"ที่แท้ก็เป็นน้องสาวของทหารองค์รักษ์เย่นี่เอง ตอนนี้อาการของเขาเป็นอย่างไรบ้าง ยังตัวร้อนอยู่ไหม"ปฏิกริยาแรกของเซี่ยเชียนฮวันคือเห็นเสี่ยวตงเป็นญาติของคนไข้ของตัวเอง จึงถามอาการของเย่ซิ่นออกไปว่ายังต้องให้นางไปดูอาการอีกหรือไม่สีหน้าของเสี่ยวตงเต็มไปด้วยความขอบคุณ "ขอบพระทัยพระชายาที่เป็นห่วง ได้ท่านมารักษาอาการ พี่ชายของบ่าวดีขึ้นมากแล้วเพคะ ท่านเป็นผู้มีพระคุณของบ่าว"พูดไปๆ นางก็จะคุกเข่าให้เซี่ยเชียนฮวันเซี่ยเชียนฮวันประคองแขนของนางขึ้นมากอนว่า "ไม่ถึงขั้นเป็นผู้มีพระคุณหรอก ข้าก็เพียงทำเรื่องที่หมอทุกคนควรจะต้องทำเท่านั้น!"จะว่าไปครอบครัวขององค์รักษ์คนนั้นก็ช่างเป็นคนซื่อเหลือเกินที่เขาบาดเจ็บหนักขนาดนั้น ก็เป็นเพราะถูกเจ้าของร่างเดิมใส่ความ ตอนนี้นางช่วยชีวิตเขาไว้ กลับกลายเป็นว่ามีบุญคุณต่อครอบครัวเขาไปซะงั้น"พระชายา ให้บ่าวช่วยท่านล้างหน้าแต่งตัวเถิดเพคะ" เสี่ยวตงพูดอย่างนอบน้อมเซี่ยเชียนฮวันพยักหน้า แล้วนั่งลงตรงหน้ากระจกทองเหลืองนางเห็นว่าเด็กคนนี้ดูเป็นคนมีไหวพริบ เวลาทำงานก็คล่องแคล่ว หวีไปแค่สองสามทีก็เกล้าผมให้นางเสร็จเรียบร้อย ก็รู้สึกพอใจหลังจากแต่งตั
"ดูจากรูปร่างเจ้าแล้วก็น่าจะประมาณห้าขวบ ไม่ใช่เด็กผีแล้วจะเป็นอะไร"เซี่ยเชียนฮวันได้คืบจะเอาศอก เมื่อบีบแก้มซ้ายเสร็จก็ไปบีบแก้มขวาต่อ เมื่อเห็นเจ้าเด็กอ้วนโมโหจนหน้าพองกลมเหมือนปลาปักเป้าแล้วก็อดขำออกมาไม่ได้"น่าโมโหนัก ไม่เคยมีใครกล้าทำแบบนี้กับข้าเลยนะ!" เด็กอ้วนเท้าสะเอวอย่างโมโห"โอ๊ะ เจ้าเด็กผีวางท่าใหญ่โตเชียวนะ หรือว่าเจ้าจะเป็นเซียนน้อยที่อยู่ข้างกายเง็กเซียนฮ่องเต้เหรอ"เซี่ยเชียนฮวันจงใจพูดล้อนางเห็นเจ้าเด็กอ้วนมีเครื่องประดับที่เป็นทองคำห้อยคอ ก็รู้ได้ว่าเขาจะต้องไม่ใช่ลูกของชาวบ้านธรรมดาทั่วไป แต่ฐานะของตัวนางก็ไม่ได้ต่ำต้อยนะ ถึงอย่างไรก็มีศักดิ์เป็นญาติกับไทเฮาองค์ปัจจุบัน คงไม่ถึงขนาดแค่จะบีบแก้มเด็กเล่นไม่ได้เลยหรอก"เชอะ!"ถึงอย่างไรเจ้าเด็กอ้วนก็ยังเป็นแค่เด็ก เมื่อถูกเซี่ยเชียนฮวันแกล้งมากๆ เข้าก็ไม่รู้ว่าควรจะพูดอะไรเพื่อเป็นการตอบโต้ จึงทำได้เพียงจ้องหน้านางอย่างโมโหสายตาของเขามองไปเห็นสมุนไพรในมือของเซี่ยเชียนฮวัน เขาจึงยื่นมือกลมๆ เล็กๆ ไปแย่งมาทันที!"พี่สาวนิสัยไม่ดี มาจับข้าให้ได้สิ!"เด็กอ้วนยกสมุนไพรในมือขึ้น หัวมุดวิ่งเข้าไปในดงหญ้า วิ่งไปพล
