“ก็จะเป็นชีวิตที่มีความสุขของพวกเราทั้งสองคน และก็จะไม่มีใครมาขัดขวางได้อีก”“ฉันรู้สึกไม่สบายใจ...นิดหน่อย”ถานหงเหลือบมองไปทางหลินเฟิงและเผิงกวงฉี่ ที่ยังคงขมวดคิ้วอยู่“ผู้ชายที่ชื่อหลินเฟิงคนนั้น ก็เป็นผู้ชายที่อิ่นนั่วเจียชื่นชมมากสินะ ถึงแม้ว่าภายนอกจะดูไม่ค่อยดีเท่าไหร่ แต่ฉันก็เคยสัมผัสมาก่อนที่โฮมสเตย์ในเมืองจิง”“มันได้ผลจริง ๆ”“ดังนั้น....”“เอาล่ะ!”ท่าทางของพ่อบ้านหวังที่ดูสุขุมเล็กน้อย พูดรับรองกับถานหงว่า :“ในเมื่อคุณเกลียดเขาขนาดนี้ งั้นผมก็หาวิธีจัดการเขาอย่างลับ ๆ ผมเป็นถึงยอดฝีมือระดับเซียนเทียน สามารถที่จะฆ่าเด็กหนุ่มได้อย่างสบาย ๆ นั่นยังไม่ใช่เรื่องง่าย ๆหรอกเหรอ?”เมื่อฟังมาถึงตรงนี้ ถานหงก็ยิ้มออกมาด้วยความยินดี“งั้นคุณก็ต้องสัญญานะ!”“ฮาฮา แน่นอน เพียงแค่คุณมีความสุข ต่อให้ผมขึ้นต้องเป็นอันตรายก็ได้ทั้งหมด....”“แค่ก แค่ก แค่ก...”ในขณะนี้เอง จู่ ๆหลินเฟิงก็ไอออกมาอย่างรุนแรง“หืม?!”พ่อบ้านหวังมองไปทางหลินเฟิงอย่างตื่นตระหนกระหว่างพวกเขาทั้งสองมีกำแพงกั้นไว้อยู่ และหลินเฟิงที่กำลังมุ่งความสนใจไปที่การรักษาอาการป่วยของเผิงกวงฉี่พ่อบ้านหวัง
“อ้าก!”เผิงกวงฉี่ไปที่ห้องน้ำ หลังจากพยายามอยู่เต็มๆ สิบนาที จู่ๆ เขาก็ส่งเสียงร้องที่ดังลั่นออกมาได้ยินเสียงตะโกนนี้ หลินเฟิงยื่นมือออกไปขัดขวางการเข้าใกล้ของถานหงกับพ่อบ้านหวังเขาขยับเข้าไปใกล้ เคาะประตูห้องน้ำ และยิ้มพูดว่า:“เถ้าแก่เผิง เป็นยังไงบ้าง?”“ฝี…ฝีมือการรักษาของคุณหลิน มันช่าง…ช่าง…”เห็นได้ชัดว่าเผิงกวงฉี่คนนี้เห็นสิ่งของที่ตัวเองขับออกมา จึงตกใจอย่างมาก“หึ ในเมื่อเถ้าแก่เผิงไม่เป็นไรแล้ว เช่นนั้นหลินเฟิงก็ขอตัวลาก่อน ไม่ทราบว่าค่ารักษาพยาบาลที่คุณรับปากผม จะจ่ายให้ผมเมื่อไหร่ครับ?”“งั้นก็พรุ่งนี้ เดี๋ยว…แค่กแค่กแค่ก…ไม่ไม่ไม่ ไม่ได้ คุณหลิน ได้โปรดเข้ามาหน่อย ผม…ผมรู้สึกว่าในท้องของผมยังเจ็บปวดอย่างมาก ผม…อ้าก!”ในตอนที่หลินเฟิงคิดว่าเผิงกวงฉี่ไม่เป็นไรแล้วเผิงกวงฉี่ที่อยู่ในห้องน้ำ ก็เกิดการเปลี่ยนแปลงขึ้นกะทันหัน“หือ?!”หลินเฟิงนิ่งอึ้งไป หรือว่าเขาทำพลาดอะไรงั้นเหรอ?คิดถึงตรงนี้ เขาไม่พูดพร่ำทำเพลง พุ่งเข้าไปในห้องน้ำโดยตรงแต่ทว่าเพิ่งจะพุ่งเข้าไปหลินเฟิงก็เห็นเผิงกวงฉี่กำลังพิงกำแพงด้านหนึ่งอยู่ถึงแม้สีหน้ายังคงอ่อนแอ แต่ไม่ได้เจ็บปวดเหมื
