“พระชายา สิ่งที่ท่านเขียนไม่ใช่ยา นี่...นี่เป็น...”“ใช่ ข้าต้องการใช้พิษสู้พิษ!”เซี่ยเชียนฮวันพิงวงกบประตูอย่างอ่อนแรง ราวกับจะล้มลงได้ทุกเมื่อ แต่ดวงตาคู่นั้นยังคงสดใส และเปล่งประกายด้วยความมุ่งมั่นเมื่อเห็นแววตาของนาง เสี่ยวตงที่ยังนึกสงสัยในตอนแรกจึงพยักหน้า เลือกเชื่อนางอีกครั้ง“ตกลง บ่าวจะไปจัดการเดี๋ยวนี้!”เสี่ยวตงไม่กล้าชักช้า นางรีบจากไปในทันทีบ่ายซูอวี้เออร์ที่นั่งจิบชาอยู่ในเรือนจิ่นซิ่วก็ทราบข่าวแล้วเช่นกัน“อะไรนะ เซี่ยเชียนฮวันคิดใบสั่งยาขึ้นมาจริงๆ หรือ?” นางตกใจมากเสียเงินจำนวนมากเพื่อเฟ้นหากลุ่มมือสังหารแต่ไม่คาดว่า ก็ไม่อาจขัดขวางเซี่ยเชียนฮวันได้เสียเงินไม่เท่าไหร่ แต่ดันทำให้เซียวเย่หลันเพิ่มแนวป้องกันของทหารรอบหอหลันเซียงช่างได้ไม่คุ้มเสีย!อวิ๋นซีพยักหน้า และอดกล่าวอย่างปลงๆ มิได้ว่า “ทักษะทางแพทย์ของพระชายาร้ายกาจมาก เมื่อจับหนูพิษตัวนั้นได้ นางก็ใช้เวลาวิเคราะห์ข้ามคืนจึงระบุได้ว่ามันเป็นพิษชนิดใด เมื่อครู่เสี่ยวตงเพิ่งจะนำกล่องสมุนไพรกลับมาให้นางปรุงยา ได้ยินมาว่าตอนนี้แม้แต่หนูพิษก็หายขาด และกลายเป็นหนูธรรมดา”เพี๊ยะ!ซูอวี้เออร์พลันบั
“ในอนาคตข้าน้อยจะยอมเป็นวัวเป็นม้าตอบแทนพระชายา”ชายวัยกลางคนโขกหัวไม่หยุดด้วยความจริงใจเมื่อคนรอบข้างเห็นดังนั้น พวกเขาก็พากันทอดถอนใจ และรู้สึกสะเทือนใจมากเซี่ยเชียนฮวันประคองสองพ่อลูกขึ้นมา ยิ้มน้อยๆ แล้วกล่าวว่า “ไม่ต้องสุภาพขนาดนี้ เดิมทีการรักษาคนป่วย ก็คือหน้าที่ของข้า”“แต่ท่านไม่คิดค่ายา นี่ยังถือว่าเป็นหน้าที่หรือไม่?”เด็กหนุ่มพูดจากระอึกกระอักต่อหน้าผู้คนเป็นจำนวนมาก เขาหันไปมองถงซ่านถัง แล้วพูดพึมพำว่า “ท่านหญิงที่อยู่ฝั่งตรงกันข้ามกับพระชายาขายยาแพงมาก นางปฏิเสธที่จะมอบให้เรา โดยบอกว่าสมุนไพรที่ใช้ล้ำค่ามาก และยาของท่านไม่มีทางถูกไปกว่านางอย่างแน่นอน!”เมื่อทุกคนได้ยินสิ่งนี้ พวกเขาก็ถกเถียงกันวุ่นแย่งกันพูดจนฟังไม่ได้ศัพท์“ที่เด็กคนนี้พูดก็สมเหตุสมผลอยู่นะ เหตุใดฮัวเยว่ถังไม่ต้องจ่ายเงินซื้อยา แต่ถงซ่านถังกลับสามารถขายยาในราคาที่แพงมาก?”“เฮ้อ ข้าไม่สามารถซื้อยาของท่านหญิงหยวนหลี่ไหว คุกเข่าขอร้องอยู่สองวัน แต่สุดท้ายก็ถูกไล่ออกมา”“ราคาแพงก็ช่างเถอะ แต่ได้ยินมาว่ามีหลายคนที่ซื้อยาไป หลังจากกลับบ้านไปทานยาก็อาการไม่ดีขึ้นเลย เสียเงินโดยเปล่าประโยชน์!”“ในค
