“มันบังเอิญมากจริงๆ”หลินเฟิงทอดถอนใจออกมา“ที่คุณหลินพูดไปครึ่งหนึ่งเมื่อครู่ ผมอยากจะฟังตอนนี้ คุณหลินต้องการรางวัลตอบแทนอะไรงั้นเหรอ?”สีหน้าของเผิงกวงฉี่ชะงักไปชั่วครู่ตอนนี้สิ่งที่เขากลัวไม่ใช่การเรียกราคาสูงของหลินเฟิง กลัวจะเป็นคำร้องขอแปลก ๆของหลินเฟิงมีคนเก่งมากมายที่มีนิสัยแปลก ๆและบางครั้งเงินก็ไม่สามารถจัดการได้จริง ๆถ้าหากต้องการเงิน เผิงกวงฉี่มีเงินมากมายก่ายกองไม่อย่างนั้นก็คงเป็นไปไม่ได้ที่ราชินีนักร้องที่ชื่อเสียงโด่งดังจะตามเขาไป“ได้ งั้นผมก็ขอพูดตรง ๆเลยแล้วกัน”หลินเฟิงยิ้มเล็กน้อย“วันนี้ผมและภรรยาของผม กำลังจะคว้าที่ดินห้าแห่งในเขตพัฒนาทางตอนใต้ของเมือง แต่คิดไม่ถึงว่าจะถูกคนมาคว้าไปซะก่อน”“หืม?”เมื่อเผิงกวงฉี่ได้ยินคำพูดของหลินเฟิง ทันใดนั้นก็รู้ได้ทันทีว่าที่หลินเฟิงมาที่นี่ ก็เพื่อที่ดินเหล่านี้นี่เองด้วยเหตุนี้เขาจึงหัวเราะแล้วพูดว่า:“เรื่องเล็ก”“ผมจะโทรถามผู้จัดการหวัง เพื่อดูว่าเขากลับมาแล้วยัง หากกลับมาแล้ว ผมก็จะให้เขาทำเอกสาร พร้อมกับมอบที่ดินทั้งหมดให้กับคุณหลินด้วย”“อะไรนะ?!”ถานหงที่อยู่ด้านข้างไม่ยินยอมเธอกอดอกพร้อมกับขมว
“เกี่ยวกับสาเหตุของโรค.....”หลินเฟิงรู้สึกว่ามันยากที่จะพูดเล็กน้อย เขามองไปที่ถานหงที่ยืนอยู่ไกล ๆด้วยท่าทางที่ลำบากใจ “หืม?”ทันใดนั้นเผิงกวงฉี่ก็ตอบสนองกลับมาทันที เขาโบกมือไปทางถานหง แสดงเจตนาให้ถานหงรู้ว่าควรหลบหลีกไปสักหน่อยอย่างไรก็ตามในขณะนี้ ใบหน้าของถานหงแสดงถึงความร้อนใจที่ไม่เป็นธรรมชาติออกมา เมื่อเธอเดินเข้าไปในห้อง ก็เหลือบมองหลินเฟิงอย่างครุ่นคิด“เอาล่ะ คุณหลิน เชิญพูดเลยเถอะ หรือว่าอาการป่วยของผมจะเกี่ยวกับเสี่ยวหงใช่ไหม?”ในที่สุดเมื่อไม่มีใครอยู่รอบ ๆแล้ว หลินเฟิงก็พยักหน้าอย่างไม่รู้สึกตัว“ประธานเผิง ก่อนที่ผมจะสรุปผลให้คุณ คุณก็อย่าเพิ่งตื่นตระหนกไปนะ”“คุณพูดมาเถอะ”เมื่อเห็นสีหน้าของหลินเฟิงแย่ลงเล็กน้อย เผิงกวงฉี่ก็รู้สึกใจเสียขึ้นมาทันที“ร่างกายของคุณถูกคนวางยาพิษ มีแมลงพิษยาวครึ่งเมตรสามตัวฟักเป็นตัวอยู่ในร่างกายของคุณ รอให้โตเต็มที่แล้วก็จะพุ่งออกมาจากอกของคุณ “คำพูดที่สงบของหลินเฟิง ทำให้สีหน้าของเผิงกวงฉี่เปลี่ยนไปอย่างมากเห็นได้ว่าหลินเฟิงได้กล่าวเตือนเขาก่อน แต่เผิงกวงฉี่ก็ยังไม่สามารถยอมรับเรื่องนี้ได้ เขาเหลือบมองที่ท้องของตัวเอง ราว
