จางกุ้ยหลานนั่งทรุดตัวลงบนพื้น อยากจะร้องไห้แต่กลับร้องไม่ออกเธอจะไปรู้ได้ยังไงกันว่าหลินเฟิงจะมอบพลอยทับทิมที่มีมูลค่าขนาดนี้ให้ได้ตามใจชอบตอนนี้เธอเสียใจจนแทบตายแล้ว“พวกเธอทำอะไรกันอยู่ตรงนั้นน่ะ?! ไม่เห็นเหรอว่าแม่รองของฉันรอพวกเธออยูที่นี่นานมากแล้ว?!”“มีมารยาทและการอบรมสั่งสอนบ้างไหม?!ในที่สุดโจวอวี้เฟิ่งที่อยู่ไกลออกไปก็อดทนไม่ไหว เธอวางแก้วกาแฟลงอย่างแรง กระแทกบนโต๊ะกระจกดัง “ปัง”ให้แม่รองของเธอรอเป็นเวลานานขนาดนี้ คนพวกนี้ยังพูดพล่ามอยู่ที่ตรงนั้นไม่หยุดโดยเฉพาะจางกุ้ยหลาน นั่งลงตรงนั้นอยู่บนพื้นเหมือนกับแม่ตาย ไม่รู้จักเด็กไม่รู้จักผู้ใหญ่จริง ๆ“ช่างเถอะ เรื่องนี้ค่อยว่ากันทีหลัง ตอนนี้จัดการธุระก่อน”หลินเฟิงรู้ว่าหลี่ฮุ่ยหรานให้ความสำคัญกับการเจอหน้าในวันนี้อย่างมาก จึงพูดปลอบใจทังสองคนเล็กน้อยเมื่อถูกหลินเฟิงเตือนสติแบบนี้ หลี่ฮุ่ยหรานก็ตั้งตัวกลับมาได้ถึงแม้ในใจจะคิดถึงพลอยทับทิมเม็ดโตนั้น แต่เธอรู้ว่าตอนนี้เธอมีเรื่องที่สำคัญยิ่งกว่า“หลี่ฮุ่ยหราน ท่านนี้ก็คือแม่รองของฉัน และก็เป็นคุณย่ารองของเธอ อยู่ที่ตระกูลหลี่เมืองเจียงหนานเป็นคนที่พูดคำไหนคำนั
“คุกเข่าแต่แรกไม่ดีเหรอ? ทำไมต้องอิด ๆ ออด ๆ อยู่นาน ไม่มีมารยาทจริง ๆ”โจวอวี้เฟิ่งส่งเสียงไม่พอใจส่วนหลี่เยว่หรูที่อยู่ข้าง ๆ มองหลี่ฮุ่ยหรานที่คุกเข่าลงด้วยความเคารพ ในดวงตาก็เผยความอิจฉาอย่างรุนแรงออกมาต่อให้เป็นตัวเลือกผู้นำตระกูล ก็ต้องคุกเข่าเสิร์ฟน้ำชาที่ตรงหน้าคุณย่าของฉันอย่างว่าง่าย?ใบหน้าของหลี่ฮุ่ยหรานเผยความลำพองใจออกมา เหมือนว่าหลี่ฮุ่ยหรานไม่ได้กำลังคุกเข่าให้คุณนาย แต่คุกเข่าให้กับเธอดูท่าเธอรู้สึกไม่พอใจอย่างมากต่อสิทธิที่หลี่ฮุ่ยหรานได้เป็นตัวเลือกของผู้นำตระกูลมองดูหลี่ฮุ่ยหรานก้มหน้าคุกเข่า หลินเฟิงขมวดคิ้วเล็กน้อย เขามองเห็นสิ่งต่ำทรามเหล่านี้ไม่ได้ประเพณีแบบนี้ ต่อให้เป็นบนตัวของราชาหลินแห่งตอนใต้ที่ความคิดล้าสมัยก็ยังไม่มี แต่บนตระกูลเล็ก ๆ ในสถานที่แบบนี้กลับคิดเล็กคิดน้อยอย่างมากนี่มันเป็นวิธีการข่มคนรุ่นหลังชัด ๆแต่เมื่อคิดว่าหลี่ฮุ่ยหรานให้ความสำคัญกับสิทธิ์ในการได้เป็นตัวเลือกผู้นำตระกูลขนาดนี้ หลินเฟิงก็ยังอดกลั้นเอาไว้ และไม่พูดไม่จาคุณนายชื่อว่าหลิ่วเยว่ฟาง เป็นภรรยาคนที่สองของนายท่านตระกูลหลี่เมืองเจียงหนานเธอมองหลี่ฮุ่ยหรานด้วยสีหน
“ได้ได้ได้ ฉันจะรินชาใหม่เดี๋ยวนี้”จางกุ้ยหลานรีบรินน้ำชาใหม่อีกแก้ว และยื่นให้หลี่ฮุ่ยหราน จากนั้นใช้สายตาส่งซิกให้หลี่ฮุ่ยหรานเสิร์ฟชาให้หลิ่วเยว่ฟางอีกครั้งหลี่ฮุ่ยหรานกำหมัดแน่น กำลังอยากจะปฏิเสธอีกครั้งแต่ในหัวจู่ ๆ ก็ปรากฏใบหน้าของถังหว่านขึ้นมาสถานะของเธอกับถังหว่านมีความแตกต่างอยู่มากมีเพียงกลายเป็นผู้นำตระกูล ถึงจะสามารถหลุดพ้นจากสถานภาพแบบนี้ได้ ถึงขั้นที่เปลี่ยนเป็นฝ่ายโจมตีคิดแล้ว หลี่ฮุ่ยหรานกำลังจะรับไว้แต่ระหว่างนั้น กลับถูกหลินเฟิงที่ทนดูต่อไปไม่ไหวแย่งแก้วไป“หลินเฟิง นายจะทำอะไร?!”จางกุ้ยหลานนิ่งอึ้งเล็กน้อย จากนั้นก็ชักสีหน้าขึ้นมาไอ้หมอนี่หรือว่าจะขัดขวางเธอในช่วงเวลาาสำคัญอีกแล้วเหรอ?ถ้าหากล่วงเกินหลิ่วเยว่ฟาง อย่าว่าแต่ตัวเลือกผู้นำตระกูลเลย ไม่แน่ยังอาจถูกไล่ออกตระกูลหลี่เมืองเจียงหนานทันที!“หลินเฟิง…”หลี่ฮุ่ยหรานรู้ว่าหลินเฟิงทนดูต่อไปไม่ได้แล้ว และไม่อยากให้เธอได้รับความไม่ยุติธรรมแบบนี้ถึงได้ลงมือในตอนที่ทุกคนกำลังลังเล หลินเฟิงก็ยิ้มเยาะ และยกถ้วยน้ำชา สาดไปที่ใบหน้าของหลิ่วเยว่ฟาง“ว้าย!”หลิ่วเยว่ฟางกรีดร้อง ใบหน้าที่ถูกราดด้วย
โอกาสหายากแบบนี้จะพลาดไม่ได้เด็ดขาด!เพื่อบริษัทมูลค่าห้าหมื่นล้านบาท ต่อให้ได้รับความไม่ยุติธรรม นั่นจะนับประสาอะไร?มองดูสายตาตื่นเต้นของแม่ของตัวเอง หลี่ฮุ่ยหรานส่ายหน้า สุดท้ายก็ยกแก้วชาขึ้นมาต่ออีกถึงขั้นที่ส่ายหน้าให้หลินเฟิง ขอร้องไม่ให้หลินเฟิงเข้ามายุ่งหลินเฟิงเห็นแบบนี้ ก็ถอยไปด้านข้างด้วยใบหน้านิ่งเฉย ดวงตาของเขาจับจ้องไปที่หลิวเยว่ฟาง ทำให้หลิ่วเยว่ฟางรู้สึกหงุดหงิดเห็นหลี่ฮุ่ยหรานยกถ้วยน้ำชาขึ้นมาอีกครั้ง ครั้งนี้หลิ่วเยว่ฟางกอดอกและไม่ยอมรับเธอตบเอกสารแต่งตั้งที่อยู่บนโต๊ะ จากนั้นชี้ไปทางหลินเฟิง และพูดอย่างเย็นชา: “ถ้าหากเธออยากได้หนังสือแต่งตั้งฉบับนี้ ก็สาดน้ำชาที่อยู่ในมือเธอไปที่ใบหน้าของไอ้หมอนั่น!”ได้ยินคำพูดของหลิ่วเยว่ฟาง หลี่ฮุ่ยหรานนิ่งอึ้งทันทีเธอหันหน้ามองไปทางหลินเฟิง ส่วนหลินเฟิงกลับกอดอกไม่แสดงท่าทีใด ๆนี่เห็นได้ชัดว่าต้องการแก้แค้น อีกทั้งยังตั้งใจกลั่นแกล้งหลี่ฮุ่ยหราน“ลูก ยังจะรออะไรอีก?!”จางกุ้ยหรานร้อนใจแล้ว ถึงขั้นที่จะแย่งถ้วยชาที่อยู่ในมือหลี่ฮุ่ยหรานมาสาดหน้าหลินเฟิงแทนเธอ“เมื่อครู่หลินเฟิงเสียมารยาทต่อผู้อาวุโส ตอนนี้ก็เพียง
