Share

บทที่ 447

Penulis: จิ้งซิง
เวินอวี้จือเงยหน้าขึ้นมองแวบหนึ่ง แล้วเอ่ยขึ้น “ใช่ น้องหกมอบให้ข้าเมื่อสองวันก่อน”

เขาเหมือนจะค้นพบอะไรบางอย่าง จึงหันไปถามเวินฉางอวิ้น “พี่ใหญ่ก็ได้รับดอกไม้จากน้องหกเหมือนกันหรือ?”

เวินฉางอวิ้นพยักหน้า ไม่ได้พูดอะไรอีก

เมื่อเห็นท่าทีเย็นชาของเวินฉางอวิ้นที่มีต่อเวินเยวี่ย เวินอวี้จือก็อดไม่ได้ที่จะเอ่ยขึ้น “พี่ใหญ่ น้องหกนางทำผิดพลาดไป แต่นางก็สำนึกผิดจริงๆ แล้ว”

เวินฉางอวิ้นมองดูกระถางดอกไม้นั้นแล้วกล่าวด้วยน้ำเสียงเรียบเฉย “อาจจะ”

“ไม่ใช่อาจจะ แต่เป็นจริง”

เวินอวี้จือหยุดมือที่กำลังทำอยู่ “พี่ใหญ่ น้องหกนางมีจิตใจบริสุทธิ์มาตั้งแต่เกิด ก่อนหน้านี้ก็เติบโตมาจากข้างนอกอีก ไม่รู้ประสีประสา ทำผิดพลาดไปบ้างก็เป็นเรื่องธรรมดา เพียงแค่นางรู้สำนึกผิดและแก้ไขก็พอแล้วมิใช่หรือ? พี่ใหญ่จะถือสาอะไรนางอีกเล่า?”

“จิตใจบริสุทธิ์มาตั้งแต่เกิดหรือ?”

เวินฉางอวิ้นได้ยินคำพูดนี้ ก็หันไปสบตากับเวินอวี้จือ

“น้องสี่ เจ้าคิดว่านางมีจิตใจบริสุทธิ์มาตั้งแต่เกิดจริงๆ หรือ?”

เวินฉางอวิ้นจ้องมองเข้าไปในดวงตาของเขาแล้วเอ่ยถามเช่นนี้

เวินอวี้จือชะงักไปเล็กน้อยจนแทบสังเกตไม่เห็น จากนั้นก็กล่าวด้วยสีหน
Lanjutkan membaca buku ini secara gratis
Pindai kode untuk mengunduh Aplikasi
Bab Terkunci
Komen (1)
goodnovel comment avatar
suthisa sittiwongsri
โฆษนาเยอะเกิน อ่านจบตอนก็มีโฆษนาอีก จะเบือก็ตรงโฆษนานี่แหละ เฮ้อ ทุกเรื่อง อ่านจบทุกตอนก็มีโฆษนานี่แหละ
LIHAT SEMUA KOMENTAR

