เพียงแต่วิธีการที่จะทำให้สุกงอมตามที่กล่างอ้างของสำนักร้อยพิษ ทำให้หลินเฟิงมีความคิดที่ใจกล้าขึ้นมาในใจอย่างหนึ่งถ้าหากเรื่องเป็นจริง ไม่แน่ว่าเขาอาจจะต้องไปสำนักร้อยพิษจริง ๆหากมีวิธีการลับนี้ หลินเฟิงก็ไม่จำเป็นต้องเป็นลำบากเก็บรวบรวมเครื่องปรุงยาจีนที่ตัวเองต้องการอีกต่อไปเพราะอย่างนั้นเขาจึงรีบขอให้จ้าวเทียนหวาส่งคนไปค้นหาความจริงแน่นอนว่า นอกเหนือจากนั้น สิ่งที่หลินเฟิงกังวลที่สุดก็คือถังหว่านในขณะที่โฮมสเตย์ถูกสร้างขึ้นในทุก ๆวัน ลางสังหรณ์ที่ไม่ดีของหลินเฟิงก็ยิ่งขยายใหญ่ขึ้นทุกวันผ่านไปอีกหนึ่งสัปดาห์ โทรศัพท์ของถังหว่านก็เปลี่ยนเป็นไม่สามารถติดต่อได้ และไม่มีข่าวใด ๆ ทั้งสั้นไม่ตอบข้อความ และไม่รับสายโทรศัพท์ หลินเฟิงไม่สามารถที่จะติดต่อเธอได้เลยตอนที่หลินเฟิงกำลังคิดว่าตัวเองควรจะไปเมืองจิงดีหรือไม่นั้น รถยี่ห้อหงฉีสีดำคันหนึ่งก็จอดอยู่ที่ด้านนอกวิลล่าของอ่าวเทียนสุ่ยคนที่เดินออกมา คิดไม่ถึงว่าจะเป็นหลานเฟยที่ไม่ได้เจอกันมานานหลายเฟยกลายเป็นคนคุ้มกันส่วนตัวของถังหว่าน ตั้งแต่ถูกถังหว่านช่วยเหลือครั้งที่แล้ว จนกระทั่งฉินอิ๋ง เธอหยุดอยู่ที่เจียงโจวและไม่ได้
“ถังหว่านคิดถูกแล้ว”หลินเฟิงหัวเราะเยาะ “ความอดทนของผมใกล้จะถึงขีดจำกัดแล้ว แต่มีอย่างหนึ่งที่เกรงว่าเธอจะเดาผิดแล้ว!”“นั้นก็คือถ้าหากคุณไม่บอกผม ผมก็จะไม่ปล่อยมันไป อย่ามาพูดอะไรเพื่อให้ผมลืมเธอ”“ผมจะไปเมืองจิงด้วยตัวเองอย่างแน่นอน ไปเหยียบประตูของตระกูลถังแล้วถามให้ชัดเจน ถึงตอนนั้นก็อย่ามาโทษผมหลินเฟิง ที่ทำให้ตระกูลถังของพวกคุณต้องวุ่นวายก็แล้วกัน!”“คุณ....”เมื่อได้ยินหลินเฟิงเริ่มตื้อโดยไม่มีเหตุผล หลานเฟยก็รู้สึกปวดหัวอย่างมาก“คนละเรื่องกัน คุณไม่สามารถใช้บุญคุณของคุณที่มีต่อฉันแล้วมาบังคับฉันได้”“คุณหนูถังหว่านไม่ได้บอกคุณทั้งหมด ก็เพื่อประโยชน์ของคุณเอง ไม่อย่างนั้นคุณอาจจะถูกฆ่าตายไปแล้ว!”“ทำไมคุณถึงไม่ฟังคำแนะนำล่ะ?”“หึ ผ่านมาหลายปีขนาดนี้ เหตุการณ์ร้ายแรงอะไรบ้าง ที่ผมหลินเฟิงไม่เคยเจอมาบ้าง? ก็แค่ตระกูลถัง ต่อให้ตระกูลหลงหรือตระกูลซือหม่ามาเพิ่มอีก ผมก็ไม่สนใจ!”น้ำเสียงของหลินเฟิงทั้งรุนแรงและมีอำนาจแต่คำพูดนี้ ในสายตาของหลานเฟยเป็นคำพูดที่โง่เขลา“คุณ...คุณนี่จริง ๆ เลยนะ...”หลานเฟยโกรธมากจนกระทืบเท้า แต่เธอก็สับสนเช่นกัน ไม่รู้จะพูดโน้มน้าวหลินเฟิ