“ขอยืมคําพูดของท่านหญิงเมื่อครู่ ถูกผิดอยู่ที่ใจคน ข้าได้แสดงจุดยืนของข้าไปแล้ว และเจ้าก็เป็นคนเดียวที่ไม่เต็มใจที่จะเปิดเผยสูตรยา ข้าคิดว่าในใจของทุกคนคงรู้เหตุผลว่าทำไม”เซี่ยเชียนฮวันหัวเราะเบาๆ เมื่อเทียบกับท่าทางโมโหของท่านหญิงหยวนหลี่แล้ว เห็นได้ชัดว่านางดูผ่อนคลายมาก เดิมทีท่านหญิงหยวนหลี่คิดจะมาก่อปัญหา แต่ตอนนี้สถานการณ์ของทั้งสองฝ่ายดูเหมือนจะกลับกันโดยสิ้นเชิงคนที่ถูกบีบให้พูดไม่ออก กลับกลายเป็นท่านหญิงหยวนหลี่ ไม่ใช่เซี่ยเชียนฮวันฝูงชนต่างทยอยมารวมตัวกันและเริ่มชี้นิ้วมาที่ท่านหญิงหยวนหลี่“พระชายาจ้านอ๋องคือผู้มีพระคุณช่วยชีวิตพวกเรา เจ้ารีบกลับไปขายยาของเจ้าต่อเถอะ อย่ามาสร้างปัญหาที่นี่!”“เมื่อก่อนข้าคงตาบอดไปแล้วจริงๆ ถึงเชื่อว่าคนประเภทนี้คือเทพธิดาที่ช่วยเหลือผู้คนในยามทุกข์ยาก...”“โชคดีจริงๆ ที่ข้าไม่ได้ซื้อยาของนาง แพงเสียขนาดนั้น แต่กลับใช้ไม่ได้ผล เจ้าแค่จงใจฉ้อโกงเงินของทุกคนตั้งแต่แรก”แม้จะมีผ้าคลุมปิดหน้า แต่ก็สามารถเห็นได้ว่าเวลานี้ท่านหญิงหยวนหลี่อับอายมากเพียงใดไม่กี่วันก่อนหน้านี้ นางยังเป็นเทพธิดาผู้สูงส่ง ที่ผู้คนมากมายล้วนยกย่องชื่นชม แ
“เดิมทีท่านหญิงก็ไม่มีหลักฐานพิสูจน์ว่ายาที่ขายออกไปนั้นถูกคนสับเปลี่ยน อาศัยเพียงลมปากเท่านั้น”เซี่ยเชียนฮวันหัวเราะนางไม่โกรธ ไม่โมโห เพียงกระตุกยิ้มมุมปากอย่างดูแคลน เห็นได้ชัดว่ามั่นใจมากใครก็ตามที่เห็นเหตุการณ์นี้ ล้วนรู้สึกได้ว่าท่านหญิงหยวนหลี่กำลังสร้างปัญหาโดยไร้เหตุผลและเหตุผลก็ยืนอยู่ข้างเซี่ยเชียนฮวัน“ถ่อมาสร้างปัญหาที่ฮัวเยว่ถังโดยไม่มีหลักฐาน ข้าล่ะทนดูต่อไปไม่ไหวแล้ว!”“รีบออกไปซะ! อย่ามาขวางทางทุกคนรับยาช่วยชีวิต!”“กลับไปโรงหมอของท่านซะ!”“หมอใจดำ ถ้าในอนาคตข้าไปที่ถงซ่านถังอีกครั้ง ข้าจะยอมเป็นหลานเจ้า!”ประชาชนโห่ร้องขึ้นมา และขับไล่ท่านหญิงหยวนหลี่แม้ท่านหญิงหยวนหลี่จะไม่ใช่สายเลือดของราชวงศ์ที่แท้จริง และเป็นเพียงบุตรบุญธรรมของเชื้อพระวงศ์ ทว่าแต่ไหนแต่ไรมานางไม่เคยต้องรับความอัปยศเช่นนี้มาก่อน!นางจ้องมองเซี่ยเชียนฮวันด้วยความเกลียดชัง กัดฟันพูดทีละคำว่า “รอก่อนเถอะ ข้าจะหาหลักฐานมาได้อย่างแน่นอน”พูดจบ นางก็สะบัดชายเสื้อหมุนตัวเดินจากไปเซี่ยเชียนฮวันมองตามแผ่นหลังของสตรีชุดขาว ยิ้มเย็นแล้วกล่าวว่า “เช่นนั้นข้าจะรอดู ไม่แน่ว่าข้าอาจจะหาหลักฐานเ
