“หลินเฟิง”จีอวิ๋นเทียนไม่ได้หนี เขาก็เป็นนักบู๊ จึงรู้ว่าอยู่ต่อหน้ายอดฝีมือแดนแปรภาพอย่างหลินเฟิงการหนีไม่มีประโยชน์เขาทำใจให้สงบลง จากนั้นกัดฟันพูดด้วยความไม่เต็มใจยอมรับ:“ฉันให้นายสี่พันล้านบาท เพียงแต่หลังจากให้เงินนายแล้ว นายต้องรับปากฉัน นายต้องออกจากตระกูลจีทันที และไม่เข้ามายุ่งเรื่องตระกูลจีของฉันตลอดกาล!”“สหายหลิน...”ได้ยินคำพูดเหล่านี้ จีอวิ๋นเจี๋ยก็กระวนกระวายขึ้นมาถ้าหากตอนนี้หลินเฟิงเลือกที่จะจากไปเพราะเงินสี่พันล้านบาทจริงๆ งั้นวันนี้เขาต้องตายอย่างแน่นอนหลินเฟิงหยุดชะงัก และหยุดเดิน“จริงเหรอ?”หลินเฟิงมองไปทางจีอวิ๋นเทียนด้วยสีหน้านิ่งเฉย“จริงอยู่แล้ว ผมคุณชายของตระกูลจี อนาคตผู้นำตระกูลจี ลูกผู้ชายคำไหนคำนั้น พูดแล้วไม่กลับคำ”หลังจากจีอวิ๋นเทียนร้อนรน ในใจก็เกิดความเยาะหยันขึ้นมา“ดูท่าไอ้หมอนี่ก็เป็นแค่หน้าโง่ที่เห็นเงินแล้วตาลุกวาว เพียงแค่ใช้เงินสี่พันล้านบาทก็สามารถสั่งให้เขากลับไปได้ นี่ก็ถือว่าไม่ขาดทุน”“เปลี่ยนจากแพ้เป็นชนะ แค่เงินสี่พันล้านบาทเท่านั้นเอง!”“รอให้ฉันได้เป็นผู้นำตระกูลสำเร็จแล้ว ค่อยมาคิดบัญชีกับแก!”เพื่อหลีกเลี่ยงความน
จีอวิ๋นเทียนกระอักเลือดสีดำแดงออกมา เขาทรุดนั่งลงบนพื้น มองไปทางหลินเฟิงอย่างไม่อยากจะเชื่อ และพูดด้วยความสั่นเทา: “แก...แกทำลายวิทยายุทธของฉัน...แก...แกกล้ามาก...”“พูดมากจริงๆ”หลินเฟิงส่ายหน้า และตบหน้าของเขาหนึ่งครั้งการตบหน้าครั้งนี้ ตบจนจีอวิ๋นเทียนฟันติดเลือดหลุดออกมาหลายซี่“นายมันเป็นสัตว์เดียรัจฉานที่เนรคน กล้าวางแผนลอบฆ่าพ่อแท้ๆ ของตัวเอง พูดว่านายเป็นสัตว์เดียรัจฉานยังนับว่าไว้หน้าแล้วนะ!”“แก...แกตบฉัน แกต้องตายแน่!”แกกล้าตบผู้นำตระกูลจีในอนาคต ที่ถิ่นของตระกูลจี...แก...แกตายแน่!”ไม่ว่าอย่างไรจีอวิ๋นเทียนก็คิดไม่ถึงว่าหลินเฟิงจะกล้าลงมือต่อเขา ทันใดนั้นก็อ้าปากที่มีลมรั่วและตะโกนด้วยความโมโหดุดัน“ช่างเถอะ”หลินเฟิงส่ายหน้า จากนั้นหันหน้ากลับไป ตบไหล่ของจีอวิ๋นเจี๋ย และพูดอย่างเรียบเฉย: “ไปเถอะ สหายจี ดูท่าคุณอยากจะระบายเต็มทีแล้ว”“ครับ!”จีอวิ๋นเจี๋ยพยักหน้าด้วยความหนักแน่นสำหรับพี่ชายที่ข่มเหง และเหยียดหยามเขาตั้งแต่เล็กจนโต เขาเกลียดชังจนถึงที่สุดแล้วถึงขั้นที่ว่าเพื่อไม่ให้เขาโมโห จีอวิ๋นเจี๋ยทำถึงที่สุดแล้ว ถึงกับยังประกาศว่าตัวเองชอบผู้ชาย และไม่มี
