“ฮ่าฮ่าฮ่า...”จีอวิ๋นเทียนที่นอนหมอบอยู่บนพื้น ดวงตาข้างหนึ่งที่ยังถือว่าสมบูรณ์แบบมองไปข้างหน้า ในดวงตาเผยความตื่นเต้นและดีใจเป็นอย่างมาก“สมควร...แกมันสมควรแล้ว! ฮ่าฮ่าฮ่า...”จีอวิ๋นเทียีนใช้เสียงแหบแห้งของตัวเอง หัวเราะเสียงดังออกมาจนแสบแก้วหูแทบทุกคนเหมือนกับเห็นภาพเหตุการณ์ต่อไปนั่นก็คือศีรษะของหลินเฟิงระเบิดออกเหมือนกับแตงโมจีอวิ๋นเจี๋ยถึงขั้นจับประตูไว้แน่น และหลับตาลงด้วยความเจ็บปวด“หือ”มองดูการโจมตีที่บ้าระห่ำของจีว่านจ่าง ในที่สุดหลินเฟิงก็เข้าใจแล้วว่าทำไมตระกูลจีมีความสามารถที่อยากจะแทนที่ตระกูลหลิน และกลายเป็นหนึ่งในสี่ตระกูลร่ำรวยของเมืองจิงแล้วคนผู้นี้ต่อให้ไม่มีสติ พลังที่ระเบิดออกมาก็ยังน่าหวาดกลัวถึงขนาดนี้ เกรงว่าความสามารถที่แท้จริงสามารถเทียบเทียมกับอาฝูที่อยู่ข้างกายพ่อของเขาได้แล้ว“แต่ว่า...”หลินเฟิงจะตายอยู่ที่นี่ได้อย่างไรกัน?“ปีศาจชั่วร้ายกลืนกินพลังสวรรค์”หลินเฟิงพูดออกมาเสียงเบา ทันใดนั้นพลังชี่แท้สีแดงก็ระเบิดออกมาจากร่างกายของหลินเฟิง เหมือนกับลมที่โหมพัดอย่างบ้าคลั่ง ทำให้ทุกคนที่อยู่ในเหตุการณ์ต่างตกตะลึงกันหมดพลังชั่วร้ายที่ระ
“เอาล่ะ เลิกเหม่อได้แล้ว”สายตานิ่งเฉยของหลินเฟิงเรียกสติของคนตระกูลจีทั้งหมดที่สมองขาวโพลน“ผู้นำตระกูลจีถูกผมควบคุมเอาไว้แล้ว ถึงแม้แขนซ้ายของเขาจะหัก แต่เพียงแค่นอนรักษาอยู่บนเตียงไม่กี่วันก็เพียงพอแล้ว”หลินเฟิงเดินไปที่ด้านข้างจีอวิ๋นเจี๋ย และตบไหล่ของเขา“เอ่อ?”จีอวิ๋นเจี๋ยนิ่งอึ้งครู่หนึ่ง ยังไม่เข้าใจความหมายของหลินเฟิง“ไปสิ”หลินเฟิงขมวดคิ้ว เห็นได้ชัดว่าจะให้เขาออกมาเก็บกวาดสถานการณ์พังพินาศ และนี่ก็สามารถช่วงชิงบารมีภายในตระกูลจีมาให้เขาอยู่ได้บ้างในที่สุด จีอวิ๋นเจี๋ยก็เข้าใจความหมายของหลินเฟิงแล้วเขามองไปทางหลินเฟิงด้วยความซับซ้อน และพยักหน้าให้หลินเฟิงอย่างหนักแน่นจีอวิ๋นเจี๋ยเดินเข้าไป ออกคำสั่งคนรับใช้ของตระกูลจีที่ยืนตกใจอยู่ข้างๆ ให้หามพ่อของเขาไปพักที่บ้านหลังอื่นจากนั้น เขาก็เดินเข้าไปอีก และให้พวกบอดี้การ์ด คุมตัวจีอวิ๋นเทียนที่นั่งมองศพลูกชายของตัวเองด้วยความเหม่อลอย“จีอวิ๋นเทียน! คุณพ่อถูกนายวางยาพิษใช่ไหม?! พูดมา!”เมื่อเผชิญหน้ากับการเค้นถามของจีอวิ๋นเจี๋ยต่อหน้าบริวารของตระกูลจี และจีว่านหลัว จีอวิ๋นเทียนรู้แล้วว่าแนวโน้มของตัวเองหมดไปแล้ว