ความกังวลของชิวหมิ่นไม่ได้ไร้เหตุผลนางเคยได้ยินเรื่องราวแปลกๆ มากมายจากเสิ่นหรง ว่าครั้งหนึ่งเคยมีผู้หญิงที่ให้กำเนิดสัตว์ประหลาดคล้ายแมวที่ตายแล้ว หรือเสียแขนขาดขา แต่สิ่งที่น่ากลัวที่สุดก็คือเด็กที่เกิดมามีหัวแค่ครึ่งเดียวพ่อแม่เหล่านี้พยายามตามหาหมอผี เพื่อหาวิธีช่วยรักษาเสิ่นหรงอาจรักษาความผิดปกติบางอย่างได้ แต่ไม่สามารถทำอะไรกับพวกประหลาดพวกนั้นได้เซี่ยเชียนฮวันลูบท้องตัวเอง แล้วยิ้มจางๆ “พี่ชิวหมิ่น ความกังวลของท่านข้าเข้าใจดี ข้าจะพยายามอย่างเต็มที่ เพื่อใช้ความรู้ทั้งหมดที่ข้ามี ดูแลเด็กคนนี้ให้เกิดมามีสุขภาพที่แข็งแรง”“รอคนผู้นั้นกลับมา ท่านก็ให้เขาช่วยตรวจดูสักหน่อยเถอะ หากเขาบอกว่าท่านมีครรภ์ที่แข็งแรง ท่านก็สามารถวางใจได้” ชิวหมิ่นกล่าว“คนผู้นั้นเป็นใคร?”เซี่ยเชียนฮวันเลิกคิ้วสูง แสดงสีหน้าสงสัยชิวหมิ่นยิ้ม แต่ไม่ตอบคำถามนี้ ซ้ำยังย้อนถามเสียงเบาว่า “พระชายา สหายเจียงหูของข้าจัดการทุกอย่างได้ไม่เลวเลยใช่ไหม?”“ยอดเยี่ยมมาก”เซี่ยเชียนฮวันพยักหน้าเหตุผลที่ท่านหญิงหยวนหลี่ขายยาปลอมเป็นจำนวนมากได้ เป็นเพราะเซี่ยเชียนฮวันหาคนที่จะแอบเข้าไปในถงซ่านถังและเปลี่
ไม่กี่วันต่อมา เซี่ยเชียนฮวันกำลังยุ่งกับงานในโรงหมอยาของนางไม่เพียงแต่รักษาโรคระบาด แต่ยังสามารถป้องกันได้ดังนั้น นอกจากชาวเมืองตะวันตกแล้ว แม้แต่คนที่อาศัยอยู่ห่างออกไปก็รีบมาขอยาทำให้เกิดภาวะขาดแคลนเซี่ยเชียนฮวันเป็นเหมือนลาตัวเดียวในหมู่บ้าน ยุ่งจนหยุดไม่ได้ แม้แต่เวลาจะกลับจวนอ๋องก็ไม่มี กระทั่งอาหารการกินก็ยังให้คนไปซื้อซาลาเปาสองสามลูกข้างถนนมาทาน“พระชายา ท่านดูนั่น”ในขณะที่เซี่ยเชียนฮวันกำลังล้างมืออยู่นั้น จู่ๆ ก็ได้ยินเสียงหัวเราะของเสี่ยวตงเมื่อนางเงยหน้าขึ้น ใบหน้าของชายหนุ่มรูปงามแสนเย็นชาก็ปรากฏในคลองจักษุของนาง เขาโดดเด่นจากฝูงชน และไม่เข้ากับคนรอบข้าง“เซียวเย่หลัน”เซี่ยเชียนฮวันพลันตะลึงทำไมเขาถึงมาที่นี่ฮัวเยว่ถังเปิดทำการมานานแล้ว และเขาก็ไม่เคยมาที่นี่รอจนเซียวเย่หลันเดินมาถึงตรงหน้า เซี่ยเชียนฮวันจึงได้สติ นางผายมือไปด้านข้าง “ถ้าจะรับยาให้ไปต่อแถวที่นั่น แม้ว่าท่านจะเป็นอ๋องก็ไม่มีสิทธิพิเศษหรอกนะ”“เจ้าเห็นข้าดูเหมือนคนมารับยาหรือ?” เซียวเย่หลันถามด้วยสีหน้าไร้อารมณ์“เช่นนั้นท่านมาทำอะไรที่นี่”เซี่ยเชียนฮวันรู้สึกงุนงงมากท่าทางของนาง
“เย่ซิ่น เจ้าอยู่ช่วย”เซียวเย่หลันสีหน้าอึมครึม เขาอดไม่ได้ที่จะคว้าตัวเซี่ยเชียนฮวัน และดึงนางออกจากโรงหมอเซี่ยเชียนฮวันไม่คิดว่าเขาจะกล้าทําต่อหน้าทุกคน“เดี๋ยวก่อน ปล่อยข้านะ เซียวเย่หลัน ท่านจะพาข้าไปไหน?”นางพยายามสะบัดหนีฝูงชนทั้งสองฝั่งเฝ้าดูเหตุการณ์อย่างเงียบๆ และหลีกทางอย่างรู้ตัว ไม่มีใครกล้าหยุดพวกเขานี่คือจ้านอ๋องเซียวเย่หลันพวกเขาอาจพึ่งพาจำนวนคน เพื่อช่วยเซี่ยเชียนฮวันออกจากท่านหญิงหยวนหลี่ได้ แต่พวกเขาไม่กล้าต่อต้านจ้านอ๋อง!