“สวรรค์ช่วยฉันไว้แท้ๆ...”“เสี่ยวหง พ่อบ้านหวัง”ในตอนนี้ ภายในห้องน้ำมีเสียงตะโกนที่อ่อนเพลียของเผิงกวงฉี่ดังขึ้นทั้งสองคนมองตากัน พากันเก็บรอยยิ้มลำพองใจบนใบหน้าเอาไว้ เปลี่ยนไปเป็นสีหน้ากังวลใจเหมือนกับในเวลาปกติ......หลินเฟิงเรียกรถแท็กซี่ไปที่หลี่ซื่อกรุ๊ปตอนนี้จางซินกำลังระเบิดอารมณ์อยู่ที่ทางเดินของห้องทำงานเธอหยิบแจกันดอกไม้ตรงทางเดินขึ้นมาขว้างไปทางจ้าวเว่ย และด่าทอเสียงดัง:“ก่อนหน้านี้คุณรับปากฉันไม่ใช่เหรอ บอกว่าจะเอาโควต้าห้าแห่งมาให้บริษัทของพี่สาวฉันไม่ใช่เหรอ? ตอนนี้จบกัน ฉันคุยโวโอ้อวดออกไป ปรากฏว่าคว้าเอามาไม่ได้แม้แต่โควต้าเดียว!”“คุณรู้ไหมว่าตอนนี้ฉันอับอายขายหน้าไปจนถึงบ้านคุณย่าแล้ว!”“ฉันไม่กล้าไปพบญาติผู้พี่ของฉันแล้ว!”จางซินโมโหจนด่าสาดเสียเทเสีย ถึงกับดึงดูดกลุ่มคนมาล้อมดูจ้าวเว่ยหลบแจกันดอกไม้ที่จางซินโยนมา ครั้งนี้ที่เขามาเพราะอยากจะอธิบายกับหลินเฟิง คิดไม่ถึงว่าเพิ่งเข้าบริษัทมาก็ได้พบกับผู้หญิงบ้าคนนี้เธอไม่พูดพร่ำทำเพลงก็ระบายอารมณ์ใส่เขาถ้าหากไม่ใช่ว่าต้องแสร้งทำเป็นแฟนของเธอ จ้าวเว่ยอาจจะตบหน้าจางซินในตอนนี้ซะเลย“หือ? เกิดอะไรข
“เผิงกวงฉี่ยอมจ่ายเงินเต็มที่เพื่อที่ดินเหล่านี้ หรือจะเป็นเพราะอยากให้หลี่ซื่อกรุ๊ปของเรา ใช้เงินทุนทั้งหมดเพื่อไปตีเสมอกับเศรษฐีอันดับหนึ่งของหัวตงงั้นเหรอ?”“งั้นคุณไม่สู้ให้หลี่ซื่อกรุ๊ปล้มละลายไปซะเลยดีกว่า!”คำพูดของหลี่ฮุ่ยหรานทำให้พนักงานในบริษัทคนอื่นๆ พากันพยักหน้าหลี่ฮุ่ยหรานพูดไม่ผิด เผิงกวงฉี่เศรษฐีอันดับหนึ่งเมืองหัวตงไม่มีสิ่งอื่น แต่มีเงินเต็มไปหมดต่อให้หลี่ซื่อกรุ๊ปเก่งกาจแค่ไหนก็ไม่มีทางที่จะแข่งขันเงินกับเขาได้นั่นก็คือรนหาที่ตาย“หึหึ”กัวโหย่วคังกลอกตามองบน ตอนนี้ลูกชายของเขาตายแล้ว เขาเปลี่ยนไปสุดขีดและไม่สนใจสิ่งใด จากนั้นฉีกยิ้มพูดว่า:“ผมไม่สนอะไรขนาดนั้นหรอก ยังไงพวกคุณก็ทำเงื่อนไขข้อที่สองไม่สำเร็จ นี่คือเรื่องจริงใช่ไหมล่ะ?”“ใช่ความเป็นจริง แต่ว่า...”“ไม่มีแต่ว่าอะไร”กัวโหย่วคังยิ้มเยาะพูดว่า:“ผมดูแค่ผลลัพธ์เท่านั้น ถ้าหากพวกคุณทำไม่ได้ นั่นก็คือทำไม่ได้ ตอนนี้ผมบอกพวกคุณให้ว่าหลายปีมานี้ผมเอาเงินของหลี่ซื่อกรุ๊ปไปเท่าไหร่”“หกหมื่นล้านบาท”ตอนที่กัวโหย่วคังพูดตัวเลขนี้ออกมา พนักงานของหลี่ซื่อกรุ๊ปที่อยู่ข้างๆ พากันสูดลมหายใจเข้าอย่างแรง
