โอกาสหายากแบบนี้จะพลาดไม่ได้เด็ดขาด!เพื่อบริษัทมูลค่าห้าหมื่นล้านบาท ต่อให้ได้รับความไม่ยุติธรรม นั่นจะนับประสาอะไร?มองดูสายตาตื่นเต้นของแม่ของตัวเอง หลี่ฮุ่ยหรานส่ายหน้า สุดท้ายก็ยกแก้วชาขึ้นมาต่ออีกถึงขั้นที่ส่ายหน้าให้หลินเฟิง ขอร้องไม่ให้หลินเฟิงเข้ามายุ่งหลินเฟิงเห็นแบบนี้ ก็ถอยไปด้านข้างด้วยใบหน้านิ่งเฉย ดวงตาของเขาจับจ้องไปที่หลิวเยว่ฟาง ทำให้หลิ่วเยว่ฟางรู้สึกหงุดหงิดเห็นหลี่ฮุ่ยหรานยกถ้วยน้ำชาขึ้นมาอีกครั้ง ครั้งนี้หลิ่วเยว่ฟางกอดอกและไม่ยอมรับเธอตบเอกสารแต่งตั้งที่อยู่บนโต๊ะ จากนั้นชี้ไปทางหลินเฟิง และพูดอย่างเย็นชา: “ถ้าหากเธออยากได้หนังสือแต่งตั้งฉบับนี้ ก็สาดน้ำชาที่อยู่ในมือเธอไปที่ใบหน้าของไอ้หมอนั่น!”ได้ยินคำพูดของหลิ่วเยว่ฟาง หลี่ฮุ่ยหรานนิ่งอึ้งทันทีเธอหันหน้ามองไปทางหลินเฟิง ส่วนหลินเฟิงกลับกอดอกไม่แสดงท่าทีใด ๆนี่เห็นได้ชัดว่าต้องการแก้แค้น อีกทั้งยังตั้งใจกลั่นแกล้งหลี่ฮุ่ยหราน“ลูก ยังจะรออะไรอีก?!”จางกุ้ยหรานร้อนใจแล้ว ถึงขั้นที่จะแย่งถ้วยชาที่อยู่ในมือหลี่ฮุ่ยหรานมาสาดหน้าหลินเฟิงแทนเธอ“เมื่อครู่หลินเฟิงเสียมารยาทต่อผู้อาวุโส ตอนนี้ก็เพียง
จางกุ้ยหลานส่งสายตาไปทางหลินเฟิง ก็รู้ได้ทันทีว่าลูกสาวของตัวเองทำไมถึงได้กลายสภาพเป็นอย่างในตอนนี้จางกุ้ยหลานหันหน้าไป และเล็งไปทางเสาที่อยู่ในห้องรับแขกจากนั้นตะโกนข่มขู่หลี่ฮุ่ยหราน:“ฮุ่ยหราน ถ้าวันนี้แกไม่ขอโทษคุณย่ารองของแก และได้รับหนังสือของบริษัทห้าหมื่นล้านบาท วันนี้ฉันก็จะชนเสาให้ตายไปซะ!”“แม่ แม่อยากจะชนก็ชนเถอะ”หลี่ฮุ่ยหรานไม่สะทกสะท้านเธอส่ายหน้า และเดินตรงไปทางโซฟา ภายใต้สายตาตกตะลึงของจางกุ้ยหลานเธอเหยียดสายตามองคนของตระกูลหลี่เมืองเจียงหนานจากนั้นพูดด้วยความเย็นชา: “คุณย่ารอง ถ้าหากวันนี้คุณมาเพราะอยากจะเหยียดหยามฉัน และแสดงอำนาจของคุณ งั้นฉันบอกคุณให้นะว่าคุณมาหาผิดคนแล้ว”“ในอดีต เพื่อบริษัทห้าหมื่นล้านบาทนั่น บางทีฉันอาจจะยอมให้คุณเหยียดหยามตามใจชอบ”“แต่ตอนนี้…”หลี่ฮุ่ยหรานสายตาเปลี่ยนไปเย็นชา และตวาดเสียงต่ำ: “พวกคุณอยู่ในสายตาฉันก็คือตัวตลกกลุ่มหนึ่ง อย่าให้เกียรติแล้วไม่ยอมรับไว้!”ท่าทางเผด็จการของหลี่ฮุ่ยหรานทำให้คนตระกูลหลี่เมืองเจียงหนานถลึงตาโตถึงขั้นที่ทำให้หลิ่วเยว่ฟางโมโหจนตบหน้าอก และเกือบล้มลงบนพื้น“ได้…ได้ได้ได้…”หลิ่วเยว่ฟาง
