“โอวหยางชิ่ง?”“แก…แกยังไม่ตาย?!”เซี่ยงตงเซิงเห็นโอวหยางชิ่งก็ตกตะลึงยิ่งกว่าเห็นหลินเฟิง เขามองโอวหยางชิ่งที่ถือกระบี่ยาวด้วยใบหน้าเหลือเชื่อ“หึ ขอโทษด้วยนะ ทำให้นายผิดหวังแล้ว ฉันยังมีชีวิตอยู่อย่างดี!”โอวหยางชิ่งยิ้มเยาะ จากนั้นขมวดคิ้วขึ้น และตวาดเสียงดัง: “เซี่ยงตงเซิง แกฆ่าพ่อของฉัน และต้อนฉันจนกระโดดหน้าผาให้ตาย วันนี้ฉันจะจบเรื่องกับแก!” พูดจบ โอวหยางชิ่งก็ถือกระบี่พุ่งเข้าไปโดยตรง“ไอ้พวกสวะไร้ประโยชน์…”เซี่ยงตงเซิงกัดฟันแทบแตก ถึงว่าลูกน้องของเขาหาศพของโอวหยางชิ่งไม่เจอมาโดยตลอดที่แท้เธอยังมีชีวิตอยู่เซี่ยงตงเซิงไม่มีทางนิ่งเฉยอยู่แล้ว เขาพลิกโต๊ะเหล้าขึ้นอย่างแรง ตัวเองกลับถอยหลังตึกตึกตึกไปหลายก้าว และนำกระบี่ที่แขวนอยู่บนกำแพงมาไม่ว่าอย่างไร เซี่ยงตงเซิงก็เป็นยอดฝีมือกำลังภายใน“หือ? ไป๋เจิ้นหัว คุณมาทำอะไรที่นี่?”เห็นโอวหยางชิ่งโกรธเป็นฟืนเป็นไฟ และใช้กระบี่ฟันโต๊ะ สู้รบอยู่กับเซี่ยงตงเซิงหลินเฟิงกลับเดินเข้ามาจากประตูช้า ๆ และมองเห็นไป๋เจิ้นหัวนั่งทรุดอยู่บนพื้น“ฉัน…ฉัน…”ไป๋เจิ้นหัวพูดคำว่าฉันอยู่นาน ก็พูดคำอื่นไม่ออก“นี่คืออะไร?”หลินเฟิงเ
มือข้างซ้ายของเซี่ยงตงเซิงที่ซ่อนอยู่ จู่ ๆ ก็กดกล่องลับที่อยู่ตรงใต้กำแพงเห็นเพียงแค่ว่าปืนสีดำกระบอกหนึ่งเด้งออกมาจากด้านข้าง ตกลงในมือของเซี่ยงตงเซิงส่วนโอวหยางชิ่งในตอนนี้ยังคงแทงกระบี่ออกไปใส่เซี่ยงตงเซิงเซี่ยงตงเซิงกลับยกมือขึ้นแสยะยิ้ม จากนั้นใช้ปากกระบอกปืนที่เป็นรูสีดำจ่อไปที่หน้าผากของโอวหยางชิ่ง “อะ…”โอวหยางชิ่งถลึงตาโต เธอคิดไม่ถึงเลยว่าเซี่ยงตงเซิงจะยังสำรองแผนเอาไว้เทียบกับการที่วิชากระบี่ของเธอตกไปที่ตัวของเซี่ยงตงเซิง กระสุนของเซี่ยงตงเซิงจะต้องทะลุหน้าผากของเธอก่อนแน่นอนโอวหยางชิ่งกัดริมฝีปาก และปิดตาลงอย่างไม่อยากยอมรับ“ปัง! เปรี้ยง!”กระสุนถูกยิงออกไป จากนั้นก็ตามมาด้วยกลิ่นดินประสิวที่รุนแรงโอวหยางชิ่งค่อย ๆ ลืมตาขึ้น เธอคิดว่าตัวเองถูกยิงไปแล้ว แต่วินาทีต่อมา เธอเห็นปืนของเซี่ยงตงเซิงกระเด็นออกไปกระสุนที่ถูกยิงออกไปเมื่อครู่เพียงแค่ยิงโดนแจกันดอกไม้ที่อยู่ด้านหลังของเธอ“หลินเฟิง!”เซี่ยงตงเซิงมองไปทางหลินเฟิงด้วยความดุดัน เมื่อครู่เป็นเพราะหลินเฟิงใช้พลังชี่แท้ปล่อยออกมาจากที่ไกล ๆ ทำให้ปืนในมือของเขากระเด็นออกไป“ฮึบ!”โอวหยางชิ่งมองเห็นโ