“พรวด...”ภายใต้ความเงียบสงัด จางซินอดกลั้นไม่ไหวก่อนใคร และหัวเราะออกมา“หลินเฟิง สมองของนายไม่ได้มีปัญหาใช่ไหม?”จางซินมองหลินเฟิงและหัวเราะเยาะ จากนั้นพูดเหน็บแนมว่า:“อุ๊ย ถูกแล้วแหละ!”“เศรษฐีอันดับหนึ่งของหัวตง ถูกนายคนที่ไม่มีชื่อเสียงอะไรไปพูดคุยที่บ้านสองสามประโยค ก็ตัดสินใจยกที่ดินที่ตกมาอยู่ในมือให้นาย”“เช่นนั้นขอถามหน่อยว่า...”“นายคือลูกชายของเศรษฐีอันดับหนึ่งของหัวตงท่านนั้น หรือเป็นหลาน หรือเป็นแฟนของเขากันล่ะ?”เผชิญหน้ากับคำเยาะหยันอย่างโจ่งแจ้งของจางซิน หลินเฟิงไม่ได้รับคำพูดต่อเขามองไปทางหลี่ฮุ่ยหรานด้วยความสงบนิ่งและพูดว่า:“วางใจเถอะ เรื่องที่ดินผมจัดการเรียบร้อยแล้ว พรุ่งนี้พวกเรานำสัญญาไปที่บริษัทเต๋อหนิงโดยตรงก็พอแล้ว”“จริงเหรอหลินเฟิง?”ข่าวนี้กระทันหันจนเกินไป ทำให้หลี่ฮุ่ยหรานไม่ทันได้ตั้งตัวเธอไม่รู้ว่าตอนนี้ควรจะร้องไห้หรือหัวเราะสิ้นหวังก่อน จากนั้นก็มีความหวังหัวใจของหลี่ฮุ่ยหรานเหมือนกับนั่งรถไฟเหาะ เธอยกมือทาบหน้าอกของตัวเอง รู้สึกว่าตัวเองแทบจะแบกรับไม่ไหวแล้ว“ต้องเป็นเรื่องจริงแน่นอนอยู่แล้ว ผมเคยโกหกคุณเมื่อไหร่กัน?”รอยยิ้มขอ
วันต่อมาหลินเฟิงและหลี่ฮุ่ยหรานเตรียมตัวกันตั้งแต่เช้า ก่อนจะขับรถออกไปหาอาคารสำนักงานที่เป็นที่ตั้งของบริษัทเต๋อหนิงจนเจอส่วนจางซินที่ร้องไห้โวยวายก็ติดตามมาด้วย ใช้คำพูดที่เธอพูดมา เธอต้องการจะเห็นด้วยตาของตัวเองว่าหลินเฟิงมีความสามารถอะไรจะสามารถเอาที่ดินที่อยู่ในมือของเผิงกวงฉี่กลับมาได้ไม่เป็นไปตามที่คาดไว้เลยบริษัทเต๋อหนิงแห่งนี้เป็นบริษัทก่อสร้าง ๆขนาดเล็กในท้องถิ่น ก่อนหน้านี้ได้ถูกเผิงกวงฉี่กว้านซื้อไปหมดแล้ว ตอนนี้จึงเป็นเพียงบริษัทที่มีแต่เปลือกนอกเท่านั้น“สวัสดี คุณมาหาใคร?”ชายหนุ่มที่มีไม้จิ้มฟันคาอยู่ที่ปากนั้น มองดูภายนอกก็รู้ว่าเป็นคนที่หยิ่งยโส ได้เข้ามาขวางทางของหลินเฟิงและคนอื่น ๆเมื่อดวงตาของเขากวาดมองไปที่จางซินและไปหยุดอยู่ที่หลี่ฮุ่ยหราน ทันใดนั้นดวงตาก็เบิกกว้างขึ้น พร้อมกับไม้จิ้มฟันในปากที่ตกลงบนพื้น“เชี่ย!”ชายหนุ่มคนนี้สบถคำหยาบออกมา“มีอะไรงั้นเหรอ?”ในเวลานี้ ชายที่อ้วนท้วมเล็กน้อยเดินออกมาจากด้านใน เขาเดินขมวดคิ้วพร้อมกับพูดว่า :“ถ้าหากจะมาพูดคุยเรื่องธุรกิจกับบริษัทเต๋อหนิงของพวกเรา ต้องขอโทษด้วย บริษัทเต๋อหนิงของพวกเราถูกคนซื้อกิจ
ไม่รอให้ผู้ชายอธิบายจนจบ ชายหนุ่มที่อยู่ข้าง ๆเขา ซึ่งกำลังจ้องมองไปที่หลี่ฮุ่ยหรานอยู่ ก็โต้ตอบกลับมา พร้อมกับพูดอย่างสงสัยว่า :“พี่ใหญ่ เมื่อครู่พวกเขาก็รู้แล้วไม่ใช่เหรอว่าพวกเราถูกเถ้าแก่เผิงกว้านซื้อไปแล้วนะ? แล้วพวกเขายังจะมาที่นี่ทำไมอีก?”“ใช่ พวกคุณมาทำอะไรที่นี่? ไม่ใช่เรื่องการรับซื้อที่ดินหรอกงั้นเหรอ?”