อย่างที่เซี่ยเชียนฮวันคิดเอาไว้ แม่ดอกบัวขาวซูอวี้เออร์ เริ่มพูดเปลี่ยนดำเป็นขาวกล่าวหานางแล้ว!นางพูดออกไปอย่างตกใจ "น่าแปลกจริง แม่นางซูเอาอะไรมาตัดสินว่าข้าเป็นคนสั่งให้นางวางยาพิษเหรอ""แต่ว่าชิงถีเป็นสาวใช้ที่ติดตามท่านมาจากบ้านเดิมนะ หากว่าท่านไม่ได้คอยให้ท้ายอยู่ นางจะกล้าทำเรื่องเลวร้ายเช่นนี้ได้หรือ"ซูอวี้เออร์กัดริมฝีปากแสร้งทำตัวไร้เดียงสา หลังจากชี้เป้าเสร็จ ก็หันไปแสร้งพูดห้ามปรามกับเซียวเย่หลันต่อ "ท่านอ๋อง ข้าว่าพระชายาคงทำเรื่องโง่เขลาไปเพราะอารมณ์โมโหชั่วครู่ ในเมื่อไม่ได้เกิดเรื่องอะไรขึ้นจริงๆ เห็นแก่อันติ้งโหว ท่านก็อย่าถือสานางเลยนะเพคะ"คำพูดของนางที่ดูเหมือนกำลังห้ามปราม แต่แท้จริงแล้ว กำลังเหยียบย่ำลงไปในดงกับระเบิดของเซียวเย่หลันในทุกอนู!สีหน้าของชายหนุ่มแย่ลงทุกที นัยน์ตาเย็นเยียบราวกับน้ำแข็ง ไอสังหารแผ่กระจายออกมาอย่างเข้มข้น"เซี่ยเชียนฮวัน ดูท่าเจ้าจะไม่ได้จดจำคำที่ข้าพูดเลยสินะ"เขาเคยบอกแล้วว่าหากนางยังทำเรื่องที่ล้ำเส้นเขาอีก ไม่ว่าใคร ก็รักษาชีวิตของนางเอาไว้ไม่ได้!เซียวเย่หลันก้าวขึ้นมาหนึ่งก้าว ความกดดันมหาศาลทำให้ทุกคนรู้สึกกดดันไปหมด ขนา
สีหน้าของชายหนุ่มดำมืดสนิทขนาดซูอวี้เออร์เองยังไม่กล้าพูดแก้ต่างให้กับตัวเองเลย จึงทำได้เพียงใช้สายตามองจ้องเขาไปอย่างน่าสงสารในเวลานี้ เซี่ยเชียนฮวันก็อดไม่ได้ที่จะหัวเราะออกมาดวงตารูปดอกท้อของนางมองไปที่ใบหน้าของเซียวเย่หลันและซูอวี้เออร์ หัวเราะออกมาเบาๆ พูดว่า "คนบางคนคิดว่าตัวเองฉลาด คิดว่าใช้วิธียิงครั้งเดียวได้นกสองตัว ได้ทั้งไล่ให้ข้าออกไป แถมยังสามารถกำจัดบ่าวที่รู้มากคนนั้นออกไปได้อีก สุดท้ายกลับโง่จนทำให้ตัวเองต้องตกลงไปในหลุมพลางนั้นเอง น่าขันเสียจริง""เจ้า เจ้าอย่ามาใส่ร้ายคนอื่นสิ!"สีหน้าของซูอวี้เออร์เต็มไปด้วยความคับแค้น นางเซไปข้างหลังสองก้าว คล้ายกับว่าจะเป็นลม หัวเริ่มโงนเงนแทบจะล้มตึ้งลงไปด้านหลังเซียวเย่หลันรีบเอามือไปช้อนรับตัวนางไว้ทันที เขามองไปที่เซี่ยเชียนฮวันอย่างเย็นชา "ไม่ต้องพูดแล้ว""ทำไม ท่านอ๋องไม่ใช่ดีต่อผู้ใต้บังคับบัญชาของตัวเองมากเหรอ ทำไมตอนนี้ถึงไม่อยากสืบหาคนร้ายตัวจริงที่คิดจะทำร้ายองค์รักษ์เย่แล้วล่ะ อีกอย่าง ท่านอ๋องก็พูดเองหนิ หากว่ามีใครไปแตะเส้นตายของท่าน ท่านจะไม่ยอมปล่อยเขาไปง่ายๆ แต่ความจริงแล้วเส้นตายของท่านอ๋องก็สามารถเปลี
