“ผู้นำตระกูล?”“คุณปู่?”เมื่อได้ยินเสียงตะโกนด้วยความโกรธทุกคนในตระกูลหลี่ต่างก็ตกตะลึง โดยเฉพาะหลิ่วเยว่ฟาง เธอโกรธมากจนด่าออกมาว่า “ฉันแค่พยายามจะช่วยชีวิตของคุณนะ ตาเฒ่า คุณไม่ต้องพูดเลย!”“ฉันจะพูดให้ได้!”หลี่ไห่หงพูดเสียงดังมาจากชั้นบนด้วยโกรธว่า “ตายอย่างน่าหดหู่แบบนี้ ฉันยอมถูกฆ่าตรง ๆดีกว่า!”“ฉันก็อยากจะดูว่าเด็กกลุ่มนี้จะมีสักกี่คนที่กล้าลุกขึ้นมา!”“หมิงจิ้วกับหย่งอานไอ้สารเลวสองคนนั้น ตอนที่พวกเขาได้ยินว่าตระกูลซือหม่ามาถึงที่หน้าประตูก็หายตัวไปอย่างไร้ร่องรอย มีเพียงแค่กงเฉิงกับฮุ่ยหรานที่ยืนขึ้นเท่านั้น!”“ฉันจะประกาศในตอนนี้เลยว่า ผู้นำคนต่อไปของตระกูลหลี่ จะเลือกระหว่างกงเฉิงกับฮุ่ยหรานเท่านั้น!”ทันทีที่คุณปู่ที่อยู่ชั้นบนพูดคำนี้จบ ก็คร่ำครวญราวกับถูกทุบตี“คุณปู่!”หลี่ฮุ่ยหรานตกใจหลินเฟิงก็ลุกขึ้นยืนเช่นกัน ก่อนจะมองไปที่ซือหม่าเหวินอย่างเย็นชา แล้วพูดว่า “หากมีอะไรเกิดขึ้นก็เข้ามาหาฉัน รังแกคนชราถือว่าไม่มีความสามารถอะไร!”“คนชราอะไร?”หลี่ไห่หงที่อยู่บนชั้นบนหัวเราะออกมาเสียงดัง ก่อนจะพูดว่า “ไอ้สารเลว ฉันยังไม่แก่เว้ย!”“แน่จริงแกก็ชกฉันอีกสักหมั
“แต่ไม่รู้จักความเป็ฯความตาย ถึงได้กล้าฆ่าซือหม่าจัว ผู้บริหารใหญ่ของตระกูลซือหม่าของฉัน สิ่งนี้ทำให้ตระกูลซือหม่าโกรธเคือง และในวันนี้นายจะต้องตายแน่นอน”หลังจากได้ยินคำพูดของโจวก้งเฟิ่ง ท่าทางของหลินเฟิงก็ดูลังเลเล็กน้อย“ซือหม่าจัว? คุณกำลังพูดถึงชายชราที่บุกเข้าไปในบ้านของอิ่นนั่วเจียกับซือหม่าเหวินในคืนนั้นหรือเปล่า?”“ถูกต้องแล้ว”โจวก้งเฟิ่งที่ยืนเอามือไว้ด้านหลัง ก็พยักหน้าเล็กน้อย“ไม่ถูกต้อง”หลินเฟิงส่ายหน้าแล้วเอ่ยว่า “ผมฆ่าซือหม่าหาว เรื่องนี้ผมยอมรับ แต่เพราะซือหม่าหาวเพิกเฉยต่อคำเตือนของผมและจัดการผมโดยที่ไม่รู้จักความเป็นความตาย”“แต่ซือหม่าจัว ผมกลับไม่ได้ฆ่าเขา”“หืม?”คำพูดของหลินเฟิงทำให้โจวก้งเฟิ่งสงสัยเล็กน้อย เขาเลิกคิ้วและพูดว่า “ซือหม่าหาวไม่ใช่ทายาทสายตรงของตระกูลซือหม่าของผม หากเป็นเขาก็ไม่คู่ควรให้ผมต้องลงมือหรอก”เขาก็มองออกว่า ระดับของหลินเฟิงไม่ได้ต่ำเลยภายใต้สถานการณ์อย่างนี้ เขาโกหกไปก็ไม่มีประโยชน์อะไร“หุบปาก หลินเฟิง!”ซือหม่าเหวินที่อยู่ด้านข้างกลัวว่าเรื่องจะถูกเปิดเผย ก็รีบตะโกนออกมาว่า “นายไร้เดียงสาเกินไปแล้ว คิดว่าจะเถียงแบบไม่มีเ