ผู้ชายขมวดคิ้วพร้อมกับมองไปทางหลินเฟิง“เป็นเรื่องการรับซื้อที่ดินนั้นแหละ”หลินเฟิงพยักหน้า เพื่อยืนยันคำพูดของพวกเขา“ชิ”ผู้ชายแตะลูบศีรษะ แล้วพูดออกมาอย่างช่วยไม่ได้ว่า :“ไม่ใช่ว่าฉันพูดหรอกนะ สหาย คุณก็รู้ว่าเถ้าแก่เผิงต้องการที่ดินพวกนี้ แล้วคุณยังจะมาทำอะไรที่นี่อีกล่ะ?”“หรือว่าพวกคุณต้องการซื้อที่ดินที่อยู่ในมือของเถ้าแก่เผิงกลับไปนะ?“ใช่แล้ว สติปัญญาของคุณไม่ผิดปกติใช่ไหม?”ชายหนุ่มก็ชี้ไปที่หัวของตัวเอง พร้อมกับเยาะเย้ยหลินเฟิง“พี่ พี่เห็นชัดแล้ว”จางซินก็ยืนอยู่ด้านข้างอย่างดีใจ แล้วพูดขึ้นว่า :“พวกเขาไม่เคยรู้เรื่องการซื้อที่ดินของพวกเราเลย พี่มองไม่ออกเหรอว่าหลินเฟิงเพียงแค่โอ้อวดเท่านั้นนะ?”“แล้วยังขอให้เถ้าแก่เผิงเต็มใจยอมขายให้กับคุณอีก
ในตอนที่หลินเฟิงได้พบกับพ่อบ้านหวังเมื่อครู่นี้ สีหน้าไม่ค่อยดีสักเท่าไหร่นักเหตุผลแรกที่เขาคิดได้ก่อนเป็นลำดับแรกก็คือเผิงกวงฉี่หักหลังเขาแต่เมื่อคิดอีกที ก็รู้สึกว่าเป็นไปไม่ได้ทั้งสองคนที่อยู่ข้างกายมีความคิดที่จะฆ่าเผิงกวงฉี่ นอกจากเผิงกวงฉี่คนนี้จะเป็นบ้าไปแล้ว ไม่อย่างนั้นคงไม่ทำเรื่องที่หักหลังหลินเฟิงคนโง่ที่ไหนจะกลายเป็นเศรษฐีอันดับหนึ่งของหัวตง?พ่อบ้านหวังเผยสีหน้าโมโหออกมาเหมือนเขาจะนึกอะไรออกขึ้นมา จึงพูดอย่างไม่เกรงใจว่า:“ที่แท้ก็เป็นแบบนี้นี่เอง ผมทราบแล้ว คุณ คงจะอยากถือโอกาสในตอนที่คุณเผิงร่างกายไม่แข็งแรง และฉวยโอกาสยึดครองไปสินะ?!”“อะไรนะ?”ไม่เพียงแค่หลินเฟิงที่ขมวดคิ้ว หลี่ฮุ่ยหรานก็ขมวดคิ้วแน่นเช่นกันเธอยอมเชื่อหลินเฟิงแต่คนรับใช้ส่วนตัวของเผิงกวงฉี่กลับไม่รู้เรื่องนี้ไม่ว่าดูยังไง หลินเฟิงเหมือนกับคนที่พูดมีเหตุผลมีหลักการอย่างมาก จากนั้นกลับถูกตอกหน้าอย่างแท้จริงยิ่งไม่ต้องพูดถึงว่าอีกฝ่ายโมโหแล้ว อีกทั้งตำหนิหลินเฟิงว่าอยากจะฉวยโอกาส“หลินเฟิง ไม่อย่างนั้นพวกเราออกจากที่นี่กันก่อนเถอะ จากนั้นค่อยวางแผนกันใหม่?”หลี่ฮุ่ยหรานหาทางปกป้องศ
เห็นเผิงกวงฉี่เผชิญหน้ากับความตายของตัวเองได้สงบนิ่งขนาดนี้ ถึงกับยังเห็นเขาเป็นคนรับใช้ สีหน้าของพ่อบ้านหวังบิดเบี้ยวเล็กน้อยถึงขั้นที่เขาคิดว่าหากฆ่าเผิงกวงฉี่ไปแบบนี้กลับจะเป็นเขาที่พ่ายแพ้เผชิญหน้ากับสายตาจริงจังของเผิงกวงฉี่ ในตอนนี้พ่อบ้านหวังกลับรู้สึกลังเลแล้ว“สิบกว่าปีก่อน นายเคยให้คำสัตย์กับฉัน นายจะติดตามฉันตลอดชีวิต”จู่ๆ เผิงกวงฉี่ก็พูดเรื่องเก่าๆ ขึ้นมาเขายิ้มพูดเรียบๆ:“ตอนนั้นสีหน้าที่อับจนหนทางของนาย คำพูดที่จริงจังแต่ละคำ ทำให้ฉันจดจำฝังใจ จนถึงตอนนี้ฉันก็ยังสามารถนึกขึ้นมาได้”เผงกวงฉี่เหมือนกับได้เห็นฉากในตอนนั้นขึ้นมาจริงๆเขาถอนหายใจพูดว่า:“เราสองคนเป็นเพื่อนเล่นกันตั้งแต่เด็ก ถึงแม้ภายหลังจะแยกจากกันเป็นเวลานาน ตอนที่นายถูกตามฆ่า และกลับมาพึ่งพาฉันอีกครั้ง ฉันยังเห็นคงมีความเชื่อมั่นต่อนายโดยที่ไม่มีเงื่อนไขใดๆ”“ฉันกวงเผิงฉี่ชีวิตนี้เชื่อใจแค่นายคนเดียวของฉัน แต่ว่า...”