แต่เซี่ยเชียนฮวันคิดไม่ถึงว่าหลังจากที่นางพูดเหยียดซูอวี้เออร์ไป เซียวเย่หลันกลับไม่ได้แสดงความโกรธมากขึ้นกว่าเดิมสายตาเย็นชาของเขามองไปที่นิ้วเรียวของนางที่มีผ้าสีขาวพันไว้อย่างไม่ใส่ใจ "นั่นเกิดอะไรขึ้นล่ะ"เซี่ยเชียนฮวันก้มหน้าลงไปดูนี่คือแผลที่ได้จากตอนที่นางใช้เศษก้อนหินกรีดนิ้วเพื่อเขียนใบสั่งยาตอนอยู่ในห้องเก็บฟืนเนื่องจากตอนออกจากห้องเก็บฟืน ร่างกายของนางอ่อนแอเกินไป นางเลยยังไม่ได้รักษาแผลที่นิ้วให้ดีๆ ตอนนี้นิ้วพวกนี้ถูกพันไว้ทั้งบวมทั้งยุ่งเหยิง ดูไม่ได้เลยจริงๆ"โดนลวกตอนดื่มชาเท่านั้น" เซี่ยเชียนฮวันพูดเสียงเรียบเฉยนางค่อยๆ ดึงแขนเสื้อมาปกปิดมือขวาเอาไว้ ไม่อยากให้ชายหนุ่มเห็น"งั้นเหรอ" เซียวเย่หลันไม่ใส่ใจแผลของนาง แล้วก็ขี้เกียจจะยุ่งเกี่ยวกับนางอีก เขาสะบัดผ้าหมุนตัวเดินออกไป "จำที่ข้าพูดวันนี้เอาไว้ให้ดี"เมื่อพูดจบ เขาก็เดินไปถึงหน้าธรณีประตู กำลังจะยกขาข้ามไป จู่ๆ ก็หยุดชะงักหันก่อนเหลือบตามามอง"อีกอย่าง ไม่ว่าเจ้าจะอิจฉาสักเพียงไหนก็อย่าได้ไปหาเรื่องอวี้เออร์ นางไม่เหมือนเจ้า"เมื่อพูดประโยคนี้จบ เซียวเย่หลันก็เดินก้าวขายาวๆ ออกไปทันที!ใบหน้าของเ
"พระชายาโปรดวางพระทัย บ่าวจะทำงานให้ดีเพคะ"ชิงถีพยายามอดกลั้นความดีใจอย่างบ้าคลั่งภายใน แสร้งทำตัวเรียบร้อยมีมารยาทก่อนจะรับพัดต่อมาจากมือของแม่เฒ่าจางแม่เฒ่าจางก็ยินดีที่จะได้ไปพักสักหน่อย หันไปทำความเคารพเซี่ยเชียนฮวัน จากนั้นก็ไปนั่งพักด้านหนึ่ง ในเมื่อเด็กคนนั้นเป็นคนข้างกายของพระชายา นางก็ย่อมไม่คิดสงสัยอะไรเซี่ยเชียนฮวันจ้องไปที่หม้อยา พูดขึ้นเสียงเรียบว่า "ถึงอย่างไรเย่ซิ่นคนนั้นก็ต้องทนทุกข์ทรมานหนักก็เพราะข้า ข้าควรจะอยู่ต้มยาให้เขาด้วยตัวเองดีไหมนะ..."ชิงถีเมื่อได้ยินก็รีบร้อนพูดห้ามไว้ทันที "นายท่านไม่ได้เด็ดขาดนะเจ้าคะ ท่านร่างกายสูงศักดิ์ จะมาต้มยาให้องค์รักษ์คนหนึ่งด้วยตัวเองได้อย่างไร งานหยาบๆ แบบนี้ให้พวกบ่าวทำก็ได้แล้ว ที่ท่านสั่งให้บ่าวมาช่วยงานที่นี่ก็นับว่ามีน้ำใจแล้วเจ้าค่ะ""ใช่แล้วพระชายา สีหน้าท่านไม่ค่อยดี กลับไปพักก่อนเถิดเพคะ" แม่เฒ่าจางก็ช่วยพูดห้ามด้วย"ก็ได้ เช่นนั้นพวกเจ้าก็ระวังหน่อยแล้วกัน ต้มยาเสร็จแล้วก็รีบเอาไปส่งให้เย่ซิ่นซะ"เซี่ยเชียนฮวันพยักหน้า ไม่พยายามยื้ออยู่ต่อไปสองชั่วโมงผ่านไปกลางดึก คนในตำหนักเล็กเริ่มน้อยลงเรื่อยๆ แม่เฒ่าจ