โจวก้งเฟิ่งใช้กำลังทั้งหมด โดยที่ไม่ได้หยั่งเชิงเลยแม้แต่น้อย อีกทั้งหลินเฟิงก็ยังไม่ได้เตรียมตัวที่จะหลบหลีกวิธีการที่ทั้งสองคนใช้ในเวลานี้อยู่เหนือความเข้าใจของคนทั่วไป การเคลื่อนไหวที่รุนแรงและรวดเร็วราวกับภาพลวงตา ในเวลาอันสั้นก็ประมือกันไปสามสิบกว่ารอบแล้ว“อะไรกัน?”ซือหม่าเหวินที่มองดูความแข็งแกร่งของหลินเฟิง ก็คิดไม่ถึงว่าจะสามารถต่อสู้ได้เสมอกับโจวก้งเฟิ่งจริง ๆ เขาตกใจอย่างมาก แม้แต่ในใจก็มีลางสังหรณ์ที่ไม่ดีอยู่ สุดท้าย หลังจากการต่อสู้ที่มากกว่าห้าสิบรอบ โจวก้งเฟิ่งก็เป็นฝ่ายที่เริ่มล่าถอยและตีตัวออกห่างจากหลินเฟิง“คิดไม่ถึงว่าที่เจียงโจวเล็ก ๆ ยังจะมียอดฝีมือแบบนี้อยู่ด้วย”โจวก้งเฟิ่งควบคุมลมปราณที่ยุ่งเหยิงของตัวเองลงเล็กน้อย ก่อนจะจ้อมไปทางหลินเฟิงและพูดว่า “ยังไม่ทะลวงแดนแปรภาพแท้ ๆ แต่สามารถแข็งแกร่งได้ขนาดนี้ ฉันรู้แล้วว่าคุณไม่จำเป็นต้องใช้วิธีการลอบโจมตีเพื่อฆ่าอาจารย์ของฉันอย่างแน่นอน”“แต่ทว่าอาจารย์ของผมกลับถูกมีดกริชฆ่าตาย....”โจวก้งเฟิ่งที่หยุดไปไม่นาน ก
โจวก้งเฟิ่งมองไปทางหลินเฟิง ด้วยสายตาที่ค่อนข้างมีความหมาย“ในเมื่อเป็นแบบนี้ โจวก้งเฟิ่งไว้หน้าผม ผมจะไม่รับก็ไม่ได้”หลินเฟิงพยักหน้า จากนั้นก็หันไปมองซือหม่าเหวิน ก่อนจะพูดว่า “คุณชายซือหม่า ต้องขอโทษต่อเรื่องราวก่อนหน้านี้ด้วย ขอโทษ”คำขอโทษตรงนี้ไม่ได้มีความจริงใจแม้แต่ครึ่งเดียว และดูเหมือนจะเป็นการสบประมาทด้วยซ้ำใบหน้าของซือหม่าเหวินเปลี่ยนเป็นสีแดงเลือดหมู“โจวก้งเฟิ่ง เรื่องนี้ฉันจะไปรายงานให้พ่อรู้”ซือหม่าเหวินไม่กล้าอาละวาด ทำได้เพียงยกพ่อของเขาออกมา“ได้สิ”โจวก้งเฟิ่งพยักหน้าด้วยท่าทางไร้อารมณ์“แต่ทางที่ดีที่สุดคือหาคำตอบให้ได้ก่อนว่าอาจารย์ของฉันตายด้วยน้ำมือของใคร”เมื่อได้ยินประโยคของโจวก้งเฟิ่ง ซือหม่าเหวินก็ตัวแข็งทื่อจากนั้น เขาก็ตะคอกอย่างเย็นชาแล้วสะบัดแขนเดินหนีไป“ขอลา”ต่างจากซือหม่าเหวินที่ไม่พอใจ โจวก้งเฟิ่งถึงขั้นที่ประสานกำปั้นคารวะหลินเฟิง ก่อนจะเรียกผู้คุ้มกันของตระกูลซือหม่าออกไปพร้อมกัน“หลินเฟิง จริง ๆแล้วเรื่องมันเป็นยังไงกันแน่?”หลี่ฮุ่ยหรานที่ตั้งตัวไม่ทันเล็กน้อยกับท่าทางที่เปลี่ยนไปของโจวก้งเฟิ่งจากตระกูลซือหม่าหรือจะเป็นเพรา