เผิงกวงฉี่ยิ้มอย่างขมขื่นพูดว่า:“ดูท่าแล้วโชคชะตาล้อเล่นกับคนสินะ...”“......”ได้ยินคำพูดแบบนี้ของเผิงกวงฉี่ พ่อบ้านหวังนิ่งอึ้งครู่หนึ่ง สีหน้าค่อยๆ เปลี่ยนไปละอายใจเล็กน้
“อะไรกัน?!”นักบู๊ที่อยู่ใกล้พ่อบ้านหวังมากที่สุดคนหนึ่ง ยังไม่ทันได้ตั้งตัว ก็ถูกพ่อบ้านหวังตบจนสมองระเบิดเละเป็นเหมือนกับแตงโมที่แตกเป็นเสี่ยงๆ เลือดเนื้อติดอยู่บนกำแพง น่าหวาดกลัวอย่างถึงที่สุด“แดนแปรภาพ?! เขาอยู่ในแดนแปรภาพ!”นักบู๊ที่อยู่รอบด้านสัมผัสได้ถึงพลังบนตัวของพ่อบ้านหวังที่ผิดปกติในทันทีผู้แข็งแกร่งแดนแปรภาพเทียบกับเซียนเทียนแล้ว แข็งแกร่งกว่าไม่ใช่แค่เพียงนิดหน่อยหลังจากการรวมตัวของพลังชี่แท้กับการควบคุมพลังได้ตามใจชอบ ความสามารถของผู้แข็งแกร่งแดนแปรภาพไม่ใช่นักบู๊ระดับเซียนเทียนจะสามารถเทียบเท่าได้แน่นอนว่า หนึ่งในนี้นอกจากมีตัวตนที่สุดยอดเหนือขั้นตัวอย่างเช่นหลินเฟิงถึงแม้หลินเฟิงจะเป็นขั้นเซียนเทียนต้าหยวนหม่าน แต่แดนแปรภาพทั่วๆ ไปก็ทำอะไรเขาไม่ได้นอกจากแดนแปรภาพขั้นสูงสุด ถึงจะบีบคั้นให้หลินเฟิงใช้ไม้ตายของตัวเองออกมานี่ต้องยกคุณความดีให้กับการที่วิทยายุทธของหลินเฟิงถดถอยเมื่อสามปีก่อนบรรลุถึงขั้นเซียนเทียนต้าหยวนหม่านสองครั้ง ทำให้พลังชี่แท้ของหลินเฟิงแข็งแกร่งยิ่งกว่านักบู๊ทั่วๆ ไป ถึงขั้นที่นักบู๊แดนแปรภาพบางคนก็ยังเทียบไม่ได้และในตอนนี้ หล
เป็นอย่างที่คิดเผิงกวงฉี่ส่ายหน้า ในดวงตาเผยความเยาะหยันออกมา และพูดเรียบๆ ว่า: “ใช่สิ คนข้างหมอนของฉัน แต่กลับโหดร้ายกับฉันได้ขนาดนี้...”“ทำให้ฉันเดินไปหาความตายช้าๆ มองดูฉันแย่ลงทุกวัน สุดท้ายอ่อนกำลังและตายไป หนอนคุณไสยทะลุท้อง”“ผม...”พ่อบ้านหวังยังอยากจะพูดอะไร แต่เขาก็พูดไม่ออกสักคำเขาเงียบขรึมอยู่ครู่ใหญ่ จากนั้นเงยหน้าพูดอย่างแน่วแน่:“เผิงกวงฉี่ เรื่องนี้ผมเป็นคนวางแผน ต้นเหตุทั้งหมดมาจากผม คุณปล่อยถานหงไป เพียงแค่คุณปล่อยถานหง ผมจะยอมให้คุณจัดการตามใจชอบ”“สายไปแล้ว”เผิงกวงฉี่พูดเสียงเบา:“ฉันบอกแล้วว่า ถานหงถูกฉันกำจัดไปแล้ว”“อะไรนะ? คุณทำจริงๆ เหรอ?”