หลี่ฮุ่ยหรานรีบวิ่งอย่างรวดเร็ว แล้วโผเข้าหาหลินเฟิง ก่อนจะฝังใบหน้าไปที่หน้าอกของหลินเฟิง“ฮือ...หลินเฟิง จะทำยังไงดี ฉันก่อเรื่องวุ่นวายเข้าซะแล้ว เกรงว่าตอนนี้คุณสมบัติของผู้สมัครเป็นผู้นำจะถูกเพิกถอนด้วย”“บริษัทห้าหมื่นล้านนะ! นั่นนก็คือบริษัทที่มีมูลค่าตลาดหลายหมื่นล้าน ถ้าฉันได้มาก็ไม่ต้องมองใบหน้าของถังหว่านแล้ว ฮือฮือฮือ.....”เมื่อเห็นท่าทางเศร้าเสียใจราวกับลูกสาวตัวน้อยของหลี่ฮุ่ยหราน หลินเฟิงก็เผลอหัวเราะออกมา ก่อนจะตบปลอบใจที่ด้านหลังของเธอ“เมื่อครู่ไม่ใช่ว่าคุณมั่นใจมากงั้นหรอกเหรอ?”หลินเฟิงยิ้มแล้วมองไปที่เธอ“ฉัน...ฉันเสแสร้งทำออกมานี่นา!”หลี่ฮุ่ยหรานบุ้ยปากและพูดออกมาอย่างขมขื่น “ฉันคิดแค่ว่าถังหว่านจะทำยังไง เพราะงั้นก็เลยใจร้อนทำแบบนี้ไป”“คุณยังหัวเราะฉันอีก!”หลี่ฮุ่ยหราน ยกกำปั้นสีชมพูขึ้นมา ก่อนจะทุบไปที่หน้าอกของหลินเฟิง“ตอนนี้มันจบสิ้นแล้ว...”หลี่ฮุ่ยหรานยังคงคร่ำครวญไม่หยุด และหลินเฟิงก็มองความแตกต่างที่เห็นได้ชัดของหลี่ฮุ่ยหราน ผู้หญิงที่แข็งแกร่งมากอย่างนี้ ในตอนนี้แค่รู้สึกมันว่าน่าขัน แต่ก็ไม่สามารถหัวเราะออกมาเสียงดังได้ก่อนจะเม้มปากด้ว
จางกุ้ยหลานนี่ไม่มีสมองจริง ๆใช่ไหม?ให้หลินเฟิงเข้าไปขอโทษ?หลิวเยว่ฟางก็คู่ควรงั้นเหรอ?หากหลินเฟิงเข้าไปจริง ๆ เกรงว่ามันจะไม่ใช่การขอโทษง่าย ๆแล้ว น่ากลัวว่าการขอโทษจะเปลี่ยนเป็นการข่มขู่ด้วยซ้ำหลินเฟิงจะไม่พอใจ ถ้าหากทายาทผู้นำไม่ได้กำหนดให้เป็นหลี่ฮุ่ยหรานและการใช้อำนาจบีบบังคับแบบนี้ ก็จะทำให้อิทธิพลทั้งหมดของตระกูลหลี่ไม่พอใจสุดท้ายตระกูลหลี่ก็จะแยกทางกัน และเรื่องที่ควรจะสนิทกลมเกลียวกันก็จะกลายเป็นคว้าน้ำเหลว ไม่ได้อะไรสักอย่าง“ไม่ต้อง ไม่ต้อง ไม่ต้อง เรื่องนี้ฉันก็คิดหาวิธีอยู่”หลี่กงเฉิงรีบปฏิเสธ แต่หลังจากที่เขาลังเลอยู่ครู่หนึ่ง จู่ ๆเขาก็รู้สึกตื่นเต้นขึ้นมา ราวกับคิดอะไรบางอย่างได้“ใช่แล้ว เมื่อเร็ว ๆนี้คุณปู่เพิ่งจะลงทุนให้กับฟาร์มแห่งหนึ่งในเขตชานเมืองที่เจียงหนาน”หลี่กงเฉิงพูดว่า “คุณปู่ชอบฟาร์มแห่งนี้มาก และมักจะพาคนไปปลูกพืชสีเขียว”“น่าเสียดายที่มีรายได้ไม่พอกับรายจ่าย ระยะนี้ก็ขาดทุนอย่างต่อเนื่อง และขาดทุนไปอีกหลายร้อยล้านด้วย”“ถึงแม้คุณปู่จะชื่นชอบ แต่ก็ไม่สามารถจะขาดทุนไปได้ตลอด ดังนั้นช่วงนี้เขาก็พร้อมที่จะขายทิ้ง”“ถ้าฮุ่ยหรานสามารถรับช่