Bab terkait

  • หลังบวชชี บรรดาท่านพี่ก็อ้อนวอนให้ข้าสึก   บทที่ 448

    เวินอวี้จือกล่าวด้วยน้ำเสียงเรียบเฉย “ข้าแค่ไม่ได้รู้สึกอะไรกับนางเท่านั้น กฎประจำตระกูลของสกุลเวินเรา ก็ไม่ได้มีข้อไหนที่ระบุว่าพวกเราพี่น้องต้องรักใคร่กลมเกลียวกันมิใช่หรือ?”แน่นอนว่าไม่มีกฎประจำตระกูลเช่นนี้แต่เมื่อก่อนน้องสี่ก็ไม่ได้มีท่าทีเช่นนี้กับน้องห้านี่นา?เวินฉางอวิ้นที่รู้สึกว่าอาจจะมีเรื่องเข้าใจผิดอะไรบางอย่าง จึงเอ่ยถามอย่างละเอียด “เป็นเพราะน้องห้าทำอะไร? หรือว่าเจ้าได้ยินอะไรมา?”เวินอวี้จือที่รู้สึกหงุดหงิดเล็กน้อย หยุดการกระทำในมืออีกครั้ง“ก็ได้ ในเมื่อพี่ใหญ่อยากรู้ เช่นนั้นข้าก็จะบอกท่าน แต่เรื่องนี้ข้าจะพูดเพียงครั้งเดียวเท่านั้น ต่อไปอย่าได้พูดถึงเรื่องนี้ต่อหน้าข้าอีก”“ได้ เจ้าพูดมา”เวินฉางอวิ้นพยักหน้ารับเวินอวี้จือจึงกล่าวอย่างเย็นชา “เมื่อก่อนท่าทีที่ข้ามีต่อเวินซื่อนั้นก็ไม่ใช่แบบนี้จริงๆ เพราะตอนนั้นข้าป่วยบ่อย นางก็คอยดูแลข้าอยู่ที่บ้านเป็นประจำ ตามหลักแล้ว ความสัมพันธ์ระหว่างเราสองคนควรจะดีพอสมควร แต่น่าเสียดาย ที่คนบางคนทำเหมือนจริง แต่ใจกลับไม่จริง”“ใจไม่จริงอะไร?”เวินฉางอวิ้นเอ่ยถามด้วยความสงสัยในตอนนั้นเอง เวินอวี้จือเงยหน้าขึ้นมอ

  • หลังบวชชี บรรดาท่านพี่ก็อ้อนวอนให้ข้าสึก   บทที่ 449

    “คำพูดของเจ้าช่างเหลวไหลสิ้นดี!”เวินฉางอวิ้นมองเขาอย่างไม่อยากจะเชื่อสายตา “อะไรคือการมองว่าเจ้าเป็นคนปกติ? พวกเราพี่น้อง ใครบ้างที่ไม่มองว่าเจ้าเป็นคนปกติ? อีกอย่าง ถ้าน้องห้ารังเกียจเจ้าจริง จะดูแลเจ้ามานานขนาดนั้นได้อย่างไร? นางไม่มีความดีความชอบก็ต้องมีความเหนื่อยยากบ้างกระมัง แต่นี่กลับแลกกับความรู้สึกของเจ้าไม่ได้สักนิดเลยหรือ?”“ข้าบอกแล้วว่า ข้าก็ไม่ได้รังเกียจนาง เพียงแต่มันก็แค่นั้น นี่ก็ถือว่าเห็นแก่ที่นางดูแลข้ามานานขนาดนั้นแล้ว”เวินอวี้จือกล่าวอย่างเย็นชา น้ำเสียงราวกับเป็นการให้ทานเวินฉางอวิ้นก็ทนฟังต่อไปไม่ไหวแล้ว“เจ้ามัน...เจ้ามันเกินเยียวยาจริงๆ !”ด้วยความโกรธ เวินฉางอวิ้นจึงสะบัดแขนเสื้อแล้วเดินจากไป“พี่ใหญ่ ยาของท่าน...”เวินอวี้จือตะโกนเรียกเขาจากด้านหลังน่าเสียดายที่เวินฉางอวิ้นเดินออกไปอย่างรวดเร็ว ไม่หันกลับมามองและออกจากเรือนเล็กของเขาไปแล้วเวินอวี้จือถือยาในมือ ขมวดคิ้วเล็กน้อยเขาไม่เข้าใจเขาพูดความจริงทั้งหมดแท้ๆ แต่เหตุใดพี่ใหญ่ถึงต้องคอยช่วยพูดแทนเวินซื่อนั่น?คนที่ควรจะรู้สึกน้อยใจไม่ควรจะเป็นเขาหรอกหรือ?เวินอวี้จือยืนอยู่ที่เดิม คร