"อย่าพูดมั่วๆ ข้าไม่ได้ท้องสักหน่อย"เมื่อเซี่ยเชียนฮวันอาการดีขึ้น ก็รีบปฏิเสธออกไปทันทีนางเว่ยเชื่อครึ่งไม่เชื่อครึ่ง "แต่ดูจากอาการของท่านเมื่อครู่ ดูเหมือนท้องแล้วจริงๆ นะ...""เป็นไปไม่ได้" เซี่ยเชียนฮวันส่ายหน้าคำนวณจากเวลาแล้ว มันใกล้กับตอนที่นางกับเซียวเย่หลันมีอะไรกันมากเกินไป ไม่มีทางท้องเร็วขนาดนี้แน่ อีกอย่างในความทรงจำของเจ้าของร่างเดิมก็ไม่เคยมีสัมพันธ์ลึกซึ้งกับชายคนอื่นด้วยเมื่อนางเว่ยเห็นว่าเซี่ยเชียนฮวันปฏิเสธเสียงแข็งเช่นนี้ ก็ไม่พูดอะไรมากอีก ได้แต่ถอนหายใจก่อนบอกว่า "เพคะ แต่มีบางเรื่องที่ข้าต้องเตือนพระชายาสักหน่อย ความจริงแล้วที่ท่านอ๋องดีกับซูอวี้เออร์มากถึงเพียงนั้นมันมีสาเหตุนะเพคะ ก่อนหน้านี้ซูอวี้เออร์เคยช่วยชีวิตท่านอ๋องเอาไว้เพคะ""มีเรื่องนี้ด้วยเหรอ" เซี่ยเชียนฮวันเลิกคิ้วอย่างสงสัยนางเว่ยมองซ้ายมองขวา ก่อนพูดเสียงเบาๆ ว่า "เรื่องนี้เป็นความลับ มีคนรู้ไม่กี่คน มีครั้งหนึ่งท่านอ๋องเคยถูกคนวางแผนลอบทำร้าย หากไม่ได้ซูอวี้เออร์มาช่วยท่านอ๋องแก้พิษรัก เกรงว่าเขาคงจะกลายเป็นคนพิการไปแล้วในตอนนี้""อย่างนี้นี่เอง"เซี่ยเชียนฮวันฟังแล้วก็ได้แต่คิดพิ
ความหมายที่ซ่อนอยู่ในประโยคนั้นของซูอวี้เออร์ ผู้ชายทุกคนล้วนฟังออกได้แต่แล้ว เซียวเย่หลันกลับไม่อยู่ค้างคืนตามความต้องการของนาง เขาเพียงพูดอย่างเรียบเฉยว่า "ไม่ล่ะ ข้าไม่มีนิสัยชอบนอนร่วมห้องกับคนอื่น"ซูอวี้เออร์กัดริมฝีปาก "ท่านอ๋อง ท่านรังเกียจข้าเหรอ""อย่าเดาส่งเดช""ตั้งแต่คืนนั้นที่ช่วยท่านถอนพิษ ร่างกายของข้าก็แย่ลงทุกวัน เดี๋ยวก็ปวดหัวตัวร้อนไม่สบาย แบบนี้ก็ดูเหมือนจะไม่มีสิทธิ์จะรับใช้ท่านอ๋องได้แล้วจริงๆ"ซูอวี้เออร์ถอนหายใจเบาๆ หลุบตาลงต่ำ แล้วก็ปล่อยมือที่จับแขนของเซียวเย่หลันเอาไว้ออกเมื่อเซียวเย่หลันเห็นท่าทางน้อยใจของนาง ก็ทำได้เพียงนั่งลงข้างกายนาง พูดเสียงเบาๆ ว่า "ข้ารู้ว่าพิษดอกรักรุนแรงแค่ไหน หลังจากคืนนั้น พิษก็เข้าสู่ร่างกายเจ้า นี่คือสิ่งที่ข้าติดค้างเจ้า""ท่านอ๋องอย่าได้กล่าวเช่นนั้น ได้รับใช้ท่านอ๋องหนึ่งคืน ก็นับเป็นวาสนาอันยิ่งใหญ่ของอวี้เออร์แล้ว"ซูอวี้เออร์ใช้หลังมือปาดน้ำตาที่หางตาเบาๆ เสียงสั่นเครือ ยิ่งทำให้ดูน่าสงสารขึ้นไปอีกแสร้งถอยเพื่อรุกคือวิธีการที่นางถนัดที่สุดนางใช้วิธีนี้ จัดการกับคุณชายผู้สูงศักดิ์มานักต่อนักแล้วเซียวเย่หลัน