"เร็ว ไปตามหมอหลวงมาเดี๋ยวนี้ จะต้องยังมีทางรักษาได้แน่!"องค์รัชทายาทใช้มือหนึ่งประคองตัวของภรรยาไว้ อีกมือก็คว้าตัวลูกชายมาอุ้มกอด ก่อนจะสั่งทหารองค์รักษ์อย่างรวดเร็วเมื่อเซี่ยเชียนฮวันได้ยินก็ขมวดคิ้วมุ่นคนที่ตกน้ำจะต้องรีบช่วยอย่างเร่งด่วน ให้ไปตามหมอหลวงมาตอนนี้เกรงจะไม่ทันการนางเดินไปนั่งคุกเข่าข้างๆ องค์รัชทายาท ก่อนจะเอาผ้าเช็ดหน้ามากวาดเอาเศษดินโคลนในปากของเด็กอ้วนออก แต่คิดไม่ถึงว่าเซียวเย่หลันจะรีบเดินเข้ามาคว้าจับข้อมือของนางเอาไว้ เพื่อหยุดกระบวนการช่วยชีวิตของนางเซียวเย่หลันมองไปที่นางอย่างเย็นชา "ต่อหน้าข้าเจ้ายังกล้าคิดทำเรื่องไม่ดีอีกเหรอ""ข้ากำลังช่วยคนอยู่"สีหน้าของเซี่ยเชียนฮวันเองก็เย็นชาเช่นกันแน่นอนว่าเซียวเย่หลันไม่เชื่อ เขาจับมือของเซี่ยเชียนฮวันเอาไว้ไม่ให้นางทำความสะอาดต่อ ก่อนจะหันไปถาม "อวี้เออร์ เจ้ารู้ได้ยังไงว่าพระราชนัดดาตกน้ำ""ขะ ข้าไม่กล้าพูด..."ซูอวี้เออร์แสร้งทำว่าไม่กล้าพูด แต่สายตากลับจับจ้องมองไปที่เซี่ยเชียนฮวันองค์รัชทายาทพูดอย่างโมโห "อย่ามัวแต่อ้ำอึ้ง รีบบอกความจริงกับข้ามาเดี๋ยวนี้!""กราบทูลองค์รัชทายาท เมื่อครู่ข้าเห็
"เซี่ย เชียน ฮวัน!"เซียวเย่หลันโมโหสุดขีดผู้หญิงร้ายกาจ เขาสมควรฆ่านางให้ตายไปตั้งนานแล้ว!ทุกคนในที่นั้นต่างก็คิดไม่ถึงว่านางจะทำเช่นนี้ ต่างตกใจกันจนตัวสั่น!"น้องเจ็ด...มะ...เมียตัวดีของเจ้า..." องค์รัชทายาทโมโหจนตัวสั่นไปหมด"นางสมควรตาย"ความเย็นเยียบแผ่กระจายออกมาทางสายตาของเซียวเย่หลัน!ก่อนนี้ เป็นเขาที่ยอมใจอ่อนกับนางมากเกินไป...มือขวาของเขาค่อยๆ เคลื่อนไปจับด้ามดาบในเวลานี้เองหมอหลวงอายุสี่สิบกว่าปีก็วิ่งหอบแฮ่กๆ เข้ามาเขามองไปที่เซี่ยเชียนฮวันที่กำลังทำการผายปอด ก็รีบตะโกนออกไปอย่างร้อนใจ "รีบหยุดเดี๋ยวนี้! เหตุใดเจ้าจึงทำกับคนที่ตกน้ำเช่นนี้! ปากของเขาอุดตันไม่อาจหายใจ เจ้าตั้งใจจะฆ่าพระราชนัดดาให้ตายอย่างนั้นเหรอห๊ะ!"เมื่อได้ยินสิ่งที่หมอหลวงพูด สายตาของทุกคนก็ยิ่งดุดัน"พระชายาจ้านอ๋อง เจ้าจะได้ชดใช้กับสิ่งที่เจ้าทำไว้! ข้าจะตัดหัวทุกคนในอันติ้งโหวซะ แล้วสับให้แหลกเป็นพันชิ้น!"องค์รัชทายาทโกรธจนถึงขีดสุดแต่เซี่ยเชียนฮวันก็ยังไม่สนใจ เมื่อผายปอดเสร็จ ก็เริ่มทำการปั๊มหัวใจต่อพระชายาองค์รัชทายาทเมื่อเห็นว่าใช้ไม้แข็งไม่ได้ผล ก็เริ่มขอร้องด้วยน้ำตานอ