“เอ่อ…”ฟ่านหลิงเยว่ที่อยู่ข้าง ๆ รู้สึกเก้กังเล็กน้อย เธอกะพริบตา และหันหน้ามองไปทางหลินเฟิง: “คือ…พี่หลินเฟิง ฉันก็ควรจะกอดพี่ใช่ไหม?”“อย่าล้อเล่น”หลินเฟิงรีบผลักฟ่านหลิงเยว่ที่ขยับเข้ามาใกล้หมิงอิ่งอิ่งตามมาคนสุดท้ายเธอมองดูสาว ๆ ที่ล้อมรอบหลินเฟิงแล้วพูดจากะหนุงกะหนิง มีทั้งสุขุมเป็นผู้ใหญ่ มีทั้งออดอ้อนหยาดเยิ้ม มีร้องไห้เสียงดัง และก็มีเบะปากจึงอดไม่ได้ที่จะประหลาดใจ“จ้าวเทียนหัว นี่มันเรื่องอะไรกัน?”หลินเฟิงเห็นจ้าวเทียนหัวที่พาคนเดินมาจ้าวเทียนหัวยิ้มบางแล้วพูดว่า: “คุณชายหลิน คุณหนูพวกนี้ไม่ได้รับการทรมานใดๆ ทั้งสิ้น”อาจเป็นเพราะความเห็นแก่ตัว ถึงแม้พวกเขาจะถูกขังอยู่ในตระกูลเซี่ยง แต่ไม่ได้อยู่ในห้องใต้ดิน กลับไปอยู่ที่ห้องพักแขก”“อืม วางใจเถอะหลินเฟิง พวกเราไม่เป็นอะไร”หลี่ฮุ่ยหรานยิ้มบางให้หลินเฟิง“จะไม่เป็นไรได้อย่างไร?”ถังหว่านกอดอกพูดอย่างไม่พอใจ: “เมื่อคืนนอนเบียดเตียงเดียวกับเธอ เธอเกือบจะเบียดฉันตกเตียง! หลี่ฮุ่ยหราน เธอควรจะลดความอ้วนได้แล้ว!”“เธอ…เธอพูดจาซี้ซั้ว”หลี่ฮุ่ยหรานได้ยินคำตำหนิของถังหว่าน สีหน้าก็แดงระเรื่อง และตอบโต้กลับเสีย
“ครับ คุณหลิน”จ้าวเทียนหัวไม่กล้าถามว่าทำไม และรับปากเอาไว้ทันทีหลินเฟิงมาที่ข้างรถของตัวเอง พบว่าบนรถมายบัคถูกเบียดแน่นไปหมดผู้หญิงสี่ห้าคนกำลังแก่งแย่งถกเถียงกันว่าใครจะนั่งตรงที่นั่งข้างคนขับสุดท้าย หลินเสวี่ยฮุ่ยได้รับชัยชนะแน่นอนว่า เธอได้รับชัยชนะไม่ใช่เพราะว่าถังหว่านหรือหลี่ฮุ่ยหรานแพ้ให้เธอแต่เป็นเพราะหลี่ฮุ่ยหรานกับถังหว่านต่างไม่อยากเห็นอีกฝ่ายนั่งตรงที่นั่งข้างคนขับ“หึ ยังไงซะที่นั่งข้างคนขับของสามีฉันได้นั่งตั้งหลายครั้งแล้ว”ถังหว่านไขว่ห้าง และกอดอกด้วยความหยิ่งยโส“หึ ใครเป็นสามีของคุณ หน้าหนาหน้าทนจริง ๆ”ในที่สุดหลี่ฮุ่ยหรานก็สูญเสียความสงบเสงี่ยมของสาวสวยเย็นชาไป และสู้รบอยู่ด้วยกันกับถังหว่าน“พวกคุณ…พอได้แล้ว”หลินเฟิงกุมขยับ เขาแอบรู้สึกว่าชีวิตของตัวเองในอนาคตเกรงว่าจะไม่สงบสุขแล้ว“หลินเฟิง ฉันไม่กลับไปกับคุณแล้วนะ”หมิงอิ่งอิ่งยืนอยู่ข้างหน้าหน้าต่าง และโบกมือให้หลินเฟิง“ซือหม่าหาวตายไปแล้ว ในที่สุดพวกเขาก็ยอมปล่อยฉันแล้ว ในที่สุดฉันก็ได้ใช้ชีวิตอย่างที่ตัวเองต้องการแล้ว”“จะไม่เป็นไรเหรอ?”หลินเฟิงขมวดคิ้ว เขายังรู้สึกไม่วางใจเล็กน้อย