เซี่ยเชียนฮวันเดินเข้ามาอย่างช้าๆ ด้วยสีหน้าเย็นชา "ใครเป็นคนสั่งให้เจ้าทำเช่นนี้""พระชายา ท่านลืมแล้วหรือ ก็ท่านเป็นคนสั่งให้บ่าวมาช่วยงานที่นี่เองนะเจ้าคะ..." ชิงถีก้มหน้างุด ตัวสั่นไปทั้งตัว"โง่เง่า!"เซี่ยเชียนฮวันตวาดไปหนึ่งที ชิงถีตกใจจนหน้าซีดเผือด จากนั้นก็ยิ่งตัวสั่นมากขึ้นไปอีกนางยื่นมือไปเชิดคางของชิงถีขึ้นมา จ้องหน้านางด้วยสายตาเรียบเฉย "เจ้าคิดว่าถ้าลากข้าเข้าไปเป็นแพะรับบาปแล้วตัวเองจะรอดไปได้หรือไง คนที่บงการเจ้าอยู่เบื้องหลังคนนั้นก็คงอยากจะกำจัดเจ้าทิ้งนานแล้ว""ขะ ข้าไม่เข้าใจว่าพระชายาพูดเรื่องอะไร..."ในหัวของชิงถีขาวโพลนไปหมดแม่นางซูอยากจะกำจัดนางเหรอไม่ เป็นไปไม่ได้ ขอเพียงนางทำงานสำเร็จ ใส่ร้ายพระชายาได้ แม่นางซูก็จะต้องช่วยนางแน่นอน!เซี่ยเชียนฮวันมองดูใบหน้าโง่เขลาของสาวใช้แล้วก็ขำก่อนพูดอย่างเย็นชา "ยาพิษที่เจ้าถือในมือเมื่อครู่เรียกว่าผงดอกลำโพง ปลิวอยู่ในอากาศได้เอง ตอนที่เจ้าใส่ยาลงไปก็คงสูดเอาฝุ่นผงมันเข้าไปไม่น้อย ถ้าดูตามปริมาณยาที่ใช้ กว่าพิษจะออกฤทธิ์ก็ประมาณสามชั่วโมง รอให้เย่ซิ่นดื่มยาพิษจนหมด เจ้าเองก็จะต้องตายในไม่ช้าเหมือนกัน""ไม่ห
อย่างที่เซี่ยเชียนฮวันคิดเอาไว้ แม่ดอกบัวขาวซูอวี้เออร์ เริ่มพูดเปลี่ยนดำเป็นขาวกล่าวหานางแล้ว!นางพูดออกไปอย่างตกใจ "น่าแปลกจริง แม่นางซูเอาอะไรมาตัดสินว่าข้าเป็นคนสั่งให้นางวางยาพิษเหรอ""แต่ว่าชิงถีเป็นสาวใช้ที่ติดตามท่านมาจากบ้านเดิมนะ หากว่าท่านไม่ได้คอยให้ท้ายอยู่ นางจะกล้าทำเรื่องเลวร้ายเช่นนี้ได้หรือ"ซูอวี้เออร์กัดริมฝีปากแสร้งทำตัวไร้เดียงสา หลังจากชี้เป้าเสร็จ ก็หันไปแสร้งพูดห้ามปรามกับเซียวเย่หลันต่อ "ท่านอ๋อง ข้าว่าพระชายาคงทำเรื่องโง่เขลาไปเพราะอารมณ์โมโหชั่วครู่ ในเมื่อไม่ได้เกิดเรื่องอะไรขึ้นจริงๆ เห็นแก่อันติ้งโหว ท่านก็อย่าถือสานางเลยนะเพคะ"คำพูดของนางที่ดูเหมือนกำลังห้ามปราม แต่แท้จริงแล้ว กำลังเหยียบย่ำลงไปในดงกับระเบิดของเซียวเย่หลันในทุกอนู!สีหน้าของชายหนุ่มแย่ลงทุกที นัยน์ตาเย็นเยียบราวกับน้ำแข็ง ไอสังหารแผ่กระจายออกมาอย่างเข้มข้น"เซี่ยเชียนฮวัน ดูท่าเจ้าจะไม่ได้จดจำคำที่ข้าพูดเลยสินะ"เขาเคยบอกแล้วว่าหากนางยังทำเรื่องที่ล้ำเส้นเขาอีก ไม่ว่าใคร ก็รักษาชีวิตของนางเอาไว้ไม่ได้!เซียวเย่หลันก้าวขึ้นมาหนึ่งก้าว ความกดดันมหาศาลทำให้ทุกคนรู้สึกกดดันไปหมด ขนา