จางกุ้ยหลานส่งสายตาไปทางหลินเฟิง ก็รู้ได้ทันทีว่าลูกสาวของตัวเองทำไมถึงได้กลายสภาพเป็นอย่างในตอนนี้จางกุ้ยหลานหันหน้าไป และเล็งไปทางเสาที่อยู่ในห้องรับแขกจากนั้นตะโกนข่มขู่หลี่ฮุ่ยหราน:“ฮุ่ยหราน ถ้าวันนี้แกไม่ขอโทษคุณย่ารองของแก และได้รับหนังสือของบริษัทห้าหมื่นล้านบาท วันนี้ฉันก็จะชนเสาให้ตายไปซะ!”“แม่ แม่อยากจะชนก็ชนเถอะ”หลี่ฮุ่ยหรานไม่สะทกสะท้านเธอส่ายหน้า และเดินตรงไปทางโซฟา ภายใต้สายตาตกตะลึงของจางกุ้ยหลานเธอเหยียดสายตามองคนของตระกูลหลี่เมืองเจียงหนานจากนั้นพูดด้วยความเย็นชา: “คุณย่ารอง ถ้าหากวันนี้คุณมาเพราะอยากจะเหยียดหยามฉัน และแสดงอำนาจของคุณ งั้นฉันบอกคุณให้นะว่าคุณมาหาผิดคนแล้ว”“ในอดีต เพื่อบริษัทห้าหมื่นล้านบาทนั่น บางทีฉันอาจจะยอมให้คุณเหยียดหยามตามใจชอบ”“แต่ตอนนี้…”หลี่ฮุ่ยหรานสายตาเปลี่ยนไปเย็นชา และตวาดเสียงต่ำ: “พวกคุณอยู่ในสายตาฉันก็คือตัวตลกกลุ่มหนึ่ง อย่าให้เกียรติแล้วไม่ยอมรับไว้!”ท่าทางเผด็จการของหลี่ฮุ่ยหรานทำให้คนตระกูลหลี่เมืองเจียงหนานถลึงตาโตถึงขั้นที่ทำให้หลิ่วเยว่ฟางโมโหจนตบหน้าอก และเกือบล้มลงบนพื้น“ได้…ได้ได้ได้…”หลิ่วเยว่ฟาง
หลี่ฮุ่ยหรานรีบวิ่งอย่างรวดเร็ว แล้วโผเข้าหาหลินเฟิง ก่อนจะฝังใบหน้าไปที่หน้าอกของหลินเฟิง“ฮือ...หลินเฟิง จะทำยังไงดี ฉันก่อเรื่องวุ่นวายเข้าซะแล้ว เกรงว่าตอนนี้คุณสมบัติของผู้สมัครเป็นผู้นำจะถูกเพิกถอนด้วย”“บริษัทห้าหมื่นล้านนะ! นั่นนก็คือบริษัทที่มีมูลค่าตลาดหลายหมื่นล้าน ถ้าฉันได้มาก็ไม่ต้องมองใบหน้าของถังหว่านแล้ว ฮือฮือฮือ.....”เมื่อเห็นท่าทางเศร้าเสียใจราวกับลูกสาวตัวน้อยของหลี่ฮุ่ยหราน หลินเฟิงก็เผลอหัวเราะออกมา ก่อนจะตบปลอบใจที่ด้านหลังของเธอ“เมื่อครู่ไม่ใช่ว่าคุณมั่นใจมากงั้นหรอกเหรอ?”หลินเฟิงยิ้มแล้วมองไปที่เธอ“ฉัน...ฉันเสแสร้งทำออกมานี่นา!”หลี่ฮุ่ยหรานบุ้ยปากและพูดออกมาอย่างขมขื่น “ฉันคิดแค่ว่าถังหว่านจะทำยังไง เพราะงั้นก็เลยใจร้อนทำแบบนี้ไป”“คุณยังหัวเราะฉันอีก!”หลี่ฮุ่ยหราน ยกกำปั้นสีชมพูขึ้นมา ก่อนจะทุบไปที่หน้าอกของหลินเฟิง“ตอนนี้มันจบสิ้นแล้ว...”หลี่ฮุ่ยหรานยังคงคร่ำครวญไม่หยุด และหลินเฟิงก็มองความแตกต่างที่เห็นได้ชัดของหลี่ฮุ่ยหราน ผู้หญิงที่แข็งแกร่งมากอย่างนี้ ในตอนนี้แค่รู้สึกมันว่าน่าขัน แต่ก็ไม่สามารถหัวเราะออกมาเสียงดังได้ก่อนจะเม้มปากด้ว