จางกุ้ยหลานก้มหน้าลงโดยไม่พูดอะไรผ่านไปครู่หนึ่งจางกุ้ยหลานที่ดูเหมือนจะตัดสินใจอะไรบางอย่างได้แล้ว ก็เงยหน้าแล้วพูดอย่างหนักแน่นว่า: “ฉันจะไปหาจางซิน ถ้าหาจางซินเจอ ก็ไม่ต้องกังวลเรื่องเงินที่จะต้องใช้ซื้อฟาร์มแล้ว!”“ไม่จำเป็น”หลินเฟิงโบกมือ สำหรับเขาเงินไม่ใช่เรื่องใหญ่อะไรเลย สิ่งเดียวที่เขาสนใจก็คือ จะทำอย่างไรให้ฟาร์มแห่งนั้นได้กำไร? “ไม่ได้ ฉันรู้สึกยินยอมไม่ได้จริง ๆ ฉันจะต้องหาจางซินให้ได้! นังเด็กสารเลวนั่น ฉันเชื่อเธอขนาดนี้ คิดไม่ถึงเลยว่าเธอจะกล้าทำแบบนี้กับฉันได้!”จางกุ้ยหลานยิ่งคิดก็ยิ่งโมโห ก่อนจะก้าวขึ้นไปชั้นบน หลี่ฮุ่ยหรานมองไปที่หลินเฟิง ก่อนจะขมวดคิ้วพูดว่า “หลินเฟิง เรื่องเงิน...ไม่สู้ฉันไปเอ่ยปากกับถังหว่าน พวกเราสองคนรวบรวมเงินกัน บางทีอาจจะเอาออกมาได้ก็ได้นะ”“หืม? คุณกับถังหว่านมีความสัมพันธ์ดีกันแบบนี้ตั้งแต่เมื่อไร?”หลินเฟิงแปลกใจเล็กน้อย“ไม่....ไม่ใช่ ใครจะมีความสัมพันธ์ดีกับเธอล่ะ? แค่....พวกเราก็แค่เป็นเพื่อนร่วมงานกันเท่านั้น เป็นแค่เพื่อนร่วมงานเฉย ๆ!”หลี่ฮุ่ยหรานแก้ตัวจนหน้าแดงแต่ไม่ว่าจะแก้ตัวยังไง หลินเฟิงก็มองหลี่ฮุ่ยหรานด้วยรอ
โจวอวี้เฟิ่ง หลี่เยว่หรูแม้แต่หลิ่วเยว่ฟาง เมียรองของคุณปู่หลี่ไห่หงที่ก่อเรื่องวุ่นวายในคฤหาสน์ของตระกูลหลี่เมื่อวาน ก็อยู่ที่นี่ด้วยเช่นกันหลิ่วเยว่ฟางเบะปาก แล้วพูดด้วยความหยิ่งยโส:“ฉันมั่นใจว่า หมอนั่นต้องมาที่นี่เพื่อคิดจะใช้เส้นสายของหลี่ไห่ซานแน่นอน จะมาชุบมือเปิบสินะ”“พวกเขาเนี่ยนะ จะสามารถระดมเงินทุนหนึ่งพันล้านได้ภายในวันเดียวงั้นเหรอ? หึ ฝันกลางวันแสก ๆ!”หลี่ฟางลูกชายคนโตของหลี่กงเฉิงก็อยู่ที่นี่ด้วยเมื่อได้ยินย่ารองของตัวเองเหยียดหยามหลินเฟิง ทันใดนั้นก็ขมวดคิ้วขึ้นทันทีจากนั้นก็กระซิบเสียงเบา: “ย่ารอง เบื้องหลังของคุณชายหลินเฟิงนั้นไม่ธรรมดา เกรงว่าเงินหนึ่งพันล้านคงไม่มากเกินไปสำหรับเขาหรอก”“หึ หลี่ฟาง นายอย่ากลัวเขาเกินไป จริงอยู่ ฉันยอมรับว่าหลินเฟิงแข็งแกร่งไม่น้อย”หลี่เยว่หรูที่อยู่ข้าง ๆก็พูดอย่างเย่อหยิ่งว่า “แต่ต่อให้แข็งแกร่งมากแค่ไหน ก็ยังยากที่จะรวบรวมเงินหนึ่งพันล้านได้ภายในวันเดียวใช่ไหม?”“ฉันว่าหลินเฟิงกับหลี่ฮุ่ยหรานมาที่นี่ก็เพื่อมาใช้ความสัมพันธ์”“วางใจเถอะลูกสาว”โจวอวี้เฟิ่งที่มีรอยยิ้มบนใบหน้าเธอขยิบตาก่อนจะพูดว่า “เดิมทีฟาร์มแห
“คนนี้ก็คือคุณย่าหลิ่วเยว่ฟางของตระกูลหลี่เจียงหนานใช่ไหมคะ? เป็นอย่างที่คิดไว้เลยค่ะ เจอหน้ากันดีกว่ารู้จักแค่ชื่อเสียง อ่อ ใช่แล้ว ใช่แล้ว คุณต้องการดื่มชาไหม? เดียวฉันจะเสิร์ฟชาให้คุณเองค่ะ”ถังหว่านตั้งใจยั่วโมโห จึงจงใจยิ้มและพูดถึงเรื่องการดื่มน้ำชาขึ้นมา ซึ่งก็ทำให้สีหน้าของหลิ่วเยว่ฟางบึ้งตึงทันที“คุณถัง