ถึงแม้ว่าก่อนหน้านี้จะคาดเดาอยู่คร่าวๆแต่เมื่อได้รับคำเตือนของหลินเฟิง เผิงกวงฉี่ก็ปล่อยวางความแค้นทั้งหมดลง แล้วเข้าใจว่าฆาตกรคือใครกันแน่เผิงกวงฉี่ไม่มีทายาทดังนั้นเขาจึงทำพินัยกรรมไว้ตั้งนานแล้วถ้าหากตัวเองตายก่อนที่จะมีทายาท ถ้าอย่างนั้นมรดกของตัวเองก็จะถูกส่งมอบให้กับถานหงและพ่อบ้านหวังเพื่อจัดการร่วมกัน“ถานหง....พ่อบ้านหวัง...”เขากำหมัดแน่น ท่าทางของเผิงกวงฉี่ที่โกรธมากจนเกือบชักกระตุก เป็นเพราะก่อนหน้านี้เขาก็สังเกตเห็นอะไรบางอย่าง ที่ความสัมพันธ์ของทั้งสองคนนี้มัน “กลมกลืน” จนเกินไปพูดตามหลักหากเขาป่วยหนักจนตาย ไม่ว่าจะเป็นอย่างไร ทั้งสองคนนี้ก็จะไม่ถูกชะตากันเพราะมรดกของเขาแต่สิ่งที่น่าแปลกประหลาดก็คือ ทั้งสองคนนี้เมื่ออยู่ต่อหน้าตัวเองก็ไม่มีท่าทีที่ไม่ถูกกัน กลับยังมีแต่ความสามัคคีกันมากกว่าก่อนหน้านี้เห็นทั้งสองเป็นเช่นนี้ เผิงกวงฉี่ก็ยังคิดว่าจุดจบของตัวเองใกล้เข้ามาเต็มทีแล้ว สองคนนี้จึงพยายามอย่างเต็มที่เพื่อแสดงท่าทีต่อหน้าเขาแต่ตอนนี้ดูเหมือนว่าจะมีลับลมคมในบางอย่างอยู่ถึงแม้ว่าจะไม่อยากยอมรับ แต่เผิงกวงฉี่ก็แทบจะสรุปได้ในตอนนี้ว่าทั้งสองคนนี้ต้
“ก็จะเป็นชีวิตที่มีความสุขของพวกเราทั้งสองคน และก็จะไม่มีใครมาขัดขวางได้อีก”“ฉันรู้สึกไม่สบายใจ...นิดหน่อย”ถานหงเหลือบมองไปทางหลินเฟิงและเผิงกวงฉี่ ที่ยังคงขมวดคิ้วอยู่“ผู้ชายที่ชื่อหลินเฟิงคนนั้น ก็เป็นผู้ชายที่อิ่นนั่วเจียชื่นชมมากสินะ ถึงแม้ว่าภายนอกจะดูไม่ค่อยดีเท่าไหร่ แต่ฉันก็เคยสัมผัสมาก่อนที่โฮมสเตย์ในเมืองจิง”“มันได้ผลจริง ๆ”“ดังนั้น....”“เอาล่ะ!”ท่าทางของพ่อบ้านหวังที่ดูสุขุมเล็กน้อย พูดรับรองกับถานหงว่า :“ในเมื่อคุณเกลียดเขาขนาดนี้ งั้นผมก็หาวิธีจัดการเขาอย่างลับ ๆ ผมเป็นถึงยอดฝีมือระดับเซียนเทียน สามารถที่จะฆ่าเด็กหนุ่มได้อย่างสบาย ๆ นั่นยังไม่ใช่เรื่องง่าย ๆหรอกเหรอ?”เมื่อฟังมาถึงตรงนี้ ถานหงก็ยิ้มออกมาด้วยความยินดี“งั้นคุณก็ต้องสัญญานะ!”“ฮาฮา แน่นอน เพียงแค่คุณมีความสุข ต่อให้ผมขึ้นต้องเป็นอันตรายก็ได้ทั้งหมด....”“แค่ก แค่ก แค่ก...”ในขณะนี้เอง จู่ ๆหลินเฟิงก็ไอออกมาอย่างรุนแรง“หืม?!”พ่อบ้านหวังมองไปทางหลินเฟิงอย่างตื่นตระหนกระหว่างพวกเขาทั้งสองมีกำแพงกั้นไว้อยู่ และหลินเฟิงที่กำลังมุ่งความสนใจไปที่การรักษาอาการป่วยของเผิงกวงฉี่พ่อบ้านหวัง
