“ดีไม่ดี พวกเราสามารถจัดการคนและม้าที่เป่ยหวนวางไว้ตำแหน่งทางเดินทะเลทรายตะวันตกได้...”หลังจากชวีจื้อเป่ยหวน ทุกคนก็เริ่มพูดพร่ำเรื่อยเปื่อยทุกคนตื่นเต้นเป็นพิเศษ ราวกับฉีดเลือดไก่หลังจากพวกเขารวมตัวกับกองทหารโลหิต กำลังทหารมีเกือบหนึ่งหมื่นสองพันคนตอนนี้เป่ยหวนอ่อนแออย่างมากหนึ่งหมื่นคนของพวกเขา มีทุนพอที่จะอาละวาดด้านหลังของทัพศัตรูต่อให้ไม่สามารถยึดม้าศึกชั้นยอดมาได้มากนัก ก็ยังสามารถสังหารปศุสัตว์จำนวนมากของทัพศัตรูได้เมื่อเป็นเช่นนี้ วิกฤตขาดแคลนอาหารของเป่ยหวนก็จะยิ่งหนักขึ้นเมื่อได้ฟังเสียงของทุกคนพูดพร่ำ หยุนเจิงอดมได้ที่จะแอบพยักหน้าอื้ม ไม่เลว!ล้วนแต่คิดจะขยายผลการรบต่อไปในเมื่อเป็นเช่นนี้ เช่นนั้นก็ขยายผลการรบออกไปแล้วกัน!“พวกเราจำเป็นต้องหาชนเผ่าของพวกเขาให้พบ!”หยุนเจิงใบหน้าเผยรอยยิ้มร้าย “พวกเราเคลื่อนตัวจากราชสำนักบุกไปจากทางด้านตกวันออกของชิ่นหลินก็พอแล้ว! หากพบชนเผ่าของเป่ยหวนได้จะดีที่สุด หากไม่พบ สามารถเดินไปรอบๆ ของทุ่งหญ้าชิ่นหลินได้ เป็นการให้อาหารม้า...”เมื่อได้ฟังคำพูดของหยุนเจิง ทุกคนอดไม่ได้ที่จะลูบศีรษะพวกเขาเดินไปรอบๆ เช่นนี้ มี
หลังพักครึ่งวัน หยุนเจิงเริ่มนำทัพเคลื่อนทัพเลาะไปตามทุ่งหญ้าซิ่นหลินด้านตะวันออกสองวันก่อนหน้า พวกเขาไม่พลแม้แต่เงาของผีสักตัวแต่ว่า หยุนเจิงไม่ย่อท้อเดิมนี่ก็เป็นเรื่องปกติเมื่อรู้ว่าการล่มสลายของราชสำนักเป็นสิ่งที่หลีกเลี่ยงไม่ได้ ชนเผ่าของทุ่งหญ้าซิ่นหลินที่อยู่ใกล้กับราชสำนัก ย่อมหนีไปตั้งนานแล้วจนกระทั่งตอนบ่ายของวันที่สาม นับรบภูตสิบแปดที่ออกไปสำรวจเส้นทางก็นำข่าวกลับมาด้านหน้าทางขวาของพวกเขาประมาณยี่สิบลี้ มีชนเผ่าอพพยขนาดใหญ่ดูจากทิศทางที่พวกเขาอพยพ น่าจะไปอพยพไปยังทิศทางตะวันออกเฉียงเหนือเมื่อได้รับข่าวนี้ หยุนเจิงและฉินชีหู่ตื่นเต้นดีใจ“สั่งฉินชีหู่ รีบนำทัพมารวมตัวกับพวกเรา! ทหารกองกำลังข้า ลงจากหลังม้าเก็บรวบรวมหญ้าให้พวกเขา เก็บได้เท่าใดก็เท่านั้น!”หยุนเจิงออกคำสั่งอย่างรวดเร็วไม่นาน ฉินชีหู่นำกองทัพด้านหลังเดินทางมาถึงหลังพักผ่อนเล็กน้อย พวกเขารวมทหารไว้ด้วยกัน เปิดฉากบุกไปทางชนเผ่าแห่งนั้นโดยเร็วไม่นาน พวกเขาก็เห็นชนเผ่าแห่งนั้นไม่ได้พูดสิ่งใดมากมาย หลังหยุนเจิงให้สัญญาณมือบุกโจมตี กองทัพใหญ่มุ่งหน้าเข้าหาชนเผ่าเป่ยหวนอย่างรวดเร็วการสู้ครั้