“จีอวิ๋นเจี๋ย แก...แกตายแน่...แก...”ไม่รอให้จีอวิ๋นเทียนเอะอะโวยวายด้วยความบ้าคลั่งอีกครั้ง จีอวิ๋นเจี๋ยก็ต่อยไปที่ใบหน้าของเขาทำให้คนทั้งคนกระแทกไปบนพื้นอย่างแรงลูกน้องของจีอวิ๋นเทียนที่อยู่รอบๆ เห็นแบบนี้ ก็รีบพุ่งเข้ามาจะช่วยเหลือจีอวิ๋นเทียน แต่หลินเฟิงเพียงแค่ก้าวออกไปหนึ่งก้าว พวกบอดี้การ์ดเหล่านี้ก็วิตกเกรงกลัวจนไม่กล้าลงมือ ไม่กล้าเข้ามา“ถ้าหากอยากตายพวกนายก็เข้ามาสิ”หลินเฟิงกอดอกด้วยสีหน้านิ่งฌแยนี่จึงทำให้พวกบอดี้การ์ดที่อยู่รอบๆ พากันตกอยู่ในความลังเล“คุณ...คุณหลิน!”ในตอนนี้เอง รถกอล์ฟคันหนึ่งขับเข้ามา“ผู้นำตระกูลของพวกเราผีเข้าสิงแล้วครับ ขอร้องคุณ ช่วยผู้นำตระกูลของเราด้วยครับ!”“ผีเข้าสิง?”หลินเฟิงขมวดคิ้ว“ก่อนหน้านี้ผมบอกไว้แล้วไม่ใช่เหรอ อย่าแตะต้องร่างกายของผู้นำตระกูลจีตามอำเภอใจ? หรือว่าพวกคุณไม่ได้ทำตาม?”หลินเฟิงถามด้วยใบหน้าเย็นชา“พวกเรา...”บริวารที่มาขอความช่วยเหลือจากหลินเฟิงพูดขึ้นด้วยความกระอักกระอ่วน:“พวกเราทำตามแล้ว แต่ว่าเผลอชั่วขณะ ทำให้คุณชายน้อยจีหาวปีนขึ้นไปบนตัวของผู้นำตระกูลจี ดังนั้นถึงได้...”“ไม่ต้องพูดแล้ว”หลินเฟิง
“ถือว่านายโชคดีไป!”“อ่อก...”จีอวิ๋นเทียนอ้วกเป็นเลือดออกมา และขดตัวอยู่บนพื้น จากนั้นก็หมดสติไปทันทีไม่นานนัก หลินเฟิงนั่งรถกอล์ฟของบริวารคนนี้ กลับไปที่หน้าห้องนอนจีว่านจ่าง“เยี่ยมมาก”หลินเฟิงมองดูวิลล่าที่อยู่ตรงหน้า ที่ถูกจีว่านจ่างที่คลุ้มคลั่งทำลายไปกว่าครึ่ง บริวารที่จีว่านหลัวพามาที่อยู่บริเวรรอบๆ คนที่ตายก็ตายไป คนที่บาดเจ็บก็บาดเจ็บไปต่อให้ครั้งนี้ในตอนสุดท้ายจีว่านจ่างแคล้วคลาดปลอดภัยแต่ตระกูลจีก็ได้รับความเสียหายไม่น้อย“คุณหลินคุณมาแล้วเหรอครับ? เร็วครับ...คุณหลิน ช่วยคิดหาวิธี ช่วยพี่ชายของผมหน่อย!”จีว่านหลัวคุกเข่าขดตัวอยู่บนพื้น เขาเช็ดคราบเลือดที่มุมปากของตัวเอง และมองไปทางหลินเฟิงด้วยความรู้สึกผิดถ้าหากรู้ว่าจีหาวนั่นทำเรื่องเลวร้าย เขาก็ควรจะตบเด็กเวรนั่นให้ตายไปล่วงหน้าซะเลย ไม่อย่างนั้นก็คงไม่มีเหตุการณ์ไม่คาดคิดมากมายขนาดนี้“ผู้นำตระกูลจี...”หลินเฟิงมองจีว่านจ่างที่ผิวหนังแดงก่ำ และกำลังต่อสู้อยู่กับบริวารแดนแปรภาพของตระกูลจีสองสามคนที่อยู่ไกลออกไป สีหน้าของเขาก็เผยความประหลาดใจเล็กน้อยดูท่าแล้วตระกูลจีนี้ไม่เสียแรงที่เป็นตระกูลร่ำรวยและมีอ