“อ้าก!”เผิงกวงฉี่ไปที่ห้องน้ำ หลังจากพยายามอยู่เต็มๆ สิบนาที จู่ๆ เขาก็ส่งเสียงร้องที่ดังลั่นออกมาได้ยินเสียงตะโกนนี้ หลินเฟิงยื่นมือออกไปขัดขวางการเข้าใกล้ของถานหงกับพ่อบ้านหวังเขาขยับเข้าไปใกล้ เคาะประตูห้องน้ำ และยิ้มพูดว่า:“เถ้าแก่เผิง เป็นยังไงบ้าง?”“ฝี…ฝีมือการรักษาของคุณหลิน มันช่าง…ช่าง…”เห็นได้ชัดว่าเผิงกวงฉี่คนนี้เห็นสิ่งของที่ตัวเองขับออกมา จึงตกใจอย่างมาก“หึ ในเมื่อเถ้าแก่เผิงไม่เป็นไรแล้ว เช่นนั้นหลินเฟิงก็ขอตัวลาก่อน ไม่ทราบว่าค่ารักษาพยาบาลที่คุณรับปากผม จะจ่ายให้ผมเมื่อไหร่ครับ?”“งั้นก็พรุ่งนี้ เดี๋ยว…แค่กแค่กแค่ก…ไม่ไม่ไม่ ไม่ได้ คุณหลิน ได้โปรดเข้ามาหน่อย ผม…ผมรู้สึกว่าในท้องของผมยังเจ็บปวดอย่างมาก ผม…อ้าก!”ในตอนที่หลินเฟิงคิดว่าเผิงกวงฉี่ไม่เป็นไรแล้วเผิงกวงฉี่ที่อยู่ในห้องน้ำ ก็เกิดการเปลี่ยนแปลงขึ้นกะทันหัน“หือ?!”หลินเฟิงนิ่งอึ้งไป หรือว่าเขาทำพลาดอะไรงั้นเหรอ?คิดถึงตรงนี้ เขาไม่พูดพร่ำทำเพลง พุ่งเข้าไปในห้องน้ำโดยตรงแต่ทว่าเพิ่งจะพุ่งเข้าไปหลินเฟิงก็เห็นเผิงกวงฉี่กำลังพิงกำแพงด้านหนึ่งอยู่ถึงแม้สีหน้ายังคงอ่อนแอ แต่ไม่ได้เจ็บปวดเหมื
“สวรรค์ช่วยฉันไว้แท้ๆ...”“เสี่ยวหง พ่อบ้านหวัง”ในตอนนี้ ภายในห้องน้ำมีเสียงตะโกนที่อ่อนเพลียของเผิงกวงฉี่ดังขึ้นทั้งสองคนมองตากัน พากันเก็บรอยยิ้มลำพองใจบนใบหน้าเอาไว้ เปลี่ยนไปเป็นสีหน้ากังวลใจเหมือนกับในเวลาปกติ......หลินเฟิงเรียกรถแท็กซี่ไปที่หลี่ซื่อกรุ๊ปตอนนี้จางซินกำลังระเบิดอารมณ์อยู่ที่ทางเดินของห้องทำงานเธอหยิบแจกันดอกไม้ตรงทางเดินขึ้นมาขว้างไปทางจ้าวเว่ย และด่าทอเสียงดัง:“ก่อนหน้านี้คุณรับปากฉันไม่ใช่เหรอ บอกว่าจะเอาโควต้าห้าแห่งมาให้บริษัทของพี่สาวฉันไม่ใช่เหรอ? ตอนนี้จบกัน ฉันคุยโวโอ้อวดออกไป ปรากฏว่าคว้าเอามาไม่ได้แม้แต่โควต้าเดียว!”“คุณรู้ไหมว่าตอนนี้ฉันอับอายขายหน้าไปจนถึงบ้านคุณย่าแล้ว!”“ฉันไม่กล้าไปพบญาติผู้พี่ของฉันแล้ว!”จางซินโมโหจนด่าสาดเสียเทเสีย ถึงกับดึงดูดกลุ่มคนมาล้อมดูจ้าวเว่ยหลบแจกันดอกไม้ที่จางซินโยนมา ครั้งนี้ที่เขามาเพราะอยากจะอธิบายกับหลินเฟิง คิดไม่ถึงว่าเพิ่งเข้าบริษัทมาก็ได้พบกับผู้หญิงบ้าคนนี้เธอไม่พูดพร่ำทำเพลงก็ระบายอารมณ์ใส่เขาถ้าหากไม่ใช่ว่าต้องแสร้งทำเป็นแฟนของเธอ จ้าวเว่ยอาจจะตบหน้าจางซินในตอนนี้ซะเลย“หือ? เกิดอะไรข
“เผิงกวงฉี่ยอมจ่ายเงินเต็มที่เพื่อที่ดินเหล่านี้ หรือจะเป็นเพราะอยากให้หลี่ซื่อกรุ๊ปของเรา ใช้เงินทุนทั้งหมดเพื่อไปตีเสมอกับเศรษฐีอันดับหนึ่งของหัวตงงั้นเหรอ?”“งั้นคุณไม่สู้ให้หลี่ซื่อกรุ๊ปล้มละลายไปซะเลยดีกว่า!”