แต่ว่า เพราะเป่ยหวนต้องหารเสบียงกองทัพและม้าศึกจำนวนมาก เจียเหยาจึงตัดแบ่งชนเผ่าของตัวเองนางยึดเอาปศุสัตว์จำนวนมากจากชนเผ่าของนาง เหลือไว้เพียงสัตว์จำพวกแพะบางส่วนจากนั้น นางก็กระจายชนเผ่าของนางไปยังชนเผ่าอื่น ไม่ขอร้องให้ชนเผ่าอื่นปฏิบัติดีต่อคนเหล่านี้ ขอแค่ให้คนของชนเผ่านางมีกิน อย่าปล่อยให้พวกเขาอดตายก็พอแล้วก่อนที่จะแยกย้ายคนเหล่านี้ เจียเหยารับปากกับพวกเขา สักวันจะชดใช้ให้พวกเขาเป็นสองเท่าผู้เฒ่ากล่าวจบ ก็กล่าวอย่างตะกุกตะกัก “องค์หญิงเจียเหยาบอกว่า จิ้งเป่ยอ่องของต้าเฉียนเป็น...คนดี ไม่มีทางฆ่าผู้บริสุทธิ์ ขอร้อง...ท่านอ๋องปล่อยพวกเรา...”คนดี?หยุนเจิงแทบจะหลุดหัวเราะเพราะประโยคของผู้เฒ่าแล้วเจียเหยากำลังแจกไพ่คนดีกับเขาไปทั่วโลกหรือ?เขาเป็นคนดีเสียที่ไหน!คิดว่า ภายในใจคนเป่ยหวน เขาก็คือปีศาจกระมัง?“วางใจ ข้าเคารพกฎของทุ่งหญ้าเสมอมา!”หยุนเจิงกลั้นรอยยิ้ม มองผู้เฒ่าอย่างไม่แยแส จากนั้นก็สั่งอวี๋ซื่อจง “ทิ้งม้าของพวกเขาไว้ ปศุสัตว์ที่เหลือ ฆ่าให้หมด! ให้พวกเขาได้กินอิ่มสักมื้อ!”“ใต้เท้า ไม่เอา!”เมื่อได้ฟังคำของหยุนเจิง ผู้เฒ่าร้องไห้คร่ำครวญหลั่งน้ำตา “พวก
เจียเหยาพาคนล่าถอยไม่หยุดพบกับชนเผ่าบางส่วนระหว่างทาง ก็ส่งคนไปช่วยชนเผ่าเหล่านี้อพยพระหว่างล่าถอย เจียเหยาได้ข่าวที่สายลับนำกลับมาทหารต้าเฉียนรับช่วงต่อคนชราอ่อนแอเหล่านั้น แล้วก็ไม่ได้ทำให้คนชราเหล่านั้นลำบากหลังจากได้รับข่าวนี้ เจียเหยาถอนหายใจยาว หินก้อนใหญ่ภายในใจก็วางลงสักทีสำหรับนางแล้ว การตัดสินใจครั้งนี้ยากลำบากมากแต่ด้วยความโชคดี การตัดสินใจนี้ถูกต้องแล้ว แม้เจียเหยาเกลียดหยุนเจิงจนอยากสับร่างเป็นหมื่นชิ้น แต่กล่าวถึงเรื่องนี้แล้ว นางควรขอบคุณหยุนเจิงด้วยความสัมพันธ์ของพวกเขากับต้าเฉียน ต่อให้หยุนเจิงไม่สนใจคนชราเหล่านั้น นางก็ไม่มีสิ่งใดให้กล่าวหากแม่ทัพหลักของทัพศัตรูเปลี่ยนเป็นคนอื่น เป็นไปได้มากว่าจะไม่ใช่ผลลัพธ์เช่นนี้แน่นอน ขอบคุณก็ส่วนขอบคุณ ถ้าพบกันในสนามรบ นางยังคงทำทุกวิถีทางเพื่อสังหารหยุนเจิงเพียงแต่ ตอนนี้นางไม่มีความมั่นใจแล้วมั้งเป่ยหวนล้วนไม่มีความมั่นใจในการเอาชนะหยุนเจิงแล้วเป่ยหวนต้องการเวลาเพื่อเลียบาดแผล แล้วก็ต้องการเวลากลับมาลุกขึ้นยืนใหม่อีกครั้งภายในสิบถึงยี่สิบปี พวกเขาไม่คิดจะไปหาต้าเฉียนเพื่อแก้แค้นนอกจาก ต้าเฉียนเกิดส
