หลินเฟิงก็คิดไม่ถึงคนที่เปิดประตูให้เขาจะเป็นถานหงราชินีนักร้องประเทศมังกรที่มีเรื่องเคืองใจกับเขาเล็กน้อย ในพิธีเปิดโฮมสเตย์หลินเฟิงจำผู้หญิงคนนี้ได้อย่างชัดเจน และไม่มีทางที่จะจำผิดด้วย“ใครให้คุณเข้ามา? ออกไป!”เห็นได้อย่างชัดเจนว่า ถานหงก็จำหลินเฟิงได้ เธอตะคอกอย่างไม่เกรงใจ และอยากจะประแทกประตูใส่หน้า“ปัง!”หลินเฟิงดันประตูด้วยมือเดียวเขาไม่ได้สนใจถานหงเลยแม้แต่น้อย และก็ไม่สามารถปล่อยโอกาสที่ตัวเองช่วงชิงมาหลุดไปได้เช่นกันหลินเฟิงยิ้มให้ถานหงเล็กน้อย:“คุณถานหง ผมมาที่นี่เพื่อรักษาประธานเผิงโดยเฉพาะ คุณรีบไล่ผมไปแบบนี้ เกรงว่าจะเสียมารยาทเกินไปหน่อยไหม?”“คุณเนี่ยนะ?”เมื่อถานหงเห็นหลินเฟิงดันประตูไว้อย่างหน้าด้านๆ เธอก็ละทิ้งความคิดที่จะปิดประตู ก่อนจะถอยหลังไปสองก้าว แล้วกอดอกพูดอย่างเย็นชาว่า:“ฉันรู้ว่าคุณเป็นที่ปรึกษาของบริษัทเภสัชกรรมเชิงถังไร้สาระอะไรนั่น แต่ก็เป็นเพียงที่ปรึกษา คู่ควรมารักษาอาการป่วยให้สามีของฉันด้วยงั้นเหรอ?” “ เป็นผม....”ขณะที่หลินเฟิงพูดไปได้แค่ครึ่งทาง จู่ ๆก็ได้ยินเสียงแผ่วเบาดังออกมาจากห้องสวีท“เสี่ยวหง คุณรู้จักเด็กหนุ่งคนน
“มันบังเอิญมากจริงๆ”หลินเฟิงทอดถอนใจออกมา“ที่คุณหลินพูดไปครึ่งหนึ่งเมื่อครู่ ผมอยากจะฟังตอนนี้ คุณหลินต้องการรางวัลตอบแทนอะไรงั้นเหรอ?”สีหน้าของเผิงกวงฉี่ชะงักไปชั่วครู่ตอนนี้สิ่งที่เขากลัวไม่ใช่การเรียกราคาสูงของหลินเฟิง กลัวจะเป็นคำร้องขอแปลก ๆของหลินเฟิงมีคนเก่งมากมายที่มีนิสัยแปลก ๆและบางครั้งเงินก็ไม่สามารถจัดการได้จริง ๆถ้าหากต้องการเงิน เผิงกวงฉี่มีเงินมากมายก่ายกองไม่อย่างนั้นก็คงเป็นไปไม่ได้ที่ราชินีนักร้องที่ชื่อเสียงโด่งดังจะตามเขาไป“ได้ งั้นผมก็ขอพูดตรง ๆเลยแล้วกัน”หลินเฟิงยิ้มเล็กน้อย“วันนี้ผมและภรรยาของผม กำลังจะคว้าที่ดินห้าแห่งในเขตพัฒนาทางตอนใต้ของเมือง แต่คิดไม่ถึงว่าจะถูกคนมาคว้าไปซะก่อน”“หืม?”เมื่อเผิงกวงฉี่ได้ยินคำพูดของหลินเฟิง ทันใดนั้นก็รู้ได้ทันทีว่าที่หลินเฟิงมาที่นี่ ก็เพื่อที่ดินเหล่านี้นี่เองด้วยเหตุนี้เขาจึงหัวเราะแล้วพูดว่า:“เรื่องเล็ก”“ผมจะโทรถามผู้จัดการหวัง เพื่อดูว่าเขากลับมาแล้วยัง หากกลับมาแล้ว ผมก็จะให้เขาทำเอกสาร พร้อมกับมอบที่ดินทั้งหมดให้กับคุณหลินด้วย”“อะไรนะ?!”ถานหงที่อยู่ด้านข้างไม่ยินยอมเธอกอดอกพร้อมกับขมว