"ที่แท้ก็เป็นน้องสาวของทหารองค์รักษ์เย่นี่เอง ตอนนี้อาการของเขาเป็นอย่างไรบ้าง ยังตัวร้อนอยู่ไหม"ปฏิกริยาแรกของเซี่ยเชียนฮวันคือเห็นเสี่ยวตงเป็นญาติของคนไข้ของตัวเอง จึงถามอาการของเย่ซิ่นออกไปว่ายังต้องให้นางไปดูอาการอีกหรือไม่สีหน้าของเสี่ยวตงเต็มไปด้วยความขอบคุณ "ขอบพระทัยพระชายาที่เป็นห่วง ได้ท่านมารักษาอาการ พี่ชายของบ่าวดีขึ้นมากแล้วเพคะ ท่านเป็นผู้มีพระคุณของบ่าว"พูดไปๆ นางก็จะคุกเข่าให้เซี่ยเชียนฮวันเซี่ยเชียนฮวันประคองแขนของนางขึ้นมากอนว่า "ไม่ถึงขั้นเป็นผู้มีพระคุณหรอก ข้าก็เพียงทำเรื่องที่หมอทุกคนควรจะต้องทำเท่านั้น!"จะว่าไปครอบครัวขององค์รักษ์คนนั้นก็ช่างเป็นคนซื่อเหลือเกินที่เขาบาดเจ็บหนักขนาดนั้น ก็เป็นเพราะถูกเจ้าของร่างเดิมใส่ความ ตอนนี้นางช่วยชีวิตเขาไว้ กลับกลายเป็นว่ามีบุญคุณต่อครอบครัวเขาไปซะงั้น"พระชายา ให้บ่าวช่วยท่านล้างหน้าแต่งตัวเถิดเพคะ" เสี่ยวตงพูดอย่างนอบน้อมเซี่ยเชียนฮวันพยักหน้า แล้วนั่งลงตรงหน้ากระจกทองเหลืองนางเห็นว่าเด็กคนนี้ดูเป็นคนมีไหวพริบ เวลาทำงานก็คล่องแคล่ว หวีไปแค่สองสามทีก็เกล้าผมให้นางเสร็จเรียบร้อย ก็รู้สึกพอใจหลังจากแต่งตั
"ดูจากรูปร่างเจ้าแล้วก็น่าจะประมาณห้าขวบ ไม่ใช่เด็กผีแล้วจะเป็นอะไร"เซี่ยเชียนฮวันได้คืบจะเอาศอก เมื่อบีบแก้มซ้ายเสร็จก็ไปบีบแก้มขวาต่อ เมื่อเห็นเจ้าเด็กอ้วนโมโหจนหน้าพองกลมเหมือนปลาปักเป้าแล้วก็อดขำออกมาไม่ได้"น่าโมโหนัก ไม่เคยมีใครกล้าทำแบบนี้กับข้าเลยนะ!" เด็กอ้วนเท้าสะเอวอย่างโมโห"โอ๊ะ เจ้าเด็กผีวางท่าใหญ่โตเชียวนะ หรือว่าเจ้าจะเป็นเซียนน้อยที่อยู่ข้างกายเง็กเซียนฮ่องเต้เหรอ"เซี่ยเชียนฮวันจงใจพูดล้อนางเห็นเจ้าเด็กอ้วนมีเครื่องประดับที่เป็นทองคำห้อยคอ ก็รู้ได้ว่าเขาจะต้องไม่ใช่ลูกของชาวบ้านธรรมดาทั่วไป แต่ฐานะของตัวนางก็ไม่ได้ต่ำต้อยนะ ถึงอย่างไรก็มีศักดิ์เป็นญาติกับไทเฮาองค์ปัจจุบัน คงไม่ถึงขนาดแค่จะบีบแก้มเด็กเล่นไม่ได้เลยหรอก"เชอะ!"ถึงอย่างไรเจ้าเด็กอ้วนก็ยังเป็นแค่เด็ก เมื่อถูกเซี่ยเชียนฮวันแกล้งมากๆ เข้าก็ไม่รู้ว่าควรจะพูดอะไรเพื่อเป็นการตอบโต้ จึงทำได้เพียงจ้องหน้านางอย่างโมโหสายตาของเขามองไปเห็นสมุนไพรในมือของเซี่ยเชียนฮวัน เขาจึงยื่นมือกลมๆ เล็กๆ ไปแย่งมาทันที!"พี่สาวนิสัยไม่ดี มาจับข้าให้ได้สิ!"เด็กอ้วนยกสมุนไพรในมือขึ้น หัวมุดวิ่งเข้าไปในดงหญ้า วิ่งไปพล