ความหวังสุดท้ายในดวงตาพ่อบ้านหวังถูกดับสูญจู่ๆ เขาก็ส่งเสียงหัวเราะที่มีอาการตื่นเต้นออกมาจากนั้น เสียงหัวเราะนี้ค่อยๆ เปลี่ยนไปดังขึ้น สุดท้ายก็เงยหน้าหัวเราะอย่างบ้าคลั่ง“เผิงกวงฉี่ นายนี่มันใจไม้ไส้ระกำจริงๆ!”“คนที่ใจไม้ไส้ระกำไม่ใช่ฉัน แต่เป็นพวกนายต่างหาก”เผิงกวงฉี่เงยหน้าขึ้น ตอบโต้ด้วยสีหน้านิ่งเฉย“ฮ่าฮ่า ใช่ นายพูดไม่ผิด ฉันใจไม้ไส้ระกำจริงๆ นั่นแหละ...ฮ่าฮ่าฮ่า...แต่ฉันคิดไม่ถึงว่า นายจะฆ่า
ถึงแม้เผิงกวงฉี่จะพานักบู๊มาจำนวนไม่น้อยแต่อยากจะฆ่าเอาชีวิตของพ่อบ้านหวังนั้น เห็นได้ชัดว่ามันยังไม่เพียงพอ อีกทั้งไม่แน่อาจจะยังพบกับอันตราย ถูกย้อนกลับมาฆ่าหลินเฟิงก็เป็นเพราะความกังวลนี้ ถึงได้อยู่ต่อตามลำพังเขาจะให้เผิงกวงฉี่ถูกฆ่าไม่ได้ถ้าหากเผิงกวงฉี่ถูกฆ่า งั้นที่ดินสี่ห้าผืนที่เขาอยากได้ก็จะกลายเป็นความคิดเพ้อเจ้อเขาเก็บซองเอกสารเอาไว้ เดินไปตามทางเดิน หลินเฟิงแอบเข้าไปข้างในเงียบๆเป็นอย่างที่หลินเฟิงคิดไว้ไม่ผิดในตอนที่หลินเฟิงแอบย่องมาถึงนอกห้องทำงาน เขาก็เห็นพ่อบ้านหวังกับเผิงกวงฉี่ที่กำลังคุมเชิงกันอยู่ตรงนี้“คุณเผิง คุณให้ผมตรวจสอบบัญชีของบริษัทเต๋อหนิงไม่ใช่เหรอครับ? ทำไมถึงมาที่นี่ด้วยตัวเองล่ะ แถมยังพาคนมาเยอะแยะขนาดนี้?”เห็นได้ชัดว่า บรรยากาศปะทุแบบนี้ พ่อบ้านหวังสัมผัสได้ถึงความผิดปกติแล้วแต่ทว่าคนกลุ่มนี้ที่เผิงกวงฉี่พามามีความระแวดระวังอย่างมากภายใต้สถานการณ์ที่พ่อบ้านหวังไม่ได้สังเกตเห็น ขยับฝีเท้า ล้อมทางหนีทีไล่ของเขาเอาไว้ทั้งหมด“หึหึ เรื่องมาจนถึงตอนนี้แล้ว หวังเจิง ฉันแบไต๋กับนายแล้วกัน”เผิงกวงฉี่ถูคนประคองเดินออกมา ถึงแม้เขาจะยิ้มอย
แต่เป็นเพราะพ่อบ้านหวังคนนี้เป็นผู้แข็งแกร่งแดนแปรภาพ จึงต้องรวบรวมกำลัง รับมืออย่างจริงจังดังนั้นหลินเฟิงถึงได้พบกับอุปสรรคโดยสรุปคือ ประโยคเดียวก็สามารถอธิบายได้หลินเฟิงมาเร็วเกินไปเขาไม่ได้รอให้เผิงกวงฉี่จัดการเรื่องของพ่อบ้านหวังเสร็จก็มาถึงก่อนแล้ว ดังนั้นทำให้พ่อบ้านหวังเข้าใจผิดว่าหลินเฟิงมาสร้างเรื่องหลอกลวง“คนพวกนี้คือ…”หลี่ฮุ่ยหรานก็มองเห็นคนเหล่านี้ ใบหน้าจึงเผยความประหลาดใจออกมาทันที“คนผู้นั้นก็คือเผิงกวงฉี่”หลินเฟิงนั่งอยู่ตรงที่นั่งข้างคนขับ ชี้ไปทางผู้ชายที่สีหน้าอ่อนแอ และถูกคนข้างๆ ประคองไว้“เขาก็คือเผิงกวงฉี่? ทำไม…ทำไมดูร่างกายอ่อนแอจัง”อย่าว่าแต่หลี่ฮุ่ยหราน แม้แต่คนทั่วไปก็ดูออกว่าร่างกายของเผิงกวงฉี่ไม่ดีนัก“อืม เขาถูกคนข้างกายทำร้าย ถูกวางหนอนคุณไสย เมื่อวานผมเอาหนอนคุณไสยออกให้เขาแล้ว”“และเขารับปากผมว่า วันนี้จะนำที่ดินที่ประมูลมาได้ส่งมอบให้ผม”คำพูดของหลินเฟิงทำให้หลี่ฮุ่ยหรานตกตะลึงเล็กน้อย“งั้นพูดแบบนี้…เผิงกวงฉี่ผิดคำพูดงั้นเหรอ?”“ไม่ ไม่ใช่ว่าเขาผิดคำพูด แต่เป็นเพราะเรามาเร็วไป เขายังจัดการเรื่องส่วนตัวของเขาไม่เสร็จ”หลินเฟิง