คำพูดของหลี่ฮุ่ยหรานทำให้พนักงานในบริษัทคนอื่นๆ พากันพยักหน้าหลี่ฮุ่ยหรานพูดไม่ผิด เผิงกวงฉี่เศรษฐีอันดับหนึ่งเมืองหัวตงไม่มีสิ่งอื่น แต่มีเงินเต็มไปหมดต่อให้หลี่ซื่อกรุ๊ปเก่งกาจแค่ไหนก็ไม่มีทางที่จะแข่งขันเงินกับเขาได้นั่นก็คือรนหาที่ตาย“หึหึ”กัวโหย่วคังกลอกตามองบน ตอนนี้ลูกชายของเขาตายแล้ว เขาเปลี่ยนไปสุดขีดและไม่สนใจสิ่งใด จากนั้นฉีกยิ้มพูดว่า:“ผมไม่สนอะไรขนาดนั้นหรอก ยังไงพวกคุณก็ทำเงื่อนไขข้อที่สองไม่สำเร็จ นี่คือเรื่องจริงใช่ไหมล่ะ?”“ใช่ความเป็นจริง แต่ว่า...”“ไม่มีแต่ว่าอะไร”กัวโหย่วคังยิ้มเยาะพูดว่า:“ผมดูแค่ผลลัพธ์เท่านั้น ถ้าหากพวกคุณทำไม่ได้ นั่นก็คือทำไม่ได้ ตอนนี้ผมบอกพวกคุณให้ว่าหลายปีมานี้ผมเอาเงินของหลี่ซื่อกรุ๊ปไปเท่าไหร่”“หกหมื่นล้านบาท”ตอนที่กัวโหย่วคังพูดตัวเลขนี้ออกมา พนักงานของหลี่ซื่อกรุ๊ปที่อยู่ข้างๆ พากันสูดลมหายใจเข้าอย่างแรง
“พรวด...”ภายใต้ความเงียบสงัด จางซินอดกลั้นไม่ไหวก่อนใคร และหัวเราะออกมา“หลินเฟิง สมองของนายไม่ได้มีปัญหาใช่ไหม?”จางซินมองหลินเฟิงและหัวเราะเยาะ จากนั้นพูดเหน็บแนมว่า:“อุ๊ย ถูกแล้วแหละ!”“เศรษฐีอันดับหนึ่งของหัวตง ถูกนายคนที่ไม่มีชื่อเสียงอะไรไปพูดคุยที่บ้านสองสามประโยค ก็ตัดสินใจยกที่ดินที่ตกมาอยู่ในมือให้นาย”“เช่นนั้นขอถามหน่อยว่า...”“นายคือลูกชายของเศรษฐีอันดับหนึ่งของหัวตงท่านนั้น หรือเป็นหลาน หรือเป็นแฟนของเขากันล่ะ?”เผชิญหน้ากับคำเยาะหยันอย่างโจ่งแจ้งของจางซิน หลินเฟิงไม่ได้รับคำพูดต่อเขามองไปทางหลี่ฮุ่ยหรานด้วยความสงบนิ่งและพูดว่า:“วางใจเถอะ เรื่องที่ดินผมจัดการเรียบร้อยแล้ว พรุ่งนี้พวกเรานำสัญญาไปที่บริษัทเต๋อหนิงโดยตรงก็พอแล้ว”“จริงเหรอหลินเฟิง?”ข่าวนี้กระทันหันจนเกินไป ทำให้หลี่ฮุ่ยหรานไม่ทันได้ตั้งตัวเธอไม่รู้ว่าตอนนี้ควรจะร้องไห้หรือหัวเราะสิ้นหวังก่อน จากนั้นก็มีความหวังหัวใจของหลี่ฮุ่ยหรานเหมือนกับนั่งรถไฟเหาะ เธอยกมือทาบหน้าอกของตัวเอง รู้สึกว่าตัวเองแทบจะแบกรับไม่ไหวแล้ว“ต้องเป็นเรื่องจริงแน่นอนอยู่แล้ว ผมเคยโกหกคุณเมื่อไหร่กัน?”รอยยิ้มขอ
ได้ยินการวิเคราะห์ของหลินเฟิง เฝิงเอ้อกับเฝิงชางถลึงตาโตทันที“เฝิงหลี?!”หรือว่าเมื่อครู่เฝิงหลีถือโอกาสตอนที่พวกเขาไม่ได้สังเกต วางยาพิษเฝิงอวี้อู่เป็นครั้งที่สองงั้นเหรอ?!ดังนั้นหลังจากที่หมอเทวดาเลี่ยวเพิ่งรักษาจนดีขึ้นเล็กน้อย ก็ได้อาการหนักขึ้นทันที ?“ไอ้สารเลว ผมจะไปจับตัวเขามาถามเดี๋ยวนี้!”เฝิงเอ้ออารมณ์ร้อน ตะโกนเสียงดังด้วยความโมโหทันที“หยุดก่อน!”เฝิงชางกลับตะโกนเสียงดัง จ้องมองเฝิงเอ้อแล้วพูดว่า:“หรือว่านายอยากให้ตระกูลเฝิงของเราตายงั้นเหรอ?”