ตื่นสายเล็กน้อย หลังจากรับประทานอาหารเช้าอย่างง่ายๆ จักรพรรดิเหวินก็ให้ทุกคนพาเดินสำรวจในเล่ออาน จักรพรรดิเหวินไม่ได้เปิดเผยฐานะตนเอง ไม่ได้พาผู้ติดตามมากมาย และยังปลอมตัวเล็กน้อยเพื่อเลี่ยงความยุ่งยาก หลังจากเดินสำรวจรอบเมือง จักรพรรดิเหวินก็ค่อนข้างพอใจ ระหว่างเดินบนถนนในเมือง จักรพรรดิเหวินก็ย่อตัวลงดูอะไรบางอย่าง “นี่มันอะไรหรือ?” จักรพรรดิเหวินชี้ไปที่ปูนระหว่างก้อนอิฐสองก้อนแล้วถาม “นี่คือปูนซีเมนต์” หยุนเจิงอธิบาย “มันทำหน้าที่เหมือนกาวข้าวเหนียว แต่มีความแข็งแรงกว่าเล็กน้อย และหาง่ายกว่า ไม่เปลืองข้าว แค่ปริมาณการผลิตยังน้อยอยู่” “สิ่งนี้ใช้ได้ทีเดียว!” จักรพรรดิเหวินลุกขึ้นช้าๆ “เจ้าเคยคิดจะขายปูนซีเมนต์นี้ไปพื้นที่เขตในหรือไม่?” “นั่นคงยากหน่อย” หยุนเจิงส่ายหัว “ซั่วเป่ยยังขาดปูนนี้มาก จะเอาไปขายที่เขตในได้อย่างไร? ยิ่งไปกว่านั้น สิ่งนี้ส่วนใหญ่ใช้ในงานของราชสำนัก ชาวบ้านทั่วไปไม่จำเป็นต้องใช้” “เช่นนั้น มันเทศล่ะ?” จักรพรรดิเหวินมองหยุนเจิงด้วยรอยยิ้ม “ข้าได้ยินมาว่ามันเทศในซั่วเป่ยป

  • องค์ชายหกผู้ไร้เทียมทาน   บทที่ 1388

    “ห้ะ?” หยุนเจิงเบิกตากว้างด้วยความตกตะลึง แทบไม่เชื่อหูตัวเอง “วางใจเถอะ ข้ารู้ขอบเขตดี” จักรพรรดิเหวินกล่าวด้วยรอยยิ้ม “นี่เป็นช่วงสำคัญที่เจ้าจะรวบรวมใจชาวเป่ยหวน แม้ข้าจะอยากไปบวงสรวงฟ้าดินที่เขาเทพหมาป่า แต่ตอนนี้ไม่ใช่เวลา ข้าเข้าใจดี” “เสด็จพ่อ นี่ไม่ใช่เรื่องของขอบเขตหรือไม่ขอบเขตนะพ่ะย่ะค่ะ!” หยุนเจิงคร่ำครวญแทบล้มประดาตาย “เสด็จพ่อจะไปเยือนวังหลวงเป่ยหวน เรื่องนั้นไม่มีปัญหา แต่เสด็จพ่อคิดดูเถิด หากเสด็จพ่อไป ลูกคงต้องนำทัพสักหมื่นสองหมื่นนายเพื่อคุ้มครองเสด็จพ่อใช่ไหมพ่ะย่ะค่ะ? ทัพหมื่นสองหมื่นนาย เดินทางหน้าหนาว ต้องขนเสบียงและเสื้อผ้ากันหนาวแค่ไหน? ไปกลับอย่างไรเสียก็ต้องใช้เวลาหนึ่งถึงสองเดือนใช่ไหมพ่ะย่ะค่ะ?” นี่ยังไม่รวมว่าต้องออกเดินทางจากค่ายใหญ่เขาห่านป่าหวนกลับ! หากออกเดินทางจากที่อื่น เวลาก็ยิ่งนานกว่านี้! นี่เป็นการเดินทางของฮ่องเต้นะ! จะให้เดินทางเร่งด่วนตลอดทางก็ไม่ได้! ต่อให้เสด็จพ่ออยากไปจริง ก็ควรรอเวลาที่เหมาะสมกว่านี้! “สักสองเดือนก็สักสองเดือนเถอะ!” จักรพรรดิเหวินกล่าวอย่างไม่ใส่ใจ “อย่างไรเสีย เจ้าก็ไม่จัดงานแต่งกับเจียเ