เซียวเย่หลันหันศีรษะกลับมา และตอบอย่างไม่พอใจ “ข้ายังจะพาเจ้าไปที่ไหนได้อีกล่ะ? กลับบ้าน!”“บ้าน?”สิ่งแรกที่เซี่ยเชียนฮวันนึกถึงคือจวนอันติ้งโหวแต่ไม่นานนัก นางก็เข้าใจว่าเซียวเย่หลันหมายถึงจวนจ้านอ๋อง ไม่ใช่บ้านแม่ของนางหรือว่า เขายอมรับนางเป็นคนในครอบครัวของเขาแล้ว...เซี่ยเชียนฮวันเกิดความลังเลในใจในช่วงเวลาดังกล่าว เซียวเย่หลันก็ฉวยโอกาสลากนางออกจากโรงหมอ ใช้กำลังบังคับนางให้เข้าไปในรถม้าเหมือนฉุดสาวชาวบ้านก็ไม่ปาน“เฮ้อ พระชายาช่างน่าสงสารจริงๆ ต้องมาแต่งกับเทพหน้าดำเช่นนี้!”“ก็นั่นนะสิ อันที่จริงแล้วพระชายาทั้งงดงาม ท
“นั่นไม่จำเป็นเลย ถึงแม้ท่านอ๋องจะโกรธ แต่ก็ไม่จำเป็นต้องเสี่ยงต่อสุขภาพของตัวเองเช่นนี้”เซี่ยเชียนฮวันหดตัวเขยิบเข้าไปใกล้มุมรถอย่างเงียบๆเซียวเย่หลันร้องหึอย่างเย็นชา “ไม่ใช่ว่าเจ้ายุ่งมากในโรงหมอหรือไร ไม่เห็นเจ้าจะนึกถึงร่างกายของตัวเองบ้างเลย?”“ท่านอ๋องคงไม่ได้เป็นห่วงข้า...”“ไม่ใช่!”“อื้อๆ สตรีที่ชั่วร้ายเจ้าคิดเจ้าแค้นอย่างข้า ไม่คุ้มค่าให้ท่านอ๋องต้องกังวลหรอก มีเพียงอาการไข้เย็นของแม่นางซูเท่านั้นถึงจะคู่ควรให้ท่านอ๋องสนใจ”เซี่ยเชียนฮวันหัวเราะแหะๆ ตัดสินใจว่าจะไม่จริงจังกับผู้ชายคนนี้ นางเริ่มปล่อยไปตามยถากรรม.เซียวเย่หลันเหลือบมองนางแวบหนึ่ง และกล่าวเสียงอึมครึมว่า “พูดแบบนี้ แสดงว่าเจ้าใกล้จะหายดีแล้วกระมัง”“ต้องขอบคุณพรของท่านอ๋อง”เซี่ยเชียนฮวันเริ่มหาวในเมื่อไม่สามารถหลบหนีไปจากเงื้อมมือของเซียวเย่หลันได้ นางจึงเอนตัวพิงที่มุมรถ จากนั้นก็เริ่มงีบหลับพักผ่อนเซียวเย่หลันมองนาง แล้วพึมพำเสียงเบาว่า “เจ้าอยากเผชิญหน้ากับคนป่วย มากกว่ากลับมาพบข้า”……ตกดึกหอหลันเซียงมืดมิดไร้แสงสว่างสถานที่ที่ห่างไกล หากไม่มียามคอยลาดตระเวน หรือเซี่ยเชียนฮวันกับสาวใ
“มันมาจากไหน?”เซียวเย่หลันถามเซี่ยเชียนฮวันขมวดคิ้ว “ตงไหล!”“ตงไหล...”พอได้ยินชื่อสถานที่นี้ สีหน้าของเซียวเย่หลันก็ขรึมลงเล็กน้อย เขานึกถึงคนๆ หนึ่งเซี่ยเชียนฮวันเอ่ยชื่อของคนที่อยู่ในความคิดของเขาทันที “รู้สึกว่าบังเอิญมากใช่หรือไม่? ยาที่พวกฆาตกรให้เหยื่อกินเป็นผลผลิตพิเศษจากตงไหล ประจวบเหมาะกับตอนที่พวกเขาจับคนร้ายแถบชานเมืองนั้น ฉินจีที่มีสมญานามว่าเป็นหญิงงามอันดับหนึ่งแห่งตงไหลถูกส่งตัวไปที่วังหลัง” “ช่างบังเอิญมากจริงๆ”เซียวเย่หลันจ้องไปที่หญ้าที่ส่งกลิ่นคาวปลาตายบนโต๊ะ นิ้ววางอยู่เหนือริมฝีปากแล้วบีบจมูกเบาๆเรื่องราวมากมายจริงๆเขาไม่รู้สึกว่าพวกนี้เป็นเรื่องบังเอิญทั้งสองเรื่องนี้ อย่างไรเสียก็ต้องเกี่ยวข้องกันเซี่ยเชียนฮวันพูดว่า “แล้วก็ ข้าให้เพื่อนไปสืบดูแล้ว เป็นเพราะหญ้าโช่วผิงถูกคนเข้าใจว่าเป็นยายืดอายุขัย มีจอมยุทธ์มากมายที่จะใช้มันกลั่นเป็นยาเพื่อใช้บำรุงสำหรับการฝึกยุทธ์”“เพื่อนเจ้าคนไหน? ผู้ชายหรือผู้หญิง?”จุดสนใจของเซียวเย่หลันอยู่ตรงนี้เซี่ยเชียนฮวันกลอกตามองบนอย่างไม่สบอารมณ์ “เถ้าแก่เนี้ยที่หอฮัวเยว่!”“อืม”ผู้หญิง เช่นนั้นเซียวเย่ห
ซูอวี้เออร์สีหน้าแข็งค้างสมควรตายคิดไม่ถึงเลยว่าพวกโจรโฉดพวกนี้จะได้รับข่าวสารว่องไวเพียงนี้!นางยังนึกว่า พวกเขาควรจะเป็นพวกโจรกระจอกในยุทธภพ ไม่ค่อยมีความเข้าใจเกี่ยวกับราชวงศ์นัก และนางเพิ่งตั้งครรภ์ไม่นาน จากภายนอกแล้วก็ดูไม่ออกหากเป็นเช่นนี้ นางในตอนนี้ก็กลายเป็นแกะน้อยเข้าถ้ำเสือแล้วสิ??ในขณะที่ซูอวี้เออร์เหงื่อเปียกชุ่มไปทั้งตัวและกำลังคิดว่าจะรับมือต่ออย่างไรนั้น หัวหน้าชุดขาวก็เงยหน้าขึ้นแล้วหัวเราะเสียงดัง “ฮ่าๆๆ ไม่ต้องเป็นกังวลไป!”“เป้าหมายของพวกเราคือหญิงตั้งครรภ์ท้องโต เจ้าที่เพิ่งท้องแบบนี้ ทารกในครรภ์ยังไม่เป็นรูปเป็นร่างเลย ไม่มีประโยชน์อะไรกับเราสักนิด” อีกคนหนึ่งพูดเสียงเย็น หัวหน้าชุดขาวตบไปที่บ่าของพรรคพวกตัวเอง “เอาล่ะ อย่าทำให้นางตกใจไปเลย พวกเรากำลังต้องการเลือดเนื้อเชื้อไขของราชวงศ์ต้าเซี่ยพอดี นางยังช่วยพวกเราได้อีกมาก”สีหน้าของพรรคพวกคนนั้นแสดงออกถึงความแปลกใจเล็กน้อยแต่ ที่แห่งนี้ คำพูดของหัวหน้าคนเดียวที่ถือเป็นคำตัดสินสูงสุดเขาได้ตัดสินใจจะร่วมมือกับซูอวี้เออร์แล้วซูอวี้เออร์เผยรอยยิ้มที่พึงพอใจออกมา “ตอนนี้ท่านอ๋องจะออกลาดตระเวนทุกคืน
ก่อนหน้านี้ เซียวจ้านได้พูดคุยกับนางหลายครั้งได้แสดงออกให้เห็นถึงความในใจอยู่บ้างแต่นางกลับไม่รู้เลยว่า เซียวจ้านนั้นแท้จริงแล้วไม่ได้เป็นคนเอาแต่เล่นไม่เอาอ่าวอย่างที่เผยให้เห็นในรูปลักษณ์ภายนอก ตอนเด็กเขาก็ผ่านความเจ็บปวดมาไม่น้อยแต่พวกนั้นต่างก็เป็นการพูดคุยเปิดใจทั่วไปเซี่ยเชียนฮวันยืนยันได้ว่าระว่างนางกับเซียวจ้านนั้นไม่มีการข้ามเส้น มากที่สุดก็เรียกได้ว่าเป็นเพื่อน ไม่ได้เป็นเหมือนที่เซียวเย่หลันคิดนางแค่นเสียงเหอะ “เซียวเย่หลัน ข้าว่านะ เพราะเจ้าเคยแอบขโมย พอมองใครก็รู้สึกว่าเป็นโจรเสียหมด”“ข้าไม่เคยขโมยของใคร” เซียวเย่หลันถูกทำให้โกรธจนขำแล้วเซี่ยเชียนฮวันยกมุมปาก “ตัวเจ้ามีหญิงสาวมากมาย ซูอวี้เออร์นั้นข้าไม่นับแล้ว