“แม้ว่าภัยครั้งนี้จะเป็นเพราะฮุ่ยหราน แต่สุดท้ายเธอก็ไม่ได้กลัวตระกูลซือหม่า และยังตำหนิทุกคน ถือว่าเป็นการสร้างเกียรติให้ตระกูลหลี่ของพวกเรา”“ตระกูลหลี่ของฉันต้องการผู้นำแบบนี้”เมื่อได้ยินคำพูดของคุณปู่ หลิ่วเยว่ฟางก็ร้อนใจ ถ้าหากหลี่ฮุ่ยหรานได้เป็นผู้นำแล้ว มันจะดีกับเธอหรือเปล่า?เธอรีบพูดแทรกขึ้นมาว่า “ตาเฒ่า คุณเลอะเลือนแล้วใช่ไหม? ภัยในวันนี้สาเหตุมาจากหลี่ฮุ่ยหรานนะ หากไม่มีเธอ คุณกับกงเฉิงและเยว่หรูก็คงจะไม่โดนการทุบตีแบบไร้เหตุผลหรอก”“ยังไงซะ ทั้งหมดก็เป็นความผิดของเธอ!”“ใช่แล้วคุณปู่ คุณปู่ต้องคิดให้ดี ๆนะ!”หลี่เยว่หรูก็ร้อนใจเช่นกัน“เงียบให้หมด!”คุณปู่หลี่ตำหนิด้วยน้ำเสียงเด็ดขาด ก่อนจะมองคนไปรอบ ๆที่เงียบงัน เขาก็เอ่ยขึ้นมาเบา ๆว่า “ฉันรู้ว่าพวกคุณจะขออะไร แต่ฉันก็สนุกกับท่าทางของหลี่ฮุ่ยหราน”“แบบนี้สิ”หลี่ไห่หงก้าวถอยหลังไป แล้วพูดด้วยน้ำเสียงหนักแน่นว่า “ฉันรู้ว่าพวกคุณไม่ยอมรับ และฉันก็ไม่มีเจตนาที่จะทำลายกฎล่วงหน้าด้วยเช่นกัน”“การเดิมพันก่อนหน้านี้ก็ยังมีผลอยู่”หลี่ไห่หงมองไปรอบ ๆ แล้วพูดขึ้นว่า “ ยังเหลือเวลาอีกประมาณหนึ่งเดือนครึ่งที่หลี่ฮุ่นหรา
เพียงแต่วิธีการที่จะทำให้สุกงอมตามที่กล่างอ้างของสำนักร้อยพิษ ทำให้หลินเฟิงมีความคิดที่ใจกล้าขึ้นมาในใจอย่างหนึ่งถ้าหากเรื่องเป็นจริง ไม่แน่ว่าเขาอาจจะต้องไปสำนักร้อยพิษจริง ๆหากมีวิธีการลับนี้ หลินเฟิงก็ไม่จำเป็นต้องเป็นลำบากเก็บรวบรวมเครื่องปรุงยาจีนที่ตัวเองต้องการอีกต่อไปเพราะอย่างนั้นเขาจึงรีบขอให้จ้าวเทียนหวาส่งคนไปค้นหาความจริงแน่นอนว่า นอกเหนือจากนั้น สิ่งที่หลินเฟิงกังวลที่สุดก็คือถังหว่านในขณะที่โฮมสเตย์ถูกสร้างขึ้นในทุก ๆวัน ลางสังหรณ์ที่ไม่ดีของหลินเฟิงก็ยิ่งขยายใหญ่ขึ้นทุกวันผ่านไปอีกหนึ่งสัปดาห์ โทรศัพท์ของถังหว่านก็เปลี่ยนเป็นไม่สามารถติดต่อได้ และไม่มีข่าวใด ๆ ทั้งสั้นไม่ตอบข้อความ และไม่รับสายโทรศัพท์ หลินเฟิงไม่สามารถที่จะติดต่อเธอได้เลยตอนที่หลินเฟิงกำลังคิดว่าตัวเองควรจะไปเมืองจิงดีหรือไม่นั้น รถยี่ห้อหงฉีสีดำคันหนึ่งก็จอดอยู่ที่ด้านนอกวิลล่าของอ่าวเทียนสุ่ยคนที่เดินออกมา คิดไม่ถึงว่าจะเป็นหลานเฟยที่ไม่ได้เจอกันมานานหลายเฟยกลายเป็นคนคุ้มกันส่วนตัวของถังหว่าน ตั้งแต่ถูกถังหว่านช่วยเหลือครั้งที่แล้ว จนกระทั่งฉินอิ๋ง เธอหยุดอยู่ที่เจียงโจวและไม่ได้