"ท่านพี่ พระราชนัดดาน้อยแช่อยู่ในน้ำนานขนาดนั้น ให้รีบไปเปลี่ยนเสื้อผ้าให้ตัวอบอุ่นก่อนจะดีกว่า มีเรื่องอะไรค่อยคุยกันวันหลังก็ได้"ซูอวี้เออร์พูดออกมาเนิบๆ เพื่อขัดขวางสิ่งที่เซี่ยเชียนฮวันกำลังจะพูดเซี่ยเชียนฮวันเหลือบมองไปที่นางทีหนึ่งผู้หญิงแอ๊บใสๆ ซื่อๆ นี่คิดจริงเหรอว่าคนอื่นเขามองแผนการร้ายของตัวเองไม่ออกนางก็คงเพียงแค่ไม่อยากให้เซี่ยเชียนฮวันโดดเด่นมากไปต่อหน้าคนมากมายขนาดนี้เดิมที เซี่ยเชียนฮวันยังคิดอยู่ว่าเรื่องบางเรื่องไม่ต้องพูด ในเมื่อซูอวี้เออร์กระโดดออกมาเองแบบนี้ เช่นนั้นก็อย่ามาโทษว่านางหาเรื่องแล้วกัน!"แม่นางซู เมื่อครู่เจ้าบอกว่าพระราชนัดดาน้อยถูกลูกสนหล่นใส่หัว เลยตกลงไปในน้ำเอง แต่ว่าตำแหน่งที่เขาตกน้ำดูเหมือนจะห่างจากขอบสระไกลอยู่นะ! เป็นไปได้ไหมว่ามีใครจงใจเอาของมาฟาดหัวให้เขาสลบ จากนั้นก็โยนเขาลงไปในสระน่ะ"แววตาของเซี่ยเชียนฮวันเย็บเยียบดุจน้ำแข็ง ทุกคำที่พูด ทำเอาซูอวี้เออร์ตกใจจนหัวใจเต้นผิดจังหวะ!เมื่อได้ยินคำพูดนี้ สีหน้าขององค์รัชทายาทและพระชายาองค์รัชทายาทก็แย่ลงทันทีเมื่อคิดดูดีๆ มันก็ดูมีพิรุธจริงๆ!เซี่ยเชียนฮวันหัวเราะเสียงเย็น ก่อนพ
เซี่ยเชียนฮวันไม่เข้าใจ"ข้าดูเหมือนคนที่กำลังก่อความวุ่นวายอยู่หรือไง"เซียวเย่หลันพยายามระงับความโกรธ "เจ้าไม่รู้เรื่องการรักษาสักหน่อย แค่ได้เรียนรู้วิธีการช่วยชีวิตคนจมน้ำมาจากชาวบ้าน เลยคิดว่าตัวเองเป็นหมอเทวดาหรือไง""......" เซี่ยเชียนฮวันได้แต่เงียบนางไม่รู้ว่าควรจะตอบยังไงหรือจะให้นางยอมรับออกไปตรงๆ ล่ะว่า ใช่แล้ว ไม่ผิด ข้านี่แหละหมอเทวดา"บางทีอาจเป็นเพราะห้าวเออร์แช่อยู่ในน้ำนานเกินไป ก็เลยมีอาการไม่สบาย น้องสะใภ้ไม่ต้องเป็นห่วงหรอก เดี๋ยวกลับไป ข้าจะให้หมอหลวงเก่งๆ มาตรวจอาการให้เอง"พระชายาองค์รัชทายาทพยักหน้าให้กับเซี่ยเชียนฮวันจากนั้น นางกับองค์รัชทายาทก็พาพระราชนัดดาน้อยออกไปพร้อมกันส่วนหมอไร้ความสามารถคนนั้น ก็แน่นอนว่าไม่กล้าจะเสนอหน้าอยู่ต่ออีก จึงรีบเดินตามหลังพวกองค์รัชทายาทออกไปอย่างรวดเร็วเซี่ยเชียนฮวันไม่ได้รั้งต่อ ในสายตาของคนชั้นสูงในเมืองหลวงนี้ ถึงอย่างไรนางก็เป็นเพียงคนโง่ที่ไม่มีความรู้ความสามารถ พระชายาองค์รัชทายาทไม่ให้ค่ากับคำเตือนของนางก็เป็นเรื่องปกติแล้วต่อไป เกรงว่านางคงต้องคิดหาวิธีไปรักษาพระราชนัดดาน้อยเองอีกทีถึงอย่างไรก็ไม่อา