คนผู้นี้กล่าวไปร้องไห้ไปผู้ชายตัวโต ร้องไห้ราวกับเด็กคนผู้นี้กล่าวอย่างติดๆ ขัดๆ อยู่นาน จึงเล่าเรื่องทีหยุนเจิงดักซุ่มโจมตีโจมตีพวกเขาจบเจียเหยาถอนหายใจยังดี หยุนเจิงไม่ได้สังหารหมู่ชายหนุ่มของชนเผ่าแห่งนั้น“รอก่อน...”ท่ามกลางความโชคดี เจียเหยาพลันร้องออกมาด้วยความประหลาดใจ “เจ้าบอกว่า หยุนเจิงปล่อยพวกเจ้าทั้งหมด?”หยุนเจิงมีเมตตาเช่นนี้ตั้งแต่เมื่อใด?ในนี้ต้องมีเรื่องไม่ชอบมาพากล!“ขอรับ”คนผู้นั้นร้องไห้ “แต่วัวแพะของพวกเราถูกฆ่าทิ้งเกลี้ยงแล้ว...”“หยุนเจิงได้บอกสิ่งใดกับพวกเจ้าหรือไม่?”เจียเหยาไม่มีจิตใจสนใจวัวแพะเหล่านั้น รีบไถ่ถามคนผู้นั้นร้องไห้กล่าว “เขาบอกว่า หากพวกเราพบเขาอีกครั้ง เขาจะสังหารพวกเราทั้งหมด! หัวหน้าเผ่าเกรงว่าชนเผ่าอื่นจะถูกโจมตี จึงสังคนไปส่งข่าวให้ทุกชนเผ่า บอกว่าห้ามพวกเขาอพยมมาทางนี้เด็ดขาด...”เมื่อได้ยินคำกล่าวของคนผู้นี้ เจียเหยาใจกระตุกโดยพลันนางรู้เป้าหมายของหยุนเจิงแล้ว!หยุนเจิงจงใจ!เขาต้องการให้ชนเผ่าโดยรอบทุ่งหญ้าซิ่นหลินเดินทางไปยังฉวนหรงและแมนจูตอนเหนือทางนั้น!เขาต้องหารให้กุ่ยฟางไปปล้นชนเผ่าของพวกเขา ทำลายพันธมิตรร
ถัดไปสองวัน พวกหยุนเจิงโจมตีชนเผ่าหนึ่งอีกครั้งแต่ว่า ชนเผ่าแห่งนี้ได้ข่าวการบุกรุกของพวกเขาแล้ว ทั้งหมดหนีไปแล้วกระโจมของชนเผ่าแห่งนั้นยังอยู่ แต่คนและปศุสัตว์ล้วนหนีไปหมดเกลี้ยงแล้วมองดูร่องรอย น่าจะหนีไปทางตะวันตกแล้วพวกหยุนเจิงบุกมา นางจากกระโจมมากมายและอาหารประเภทเนื้อแห้ง ก็ไม่ได้รับสิ่งอื่นใดแต่ว่า นี่สำหรับหยุนเจิงแล้ว ไม่ใช่เรื่องเลวร้ายสิ่งที่เขาต้องการก็คือผลลัพธ์นี้!หากเป่ยหวนยอมจำนนแล้ว สิ่งที่พวกเขาไม่ได้รับบนสนามรบ ล้วนได้มาด้วยการเจรจา!ตอนนี้ ยังไม่ต้องรีบ!ตอนที่หยุนเจิงเตรียมจะเรียกคนให้เผากระโจมเหล่านี้ หน่วยสอดแนมคนหนึ่งควบม้ามารายงาน “รายงานองค์ชาย มีทหารม้ากองหนึ่งกำลังมุ่งหน้าประชิดเข้ามาจากสถานที่ไกล! คำนวณดูคร่าวๆ น่าจะไม่ถึงห้าร้อยคน...”ไม่ถึงห้าร้อยคน?หยุนเจิงรู้สึกผิดปกติเล็กน้อยน่าจะไม่ใช่คนของพวกเขากระมัง?แม้เป่ยหวนพ่ายแพ้แล้ว แต่ถึงเช่นไรนี่ก็เป็นถิ่นฐานของเป่ยหวนต่อให้พวกเขาบังอาจเพียงใดก็ไม่ถึงขั้นหูหนวกตาบอดพาคนมาห้าร้อยคนหรอก!น่าจะเป็นชาวเป่ยหวนกระมัง?แต่ว่า เป่ยหวนคนเล็กน้อยเพียงเท่านี้มาเพื่อสิ่งใด?หรือว่า มาน้อมส่งพ
หยุนเจิงขมวดคิ้วมองเจียเหยา “เจ้าวิ่งมาหาข้าเช่นนี้ คงไม่ใช่เพราะเรื่องนี้กระมัง?”“ไม่ใช่อยู่แล้ว!”เจียเหยาสูดหายใจลึก พยายามทำให้ตัวเองสงบลง จากนั้นก็ค่อยๆ คุกเข่าลงกับพื้น “ข้าในนางองค์หญิงเจี้ยนกั๋ว ขอยอมจำนนต่อต้าเฉียนอย่างเป็นทางการ นี่คือตราสารยอมจำนนของเป่ยหวน ขอท่านอ๋อง...โปรดอ่าน!”