กาฬโรคทำให้ความจำเสื่อมด้วยหรือ? นางไม่เคยได้ยินมาก่อนแต่ถึงอย่างไรเมื่อเห็นเซี่ยเชียนฮวันเป็นเช่นนี้ ซูอวี้เออร์ก็รู้สึกชื่นชอบสะใจ นางใช้ผ้าเช็ดหน้าขึ้นปิดจมูก ยืนอยู่ข้างเตียงก้มลงมาเล็กน้อย หรี่ตาลงยิ้มว้า "ท่านพี่ บัดนี้ช่างโชคดีเหลือเกิน แม้แต่ท่านอ๋องก็ยังเป็นห่วง”ท่านอ๋อง...ใบหน้าของชายคนหนึ่งปรากฏขึ้นในใจของเซี่ยเชียนฮวันหล่อเหลา ป่าเถื่อน แม้ใบหน้าจะงดงามไร้ที่ติ แต่ดวงตาคู่นั้นทำรู้สึกสั่นสะท้าน"ท่านอ๋องบอกว่า หากท่านพี่ยังไม่ตื่นมาในเวลาค่ำ ก็จะไปเชิญท่านหญิงหยวนหลี่มาช่วยรักษา แต่ยาของท่านหญิงใช่ว่าจะได้ผลกับทุกคน แม้หยวนหลี่จะเดินทางมารักษาเอง ก็ใช่ว่าจะสามารถรักษาให้หายได้"แววตาของซูอวี้เออร์ดูชั่วร้าย นางกวาดมองตั้งแต่ใบหน้าของเซี่ยเชียนฮวันไปจนถึงเท้า ท้ายที่สุดแล้วจับจ้องมายังท้องของนางเสียงหัวเราะอันโหดร้ายแหลมคมดังขึ้นอีกครั้ง "แต่ท่านพี่ช่างโชคดีเหลือเกินที่ไม่ป่วยตาย ทว่าลูกในท้องเกรงว่าจะไม่อาจรักษาไว้ได้"ลูก...เซี่ยเชียนฮวันก้มลงมองไปที่ท้องของตนในที่สุดนางก็นึกเรื่องทั้งหมดขึ้นมาได้เซียวเย่หลัน ซูอวี้เออร์ และลูกน้อยที่ยังไม่ลืมตามาดูโ
"เหนียงเหนียงเพคะ คำพูดของคนเหล่านั้นเมื่อครู่อย่าได้ใส่ใจไป พวกเขาเอ่ยวาจาไร้สาระ เป็นเพียงเรื่องโกหก"เสี่ยวตงเห็นสีหน้าของเซี่ยเชียนฮวันดูไม่มีความสุขนักจึงได้เอ่ยปลอบเซี่ยเชียนฮวันส่ายหน้า "ต่อให้เซียวเย่หลันกลับมาก็ช่วยข้าไม่ได้หรอก ไม่ว่าเขาจะอยู่หรือไม่ก็มีค่าเท่ากัน""แท้จริงตั้งแต่ท่านอ๋องกลับมาถึงจวนก็อยู่ข้างกายท่านตลอดเวลา จนกระทั่งตอนบ่ายถูกเรียกเข้าไปในราชสำนัก เขาจึงต้องจากไป" เสี่ยวตงอธิบายแทนเซียวเย่หลันเซี่ยเชียนฮวันดูท่าทีสงบนิ่ง "เสี่ยวตง เจ้าไม่จำเป็นต้องพูดแทนเขาหรอก ข้าคิดว่าการที่เขาจากไปคงเพราะเห็นสภาพอันน่าเกลียดของข้าเช่นนี้ จึงไม่อาจรับได้""เหนียงเหนียงเพคะ...""ไปเอาหนูตัวนั้นออกมา"เสี่ยวตงก็ไม่รู้จะทำเช่นไร จึงได้เพียงทำตามที่เซี่ยเชียนฮวันบอก ไปเอากล่องที่ใส่หนูและกรงที่เตรียมพร้อมไว้ล่วงหน้ามาวางบนโต๊ะถึงอย่างไรเซี่ยเชียนฮวันก็ติดโรคไปแล้ว ดังนั้นจึงไม่จำเป็นต้องกลัวสิ่งใดอีก นางเอื้อมมือเข้าไปจับหนูที่ติดเชื้อด้วยมือเปล่าแล้วเอาไปไว้ในกรงเสี่ยวตงที่ยืนมองอยู่ด้านข้างรู้สึกสะอิดสะเอียน แต่ขณะเดียวกันก็นับถือนาง "เหนียงเหนียงช่างใจกล้าเสียจ