“......”จีว่านหลัวนิ่งอึ้งครู่หนึ่ง จากนั้นเหมือนเข้าใจอะไรบางอย่าง จึงยิ้มและส่ายหน้า“อวิ๋นเจี๋ยพูดได้ถูกต้อง”“งั้นก็จัดการแบบนี้ นำตัวสองคนนี้ไปคุมขัง รอให้พ่อหายดีแล้ว ค่อยรายงานเรื่องในวันนี้ให้คุณพ่อ ให้เขาตัดสินใจ”เมื่อเห็นว่าพวกบริวานก็ไม่ได้คัดค้านอะไร จีอวิ๋นเจี๋ยจึงออกคำสั่งในทันที“อ่อใช่แล้ว สหายหลินเฟิง เมื่อครู่ผมเหมือนได้ยินจีอวิ๋นเทียนพูดว่า...”จีอวิ๋นเจี๋ยเดินไปที่ข้างกายหลินเฟิง ยังไม่รอให้เขาพูดจบ จู่ๆ ที่ข้างหน้าก็มีเสียงผู้หญิงที่เย็นชาดังขึ้นมา“อุ๊ย? ตระกูลจีของพวกคุณนี่ครึกครื้นจริงๆ เลย ไม่รู้ว่าฉันมาทันหรือว่ามาไม่ทัน?จีว่านหลัวได้ยินเสียงนี้ ก็พากันหันมองไปพร้อมกับพวกบริวารตระกูลจีตอนมองไปไม่เท่าไหร่แต่เมื่อเห็นคนที่มาถึง ทุกคนก็ขมวดคิ้วขึ้นทันที“หลงเซียว ใครใช้ให้คุณเข้ามา?”จีอวิ๋นเจี๋ยเดินออกมา ถามด้วยใบหน้าเย็นชาถูกต้องแล้วในตอนนี้คนที่ลงจากรถ และพาบอดี้การ์ดมาสิบกว่าคน ก็ต้องเป็นหลงเซียวของตระกูลหลงที่สวมเสื้อรัดตัว กระโปรงหนังคลุมบั้นท้ายหลงเซียวพาดเสื้อคลุมชุดทหารไว้บนบ่า บนศีรษะยังสวมหมวกทหารสีดำของประเทศมังกร เธอกวาดสายตามองจ
“คุณหลงเซียว ช่วยผมด้วย ช่วยผมด้วยครับ...พวกเขาจะฆ่าผม!”จีอวิ๋นเทียนที่พุ่งเข้ามา ถูกบอดี้การ์ดตระกูลจีที่อยู่รอบๆ ล็อกเอาไว้ และลากไปที่คุกใต้ดินของตระกูลจีโดยไม่มีความเกรงใจแม้แต่นิด“จีอวิ๋นเจี๋ย ฉันสั่งให้นายปล่อยจีอวิ๋นเทียนตอนนี้”“เดี๋ยวนี้! ทันทีทันใด!”หลงเซียวออกคำสั่งด้วยท่าทางหยิ่งผยอง“ไม่”จีอวิ๋นเจี๋ยส่ายหน้าด้วยความนิ่งเฉย จากนั้นพูดด้วยน้ำเสียงที่เป็นกลาง: “ผมไม่ปล่อย คุณจะทำอะไรผมได้?”“คุณจะลงมือกับผมที่ถิ่นของตระกูลจีงั้นเหรอ?”“ฉันเกลี้ยกล่อมให้นายครุ่นคิดให้ดีๆ นะ จีอวิ๋นเจี๋ย”หลงเซียวรู้สึกหงุดหงิดในใจเล็กน้อย ทั้งๆ ที่ก่อนหน้านี้จีอวิ๋นเจี๋ยคนนี้เป็นแค่คนขี้ขลาดตาขาวที่ปล่อยให้คนอื่นกลั่นแกล้งได้ตามใจชอบ ไม่ได้เจอกันแค่ไม่กี่วัน ทำไมจู่ๆ ถึงได้เปลี่ยนไปแข็งกร้าวแบบนี้?แถมยังกล้าต่อต้านเธอขนาดนี้?“ไม่จำเป็นต้องครุ่นคิด ตอนนี้ คุณหนูหลงเซียว ผมเชิญคุณออกจากตระกูลจีของผม ตอนนี้ตระกูลจีของผมไม่สะดวกรับแขก”“จีอวิ๋นเจี๋ย ถ้าหากฉันพูดว่าไม่ล่ะ?”หลงเซียวพูดด้วยความนิ่งเฉย“งั้นก็อย่าโทษที่ผมใช้ความรุนแรง!”จีอวิ๋นเจี๋ยตะโกนเสียงทุ้มต่ำ: “อารอง บริวา