“เกี่ยวกับสาเหตุของโรค.....”หลินเฟิงรู้สึกว่ามันยากที่จะพูดเล็กน้อย เขามองไปที่ถานหงที่ยืนอยู่ไกล ๆด้วยท่าทางที่ลำบากใจ “หืม?”ทันใดนั้นเผิงกวงฉี่ก็ตอบสนองกลับมาทันที เขาโบกมือไปทางถานหง แสดงเจตนาให้ถานหงรู้ว่าควรหลบหลีกไปสักหน่อยอย่างไรก็ตามในขณะนี้ ใบหน้าของถานหงแสดงถึงความร้อนใจที่ไม่เป็นธรรมชาติออกมา เมื่อเธอเดินเข้าไปในห้อง ก็เหลือบมองหลินเฟิงอย่างครุ่นคิด“เอาล่ะ คุณหลิน เชิญพูดเลยเถอะ หรือว่าอาการป่วยของผมจะเกี่ยวกับเสี่ยวหงใช่ไหม?”ในที่สุดเมื่อไม่มีใครอยู่รอบ ๆแล้ว หลินเฟิงก็พยักหน้าอย่างไม่รู้สึกตัว“ประธานเผิง ก่อนที่ผมจะสรุปผลให้คุณ คุณก็อย่าเพิ่งตื่นตระหนกไปนะ”“คุณพูดมาเถอะ”เมื่อเห็นสีหน้าของหลินเฟิงแย่ลงเล็กน้อย เผิงกวงฉี่ก็รู้สึกใจเสียขึ้นมาทันที“ร่างกายของคุณถูกคนวางยาพิษ มีแมลงพิษยาวครึ่งเมตรสามตัวฟักเป็นตัวอยู่ในร่างกายของคุณ รอให้โตเต็มที่แล้วก็จะพุ่งออกมาจากอกของคุณ “คำพูดที่สงบของหลินเฟิง ทำให้สีหน้าของเผิงกวงฉี่เปลี่ยนไปอย่างมากเห็นได้ว่าหลินเฟิงได้กล่าวเตือนเขาก่อน แต่เผิงกวงฉี่ก็ยังไม่สามารถยอมรับเรื่องนี้ได้ เขาเหลือบมองที่ท้องของตัวเอง ราว
ถึงแม้ว่าก่อนหน้านี้จะคาดเดาอยู่คร่าวๆแต่เมื่อได้รับคำเตือนของหลินเฟิง เผิงกวงฉี่ก็ปล่อยวางความแค้นทั้งหมดลง แล้วเข้าใจว่าฆาตกรคือใครกันแน่เผิงกวงฉี่ไม่มีทายาทดังนั้นเขาจึงทำพินัยกรรมไว้ตั้งนานแล้วถ้าหากตัวเองตายก่อนที่จะมีทายาท ถ้าอย่างนั้นมรดกของตัวเองก็จะถูกส่งมอบให้กับถานหงและพ่อบ้านหวังเพื่อจัดการร่วมกัน“ถานหง....พ่อบ้านหวัง...”เขากำหมัดแน่น ท่าทางของเผิงกวงฉี่ที่โกรธมากจนเกือบชักกระตุก เป็นเพราะก่อนหน้านี้เขาก็สังเกตเห็นอะไรบางอย่าง ที่ความสัมพันธ์ของทั้งสองคนนี้มัน “กลมกลืน” จนเกินไปพูดตามหลักหากเขาป่วยหนักจนตาย ไม่ว่าจะเป็นอย่างไร ทั้งสองคนนี้ก็จะไม่ถูกชะตากันเพราะมรดกของเขาแต่สิ่งที่น่าแปลกประหลาดก็คือ ทั้งสองคนนี้เมื่ออยู่ต่อหน้าตัวเองก็ไม่มีท่าทีที่ไม่ถูกกัน กลับยังมีแต่ความสามัคคีกันมากกว่าก่อนหน้านี้เห็นทั้งสองเป็นเช่นนี้ เผิงกวงฉี่ก็ยังคิดว่าจุดจบของตัวเองใกล้เข้ามาเต็มทีแล้ว สองคนนี้จึงพยายามอย่างเต็มที่เพื่อแสดงท่าทีต่อหน้าเขาแต่ตอนนี้ดูเหมือนว่าจะมีลับลมคมในบางอย่างอยู่ถึงแม้ว่าจะไม่อยากยอมรับ แต่เผิงกวงฉี่ก็แทบจะสรุปได้ในตอนนี้ว่าทั้งสองคนนี้ต้