จางกุ้ยหลานนี่ไม่มีสมองจริง ๆใช่ไหม?ให้หลินเฟิงเข้าไปขอโทษ?หลิวเยว่ฟางก็คู่ควรงั้นเหรอ?หากหลินเฟิงเข้าไปจริง ๆ เกรงว่ามันจะไม่ใช่การขอโทษง่าย ๆแล้ว น่ากลัวว่าการขอโทษจะเปลี่ยนเป็นการข่มขู่ด้วยซ้ำหลินเฟิงจะไม่พอใจ ถ้าหากทายาทผู้นำไม่ได้กำหนดให้เป็นหลี่ฮุ่ยหรานและการใช้อำนาจบีบบังคับแบบนี้ ก็จะทำให้อิทธิพลทั้งหมดของตระกูลหลี่ไม่พอใจสุดท้ายตระกูลหลี่ก็จะแยกทางกัน และเรื่องที่ควรจะสนิทกลมเกลียวกันก็จะกลายเป็นคว้าน้ำเหลว ไม่ได้อะไรสักอย่าง“ไม่ต้อง ไม่ต้อง ไม่ต้อง เรื่องนี้ฉันก็คิดหาวิธีอยู่”หลี่กงเฉิงรีบปฏิเสธ แต่หลังจากที่เขาลังเลอยู่ครู่หนึ่ง จู่ ๆเขาก็รู้สึกตื่นเต้นขึ้นมา ราวกับคิดอะไรบางอย่างได้“ใช่แล้ว เมื่อเร็ว ๆนี้คุณปู่เพิ่งจะลงทุนให้กับฟาร์มแห่งหนึ่งในเขตชานเมืองที่เจียงหนาน”หลี่กงเฉิงพูดว่า “คุณปู่ชอบฟาร์มแห่งนี้มาก และมักจะพาคนไปปลูกพืชสีเขียว”“น่าเสียดายที่มีรายได้ไม่พอกับรายจ่าย ระยะนี้ก็ขาดทุนอย่างต่อเนื่อง และขาดทุนไปอีกหลายร้อยล้านด้วย”“ถึงแม้คุณปู่จะชื่นชอบ แต่ก็ไม่สามารถจะขาดทุนไปได้ตลอด ดังนั้นช่วงนี้เขาก็พร้อมที่จะขายทิ้ง”“ถ้าฮุ่ยหรานสามารถรับช่
จางกุ้ยหลานก้มหน้าลงโดยไม่พูดอะไรผ่านไปครู่หนึ่งจางกุ้ยหลานที่ดูเหมือนจะตัดสินใจอะไรบางอย่างได้แล้ว ก็เงยหน้าแล้วพูดอย่างหนักแน่นว่า: “ฉันจะไปหาจางซิน ถ้าหาจางซินเจอ ก็ไม่ต้องกังวลเรื่องเงินที่จะต้องใช้ซื้อฟาร์มแล้ว!”“ไม่จำเป็น”หลินเฟิงโบกมือ สำหรับเขาเงินไม่ใช่เรื่องใหญ่อะไรเลย สิ่งเดียวที่เขาสนใจก็คือ จะทำอย่างไรให้ฟาร์มแห่งนั้นได้กำไร? “ไม่ได้ ฉันรู้สึกยินยอมไม่ได้จริง ๆ ฉันจะต้องหาจางซินให้ได้! นังเด็กสารเลวนั่น ฉันเชื่อเธอขนาดนี้ คิดไม่ถึงเลยว่าเธอจะกล้าทำแบบนี้กับฉันได้!”จางกุ้ยหลานยิ่งคิดก็ยิ่งโมโห ก่อนจะก้าวขึ้นไปชั้นบน หลี่ฮุ่ยหรานมองไปที่หลินเฟิง ก่อนจะขมวดคิ้วพูดว่า “หลินเฟิง เรื่องเงิน...ไม่สู้ฉันไปเอ่ยปากกับถังหว่าน พวกเราสองคนรวบรวมเงินกัน บางทีอาจจะเอาออกมาได้ก็ได้นะ”“หืม? คุณกับถังหว่านมีความสัมพันธ์ดีกันแบบนี้ตั้งแต่เมื่อไร?”หลินเฟิงแปลกใจเล็กน้อย“ไม่....ไม่ใช่ ใครจะมีความสัมพันธ์ดีกับเธอล่ะ? แค่....พวกเราก็แค่เป็นเพื่อนร่วมงานกันเท่านั้น เป็นแค่เพื่อนร่วมงานเฉย ๆ!”หลี่ฮุ่ยหรานแก้ตัวจนหน้าแดงแต่ไม่ว่าจะแก้ตัวยังไง หลินเฟิงก็มองหลี่ฮุ่ยหรานด้วยรอ