“เย่ซิ่น เจ้าอยู่ช่วย”เซียวเย่หลันสีหน้าอึมครึม เขาอดไม่ได้ที่จะคว้าตัวเซี่ยเชียนฮวัน และดึงนางออกจากโรงหมอเซี่ยเชียนฮวันไม่คิดว่าเขาจะกล้าทําต่อหน้าทุกคน“เดี๋ยวก่อน ปล่อยข้านะ เซียวเย่หลัน ท่านจะพาข้าไปไหน?”นางพยายามสะบัดหนีฝูงชนทั้งสองฝั่งเฝ้าดูเหตุการณ์อย่างเงียบๆ และหลีกทางอย่างรู้ตัว ไม่มีใครกล้าหยุดพวกเขานี่คือจ้านอ๋องเซียวเย่หลันพวกเขาอาจพึ่งพาจำนวนคน เพื่อช่วยเซี่ยเชียนฮวันออกจากท่านหญิงหยวนหลี่ได้ แต่พวกเขาไม่กล้าต่อต้านจ้านอ๋อง!เซียวเย่หลันหันศีรษะกลับมา และตอบอย่างไม่พอใจ “ข้ายังจะพาเจ้าไปที่ไหนได้อีกล่ะ? กลับบ้าน!”“บ้าน?”สิ่งแรกที่เซี่ยเชียนฮวันนึกถึงคือจวนอันติ้งโหวแต่ไม่นานนัก นางก็เข้าใจว่าเซียวเย่หลันหมายถึงจวนจ้านอ๋อง ไม่ใช่บ้านแม่ของนางหรือว่า เขายอมรับนางเป็นคนในครอบครัวของเขาแล้ว...เซี่ยเชียนฮวันเกิดความลังเลในใจในช่วงเวลาดังกล่าว เซียวเย่หลันก็ฉวยโอกาสลากนางออกจากโรงหมอ ใช้กำลังบังคับนางให้เข้าไปในรถม้าเหมือนฉุดสาวชาวบ้านก็ไม่ปาน“เฮ้อ พระชายาช่างน่าสงสารจริงๆ ต้องมาแต่งกับเทพหน้าดำเช่นนี้!”“ก็นั่นนะสิ อันที่จริงแล้วพระชายาทั้งงดงาม ท
“นั่นไม่จำเป็นเลย ถึงแม้ท่านอ๋องจะโกรธ แต่ก็ไม่จำเป็นต้องเสี่ยงต่อสุขภาพของตัวเองเช่นนี้”เซี่ยเชียนฮวันหดตัวเขยิบเข้าไปใกล้มุมรถอย่างเงียบๆเซียวเย่หลันร้องหึอย่างเย็นชา “ไม่ใช่ว่าเจ้ายุ่งมากในโรงหมอหรือไร ไม่เห็นเจ้าจะนึกถึงร่างกายของตัวเองบ้างเลย?”“ท่านอ๋องคงไม่ได้เป็นห่วงข้า...”“ไม่ใช่!”“อื้อๆ สตรีที่ชั่วร้ายเจ้าคิดเจ้าแค้นอย่างข้า ไม่คุ้มค่าให้ท่านอ๋องต้องกังวลหรอก มีเพียงอาการไข้เย็นของแม่นางซูเท่านั้นถึงจะคู่ควรให้ท่านอ๋องสนใจ”เซี่ยเชียนฮวันหัวเราะแหะๆ ตัดสินใจว่าจะไม่จริงจังกับผู้ชายคนนี้ นางเริ่มปล่อยไปตามยถากรรม.เซียวเย่หลันเหลือบมองนางแวบหนึ่ง และกล่าวเสียงอึมครึมว่า “พูดแบบนี้ แสดงว่าเจ้าใกล้จะหายดีแล้วกระมัง”“ต้องขอบคุณพรของท่านอ๋อง”เซี่ยเชียนฮวันเริ่มหาวในเมื่อไม่สามารถหลบหนีไปจากเงื้อมมือของเซียวเย่หลันได้ นางจึงเอนตัวพิงที่มุมรถ จากนั้นก็เริ่มงีบหลับพักผ่อนเซียวเย่หลันมองนาง แล้วพึมพำเสียงเบาว่า “เจ้าอยากเผชิญหน้ากับคนป่วย มากกว่ากลับมาพบข้า”……ตกดึกหอหลันเซียงมืดมิดไร้แสงสว่างสถานที่ที่ห่างไกล หากไม่มียามคอยลาดตระเวน หรือเซี่ยเชียนฮวันกับสาวใ