เจียเหยากล่าวจบ ก็ค่อยๆ นำม้วนหนังสือออกมาจากหน้าอก สองมือชูม้วนหนังสือขึ้นสูงเดิมทีนี่ก็เป็นความอัปยศครั้งยิ่งใหญ่ทว่านางก็ยังคงเชิดหน้าขึ้น ราวกับว่า นี่เป็นความอัปยศครั้งสุดท้ายของนางหรือบางที นางกลัวว่าตอนที่ก้มหน้า น้ำตาจะหยดไหลลงมาเมื่อได้ฟังคำของเจียเยหา ทหารต้าเฉียนตื่นเต้นอย่างมากยอมจำนน!นี่คือการยอมจำนนที่แท้จริงแล้ว!ไม่เพียงเจรจาสันติ!พวกเขาตีเป่ยหวนจนยอมจำนนแล้ว!การยอมจำนนกะทันหันของเจียเหยา ทำให้หยุนเจิงนิ่งเงียบไปชั่วครู่ตามสถานการณ์ปกติแล้ว ตอนนี้เขาควรลงจากหลังม้าไปนั่งคุยกับเจียเหยาแต่เขาไม่ได้ทำเช่นนี้เจียเหยายอมจำยย เป็นทางเลือกที่ฉลาดมีปัญญาที่สุดเป่ยหวนโดนบีบบังคับจนกลายเป็นเช่นนี้แล้ว หากไม่ยอมจำนน ไม่รู้ต้องมีคนตายมากมายเท่าใดพวกเขาก่อเรื่องเช่
“ลูกไม้?”เจียเหยายิ้มอย่างโศกเศร้า “เดินข้าสามารถหนีไปไกลได้ เดิมก็สามารถรอจนพวกเจ้าล่าถอยค่อยพาคนกลับมาอีกครั้งได้ แต่ตอนนี้ข้าเป็นฝ่ายมาหาเจ้าเพื่อยอมจำนน เจ้ายังบอกว่าข้าเล่นลูกไม้?”หยุนเจิงสีหน้าเรียบเฉย “ในเมื่อไม่มีลูกไม้ใด เช่นนั้นก็ยกฉีเหยียนให้ข้าเถอะ!”เจียเหยาจับจ้องหยุนเจิงช่วงพริบตานั้น นางอยากจะโผเข้าไปโดยไม่สนทุกสิ่ง ตายตกไปพร้อมหยุนเจิงแต่สุดท้าย เจียเหยาก็พยามยามควบคุมความคิดนี้เอาไว้ไม่ต้องพูดถึงว่านางจะสามารถตายไปพร้อมกับหยุนเจิงได้หรือไม่ต่อให้นางทำเช่นนั้นได้จริง นางเองก็ไม่กล้าทำเมื่อสูญเสียหยุนเจิงไป ด้วยความโกรธของเหล่าลูกน้องหยุนเจิงจะทำทุกสิ่งทุกอย่างโดยไม่สนใจผลลัพธ์ เปิดฉากสังหารหมู่นองเลือดกับชนเผ่าทุกแห่งในทุ่งหญ้าต่อให้พวกเขาต้องให้อาหารม้าไปไล่ล่าติดตามไป ก็ไม่มีทางปล่อยทุกชนเผ่าในทุ่งหญ้าอีกทั้ง คนชราเหล่านั้น จะต้องเผชิญกับการสังหารหมู่“ถ้าหากเจ้าต้องการฉีเหยียนให้ได้ เช่นนั้นข้าก็ยกเข้าให้เจ้าแล้วกัน!”หลังพยายามควบคุมความวู่วามภายในใจ ในที่สุดเจียเหยาก็เลือกประณีประนอม “เจ้าจับข้าก่อนได้ ถึงเวลานั้น จะมีคนนำฉีเหยียนมาเปลี่ยนตัวก
“ลูก…ลูกสาวเพคะ”หมอตำแยที่ตกใจกับท่าทางของหยุนเจิงก่อนหน้านี้ เอ่ยตอบด้วยน้ำเสียงสั่นเครือ“ลูกสาวดี! ลูกสาวดี!”หยุนเจิงพึมพำกับตัวเอง ก่อนก้มลงมองเด็กน้อยที่ยังคงร้องไห้เสียงดังไม่เหมือนหยุนชางเลย เด็กหญิงตัวน้อยคนนี้เกิดมาโดยแทบไม่มีริ้วรอยบนผิวเลย เพียงแค่ตัวแดงระเรื่อเท่านั้น“เจ้าตัวน้อย เจ้านี่เกือบทำให้แม่ของเจ้าสิ้นชีวิตเลยนะ…”เมื่อนึกถึงเหตุการณ์ก่อนหน้านี้ หัวใจของหยุนเจิงยังคงสั่นไหวเขาไม่อาจจินตนาการได้เลยว่า หากเขาสูญเสียเยี่ยจื่อไป เขาจะต้องเจ็บปวดเพียงใดโชคดีที่มันเป็นเพียงความหวาดกลัวลวงตา!“อุแว๊ๆ…”เด็กน้อยยังคงร้องไห้ และดูเหมือนเสียงของนางจะแจ่มชัดขึ้นเรื่อยๆหยุนเจิงลูบแผ่วเบาบนผ้าห่อตัวของนาง ก่อนหันไปมองหมอตำแยทั้งสามที่ยังยืนไม่มั่นใจ “ให้รางวัล! ให้รางวัลทุกคน! คนละห้าร้อยตำลึง!”ห้าร้อยตำลึง!?หมอตำแยทั้งสามแทบไม่เชื่อหูตัวเองท่านอ๋องผู้นี้ ช่างใจกว้างนัก!แค่เอ่ยปาก ก็แจกเงินรางวัลมากมายถึงเพียงนี้!“เอาล่ะ พวกเจ้าทำความสะอาดให้เรียบร้อยเถิด”หยุนเจิงเรียกสติหมอตำแย “เสร็จแล้วก็ไปรับรางวัลได้เลย”หยุนเจิงกล่าวจบ ก็กอดลูกสาวไปนั่งลงที่
“อ๊าก…”เสียงกรีดร้องของเยี่ยจื่อสะท้อนก้องอยู่ในหูของหยุนเจิง ราวกับสามารถฉีกหัวใจของเขาออกเป็นเสี่ยงๆ“พอแล้ว! อย่าคลอดแล้ว! ข้าไม่ต้องการลูกแล้ว! ข้าต้องการแค่เจ้า!”หยุนเจิงน้ำตาคลอเบ้า ส่ายศีรษะไปมาอย่างร้อนรน ก่อนจะหันไปตะโกนลั่นใส่หมอตำแยข้างๆ “ช่วยนางไว้! อย่าไปสนใจเด็ก!”เขากลัว!เขากลัวจริงๆ!แม้ว่าเขาจะไม่ใช่หมอ แต่เขาก็รู้ดีว่า หากพลาดแม้แต่นิดเดียว นางอาจตกเลือดหนักได้แม้แต่ในยุคปัจจุบัน การตกเลือดมากก็ยังยากที่จะรักษา แล้วนี่เป็นยุคโบราณ“ออกมาแล้ว! ออกมาแล้ว!”ขณะนั้นเอง หมอตำแยก็ร้องขึ้นด้วยเสียงตื่นเต้น“อุแว๊…”เสียงร้องแหลมใสของทารกดังขึ้นภายในห้องคลอด แต่ในขณะเดียวกัน เสียงของเยี่ยจื่อกลับเงียบลงอย่างกะทันหัน!หมอตำแยคนหนึ่งรีบเช็ดเลือดที่เปรอะเปื้อนตัวทารก ขณะที่อีกคนเตรียมห่อทารกในผ้าห่ม และหันไปแสดงความยินดีกับหยุนเจิง “ขอแสดงความยินดีด้วยพ่ะย่ะค่ะ ท่านอ๋อง เด็กน้อยเป็น…”“ช่างลูกก่อน! ดูจื่อเอ๋อร์ก่อนว่านางเป็นอย่างไรบ้าง!”หยุนเจิงตะโกนอย่างเกรี้ยวกราด ดวงตาของเขาเต็มไปด้วยโทสะและความหวาดหวั่น มือของเขาที่กุมมือเยี่ยจื่อไว้สั่นเทาอย่างรุนแรงตอน
เสียงร้องของเยี่ยจื่อ ทำให้หัวใจของหยุนเจิงบีบรัดตามไปด้วย“จื่อเอ๋อร์! ข้ากลับมาแล้ว!”หยุนเจิงไม่สนใจพูดคุยกับเสิ่นลั่วเยี่ยนและคนอื่นๆ เขารีบพุ่งไปที่ประตู แล้วตะโกนเข้าไปข้างใน“สามี!”เสียงร้องเจ็บปวดของเยี่ยจื่อดังขึ้นอีกครั้งแม้หยุนเจิงจะมองไม่เห็นสถานการณ์ภายในห้อง แต่เขาก็นึกภาพออกว่าเยี่ยจื่อต้องเจ็บปวดเพียงใดหากเป็นไปได้ เขาอยากจะแบ่งเบาความเจ็บปวดของนาง“จื่อเอ๋อร์ อย่ากลัว! สามีอยู่ที่นี่กับเจ้า!”หยุนเจิงกล่าวปลอบ แล้วรีบหันไปถามเสิ่นลั่วเยี่ยน “จื่อเอ๋อร์เป็นอย่างไรบ้าง?”เสิ่นลั่วเยี่ยนที่ดวงตาแดงก่ำ แอบมองไปทางประตูห้อง ก่อนจะตอบเสียงแผ่วเบา “หมอตำแยบอกว่า ตำแหน่งของทารกไม่ค่อยปกติ อาจคลอดได้ยาก เมี่ยวอินก็กำลังช่วยอยู่ เราเองก็ทำอะไรไม่ได้ ได้แต่ยืนร้อนใจอยู่ข้างนอก……”ตำแหน่งทารกผิดปกติ!