  • หลังบวชชี บรรดาท่านพี่ก็อ้อนวอนให้ข้าสึก   บทที่ 450

    “อืม นอกจากชาวนาผู้เช่าที่ดินแล้ว ให้จ้างองครักษ์เพิ่มด้วย จัดวางไว้ทุกที่ หลังจากนี้ หากเกิดเรื่องทำลายแปลงสมุนไพรแบบคราวก่อนอีก ไม่ว่าจะเป็นใคร ก็จับตัวส่งทางการได้เลย”“ขอรับ คุณหนูวางใจเถิด บ่าวได้คัดเลือกกลุ่มแรกไว้แล้ว อีกไม่นานก็จะสามารถจัดคนลงไปได้”ประสิทธิภาพในการทำงานของพ่อบ้านหลานนั้นยอดเยี่ยมจริงๆหลังจากฟังเรื่องทั้งหมดแล้ว เวินซื่อก็แสร้งทำเป็นไปที่ห้องครัวเล็ก จากนั้นก็ถือถังใบหนึ่งเดินออกมา“ในนี้คือยาน้ำที่ข้าปรุงขึ้น หลังจากเจือจางแล้วนำไปรดในแปลงสมุนไพรทั้งหมด จะสามารถเพิ่มอัตราการรอดและสรรพคุณทางยาของสมุนไพรได้”ครึ่งหนึ่งของสิ่งที่อยู่ในถังไม้นั้นคือ น้ำทิพย์จากลำธารในมิติของนางเพื่อตบตาผู้คน นางได้ปรุงยาน้ำที่ช่วยรักษาสมุนไพรขึ้นมาจริงๆ เมื่อผสมกับน้ำทิพย์แล้ว ก็กลายเป็นน้ำสีเขียวเข้ม ดูแล้วไม่มีปัญหาใดๆ เลย“ขอรับ คุณหนูวางใจเถิด”ก่อนที่พ่อบ้านหลานจะจากไป เวินซื่อก็นึกอะไรขึ้นมาได้ จึงเอ่ยกำชับ “ส่งคนไปจับตาดูความเคลื่อนไหวของจวนเจิ้นกั๋วกง หากมีอะไรผิดปกติให้รีบมารายงานทันที”“ขอรับ!”หลังจากนั้น พ่อบ้านหลานก็ถือถังน้ำนั้นออกไปแทบจะทันทีที่พ่อบ้าน

  • หลังบวชชี บรรดาท่านพี่ก็อ้อนวอนให้ข้าสึก   บทที่ 451

    ท่านั่งม้าเป็นขั้นพื้นฐานที่สุดอย่างแท้จริงแต่เวินซื่อเพิ่งย่อลงได้ไม่ถึงหนึ่งเค่อ ขาทั้งสองก็เริ่มปวดมากแล้ว“ยังทนไหวหรือไม่?”เป่ยเฉินหยวนสังเกตเห็นเหงื่อบาง ๆ บนใบหน้าของนาง จึงเอ่ยถามออกไป“ไหว”เวินซื่อกัดฟันพูดเป่ยเฉินหยวนพยักหน้า และไม่ได้เกลี้ยกล่อมให้นางยอมแพ้เช่นกันจับตาดูการเคลื่อนไหวของเวินซื่อต่อไป เมื่อใดที่นางทนไม่ไหวเอนเอียงไปจะคอยจับให้นางกลับไปอยู่ในท่าที่ถูกต้อง พร้อมกับคอยสังเกตสีหน้าของนางไปด้วยรอจนกระทั่งใกล้จะครบเวลาหนึ่งเค่อในครั้งที่สอง เป่ยเฉินหยวนก็พูดขึ้นอีกครั้ง “ยังทนไหวหรือไม่?”เวินซื่อยกแขนทั้งสองให้เสมอกัน ยังกัดฟันเช่นเคย “วะ...ไหว”แม้ว่านางจะรู้สึกว่าขาและแขนของนางแทบจะไม่ใช่ของตัวเองแล้ว แต่ดูเหมือนว่ายังสามารถยืนหยัดต่อไปได้สายตาของเป่ยเฉินหยวนฉายแววประหลาดใจเล็กน้อย จากนั้นก็พยักหน้าอีกครั้งจนกระทั่งใกล้ครบหนึ่งเค่อครั้งที่สาม คราวนี้เป่ยเฉินหยวนไม่ได้ถามอีก แต่พูดกับนางโดยตรง “พอแล้ว พักก่อนเถอะ”ในเวลานี้เวินซื่อที่เหงื่อชุ่มเต็มหน้าแต่ยังอยากทำต่อ “ข้ายังไหว...”“ไม่ได้”เป่ยเฉินหยวนยกมือเคาะศีรษะของนางเบา ๆ “ใจร้อนจะทำให