  • องค์ชายหกผู้ไร้เทียมทาน   บทที่ 1387

    จักรพรรดิเหวินหยุดครู่หนึ่ง ก่อนถ่ายทอดคำที่จักรพรรดิพระองค์ก่อนเคยกล่าวไว้ให้หยุนเจิงฟัง ผู้เลี้ยงแกะในมือนั้น ต้องมีผืนดิน หมาป่า แกะ และสุนัข! ผืนดิน คือกฎเกณฑ์ ขีดเส้นจำกัดไว้เป็นคอก หมาป่าคือภัยคุกคาม บอกฝูงแกะว่าอย่าได้วิ่งพล่าน ในพื้นที่ที่ขีดเส้นให้เท่านั้นจึงจะปลอดภัยจากหมาป่า แกะ คือหัวหน้าฝูง ขณะเลี้ยง หากควบคุมหัวหน้าฝูงได้ ฝูงแกะก็จะไม่หลงทาง สุนัขช่วยต้อนฝูงแกะ นำแกะที่ไม่เชื่อฟังกลับเข้าฝูง เมื่อได้ฟังคำพูดของจักรพรรดิเหวิน หยุนเจิงก็อดไม่ได้ที่จะตระหนักในทันที ไม่ต้องสงสัยเลยว่า จางฮว๋ายก็คือหัวหน้าฝูงแกะตัวนั้น ไม่ว่าจะเป็นจักรพรรดิพระองค์ก่อนหรือเสด็จพ่อ ต่างก็ต้องการหัวหน้าฝูงตัวนี้เพื่อควบคุมฝูงแกะ ผ่านไปครู่หนึ่ง หยุนเจิงก็เอ่ยถามอีกครั้งว่า “เสด็จพ่อคงไม่ได้คิดจะส่งเกาซื่อเจินมาให้ลูกเป็นหัวหน้าฝูงใช่ไหม?” “เจ้าคิดว่าเกาซื่อเจินมีความสามารถจะเป็นหัวหน้าฝูงหรือ?” จักรพรรดิเหวินเผยรอยยิ้มเหยียดหยาม กล่าวอย่างมีนัยว่า “หัวหน้าฝูงไม่ใช่ว่าใครจะเป็นได้!” เช่นนี้เองหรือ? หยุนเจิงครุ่นคิดอยู่ในใจ จริงแท้ เกาซื่อเจินไม่มีความสามาร

  • องค์ชายหกผู้ไร้เทียมทาน   บทที่ 1386

    คนเราไม่ใช่หญ้าหรือไม้ ใครเลยจะไร้ซึ่งความรู้สึก? แต่ตราบใดที่ขึ้นนั่งบนบัลลังก์จักรพรรดิ หลายเรื่องก็จะมิอาจทำตามใจตนได้อีก เมื่อได้ขึ้นครองราชย์ ไม่ว่าเจ้าจะมีสถานะอื่นใดมากมาย สถานะแรกของเจ้าก็คือจักรพรรดิ! “ความจริง ลูกไม่ได้คิดถึงตำแหน่งนั้นมากมายเลยพ่ะย่ะค่ะ” หยุนเจิงกล่าวอย่างจริงจัง “ก็เพราะลูกเข้าใจสิ่งที่เสด็จพ่อพูด ลูกถึงไม่อยาก…” “เจ้าคิดว่าตอนนี้ยังเป็นเรื่องที่เจ้าเลือกเองได้หรือ?” จักรพรรดิเหวินตัดคำพูดของหยุนเจิงทันที “หากเจ้าไม่ขึ้นครองราชย์ แล้วผู้คนภายใต้บังคับบัญชาของเจ้าจะเป็นเช่นไร? บรรดาแม่ทัพผู้สร้างผลงานยิ่งใหญ่เหล่านี้ ใครเล่าจะทำให้พวกเขารู้สึกวางใจได้ นอกจากเจ้า?” เพราะผลงานสูงจนสั่นคลอนพระราชอำนาจใช่หรือไม่? หยุนเจิงยิ้มอย่างจนปัญญา ในข้อนี้ เขาเองก็เห็นด้วย นับแต่อดีตจนถึงปัจจุบัน มีแม่ทัพมากมายที่สร้างผลงานยิ่งใหญ่แต่ต้องจบชีวิตอย่างน่าเศร้า เพียงเมื่อพวกเขาสิ้นชีวิต จักรพรรดิจึงจะวางใจได้ ไม่ฉะนั้น เมื่อแม่ทัพผู้เกรียงไกรส่งเสียงเรียก ใครเล่าจะไม่เกรงกลัว? “เรื่องในวันข้างหน้า ไว้ค่อยว่ากันเถิดพ่ะย่ะค่ะ!” หยุนเจิงไ