"ท่านอ๋องเพคะ ข้าได้ยินว่าท่านพี่ฟื้นแล้วและกำลังคิดหาวิธีปรุงยารักษาโรคระบาดนี้ จึงได้ไปต้มยาโสมแดงมาให้นางบำรุงร่างกาย"ผู้ที่เดินเข้ามาใกล้ๆ คือซูอวี้เออร์นั่นเองเมื่อเซียวเย่หลันเห็นนาง ความระมัดระวังก็ผ่อนคลายลง เขาพยักหน้ากล่าวว่า "ขอบใจเจ้ามาก""โสมแดงสามารถกระตุ้นการไหลเวียนของเลือดได้ แม่นางซูเกรงว่าพิษในเลือดของข้าจะกระจายตัวได้ไม่เร็วพอสินะ จึงได้ใช้โสมแดงมาต้มให้ข้า ความหวังดีของเจ้านี้ข้าไม่อาจรับไว้ได้ เจ้าเก็บยาบำรุงเจ้ากลับไปเถิด"ภายในห้อง เสียงของเซี่ยเชียนฮวันดังขึ้นซูอวี้เออร์เม้มริมฝีปาก มองไปทางเซียวเย่หลันด้วยท่าทีน่าสงสาร "ต้องโทษข้าที่ไม่มีความรู้เรื่องยา จึงทำให้ท่านพี่เข้าใจผิดไป" "เจ้าไม่ผิดหรอก" เซียวเย่หลันรีบปลอบโยนซูอวี้เออร์ จากนั้นเขาก็พูดกับผู้ที่อยู่ในห้องด้วยน้ำเสียงเย็นชาว่า “เซี่ยเชียนฮวัน ไม่ใช่ทุกคนที่เก่งด้านการแพทย์เช่นเจ้า เหตุใดเจ้าจึงไม่รับรู้ถึงความหวังดีของผู้อื่นเล่า""หากพวกเจ้าหวังดีต่อข้าจริง ได้โปรดอย่าเข้ามารบกวน"เซี่ยเชียนฮวันพิงอยู่ที่ด้านหลังประตู นางเงยหน้าขึ้นเล็กน้อยหายใจเหนื่อยหอบขณะที่เซียวเย่หลันขมวดคิ้วเข
มือสังหารที่ถืออาวุธมีคมกำลังจะบุกเข้าไปในห้องทันใดนั้นเอง เสียงเซี่ยเชียนฮวันก็ดังขึ้นจากด้านใน"หากไม่กลัวติดกาฬโรคก็เข้ามาเถิด เพียงแค่เปื้อนเลือดของข้าสักนิดเดียว พวกเจ้าก็จะตายอย่างเจ็บปวดและโหดร้าย"ประโยคเรียบง่ายเพียงประโยคหนึ่ง หยุดฝีเท้าการโจมตีของมือสังหารผู้นั้นได้ สีหน้าของพวกเขาดูลังเลทุกคนรู้ดีว่าสภาพผู้เสียชีวิตจากกาฬโรคน่าสยดสยองเพียงใด มีจุดดำปรากฏทั่วร่างกายเป็นจุดเลือด ก่อนจะตายก็เจ็บปวดอย่างไร้คำบรรยายพวกเขามองหน้ากัน ใครคนหนึ่งออกคำสั่งว่า "จุดไฟเผา!"มือสังหารทุกคนหยิบตะบันไฟออกมาเซียวเย่หลันเห็นดังนั้นก็โมโหยิ่งนัก เขาพูดอย่างเย็นชาว่า "กล้าจุดไฟเผาในจวนจ้านอ๋องของข้า พวกเจ้าคงไม่อยากมีชีวิตอยู่ต่อแล้วสินะ"กล่าวจบ เขาก็กระโดดออกมาใช้มีดฟันหัวหน้ามือสังหารที่ออกคำสั่ง!บัดนี้เขาไม่มีกระจิตกระใจเข้าไปปกป้องซูอวี้เออร์อีกแล้ว แววตาเต็มไปด้วยความโมโหและอาฆาต ดาบในมือของเขายกขึ้นตัดศีรษะผู้บุกรุกทีละคน ในลานมีเลือดนองตะบันไฟที่ตั้งใจจะจุดเผาห้อง บัดนี้ก็ตกลงไปในสายธารแห่งโลหิต"กรี๊ด!" ซูอวี้เออร์เห็นว่าผู้บุกรุกหายไปกว่าครึ่งเพียงชั่วพริบตา จึงรีบ