  • หลังบวชชี บรรดาท่านพี่ก็อ้อนวอนให้ข้าสึก   บทที่ 452

    วันรุ่งขึ้นหลังจากเวินซื่อทำวัตรเช้าเสร็จแล้วก็บอกกล่าวอาจารย์ม่อโฉว แล้วนำของขวัญสองชิ้นลงจากภูเขามุ่งหน้าไปยังเมืองหลวงเดิมทีเป่ยเฉินหยวนตั้งใจจะส่งรถม้ามารับ แต่ถูกเวินซื่อปฏิเสธมีรถม้าคันเล็กอยู่แล้ว เหตุใดต้องไปรบกวนอ๋องผู้สำเร็จราชการแทนอีกดังนั้นเวินซื่อพร้อมด้วยเสี่ยวหาน ทั้งสองไม่ได้เรียกแม้แต่สารถี แต่นั่งรถม้าเข้าไปในเมืองหลวงอย่างช้า ๆ เช่นนี้“นี่ ๆ ชุยซื่อจื่อรีบมองลงไปข้างล่าง!”ริมถนนที่พลุกพล่าน ชั้นบนของร้านอาหารแห่งหนึ่ง คุณชายผู้หนึ่งกำลังหมอบอยู่ที่ขอบหน้าต่างมองออกไปข้างนอกและเห็นอะไรบางอย่างในทันใด จึงรีบดึงเสื้อของชุยเส้าเจ๋อที่อยู่ข้างกายชุยเส้าเจ๋อกำลังดื่มสุราของเขาอยู่ เมื่อถูกคนดึงเสื้ออย่างฉับพลัน เขาก็พูดอย่างรำคาญใจ “เฮ้อ ทำอะไรน่ะ ไม่เห็นหรือว่ากำลังดื่มสุราอยู่ ดูสิ ถูกเจ้าทำหกหมดแล้ว”“สวรรค์ เป็นนางจริง ๆ! เฮ้อ ชุยซื่อจื่อท่านหยุดดื่มได้แล้ว รีบมาดูเร็วเข้า!”“คนข้างล่างนั่นเหมือนจะเป็นธิดาศักดิ์สิทธิ์ฝูหมิง อดีตคู่หมั้นของท่านคนนั้น!”ทันทีที่คำพูดของคุณชายผู้นั้นดังขึ้น สองตาที่ตื่นเต้นดีใจของบรรดาคุณชายคนอื่น ๆ ในห้องส่วนตัวสว่างไสวขึ

