จางกุ้ยหลานก้มหน้าลงโดยไม่พูดอะไรผ่านไปครู่หนึ่งจางกุ้ยหลานที่ดูเหมือนจะตัดสินใจอะไรบางอย่างได้แล้ว ก็เงยหน้าแล้วพูดอย่างหนักแน่นว่า: “ฉันจะไปหาจางซิน ถ้าหาจางซินเจอ ก็ไม่ต้องกังวลเรื่องเงินที่จะต้องใช้ซื้อฟาร์มแล้ว!”“ไม่จำเป็น”หลินเฟิงโบกมือ สำหรับเขาเงินไม่ใช่เรื่องใหญ่อะไรเลย สิ่งเดียวที่เขาสนใจก็คือ จะทำอย่างไรให้ฟาร์มแห่งนั้นได้กำไร? “ไม่ได้ ฉันรู้สึกยินยอมไม่ได้จริง ๆ ฉันจะต้องหาจางซินให้ได้! นังเด็กสารเลวนั่น ฉันเชื่อเธอขนาดนี้ คิดไม่ถึงเลยว่าเธอจะกล้าทำแบบนี้กับฉันได้!”จางกุ้ยหลานยิ่งคิดก็ยิ่งโมโห ก่อนจะก้าวขึ้นไปชั้นบน หลี่ฮุ่ยหรานมองไปที่หลินเฟิง ก่อนจะขมวดคิ้วพูดว่า “หลินเฟิง เรื่องเงิน...ไม่สู้ฉันไปเอ่ยปากกับถังหว่าน พวกเราสองคนรวบรวมเงินกัน บางทีอาจจะเอาออกมาได้ก็ได้นะ”“หืม? คุณกับถังหว่านมีความสัมพันธ์ดีกันแบบนี้ตั้งแต่เมื่อไร?”หลินเฟิงแปลกใจเล็กน้อย“ไม่....ไม่ใช่ ใครจะมีความสัมพันธ์ดีกับเธอล่ะ? แค่....พวกเราก็แค่เป็นเพื่อนร่วมงานกันเท่านั้น เป็นแค่เพื่อนร่วมงานเฉย ๆ!”หลี่ฮุ่ยหรานแก้ตัวจนหน้าแดงแต่ไม่ว่าจะแก้ตัวยังไง หลินเฟิงก็มองหลี่ฮุ่ยหรานด้วยรอ
โจวอวี้เฟิ่ง หลี่เยว่หรูแม้แต่หลิ่วเยว่ฟาง เมียรองของคุณปู่หลี่ไห่หงที่ก่อเรื่องวุ่นวายในคฤหาสน์ของตระกูลหลี่เมื่อวาน ก็อยู่ที่นี่ด้วยเช่นกันหลิ่วเยว่ฟางเบะปาก แล้วพูดด้วยความหยิ่งยโส:“ฉันมั่นใจว่า หมอนั่นต้องมาที่นี่เพื่อคิดจะใช้เส้นสายของหลี่ไห่ซานแน่นอน จะมาชุบมือเปิบสินะ”“พวกเขาเนี่ยนะ จะสามารถระดมเงินทุนหนึ่งพันล้านได้ภายในวันเดียวงั้นเหรอ? หึ ฝันกลางวันแสก ๆ!”หลี่ฟางลูกชายคนโตของหลี่กงเฉิงก็อยู่ที่นี่ด้วยเมื่อได้ยินย่ารองของตัวเองเหยียดหยามหลินเฟิง ทันใดนั้นก็ขมวดคิ้วขึ้นทันทีจากนั้นก็กระซิบเสียงเบา: “ย่ารอง เบื้องหลังของคุณชายหลินเฟิงนั้นไม่ธรรมดา เกรงว่าเงินหนึ่งพันล้านคงไม่มากเกินไปสำหรับเขาหรอก”“หึ หลี่ฟาง นายอย่ากลัวเขาเกินไป จริงอยู่ ฉันยอมรับว่าหลินเฟิงแข็งแกร่งไม่น้อย”หลี่เยว่หรูที่อยู่ข้าง ๆก็พูดอย่างเย่อหยิ่งว่า “แต่ต่อให้แข็งแกร่งมากแค่ไหน ก็ยังยากที่จะรวบรวมเงินหนึ่งพันล้านได้ภายในวันเดียวใช่ไหม?”“ฉันว่าหลินเฟิงกับหลี่ฮุ่ยหรานมาที่นี่ก็เพื่อมาใช้ความสัมพันธ์”“วางใจเถอะลูกสาว”โจวอวี้เฟิ่งที่มีรอยยิ้มบนใบหน้าเธอขยิบตาก่อนจะพูดว่า “เดิมทีฟาร์มแห