  • องค์ชายหกผู้ไร้เทียมทาน   บทที่ 1385

    หยุนเจิงเล่าเรื่องนี้กินเวลาเกือบครึ่งชั่วโมง ระหว่างนั้น จักรพรรดิเหวินแทบไม่พูดแทรก เพียงแต่ทานหม้อไฟร้อนๆ พร้อมจิบสุราไปพลาง จนกระทั่งหยุนเจิงพูดจบ จักรพรรดิเหวินจึงวางตะเกียบลง พร้อมมองหยุนเจิงตั้งแต่หัวจรดเท้าด้วยสีหน้าสงสัย “เสด็จพ่อ มองลูกเช่นนี้ทำไม?” หยุนเจิงถูกมองจนขนลุก ในใจแอบคิดว่า หรือว่าตาแก่คนนี้จะมีแผนร้ายอีกแล้ว “ใครสอนเรื่องพวกนี้ให้เจ้า?” จักรพรรดิเหวินมีสีหน้าเต็มไปด้วยความสงสัย “อย่ามาอ้างว่าหนังสือแปลกประหลาดเล่มนั้นสอนเจ้า ข้าไม่เชื่อว่าหนังสือจะมีเรื่องพวกนี้!” ศาสตร์แห่งจักรพรรดิ! นี่ไม่ใช่สิ่งที่จะเรียนรู้จากหนังสือได้ และอาจารย์ก็ไม่สามารถสอนเรื่องพวกนี้ กระทั่งองค์ชายส่วนใหญ่ยังไม่มีโอกาสได้ศึกษาเรื่องศาสตร์แห่งจักรพรรดิอย่างลึกซึ้ง แล้วหยุนเจิงที่เคยใช้เวลาอยู่แต่ในจวนปี้ปัวนั้น ใครกันที่สอนเรื่องพวกนี้ให้เขา? หรือว่าเขาจะเข้าใจสิ่งเหล่านี้ได้เอง? หยุนเจิงหัวเราะเบาๆ “เมื่อก่อนลูกไม่มีอะไรทำ ก็มักอ่านพงศาวดารบ่อยๆ เรื่องพวกนี้ลูกเรียนรู้มาจากพงศาวดาร” “ไร้สาระ!” จักรพรรดิเหวินตอบกลับอย่างไม่สุภาพ “หากเรียนรู้เรื่อง

  • องค์ชายหกผู้ไร้เทียมทาน   บทที่ 1384

    จากทางใต้จนถึงซั่วเป่ยระยะทางไกลถึงเพียงนี้ ระหว่างทางไม่มีความช่วยเหลือจากทางการ หรือทางการไม่อนุญาตให้ผ่าน เหล่าผู้ประสบภัยแม้จะมีปีกบิน ก็ใช่ว่าจะบินมาถึงซั่วเป่ยได้ “เรื่องนี้ไม่เกี่ยวกับข้าเลย ทั้งหมดเป็นเรื่องที่พี่สามของเจ้าจัดการ” จักรพรรดิเหวินหัวเราะเยาะตนเองเบาๆ “พอเถอะ อย่าเพิ่งพูดถึงเรื่องนี้อีก! เจ้าพูดวกไปวนมานานนักแล้ว มีข้ออ้างอะไรที่ดีกว่านี้หรือไม่?” ยังจะพูดถึงเรื่องนี้อีกหรือ? เรื่องนี้จะหลีกเลี่ยงไม่ได้เลยหรือไร? หยุนเจิงในใจเต็มไปด้วยความอึดอัด จึงไม่อยากแต่งเรื่องอ้างใดๆ อีก กล่าวตรงๆ ว่า “ลูกไม่ปิดบังเสด็จพ่อแล้ว ลูกไม่อยากจัดพิธีสมรสกับเจียเหยาเลยสักนิด! ลูกคิดว่าลูกกับเจียเหยาแค่มีสถานะเป็นสามีภรรยาก็เพียงพอแล้ว ไม่มีความจำเป็นต้องจัดงานสมรสใหญ่โตให้เปลืองแรงและสิ้นเปลืองทรัพย์สินหรอก” จักรพรรดิเหวินหรี่ตาลงเล็กน้อย สีหน้าดูไม่สบอารมณ์ มองหยุนเจิงพร้อมกล่าวว่า “ข้าลำบากวุ่นวายเตรียมงานมานานถึงเพียงนี้ แม้แต่ปีใหม่ยังไม่ได้อยู่ฉลองในเมืองหลวง แต่ต้องมาเตรียมงานสมรสให้เจ้า หากเจ้าไม่จัดพิธีสมรส ข้าก็คงกลายเป็นคนหน้าไม่อายแล้ว! เจ้าลองพูดดูสิ ว