ถึงแม้ว่าตระกูลถังของคุณจะเป็นตระกูลที่ร่ำรวยและมีอิทธิพลในเมืองจิง แต่คุณก็อย่าอวดดีเกินไปเลย ตระกูลหลี่ของฉันก็ไม่กลัวคุณอยู่แล้ว”โจวอวี้เฟิ่งที่มองอยู่ข้าง ๆก็ทนไม่ไหว ก่อนจะตะโกนใส่ถังหว่านแต่ทว่าถังหว่านก็ไม่ได้เป็นที่รองรับเหมือนหลี่ฮุ่ยหรานเธอยิ้มสดใสและแสร้งทำเป็นประหลาดใจ ก่อนจะพูดว่า “อุ๊ย คนนี้ก็คือป้าโจวอวี้เฟิ่งของตระกูลหลี่ใช่ไหม? สวัสดี สวัสดี ได้ยินมาว่าอาการป่วยของลูกสาวของคุณก็เป็นเพราะหลินเฟิงสามีของฉันรักษาให้ใช่ไหม?”“.....”เมื่อเห็นถังหว่านพูดถึงเรื่องนี้ สีหน้าของโจวอวี้เฟิ่งกับหลี่เยว่หรูต่างก็กระตุกโดยไม่ตั้งใจ“อุ๊ย เขาต่างก็พูดกันว่าการช่วยชีวิตนั้นยิ่งใหญ่ ทำไมฉันดูแล้วพวกคุณเหมือนไม่มีจิตสำนึกเรื่องนี้เลยล่ะ?”ถังหว่านแสร้งทำเป็นเสียดา
หลี่ไห่หงยิ้มอีกครั้ง: “ไก่ เป็ด ปลาและห่าน ยังมีหมูกับแพะ แม้แต่บ่อน้ำขนาดใหญ่ก็ยังมี....”“พวกนี้ล้วนเป็นสมบัติที่ฉันหาบริหารมาหลายปี”หลี่ไห่หงมองดูฟาร์มที่ไม่มีที่สิ้นสุดแห่งนี้ด้วยความภาคภูมิใจเป็นอย่างมาก“แต่ก็ขาดทุนทั้งหมดไม่ใช่เหรอ”หลิ่วเยว่ฟางที่อยู่ข้าง ๆพูดประโยคอย่างนี้ขึ้นมาทำร้ายบรรยากาศทันใดนั้น สีหน้าของคุณปู่ก็ดูไม่ดีเมื่อหลี่กงเฉิงเห็นแบบนี้ ก็รีบเข้ามาจัดการให้เรื่องมันคลี่คลาย และพูดด้วยรอยยิ้มว่า:“ฮุ่ยหราน พ่อของฉันใช้ความคิดและกำลังมากเกินไปกับฟาร์มแห่งนี้ ฉันอยากให้เขาอยู่อย่างสงบสุข เพราะงั้นก็เลยคิดจะให้คนอื่นมาดูแลฟาร์มนี้แทน”“ถูกต้อง”สีหน้าของนายท่านผ่อนคลายลง ก่อนจะถอนหายใจและพูดว่า: “หลังจากพี่ไห่ซานจากไป ฉันก็รู้สึกว่าสุขภาพของตัวเองย่ำแย่ลง ฟาร์มแห่งนี้ ฉันไม่มีแรงทำอีกต่อไปแล้ว”“คุณปู่หง คุณพูดอะไรน่ะ สุขภาพของคุณยังแข็งแรงนะคะ!”“คุณว่าไหมหลินเฟิง?”หลี่ฮุ่ยหรานรีบมองไปทางหลินเฟิงที่อยู่ข้าง ๆหลินเฟิงขมวดคิ้วเล็กน้อย เมื่ออยู่ต่อหน้าหลี่ฮุ่ยหราน เขาก็ไม่ได้พูดอะไรมากและพยักหน้า“ถูกต้อง”อย่างไรก็ตาม หลี่กงเฉิงก็สังเกตเห็นความลั
ในที่สุดเสียงตะโกนร้องของหลี่ฮุ่ยหรานก็ทำให้กำแพงของจางกุ้ยหลานพังทลายก่อนที่เธอจะกระโดดลงจากเตียงแล้วพุ่งไปที่กำแพง“ฮุ่ยหราน แม่ขอโทษ แม่ก็ไม่มีทางแล้วเหมือนกัน ให้แม่ตายตอนนี้ เพื่อชดใช้หนี้ของลูก...”จางกุ้ยหลานร้องสะอื้น พร้อมทั้งกระแทกใส่กำแพงอย่างแรงกระแทกไปเพียงสองครั้ง ผ้าก๊อซบนหัวของเธอก็เริ่มมีเลือดไหลออกอีกครั้ง“หยุดนะ!”หลี่ฮุ่ยหรานคว้าแม่ของตัวเองไว้ ก่อนจะตะโกนว่า :“แม่เอาการฆ่าตัวตายมาข่มขู่อยู่ตรงนี้ แล้วจะเอาชีวิตมาชดใช้หนี้ของหนูได้ยังไง? แทนที่แม่จะคิดหาวิธีดี ๆว่าควรจะเอาเงินกลับมาได้ยังไง!”