หลังจากเหม่อลอยในเวลาสั้น ๆ ชายชุดสูทดวงตาเกรี้ยวกราด และด่าอย่างสาดเสียเทเสีย: “วันนี้ฉันจะฆ่าแกให้ตาย!”“อย่าขยับ!”ในตอนที่ชายชุดสูทกำลังโมโหเดือดดาล นักเรียนกลุ่มหนึ่งที่ในมือถือกระบองโลหะพุ่งเข้ามา นักเรียนเหล่านี้ต่างเป็นผู้ชายคนที่นำหน้ามาสูงหนึ่งร้อยเก้าสิบเซนติเมตร นักเรียนชายที่ร่างกายสูงใหญ่คนจำนวนสิบกว่าคนปรากฏตัวออกมาแบบนี้ ก็มีความกดดันอยู่บ้างเล็กน้อย“ดีมากเลย หลงเสี่ยวจวิ้นมาแล้ว!”เมื่อเห็นผู้ชายสูงหนึ่งร้อยเก้าสิบเซนติเมตร นักเรียนหญิงรวมทั้งอวี๋จื่อเสวียนที่อยู่ในนั้น พากันเผยสีหน้าประหลาดใจออกมาพวกเธอแต่ละคนเหมือนกับเห็นตัวช่วย ในดวงตาเผยความเลื่อมใสออกมาเล็กน้อยหลงเสี่ยวจวิ้นเป็นถึงคนดังในโรงเรียน ไม่เพียงครอบครัวอบอุ่น หน้าตาหล่อเหลา อีกทั้งยังเป็นหัวหน้าทีมเบสบอลของโรงเรียนของพวกเขา“จื่อเสวียน เธอไม่เป็นไรใช่ไหม?”หลงเสี่ยวจวิ้นปรากฏตัวขึ้นมา ในดวงตามีเพียงอวี๋จื่อเสวียน และสอบถามสารทุกข์สุขดิบด้วยความเป็นห่วง“ไม่เป็นไร ฉันไม่เป็นไร”อวี๋จื่อเสวียนส่ายหน้า ในดวงตาเต็มไปด้วยความดีใจอย่างถึงที่สุดคิดไม่ถึงว่าหลงเสี่ยวจวิ้นจะปรากฏตัวออกมาช่วยพวก
ถึงแม้จะดูถูก แต่ในเมื่อเป็นพ่อของอวี๋จื่อเสวียน เรื่องแค่นี้เขายังต้องไว้หน้ากันหน่อย“ขอบคุณมาก”อาอวี๋รู้สึกโล่งใจ จากนั้นรีบโค้งตัวให้หลงเสี่ยวจวิ้น“พวกแกยังนิ่งกันอยู่ทำไม? ไสหัวไปให้หมด! อย่าให้ฉันเห็นพวกอีกนะ เข้าใจไหม?!”หลงเสี่ยวจวิ้นหันหน้ามองไปรอบ ๆ และตะโกนขึ้นมา“หึ แน่จริง พวกแกเด็กเวรกลุ่มนี้อย่าหนีไปนะ!”ชายชุดสูดกัดฟัน และพูดอย่างรุนแรงประโยคสุดท้ายเอาไว้ จากนั้นก็พาพวกขี้เมาที่อยู่ด้านหลังเดินโซเซจากไป“พี่จวิ้น พี่จะปล่อยพวกเขาไปแบบนี้งั้นเหรอ?”เด็กสาวผมสั้นเผยสีหน้าเป็นกังวลออกมา: “ถ้าหากพวกมันเรียกคนมาแก้แค้นพวกเราจะทำอย่างไร?”“แก้แค้น? เขาไม่กล้าหรอก”หลงเสี่ยวจวิ้นเผยสีหน้าลำพองใจแล้วยิ้มพูด: “พวกเธอคงไม่รู้สินะว่าที่นี่ถิ่นของใคร?”“ไม่กลัวที่จะต้องบอกพวกเธอ ที่นี่คือถิ่นของคุณชายตู้แก๊งเลี่ยหยาง กล้ามากำเริบเสิบสานที่นี่? หึ นั่นก็เป็นการรนหาที่ตายก็เท่านั้นเอง”“คุณชายตู้แก๊งเลี่ยหยาง?”หลงเสี่ยวจวิ้นพูดออกมาแบบนี้ นอกจากหลินเฟิงแล้ว ทุกคนก็สีหน้าเปลี่ยนไปแก๊งเลี่ยหยางเป็นถึงใหญ่ในเขตใต้ของเมืองจิง ถิ่นฐานในบริเวณใกล้ ๆ นี้แทบจะไม่มีใครกล้ามา