“ก็จะเป็นชีวิตที่มีความสุขของพวกเราทั้งสองคน และก็จะไม่มีใครมาขัดขวางได้อีก”“ฉันรู้สึกไม่สบายใจ...นิดหน่อย”ถานหงเหลือบมองไปทางหลินเฟิงและเผิงกวงฉี่ ที่ยังคงขมวดคิ้วอยู่“ผู้ชายที่ชื่อหลินเฟิงคนนั้น ก็เป็นผู้ชายที่อิ่นนั่วเจียชื่นชมมากสินะ ถึงแม้ว่าภายนอกจะดูไม่ค่อยดีเท่าไหร่ แต่ฉันก็เคยสัมผัสมาก่อนที่โฮมสเตย์ในเมืองจิง”“มันได้ผลจริง ๆ”“ดังนั้น....”“เอาล่ะ!”ท่าทางของพ่อบ้านหวังที่ดูสุขุมเล็กน้อย พูดรับรองกับถานหงว่า :“ในเมื่อคุณเกลียดเขาขนาดนี้ งั้นผมก็หาวิธีจัดการเขาอย่างลับ ๆ ผมเป็นถึงยอดฝีมือระดับเซียนเทียน สามารถที่จะฆ่าเด็กหนุ่มได้อย่างสบาย ๆ นั่นยังไม่ใช่เรื่องง่าย ๆหรอกเหรอ?”เมื่อฟังมาถึงตรงนี้ ถานหงก็ยิ้มออกมาด้วยความยินดี“งั้นคุณก็ต้องสัญญานะ!”“ฮาฮา แน่นอน เพียงแค่คุณมีความสุข ต่อให้ผมขึ้นต้องเป็นอันตรายก็ได้ทั้งหมด....”“แค่ก แค่ก แค่ก...”ในขณะนี้เอง จู่ ๆหลินเฟิงก็ไอออกมาอย่างรุนแรง“หืม?!”พ่อบ้านหวังมองไปทางหลินเฟิงอย่างตื่นตระหนกระหว่างพวกเขาทั้งสองมีกำแพงกั้นไว้อยู่ และหลินเฟิงที่กำลังมุ่งความสนใจไปที่การรักษาอาการป่วยของเผิงกวงฉี่พ่อบ้านหวัง
“อ้าก!”เผิงกวงฉี่ไปที่ห้องน้ำ หลังจากพยายามอยู่เต็มๆ สิบนาที จู่ๆ เขาก็ส่งเสียงร้องที่ดังลั่นออกมาได้ยินเสียงตะโกนนี้ หลินเฟิงยื่นมือออกไปขัดขวางการเข้าใกล้ของถานหงกับพ่อบ้านหวังเขาขยับเข้าไปใกล้ เคาะประตูห้องน้ำ และยิ้มพูดว่า:“เถ้าแก่เผิง เป็นยังไงบ้าง?”“ฝี…ฝีมือการรักษาของคุณหลิน มันช่าง…ช่าง…”เห็นได้ชัดว่าเผิงกวงฉี่คนนี้เห็นสิ่งของที่ตัวเองขับออกมา จึงตกใจอย่างมาก“หึ ในเมื่อเถ้าแก่เผิงไม่เป็นไรแล้ว เช่นนั้นหลินเฟิงก็ขอตัวลาก่อน ไม่ทราบว่าค่ารักษาพยาบาลที่คุณรับปากผม จะจ่ายให้ผมเมื่อไหร่ครับ?”“งั้นก็พรุ่งนี้ เดี๋ยว…แค่กแค่กแค่ก…ไม่ไม่ไม่ ไม่ได้ คุณหลิน ได้โปรดเข้ามาหน่อย ผม…ผมรู้สึกว่าในท้องของผมยังเจ็บปวดอย่างมาก ผม…อ้าก!”ในตอนที่หลินเฟิงคิดว่าเผิงกวงฉี่ไม่เป็นไรแล้วเผิงกวงฉี่ที่อยู่ในห้องน้ำ ก็เกิดการเปลี่ยนแปลงขึ้นกะทันหัน“หือ?!”หลินเฟิงนิ่งอึ้งไป หรือว่าเขาทำพลาดอะไรงั้นเหรอ?คิดถึงตรงนี้ เขาไม่พูดพร่ำทำเพลง พุ่งเข้าไปในห้องน้ำโดยตรงแต่ทว่าเพิ่งจะพุ่งเข้าไปหลินเฟิงก็เห็นเผิงกวงฉี่กำลังพิงกำแพงด้านหนึ่งอยู่ถึงแม้สีหน้ายังคงอ่อนแอ แต่ไม่ได้เจ็บปวดเหมื
“สวรรค์ช่วยฉันไว้แท้ๆ...”“เสี่ยวหง พ่อบ้านหวัง”ในตอนนี้ ภายในห้องน้ำมีเสียงตะโกนที่อ่อนเพลียของเผิงกวงฉี่ดังขึ้นทั้งสองคนมองตากัน พากันเก็บรอยยิ้มลำพองใจบนใบหน้าเอาไว้ เปลี่ยนไปเป็นสีหน้ากังวลใจเหมือนกับในเวลาปกติ......