“วิชาการป้องกันตัวที่แข็งแกร่งมาก”หลินเฟิงกวาดตามองจีว่านหลัว ในใจก็รู้สึกตกตะลึงเล็กน้อยดูท่าถึงแม้สำนักเสวียนเทียนจะรวบรวมเคล็ดลับบู๊โบราณเอาไว้ แต่มีเคล็ดลับวิชาบู๊บางอย่างก็ถูกแพร่กระจายไปที่อื่น แถมยังมีลักษณะเฉพาะของตัวเองแต่โชคดีที่หลินเฟิงฝึกบำเพ็ญหยวนชี่ทั้งห้านี่เป็นวิชาบู๊ขั้นพื้นฐานที่ตอนนั้นผู้ดูแลสำนักเสวียนเทียน สอนให้เขาด้วยตัวเองมีหยวนชี่ทั้งห้า เพียงแค่ศิลปะการป้องกันตัวไม่เกินธาตุทั้งห้า หลินเฟิงก็สามารถใช้หยวนชี่ทั้งห้ามองทะลุ เลียนแบบ และถึงขั้นที่ดัดแปลงได้นี่ก็เป็นเหตุผลที่ทำไมก่อนหน้านี้หลินเฟิงสามารถใช้วิชาบู๊ของคนอื่นได้ตามใจชอบ“เต่าหางมังกรดำกลับสู่ตำแหน่ง!”หลินเฟิงตะโกนเสียงต่ำ ทำตามวิชาบู๊ที่จีว่านหลัวใช้ออกมา เขาก็ปล่อยออกมากระบวนท่าหนึ่งเช่นกันหลินเฟิงรวบรวมพลังชี่แท้สีเหลืองเข้มไว้ที่ใต้เท้า จากนั้นเตะก้อนหินที่โจมตีมาจนกระเด็นออกไป“ปึง!”“ผู้นำตระกูล ล่วงเกินแล้วครับ!”ผู้อาวุโสชุดขาวที่หนวดยาวเปื้อนเลือดพุ่งไปที่ด้านข้างจีว่านจ่าง จากนั้นกดไหล่ข้างซ้ายของเขาเอาไว้“เรื่องมาจนถึงตอนนี้แล้ว ไม่ต้องพูดไร้สาระแล้ว”บริวารแดนแปรภาพวั
“ฮ่าฮ่าฮ่า...”จีอวิ๋นเทียนที่นอนหมอบอยู่บนพื้น ดวงตาข้างหนึ่งที่ยังถือว่าสมบูรณ์แบบมองไปข้างหน้า ในดวงตาเผยความตื่นเต้นและดีใจเป็นอย่างมาก“สมควร...แกมันสมควรแล้ว! ฮ่าฮ่าฮ่า...”จีอวิ๋นเทียีนใช้เสียงแหบแห้งของตัวเอง หัวเราะเสียงดังออกมาจนแสบแก้วหูแทบทุกคนเหมือนกับเห็นภาพเหตุการณ์ต่อไปนั่นก็คือศีรษะของหลินเฟิงระเบิดออกเหมือนกับแตงโมจีอวิ๋นเจี๋ยถึงขั้นจับประตูไว้แน่น และหลับตาลงด้วยความเจ็บปวด“หือ”มองดูการโจมตีที่บ้าระห่ำของจีว่านจ่าง ในที่สุดหลินเฟิงก็เข้าใจแล้วว่าทำไมตระกูลจีมีความสามารถที่อยากจะแทนที่ตระกูลหลิน และกลายเป็นหนึ่งในสี่ตระกูลร่ำรวยของเมืองจิงแล้วคนผู้นี้ต่อให้ไม่มีสติ พลังที่ระเบิดออกมาก็ยังน่าหวาดกลัวถึงขนาดนี้ เกรงว่าความสามารถที่แท้จริงสามารถเทียบเทียมกับอาฝูที่อยู่ข้างกายพ่อของเขาได้แล้ว“แต่ว่า...”หลินเฟิงจะตายอยู่ที่นี่ได้อย่างไรกัน?“ปีศาจชั่วร้ายกลืนกินพลังสวรรค์”หลินเฟิงพูดออกมาเสียงเบา ทันใดนั้นพลังชี่แท้สีแดงก็ระเบิดออกมาจากร่างกายของหลินเฟิง เหมือนกับลมที่โหมพัดอย่างบ้าคลั่ง ทำให้ทุกคนที่อยู่ในเหตุการณ์ต่างตกตะลึงกันหมดพลังชั่วร้ายที่ระ