สีหน้าของชายหนุ่มดำมืดสนิทขนาดซูอวี้เออร์เองยังไม่กล้าพูดแก้ต่างให้กับตัวเองเลย จึงทำได้เพียงใช้สายตามองจ้องเขาไปอย่างน่าสงสารในเวลานี้ เซี่ยเชียนฮวันก็อดไม่ได้ที่จะหัวเราะออกมาดวงตารูปดอกท้อของนางมองไปที่ใบหน้าของเซียวเย่หลันและซูอวี้เออร์ หัวเราะออกมาเบาๆ พูดว่า "คนบางคนคิดว่าตัวเองฉลาด คิดว่าใช้วิธียิงครั้งเดียวได้นกสองตัว ได้ทั้งไล่ให้ข้าออกไป แถมยังสามารถกำจัดบ่าวที่รู้มากคนนั้นออกไปได้อีก สุดท้ายกลับโง่จนทำให้ตัวเองต้องตกลงไปในหลุมพลางนั้นเอง น่าขันเสียจริง""เจ้า เจ้าอย่ามาใส่ร้ายคนอื่นสิ!"สีหน้าของซูอวี้เออร์เต็มไปด้วยความคับแค้น นางเซไปข้างหลังสองก้าว คล้ายกับว่าจะเป็นลม หัวเริ่มโงนเงนแทบจะล้มตึ้งลงไปด้านหลังเซียวเย่หลันรีบเอามือไปช้อนรับตัวนางไว้ทันที เขามองไปที่เซี่ยเชียนฮวันอย่างเย็นชา "ไม่ต้องพูดแล้ว""ทำไม ท่านอ๋องไม่ใช่ดีต่อผู้ใต้บังคับบัญชาของตัวเองมากเหรอ ทำไมตอนนี้ถึงไม่อยากสืบหาคนร้ายตัวจริงที่คิดจะทำร้ายองค์รักษ์เย่แล้วล่ะ อีกอย่าง ท่านอ๋องก็พูดเองหนิ หากว่ามีใครไปแตะเส้นตายของท่าน ท่านจะไม่ยอมปล่อยเขาไปง่ายๆ แต่ความจริงแล้วเส้นตายของท่านอ๋องก็สามารถเปลี
"อย่าพูดมั่วๆ ข้าไม่ได้ท้องสักหน่อย"เมื่อเซี่ยเชียนฮวันอาการดีขึ้น ก็รีบปฏิเสธออกไปทันทีนางเว่ยเชื่อครึ่งไม่เชื่อครึ่ง "แต่ดูจากอาการของท่านเมื่อครู่ ดูเหมือนท้องแล้วจริงๆ นะ...""เป็นไปไม่ได้" เซี่ยเชียนฮวันส่ายหน้าคำนวณจากเวลาแล้ว มันใกล้กับตอนที่นางกับเซียวเย่หลันมีอะไรกันมากเกินไป ไม่มีทางท้องเร็วขนาดนี้แน่ อีกอย่างในความทรงจำของเจ้าของร่างเดิมก็ไม่เคยมีสัมพันธ์ลึกซึ้งกับชายคนอื่นด้วยเมื่อนางเว่ยเห็นว่าเซี่ยเชียนฮวันปฏิเสธเสียงแข็งเช่นนี้ ก็ไม่พูดอะไรมากอีก ได้แต่ถอนหายใจก่อนบอกว่า "เพคะ แต่มีบางเรื่องที่ข้าต้องเตือนพระชายาสักหน่อย ความจริงแล้วที่ท่านอ๋องดีกับซูอวี้เออร์มากถึงเพียงนั้นมันมีสาเหตุนะเพคะ ก่อนหน้านี้ซูอวี้เออร์เคยช่วยชีวิตท่านอ๋องเอาไว้เพคะ""มีเรื่องนี้ด้วยเหรอ" เซี่ยเชียนฮวันเลิกคิ้วอย่างสงสัยนางเว่ยมองซ้ายมองขวา ก่อนพูดเสียงเบาๆ ว่า "เรื่องนี้เป็นความลับ มีคนรู้ไม่กี่คน มีครั้งหนึ่งท่านอ๋องเคยถูกคนวางแผนลอบทำร้าย หากไม่ได้ซูอวี้เออร์มาช่วยท่านอ๋องแก้พิษรัก เกรงว่าเขาคงจะกลายเป็นคนพิการไปแล้วในตอนนี้""อย่างนี้นี่เอง"เซี่ยเชียนฮวันฟังแล้วก็ได้แต่คิดพิ