“เอาล่ะเอาล่ะ ไม่พูดเรื่องนี้แล้ว”หลี่ฮุ่ยหรานโบกมือแล้วยิ้มบาง ๆ พูดว่า: “วันนี้ที่มานี่ก็เพื่อที่จะแบ่งปันข่าวดีกับคุณเรื่องหนึ่ง เชื้อสายทางเจียงเป่ยถือว่าได้กลับมารวมกับตระกูลหลี่เมืองเจียงหนานแล้ว”“อืม จากนั้นล่ะ?”หลินเฟิงไม่รู้สึกใด ๆ ทั้งสิ้นสีหน้าแบบนี้ของหลินเฟิงก็ไม่ได้ทำให้หลี่ฮุ่ยหรานประหลาดใจในสายตาของเธอแฝงไปด้วยรอยยิ้ม: “ไม่เพียงแค่นี้ คุณลุงของฉันยังบอกว่า ฉันไม่เพียงได้กลับเข้าสู่ตระกูลหรูหราเมืองเจียงหนาน อีกทั้งยังฉันยังได้เป็นตัวเลือกชิงตำแหน่งผู้นำของตระกูลได้สำเร็จด้วย!”“เป็นแค่ตัวเลือกเหรอ?”หลินเฟิงเหยียดหยาม“เห้อ คนเราอย่าโลภมากเกินไป!”หลี่ฮุ่ยหรานเคาะศีรษะของหลินเฟิงเบาๆ จากนั้นยิ้มพูด: “สิทธิ์ในการเป็นตัวเลือกนั้นมีคนมากมายพยายามอย่างมากที่จะได้สิทธิ์มา!”“ฉันที่เพิ่งจะได้กลับเข้าสู่ตระกูล ได้รับเลือกเป็นตัวเลือกก็ไม่เลวแล้ว!”พูดตามตรงก่อนหน้านี้หลี่ฮุ่ยหรานก็เป็นเหมือนกับหลินเฟิง เธอไม่ได้ใส่ใจมากนัก สำหรับการกลับเข้าสู่ตระกูลหลี่เมืองเจียงหนานเพราะเธอรู้ว่า ต่อให้เธอกลับเข้าสู่ตระกูลหลี่เมืองเจียงหนาน ก็เป็นแค่ญาติสายข้างเล็ก ๆ เท่าน
ในเมื่อถังหว่านเป็นคุณหนูของตระกูลถัง สถานะนี้สำหรับหลี่ฮุ่ยหรานนั้น ยังต่างกันเยอะมากหลี่ฮุ่ยหรานที่หยิ่งผยองจึงไม่มีทางยอมรับได้อยู่แล้วแต่ตอนนี้โอกาสมาถึงแล้วเพียงแค่หลี่ฮุ่ยหรานได้กลายเป็นผู้นำตระกูลของตระกูลหลี่เมืองเจียงหนาน แบบนั้นแล้วเธอก็ยืนอยู่ในตำแหน่งที่สูงระดับเดียวกับถังหว่านสุดท้ายใครแพ้ใครชนะ ใครจะได้รับสิทธิ์ในการต่อสู้ครั้งสุดท้าย งั้นก็ต้องดูความสามารถของแต่ละคนแล้ว!“กริ๊งกริ๊ง…”ในตอนนี้ โทรศัพท์มือถือของหลี่ฮุ่ยหรานดังขึ้นกะทันหัน“ฮัลโหล?” หลี่ฮุ่ยหรานรับสาย และเสียงของจางกุ้ยหลานก็ดังขึ้นมาทันที: “ลูกสาว ตอนนี้ลูกอยู่ที่ไหน? เร็วเลย รีบลูกกลับมาเร็ว ๆ คุณนายบ้านรองของตระกูลหลี่เมืองเจียงหนานมาแล้ว เธอต้องการจะพบลูก!”“เธอมาหาหนูทำไม?”หลี่ฮุ่ยรานเหลือบมองหลินเฟิงแล้วถามลองเชิงตอนนั้นพี่น้องของหลี่ไห่ซานเป็นวัยรุ่น เขาแต่งงานมีภรรยาสามคนนี่ก็เป็นเหตุผลที่พี่น้องของหลี่ฮุ่ยหลันตัดขาดกัน“อุ๊ยลูก ลูกได้รับแจ้งจากลุงของลูกแล้วไม่ใช่เหรอว่า ลูกถูกเลือกเป็นผู้สมัครชิงตำแหน่งผู้นำตระกูลแล้วไม่ใช่เหรอ? คุณนายบ้านรองมาที่นี่ เกรงว่ามาดึงลูกเป็นพวกก็เพรา