“ตอนนี้แม่หาหลี่เหวินเชา ให้เขารีบมาที่นี่!”หลี่ฮุ่ยหรานพูดขึ้นด้วยความโกรธ“ได้ได้ได้....”จางกุ้นหลานเอาโทรศัพท์มือถือขึ้นมา ก่อนจะรีบต่อสายหาหลี่เหวินเชาทันทีแต่เสียงดังไม่กี่ครั้ง หลี่เหวินเชาก็ตัดสายไป“หืม? เกิดอะไรขึ้น?”หลี่ฮุ่ยหรานมองไปที่หลินเฟิงอย่างสงสัย หรือว่าหลี่เหวินเชาจะถูกน้องชายของโจวเซวียโหลวจับตัวไปแล้ว?“ผมโทรเอง”หลินเฟิงเดินเข้ามา แล้วเอาหมายเลขโทรศัพท์มือถือของหลี่เหวินเชาจากจางกุ้ยหลานและกดโทรออกเสียงดังขึ้นสองครั้ง หลี่เหวินเชา
หลังจากที่ทุกคนพูดถึงหลี่เหวินเชากันสักพัก หลี่ฮุ่ยหรานก็กลับมาเข้าเรื่องอีกครั้ง“แล้วบาดแผลของแม่เป็นยังไงบ้าง?”“เมื่อหาหลี่เหวินเชาไม่เจอ และก็ไม่เห็นโจวเซวียโหลว คุณป้าก็เลยทำได้เพียงไปเอาเงินที่เจี้ยนหงกรุ๊ป”“แต่เจี้ยนหงกรุ๊ปกลับให้เหตุผลว่าคุณป้าเซ็นสัญญาที่ไม่สามารถคืนเงินได้ ดังนั้นคุณป้าก็เลยเอะอะโวยวายกับพวกเขา ผลสุดท้ายก็เกิดเรื่องกระทบกระทั่งกับพวกเขา และไม่ระวังจนหัวไปกระแทกกับกำแพงเข้า”จางซินแบมือออก พร้อมกับอธิบายด้วยน้ำเสียงแผ่วเบา“แม่ แม่นี่นะ......เฮ้อ แม่นี่เลอะเลือนแล้วจริง ๆ!”หลี่ฮุ่ยหรานรู้ว่า จริง ๆแล้วเรื่องในครั้งนี้ไม่ควรตำหนิจางกุ้ยหลาน ถ้าจะตำหนิ ก็ทำได้เพียงตำหนิลูกชายที่เธอให้กำเนิดมานั้นช่างชั่วช้าเกินไปหลังจากที่หลอกแม่ของตัวเองแล้ว ก็หันหลังกลับไปหลอกพี่สาวของตัวเอง และถึงขนาดขายพี่สาวของตัวเองเพื่อเงินอีกด้วยพูดได้แค่ว่า ไอ้สารเลวที่ชั่วร้ายไร้ยางอาย“แม่ ไม่ต้องกังวล คราวนี้พวกคุณเสียเงินไปเท่าไหร? ให้หนูดูหน่อยว่าจะสามารถช่วยพวกคุณโปะช่วงโหว่ได้ชั่วคราวหรือไม่”หลี่ฮุ่ยหรานขมวดคิ้วก่อนจะถามขึ้นว่า :จางกุ้ยหลานอ้าปาก แต่กลับพูดไม่อ
ในตอนนี้จางซินเดินเข้ามาจากด้านนอกห้องพักผู้ป่วย เธอเห็นหลี่ฮุ่ยหรานก็ถอนหายใจออกมา“พี่ พี่รีบช่วยคุณป้าเถอะ”“ทำไมเหรอ?”ถึงแม้จะรู้สึกหงุดหงิด แต่หลี่ฮุ่ยหรานก็ยังฝืนเอ่ยปากออกมา“ฉันพูดเองแล้วกัน”จางกุ้ยหลานสีหน้าเปลี่ยนไปอย่างไว เมื่อครู่ยังมีสีหน้าไม่ยินยอม ตอนนี้กลับหน้าบิดเบี้ยวเธออยากร้องไห้ก็ร้องไม่ออก ทำได้เพียงทอดถอนใจพูดว่า:“ฮุ่ยหราน แม่...แม่ทำผิดต่อลูก!”พูดจบ เธอก็จะชนเข้ากับกำแพงถึงแม้เห็นได้ชัดว่าเสแสร้งแกล้งทำ แต่หลี่ฮุ่ยหรานก็ยังรีบขวางจางกุ้ยหลานที่อารมณ์วู่วามเอาไว้“แม่ แม่เป็นอะไรกันแน่?”หลี่ฮุ่ยหรานฟังอย่างงุนงง จางกุ้ยหลานสร้างเรื่องอะไรให้เธออีก?