“คนนี้ก็คือคุณย่าหลิ่วเยว่ฟางของตระกูลหลี่เจียงหนานใช่ไหมคะ? เป็นอย่างที่คิดไว้เลยค่ะ เจอหน้ากันดีกว่ารู้จักแค่ชื่อเสียง อ่อ ใช่แล้ว ใช่แล้ว คุณต้องการดื่มชาไหม? เดียวฉันจะเสิร์ฟชาให้คุณเองค่ะ”ถังหว่านตั้งใจยั่วโมโห จึงจงใจยิ้มและพูดถึงเรื่องการดื่มน้ำชาขึ้นมา ซึ่งก็ทำให้สีหน้าของหลิ่วเยว่ฟางบึ้งตึงทันที“คุณถัง ถึงแม้ว่าตระกูลถังของคุณจะเป็นตระกูลที่ร่ำรวยและมีอิทธิพลในเมืองจิง แต่คุณก็อย่าอวดดีเกินไปเลย ตระกูลหลี่ของฉันก็ไม่กลัวคุณอยู่แล้ว”โจวอวี้เฟิ่งที่มองอยู่ข้าง ๆก็ทนไม่ไหว ก่อนจะตะโกนใส่ถังหว่านแต่ทว่าถังหว่านก็ไม่ได้เป็นที่รองรับเหมือนหลี่ฮุ่ยหรานเธอยิ้มสดใสและแสร้งทำเป็นประหลาดใจ ก่อนจะพูดว่า “อุ๊ย คนนี้ก็คือป้าโจวอวี้เฟิ่งของตระกูลหลี่ใช่ไหม? สวัสดี สวัสดี ได้ยินมาว่าอาการป่วยของลูกสาวของคุณก็เป็นเพราะหลินเฟิงสามีของฉันรักษาให้ใช่ไหม?”“.....”เมื่อเห็นถังหว่านพูดถึงเรื่องนี้ สีหน้าของโจวอวี้เฟิ่งกับหลี่เยว่หรูต่างก็กระตุกโดยไม่ตั้งใจ“อุ๊ย เขาต่างก็พูดกันว่าการช่วยชีวิตนั้นยิ่งใหญ่ ทำไมฉันดูแล้วพวกคุณเหมือนไม่มีจิตสำนึกเรื่องนี้เลยล่ะ?”ถังหว่านแสร้งทำเป็นเสียดา
หลี่ไห่หงยิ้มอีกครั้ง: “ไก่ เป็ด ปลาและห่าน ยังมีหมูกับแพะ แม้แต่บ่อน้ำขนาดใหญ่ก็ยังมี....”“พวกนี้ล้วนเป็นสมบัติที่ฉันหาบริหารมาหลายปี”หลี่ไห่หงมองดูฟาร์มที่ไม่มีที่สิ้นสุดแห่งนี้ด้วยความภาคภูมิใจเป็นอย่างมาก“แต่ก็ขาดทุนทั้งหมดไม่ใช่เหรอ”หลิ่วเยว่ฟางที่อยู่ข้าง ๆพูดประโยคอย่างนี้ขึ้นมาทำร้ายบรรยากาศทันใดนั้น สีหน้าของคุณปู่ก็ดูไม่ดีเมื่อหลี่กงเฉิงเห็นแบบนี้ ก็รีบเข้ามาจัดการให้เรื่องมันคลี่คลาย และพูดด้วยรอยยิ้มว่า:“ฮุ่ยหราน พ่อของฉันใช้ความคิดและกำลังมากเกินไปกับฟาร์มแห่งนี้ ฉันอยากให้เขาอยู่อย่างสงบสุข เพราะงั้นก็เลยคิดจะให้คนอื่นมาดูแลฟาร์มนี้แทน”“ถูกต้อง”สีหน้าของนายท่านผ่อนคลายลง ก่อนจะถอนหายใจและพูดว่า: “หลังจากพี่ไห่ซานจากไป ฉันก็รู้สึกว่าสุขภาพของตัวเองย่ำแย่ลง ฟาร์มแห่งนี้ ฉันไม่มีแรงทำอีกต่อไปแล้ว”“คุณปู่หง คุณพูดอะไรน่ะ สุขภาพของคุณยังแข็งแรงนะคะ!”“คุณว่าไหมหลินเฟิง?”หลี่ฮุ่ยหรานรีบมองไปทางหลินเฟิงที่อยู่ข้าง ๆหลินเฟิงขมวดคิ้วเล็กน้อย เมื่ออยู่ต่อหน้าหลี่ฮุ่ยหราน เขาก็ไม่ได้พูดอะไรมากและพยักหน้า“ถูกต้อง”อย่างไรก็ตาม หลี่กงเฉิงก็สังเกตเห็นความลั