“ตระกูลหลี่ของเธอเลี้ยงดูฉันสามปีงั้นเหรอ?”ได้ยินคำพูดนี้ หลินเฟิงรู้สึกอยากจะหัวเราะเสียจริงแต่ตอนนี้เขาขี้เกียจจะถกเถียงกับจางซิน แต่กลับมองไปทางหลี่ฮุ่ยหรานด้วยความจริงจัง อยากจะถามความคิดเห็นของหลี่ฮุ่ยหราน“ฉันไม่รู้ว่าคุณพบเจอเรื่องอะไร จึงทำให้คุณเกิดความคิดแบบนี้...”หลี่ฮุ่ยหรานเงียบขรึมครู่หนึ่ง และพูดเสียงเบาว่า:“แต่ว่า หลินเฟิง ฉันบอกกับคุณอย่างจริงจังอีกครั้ง ต่อไปห้ามมีความคิดแบบนี้อีก ฉันหลี่ฮุ่ยหรานไม่มีทางแยกจากคุณอีก!”“ใครก็ห้ามฉันไม่ได้!”หลี่ฮุ่ยหรานสะบัดแขนของจางซินออก และพูดกับจางซินอย่างเย็นชาว่า:“จางซิน ตอนนี้ฉันขอสั่งเธอ ออกจากเมืองเจิ้งเต๋อ กลับเจียงโจวไปซะ จากนั้นบอกแม่ของฉัน ให้เธอเป็นกังวลเรื่องของฉันให้น้อยๆ หน่อย และยังมีเรื่องของเธอด้วย”“ฉันรู้ว่าเธออกหักและเสียใจ”“แต่ฉันกับหลินเฟิงไม่ใช่ที่ระบายของเธอ อีกทั้งหลี่ซื่อกรุ๊ปก็ไม่ต้องการเธอที่เป็นขยะไร้ค่าทำอะไรไม่เป็นสักอย่าง ตามองสูงแต่ความสามารถไม่ถึง”“อะไรนะ?!”จางซินถอยหลังไปหลายก้าวด้วยใบหน้าตกตะลึง: “พี่ พี่ด่าฉันว่าอะไร? พี่บอกว่าฉัน...”“ฉันบอกว่าเธอเป็นขยะไร้ค่า!”“เธอไม่คู่ค
“แก...ฝากไว้ก่อนเถอะ!”ทั้งสองคนทิ้งคำพูดข่มขู่ประโยคนี้ไว้ก็หนีหางจุกตูดเข้าไปในห้องที่อยู่ภายในบริษัท“คนผู้นี้ก็เป็นนักบู๊งั้นเหรอ? ทำไมฉันถึงไม่สามารถสัมผัสตัวตนของพลังชี่ใดๆ บนตัวของเขาได้เลย?”ในตอนที่พ่อบ้านหวังถูกหลินเฟิงสกัดกั้นการโจมตีเมื่อครู่นี้ ก็รู้สึกตกตะลึงเล็กน้อยและก็เห็นท่าทางที่คล่องแคล่วอย่างมากของหลินเฟิง ตบไอ้กระจอกสองคนนั้นกระเด็นออกไป จึงหรี่ตาเล็กลงยิ่งกว่าเดิม“ไม่ทราบว่าสหายท่านนี้ มาจากตระกูลไหน หรือเป็นลูกศิษย์ของสำนักไหนงั้นเหรอ?”พ่อบ้านหวังหยุดลงมือ สายตาที่มองไปทางหลินเฟิงค่อนข้างระแวงเล็กน้อยถ้าหากพูดว่าเมื่อครู่เขาคิดว่าหลินเฟิงเป็นเพียงแค่คนธรรมดาทั่วไปที่ไม่มีพลังชี่แท้กับกำลังภายในเขาในตอนนี้ ก็ค่อยๆ สัมผัสได้ถึงแรงกดดันที่ไร้ตัวตนรอบๆ ตัวหลินเฟิงได้แล้วแรงกดดันนี้ทำให้ในใจของเขาวิตกกังวลเขาไม่สามารถมั่นใจได้ว่าตัวเองจะจัดการหลินเฟิงได้อายุน้อยขนาดนี้ก็มีพลังถึงขั้นนี้ นี่จึงทำให้พ่อบ้านหวังเกิดความสงสัยต่อเบื้องหลังของหลินเฟิง“ผมไร้พรรคไร้พวก ยิ่งไม่มีเบื้องหลังอะไร”หลินเฟิงส่ายหน้า พูดอย่างแน่นิ่ง:“เป็นอย่างไรบ้างพ่อบ้านหว