หลงเซียวเพิ่งจะพูดประโยคนี้ออกมา เธอก็คิดได้ว่าไม่ถูกต้องเพราะว่าเมื่อเธอยอมรับแบบนี้ ก็กลายเป็นยอมรับว่าเธอเคยร่วมมือกับจีอวิ๋นเทียนของตระกูลจี วางแผนลอบทำร้ายผู้นำตระกูลจีคนปัจจุบันไม่ใช่เหรอ?นี่เป็นปัญการสมาคมของตระกูลที่รุนแรงเป็นอย่างมากถ้าหากถูกแพร่งพรายออกไป จะต้องถูกโลกภายนอกรังเกียจ ชื่อเสียงป่นปี้อีกอย่างถึงแม้ตระกูลหลงจะธุรกิจใหญ่โต ไม่ได้หวาดกลัวตระกูลจี แต่ถ้าหากทำให้ตระกูลจีโมโห ก็ใช่ว่าจะไม่สามารถลอบกัดตระกูลหลงได้นี่เป็นความแค้นเคืองที่ไม่จำเป็นอย่างมากคิดได้ถึงตรงนี้ หลงเซียวก็รีบเปลี่ยนคำพูดในทันที:“ฉันหลงเซียวมีความสัมพันธ์ที่ดีกับคุณชายจีอวิ๋นเทียนของตระกูลจี เห็นเขาได้รับการปฏิบัติแบบนี้ ในฐานะเพื่อนจึงทนดูไม่ได้ก็เท่านั้นเอง”“สำหรับเรื่องที่เกิดขึ้นกับตระกูลจีของพวกคุณ ฉันไม่ได้อยากจะยุ่งสักหน่อย”หลงเซียวพูดอย่างเย็นชา“งั้นเรื่องที่เกิดขึ้นกับตระกูลจีในวันนี้ จึงเป็นเรื่องภายในของตระกูลจี ถ้าหากคุณหลงเซียวไม่ใช่คนที่สมรู้ร่วมคิดกับจีอวิ๋นเทียน งั้นก็เชิญเถอะครับ”ในคำพูดของจีอวิ๋นเจี๋ยมีความหมายแอบแฝง จึงทำให้หลงเซียวพูดไม่ออกถ้าหากเธอฝืนท
ถึงตอนนั้นข่าวลือเรื่องการลอบฆ่าผู้นำตระกูลอื่นที่ร่ำรวยก็แพร่กระจายออกไป หากคนอื่นได้ยินเข้า ชื่อเสียงของตระกูลหลงจะต้องได้รับผลกระทบครั้งใหญ่อย่างแน่นอน มันเลวร้ายยิ่งกว่าการโจมตีที่หลงเซียวได้รับที่ในเมืองหนิงโจวตอนนี้หลงเซียวไม่กล้าแม้แต่จะหายใจแรงๆ ด้วยซ้ำถ้าเธอแสดงพิรุธออกมาจริงๆ ไม่ต้องพูดถึงจีว่านจ่าง ต่อให้เธอกลับไปที่ตระกูลหลง ผู้อาวุโสของตระกูลหลงก็ไม่สามารถปล่อยเธอไปได้เช่นกันในเมื่อเรื่องในคราวนี้ มีลักษณะเลวร้ายเกินไปถึงเวลาทุกคนในเมืองจิงก็จะตกอยู่ในอันตราย และเส้นทางของตระกูลหลงก็จะลำบากอย่างมาก“ไม่ไม่ไม่”หลงเซียวเอ่ยออกมาเสียงทุ้มต่ำ “ครั้งนี้ฉันไม่ได้มาที่นี่เพื่อจุดประสงค์อื่น เพียงแค่....ใช่แล้ว เพียงแค่ตระกูลหลงของฉันกำลังจะแต่งงานกับตระกูลถังในอีกไม่กี่วัน นี่ก็คือจดหมายเชิญ”“ถึงตอนนั้นเชิญตระกูลจีส่งตัวแทนไปเข้าร่วมงานแต่งของหลงยวนพี่ใหญ่ของฉันด้วยนะคะ”“เหอะ งานแต่งเกี่ยวดองอีกแล้วงั้นเหรอ....”จีว่านจ่างโบกมือเหมือนกับขับไล่ และพูดเยาะเย้ยว่า: “ผมรู้แล้ว คุณไปเถอะ”“ถ้าอย่างนั้น....ผู้นำตระกูลจี หลงเซียวขอตัวก่อน”หลังจากยกมือคำนับแล้ว ห