เมื่อได้ยินคำนี้ หัวใจของหยุนเจิงพลันเต้นรัวขึ้นมาทันที เขาหันขวับไปมองฮูหยินเสิ่นและเว่ยซวงที่ยืนอยู่ใกล้ๆพบว่าทั้งสองต่างมีดวงตาแดงก่ำ ใบหน้าหม่นหมอง เห็นได้ชัดว่ากระวนกระวายใจไม่น้อยหยุนเจิงเข้าใจทันทีว่า เสิ่นลั่วเยี่ยนคงไม่อยากให้เขากังวลเกินไป จึงบอกเพียงว่าคลอ
ไม่กี่วันต่อมา ขณะที่หยุนเจิงอยู่ที่จิงหยางฝู่ เขาได้รับข่าวสารฮั่วเหวินจิ้งตายแล้ว!ไม่ได้ถูกฆ่าปิดปาก แต่ตายเพราะป่วย!หยุนเจิงคาดว่า ฮั่วเหวินจิ้งคงเสียชีวิตเพราะบาดแผลติดเชื้อเมื่อได้รับข่าวนี้ หยุนเจิงแทบอยากจะด่าหยุนลี่ว่าโง่เง่าเป็นหมูเสียจริงทำไมเขาถึงไม่ใช้วิธีทรมานก่อน แล้วค่อยให้หมอรักษาไว้ล่ะ?อีกแค่ก้าวเดียว เขากำลังจะสาวไปถึงตัวการเบื้องหลังได้อยู่แล้วแท้ๆ แต่ฮั่วเหวินจิ้งกลับมาตายเสียก่อนมันเหมือนกับฟ้ากำลังเล่นตลกกับเขา!สิ่งเดียวที่พอทำให้โล่งใจได้บ้างคือ อีกาดำและอีกาขาวต่างได้รับความเสียหายหนัก คนของเขาที่แทรกซึมอยู่ในอีกาดำ น่าจะสามารถก้าวขึ้นไปอีกขั้นหนึ่งได้หากสามารถทำให้คนของเขากลายเป็นหัวหน้าของอีกาดำได้ ก็คงดี!แต่ไม่รู้ว่าเงาสอง ที่ร่วมเดินทางไปเมืองหลวงเพื่อฆ่าปิดปาก ยังมีชีวิตอยู่หรือไม่ขอให้รอดปลอดภัยเถอะ!หยุนเจิงถอนหายใจเงียบๆ ก่อนลุกขึ้นยืนในเมื่อฮั่วเหวินจิ้งตายไปแล้ว เขาก็ไม่ต้องรอสอบสวนอะไรอีกเรื่องที่เหลือ ก็ปล่อยให้ทัวฮวนจัดการไปก็แล้วกัน!“ส่งคำสั่งถึงอวี่ซื่อจง ให้เหลือทหารห้าพันนายประจำการอยู่ที่นี่ ภายใต้การบัญชาของรองแม่ท
“ลูกเข้าใจพ่ะย่ะค่ะ!”หยุนลี่รีบรับคำสั่ง“จำไว้! ฮั่วเหวินจิ้งถูกนักฆ่าสังหาร ไม่ใช่ตายเพราะป่วย!”จักรพรรดิเหวินกล่าวเตือนหยุนลี่ด้วยใบหน้าเย็นชา ก่อนเสด็จออกจากจวนองค์รัชทายาทแม้จะนั่งอยู่ในเกี้ยวแล้ว แต่เพลิงโทสะของจักรพรรดิเหวินยังคงลุกโชนไม่มอดอย่างไรก็ตาม ท่ามกลางความโกรธเกรี้ยวในพระทัย ก็ยังมีความรู้สึกซับซ้อนบางอย่างซ่อนอยู่เขารู้ดีว่าฮั่วเหวินจิ้งไม่ใช่คนของหยุนเจิงหากสามารถเค้นเอาความจริงจากฮั่วเหวินจิ้งได้ จนรู้ว่าใครอยู่เบื้องหลัง บางทีพระองค์เองอาจไม่รู้ว่าควรจัดการอย่างไรหากเป็นพระโอรสองค์ใดองค์หนึ่ง หรือแม้แต่นางสนมคนใดคนหนึ่งของพระองค์ พระองค์จะต้องลงพระอาญาสังหารพวกเขาด้วยพระองค์เองอย่างนั้นหรือ?หากเรื่องนี้ทำให้คนที่รอดพ้นจากเคราะห์ครั้งนี้ได้สำนึกและเลิกล้มความคิดที่จะก่อความวุ่นวาย นั่นก็คงเป็นผลลัพธ์ที่ดีที่สุดสำหรับตัวการเบื้องหลังของฮั่วเหวินจิ้ง จักรพรรดิเหวินเองก็พอมีข้อสันนิษฐานอยู่ในพระทัยแต่เป็นเพียงแค่ข้อสันนิษฐาน พระองค์ยังไม่สามารถสรุปได้แน่ชัดยิ่งไปกว่านั้น คนที่พระองค์สงสัยมีอยู่หลายคน ทำให้ไม่อาจฟันธงได้ว่าเป็นผู้ใดกันแน่ดูเหมือ