หลี่ไห่หงจริงจังมากขนาดนี้ จนทำให้หลี่ฮุ่ยหรานทำได้แค่เพียงกลืนคำพูดที่จะพูดออกมาของตัวเองลงไปเพราะผลสุดท้ายของการเจรจาของหลี่ฮุ่ยหรานและถังหว่าน ก็ไม่มีอะไรมากไปว่าการสร้างโรงงานในเมื่อที่ดินที่เป็นที่ราบ และมีแม่น้ำแบบนี้ เป็นเขตนิคมอุตสาหกรรมทางธรรมชาติชัด ๆถ้าหากทำเป็นโรงงานอย่างที่ว่า ยังไงก็ไม่มีวันขาดทุนแต่ถ้าหากเป็นฟาร์ม ก็พูดยากแล้วเมื่อเห็นความลังเลของหลี่ฮุ่ยหราน หลี่ไห่หงก็ขมวดคิ้ว ก่อนจะพูดอย่างไม่พอใจว่า: “ฮุ่ยหราน ไม่ใช่ว่าเธอก็วางแผนที่จะเปลี่ยนฟาร์มของฉันให้เป็นโรงงานด้วยหรอกนะ?“ไม่ใช่ค่ะ”หลี่ฮุ่ยหรานรีบกล่าวปฏิเสธทันที ในขณะเดียวกันก็คิดถึงความเป็นไปได้ต่าง ๆดูเหมือนว่าคุณปู่หลี่ไห่หงจะให้ความสำคัญกับฟาร์มนี้อย่างมาก และไม่ยอมที่จะให้มลพิษจากโรงงานมาทำลายทิวทัศน์ที่งดงามนี้แต่ปัญหาคือหากเพียงวางแผนและจัดการแค่ฟาร์ม ก็จะไม่สามารถทำกำไรได้จริง ๆไม่เพียงไม่ได้กำไร แต่จะขาดทุนจนไม่เหลืออะไรเลยเมื่อถึงเวลาอย่าบอกว่าคุณปู่หลี่ไห่หงชื่นชมความสามารถของตัวเองเลย เกรงว่าสุดท้ายแล้วก็จะจบลงด้วยความผิดหวังและขาดทุนไม่เพียงแต่จะสูญเสียคุณสมบัติในการแข่งขันเ
วันนี้นายท่านและหลี่ฮุ่ยหรานมีความเข้าใจกันที่ไม่เอ่ยถึงเรื่องของหลี่ไห่ซานทั้งสองคนต่างก็ไม่อยากเพิ่มความรู้สึกทุกข์ระทมขึ้นอีก“เหอะ สองเดือน?”ขณะที่ผู้หญิงทั้งสองกำลังซาบซึ้งใจเมื่อมองดูแผ่นหลังของหลี่ไห่หง หลิ่วเยว่ฟางที่อยู่ข้าง ๆก็แย่งสัญญาโอนจากมือของหลี่กงเฉิงมาสายตาของเธอก็เห็นราคาที่คุณปู่เขียนในลงสัญญาห้าร้อยล้านบาทเธอสูดลมหายใจ ก่อนจะแอบหยิบปากกาออกมาจากกระเป๋าเสื้อของตัวเอง แล้วเพิ่มเลขศูนย์ตัวสุดท้ายเพิ่มอีกหนึ่งตัวตอนนี้ก็กลายเป็นห้าพันล้านบาทแล้วจากนั้นเธอก็รีบยื่นสัญญาที่เปลี่ยนแปลงให้กับหลี่กงเฉิง และหลี่กงเฉิงก็มองเห็นราคาที่หลิ่วเยว่ฟางแก้ไขในสัญญาแล้วก็ขมวดคิ้วขึ้นทันที“นี่คือเงินค้ำประกัน ถ้าหากว่าหลี่ฮุ่ยหรานทำไม่สำเร็จล่ะ? พวกเราจะไม่ขาดทุนครั้งใหญ่หรอกเหรอ?”“ให้คนนอกอย่างหลี่ฮุ่ยหรานเป็นผู้นำตระกูลหลี่เจียงหนานของเรา แล้วหน้าพวกเราจะเอาไปไว้ที่ไหน?!”“อย่าไปบอกคนอื่นล่ะ!”หลิ่วเยว่ฟางใช้เสียงต่ำคุกคามหลี่กงเฉิงขณะที่หลี่กงเฉิงกำลังจะพูดอะไรบางอย่าง ก็สังเกตเห็นแววตาของหลินเฟิงที่เปลี่ยนแปลงไป ก่อนจะรีบแสร้งทำเป็นว่าไม่มีอะไรเกิดขึ้นเขาไ