  • องค์ชายหกผู้ไร้เทียมทาน   บทที่ 1383

    จักรพรรดิเหวินให้เวลาหยุนเจิงคิดเหตุผลมาแก้ตัวอย่างเต็มที่ พระองค์เองก็ค่อยๆ ลิ้มรสอาหารอย่างไม่รีบร้อน “เนื้อนี้ค่อนข้างเหนียวไปหน่อย” จักรพรรดิเหวินเคี้ยวเนื้อในปากแล้วกลืนลงไป จากนั้นก็เอ่ยขึ้นด้วยน้ำเสียงเรียบๆ “ดูท่าว่าข้าจะแก่แล้วจริงๆ ฟันของข้าไม่เหมือนเดิมแล้ว” “……” หยุนเจิงหน้ามืด หัวเราะอย่างขื่นขมพลางมองไปที่จักรพรรดิเหวิน “ลูกจะให้คนไปหาในเมืองดูดีไหมพ่ะย่ะค่ะ ว่ามีลูกวัวอยู่บ้างหรือเปล่า แล้วให้พวกเขาเชือดมันสดๆ เอาเนื้อมาถวาย?” เหนียวอะไรกัน! ไม่ใช่ว่ากำลังอ้อมค้อมจะบอกว่าตนเองโตพอที่จะไม่ฟังคำสั่งแล้วหรือไร? จักรพรรดิเหวินหยุดมือเล็กน้อย ก่อนจะมองหยุนเจิงด้วยสายตาทั้งขบขันและหงุดหงิด “เจ้าตั้งใจจะยั่วข้าใช่ไหม?” “มิบังอาจพ่ะย่ะค่ะ!” หยุนเจิงส่ายหัวพร้อมยิ้ม “เสด็จพ่อเสด็จมาไกลถึงเพียงนี้ ลูกจะไม่รับรองเสด็จพ่ออย่างดีได้หรือพ่ะย่ะค่ะ?” “ช่างเถอะ! ข้าไม่กล้าสั่งให้เจ้าเชือดลูกวัวเพื่อมารับรองข้าหรอก” จักรพรรดิเหวินเอ่ยอย่างเรียบๆ “วัวเป็นรากฐานของเกษตรกรรม รอให้ลูกวัวโตแล้วใช้มันไถนาเพื่อประโยชน์ของราษฎรจะดีกว่า!” แค่นี้ก็จบแล้วไม่ใช่หรื

  • องค์ชายหกผู้ไร้เทียมทาน   บทที่ 1382

    บัดนี้ ในห้องเหลือเพียงพวกเขาสี่คนแล้วจักรพรรดิเหวินหันไปมองเมี่ยวอินอีกครั้ง “เจ้าคือเมี่ยวอินใช่หรือไม่? ข้าจำได้ว่า ข้าได้มีพระราชโองการแต่งตั้งเจ้าเป็นชายารองของเจ้าหกแล้วไม่ใช่หรือ? เมื่อเห็นข้าแล้ว เหตุใดเจ้าจึงไม่เรียกเสด็จพ่อสักคำ?” เมี่ยวอินค่อยๆ เงยหน้าขึ้นมองจักรพรรดิเหวินด้วยสีหน้าซับซ้อน “หากพระองค์เป็นหญิงสาวธรรมดาเฉกเช่นหม่อมฉัน พระองค์จะสามารถเรียกคำว่าเสด็จพ่อออกมาจากปากได้หรือเพคะ?” “ก็คงยากที่จะพูดออกมา” จักรพรรดิเหวินไม่ได้โกรธ “ข้าได้สั่งประหารครอบครัวของเจ้า แต่ข้าก็ได้ประหารลูกชายของตัวเองเช่นกัน!” “แม้ข้าจะเสียใจ แต่ข้าจะไม่ยอมรับผิดต่อเจ้า และจะไม่ร้องขอการให้อภัยจากเจ้า!” “ข้ายังคงยืนยันคำเดิม ไม่ว่ารัชทายาทองค์ก่อนจะถูกใส่ร้ายจนต้องก่อกบฏหรือไม่ แต่ตราบใดที่เขาชักธงขึ้นแล้ว เรื่องนี้ย่อมไม่มีทางย้อนกลับไปได้!” “ข้าเป็นผู้นำครอบครัว แต่เหนือสิ่งอื่นใด ข้าคือกษัตริย์ของแผ่นดินนี้!” คำพูดของจักรพรรดิเหวินหนักแน่นดุจหินผา แม้แต่เขาเองก็ไม่คิดว่าเมื่อมาถึง สิ่งแรกที่เขาต้องเผชิญคือเรื่องของเมี่ยวอิน “ใช่เพคะ!” เมี่ยวอินยิ้มเจื่อน “ห

DMCA.com Protection Status