ภายในพระราชวัง จักรพรรดิเหวินและหยุนลี่กำลังตรวจสอบข่าวเร่งด่วนจากเมืองฝูโจวอย่างไรก็ตาม ทั้งสองเพียงกวาดตามองก็ขว้างเอกสารฉบับนั้นทิ้งด้วยความโกรธอย่าว่าแต่หยุนลี่เลย แม้แต่จักรพรรดิเหวินก็อดด่าหยุนเจิงในใจไม่ได้ลูกอกตัญญูผู้นี้ ชักจะเหลวไหลขึ้นทุกวันเรื่องเล็กน้อยแค่ไหนก็กล้าใช้ชื่อข่าวเร่งด่วนทางทหารส่งมาถึงเมืองหลวงนี่เป็นครั้งที่สองแล้ว!ข่าวเร่งด่วนทางทหารถูกเขาใช้เป็นของเล่นไปแล้ว!คราวหน้า ถ้าเจอตัวเจ้าเด็กเหลือขอนั่น ข้าจะเตะมันให้กระอักสองทีแน่!“กราบทูลฝ่าบาท องค์รัชทายาทฝ่าบาท กองกำลังของกระหม่อมถูกลอบโจมตีโดยนักฆ่าที่ถนนเป่ยเจีย……”ขณะที่จักรพรรดิเหวินและหยุนลี่กำลังเดือดดาลกับหยุนเจิง เฉียวเหยียนเซียนก็ส่งคนมาแจ้งข่าวนักฆ่าหลายสิบคนที่ร่วมมือกันสังหารฮั่วเหวินจิ้งและครอบครัว ถูกสังหารหรือถูกจับกุมเป็นส่วนใหญ่มีเพียงไม่กี่คนที่ฉวยโอกาสความชุลมุนหลบหนีไปได้ครั้งนี้ การวางแผนของพวกเขารัดกุมยิ่งนักหากไม่ใช่เพราะพลส่งสารข่าวเร่งด่วนโผล่มาขัดจังหวะ คงไม่มีทางที่นักฆ่าจะรอดไปได้เลยนอกจากนี้ พวกเขายังพบหน้าไม้ทรงอานุภาพจำนวนมากในที่เกิดเหตุเมื่อรายงานมาถ
ขณะที่เฉียวเหยียนเซียนนำกำลังคุมตัวนักโทษผ่านถนนเป่ยเจีย หน้าต่างบนหอคอยของอาคารสองหลังที่อยู่สองฟากถนนค่อยๆ เปิดออกเล็กน้อยหน้าไม้จำนวนมากถูกเล็งออกมาจากช่องหน้าต่างโดยไร้เสียง เพียงแค่รอให้กรงนักโทษเข้าสู่ระยะยิง พวกเขาก็จะลงมือทันทีขบวนคุ้มกันเข้าใกล้พวกเขามากขึ้นเรื่อยๆ เงาสองก็เตรียมพร้อมเช่นกันเขาไม่รู้ว่าฮั่วเหวินจิ้งมีความสำคัญต่อหยุนเจิงเพื่อให้ได้รับความไว้วางใจจากอีกาดำมากขึ้น เขาจำเป็นต้องร่วมมือสังหารเหล่านักโทษเหล่านี้แต่เขาก็รู้ดีว่า หากลงมือแล้ว การจะหลบหนีออกจากเมืองหลวงไม่ใช่เรื่องง่ายแต่เขาต้องรอด!ส่วนหนึ่งเพราะเขาไม่ต้องการตาย อีกส่วนหนึ่งก็เพราะ หากเขารอด เขาจะมีโอกาสพบกับผู้ที่คอยสนับสนุนการหลบหนีของพวกเขาและบุคคลนี้ อาจเป็นกุญแจสำคัญในการเปิดโปงผู้อยู่เบื้องหลังตัวจริง!เงาสองครุ่นคิดเงียบๆ พร้อมเหลือบมองหน้าไม้ในมือพวกเขาปลอมตัวเป็นพ่อค้าเพื่อแฝงตัวเข้าเมืองหลวง ย่อมไม่สามารถพกพาอาวุธเหล่านี้มาเองได้หน้าไม้เหล่านี้ถูกเตรียมไว้ล่วงหน้า ถูกซุกซ่อนไว้ที่เนินเขาเหมียวเอ่อร์ซานสิ่งเหล่านี้เป็นอาวุธของกองทัพ!แม้ทางราชสำนักจะควบคุมอาวุธประเภทนี