“พี่ พี่รู้จักโจวโจวเสวียโหลวหนึ่งในสามผู้ยิ่งใหญ่ของเมืองเจิ้งเต๋อไหม?”จางซินที่อยู่ด้านข้างถามขึ้นมา“โจวเสวียโหลว?”หลี่ฮุ่ยหรานได้ยินชื่อนี้ หัวใจก็ใจกระตุก“ฉันรู้จัก ทำไมเหรอ?”“ไม่กี่วันก่อน เหวินเชากลับมา พอเขามาถึงเจียงโจว ก็มาหาฉันด้วยความรีบร้อน บอกว่ามีธุรกิจใหญ่...”จางกุ้ยหลานพูดทั้งสะอึกสะอื้น“ธุรกิจใหญ่ที่หลี่เหวินเชาพูดถึง ก็คือที่ดินผืนหนึ่งที่อยู่ในมือของโจวเสวียโหลว”จาง
แถมน้องชายคนนี้ก็ยังมีส่วนร่วมในขั้นตอนทั้งหมดอีกด้วยหลี่ฮุ่ยหรานถอนหายใจ และพูดว่า :“โจวเสวียโหลวไม่นับประสาอะไร แต่น้องชายคนนี้ของเขาเป็นถึงเสาหลักของเจี้ยนหงกรุ๊ปทั้งหมด แถมเขาก็ยังอยู่ในที่ลับมาโดยตลอดอีกด้วย”“ครั้งนี้ตั้งใจใช้นายเป็นเครื่องมือ ก็เป็นความคิดของเขาด้วย”“เมื่อครู่เขาบอกฉันหมดแล้ว”“งั้น...งั้นจะทำยังไงดี? ผมควรจะทำยังไงดี? พี่ ไม่อยากตาย! พี่ ขอร้องล่ะ ช่วยผมด้วย ช่วยผมด้วยนะ!”หลี่เหวินเชาตกใจมากจนล้มลงไปคุกเข่าอยู่ที่พื้นหากให้น้องชายของโจวเซวียโหลวรู้ว่าเขาคือคนที่ฆ่าโจวเซวียโหลวละก็ งั้นตัวเขาที่ไม่มีอำนาจและไม่มีใครปกป้องจะต้องเจอจุดจบที่น่าสังเวชมากแน่ ๆ“เหอะ เดิมทีฉันจะปล่อยโจวเซวียโหลวไปแล้ว แต่นายกลับยืนกรานที่จะเอาชีวิตเขา ตอนนี้นายเลยต้องมารับผลที่ตัวเองก่อไว้”หลินเฟิงกอดอก เห็นได้ชัดว่าไม่ต้องการที่จะจัดการเรื่องวุ่นวายนี้“หลี่เหวินเชา หลินเฟิงพูดถูกแล้ว แกต้องรับผิดชอบด้วยตัวแกเอง”หลี่ฮุ่ยหรานพูดอย่างเย็นชาว่า“แกคงไม่คิดว่าหลังจากที่แกวางแผนทำร้ายฉันแล้ว และยังอยากได้บริษัทและความบริสุทธิ์ของฉัน ฉันจะยังช่วยแกโดยไม่คำนึงถึงความแค้นใ
เห็นได้ชัดว่าเธอรู้ดีว่าถูกใครทำร้ายในเหตุการณ์อันตรายก่อนหน้านี้เมื่อวานหลี่เหวินเชากลับมาพึ่งพาเธอ เดิมทีเธอคิดว่าหลี่เหวินเชาไม่เหมือนกับจางซิน ดังนั้นเธอจึงจัดการตำแหน่งที่ว่างให้หลี่เหวินเชาแต่คิดไม่ถึงเลยว่าต่อมาหลี่เหวินเชาจะหักหลังเธอ“หากแกไม่ใช่น้องชายของฉัน ฉันคงฆ่าแกไปนานแล้ว!”หลี่ฮุ่ยหรานดุด่าเสียงดังลั่นและในตอนที่โดนด่า หลี่เหวินเชาก็ทำได้เพียงหดคอและก้มหน้าลงหลินเฟิงที่ไม่เคยเห็นหลี่ฮุ่ยหรานโกรธมากขนาดนี้มาก่อน รีบเอื้อมมือไปปลอบใจ แต่ก็คิดไม่ถึงว่าหลี่ฮุ่ยหรานจะโถมตัวเข้าหาหลินเฟิงโดยตรงพร้อมกับร้องไห้ในวินาทีถัดมา“หลินเฟิง มันเป็นเพราะอะไร เพราะอะไรกัน....”“คนในครอบครัวของฉันต่างก็เป็นแบบนี้กันหมดได้ยังไง?”“ไม่เป็นไร ไม่เป็นไรนะ ผมอยู่ที่แล้ว”หลินเฟิงตบหลังของหลี่ฮุ่ยหรานเบา ๆ พร้อมกับปลอบโยนเธออย่างระมัดระวัง“พี่ ขอโทษ....ผม....ผมก็ ถูกบังคับไม่มีทางเลือกเหมือนกัน....”หลี่เหวินเชาอธิบายอย่างอึกอักไม่กล้าพูด“ช่างเถอะ ฉันไม่อยากฟังแกอธิบาย”หลี่ฮุ่ยหรานเป็นผู้หญิงที่แข็งแกร่งจริง ๆเธอใช้เวลาไม่นานก็จัดการกับความรู้สึกของตัวเองได้แล้ว พร้อมกับ