“พระชายา สิ่งที่ท่านเขียนไม่ใช่ยา นี่...นี่เป็น...”“ใช่ ข้าต้องการใช้พิษสู้พิษ!”เซี่ยเชียนฮวันพิงวงกบประตูอย่างอ่อนแรง ราวกับจะล้มลงได้ทุกเมื่อ แต่ดวงตาคู่นั้นยังคงสดใส และเปล่งประกายด้วยความมุ่งมั่นเมื่อเห็นแววตาของนาง เสี่ยวตงที่ยังนึกสงสัยในตอนแรกจึงพยักหน้า เลือกเชื่อนางอีกครั้ง“ตกลง บ่าวจะไปจัดการเดี๋ยวนี้!”เสี่ยวตงไม่กล้าชักช้า นางรีบจากไปในทันทีบ่ายซูอวี้เออร์ที่นั่งจิบชาอยู่ในเรือนจิ่นซิ่วก็ทราบข่าวแล้วเช่นกัน“อะไรนะ เซี่ยเชียนฮวันคิดใบสั่งยาขึ้นมาจริงๆ หรือ?” นางตกใจมากเสียเงินจำนวนมากเพื่อเฟ้นหากลุ่มมือสังหารแต่ไม่คาดว่า ก็ไม่อาจขัดขวางเซี่ยเชียนฮวันได้เสียเงินไม่เท่าไหร่ แต่ดันทำให้เซียวเย่หลันเพิ่มแนวป้องกันของทหารรอบหอหลันเซียงช่างได้ไม่คุ้มเสีย!อวิ๋นซีพยักหน้า และอดกล่าวอย่างปลงๆ มิได้ว่า “ทักษะทางแพทย์ของพระชายาร้ายกาจมาก เมื่อจับหนูพิษตัวนั้นได้ นางก็ใช้เวลาวิเคราะห์ข้ามคืนจึงระบุได้ว่ามันเป็นพิษชนิดใด เมื่อครู่เสี่ยวตงเพิ่งจะนำกล่องสมุนไพรกลับมาให้นางปรุงยา ได้ยินมาว่าตอนนี้แม้แต่หนูพิษก็หายขาด และกลายเป็นหนูธรรมดา”เพี๊ยะ!ซูอวี้เออร์พลันบั
“ในอนาคตข้าน้อยจะยอมเป็นวัวเป็นม้าตอบแทนพระชายา”ชายวัยกลางคนโขกหัวไม่หยุดด้วยความจริงใจเมื่อคนรอบข้างเห็นดังนั้น พวกเขาก็พากันทอดถอนใจ และรู้สึกสะเทือนใจมากเซี่ยเชียนฮวันประคองสองพ่อลูกขึ้นมา ยิ้มน้อยๆ แล้วกล่าวว่า “ไม่ต้องสุภาพขนาดนี้ เดิมทีการรักษาคนป่วย ก็คือหน้าที่ของข้า”“แต่ท่านไม่คิดค่ายา นี่ยังถือว่าเป็นหน้าที่หรือไม่?”เด็กหนุ่มพูดจากระอึกกระอักต่อหน้าผู้คนเป็นจำนวนมาก เขาหันไปมองถงซ่านถัง แล้วพูดพึมพำว่า “ท่านหญิงที่อยู่ฝั่งตรงกันข้ามกับพระชายาขายยาแพงมาก นางปฏิเสธที่จะมอบให้เรา โดยบอกว่าสมุนไพรที่ใช้ล้ำค่ามาก และยาของท่านไม่มีทางถูกไปกว่านางอย่างแน่นอน!”เมื่อทุกคนได้ยินสิ่งนี้ พวกเขาก็ถกเถียงกันวุ่นแย่งกันพูดจนฟังไม่ได้ศัพท์“ที่เด็กคนนี้พูดก็สมเหตุสมผลอยู่นะ เหตุใดฮัวเยว่ถังไม่ต้องจ่ายเงินซื้อยา แต่ถงซ่านถังกลับสามารถขายยาในราคาที่แพงมาก?”“เฮ้อ ข้าไม่สามารถซื้อยาของท่านหญิงหยวนหลี่ไหว คุกเข่าขอร้องอยู่สองวัน แต่สุดท้ายก็ถูกไล่ออกมา”“ราคาแพงก็ช่างเถอะ แต่ได้ยินมาว่ามีหลายคนที่ซื้อยาไป หลังจากกลับบ้านไปทานยาก็อาการไม่ดีขึ้นเลย เสียเงินโดยเปล่าประโยชน์!”“ในค