หลินเฟิงเรียกรถแท็กซี่ไปที่หลี่ซื่อกรุ๊ปตอนนี้จางซินกำลังระเบิดอารมณ์อยู่ที่ทางเดินของห้องทำงานเธอหยิบแจกันดอกไม้ตรงทางเดินขึ้นมาขว้างไปทางจ้าวเว่ย และด่าทอเสียงดัง:“ก่อนหน้านี้คุณรับปากฉันไม่ใช่เหรอ บอกว่าจะเอาโควต้าห้าแห่งมาให้บริษัทของพี่สาวฉันไม่ใช่เหรอ? ตอนนี้จบกัน ฉันคุยโวโอ้อวดออกไป ปรากฏว่าคว้าเอามาไม่ได้แม้แต่โควต้าเดียว!”“คุณรู้ไหมว่าตอนนี้ฉันอับอายขายหน้าไปจนถึงบ้านคุณย่าแล้ว!”“ฉันไม่กล้าไปพบญาติผู้พี่ของฉันแล้ว!”จางซินโมโหจนด่าสาดเสียเทเสีย ถึงกับดึงดูดกลุ่มคนมาล้อมดูจ้าวเว่ยหลบแจกันดอกไม้ที่จางซินโยนมา ครั้งนี้ที่เขามาเพราะอยากจะอธิบายกับหลินเฟิง คิดไม่ถึงว่าเพิ่งเข้าบริษัทมาก็ได้พบกับผู้หญิงบ้าคนนี้เธอไม่พูดพร่ำทำเพลงก็ระบายอารมณ์ใส่เขาถ้าหากไม่ใช่ว่าต้องแสร้งทำเป็นแฟนของเธอ จ้าวเว่ยอาจจะตบหน้าจางซินในตอนนี้ซะเลย“หือ? เกิดอะไรข
“เผิงกวงฉี่ยอมจ่ายเงินเต็มที่เพื่อที่ดินเหล่านี้ หรือจะเป็นเพราะอยากให้หลี่ซื่อกรุ๊ปของเรา ใช้เงินทุนทั้งหมดเพื่อไปตีเสมอกับเศรษฐีอันดับหนึ่งของหัวตงงั้นเหรอ?”“งั้นคุณไม่สู้ให้หลี่ซื่อกรุ๊ปล้มละลายไปซะเลยดีกว่า!”คำพูดของหลี่ฮุ่ยหรานทำให้พนักงานในบริษัทคนอื่นๆ พากันพยักหน้าหลี่ฮุ่ยหรานพูดไม่ผิด เผิงกวงฉี่เศรษฐีอันดับหนึ่งเมืองหัวตงไม่มีสิ่งอื่น แต่มีเงินเต็มไปหมดต่อให้หลี่ซื่อกรุ๊ปเก่งกาจแค่ไหนก็ไม่มีทางที่จะแข่งขันเงินกับเขาได้นั่นก็คือรนหาที่ตาย“หึหึ”กัวโหย่วคังกลอกตามองบน ตอนนี้ลูกชายของเขาตายแล้ว เขาเปลี่ยนไปสุดขีดและไม่สนใจสิ่งใด จากนั้นฉีกยิ้มพูดว่า:“ผมไม่สนอะไรขนาดนั้นหรอก ยังไงพวกคุณก็ทำเงื่อนไขข้อที่สองไม่สำเร็จ นี่คือเรื่องจริงใช่ไหมล่ะ?”“ใช่ความเป็นจริง แต่ว่า...”“ไม่มีแต่ว่าอะไร”กัวโหย่วคังยิ้มเยาะพูดว่า:“ผมดูแค่ผลลัพธ์เท่านั้น ถ้าหากพวกคุณทำไม่ได้ นั่นก็คือทำไม่ได้ ตอนนี้ผมบอกพวกคุณให้ว่าหลายปีมานี้ผมเอาเงินของหลี่ซื่อกรุ๊ปไปเท่าไหร่”“หกหมื่นล้านบาท”ตอนที่กัวโหย่วคังพูดตัวเลขนี้ออกมา พนักงานของหลี่ซื่อกรุ๊ปที่อยู่ข้างๆ พากันสูดลมหายใจเข้าอย่างแรง
แต่เป็นเพราะพ่อบ้านหวังคนนี้เป็นผู้แข็งแกร่งแดนแปรภาพ จึงต้องรวบรวมกำลัง รับมืออย่างจริงจังดังนั้นหลินเฟิงถึงได้พบกับอุปสรรคโดยสรุปคือ ประโยคเดียวก็สามารถอธิบายได้หลินเฟิงมาเร็วเกินไปเขาไม่ได้รอให้เผิงกวงฉี่จัดการเรื่องของพ่อบ้านหวังเสร็จก็มาถึงก่อนแล้ว ดังนั้นทำให้พ่อบ้านหวังเข้าใจผิดว่าหลินเฟิงมาสร้างเรื่องหลอกลวง“คนพวกนี้คือ…”หลี่ฮุ่ยหรานก็มองเห็นคนเหล่านี้ ใบหน้าจึงเผยความประหลาดใจออกมาทันที“คนผู้นั้นก็คือเผิงกวงฉี่”หลินเฟิงนั่งอยู่ตรงที่นั่งข้างคนขับ ชี้ไปทางผู้ชายที่สีหน้าอ่อนแอ และถูกคนข้างๆ ประคองไว้“เขาก็คือเผิงกวงฉี่? ทำไม…ทำไมดูร่างกายอ่อนแอจัง”อย่าว่าแต่หลี่ฮุ่ยหราน แม้แต่คนทั่วไปก็ดูออกว่าร่างกายของเผิงกวงฉี่ไม่ดีนัก“อืม เขาถูกคนข้างกายทำร้าย ถูกวางหนอนคุณไสย เมื่อวานผมเอาหนอนคุณไสยออกให้เขาแล้ว”“และเขารับปากผมว่า วันนี้จะนำที่ดินที่ประมูลมาได้ส่งมอบให้ผม”คำพูดของหลินเฟิงทำให้หลี่ฮุ่ยหรานตกตะลึงเล็กน้อย“งั้นพูดแบบนี้…เผิงกวงฉี่ผิดคำพูดงั้นเหรอ?”“ไม่ ไม่ใช่ว่าเขาผิดคำพูด แต่เป็นเพราะเรามาเร็วไป เขายังจัดการเรื่องส่วนตัวของเขาไม่เสร็จ”หลินเฟิง
“ตระกูลหลี่ของเธอเลี้ยงดูฉันสามปีงั้นเหรอ?”ได้ยินคำพูดนี้ หลินเฟิงรู้สึกอยากจะหัวเราะเสียจริงแต่ตอนนี้เขาขี้เกียจจะถกเถียงกับจางซิน แต่กลับมองไปทางหลี่ฮุ่ยหรานด้วยความจริงจัง อยากจะถามความคิดเห็นของหลี่ฮุ่ยหราน“ฉันไม่รู้ว่าคุณพบเจอเรื่องอะไร จึงทำให้คุณเกิดความคิดแบบนี้...”หลี่ฮุ่ยหรานเงียบขรึมครู่หนึ่ง และพูดเสียงเบาว่า:“แต่ว่า หลินเฟิง ฉันบอกกับคุณอย่างจริงจังอีกครั้ง ต่อไปห้ามมีความคิดแบบนี้อีก ฉันหลี่ฮุ่ยหรานไม่มีทางแยกจากคุณอีก!”“ใครก็ห้ามฉันไม่ได้!”หลี่ฮุ่ยหรานสะบัดแขนของจางซินออก และพูดกับจางซินอย่างเย็นชาว่า:“จางซิน ตอนนี้ฉันขอสั่งเธอ ออกจากเมืองเจิ้งเต๋อ กลับเจียงโจวไปซะ จากนั้นบอกแม่ของฉัน ให้เธอเป็นกังวลเรื่องของฉันให้น้อยๆ หน่อย และยังมีเรื่องของเธอด้วย”“ฉันรู้ว่าเธออกหักและเสียใจ”“แต่ฉันกับหลินเฟิงไม่ใช่ที่ระบายของเธอ อีกทั้งหลี่ซื่อกรุ๊ปก็ไม่ต้องการเธอที่เป็นขยะไร้ค่าทำอะไรไม่เป็นสักอย่าง ตามองสูงแต่ความสามารถไม่ถึง”“อะไรนะ?!”จางซินถอยหลังไปหลายก้าวด้วยใบหน้าตกตะลึง: “พี่ พี่ด่าฉันว่าอะไร? พี่บอกว่าฉัน...”“ฉันบอกว่าเธอเป็นขยะไร้ค่า!”“เธอไม่คู่ค
“แก...ฝากไว้ก่อนเถอะ!”ทั้งสองคนทิ้งคำพูดข่มขู่ประโยคนี้ไว้ก็หนีหางจุกตูดเข้าไปในห้องที่อยู่ภายในบริษัท“คนผู้นี้ก็เป็นนักบู๊งั้นเหรอ? ทำไมฉันถึงไม่สามารถสัมผัสตัวตนของพลังชี่ใดๆ บนตัวของเขาได้เลย?”ในตอนที่พ่อบ้านหวังถูกหลินเฟิงสกัดกั้นการโจมตีเมื่อครู่นี้ ก็รู้สึกตกตะลึงเล็กน้อยและก็เห็นท่าทางที่คล่องแคล่วอย่างมากของหลินเฟิง ตบไอ้กระจอกสองคนนั้นกระเด็นออกไป จึงหรี่ตาเล็กลงยิ่งกว่าเดิม“ไม่ทราบว่าสหายท่านนี้ มาจากตระกูลไหน หรือเป็นลูกศิษย์ของสำนักไหนงั้นเหรอ?”