ฝีเท้านี้ ไม่เหมือนเซี่ยเชียนฮวัน ไม่เหมือนเสี่ยวตง แต่ดูคล้ายผู้ชายหรือว่าเป็นท่านอ๋อง?!ซูอวี้เออร์ตื่นตระหนกมากยิ่งขึ้น ดวงตาของนางได้รับบาดเจ็บ และห้องนี้ก็มืดมิดไร้แสงไฟ ทำให้หาทางออกอื่นไม่ได้นางไม่มีทางเลือก จึงทำได้เพียงมุดเข้าไปที่ใต้เตียง และพยายามกลั้นหายใจรอจนกระทั่งประตูถูกผลัก ซูอวี้เออร์ก็ได้ยินเสียงของผู้ชาย ในใจก็พลันตื่นตกใจ ท่านอ๋องจริงๆ ด้วยวรยุทธ์ของเซียวเย่หลันสูงมาก ประสาทการได้ยินก็เหนือกว่าคนทั่วไปหลายเท่าดังนั้น ซูอวี้เออร์จึงไม่กล้าแม้แต่จะหายใจทางจมูก ทําได้เพียงอ้าปากเบาๆ สูดหายใจเข้า แล้วพ่นออกอย่างเงียบๆ นางรู้สึกอึดอัดใจ และหดหู่อย่างบอกไม่ถูกแต่ไม่ว่านางจะอึดอัดมากแค่ไหนก็ไม่สามารถปล่อยให้เซียวเย่หลันพบว่าตัวเองแอบเข้ามาในเรือนของเซี่ยเชียนฮวันยามวิกาล“อื้อ…”เมื่อเซียวเย่หลันวางเซี่ยเชียนฮวันลงบนเตียง เซี่ยเชียนฮวันก็สะลืมสะลือตื่นขึ้นมานางเผลอหลับไปในรถม้า และเป็นเซียวเย่หลันที่อุ้มนางลงมา ทั้งยังอุ้มมาส่งถึงหอหลันเซียง“รอก่อน”เซี่ยเชียนฮวันพบว่าชายคนนี้กำลังถอดเสื้อผ้าให้นาง ก็พลันได้สติกลับคืนมา และตระหนักได้ว่าตัวเองไม่ได้ฝันอ
ซูอวี้เออร์คิดแล้วก็ไม่เข้าใจเซี่ยเชียนฮวันกล้าดีอย่างไรให้ท่านอ๋องไปเอาน้ำร้อนมาให้ แถมยังให้ช่วยเช็ดตัวอีก!นี่ไม่เท่ากับว่าทำเหมือนท่านอ๋องเป็นข้ารับใช้หรอกหรือ?หากนางป่วยแล้วทำเช่นนั้นบ้างล่ะ ตามกฎแล้ว นางคงถูกลากออกไปโบยด้วยไม้กระดาน!ซูอวี้เออร์มักแสดงท่าทีอ่อนโยนกับเซียวเย่หลัน ประพฤติตัวเหมือนเป็นภรรยาที่ดี แน่นอนว่าคงไม่กล้าร้องขอเช่นนั้น แม้ว่าเซียวเย่หลันจะดูแลนางแต่คงไม่มีทางเห็นด้วย และคงเรียกสาวใช้มาทำแทนเท่านั้นชั่วขณะหนึ่ง อารมณ์ของซูอวี้เออร์ก็ซับซ้อนขึ้นมา นางรู้สึกไม่พอใจเป็นอย่างมากนางรู้สึกอิจฉา และอยากจะออกไปฆ่าเซี่ยเชียนฮวันด้วยมือตัวเองหากไม่ใช่เพราะเสียงฝีเท้าของเซียวเย่หลันดังขึ้น บางทีซูอวี้เออร์อาจจะถูกเพลิงริษยาบั่นทอนสติปัญญา แล้วออกไปทำมันจริงๆ “นอนดีดี”เซียวเย่หลันวางอ่างล้างหน้าที่เต็มไปด้วยน้ำร้อนลงบนเก้าอี้ตัวเล็กด้วยสีหน้าไร้อารมณ์ ก่อนจะถอดเสื้อให้เซี่ยเชียนฮวัน เขาครุ่นคิดอยู่ครู่หนึ่ง แล้วถอดปิ่นปักผมของนางออกก่อน แก้มวยผมของนาง และปล่อยให้เส้นผมสีดำสนิทร่วงหล่นลงมาเหมือนธารน้ำตก มันตกลงบนผิวขาวผ่องดุจหิมะ ดึงความละเอียดอ่อนของสต