ยังมีหลี่จิ้งหย่าที่ชอบพอกันมาตั้งแต่เด็ก ผู้อื่นแต่งงานกับองค์ชายสองแล้ว เจ้ายังไปติดพันนางยากจะอธิบายได้ชัดเจนอยู่เลย”“เป็นเพราะว่าจิตใจของท่านอ๋องเองไม่บริสุทธิ์ ดังนั้น ถึงได้รู้สึกว่าระหว่างข้ากับองค์ชายห้านั้นพิเศษอย่างไรล่ะ”เซียวเย่หลันน้ำเสียงเย็นเยียบ “ตัวข้าไม่เคยติดพันกับหลี่จิ้งหย่าจนอธิบายไม่ได้”“งั้นหรือ? เช่นนั้นวันนั้นที่ข้าเห็น
“ข้าเป็นหมอผู้เชี่ยวชาญ ไม่กลัวหรอก”เซี่ยเชียนฮวันปากแข็ง ดึงฝ่ามือออกจากมือของเซียวเย่หลันแล้วเริ่มชันสูตรศพทีละร่างหญิงสาวพวกนี้ตายเพราะเสียเลือดมากเกินไปพวกนางถูกกรีดร่างทั้งเป็น วิธีการทารุณมากแต่ที่แปลกคือ ภายในร่างของพวกนางกลับมีร่องรอยของยาอยู่ แต่ไม่ได้ถูกพิษอย่างที่เจ้าหน้าที่ชันสูตรศพพูดพอเจ้าเมืองเห็นเซี่ยเชียนฮวันขมวดคิ้ว ดวงตาเต็มไปด้วยความไม่เข้าใจ เขาจึงบีบจมูกแล้วเดินไปด้านหน้าถามขึ้นว่า “พระชายาอ๋อง ท่านสังเกตพบสิ่งใดหรือไม่?”“จากที่ข้าสังเกต แทนที่จะพูดว่าพวกนางถูกพิษ ควรพูดว่าก่อนตาย พวกนางถูกคนกรอกยาชนิดหนึ่งให้กิน ไม่ถึงกับขั้นส่งผลร้ายต่อร่างกายมากนัก แต่ในเมื่อฆาตกรจะฆ่าพวกนางอยู่แล้ว เหตุใดต้องมากเรื่อง กรอกยาพวกนางด้วยเล่า”จุดที่เซี่ยเชียนฮวันคิดไม่ตกก็คือจุดนี้ในกระเพาะของทุกร่างล้วนมีเศษซากยาชนิดนี้เท่ากับว่า เรื่องนี้สำหรับฆาตกรแล้วเป็นขั้นตอนที่ขาดไม่ได้สำหรับฆาตกร ขั้นตอนนี้มีประโยชน์ต่อพวกเขาสูงสุดเซียวเย่หลันขมวดคิ้วเล็กน้อย “ยาชนิดนี้ทำขึ้นมาจากอะไรหรือ?”“น่าจะมีประโยชน์เพียงช่วยให้ร่างกายแข็งแรง แต่รายละเอียดต่างๆ ต้องรอให้ข้านำตั
“ใครน่ะ?!”เซี่ยเชียนฮวันตกใจเดินไม่ให้ซุ่มไม่ให้เสียงมาอยู่ด้านหลังของนาง!พอนึกถึงเรื่องที่สตรีมีครรภ์หายตัวไปในช่วงนี้ ใจของเซี่ยเชียนฮวันก็เต้นตึกๆๆ รัวเป็นกลอง นางหันตัวขวับกลับมา นางก็ราดน้ำที่อยู่ในมือออกไปจนหมดจากนั้น...นางได้ทำให้ผมดกดำและเสื้อผ้าของเซียวเย่หลับเปียกไปหมดเซียวเย่หลันถูกน้ำราดทั้งหน้า หมดคำจะพูด ใช้มือเช็ดถูกแล้วพูดเสียงเย็น “การระมัดระวังตัวตลอดเวลานั้นเป็นเรื่องดี แต่ก็ไม่ต้องกลัวเป็นกระต่ายตื่นตูมไป”“ใครให้เจ้ามาไม่ให้เสียงสักนิดล่ะ มาอย่างกับผี ตกใจหมดเลย” เซี่ยเชียนฮวันเองก็อารมณ์ไม่ดี “แต่ก่อนเจ้าไม่มาโรงหมอไม่ใช่หรือ วันนี้วิ่งแจ้นมาที่นี่ทำไม?”“หากไม่ใช่เพราะเจ้าเมืองซุ่นเทียนมาขอแล้วขออีก ข้าเองก็คร้านจะมา”เซียวเย่หลันแสดงท่าทางรังเกียจเต็มที่ หยิบเอาผ้าออกมาเช็ดหน้าเซี่ยเชียนฮวันไม่เข้าใจ “เจ้าเมืองซุ่นเทียนขอร้องเจ้า? เขาเองก็อยากซื้อครีมบำรุงให้ฮูหยินของตนหรือ?”“พบศพเหยื่อสาวแถวชานเมืองหลวง ฝ่ายชันสูตรบอกว่าพวกนางถูกพิษ แต่ไม่สามารถตรวจสอบได้แน่ชัดว่าเป็นพิษจากอะไร เจ้าเมืองซุ่นเทียนก็เลยอยากขอให้เจ้าช่วย”เซียวเย่หลันพูดอธิบายส