พ่อบ้านหวังหยุดลงมือ สายตาที่มองไปทางหลินเฟิงค่อนข้างระแวงเล็กน้อยถ้าหากพูดว่าเมื่อครู่เขาคิดว่าหลินเฟิงเป็นเพียงแค่คนธรรมดาทั่วไปที่ไม่มีพลังชี่แท้กับกำลังภายในเขาในตอนนี้ ก็ค่อยๆ สัมผัสได้ถึงแรงกดดันที่ไร้ตัวตนรอบๆ ตัวหลินเฟิงได้แล้วแรงกดดันนี้ทำให้ในใจของเขาวิตกกังวลเขาไม่สามารถมั่นใจได้ว่าตัวเองจะจัดการหลินเฟิงได้อายุน้อยขนาดนี้ก็มีพลังถึงขั้นนี้ นี่จึงทำให้พ่อบ้านหวังเกิดความสงสัยต่อเบื้องหลังของหลินเฟิง“ผมไร้พรรคไร้พวก ยิ่งไม่มีเบื้องหลังอะไร”หลินเฟิงส่ายหน้า พูดอย่างแน่นิ่ง:“เป็นอย่างไรบ้างพ่อบ้านหว
ในตอนที่หลินเฟิงได้พบกับพ่อบ้านหวังเมื่อครู่นี้ สีหน้าไม่ค่อยดีสักเท่าไหร่นักเหตุผลแรกที่เขาคิดได้ก่อนเป็นลำดับแรกก็คือเผิงกวงฉี่หักหลังเขาแต่เมื่อคิดอีกที ก็รู้สึกว่าเป็นไปไม่ได้ทั้งสองคนที่อยู่ข้างกายมีความคิดที่จะฆ่าเผิงกวงฉี่ นอกจากเผิงกวงฉี่คนนี้จะเป็นบ้าไปแล้ว ไม่อย่างนั้นคงไม่ทำเรื่องที่หักหลังหลินเฟิงคนโง่ที่ไหนจะกลายเป็นเศรษฐีอันดับหนึ่งของหัวตง?พ่อบ้านหวังเผยสีหน้าโมโหออกมาเหมือนเขาจะนึกอะไรออกขึ้นมา จึงพูดอย่างไม่เกรงใจว่า:“ที่แท้ก็เป็นแบบนี้นี่เอง ผมทราบแล้ว คุณ คงจะอยากถือโอกาสในตอนที่คุณเผิงร่างกายไม่แข็งแรง และฉวยโอกาสยึดครองไปสินะ?!”“อะไรนะ?”ไม่เพียงแค่หลินเฟิงที่ขมวดคิ้ว หลี่ฮุ่ยหรานก็ขมวดคิ้วแน่นเช่นกันเธอยอมเชื่อหลินเฟิงแต่คนรับใช้ส่วนตัวของเผิงกวงฉี่กลับไม่รู้เรื่องนี้ไม่ว่าดูยังไง หลินเฟิงเหมือนกับคนที่พูดมีเหตุผลมีหลักการอย่างมาก จากนั้นกลับถูกตอกหน้าอย่างแท้จริงยิ่งไม่ต้องพูดถึงว่าอีกฝ่ายโมโหแล้ว อีกทั้งตำหนิหลินเฟิงว่าอยากจะฉวยโอกาส“หลินเฟิง ไม่อย่างนั้นพวกเราออกจากที่นี่กันก่อนเถอะ จากนั้นค่อยวางแผนกันใหม่?”หลี่ฮุ่ยหรานหาทางปกป้องศ
ไม่รอให้ผู้ชายอธิบายจนจบ ชายหนุ่มที่อยู่ข้าง ๆเขา ซึ่งกำลังจ้องมองไปที่หลี่ฮุ่ยหรานอยู่ ก็โต้ตอบกลับมา พร้อมกับพูดอย่างสงสัยว่า :“พี่ใหญ่ เมื่อครู่พวกเขาก็รู้แล้วไม่ใช่เหรอว่าพวกเราถูกเถ้าแก่เผิงกว้านซื้อไปแล้วนะ? แล้วพวกเขายังจะมาที่นี่ทำไมอีก?”“ใช่ พวกคุณมาทำอะไรที่นี่? ไม่ใช่เรื่องการรับซื้อที่ดินหรอกงั้นเหรอ?”ผู้ชายขมวดคิ้วพร้อมกับมองไปทางหลินเฟิง“เป็นเรื่องการรับซื้อที่ดินนั้นแหละ”หลินเฟิงพยักหน้า เพื่อยืนยันคำพูดของพวกเขา“ชิ”ผู้ชายแตะลูบศีรษะ แล้วพูดออกมาอย่างช่วยไม่ได้ว่า :“ไม่ใช่ว่าฉันพูดหรอกนะ สหาย คุณก็รู้ว่าเถ้าแก่เผิงต้องการที่ดินพวกนี้ แล้วคุณยังจะมาทำอะไรที่นี่อีกล่ะ?”“หรือว่าพวกคุณต้องการซื้อที่ดินที่อยู่ในมือของเถ้าแก่เผิงกลับไปนะ?“ใช่แล้ว สติปัญญาของคุณไม่ผิดปกติใช่ไหม?”ชายหนุ่มก็ชี้ไปที่หัวของตัวเอง พร้อมกับเยาะเย้ยหลินเฟิง“พี่ พี่เห็นชัดแล้ว”จางซินก็ยืนอยู่ด้านข้างอย่างดีใจ แล้วพูดขึ้นว่า :“พวกเขาไม่เคยรู้เรื่องการซื้อที่ดินของพวกเราเลย พี่มองไม่ออกเหรอว่าหลินเฟิงเพียงแค่โอ้อวดเท่านั้นนะ?”“แล้วยังขอให้เถ้าแก่เผิงเต็มใจยอมขายให้กับคุณอีก