“เอาล่ะ เลิกเหม่อได้แล้ว”สายตานิ่งเฉยของหลินเฟิงเรียกสติของคนตระกูลจีทั้งหมดที่สมองขาวโพลน“ผู้นำตระกูลจีถูกผมควบคุมเอาไว้แล้ว ถึงแม้แขนซ้ายของเขาจะหัก แต่เพียงแค่นอนรักษาอยู่บนเตียงไม่กี่วันก็เพียงพอแล้ว”หลินเฟิงเดินไปที่ด้านข้างจีอวิ๋นเจี๋ย และตบไหล่ของเขา“เอ่อ?”จีอวิ๋นเจี๋ยนิ่งอึ้งครู่หนึ่ง ยังไม่เข้าใจความหมายของหลินเฟิง“ไปสิ”หลินเฟิงขมวดคิ้ว เห็นได้ชัดว่าจะให้เขาออกมาเก็บกวาดสถานการณ์พังพินาศ และนี่ก็สามารถช่วงชิงบารมีภายในตระกูลจีมาให้เขาอยู่ได้บ้างในที่สุด จีอวิ๋นเจี๋ยก็เข้าใจความหมายของหลินเฟิงแล้วเขามองไปทางหลินเฟิงด้วยความซับซ้อน และพยักหน้าให้หลินเฟิงอย่างหนักแน่นจีอวิ๋นเจี๋ยเดินเข้าไป ออกคำสั่งคนรับใช้ของตระกูลจีที่ยืนตกใจอยู่ข้างๆ ให้หามพ่อของเขาไปพักที่บ้านหลังอื่นจากนั้น เขาก็เดินเข้าไปอีก และให้พวกบอดี้การ์ด คุมตัวจีอวิ๋นเทียนที่นั่งมองศพลูกชายของตัวเองด้วยความเหม่อลอย“จีอวิ๋นเทียน! คุณพ่อถูกนายวางยาพิษใช่ไหม?! พูดมา!”เมื่อเผชิญหน้ากับการเค้นถามของจีอวิ๋นเจี๋ยต่อหน้าบริวารของตระกูลจี และจีว่านหลัว จีอวิ๋นเทียนรู้แล้วว่าแนวโน้มของตัวเองหมดไปแล้ว
“......”จีว่านหลัวนิ่งอึ้งครู่หนึ่ง จากนั้นเหมือนเข้าใจอะไรบางอย่าง จึงยิ้มและส่ายหน้า“อวิ๋นเจี๋ยพูดได้ถูกต้อง”“งั้นก็จัดการแบบนี้ นำตัวสองคนนี้ไปคุมขัง รอให้พ่อหายดีแล้ว ค่อยรายงานเรื่องในวันนี้ให้คุณพ่อ ให้เขาตัดสินใจ”เมื่อเห็นว่าพวกบริวานก็ไม่ได้คัดค้านอะไร จีอวิ๋นเจี๋ยจึงออกคำสั่งในทันที“อ่อใช่แล้ว สหายหลินเฟิง เมื่อครู่ผมเหมือนได้ยินจีอวิ๋นเทียนพูดว่า...”จีอวิ๋นเจี๋ยเดินไปที่ข้างกายหลินเฟิง ยังไม่รอให้เขาพูดจบ จู่ๆ ที่ข้างหน้าก็มีเสียงผู้หญิงที่เย็นชาดังขึ้นมา“อุ๊ย? ตระกูลจีของพวกคุณนี่ครึกครื้นจริงๆ เลย ไม่รู้ว่าฉันมาทันหรือว่ามาไม่ทัน?จีว่านหลัวได้ยินเสียงนี้ ก็พากันหันมองไปพร้อมกับพวกบริวารตระกูลจีตอนมองไปไม่เท่าไหร่แต่เมื่อเห็นคนที่มาถึง ทุกคนก็ขมวดคิ้วขึ้นทันที“หลงเซียว ใครใช้ให้คุณเข้ามา?”จีอวิ๋นเจี๋ยเดินออกมา ถามด้วยใบหน้าเย็นชาถูกต้องแล้วในตอนนี้คนที่ลงจากรถ และพาบอดี้การ์ดมาสิบกว่าคน ก็ต้องเป็นหลงเซียวของตระกูลหลงที่สวมเสื้อรัดตัว กระโปรงหนังคลุมบั้นท้ายหลงเซียวพาดเสื้อคลุมชุดทหารไว้บนบ่า บนศีรษะยังสวมหมวกทหารสีดำของประเทศมังกร เธอกวาดสายตามองจ