“ไม่พูดก่อนว่านี่เป็นคำพูดของไอ้หมอนี่ฝ่ายเดียว ต่อให้ไอ้หนุ่มคนนี้พูดจริง หรือว่าพวกเราจะแตกหักกับเฝิงหลีจริงๆ งั้นเหรอ?!”“ถ้าหากไอ้หมอนี่รักษาไม่หาย งั้นพวกเราตระกูลเฝิงจะทำยังไง?!”เผชิญหน้ากับการสอบถามของเฝิงชาง เฝิงเอ้อนิ่งอึ้งอยู่เป็นเวลานาน สุดท้ายก็โมโหจนทรุดนั่งลงกับพื้น“แม่งเอ๊ย แบนี้ก็ไม่ได้ แบบนั้นก็ไม่ได้ ทำให้ผมโมโหตายไปเลยเถอะ!”เมื่อเห็นว่าน้องรองของตัวเองโมโหขนาดนี้ เฝิงชางก็รู้สึกเชื่อความสามารถของหลินเฟิงขึ้นมาเล็กน้อย เขาจึงรีบถามว่า:“หลินเฟิง ถ้าหากคุณสามารถรักษาอวี้อู่กับหมอเทวดาเลี่ยวจนหายได
เลี่ยวจื้อหมิงอายุเยอะขนาดนี้ ถูกพวกเขาทำแบบนี้ ยังไงก็ต้องอายุสั้นลงสองปี“หลินเฟิง ผมเตือนคุณว่าทางที่ดีอย่างวู่วาม”“ยาพิษนี้แม้แต่หมอเทวดาเลี่ยวก็โดนโดยที่ไม่ระวัง ทางที่ดีนายช่างใจให้ดีเฝิงชางสีหน้าเย็นชา“หึ ไม่ฟังคำเตือนของผม ตอนนี้เสนอตัวออกมาแสร้งเป็นคนดีงั้นเหรอ?”หลินเฟิงไม่ได้มีความรู้สึกดีๆ อะไรต่อผู้นำตระกูลเฝิง เขาสามารถอยู่ที่นี่ได้ เป็นเพราะผลประโยชน์ล้วนๆ“เพียงแค่ผมช่วยเฝิงอวี้อู่ให้รอดได้ คุณก็จะบอกข่าวของหยินหลิงให้กับผมใช่ไหม?”“หยินหลิง?”ผู้นำตระกูลเฝิงนิ่งอึ้ง“ผู้นำตระกูล หยินหลิงก็คือชื่อของผู้นำตระกูลกลุ่มพันธมิตรบู๊”เฝิงเอ้อที่อยู่ข้างๆ รีบพูดขึ้น“......”สีหน้าของเฝิงชางอึดอัดเล็กน้อย ในเมื่อเมื่อครู่เขาบอกตำแหน่งของหัวหน้ากลุ่มพันธมิตรบู๊ไปแล้ว อยู่ที่เรือนด้านหลังของตระกูลเฝิงของพวกเขาคราวนี้ หัวหน้ากลุ่มพันธมิตรบู๊น่าจะถูกเขาพาตัวไปแล้วเป้าหมายก็เพื่อมอบให้กับผู้อาวุโสของสำนักร้อยพิษต่อให้เป็นแบบนี้ เฝิงชางพยักหน้าพูดว่า:“แต่ตอนนี้บวกกับหมอเทวดาเลี่ยว ในเมื่อคุณสามารถช่วยลูกชายของผมให้รอดได้ งั้นก็ช่วยหมอเทวดาเลี่ยวด้วยคงไม่ยากใช่
“เร็ว! น้องรอง อย่ามัวแต่ยืนอยู่ รีบไปเชิญอาจารย์ของหมอเทวดาเลี่ยว!”“พี่ใหญ่ อาจารย์ของหมอเทวดาเลี่ยวเป็นยอดฝีมือคนไหนกัน เขาไม่ได้พูด พวกเราจะรู้ได้ยังไง?!”เฝิงเอ้อที่ยืนอยู่ตรงประตูก็งุนงงเช่นเดียวกันหมอเทวดาลั่วตายอยู่ที่ตระกูลเฝิงของพวกเขา เรื่องนี้ก็เป็นเรื่องใหญ่แล้วเฝิงเอ้อรู้ดีเช่นกัน“พี่ใหญ่ เรื่องมาจนถึงตอนนี้แล้ว พี่มอบตัวหัวหน้ากลุ่มพันธมิตรออกมาอย่างว่าง่ายดีกว่า แบบนี้ผมยังสามารถขอร้องให้ผู้อาวุโสของสำนักร้อยพิษถอนพิษให้ได้ ไม่อย่างนั้น จะไม่ทันการณ์แล้วจริงๆ!”เฝิงหลีใช้โอกาสให้เป็นประโยชน์“ได้...ฉันมอบตัวให้! ฉันมอบให้!”