วันต่อมาหลินเฟิงและหลี่ฮุ่ยหรานเตรียมตัวกันตั้งแต่เช้า ก่อนจะขับรถออกไปหาอาคารสำนักงานที่เป็นที่ตั้งของบริษัทเต๋อหนิงจนเจอส่วนจางซินที่ร้องไห้โวยวายก็ติดตามมาด้วย ใช้คำพูดที่เธอพูดมา เธอต้องการจะเห็นด้วยตาของตัวเองว่าหลินเฟิงมีความสามารถอะไรจะสามารถเอาที่ดินที่อยู่ในมือของเผิงกวงฉี่กลับมาได้ไม่เป็นไปตามที่คาดไว้เลยบริษัทเต๋อหนิงแห่งนี้เป็นบริษัทก่อสร้าง ๆขนาดเล็กในท้องถิ่น ก่อนหน้านี้ได้ถูกเผิงกวงฉี่กว้านซื้อไปหมดแล้ว ตอนนี้จึงเป็นเพียงบริษัทที่มีแต่เปลือกนอกเท่านั้น“สวัสดี คุณมาหาใคร?”ชายหนุ่มที่มีไม้จิ้มฟันคาอยู่ที่ปากนั้น มองดูภายนอกก็รู้ว่าเป็นคนที่หยิ่งยโส ได้เข้ามาขวางทางของหลินเฟิงและคนอื่น ๆเมื่อดวงตาของเขากวาดมองไปที่จางซินและไปหยุดอยู่ที่หลี่ฮุ่ยหราน ทันใดนั้นดวงตาก็เบิกกว้างขึ้น พร้อมกับไม้จิ้มฟันในปากที่ตกลงบนพื้น“เชี่ย!”ชายหนุ่มคนนี้สบถคำหยาบออกมา“มีอะไรงั้นเหรอ?”ในเวลานี้ ชายที่อ้วนท้วมเล็กน้อยเดินออกมาจากด้านใน เขาเดินขมวดคิ้วพร้อมกับพูดว่า :“ถ้าหากจะมาพูดคุยเรื่องธุรกิจกับบริษัทเต๋อหนิงของพวกเรา ต้องขอโทษด้วย บริษัทเต๋อหนิงของพวกเราถูกคนซื้อกิจ
“พรวด...”ภายใต้ความเงียบสงัด จางซินอดกลั้นไม่ไหวก่อนใคร และหัวเราะออกมา“หลินเฟิง สมองของนายไม่ได้มีปัญหาใช่ไหม?”จางซินมองหลินเฟิงและหัวเราะเยาะ จากนั้นพูดเหน็บแนมว่า:“อุ๊ย ถูกแล้วแหละ!”“เศรษฐีอันดับหนึ่งของหัวตง ถูกนายคนที่ไม่มีชื่อเสียงอะไรไปพูดคุยที่บ้านสองสามประโยค ก็ตัดสินใจยกที่ดินที่ตกมาอยู่ในมือให้นาย”“เช่นนั้นขอถามหน่อยว่า...”“นายคือลูกชายของเศรษฐีอันดับหนึ่งของหัวตงท่านนั้น หรือเป็นหลาน หรือเป็นแฟนของเขากันล่ะ?”เผชิญหน้ากับคำเยาะหยันอย่างโจ่งแจ้งของจางซิน หลินเฟิงไม่ได้รับคำพูดต่อเขามองไปทางหลี่ฮุ่ยหรานด้วยความสงบนิ่งและพูดว่า:“วางใจเถอะ เรื่องที่ดินผมจัดการเรียบร้อยแล้ว พรุ่งนี้พวกเรานำสัญญาไปที่บริษัทเต๋อหนิงโดยตรงก็พอแล้ว”“จริงเหรอหลินเฟิง?”ข่าวนี้กระทันหันจนเกินไป ทำให้หลี่ฮุ่ยหรานไม่ทันได้ตั้งตัวเธอไม่รู้ว่าตอนนี้ควรจะร้องไห้หรือหัวเราะสิ้นหวังก่อน จากนั้นก็มีความหวังหัวใจของหลี่ฮุ่ยหรานเหมือนกับนั่งรถไฟเหาะ เธอยกมือทาบหน้าอกของตัวเอง รู้สึกว่าตัวเองแทบจะแบกรับไม่ไหวแล้ว“ต้องเป็นเรื่องจริงแน่นอนอยู่แล้ว ผมเคยโกหกคุณเมื่อไหร่กัน?”รอยยิ้มขอ