หน้าต่อหล่อเหลาแล้วมีประโยชน์อะไร? พบกับความอันตรายจริง ๆ คนอื่นเขาเห็นคุณหน้าตาดีก็จะไว้ชีวิตคุณงั้นเหรอ? เกรงว่าถึงเวลาคงจะวิ่งหนีเร็วยิ่งกว่าใครผู้ชายแบบนี้ พึ่งพาไม่ได้เด็ดขาด“พรรคพวก เป็นผู้ชายต้องมีความตั้งมั่นหน่อย ในเมื่อหวาดกลัว ก็อย่าฝืนออกมาห้ามปรามการทะเลาะวิวาทเลย ถ้าหากบาดเจ็บตรงไหนเขาจะไม่ดี”“อีกอย่าง เสียงหัวเราะเมื่อครู่นี้นายเป็นคนหัวเราะออกมาสินะ?”“ฉันช่วยนายเอาไว้ เราไม่พูดขอบคุณสักประโยค อย่างน้อยในใจก็ต้องมีความรู้สึกซาบซึ้งบ้างไหม?”หลงเสี่ยวจวิ้นตบไหล่ของหลินเฟิงด้วยความยั่วยวนสำหรับเรื่องนี้ หลินเฟิงไม่มีอะไรจะพูด เขาเพียงแค่ยิ้มแล้วส่ายหน้าด้วยสถานะของเขา จะเห็นเด็กเหลือขอพวกนี้อยู่ในสายตาได้อย่างไร หากคิดเล็กคิดน้อยกับพวกเขา กลับจะเป็นการเสียศักดิ์ศรี“เอาล่ะเอาล่ะ! ในเมื่อเรื่องนี้จัดการเรียบร้อยแล้ว งั้นพวกเราก็กลับกันก่อนเถอะ”ในเมื่อเป็นแขกคนสำคัญของคุณฉันใหญ่ตระกูลถัง อาอวี๋จึงเข้ามาไกล่เกลี่ย จากนั้นก็มองไปทางอวี๋จื่อเสวียนที่อยู่ข้าง ๆ: “จื่อเสวียน พ่อบอกกับลูกตั้งนานแล้ว ดึก ๆ ดื่น ๆ อย่าออกมาเพล่นพล่านข้างนอก โดยเฉพาะสถานที่แบบนี้ เจอก
ถูกลูกสาวชี้หน้าแล้วด่า แต่ยังไม่โกรธ พ่อแบบนี้ก็นับว่าเป็นที่สุดแล้วหลงเสี่ยวจวิ้นถึงแม้จะยิ้ม แต่ในใจกลับดูถูกพ่อของจื่อเสวียนมาก“โอเค งั้นรบกวนคุณด้วย”อาอวี๋เผยรอยยิ้มฝืน ๆ และพยักหน้าให้หลินเฟิงขณะที่ทั้งสองกำลังจะออกจากที่นั่นทันใดนั้นในโถงทางเดินของคาราโอเกะ ก็มีเสียงเอะอะดังขึ้นปรากฏว่าเป็นชายที่ใส่ชุดสูทที่กลับมาอีกครั้งครั้งนี้เขามาพร้อมกับการ์ดยี่สิบถึงสามสิบคน ถือมีดมาด้วย ท่าทางฮึกเหิมกร่างเข้ามา“พวกมันไง ล้อมเด็กพวกนี้ให้หมด!” ชายที่ใส่ชุดสูทร้องตะโกนเสียงดังเห็นกลุ่มการ์ดฟังคำสั่ง ยกมีดส่องแสงสว่างและล้อมรอบคนทั้งห้องท่าทางที่ดุดันทำให้ผู้ชายและผู้หญิงในห้องนั้นสีหน้าตกใจและหวาดกลัวพวกเขาทั้งหมดเป็นนักเรียน จะไปสู้กับพวกมือสังหารได้อย่างไร?“เดี๋ยวก่อน!”หลงเสี่ยวจวิ้นก้าวไปข้างหน้าสองก้าว พูดด้วยอารมณ์ที่เข้มแข็งว่า“ผมเตือนคุณนะ ที่นี่คือเขตของคุณชายตู้ พ่อผมก็มีความสัมพันธ์ที่ลึกซึ้งกับคุณชายตู้ ถ้าคุณกล้าฆ่าพวกเรา ละก็ระวังชีวิตของคุณเอาไว้!”“หม่อน! คุณกล้ามาขู่ฉันเหรอ?”ชายที่ใส่ชุดสูทตบหน้าหลงเสี่ยวจวิ้นอย่างแรง แล้วด่าว่า “รู้จักคุณชาย