เฝิงชางร้อนใจแล้ว ถ้าหากแค่ลูกชายของเขา งั้นเขายังสามารถสงบสติเลือกที่จะรับหรือไม่รับได้ และคิดถึงอนาคตของตระกูลแต่ชีวิตของหมอเทวดาเลี่ยงกลับไม่สามารถผิดพลาดได้หากเมื่อหมอเทวดาเลี่ยวเสียชีวิต พวกเขาตระกูลเฝิงก็จบสิ้นแล้ว“หึหึ วางใจเถอะพี่ใหญ่ มีผมอยู่ หมอเทวดาเลี่ยวกับหลานอวี้อู่ ไม่มีทางเป็นอันตรายอย่างแน่นอน”เฝิงหลียิ้มอย่างลำพองใจมากที่สุดแผนการของเขาในที่สุดก็สำเร็จแล้วต่อไป ผู้นำตระกูลของตระกูลเฝิงก็จะกลายเป็นเขาเฝิงหลีต
เฝิงอวี้อู่สงบลงแล้วแต่ตอนนี้สีหน้าของเขากลับดูแย่ลงกว่าเดิม ลมหายใจก็เปลี่ยนไปอ่อนแรง ถึงขั้นมีแต่ถอนหายใจ ไม่มีหายใจเข้าผิวทั่วตัวเริ่มคล้ำขึ้น“หมอเทวดาเลี่ยว นี่มันเกิดอะไรขึ้น?!”เฟิงชางวิตกกังวลมากจนไม่รู้จะทำอย่างไร เมื่อครู่ลูกชายของเขาเพิ่งดีขึ้น มันแย่ลงอีกแล้วเหรอ?“ผมดูหน่อย!”หมอเทวดาเลี่ยวถอดเข็มเงินที่เจาะเข้าไปในเส้นลมปราณหลักของเฝิงอวี้อู่ออกโดยตรง ใส่ไว้ในมือแล้วหมุน สีหน้าก็เปลี่ยนไป“หมอเทวดาเลี่ยวเป็นอะไรเหรอครับ?”เฝิงชางขยับเข้ามาถามใกล้ๆ ส่วนเฝิงเอ้อที่อยู่ไกลออกไปกลับเหม่อลอยเล็กน้อยเพราะว่าในตอนนี้จู่ๆ เขาก็นึกถึงคำพูดก่อนหน้านี้ของหลินเฟิงขึ้นมาได้“อย่าลืมบอกหมอเทวาดาเลี่ยว ห้ามใช้มือสัมผัสเข็มเงินโดยตรง พิษนี้ต่อให้โดนแค่ผิวหนัง ก็ติดเชื้อได้อย่างรวดเร็ว”“หมอเทวดาเลี่ยว!”เฟิงเอ้ออดไม่ได้ที่จะตะโกนออกมา“หือ?”หมอเทวดาเลี่ยวกับเฝิงชางหันหน้ามาส่วนเฟิงเอ้อยังคงยื่นมือออกไป เขาต้องการพูดสิ่งที่หลินเฟิงเตือนไว้ก่อนหน้านี้ แต่ก็ดูไม่เหมาะสมนักหมอเทวดาเลี่ยวไม่รู้ว่ามันมีพิษเหรอ ต้องให้นายเตือนด้วย?สุดท้ายเฝิงเอ้ออ้าปาก แต่สุดท้ายก็ส่ายหน
เขาฝังเข็มโดนใช้ใจอย่างมาก แต่ละเข็มฝังลงไปได้อย่างแม่นยำในที่สุดหลังจากที่หมอเทวดาเลี่ยวฝังเข็มสุดท้ายลงบนหน้าอกของเฝิงอวี้อู่ ความมืดบนใบหน้าของเฝิงอวี้อู่ก็ลดลงอย่างน่าอัศจรรย์แม้แต่ลมหายใจก็มั่นคงขึ้นไม่น้อย“เอ๊ะ?”เมื่อเห็นภาพนี้ เฝิงหลีที่อยู่ไกลออกไปดูตกใจ“นี่คือยาล้างพิษ แม้จะไม่ได้ผลเท่ากับยาของอาจารย์ของผม แต่ก็เป็นแบบจำลองที่วิจัยออกมาโดยศูนย์การแพทย์ตระกูลเลี่ยวของผม”ขณะพูด หมอเทวดาเลี่ยวยัดยาเม็ดสีเหลืองขนาดเท่าลำไยเข้าไปในปากของเฝิงอวี้อู่ยาเม็ดนี้ทานเข้าไปแล้วจะน้ำลายไหล ในสายตาของทุกคน ยาเม็ดนั้นกลายเป็นลูกบอลสีเหลืองไหลลงคอของเฝิงอวี้อู่ทันทีส่วนเฝิงอวี้อู่กลับไอสองครั้งในขณะที่หมดสติใบหน้าก็แดงก่ำอย่างผิดปกติ“ได้ผลจริงๆ ด้วย!”เห็นลูกชายของตัวเองดีขึ้นอย่างเห็นได้ชัด เฝิงชางตื่นเต้นมากจนเขาคุกเข่าให้หมอเทวดาเลี่ยวทันที“ไม่เสียแรงที่เป็นหมอเทวดาเลี่ยว ก่อนหน้านี้คุณถ่อมตัวเกินไปแล้วจริงๆ!”เฝิงชางเห็นภาพนี้ คิดว่าลูกชายของตัวเองรอดแล้ว เมื่อครู่เป็นแค่คำถ่อมตัวของหมอเทวดาเลี่ยวและในตอนนี้หมอเทวดาเลี่ยวก็รู้สึกประหลาดใจเช่นกันเพราะวิธีการที่