หลินเฟิงพูดตรงอย่างมาก“คุณ…”หลานเฟยถูกหลินเฟิงทำให้พูดไม่ออก เธอกลอกตาพูด:“คุณอย่ารีบร้อนขนาดนี้ได้ไหม? คุณถังหว่านยังไม่สามารถพบหน้าคุณได้ชั่วคราว คุณพักอยู่ที่นี่ก่อนสักสองสามวัน รอให้โอกาสเหมาะสม ฉันก็จะพาคุณไปพบเธอ”“งั้นคุณต้องบอกผมสักหน่อยไหมว่าตระกูลถังเกิดเรื่องอะไรขึ้น? หรือว่าจะให้ผมรออย่างไม่มีจุดหมายปลายทางอยู่ที่นี่งั้นเหรอ?หลินเฟิงพูดอย่างไม่พอใจ“ใจร้อนมักทำการไม่สำเร็จ สถานการณ์ยังไม่ชัดเจน รู้มากเกินไปไม่เป็นผลดีต่อคุณ ถ้าหากคุณเชื่อคุณถังหว่าน ก็รอด้วยความใจเย็นสักสองสามวัน”“ถือว่าฉันขอร้องคุณได้ไหมคะ?”เห็นหลานเฟยมีท่าทางแบบนี้ หลินเฟิงก็ทำได้แค่พยักหน้าด้วยความฝืนใจอย่างไรก็มาถึงเมืองจิงแล้ว ถ้าหากมีเรื่องวุ่นวายอะไรจริง ๆ หลินเฟิงก็สามารถไปที่ตระกูลถังได้โดยตรง“เฮ้อ…”เมื่อเห็นว่าในที่สุดหลินเฟิงรับปากแล้ว หลานเฟยก็ถอนหายใจ และพูดเสียงเบา: “ก่อนหน้านี้พวกเราพูดกันเอาไว้แล้ว คุณต้องฟังการจัดแจงจากฉันทั้งหมด” “เอาล่ะ คุณอยู่ที่นี่อย่างว่าง่ายแล้วกัน มีธุระอะไรฉันจะมาติดต่อคุณ”หลานเฟยกำชับหลินเฟิงยกหนึ่ง จากนั้นก็ขับรถออกไปเมื่อวานเธอแอบหนีออกม
ในปากของเด็กผู้หญิงคนนี้เคี้ยวหมากฝรั่งอยู่ เส้นผมกลับเป็นสีขาว แค่ดูก็รู้แล้วว่าเป็นเด็กสาวใจแตก“ทำไม ฉันถามนายอยู่นะ? นายเป็นใบ้เหรอ?”เด็กสาวผมขาวถามขึ้น“จื่อเสวียน ห้ามเสียมารยาท!”อาอวี๋ที่เดินออกมาจากห้องครัง ขมวดคิ้วมองไปทางเด็กสาวใจแตก“ไม่เป็นไรครับ ในบ้านมีคนแปลกหน้า ก็ต้องถามเป็นธรรมดาอยู่แล้วครับ”หลินเฟิงยิ้มบางแล้วพูดว่า: “ฉันชื่อหลินเฟิง สวัสดี”“ฮ้าววว”เด็กสาวหาวออกมา และมองไปทางอาอวี๋ที่สวมผ้ากันเปื้อนด้วยท่าทางหมดอาลัยตายอยาก”“เด็กบ้า ลูกพูดจาเลอะเทอะอะไร? ท่านนี้คือคุณหลินเฟิง เป็นแขกผู้มีเกียรติของตระกูลถัง!!”อาอวี๋ถลึงตาใส่เด็กสาวใจแตก“ในเมื่อเป็นแขกผู้มีเกียรติของตระกูลถัง ไม่ไปพักที่ตระกูลถัง มาพักอยู่ที่บ้านของพวกเราทำไมกัน?”เด็กสาวที่ถูกเรียกว่าจื่อเสวียนหัวเราะด้วยความเหยียดหยาม: “ช่างเถอะ ๆ หนูขี้เกียจจะสนใจเรื่องบ้าบอของพวกคุณแล้ว อีกเดี๋ยวหนูจะออกไปเที่ยวกับเพื่อน เอาเงินมาให้หนู”“ดึกขนาดนี้แล้ว จะออกไปอีกแล้วเหรอ?”อาอวี๋ขมวดคิ้วพูด: “จื่อเสวียน ช่วงนี้ใกล้จะสอบเข้ามหาวิทยาลัยแล้ว ลูกในฐานะเด็กผู้หญิงไม่กลับบ้านกลับช่องทุกคืน เหมาะสม