หลินเฟิงยิ้มและยักไหล่พูดว่า “ฉันแค่คนดูเฉยๆ ไม่รู้จักเด็กพวกนี้เลยแม้แต่คนเดียว”คำพูดนี้ทำให้กลุ่มนักเรียนรู้สึกดูถูกทันทีแท้จริงแล้ว คนนี้กลัวจนตัวสั่น ไม่มีความกล้าหาญเลยชายที่ใส่ชุดสูทเห็นเช่นนั้น แต่เขาก็ไม่ได้สนใจหลินเฟิงพอหลินเฟิงไม่ได้ไปทำให้เขาลำบาก เขาจึงไม่อยากจัดการคนที่ไม่เกี่ยวข้องกับเรื่องนี้เขายังหวังว่าผู้ชมจะนำชื่อเสียงของเขาไปบอกต่ออีกด้วยชายที่ใส่ชุดสูทจึงหันความสนใจกลับไปที่หลงเสี่ยวจวิ้นอีกครั้ง เขาเดินไปข้างหน้าแล้วดึงผมหลงเสี่ยวจวิ้นขึ้นมา พร้อมกับยิ้มเยาะ “ไอ้หนู เมื่อกี้จะตีขาฉันหักไม่ใช่เหรอ? ตอนนี้ มาลองดูสิ ฉันให้โอกาสแก!”กลุ่มลูกน้องได้โยนไม้เบสบอลโลหะบนพื้นแบบทันเวลา“พี่ นี่มันเข้าใจผิดกันทั้งนั้น...”หลงเสี่ยวจวิ้นรู้สึกอัดอั้นใจแต่ไม่กล้าพูดอะไร ได้แต่ยิ้มแหยะๆ ว่า “เมื่อกี้ผมมีตาแต่ไม่มีแวว มองไม่ออกว่าคุณเป็นใคร เอาอย่างนี้ พรุ่งนี้ฉันจะจัดอาหารไว้หลายโต๊ะที่โรงแรม ถือเป็นการขอโทษคุณ ดีไหม?”Comment by -: “ไปตายซะ!”ชายที่ใส่ชุดสูทตบหน้าหลงเสี่ยวจวิ้นอีกครั้ง พร้อมด่าทอว่า“คิดว่าฉันเป็นอะไร? โต๊ะอาหารไม่กี่โต๊ะ ก็อยากให้ฉั
“เชอะ ไอ้แก่นี่”ชายที่ใส่ชุดสูทไม่อยากเสียเวลากับคำพูดเหลวไหล เขาถ่มน้ำลายแล้วกล่าวว่า “ฉันไม่มีเวลารอนะ ตอนนี้ฉันโกรธมาก ต้องหาผู้หญิงมาบรรเทาอารมณ์”“ฉันสนใจลูกสาวของแก ต้องจัดการเธอที่นี่ในวันนี้ ใครก็ห้ามไม่ได้!”เขายกมือขึ้น สั่งการให้ลูกน้องสองคนเดินออกมาและจับอวี๋จื่อเสวียนไว้ อาอวี๋พยายามจะเข้าไปขัดขวาง แต่กลับถูกทำร้ายจนล้มลงกับพื้น “พวกคุณปล่อยฉัน!” เมื่อเห็นว่าเรื่องนี้ทำจริง อวี๋จื่อเสวียนเริ่มกลัว เธอพยายามดิ้นและร้องตะโกนอย่างยุ่งเหยิงสายตาของเธอที่ขอความช่วยเหลือ หันไปมองหลงเสี่ยวจวิ้นอีกครั้งเขาคือเจ้าชายในฝันของเธอ ถือเป็นคนเดียวในสายตาของเธอที่สามารถช่วยได้“แค๊กๆ...”หลงเสี่ยวจวิ้นไอออกมาเบาๆ และพยายามรวบรวมความกล้าเงยหน้าขึ้นพูดว่า "พี่ มีอะไรพูดกันดีๆ คนนี้เป็นเพื่อนของผม โปรดให้เกียรติ ขอร้องคุณปล่อยเธอไปเถอะนะ!"Comment by -: “ผมจะหาผู้หญิงที่ดีกว่านี้ให้คุณ”เมื่อชายที่ใส่ชุดสูทได้ยินเช่นนั้น เขากลับตบหน้าหลงเสี่ยวจวิ้นอย่างแรง พร้อมด่าทอว่า “ฉันยังไม่ได้จัดการกับแกเลย แกกล้านึกจะเข้ามาช่วยอีกเหรอ?”“ให้เกียรติ? แกมีสิทธิ