"เร็ว ไปตามหมอหลวงมาเดี๋ยวนี้ จะต้องยังมีทางรักษาได้แน่!"องค์รัชทายาทใช้มือหนึ่งประคองตัวของภรรยาไว้ อีกมือก็คว้าตัวลูกชายมาอุ้มกอด ก่อนจะสั่งทหารองค์รักษ์อย่างรวดเร็วเมื่อเซี่ยเชียนฮวันได้ยินก็ขมวดคิ้วมุ่นคนที่ตกน้ำจะต้องรีบช่วยอย่างเร่งด่วน ให้ไปตามหมอหลวงมาตอนนี้เกรงจะไม่ทันการนางเดินไปนั่งคุกเข่าข้างๆ องค์รัชทายาท ก่อนจะเอาผ้าเช็ดหน้ามากวาดเอาเศษดินโคลนในปากของเด็กอ้วนออก แต่คิดไม่ถึงว่าเซียวเย่หลันจะรีบเดินเข้ามาคว้าจับข้อมือของนางเอาไว้ เพื่อหยุดกระบวนการช่วยชีวิตของนางเซียวเย่หลันมองไปที่นางอย่างเย็นชา "ต่อหน้าข้าเจ้ายังกล้าคิดทำเรื่องไม่ดีอีกเหรอ""ข้ากำลังช่วยคนอยู่"สีหน้าของเซี่ยเชียนฮวันเองก็เย็นชาเช่นกันแน่นอนว่าเซียวเย่หลันไม่เชื่อ เขาจับมือของเซี่ยเชียนฮวันเอาไว้ไม่ให้นางทำความสะอาดต่อ ก่อนจะหันไปถาม "อวี้เออร์ เจ้ารู้ได้ยังไงว่าพระราชนัดดาตกน้ำ""ขะ ข้าไม่กล้าพูด..."ซูอวี้เออร์แสร้งทำว่าไม่กล้าพูด แต่สายตากลับจับจ้องมองไปที่เซี่ยเชียนฮวันองค์รัชทายาทพูดอย่างโมโห "อย่ามัวแต่อ้ำอึ้ง รีบบอกความจริงกับข้ามาเดี๋ยวนี้!""กราบทูลองค์รัชทายาท เมื่อครู่ข้าเห็
"เซี่ย เชียน ฮวัน!"เซียวเย่หลันโมโหสุดขีดผู้หญิงร้ายกาจ เขาสมควรฆ่านางให้ตายไปตั้งนานแล้ว!ทุกคนในที่นั้นต่างก็คิดไม่ถึงว่านางจะทำเช่นนี้ ต่างตกใจกันจนตัวสั่น!"น้องเจ็ด...มะ...เมียตัวดีของเจ้า..." องค์รัชทายาทโมโหจนตัวสั่นไปหมด"นางสมควรตาย"ความเย็นเยียบแผ่กระจายออกมาทางสายตาของเซียวเย่หลัน!ก่อนนี้ เป็นเขาที่ยอมใจอ่อนกับนางมากเกินไป...มือขวาของเขาค่อยๆ เคลื่อนไปจับด้ามดาบในเวลานี้เองหมอหลวงอายุสี่สิบกว่าปีก็วิ่งหอบแฮ่กๆ เข้ามาเขามองไปที่เซี่ยเชียนฮวันที่กำลังทำการผายปอด ก็รีบตะโกนออกไปอย่างร้อนใจ "รีบหยุดเดี๋ยวนี้! เหตุใดเจ้าจึงทำกับคนที่ตกน้ำเช่นนี้! ปากของเขาอุดตันไม่อาจหายใจ เจ้าตั้งใจจะฆ่าพระราชนัดดาให้ตายอย่างนั้นเหรอห๊ะ!"เมื่อได้ยินสิ่งที่หมอหลวงพูด สายตาของทุกคนก็ยิ่งดุดัน"พระชายาจ้านอ๋อง เจ้าจะได้ชดใช้กับสิ่งที่เจ้าทำไว้! ข้าจะตัดหัวทุกคนในอันติ้งโหวซะ แล้วสับให้แหลกเป็นพันชิ้น!"องค์รัชทายาทโกรธจนถึงขีดสุดแต่เซี่ยเชียนฮวันก็ยังไม่สนใจ เมื่อผายปอดเสร็จ ก็เริ่มทำการปั๊มหัวใจต่อพระชายาองค์รัชทายาทเมื่อเห็นว่าใช้ไม้แข็งไม่ได้ผล ก็เริ่มขอร้องด้วยน้ำตานอ