“ถังหว่านคิดถูกแล้ว”หลินเฟิงหัวเราะเยาะ “ความอดทนของผมใกล้จะถึงขีดจำกัดแล้ว แต่มีอย่างหนึ่งที่เกรงว่าเธอจะเดาผิดแล้ว!”“นั้นก็คือถ้าหากคุณไม่บอกผม ผมก็จะไม่ปล่อยมันไป อย่ามาพูดอะไรเพื่อให้ผมลืมเธอ”“ผมจะไปเมืองจิงด้วยตัวเองอย่างแน่นอน ไปเหยียบประตูของตระกูลถังแล้วถามให้ชัดเจน ถึงตอนนั้นก็อย่ามาโทษผมหลินเฟิง ที่ทำให้ตระกูลถังของพวกคุณต้องวุ่นวายก็แล้วกัน!”“คุณ....”เมื่อได้ยินหลินเฟิงเริ่มตื้อโดยไม่มีเหตุผล หลานเฟยก็รู้สึกปวดหัวอย่างมาก“คนละเรื่องกัน คุณไม่สามารถใช้บุญคุณของคุณที่มีต่อฉันแล้วมาบังคับฉันได้”“คุณหนูถังหว่านไม่ได้บอกคุณทั้งหมด ก็เพื่อประโยชน์ของคุณเอง ไม่อย่างนั้นคุณอาจจะถูกฆ่าตายไปแล้ว!”“ทำไมคุณถึงไม่ฟังคำแนะนำล่ะ?”“หึ ผ่านมาหลายปีขนาดนี้ เหตุการณ์ร้ายแรงอะไรบ้าง ที่ผมหลินเฟิงไม่เคยเจอมาบ้าง? ก็แค่ตระกูลถัง ต่อให้ตระกูลหลงหรือตระกูลซือหม่ามาเพิ่มอีก ผมก็ไม่สนใจ!”น้ำเสียงของหลินเฟิงทั้งรุนแรงและมีอำนาจแต่คำพูดนี้ ในสายตาของหลานเฟยเป็นคำพูดที่โง่เขลา“คุณ...คุณนี่จริง ๆ เลยนะ...”หลานเฟยโกรธมากจนกระทืบเท้า แต่เธอก็สับสนเช่นกัน ไม่รู้จะพูดโน้มน้าวหลินเฟิ
หลินเฟิงพูดตรงอย่างมาก“คุณ…”หลานเฟยถูกหลินเฟิงทำให้พูดไม่ออก เธอกลอกตาพูด:“คุณอย่ารีบร้อนขนาดนี้ได้ไหม? คุณถังหว่านยังไม่สามารถพบหน้าคุณได้ชั่วคราว คุณพักอยู่ที่นี่ก่อนสักสองสามวัน รอให้โอกาสเหมาะสม ฉันก็จะพาคุณไปพบเธอ”“งั้นคุณต้องบอกผมสักหน่อยไหมว่าตระกูลถังเกิดเรื่องอะไรขึ้น? หรือว่าจะให้ผมรออย่างไม่มีจุดหมายปลายทางอยู่ที่นี่งั้นเหรอ?หลินเฟิงพูดอย่างไม่พอใจ“ใจร้อนมักทำการไม่สำเร็จ สถานการณ์ยังไม่ชัดเจน รู้มากเกินไปไม่เป็นผลดีต่อคุณ ถ้าหากคุณเชื่อคุณถังหว่าน ก็รอด้วยความใจเย็นสักสองสามวัน”“ถือว่าฉันขอร้องคุณได้ไหมคะ?”เห็นหลานเฟยมีท่าทางแบบนี้ หลินเฟิงก็ทำได้แค่พยักหน้าด้วยความฝืนใจอย่างไรก็มาถึงเมืองจิงแล้ว ถ้าหากมีเรื่องวุ่นวายอะไรจริง ๆ หลินเฟิงก็สามารถไปที่ตระกูลถังได้โดยตรง“เฮ้อ…”เมื่อเห็นว่าในที่สุดหลินเฟิงรับปากแล้ว หลานเฟยก็ถอนหายใจ และพูดเสียงเบา: “ก่อนหน้านี้พวกเราพูดกันเอาไว้แล้ว คุณต้องฟังการจัดแจงจากฉันทั้งหมด” “เอาล่ะ คุณอยู่ที่นี่อย่างว่าง่ายแล้วกัน มีธุระอะไรฉันจะมาติดต่อคุณ”หลานเฟยกำชับหลินเฟิงยกหนึ่ง จากนั้นก็ขับรถออกไปเมื่อวานเธอแอบหนีออกม