“ผู้หญิงคนนั้นผมบังเอิญเจอตอนกำลังคุยเรื่องธุรกิจที่ประเทศเวน่า เธอ....เธอเป็นฝ่ายยั่วยวนผมและให้ผม...แค่กแค่ก.....”“ให้ผมลงทุนที่ดินสองผืน จนได้กำไรไม่น้อย”ประธานโจวพูดอย่างอ่อนแรงว่า :“ด้วยเหตุนี้ผมก็ตกหลุมพลางของเธอ และไว้ใจเธอมาก”“แต่เมื่อไม่กี่วันก่อน เธอหนีไปจากผมแล้วแถม...แถมยังเอาทรัพย์สินส่วนใหญ่ของบริษัทผมไปด้วย แค่กแค่กแค่ก...”เมื่อพูดถึงตรงนี้ ประธานโจวก็โกรธมากอย่างเห็นได้ชัด“หากไม่ใช่เพราะเรื่องนี้ ผม...ผมก็คงไม่หวาดกลัวว่าหลี่ซื่อกรุ๊ปจะดีเด่นขึ้นมา....”“เป็นแบบนี้นี่เอง”หลินเฟิงรู้สึกสะเทือนใจประธานโจวบอกว่าเขาพบกับฉู่ฮวาจิ่นที่ประเทศเวน่าหรือว่าฉู่ฮวาจิ่นคนนี้จะเป็นคนประเทศเวน่า?“ใช่....ใช่แล้ว คุณ...คุณชายหลิน”ประธานโจวที่เห็นว่าหลินเฟิงสนใจผู้หญิงคนนั้น และเพื่อความอยู่รอด เขาจึงรีบพูดว่า:“ผู้หญิงคนนั้นแพ้ดอกลิลลี่ อีกทั้งแพ้อย่างรุนแรง”“แพ้ดอกลิลลี่?”หลินเฟิงแอบจดจำไว้ในใจ ดูเหมือนว่าเขาไม่ได้เลือกที่จะฆ่าประธานโจวโดยตรง แต่ถามเขาเกี่ยวกับฉู่ฮวาจิ่น ก็ยังได้ข้อมูลอะไรบางอย่างด้วยแน่นอนว่า เรื่องก็อาจจะเป็นเรื่องที่โกหกขึ้นมาแต่เมื่อ
นี่เป็นร่างกายที่เหมือนกับเทพเพียงแต่พลังชี่แท้ของเขายังคงเป็นขั้นเซียนเทียนต้าหยวนหม่าน“ถ้าหากฉันเรียนรู้ที่จะลอยตัวได้ และปล่อยคาถา ก็จะเป็นเทพจริงๆ แล้วใช่ไหม?”“หรือพูดว่า...ขอบเขตเทพ?”หลินเฟิงลังเลเล็กน้อยหรือว่าร่างกายของเขาตอนนี้ได้บรรลุขอบเขตเทพแล้ว?นี่คือระดับขั้นที่อยู่เหนือแดนแปรภาพยอดฝีมือขอบเขตเทพทั่วทั้งประเทศมังกร สามารถใช้นิ้วนับได้หลินเฟิงตั้งสติ กวาดสายตามองลูกสมุนที่คุกเข่ากราบเขาอยู่รอบๆ ก็พูดออกมาด้วยน้ำเสียงเย็นชาว่า:“ไสหัวไป”“ครับครับครับ ท่านเทพผู้ยิ่งใหญ่ พวกเราไสหัวไป จะไปเดี๋ยวนี้ครับ”“รีบไป...ไม่ รีบไสหัวไป ไสหัวไปสิ...”มองดูพวกลูกสมุนหลายสิบคนที่ทิ้งอาวุธหนีไป หลินเฟิงกลับไม่ได้ตามไปโจมตีเขาไม่ใช่คนที่ฆ่าไม่เลือก คนเหล่านี้ถึงแม้จะมีโทษประหาร แต่ไม่มีความท่าทีจะต่อสู้แล้ว แลก็ไม่ได้ขวางทางหลินเฟิงเช่นนั้นหลินเฟิงก็ขี้เกียจจะสนใจ“เอาล่ะ”หลินเฟิงยื่นมือไปจับคอเสื้อของหลี่เหวินเชา เหมือนกับยกลูกไก่ขึ้นมาส่วนประธานโจว ตอนนี้หน้าเละเทะ คนทั้งคนเหลือลมหายใจอยู่แค่เพียงครึ่งเดียวดูท่าเพื่อที่จะรอดชีวิต หลี่เหวินเชาลงมือไดด้อย่างไ