“พ่อ!”อวี๋จื่อเสวียนสีหน้าขาวโพลน เธอเพิ่งจะวิ่งไปทางนั้น แต่กลับถูกใครบางคนจับไว้“เหี้ยเอ้ย ไอ้แก่ กล้าข่มขู่ฉันเหรอ?!”ชายที่ใส่ชุดสูทสัมผัสเลือดที่คอ รู้สึกหวาดกลัวในใจ แต่ความรู้สึกนั้นกลับถูกแทนที่ด้วยความโกรธทันที“ฉันเล่นกับลูกสาวของแกเป็นเกียรติสำหรับแก แกไม่พอใจก็ช่าง ยังข่มขู่ฉันอีก”“ฟันเขาได้เลย!”พูดจบ การ์ดคนหนึ่งก็วิ่งเข้าไปข้างหน้า ยกมีดที่อยู่ในมือขึ้นและตั้งใจจะฟันแขนของอาอวี๋ขณะที่อาอวี๋ก็ล้มลงไปกับพื้น ไม่มีแรงที่จะต้านทานใด ๆ“พ่อ——!”อวี๋จื่อเสวียนร้องตะโกนเสียงดัง“ฉึก!”ในขณะที่ทุกคนคิดว่าแขนของอาอวี๋กำลังจะถูกฟันขาด ชายที่ใส่ชุดสูทกลับเห็นมีดในมือของเขาถูกจับไว้โดยมือหนึ่งการ์ดคนนี้ชะงักไป ไม่ว่าเขาจะพยายามขนาดไหน มีดในมือก็ไม่สามารถฟันลงมาได้ ถึงเขาจะใช้มือจับมีดไว้ แต่ทำไมมือของเขากลับไม่เปื้อนเลือด?!ทุกคนต่างก็เห็นเหตุการณ์นี้ สบตากันด้วยสีหน้าที่ไม่อยากเชื่อ“หยุดแค่นี้เถอะ”ผู้ที่จับมีดไว้ได้ คือหลินเฟิงด้วยระดับความแข็งแกร่งที่เขามีในปัจจุบัน แม้แต่การใช้พลังงานด้านในก็สามารถป้องกันไม่ให้มีด หรือแม้แต่กระสุนทำร้ายเขาได้
“อืม...”เมื่อมองไปที่ชายที่ใส่ชุดสูทที่นอนอ่อนแรงอยู่บนพื้น ทุกคนต่างรู้สึกงงไปหมดลูกน้องของชายที่ใส่ชุดสูทยิ่งเหงื่อตก มองหน้ากันด้วยท่าทางไม่เชื่อไม่ต้องกล่าวถึงว่าหนุ่มคนนี้ฝีมือเป็นอย่างไรแต่แค่ที่เขากล้าลงมือก็ทำให้ทุกคนในที่นั้นรู้สึกเหมือนอยู่ในความฝันต้องรู้ว่า ชายที่ใส่ชุดสูทตอนนี้ไม่เพียงแต่คนเยอะ และยังเป็นน้องชายแท้ๆ ของคุณชายตู้ด้วยชายที่ใส่ชุดสูทไม่เคยได้รับการปฏิบัติเช่นนี้มาก่อนพูดจริงๆ เลย ชายที่ใส่ชุดสูทที่นี่มีสถานะสูงกว่าใคร ไม่มีใครกล้าที่จะยั่วเขา แม้แต่หลงเสี่ยวจวิ้นที่มีฐานะดีในตระกูลหลง ก็ยังต้องยิ้มและก้มหัวให้กับเขาแต่หนุ่มคนนี้กลับกล้าเถียงเขา และยังกล้าลงมือทำร้ายแบบนี้อีก“ถึงขนาดกล้าที่จะตีคนที่เป็นน้องชายของคุณชายตู้ เขาบ้าหรือเปล่า?”“ถ้าได้ปะทะกับคุณชายตู้ นั่นไม่ใช่ปะทะกับแก๊งเลี่ยหยางหรือ? จบเห่แน่ เขาคงตายไปแล้ว”Comment by -: “นี่มันเรียกว่าหัวรั้นชัดๆ เขาคงไม่รู้หรอกว่าเขากำลังปะทะกับใครอยู่”“ดูเหมือนจะเป็นคนจากต่างจังหวัด”ไม่เพียงแค่เหล่าลูกน้องของชายที่ใส่ชุดสูท แม้แต่นักเรียนคนอื่นๆ ก็ยังมองหลินเฟิงด้วยสายตาเห็นใจ