“หึ ยังจะแก้ตัวอยู่ตรงนี้อีก”จางกุ้ยหลานยิ่งคิดยิ่งโมโห และพูดด้วยความเดือดดาล: “ซินซินเอาไปให้คนดูแล้ว เถ้าแก่อวี๋ฮั่วหลงของซื่อฟางเจีย เขาเป็นถึงผู้เชี่ยวชาญ ผู้เชี่ยวชาญคงจะไม่ได้ดูผิดหรอกมั้ง?”“เขาพูดไว้แล้ว นั่นเป็นแค่ลูกแก้วปลอม!”“ของแผงลอยราคาห้าหกสิบบาท”“หลินเฟิง ฉันเตือนแกนะ แกอย่าคิดจะใช้ลูกแก้วปลอมหลอกเอาลูกสาวของฉันไป ถ้าอยากจะแต่งงานกับลูกสาวของฉัน อย่างน้อยนายจะต้องควักเงินค่าสินสอดราคาสองร้อยห้าสิบล้านบาทให้ฉัน”จางกุ้ยหลานจับมือของหลี่ฮุ่ยหรานเอาไว้ และจ้องมองหลินเฟิงด้วยความดุดัน“แม่ แม่เข้าใจผิดหรือเปล่า? หลินเฟิงไม่มีทางทำเรื่องแบบนั้น”หลี่ฮุ่ยหรานลองพูดไกล่เกลี่ย“จะมีความเข้าใจผิดอะไร? หลักฐานชัดเจน หลินเฟิงเป็นคนโกหกหลอกลวง!”จางกุ้ยหลานพูดด้วยความโมโห: “ไม่แน่เรื่องที่ให้คุณชายตระกูลหลงยอมแพ้ให้เขาก็เป็นเรื่องโกหก! ลูก ลูกอย่าถูกมันหลอกนะ!“พอแล้ว!”หลินเฟิงตะโกนเสียงต่ำ และเหลือบตามองคนตระกูลหลี่เมืองเจียงหนานที่กำลังดูความครึกครื้นอยู่ จึงไม่อยากตอแยกับจางกุ้ยหลานจนมากเกินไปจากนั้นก็ถามด้วยความเย็นชา: “จางซินล่ะ? คุณเรียกเธอออกมาถามก็รู้แล้ว
จางกุ้ยหลานนั่งทรุดตัวลงบนพื้น อยากจะร้องไห้แต่กลับร้องไม่ออกเธอจะไปรู้ได้ยังไงกันว่าหลินเฟิงจะมอบพลอยทับทิมที่มีมูลค่าขนาดนี้ให้ได้ตามใจชอบตอนนี้เธอเสียใจจนแทบตายแล้ว“พวกเธอทำอะไรกันอยู่ตรงนั้นน่ะ?! ไม่เห็นเหรอว่าแม่รองของฉันรอพวกเธออยูที่นี่นานมากแล้ว?!”“มีมารยาทและการอบรมสั่งสอนบ้างไหม?!ในที่สุดโจวอวี้เฟิ่งที่อยู่ไกลออกไปก็อดทนไม่ไหว เธอวางแก้วกาแฟลงอย่างแรง กระแทกบนโต๊ะกระจกดัง “ปัง”ให้แม่รองของเธอรอเป็นเวลานานขนาดนี้ คนพวกนี้ยังพูดพล่ามอยู่ที่ตรงนั้นไม่หยุดโดยเฉพาะจางกุ้ยหลาน นั่งลงตรงนั้นอยู่บนพื้นเหมือนกับแม่ตาย ไม่รู้จักเด็กไม่รู้จักผู้ใหญ่จริง ๆ“ช่างเถอะ เรื่องนี้ค่อยว่ากันทีหลัง ตอนนี้จัดการธุระก่อน”หลินเฟิงรู้ว่าหลี่ฮุ่ยหรานให้ความสำคัญกับการเจอหน้าในวันนี้อย่างมาก จึงพูดปลอบใจทังสองคนเล็กน้อยเมื่อถูกหลินเฟิงเตือนสติแบบนี้ หลี่ฮุ่ยหรานก็ตั้งตัวกลับมาได้ถึงแม้ในใจจะคิดถึงพลอยทับทิมเม็ดโตนั้น แต่เธอรู้ว่าตอนนี้เธอมีเรื่องที่สำคัญยิ่งกว่า“หลี่ฮุ่ยหราน ท่านนี้ก็คือแม่รองของฉัน และก็เป็นคุณย่ารองของเธอ อยู่ที่ตระกูลหลี่เมืองเจียงหนานเป็นคนที่พูดคำไหนคำนั