“ถังหว่าน ทำไมคุณ...คุณถึงทำแบบนี้!”หลี่ฮุ่ยหรานโมโหจนเกือบจะร้องไห้ออกมาถังหว่านกลับเข้ามาโอบหลี่ฮุ่ยหรานเอาไว้ แล้วพูดจายั่วยวน: “อุ๊ย ๆ น้องหลี่ฮุ่ยหราน ทำไมเธอถึงร้องไห้แล้วล่ะ น่าสงสารจริง ๆ”“แต่ความจริงก็มักจะโหดร้ายแบบนี้แหละ ไม่ว่าจะเป็นการงานหรือความรัก นี่เป็นสนามรบที่ฆ่าฟันคนโดยไม่มีความลังเลนะ!”“ความตื่นตัวของคุณยังไม่เพียงพอ”ถังหว่านยิ้มตาหยีแล้วส่ายนิ้วชี้ไปมา“คิดดูแล้ว ฉันจะช่วยคุณให้กลายเป็นผู้นำตระกูลหลี่อย่างง่ายดายขนาดนั้นได้อย่างไร?”“หรือจะช่วยให้คุณกลายเป็นผู้นำตระกูลหลี่แล้วมากดหัวฉันงั้นเหรอ?”“นี่เป็นการยกก้อนหินทุ่มใส่เท้าตัวเองชัด ๆ ฉันยังไม่ได้โง่เหมือนกับคุณขนาดนั้น”เห็นหลี่ฮุ่ยหรานจะถูกถังหว่านพูดจนใจสลาย หลินเฟิงจึงรีบพูดขึ้นอย่างจนปัญญา: “เอาล่ะถังหว่าน คุณเลิกขู่ฮุ่ยหรานได้แล้ว ตกลงว่าคุณมีวิธีอะไรกันแน่?”“เอ๊ะ?”ถังหว่านมองไปทางหลินเฟิงด้วยใบหน้าตกตะลึง“ที่รัก คุณทำไมถึงคิดว่าฉันกำลังขู่เธอล่ะ? นี่เป็นโอกาสที่หาได้ยากมาก ๆ เลยนะ ฉันสามารถถือโอกาสนี้เอาชนะหลี่ฮุ่ยหรานได้อย่างสิ้นเชิง”“ฉันพูดออกมาอย่างแจ่มแจ้งแล้ว ฉันไม่มีวิธีอะไร
ถังหว่านแลบลิ้นหลี่ฮุ่ยหรานกลับขมวดคิ้วขึ้นมา“เอาล่ะ เรื่องนี้มอบให้เป็นหน้าที่ผมจัดการ พวกคุณสองคนเพียงแค่ฟังคำสั่งของผมก็พอแล้ว เดือนนี้พวกคุณสองคนรับผิดชอบเรื่องโฆษณา หาคนที่มีหน้ามีตาในเมืองเจียงโจวมาสร้างแรงผลักดัน”“ยิ่งโอเวอร์ยิ่งดี”“ส่วนผม”หลินเฟิงเหลือบมองฟาร์ม และถอนหายใจพูดว่า: “เกรงว่าในช่วงเวลานี้ไม่สามารถออกจากที่นี่ได้แล้ว”“หลินเฟิง…”หลี่ฮุ่ยหรานซาบซึ้งจนน้ำตาไหลเดิมทีเธออยากจะพึ่งพาตัวเองเพื่อให้ได้รับตำแหน่งผู้นำตระกูลมา แต่คิดไม่ถึงว่าสุดท้ายยังต้องพึ่งพาหลินเฟิงให้ออกหน้าในขณะที่รู้สึกซาบซึ้ง ก็รู้สึกอับอายเล็กน้อยดูท่าก่อนหน้านี้ที่หลินเฟิงเคยพูดไว้ สามปีที่พวกเขาแต่งงานกัน ที่หลี่ซื่อกรุ๊ปสามารถพัฒนาจนใหญ่โตได้ เป็นเพราะพึ่งพาหลินเฟิง ประโยคนี้ไม่ได้โกหกเลยด้วยซ้ำ“เอาล่ะ ถ้าหากคุณสามารถจัดการได้ทุกเรื่อง งั้นยังจะมีผมเอาไว้ทำอะไร ไปทำงานซะเถอะ”หลินเฟิงตบศีรษะของหลี่ฮุ่ยหราน“อืม”หลี่ฮุ่ยหรานพยักหน้าอย่างว่าง่าย“หลินเฟิง คุณลำเอียงเกินไปแล้ว ทำไมถึงช่วยเหลือหลี่ฮุ่ยหรานทุกเรื่อง พอเป็นฉันกลับไม่สนใจไยดี? ฉันโกรธแล้วนะ!”ถังหว่านทำปากจู๋