ในตอนที่หลินเฟิงได้พบกับพ่อบ้านหวังเมื่อครู่นี้ สีหน้าไม่ค่อยดีสักเท่าไหร่นักเหตุผลแรกที่เขาคิดได้ก่อนเป็นลำดับแรกก็คือเผิงกวงฉี่หักหลังเขาแต่เมื่อคิดอีกที ก็รู้สึกว่าเป็นไปไม่ได้ทั้งสองคนที่อยู่ข้างกายมีความคิดที่จะฆ่าเผิงกวงฉี่ นอกจากเผิงกวงฉี่คนนี้จะเป็นบ้าไปแล้ว ไม่อย่างนั้นคงไม่ทำเรื่องที่หักหลังหลินเฟิงคนโง่ที่ไหนจะกลายเป็นเศรษฐีอันดับหนึ่งของหัวตง?พ่อบ้านหวังเผยสีหน้าโมโหออกมาเหมือนเขาจะนึกอะไรออกขึ้นมา จึงพูดอย่างไม่เกรงใจว่า:“ที่แท้ก็เป็นแบบนี้นี่เอง ผมทราบแล้ว คุณ คงจะอยากถือโอกาสในตอนที่คุณเผิงร่างกายไม่แข็งแรง และฉวยโอกาสยึดครองไปสินะ?!”“อะไรนะ?”ไม่เพียงแค่หลินเฟิงที่ขมวดคิ้ว หลี่ฮุ่ยหรานก็ขมวดคิ้วแน่นเช่นกันเธอยอมเชื่อหลินเฟิงแต่คนรับใช้ส่วนตัวของเผิงกวงฉี่กลับไม่รู้เรื่องนี้ไม่ว่าดูยังไง หลินเฟิงเหมือนกับคนที่พูดมีเหตุผลมีหลักการอย่างมาก จากนั้นกลับถูกตอกหน้าอย่างแท้จริงยิ่งไม่ต้องพูดถึงว่าอีกฝ่ายโมโหแล้ว อีกทั้งตำหนิหลินเฟิงว่าอยากจะฉวยโอกาส“หลินเฟิง ไม่อย่างนั้นพวกเราออกจากที่นี่กันก่อนเถอะ จากนั้นค่อยวางแผนกันใหม่?”หลี่ฮุ่ยหรานหาทางปกป้องศ
ไม่รอให้ผู้ชายอธิบายจนจบ ชายหนุ่มที่อยู่ข้าง ๆเขา ซึ่งกำลังจ้องมองไปที่หลี่ฮุ่ยหรานอยู่ ก็โต้ตอบกลับมา พร้อมกับพูดอย่างสงสัยว่า :“พี่ใหญ่ เมื่อครู่พวกเขาก็รู้แล้วไม่ใช่เหรอว่าพวกเราถูกเถ้าแก่เผิงกว้านซื้อไปแล้วนะ? แล้วพวกเขายังจะมาที่นี่ทำไมอีก?”“ใช่ พวกคุณมาทำอะไรที่นี่? ไม่ใช่เรื่องการรับซื้อที่ดินหรอกงั้นเหรอ?”ผู้ชายขมวดคิ้วพร้อมกับมองไปทางหลินเฟิง“เป็นเรื่องการรับซื้อที่ดินนั้นแหละ”หลินเฟิงพยักหน้า เพื่อยืนยันคำพูดของพวกเขา“ชิ”ผู้ชายแตะลูบศีรษะ แล้วพูดออกมาอย่างช่วยไม่ได้ว่า :“ไม่ใช่ว่าฉันพูดหรอกนะ สหาย คุณก็รู้ว่าเถ้าแก่เผิงต้องการที่ดินพวกนี้ แล้วคุณยังจะมาทำอะไรที่นี่อีกล่ะ?”“หรือว่าพวกคุณต้องการซื้อที่ดินที่อยู่ในมือของเถ้าแก่เผิงกลับไปนะ?“ใช่แล้ว สติปัญญาของคุณไม่ผิดปกติใช่ไหม?”ชายหนุ่มก็ชี้ไปที่หัวของตัวเอง พร้อมกับเยาะเย้ยหลินเฟิง“พี่ พี่เห็นชัดแล้ว”จางซินก็ยืนอยู่ด้านข้างอย่างดีใจ แล้วพูดขึ้นว่า :“พวกเขาไม่เคยรู้เรื่องการซื้อที่ดินของพวกเราเลย พี่มองไม่ออกเหรอว่าหลินเฟิงเพียงแค่โอ้อวดเท่านั้นนะ?”“แล้วยังขอให้เถ้าแก่เผิงเต็มใจยอมขายให้กับคุณอีก