“รู้สิ ทำไมหรือ?”เซี่ยเชียนฮวันตะลึงตอนที่อยู่โรงหมอ นางได้ยินพวกชาวบ้านถกเถียงกันราวกับว่ามีหญิงสาวมากมายที่ถูกจับตัวหรือว่า ที่ฮ่องเต้เรียกตัวเซียวเย่หลันไปห้องทรงพระอักษรก็เพราะจะให้เขาตรวจสอบเรื่องนี้เซียวเย่หลันพูดเสียงทุ้มว่า “สตรีที่ถูกพวกเขาจับตัวไปล้วนเป็นสตรีมีครรภ์” “อะไรนะ???”เซี่ยเชียนฮวันอดตกใจไม่ได้!ตามหลักแล้ว สตรีที่ถูกจับตัวไปควรเป็นหญิงสาวอายุน้อย เหตุใดจึงเป็นสตรีมีครรภ์ล่ะ?“ตอนนี้ คนในเมืองหลวงในใจกระวนกระวาย เสด็จพ่อได้ออกประกาศห้ามออกจากเคหะสถานยามค่ำคืนแล้ว นับจากวันนี้เป็นต้นไป ข้าต้องนำทหารออกไปลาดตระเวนทุกคืน จนกว่าจะจับตัวพวกผู้ร้ายพวกนั้นได้”เซียวเย่หลันมองไปทางเซี่ยเชียนฮวันปราดหนึ่ง ยื่นมือไปบีบแก้มนาง “เจ้าดูแลเด็กน้อยในท้องของเจ้าให้ดี ช่วงนี้อย่าออกไปวิ่งพล่านที่ไหน ได้ยินไหม”“อื้อ”เซี่ยเชียนฮวันตอบอย่างว่าง่ายไม่แปลกที่เซียวเย่หลันไม่ยอมให้นางช่วยที่แท้ก็เพราะแค่มีครรภ์ก็ตกอยู่ในอันตรายแล้ว เพื่อปกป้องเด็กน้อยในท้อง นางต้องไม่เอาตัวเข้าไปเสี่ยงเซี่ยเชียนฮวันไม่ได้พูดเรื่องไปช่วยอีกนางติดตามเซียวเย่หลันกลับจวนอ๋อง แล้ว
หลังจากที่ได้เห็นฉากพยานแมวในเหตุการณ์กับตาตัวเองแล้ว สุดท้ายฉินจีก็ยอมรับด้วยตัวเองแล้ว นางคุกเข่าต่อหน้าฮ่องเต้ ตัวสั่นเทิ้มสีพระพักตร์ของฮ่องเต้เคร่งขึมดูแล้ว เป็นเหมือนดั่งที่เจ้าห้าพูดจริงๆ ด้วย ฉินจีตั้งใจปล่อยแมวไปทำให้เซี่ยเชียนฮวันตกใจไม่ว่าตอนนี้เขาจะลำเอียงรักและเอ็นดูฉินจีมากเพียงใด เรื่องนี้ข้องเกี่ยวกับลูกหลานของราชวงศ์ ไม่สามารถทำตัวเอาหูไปนาเอาตาไปไร่ได้เหมือนเรื่องที่พวกนางสนมทั้งหลายแก่งแย่งความรักกัน เซียวเย่หลันเดินออกมา จ้องไปที่ฉินจีอย่างเย็นชา “ขอเสด็จพ่อลงโทษอย่างสาหัสด้วยพ่ะย่ะค่ะ”“ถ่ายทอดคำสั่ง ลำดับศักดิ์ของฉินจีลดขั้นลงเหลือเพียงไฉหนี่ว์ ถูกกักบริเวณในหอหลิวอินเป็นเวลาสามวัน ห้ามออกจากประตู”ฮ่องเต้กุมขมับ ไม่ได้มองไปทางฉินจีที่มีท่าทีน่าสงสารอีกทั้งลดลำดับศักดิ์ ทั้งถูกกักบริเวณ ถือว่าเป็นการให้เกียรติเซียวเย่หลันกับเซี่ยเชียนฮวันมากแล้ว เซี่ยเชียนฮวันยิ้มตาหยี “ขอบพระทัยเสด็จพ่อที่ทรงให้ความยุติธรรมเพคะ”จากนั้น นางก็หันไปทางเซียวจ้าน ในดวงตาเรียวเล็กมีประกายแสงแสดงถึงความจริงจัง “และต้องขอบคุณน้องห้าด้วยที่พูดผดุงความยุติธรรมแก่ข้า”“น้