ความหมายที่ซ่อนอยู่ในประโยคนั้นของซูอวี้เออร์ ผู้ชายทุกคนล้วนฟังออกได้แต่แล้ว เซียวเย่หลันกลับไม่อยู่ค้างคืนตามความต้องการของนาง เขาเพียงพูดอย่างเรียบเฉยว่า "ไม่ล่ะ ข้าไม่มีนิสัยชอบนอนร่วมห้องกับคนอื่น"ซูอวี้เออร์กัดริมฝีปาก "ท่านอ๋อง ท่านรังเกียจข้าเหรอ""อย่าเดาส่งเดช""ตั้งแต่คืนนั้นที่ช่วยท่านถอนพิษ ร่างกายของข้าก็แย่ลงทุกวัน เดี๋ยวก็ปวดหัวตัวร้อนไม่สบาย แบบนี้ก็ดูเหมือนจะไม่มีสิทธิ์จะรับใช้ท่านอ๋องได้แล้วจริงๆ"ซูอวี้เออร์ถอนหายใจเบาๆ หลุบตาลงต่ำ แล้วก็ปล่อยมือที่จับแขนของเซียวเย่หลันเอาไว้ออกเมื่อเซียวเย่หลันเห็นท่าทางน้อยใจของนาง ก็ทำได้เพียงนั่งลงข้างกายนาง พูดเสียงเบาๆ ว่า "ข้ารู้ว่าพิษดอกรักรุนแรงแค่ไหน หลังจากคืนนั้น พิษก็เข้าสู่ร่างกายเจ้า นี่คือสิ่งที่ข้าติดค้างเจ้า""ท่านอ๋องอย่าได้กล่าวเช่นนั้น ได้รับใช้ท่านอ๋องหนึ่งคืน ก็นับเป็นวาสนาอันยิ่งใหญ่ของอวี้เออร์แล้ว"ซูอวี้เออร์ใช้หลังมือปาดน้ำตาที่หางตาเบาๆ เสียงสั่นเครือ ยิ่งทำให้ดูน่าสงสารขึ้นไปอีกแสร้งถอยเพื่อรุกคือวิธีการที่นางถนัดที่สุดนางใช้วิธีนี้ จัดการกับคุณชายผู้สูงศักดิ์มานักต่อนักแล้วเซียวเย่หลัน
"ที่แท้ก็เป็นน้องสาวของทหารองค์รักษ์เย่นี่เอง ตอนนี้อาการของเขาเป็นอย่างไรบ้าง ยังตัวร้อนอยู่ไหม"ปฏิกริยาแรกของเซี่ยเชียนฮวันคือเห็นเสี่ยวตงเป็นญาติของคนไข้ของตัวเอง จึงถามอาการของเย่ซิ่นออกไปว่ายังต้องให้นางไปดูอาการอีกหรือไม่สีหน้าของเสี่ยวตงเต็มไปด้วยความขอบคุณ "ขอบพระทัยพระชายาที่เป็นห่วง ได้ท่านมารักษาอาการ พี่ชายของบ่าวดีขึ้นมากแล้วเพคะ ท่านเป็นผู้มีพระคุณของบ่าว"พูดไปๆ นางก็จะคุกเข่าให้เซี่ยเชียนฮวันเซี่ยเชียนฮวันประคองแขนของนางขึ้นมากอนว่า "ไม่ถึงขั้นเป็นผู้มีพระคุณหรอก ข้าก็เพียงทำเรื่องที่หมอทุกคนควรจะต้องทำเท่านั้น!"จะว่าไปครอบครัวขององค์รักษ์คนนั้นก็ช่างเป็นคนซื่อเหลือเกินที่เขาบาดเจ็บหนักขนาดนั้น ก็เป็นเพราะถูกเจ้าของร่างเดิมใส่ความ ตอนนี้นางช่วยชีวิตเขาไว้ กลับกลายเป็นว่ามีบุญคุณต่อครอบครัวเขาไปซะงั้น"พระชายา ให้บ่าวช่วยท่านล้างหน้าแต่งตัวเถิดเพคะ" เสี่ยวตงพูดอย่างนอบน้อมเซี่ยเชียนฮวันพยักหน้า แล้วนั่งลงตรงหน้ากระจกทองเหลืองนางเห็นว่าเด็กคนนี้ดูเป็นคนมีไหวพริบ เวลาทำงานก็คล่องแคล่ว หวีไปแค่สองสามทีก็เกล้าผมให้นางเสร็จเรียบร้อย ก็รู้สึกพอใจหลังจากแต่งตั