หลายวันผ่านไปเสียงจักจั่นร้องดังเซียวเย่หลันยืนอยู่ตรงลานด้านหน้า สีหน้าเคร่งขรึม ข้างกายเหมือนมีรังสีอำมหิตแผ่ซ่านออกมาหลายวันมานี้ มักจะมีเงาของผู้หญิงคนหนึ่งโผล่ขึ้นมาในใจเขาเสมอ ลบอย่างไรก็ลบไม่ออกทำให้เขารู้สึกหงุดหงิดอย่างไม่เคยเป็นมาก่อนทันใดนั้นเขาก็ได้ยินเสียงเดินเบาๆ เขารู้ว่าซูอวี้เออร์มา จึงปิดตา พยายามลบภาพเงาของผู้หญิงคนนั้นออกจากหัว"ท่านอ๋อง อวี้เออร์ทำเม็ดบัวต้มน้ำตาลมาให้ ท่านจะชิมสักหน่อยไหมเพคะ"ซูอวี้เออร์ยกขนมหวานมาให้ชามหนึ่ง อย่างเป็นแม่ศรีเรือน นางเดินมาหยุดอยู่ข้างกายของเซียวเย่หลันแต่เซียวเย่หลันกลับไม่ได้รับเอาชามมา เขาพูดอย่างเย็นชาว่า "ไม่อยากกิน""ก็ได้..." ซูอวี้เออร์เม้มริมฝีปาก ปล่อยมือทั้งสองข้างลงนางยืนอยู่ข้างๆ เป็นเพื่อนเซียวเย่หลัน ทั้งคู่ยืนเงียบกันอยู่นาน จนเมื่อทนแสงแดดที่สาดส่องมาไม่ไหว นางถึงพูดออกไปอย่างนุ่มนวลว่า "ท่านอ๋อง มีคนมาฟ้องข้า บอกว่าในจวนมีคนแอบลักลอบเล่นชู้เพคะ""ช่างพวกเขาเถอะ" เซียวเย่หลันตอบอย่างเย็นชาถึงแม้เขาจะไม่สนใจเรื่องรักๆ ใคร่ๆ ระหว่างชายหญิง แต่เรื่องความรักก็เป็นเรื่องธรรมดา เขาไม่เหมือนพวกหัวโบรา
"พระชายา ชายหญิงไม่ควรใกล้ชิดกัน เกรงว่าจะไม่ค่อยเหมาะสมพ่ะย่ะค่ะ"เย่ซิ่นยังคงลังเลก่อนหน้านี้เป็นเพราะเขาบาดเจ็บหนักจึงได้แต่นอนคว่ำหน้าอยู่บนเตียง ถึงจะถูกมองก็ไม่อาจทำอะไรได้ตอนนี้จะให้เขาถอดด้วยตัวเอง มัน...เซี่ยเชียนฮวันรับไม่ได้ที่ลูกผู้ชายคนหนึ่งกลับมาบ่นพึมพำเช่นนี้ นางโบกมือก่อนพูดว่า "เจ้าคิดว่าข้าชอบดูนักหรือไง เป็นเพราะแม่กับน้องเจ้าเป็นห่วง ไม่อยากให้เจ้ามีอาการป่วยหลงเหลืออยู่ มาขอร้องข้าหลายครั้งแล้ว ให้ข้าช่วยมาตรวจเจ้าอีกทีเป็นครั้งสุดท้าย"คนโบราณก็งี้ชอบเล่นตัวคิดถึงการตรวจร่างกายในสมัยนี้สิ พวกเด็กหนุ่มพวกนั้นเข้ามาก็รีบโยนชุดออกเลย แถมยังแข่งกันดูด้วยว่ากล้ามของใครแน่นกว่ากันอีกอย่าง ในสายตาของหมอ กล้ามเนื้อของคนไข้ก็เป็นเพียงกลุ่มก้อนโปรตีนที่มารวมกันอยู่ก็เท่านั้น ตอนทำงานไม่มีใครมาคิดเรื่องความเหมาะสมในการใกล้ชิดระหว่างชายหญิงหรอก"หากว่าเจ้าไม่อยากถอดจริงๆ เช่นนั้นข้าไปล่ะ" เซี่ยเชียนฮวันกล่าวตอนนี้ไม่ใช่ช่วงเวลาเร่งรีบในการรักษาชีวิตคน นางจะยึดเอาตามความยินยอมของคนไข้เมื่อเย่ซิ่นคิดไปถึงสายตาที่เป็นห่วงของคนในครอบครัว ก็ได้แต่กัดฟัน "เช่นนั้น