“เผิงกวงฉี่ยอมจ่ายเงินเต็มที่เพื่อที่ดินเหล่านี้ หรือจะเป็นเพราะอยากให้หลี่ซื่อกรุ๊ปของเรา ใช้เงินทุนทั้งหมดเพื่อไปตีเสมอกับเศรษฐีอันดับหนึ่งของหัวตงงั้นเหรอ?”“งั้นคุณไม่สู้ให้หลี่ซื่อกรุ๊ปล้มละลายไปซะเลยดีกว่า!”คำพูดของหลี่ฮุ่ยหรานทำให้พนักงานในบริษัทคนอื่นๆ พากันพยักหน้าหลี่ฮุ่ยหรานพูดไม่ผิด เผิงกวงฉี่เศรษฐีอันดับหนึ่งเมืองหัวตงไม่มีสิ่งอื่น แต่มีเงินเต็มไปหมดต่อให้หลี่ซื่อกรุ๊ปเก่งกาจแค่ไหนก็ไม่มีทางที่จะแข่งขันเงินกับเขาได้นั่นก็คือรนหาที่ตาย“หึหึ”กัวโหย่วคังกลอกตามองบน ตอนนี้ลูกชายของเขาตายแล้ว เขาเปลี่ยนไปสุดขีดและไม่สนใจสิ่งใด จากนั้นฉีกยิ้มพูดว่า:“ผมไม่สนอะไรขนาดนั้นหรอก ยังไงพวกคุณก็ทำเงื่อนไขข้อที่สองไม่สำเร็จ นี่คือเรื่องจริงใช่ไหมล่ะ?”“ใช่ความเป็นจริง แต่ว่า...”“ไม่มีแต่ว่าอะไร”กัวโหย่วคังยิ้มเยาะพูดว่า:“ผมดูแค่ผลลัพธ์เท่านั้น ถ้าหากพวกคุณทำไม่ได้ นั่นก็คือทำไม่ได้ ตอนนี้ผมบอกพวกคุณให้ว่าหลายปีมานี้ผมเอาเงินของหลี่ซื่อกรุ๊ปไปเท่าไหร่”“หกหมื่นล้านบาท”ตอนที่กัวโหย่วคังพูดตัวเลขนี้ออกมา พนักงานของหลี่ซื่อกรุ๊ปที่อยู่ข้างๆ พากันสูดลมหายใจเข้าอย่างแรง
“สวรรค์ช่วยฉันไว้แท้ๆ...”“เสี่ยวหง พ่อบ้านหวัง”ในตอนนี้ ภายในห้องน้ำมีเสียงตะโกนที่อ่อนเพลียของเผิงกวงฉี่ดังขึ้นทั้งสองคนมองตากัน พากันเก็บรอยยิ้มลำพองใจบนใบหน้าเอาไว้ เปลี่ยนไปเป็นสีหน้ากังวลใจเหมือนกับในเวลาปกติ......หลินเฟิงเรียกรถแท็กซี่ไปที่หลี่ซื่อกรุ๊ปตอนนี้จางซินกำลังระเบิดอารมณ์อยู่ที่ทางเดินของห้องทำงานเธอหยิบแจกันดอกไม้ตรงทางเดินขึ้นมาขว้างไปทางจ้าวเว่ย และด่าทอเสียงดัง:“ก่อนหน้านี้คุณรับปากฉันไม่ใช่เหรอ บอกว่าจะเอาโควต้าห้าแห่งมาให้บริษัทของพี่สาวฉันไม่ใช่เหรอ? ตอนนี้จบกัน ฉันคุยโวโอ้อวดออกไป ปรากฏว่าคว้าเอามาไม่ได้แม้แต่โควต้าเดียว!”“คุณรู้ไหมว่าตอนนี้ฉันอับอายขายหน้าไปจนถึงบ้านคุณย่าแล้ว!”“ฉันไม่กล้าไปพบญาติผู้พี่ของฉันแล้ว!”จางซินโมโหจนด่าสาดเสียเทเสีย ถึงกับดึงดูดกลุ่มคนมาล้อมดูจ้าวเว่ยหลบแจกันดอกไม้ที่จางซินโยนมา ครั้งนี้ที่เขามาเพราะอยากจะอธิบายกับหลินเฟิง คิดไม่ถึงว่าเพิ่งเข้าบริษัทมาก็ได้พบกับผู้หญิงบ้าคนนี้เธอไม่พูดพร่ำทำเพลงก็ระบายอารมณ์ใส่เขาถ้าหากไม่ใช่ว่าต้องแสร้งทำเป็นแฟนของเธอ จ้าวเว่ยอาจจะตบหน้าจางซินในตอนนี้ซะเลย“หือ? เกิดอะไรข