“ฝ่าบาท เงาสามแจ้งข่าวด่วน!”จิงหยางฟู่ เสิ่นควานถือจดหมายฉบับหนึ่ง รีบรุดเข้ามาด้วยท่าทีเร่งรีบเงาสาม?นี่เป็นหนึ่งในคนที่สามารถแทรกซึมเข้าไปในอีกาดำได้สำเร็จเงาสามส่งข่าวด่วนมา ดูท่าแล้ว อีกาดำคงจะลงมือแล้วแน่หากไม่มีอะไรผิดพลาด อีกาดำน่าจะต้องการสังหารฮั่วเหวินจิ้งเพื่อกำจัดภัยร้ายอย่างสิ้นซาก!หยุนเจิงครุ่นคิดไปพลาง รับจดหมายจากเสิ่นควานและเปิดออกดูเมื่อเห็นเนื้อหาในจดหมาย หยุนเจิงก็ขมวดคิ้วโดยไม่รู้ตัวข่าวที่เงาสามส่งมา ตรงกับที่เขาคาดการณ์ไว้ไม่มีผิดหัวหน้าอีกาดำและอีกาขาวนำทัพมาด้วยตนเอง ต้องการฆ่าฮั่วเหวินจิ้งให้ได้!แม้แต่เงาสองก็ถูกเลือกให้เข้าร่วมภารกิจลอบสังหารครั้งนี้ตอนนี้ พวกเขาได้รับเพียงคำสั่งให้เตรียมพร้อม แต่ยังไม่รู้เวลาและสถานที่ลงมือที่แน่ชัดหัวหน้าอีกาดำและอีกาขาวตั้งใจปกปิดข้อมูล ไม่ให้ผู้ใดซักถาม ใครที่ร่วมภารกิจก็แค่ทำตามคำสั่งในขณะลงมือเท่านั้นพวกเขากลัวว่าจะถูกสงสัย จึงไม่กล้าไต่ถามอะไรมากข่าวที่เงาสามส่งกลับมา สำหรับหยุนเจิงแล้ว ไม่ใช่ข่าวดีเลยเขายอมจ่ายเงินกว่าล้านตำลึงเพื่อให้ครอบครัวฮั่วเหวินจิ้งปลอดภัยและมาถึงมือเขาแต่ตอนนี
หญิงสาวนิ่งเงียบ ทำอย่างไรดี? นางเองก็อยากหาคนมาปรึกษา ว่าควรทำเช่นไรในสถานการณ์นี้ แต่เวลานี้… เกรงว่าคงไม่มีผู้ใดสามารถให้คำตอบแก่นางได้ ไม่นึกเลยว่า… แผนการที่นางวางมาอย่างรอบคอบมายาวนาน กลับจะพังทลายลงในมือของหยุนลี่! เฮ้อ! นางทอดถอนใจยาวในใจ แต่ในดวงตากลับปรากฏประกายเย็นยะเยือก "ไม่ว่าอย่างไร… ฮั่วเหวินจิ้งต้องไม่มีชีวิตรอดไปถึงมือหยุนเจิง! หากไร้ซึ่งความกังวลเรื่องครอบครัว ฮั่วเหวินจิ้งจะต้องเปิดโปงเราทั้งหมดแน่!" นางรู้ดีว่าฮั่วเหวินจิ้งกำลังกังวลสิ่งใด สิ่งที่ฮั่วเหวินจิ้งกังวลที่สุดในตอนนี้ คือความปลอดภัยของครอบครัว เขาจึงไม่กล้าเปิดโปงนางออกไป แต่หากครอบครัวของฮั่วเหวินจิ้งถูกส่งไปถึงมือหยุนเจิงอย่างปลอดภัย เช่นนั้น เขาย่อมไม่มีเหตุผลใดให้ปิดปากอีกต่อไป! ระหว่างหยุนลี่กับหยุนเจิง นางเกรงกลัวหยุนเจิงมากกว่า เพราะหยุนเจิงคือผู้กุมอำนาจกองทัพ… หากหยุนเจิงรู้ว่า ผู้อยู่เบื้องหลังเรื่องทั้งหมดนี้คือตัวนางเอง เช่นนั้น… นางคงหนีไม่พ้นความตาย! ไม่ใช่แค่หยุนเจิง… แม้แต่หยุนลี่ หรือแม้กระทั่งองค์จักรพรรดิ… ก็คงไม่ปล่อยนางไปเช่นกัน! เมื่อได้ยินเช่