เมื่อดูแบบนี้ เป็นที่น่าตื่นตะลึงหัวใจของหมอเทวดาเลี่ยวก็กระตุกมองแค่ใบหน้า ก็รู้ว่าคุณชายเฝิงอยู่ได้ไม่นานแล้ว หน้าผากเต็มไปด้วยอากาศสีดำ ใบหน้าดูเหมือนตายแล้ว นี่มันถูกพิษที่ไหนกันนี่เป็นการยื้อลมหายใจสุดท้ายด้วยซ้ำ!หากปล่อยลมหายใจสุดท้ายนี้ออกมา คุณชายตระกูลเฝิงคงจะตายไปนานแล้ว“เป็นยังไงบ้าง? หมอเทวดาเลี่ยว?”เฝิงชางและคนอื่นๆ ที่อยู่ข้างๆ รีบถามด้วยความกังวลนี่คือลูกชายของเขา ยังเป็นความหวังสำหรับอนาคตของตระกูลเฝิงของพวกเขาอีกด้วย ตอนนี้เห็นลูกชายกลายเป็นแบบนี้ หัวใจของเฝิงชางแทบจะแตกสลาย“ผู้นำตระกูลเฝิงไม่ต้องร้อนใจ”หน้าผากของหมอเทวดาเลี่ยวเต็มไปด้วยเหงื่อถ้าหากพูดว่าเมื่อครู่เขายังรู้สึกว่าตัวเองมีความหวัง สามารถใช้ความคิดส่วนตัวของตัวเองได้ แต่ตอนนี้ หัวใจของเขาจมลงสู่ก้นบึ้งแค่มองรูปลักษณ์ภายนอกของคุณชายเฝิง อย่าว่าแต่เขาเลย ต่อให้อาจารย์ของเขามา เขาก็ไม่มั่นใจว่าจะสามารถช่วยกลับมาได้“เฮ้อ…”หมอเทวดาเลี่ยวถอนหายใจ ภายใต้การจ้องมองของทุกคน“พิษที่คุณชายเฝิงโดนได้แทรกซึมเข้าอวัยวะภายในแล้ว เกรงว่ากระเพาะทะลุลำไส้เน่าไปแล้ว เหลือเพียงลมหายใจสุดท้าย”“ผมทำ
ไม่ต้องพูดถึงหมอเทวดาเลี่ยวที่มีสถานะอันสูงส่งเลยพูดไร้สาระมากกว่านี้ นั่นก็เป็นการหาเรื่องใส่ตัวถ้าอีกฝ่ายโกรธและปฏิเสธที่จะทำการรักษา ตระกูลเฝิงจะหันไปพึ่งใครได้?หรือว่าจะไปหาหลินเฟิงคนนั้นงั้นเหรอ?“เมืองเจิ้งเต๋อ?”หมอเทวดาเลี่ยวตกตะลึงเล็กน้อย เขารู้อยู่แล้วว่าช่วงนี้หลินเฟิงอยู่ที่เมืองเจิ้งเต๋อ แต่เมื่อเห็นท่าทางของตระกูลเฝิงในเวลานี้ เขาก็ไม่สามารถยืนยันได้จึงทำได้แค่พยักหน้า ความสงสัยนี้วางเอาไว้ก่อนในเมื่อเมืองเจิ้งเต๋อมีคนมากมาย แต่คนที่สามารถกำเริบเสิบสานที่ตระกูลเฝิงได้กลับมีไม่เยอะหมอเทวดาเลี่ยวก็รู้สึกสงสัยเป็นธรรมดา“หึหึ หมอเทวดาเลี่ยว เชิญทางด้านนี้ครับ”เฝิงชางนำทางอยู่ข้างหน้า พาหมอเทวดาเลี่ยวไปที่ชั้นลอยโบราณ ทุกคนเพิ่งผลักประตูเขาไปก็ได้รับกลิ่นหอมที่รุนแรงของยา“อืม? เทียนหลงเสียน เจิ้นเฟิงจือ…”ยังไม่ได้เข้าห้อง หมอเทวดาเลี่ยวก็ย่นปลายจมูก ได้กลิ่นหอมอันล้ำค่าของสมุนไพรสมบัติล้ำค่าจำนวนมากได้ยินหมอเทวดาเลี่ยวพูดชื่อยาสมุนไพรมากกว่าสิบชนิดที่ไม่ขาดไปแม้แต่น้อย รอยยิ้มบนใบหน้าของเฟิงชางและเฟิงเอ้อค่อยๆ ลึกซึ้งขึ้นรีบพยักหน้าพูดว่า:“หมอเทวดา