แม้ว่าร่างกายของนางจะปกคลุมไปด้วยจุดเลือดสีดำดูน่าสยองขวัญ แต่ยามที่เซียวเย่หลันสัมผัสผิวของนาง กลับให้ความรู้สึกเหมือนกำลังสัมผัสกับเครื่องเคลือบหยกที่ละเอียดอ่อน เปราะบางและสวยงามเขาคิดว่าคนที่เขารักมากที่สุดควรจะเป็นซูอวี้เออร์แต่ยามที่เขาโอบกอดซูอวี้เออร์ กลับไม่เคยรู้สึกเช่นนี้มาก่อน เขากระทั่งทำอย่างลวกๆ เพราะแค่อยากยุติการสัมผัสทางกายโดยเร็วที่สุดแต่ทำไม มีเพียงผู้หญิงคนนี้เท่านั้นที่ให้ความรู้สึกที่แตกต่าง“อย่าขยับ” เซี่ยเชียนฮวันหันหน้าเล็กน้อย แล้วสบตากับเขา “ข้าบอกให้ท่านขยับมือไปที่ใด ท่านก็ขยับมือไปที่นั้นสิ”“ตกลง”เซียวเย่หลันเห็นด้วยทันทีดังนั้น เซี่ยเชียนฮวันจึงนอนบนเตียง และชี้นิ้วสั่งอย่างเกียจคร้าน “ขยับไปทางซ้าย...ใช่ ออกแรงอีกนิด ขยับไปอีกหน่อย...อย่าบีบตรงนี้แรง!ถ้าผิวปริขึ้นมาจะมีเลือดออกได้”เซียวเย่หลันพูดไม่ออกก แต่ก็แสดงความอดทนที่หาได้ยากเช่นกัน เขาทำตามคำสั่งของเซี่ยเชียนฮวันด้วยการช่วยนางเช็ดตัวอย่างช้าช้าซูอวี้เออร์ที่ซ่อนตัวอยู่ใต้เตียงเมื่อได้ยินคำพูดเหล่านั้นลอยเข้าหู ก็รู้สึกเหมือนหัวใจถูกมีดกรีดท่านอ๋อง พระองค์คือเทพสงครามผู้มีเกียร
“ท่านชอบความสะอาดหรือไม่ แล้วมันเกี่ยวอะไรกับข้า...เอ๊ะ!ยังไม่รีบเอากรงเล็บของท่านออกไปอีก”บางทีอาจจะเป็นเพราะอาการป่วย เวลาที่เซี่ยเชียนฮวันพูดจึงมีน้ำเสียงขึ้นจมูก ทำให้ฟังดูกระเง้ากระงอดขึ้นเล็กน้อย ไม่ได้ดูเหมือนสถบเลยหลังจากที่เซียวเย่หลันจับข้อเท้าของนาง อีกทั้งร่างกายก็ถูกชายหนุ่มพลิกคว่ำ จากนี้ก็ขึ้นอยู่กับความเมตตาของเขาแล้วเซี่ยเชียนฮวันกัดริมฝีปากอย่างไม่ยอมแพ้ นางดิ้นรนแล้วกล่าวว่า “ข้าได้ยินมาว่าแม่นางซูผู้นั้นอาบน้ำด้วยกลีบดอกไม้สิบชนิดทุกวัน ร่างกายสะอาดเอี่ยมอ่องตั้งแต่หัวจรดเท้า มีกลิ่นหอมจรุงใจ ทำไมท่านถึงไม่ไปหานางเล่า?”ได้ยินเซี่ยเชียนฮวันกล่าวถึงตัวเอง ซูอวี้เออร์ซึ่งซ่อนตัวอยู่ใต้เตียงก็พลันตัวสั่นหูผึ่งขึ้นมา และอดไม่ได้ที่จะพยักหน้าเห็นด้วยแต่คาดไม่ถึงว่า เซียวเย่หลันจะตอบกลับเสียงนิ่งว่า “การอาบน้ำด้วยกลีบดอกไม้ไม่จำเป็นว่ากลิ่นหอมของดอกไม้จะติดตัวไปด้วย อย่างน้อยข้าก็ไม่เคยได้กลิ่น วิธีการอาบน้ำที่ฟุ่มเฟือยและยุ่งยากนี้เป็นแค่ความปรารถนาส่วนตัวของพวกผู้หญิง มันไร้ประโยชน์ในความเป็นจริง”“คิดได้สมกับเป็นชายแท้จริงๆ”เซี่ยเชียนฮวันพึมพำทันใดนั้นนาง