“ฝ่าบาท พระชายาจ้านอ๋องคงไม่ได้มีปัญหาที่ตรงนี้หรอกนะเพคะ”ฉินจีชี้ไปที่หัวของตัวเองฮ่องเต้โบกพระหัตถ์ “เอาล่ะ อย่าได้พูดเช่นนี้เลย”ฮ่องเต้ไม่ได้เอาความกับคำพูดส่งเดชของฉินจีอย่างไรเสีย การพูดตรงๆ เป็นเอกลักษณ์เฉพาะตัวของฉินจี ก็เหมือนหมิงเฟยอย่างนั้นหากไม่ใช่เพราะชอบนิสัยเช่นนี้ของนาง ฮ่องเต้ก็คงไม่ลำเอียงชอบนางมากกว่าทว่า ฮ่องเต้เองก็รู้สึกว่าเซี่ยเชียนฮวันราวกับว่าสมองถูกกระทบกระเทือน กลับมาตั้งคำถามกับแมวอย่างเอาจริงเอาจัง ไม่รู้ว่านางจะมาไม้ไหนอีก“หากแมวตัวนั้นตอบคำถามของพระชายาจ้านอ๋องจริงๆ หม่อมฉันยอมรับโทษเพคะ” ฉินจีหัวเราะเยาะเย้ยเบาๆ“เจ้าเป็นคนพูดเองนะ” เซี่ยเชียนฮวันนั่งปัดมืออยู่ที่พื้น “เอาล่ะ เป็นแมวที่สัตย์ซื่อหน่อยซิ”“เหมียว เหมียว เหมียว?” เจ้าแมวขาวเอียงหัวเล็กน้อยเซียวเย่หลันเองก็ทนดูไม่ค่อยไหวแล้ว อยากจะลากตัวนางออกไปทันใดนั้น ขณะที่ทุกคนกำลังคิดว่าเซี่ยเชียนฮวันกำลังก่อเรื่องนั้น เจ้าแมวขาวกลับยื่นอุ้งมือออกมา!มันทำเหมือนที่เซี่ยเชียนฮวันพูดจริงๆ ด้วย ข่วนไปที่หยกห้อยเอวที่อยู่ด้านขวาผู้คนต่างสีหน้าเปลี่ยนสี“เป็นไปไม่ได้!” ฉินจีโพล่งออก
“ฝ่าบาททรงรอบรู้ หม่อมฉันเพียงแต่พูดความจริงเท่านั้น”ฉินจีหลุบตาลงฮ่องเต้มองไปที่เซียวจ้านแล้วพูดว่า “เจ้าห้า เจ้าเป็นคนมีมารยาทดีมาโดยตลอด ทำไมวันนี้ต้องมีปัญหากับฉินเออร์ด้วย”“ทูลเสด็จพ่อ ลูกไม่ได้ตั้งใจจะมุ่งเป้าไปที่ผู้ใด เพียงแต่เห็นฉินเจี๋ยอวี๋กับพระชายาจ้านอ๋องโต้เถียงกัน จากนั้นพระชายาจ้านอ๋องเกือบจะล้ม ซึ่งเลี่ยงไม่ได้ที่คนจะรู้สึกสงสัย”เซียวจ้านประกบมือคำนับแล้วกล่าวขึ้นในเวลานี้ ในที่สุดเซียวเย่หลันก็เอ่ยปากถามเซี่ยเชียนฮวันที่ยืนอยู่ข้างๆ ด้วยเสียงแผ่วเบาว่า “ล้มหรือเปล่า”“ไม่เป็นไร ไม่ตายหรอก”เซี่ยเชียนฮวันตอบอย่างไม่สบอารมณ์เซียวเย่หลันพูดไม่ออกสตรีที่ดูอ่อนแอกันคนภายนอกแต่กับคนในบ้านกลับหยาบคายใส่คนนี้นี่เขากำลังแสดงความเป็นห่วงนางชัดๆ แต่กลับพูดจายอกย้อนกับเขา“ฉินเอ๋อเพิ่งเข้าวังไม่เข้าใจกฎเกณฑ์ หากมีตรงไหนล่วงเกินสะใภ้เจ็ด พวกเจ้าก็แค่ให้อภัยก็จบแล้ว ไม่จำเป็นต้องทำให้ตึงเครียดขนาดนี้”ฮ่องเต้พูดเช่นนี้ เห็นได้ชัดว่าต้องการให้เรื่องนี้สงบลง ไม่ถือสาหาความผิดของฉินจีอย่างไรก็ตาม พอได้ยินเช่นนี้ฉินจีกลับตกใจเล็กน้อยเดิมทีนางคิดว่าฮ่องเต้จะไม่เพียงแต่ปกป้องนา