“เดี๋ยวนะไอ้หนุ่ม สมองของนายไม่ได้มีปัญหาอะไรจริงๆ ใช่ไหม?”“ชู่วชู่วชู่ว อย่าเพิ่งพูด ให้ไอ้หมอนี่พูดพร่ำเพ้อไปเถอะ ให้หมอเทวดาเลี่ยวกราบเขา พรวด...”ทั้งสองคนพากันหัวเราะจนปวดท้องเนื่องด้วยคำพูดโอ้อวดของหลินเฟิงหมอเทวดาเลี่ยวมีสถานะอะไร?ทำไมจะต้องคุกเข่ากราบให้นายเด็กหนุ่มที่ไม่มีชื่อเสียง และอวดดีอย่างบ้าระห่ำแบบนี้ด้วย?เขายิ้มบางพูดว่า:“ถ้าหากผมพูดได้ไม่ถูกต้อง เช่นนั้นผมจะคุกเข่ากราบทั้งสองท่าน ชีวิตน้อยๆ ของผมก็จะปล่อยให้พวกคุณสองคนจัดการ”“แต่ถ้าหากผมพูดถูกต้อง...”หลินเฟิงมองไปทางทั้งสองคนและพูดอย่างนิ่งเฉยว่า:“พวกคุณคุกเข่าลง และคลานจากตรงนี้ไปที่หน้าประตูจวนตระกูลเฝิง อีกทั้งขณะที่คลาน จะต้องเลียนแบบหมาเห่าด้วย เป็นยังไง?”เห็นหลินเฟิงเล่นจริง ผู้คุ้มกันทั้งสองนิ่งอึ้งเล็กน้อยพวกเขาเห็นสีหน้าที่จะยิ้มแต่ก็ไม่ยิ้มของหลินเฟิง ในใจก็รู้สึกกังวลใจเล็กน้อยดูยังไง ไอ้หมอนี่ก็ตั้งใจล่อให้พวกเขาติดกับชัดๆแต่ว่าการเดิมพันเกินเหตุไปหน่อยไหมให้หมอเทวดาเลี่ยว หมอเทวดาเมืองจิงที่มีชื่อเสียงโด่งดังกราบตรงหน้าเขา อีกทั้งขอร้องให้เขาลงมือรักษา?เรื่องแบบนี้พูดออกไปใคร
“คุณท่านรอง ไอ้หมอนี่พาลเกเรที่ตระกูลเฝิงของเราครับ!”“ใช่ครับคุณท่านรอง ไอ้หมอนี่กำเริบเสิบสานเกินไปแล้ว!””วันนี้พวกเราจะปิดประตูตีสุนัข สั่งสอนเขาอย่างดีสักหน่อย!”“หุบปาก”ฟังถึงตรงนี้ เฝิงเอ้อจะไม่รู้ได้อย่างไรว่าเกิดอะไรขึ้นเขาเหลือบมองหลินเฟิง ไม่ได้พูดขอโทษอะไร แต่กลับมองไปทางลูกศิษย์ของตระกูลเฝิงและพูดอย่างเย็นชาว่า:“ผู้ที่มาเยือนคือแขก ตระกูลเฝิงของเราจะให้คนนอกหัวเราะเยาะไม่ได้”“แยกย้ายไปให้หมด!”“แต่ว่าคุณท่านรอง...”“ทำไม?”เฝิงเอ้อถลึงตาใส่ และพูดด้วยความโมโห:“ไม่ฟังคำสั่งของฉันงั้นเหรอ?”“......”เห็นเฝิงเอ้อแสดงอำนาจ ลูกศิษย์ตระกูลเฝิงที่อยู่ในเหตุการณ์ทำได้แค่ส่งเสียงไม่พอใจในลำคอ และพากันแยกย้าย ก่อนจะเดินออกไป ก็ไม่ลืมที่จะถลึงตาใส่หลินเฟิง“คุณหลินเฟิง ไม่ว่าคุณจะมองตระกูลเฝิงของเรายังไง ลูกศิษย์ของตระกูลเฝิงไม่จำเป็นต้องให้คนนอกมาอบรมสั่งสอน”“หวังว่าคุณจะเข้าใจ”หลังจากพูดคำเหล่านี้จบ เฝิงเอ้อก็สะบัดแขนเสื้อเดินจากไปหลินเฟิงได้ยินแบบนี้ ก็รู้ว่าเฝิงเอ้อคนนี้ไม่ได้รู้สึกคาดหวังอะไรต่อเขาเลยสักนิด สำหรับเรื่องที่หลินเฟิงพูดว่าสามารถแก้พิษให้อวี