“พรวด!”หลินเฟิงไม่ได้ใช้พลังชี่แท้ เขายกเท้าขึ้น เตะร่างกายท่อนบนของหานเวยจนระเบิดออกมองดูเลือดสดและเนื้อที่กระเด็นไปทั่ว สีหน้าของประธานโจวกับหลี่เหวินเชาเปลี่ยนไปซีดขาวโดยสิ้นเชิง“นี่...นี่เขาแม่งใช่คนเหรอ?”ประธานโจวเหลือบมองหลี่เหวินเชา อยากจะตบหน้าเขาต่อหน้าทุกคน เขาแม่งเชิญพญายมมาจากที่ไหนกัน?หรือว่าตั้งใจอยากจะฆ่าเขางั้นเหรอ?“ผม...เป็นไปได้ยังไง...”หลี่เหวินเชาหน้าตาโศกเศร้า สีหน้าของเขาแย่ยิ่งกว่าประธานโจว คนทั้งคนแทบเหมือนกับถูกสูบกระดูกอ่อน ตัวอ่อนทรุดนั่งลงบนพื้นอย่างสั่นเทาถ้าหากหลินเฟิงตามมาจะไม่ฆ่าเขาได้ในทันทีเลยเหรอ?นึกถึงเรื่องเลห่านี้ที่ตัวเองทำ และคำพูดรุนแรงที่เขาพูดกับหลินเฟิงเมื่อครู่นี้ เขาก็อดไม่ได้ที่อยากจะตบหน้าตัวเอง“นี่...ทำยังไงดี?”หลี่เหวินเชางุนงงไปหมด เขาพยายามคิดหาวิธีให้ตัวเองรอดชีวิตไปได้ และในตอนนี้เอง เขาก็เห็นสายตาที่ดุเดือดของประธานโจวที่มีต่อเขาเช่นเดียวกันหลี่เหวินเชาที่กำลังกระวนกระวายในตอนแรก เป็นเหมือนกับหมาป่าที่ถูกต้อนจนสิ้นหวัง กลับเผยสายตาดุดันออกมาใส่ประธานโจว “ทั้งหมดเป็นเพราะแกข่มขู่ฉัน! แม่งเอ๊ย!”หลี่เหวิน
ตอนนี้ ทุกคนต่างคิดว่าคนที่พ่ายแพ้และมีเลือดไหลออกมาก็คือหลินเฟิงแต่...“แค่กแค่กแค่ก.พี่ใหญ่ รีบ...รีบหนี”เสียงไอที่อ่อนแรงดังขึ้นมาท่ามกลางหมอกควัน“อะไรกัน?!”หานเวยที่กุมข้อมือที่หักของตัวเอง คุกเข่าอยู่บนพื้นถลึงตาโต เขาได้ยินอะไร?เขาเหมือนกับได้ยินเสียงที่อ่อนแรงของน้องชายตัวเองแถมยังให้เขาหนีไปอีก?ตกลงมันเรื่องอะไรกันแน่?ไม่ถึงสองวินาที ควันฝุ่นหายไปจนหมด ในที่สุดหานเวยก็เห็นภาพตรงหน้าแล้วเห็นเพียงแค่หลินเฟิงยื่นหมัดออกมาอย่างเงียบสงบคิดไม่ถึงว่าจะโจมตีโดนหน้าอกของหานกั๋วโดยตรงแบบนี้!ศพของหานกั๋วห้อยอยู่ที่แขนของหลินเฟิง แขนกับศีรษะตก ไม่มีลมหายใจแล้ว!“อะไร?!”หานเวยตกตะลึงจนหน้าถอดสี น้องชายของเขาถูกหมัดธรรมดาๆ แบบนี้...ฆ่าตายงั้นเหรอ?!”“ฮะ?!”หลี่เหวินเชาก็แสดงความตกตะลึงออกมากับผลลัพธ์แบบนี้เป็นเพราะเขารู้ว่าหลินเฟิงก็เป็นนักบู๊ถึงแม้จจะออกจากเมืองเจียงโจวไประยะหนึ่งแล้ว แต่เขาได้ยินมาจากที่ต่างๆ ว่าความสามารถของหลินเฟิงนั้นแข็งแกร่งมากด้วยเหตุนี้ เขาจึงเตือนประธานโจวโดยเฉพาะและประธานโจวก็ไม่ได้สะเพร่า จ่ายเงินไปก้อนใหญ่ เชิญพี่น้องตระกูลหาน