“ขอยืมคําพูดของท่านหญิงเมื่อครู่ ถูกผิดอยู่ที่ใจคน ข้าได้แสดงจุดยืนของข้าไปแล้ว และเจ้าก็เป็นคนเดียวที่ไม่เต็มใจที่จะเปิดเผยสูตรยา ข้าคิดว่าในใจของทุกคนคงรู้เหตุผลว่าทำไม”เซี่ยเชียนฮวันหัวเราะเบาๆ เมื่อเทียบกับท่าทางโมโหของท่านหญิงหยวนหลี่แล้ว เห็นได้ชัดว่านางดูผ่อนคลายมาก เดิมทีท่านหญิงหยวนหลี่คิดจะมาก่อปัญหา แต่ตอนนี้สถานการณ์ของทั้งสองฝ่ายดูเหมือนจะกลับกันโดยสิ้นเชิงคนที่ถูกบีบให้พูดไม่ออก กลับกลายเป็นท่านหญิงหยวนหลี่ ไม่ใช่เซี่ยเชียนฮวันฝูงชนต่างทยอยมารวมตัวกันและเริ่มชี้นิ้วมาที่ท่านหญิงหยวนหลี่“พระชายาจ้านอ๋องคือผู้มีพระคุณช่วยชีวิตพวกเรา เจ้ารีบกลับไปขายยาของเจ้าต่อเถอะ อย่ามาสร้างปัญหาที่นี่!”“เมื่อก่อนข้าคงตาบอดไปแล้วจริงๆ ถึงเชื่อว่าคนประเภทนี้คือเทพธิดาที่ช่วยเหลือผู้คนในยามทุกข์ยาก...”“โชคดีจริงๆ ที่ข้าไม่ได้ซื้อยาของนาง แพงเสียขนาดนั้น แต่กลับใช้ไม่ได้ผล เจ้าแค่จงใจฉ้อโกงเงินของทุกคนตั้งแต่แรก”แม้จะมีผ้าคลุมปิดหน้า แต่ก็สามารถเห็นได้ว่าเวลานี้ท่านหญิงหยวนหลี่อับอายมากเพียงใดไม่กี่วันก่อนหน้านี้ นางยังเป็นเทพธิดาผู้สูงส่ง ที่ผู้คนมากมายล้วนยกย่องชื่นชม แ
“เดิมทีท่านหญิงก็ไม่มีหลักฐานพิสูจน์ว่ายาที่ขายออกไปนั้นถูกคนสับเปลี่ยน อาศัยเพียงลมปากเท่านั้น”เซี่ยเชียนฮวันหัวเราะนางไม่โกรธ ไม่โมโห เพียงกระตุกยิ้มมุมปากอย่างดูแคลน เห็นได้ชัดว่ามั่นใจมากใครก็ตามที่เห็นเหตุการณ์นี้ ล้วนรู้สึกได้ว่าท่านหญิงหยวนหลี่กำลังสร้างปัญหาโดยไร้เหตุผลและเหตุผลก็ยืนอยู่ข้างเซี่ยเชียนฮวัน“ถ่อมาสร้างปัญหาที่ฮัวเยว่ถังโดยไม่มีหลักฐาน ข้าล่ะทนดูต่อไปไม่ไหวแล้ว!”“รีบออกไปซะ! อย่ามาขวางทางทุกคนรับยาช่วยชีวิต!”“กลับไปโรงหมอของท่านซะ!”“หมอใจดำ ถ้าในอนาคตข้าไปที่ถงซ่านถังอีกครั้ง ข้าจะยอมเป็นหลานเจ้า!”ประชาชนโห่ร้องขึ้นมา และขับไล่ท่านหญิงหยวนหลี่แม้ท่านหญิงหยวนหลี่จะไม่ใช่สายเลือดของราชวงศ์ที่แท้จริง และเป็นเพียงบุตรบุญธรรมของเชื้อพระวงศ์ ทว่าแต่ไหนแต่ไรมานางไม่เคยต้องรับความอัปยศเช่นนี้มาก่อน!นางจ้องมองเซี่ยเชียนฮวันด้วยความเกลียดชัง กัดฟันพูดทีละคำว่า “รอก่อนเถอะ ข้าจะหาหลักฐานมาได้อย่างแน่นอน”พูดจบ นางก็สะบัดชายเสื้อหมุนตัวเดินจากไปเซี่ยเชียนฮวันมองตามแผ่นหลังของสตรีชุดขาว ยิ้มเย็นแล้วกล่าวว่า “เช่นนั้นข้าจะรอดู ไม่แน่ว่าข้าอาจจะหาหลักฐานเ