“โอ๊ย ลูกสาวของฉันทำงานที่คาราโอเกะไม่ใช่เหรอ เมื่อครู่เธอโทรศัพท์มา บอกว่าจื่อเสวียนเกิดเรื่องขัดแย้งกับคนอื่นที่ร้านคาราโอเกะ ทั้งสองฝ่ายลงไม้ลงมือกันแล้ว!”“คุณรีบไปดูเธอเถอะ!”เพื่อนบ้านพูดเร่งอาอวี๋ตกใจอย่างมาก ลูกสาวคนนี้ของเธอทำไมถึงได้ทำให้คนอื่นเป็นกังวลใจแบบนี้เขาโยนถ้วยกับตะเกียบลงแล้ววิ่งออกไปข้างนอก เพียงแต่วิ่งออกไปได้ครึ่งทางก็รีบย้อนกลับมา และพูดขอโทษต่อหลินเฟิง:“คุณหลินเฟิง ขอโทษด้วยจริง ๆ นะครับ! คุณทานไปก่อน ทางด้านลูกสาวของผมเกิดเรื่องขึ้นเล็กน้อย ผมต้องไปดูหน่อย!”“ผมไปด้วยกันกับคุณเถอะครับ”หลินเฟิงวางตะเกียบลงแล้วเช็ดปากอยู่ที่บ้านคนอื่นกินฟรีอยู่ฟรีแบบนี้ไม่เหมาะสมเท่าไหร่ ถ้าหากเขาสามารถช่วยได้ ก็ต้องไม่นิ่งเฉยอยู่แล้ว“นี่…”อาอวี๋ลำบากใจเล็กน้อย ให้แขกของตระกูลถังไปช่วยเขา แบบนี้มันไม่เหมาะสมจริงๆ“วางใจเถอะครับอาอวี๋ ผมไม่สร้างความวุ่นวายหรอก”หลินเฟิงเห็นถึงความกังวลของเขา จึงยิ้มพูด: “มีคนเพิ่มก็มีกำลังเพิ่มไม่ใช่เหรอครับ”“เหล่าอวี๋อย่ามัวแต่ชักช้าเลย เร็วหน่อย!” เพื่อนบ้านพูดเร่ง“ก็ได้”อาอวี๋พยักหน้า และไม่พูดอะไรอีก จากนั้นก็รีบออกไ
ในตอนนี้ เด็กสาวผมสั้นคนหนึ่งปลุกความกล้าพูดขึ้นมา“ฉันจับเธอเพราะให้เกียรติเธอ แต่เธอแม่งไม่รับเกียรติเอาไว้ มาโทษฉันงั้นเหรอ?”ชายชุดสูทถลึงตาโต ทำให้เด็กสาวผมสั้นคนนั้นไม่กล้าพูดอะไรอีกส่วนอาอวี๋เมื่อได้ยินแบบนี้ก็ฝืนยิ้มพูดขึ้นมา: “สหายน้อย ผมดูแล้วเรื่องในวันนี้เป็นความเข้าใจผิดกัน พวกเราไม่จำเป็นต้องทำให้เป็นเรื่องใหญ่ ต่างฝ่ายต่างถอยกันคนละก้าวดีไหม?“ถอยกันคนละก้าวงั้นเหรอ?”ชายชุดสูทยิ้มออกมา ยิ้มด้วยความเหยียดหยามอย่างถึงที่สุด“เชี่ย แกนับประสาอะไรกัน คู่ควรที่จะมาชี้โบ๊ชี้เบ๊อยู่ตรงนี้ด้วยงั้นเหรอ?!”ชายชุดสูทเดินเข้ามาตบหน้าอาอวี๋อย่างแรง และพูดด่าทอ: “แกพูดว่าจบก็จบงั้นเหรอ? ถอยกันคนละก้าว? แกคู่ควรที่จะเสนอเงื่อนไขกับฉันด้วยงั้นเหรอ?”อาอวี๋ถูกตบแบบนี้ ก็โซเซไปมา เกือบจะล้มลง“แกกล้าตบพ่อฉันงั้นเหรอ?”อวี๋จื่อเสวียนโกรธเป็นฟืนเป็นไฟ จากนั้นก็หยิบขวดเบียร์ที่อยู่ข้าง ๆ ขึ้นมาจะลงมือ แต่กลับถูกอาอวี๋ห้ามเอาไว้“จื่อเสวียน ลูกเป็นผู้หญิง อย่าทำอะไรซี้ซั้ว!”“ทำไม? เธอยังอยากจะลงมือกับฉันงั้นเหรอ?! มามามา เธอลองตบฉันอีกสักครั้งดูสิ?”ชายชุดสูทยิ้มเยาะ: “วันนี้พ