มือของเซี่ยเชียนฮวันที่ถือหวีไม้แข็งทื่อเล็กน้อยซูอวี้เออร์เกิดเรื่อง แล้วเกี่ยวอะไรกับนาง?นางอดไม่ได้ที่จะมองไปที่กล่องยาหลายกล่องตรงมุมห้อง ตอนนี้นางรู้สึกกังวลเล็กน้อย และมักจะรู้สึกว่าตําแหน่งของกล่องยาเปลี่ยนไปเล็กน้อย? เซี่ยเชียนฮวันขมวดคิ้ว แต่มิกล่าวอันใด นางเก็บข้าวของสักพัก จากนั้นก็ตามอวิ๋นซีกับเซียวเย่หลัน ไปยังเรือนจิ่นซิ่วเมื่อเห็นสภาพของซูอวี้เออร์ แม้แต่เซี่ยเชียนฮวันก็อดไม่ได้ที่จะผงะตาข้างซ้ายของซูอวี้เออร์ทั้งบวมทั้งน่าเกลียด ตาขาวแดงก่ำเหมือนสีเลือด ทั้งยังมีเลือดปกคลุม และมีหนองที่น่าขยะแขยงไหลออกมาจากรอบดวงตา“อวี้เออร์ไม่อยากให้ท่านอ๋องเห็นสภาพที่น่าเกลียดของตัวเองเช่นนี้ แต่ แต่ถ้าไม่ให้ท่านอ๋องเห็น ท่านจะไม่รู้ว่าเกิดเรื่องเลวร้ายอะไรกับข้า”ซูอวี้เออร์ร่ำไห้ และปิดตาตัวเองใหม่อีกครั้งเซียวเย่หลันถามด้วยสีหน้าเย็นชา “มันเป็นแบบนี้ไปได้อย่างไร?”“เรียนท่านอ๋อง เมื่อคืนวานหลังจากที่ข้าอาบน้ำเสร็จ และเตรียมจะเข้านอน คาดไม่ถึงว่าเพิ่งจะขึ้นเตียงไปก็เห็นแมงมุมตัวใหญ่เกาะบนผ้าม่าน!”“มันพ่นพิษใส่ข้า และกระเด็นเข้าตาข้า ทำให้ข้ารู้สึกเจ็บปวดมาก จนนอนไม่ห
ซูอวี้เออร์ตะลึงงันนางไม่เคยนึกถึงคำถามนี้มาก่อนจริงๆแต่ปฏิกิริยาตอบสนองของนางก็เร็วมาก นางหันไปดุสาวใช้ตัวเองว่า “อวิ๋นซี ก็เหมือนที่พระชายาทรงกล่าว แมงมุมบนเตียงข้าอาจจะคลานมาจากข้างนอกก็ได้ ไม่จำเป็นต้องเป็นแมงมุมแม่ม่ายดำในกล่องของพระชายา เจ้ามิควรใส่ร้ายพระชายาเช่นนั้น”อวิ๋นซีหน้ามุ่ย “แต่จะมีเรื่องบังเอิญเช่นนี้ในโลกได้อย่างไร? พระชายาให้คนไปจับแมงมุมพิษกลับมา จากนั้นนายหญิงก็ถูกแมงมุมทำร้าย ต้องมึคนจงใจเล่นงานท่าน เพื่อแก้แค้น”“ก็ไม่อาจกล่าวได้ว่าเกี่ยวข้องกับพระชายา”ซูอวี้เออร์ทอดถอนใจนางกับอวิ๋นซี คนหนึ่งร้อง คนหนึ่งรับ แต่ทั้งหมดนั้นล้วนชี้นิ้วมาที่เซี่ยเชียนฮวันเซี่ยเชียนฮวันดูการแสดงของทั้งสองคนอย่างเฉยเมย “แล้วแมงมุมตัวนั้นล่ะ? พูดปากเปล่ามิได้ พวกเจ้าควรจะนำออกมาเปรียบเทียบ”“พิษนั่นน่ากลัวจริงๆ หลังจากที่เราจับมันได้เมื่อคืนก็รีบฆ่าและเผามัน แต่ท่านอ๋องสามารถเชิญหมอจากด้านนอกมาดูได้ ว่าเป็นพิษของแมงมุมแม่ม่ายดำหรือไม่ แค่ดูก็คงทราบแล้ว”อวิ๋นซีพูดเมื่อคืนซูอวี้เออร์กลั้นหายใจและแอบคลานออกจากห้อง นางรู้ว่าแค่การเคลื่อนไหวเพียงเล็กน้อยก็จะถูกเซียวเย่หลันส