“อะไรนะ?”“ทำไม?”ได้ยินคำประกาศของผู้นำตระกูล บริวารที่อยู่โดยรอบกับบอดี้การ์ดของตระกูลจีต่างก็ไม่เข้าใจการตัดสินใจของผู้นำตระกูลแต่บริวารแดนแปรภาพหลายๆ คนที่มีพละกำลังแข็งแกร่ง ก็ขมวดคิ้วและครุ่นคิดถึงชื่อของหลินเฟิง ทันใดนั้นก็นึกอะไรบางอย่างออกได้ทันที“หรือว่าหลินเฟิงคนนี้ก็คือคนของตระกูลหลินในเมืองจิง?!”“ทายาทของราชาหลินแห่งตอนใต้เมืองหนานโจว ?”แล้วคนทั้งหมดต่างก็พากันประหลาดใจและสับสน ทันใดนั้นจีว่านจ่างก็กระแอมออกมาสองครั้ง ก่อนจะหัวเราะเสียงดังและพูดว่า:“วางใจเถอะเพื่อนสหายน้อยหลิน ผมจีว่านจ่างใช้ชีวมาหลายปีขนาดนี้แล้ว สิ่งที่เกลียดที่สุดก็คือคนที่ไม่รู้จักตอบแทนคุณคน”“คุณมีเงื่อนไขอะไร ก็พูดออกมาได้เลย!”“ผมรู้ สำหรับคุณเงินไม่ใช่สิ่งที่มีคุณค่าอะไรอีกต่อไปแล้ว คุณอยากได้อะไรก็แค่บอกผมมา!”“เพียงแค่ตระกูลจีของผมจัดการได้ ก็จะพยายามช่วยคุณอย่างเต็มที่อย่างแน่นอน!”“ใช่แล้วสหายหลิน คุณอย่าเกรงใจเด็ดขาด!”“สหายน้อยหลินเฟิง คุณบอกมาได้เลย!”เมื่อเห็นความกระตือรือร้นของทุกคนในตระกูลจี หลินเฟิงก็ไตร่ตรองเล็กน้อย ก่อนจะมองไปที่จดหมายเชิญในมือของจีอวิ๋นเจี๋ยและพูอย่
อวี๋จื่อเสวียนยังไม่รู้เรื่องที่เกิดขึ้นที่ตระกูลจี นี่เป็นครั้งแรกของเธอที่มาในตระกูลใหญ่ที่ร่ำรวยอย่างเช่นตระกูลจี เธอเดินไปรอบ ๆอย่างตื่นเต้นภายใต้การนำทางของพ่อบ้านต่อให้จู่ ๆท้องฟ้าที่แจ่มใสจะมีฟ้าผ่าลงมากะทันหันเป็นผลพวงจากการต่อสู้ด้วยหมัดของหลินเฟิงและจีว่านจ่าง ก็ไม่ได้ทำให้เธอเสียสมาธิเลยแม้แต่น้อย“รอให้ฉันรวยแล้ว ต่อไปก็จะอยู่ในสถานที่แบบนี้!”เมื่ออวี๋จื่อเสวียนกับหลินเฟิงกลับไปที่ชุมชนกลางเมือง ก็กระโดดโลดเต้นอย่างดีใจตอนนี้เมื่อเธอเห็นบ้านใต้หลังคาของพวกเขา จู่ ๆเธอก็รู้สึกว่าไม่มีตรงไหนที่ถูกใจเธอเลย“จริงสิ อาจารย์หลิน คุณไม่ใช่ว่าจะรักษาผู้นำตระกูลจีหรอกเหรอ? คุณรักษาหายแล้วงั้นเหรอ?”เมื่อพวกเขาเกือบจะถึงบ้าน อวี๋จื่อเสวียนเพิ่งจะนึกขึ้นได้จึงถามเรื่องสำคัญกับหลินเฟิงและเพื่อไม่ให้อวี๋จื่อเสวียนถามคำถามต่อไป หลินเฟิงจึงส่ายหน้าอย่างขอไปที“อ่อ ยังรักษาไม่หายเหรอ น่าเสียดาย เงินสี่พันล้านบาท....จุ๊จุ๊จุ๊ สี่พันล้านเลยนะ! ดูเหมือนว่าคุณจะไม่มีโชคด้านนี้นะ”อวี๋จื่อเสวียนส่ายหน้าด้วยความเสียดายอย่างไรก็ตามสิ่งที่เธอไม่รู้ว่าคือ ตอนนี้เช็คสี่พันล้านของจีอ