หลังจากเหม่อลอยในเวลาสั้น ๆ ชายชุดสูทดวงตาเกรี้ยวกราด และด่าอย่างสาดเสียเทเสีย: “วันนี้ฉันจะฆ่าแกให้ตาย!”“อย่าขยับ!”ในตอนที่ชายชุดสูทกำลังโมโหเดือดดาล นักเรียนกลุ่มหนึ่งที่ในมือถือกระบองโลหะพุ่งเข้ามา นักเรียนเหล่านี้ต่างเป็นผู้ชายคนที่นำหน้ามาสูงหนึ่งร้อยเก้าสิบเซนติเมตร นักเรียนชายที่ร่างกายสูงใหญ่คนจำนวนสิบกว่าคนปรากฏตัวออกมาแบบนี้ ก็มีความกดดันอยู่บ้างเล็กน้อย“ดีมากเลย หลงเสี่ยวจวิ้นมาแล้ว!”เมื่อเห็นผู้ชายสูงหนึ่งร้อยเก้าสิบเซนติเมตร นักเรียนหญิงรวมทั้งอวี๋จื่อเสวียนที่อยู่ในนั้น พากันเผยสีหน้าประหลาดใจออกมาพวกเธอแต่ละคนเหมือนกับเห็นตัวช่วย ในดวงตาเผยความเลื่อมใสออกมาเล็กน้อยหลงเสี่ยวจวิ้นเป็นถึงคนดังในโรงเรียน ไม่เพียงครอบครัวอบอุ่น หน้าตาหล่อเหลา อีกทั้งยังเป็นหัวหน้าทีมเบสบอลของโรงเรียนของพวกเขา“จื่อเสวียน เธอไม่เป็นไรใช่ไหม?”หลงเสี่ยวจวิ้นปรากฏตัวขึ้นมา ในดวงตามีเพียงอวี๋จื่อเสวียน และสอบถามสารทุกข์สุขดิบด้วยความเป็นห่วง“ไม่เป็นไร ฉันไม่เป็นไร”อวี๋จื่อเสวียนส่ายหน้า ในดวงตาเต็มไปด้วยความดีใจอย่างถึงที่สุดคิดไม่ถึงว่าหลงเสี่ยวจวิ้นจะปรากฏตัวออกมาช่วยพวก
ถึงแม้จะดูถูก แต่ในเมื่อเป็นพ่อของอวี๋จื่อเสวียน เรื่องแค่นี้เขายังต้องไว้หน้ากันหน่อย“ขอบคุณมาก”อาอวี๋รู้สึกโล่งใจ จากนั้นรีบโค้งตัวให้หลงเสี่ยวจวิ้น“พวกแกยังนิ่งกันอยู่ทำไม? ไสหัวไปให้หมด! อย่าให้ฉันเห็นพวกอีกนะ เข้าใจไหม?!”หลงเสี่ยวจวิ้นหันหน้ามองไปรอบ ๆ และตะโกนขึ้นมา“หึ แน่จริง พวกแกเด็กเวรกลุ่มนี้อย่าหนีไปนะ!”ชายชุดสูดกัดฟัน และพูดอย่างรุนแรงประโยคสุดท้ายเอาไว้ จากนั้นก็พาพวกขี้เมาที่อยู่ด้านหลังเดินโซเซจากไป“พี่จวิ้น พี่จะปล่อยพวกเขาไปแบบนี้งั้นเหรอ?”เด็กสาวผมสั้นเผยสีหน้าเป็นกังวลออกมา: “ถ้าหากพวกมันเรียกคนมาแก้แค้นพวกเราจะทำอย่างไร?”“แก้แค้น? เขาไม่กล้าหรอก”หลงเสี่ยวจวิ้นเผยสีหน้าลำพองใจแล้วยิ้มพูด: “พวกเธอคงไม่รู้สินะว่าที่นี่ถิ่นของใคร?”“ไม่กลัวที่จะต้องบอกพวกเธอ ที่นี่คือถิ่นของคุณชายตู้แก๊งเลี่ยหยาง กล้ามากำเริบเสิบสานที่นี่? หึ นั่นก็เป็นการรนหาที่ตายก็เท่านั้นเอง”“คุณชายตู้แก๊งเลี่ยหยาง?”หลงเสี่ยวจวิ้นพูดออกมาแบบนี้ นอกจากหลินเฟิงแล้ว ทุกคนก็สีหน้าเปลี่ยนไปแก๊งเลี่ยหยางเป็นถึงใหญ่ในเขตใต้ของเมืองจิง ถิ่นฐานในบริเวณใกล้ ๆ นี้แทบจะไม่มีใครกล้ามา