  • หลังบวชชี บรรดาท่านพี่ก็อ้อนวอนให้ข้าสึก   บทที่ 453

    “โธ่เจ้าดูสิ นี่ก็โมโหแล้วหรือ?”“อย่าโมโหเลยนะ อย่าโมโหเลย เป็นพี่น้องกันทั้งนั้น แค่ล้อเล่นกัน พูดเล่นกันเท่านั้นเอง”“ใช่แล้วชุยซื่อจื่อ ถ้าไม่จริง แล้วจะโมโหไปทำไมเล่า?”คุณชายทั้งหลายส่งสายตาให้กัน ผลัดกันพูดประโยคแล้วประโยคเล่าจนทำให้ชุยเส้าเจ๋อพูดไม่ออกชุยเส้าเจ๋อเอ่ยอย่างขุ่นเคือง “มันไม่จริงอยู่แล้ว แต่ใครใช้ให้พวกเจ้าพูดจาสุ่มสี่สุ่มห้าที่นี่ล่ะ!”“หากยังกล้าพูดจาส่งเดชกับข้าอีกคำเดียว ก็อย่าหาว่าข้าไม่เกรงใจพวกเจ้า!”“นี่ ชุยเส้าเจ๋อ ก็บอกแล้วว่าพูดเล่นไปอย่างนั้นเอง ท่านใส่อารมณ์ขนาดนี้ทำไมกัน?”“ก็ใช่น่ะสิ”“ใครใช้ให้เมื่อครู่ท่านมองแวบเดียวก็หันหน้าหนีไปเล่า มันก็เลยทำให้ทุกคนเข้าใจผิดอย่างไรล่ะ”“ถ้ามันไม่จริง เช่นนั้นท่านก็พิสูจน์ให้พวกเราดูสิ”“ใช่แล้ว อันที่จริงตอนนี้หนึ่งในนักแสดงนำก็อยู่ข้างล่างมิใช่หรือ?”คนกลุ่มหนึ่งกำลังส่งเสียงเอะอะอยู่ตรงนั้นชุยเส้าเจ๋อที่เห็นเวินซื่อก็อารมณ์เสียอยู่แล้ว ตอนนี้ยิ่งรู้สึกแย่ลงไปอีกเขากลอกตาใส่สหายเลวทรามกลุ่มนี้ “อย่าคิดว่าข้าไม่รู้ว่าพวกเจ้าแค่ต้องการล้อเลียนข้า พิสูจน์หรือไม่พิสูจน์อะไรกัน ข้าจำเป็นต้องพิสูจน์ก

  • หลังบวชชี บรรดาท่านพี่ก็อ้อนวอนให้ข้าสึก   บทที่ 454

    หลังจากพูดจบ ชุยเส้าเจ๋อก็ส่งเสียงฮึดฮัดอยู่ภายในใจเขาเพียงฟังดูด้วยความอยากรู้เท่านั้น เพราะถึงอย่างไรเขาก็ไม่ใช่คนโง่เขลาล้วนเป็นสหายเลวทรามทั้งสิ้น ยังคิดได้อีกหรือว่าคำแนะนำของพวกเขานั้นเป็นการหวังดีกับเขาจริง ๆ?ชุยเส้าเจ๋อคิดกับตัวเองเช่นนี้ สหายเลวคนหนึ่งที่อยู่ข้าง ๆ ก็เอนตัวเข้ามาที่ห้างหูของเขา พลางกระซิบบอกเขาไม่กี่คำในตอนแรกชุยเส้าเจ๋อมีท่าทีไม่ได้สนใจมากนักแต่หลังจากที่เขาฟังจนจบ เขาก็เบิกตากว้างขึ้นทันใด ดวงตาทั้งสองเป็นประกายเล็กน้อย ท่าทางเหมือนกำลังครุ่นคิดอะไรบางอย่าง“ว่าอย่างไร? ชุยซื่อจื่ออยากลงไปลองดูไหม?”คุณชายผู้นั้นสังเกตเห็นการเปลี่ยนแปลงของการแสดงออกบนใบหน้าของชุยเส้าเจ๋อ ก่อนจะแย้มยิ้มกล่าวขึ้นอย่างประสงค์ร้ายทันทีหลังจากชุยเส้าเจ๋อลังเลอยู่ครู่หนึ่ง ก็หันไปมองรถม้าเล็กคันนั้นที่จอดอยู่ริมถนนด้านล่างแวบหนึ่ง ไม่รู้ว่าคิดถึงสิ่งใด รอยแค้นฉายผ่านในดวงตา ก่อนจะเอ่ยขึ้น...“ไป ลงไปดูกัน”“ได้เลย!”“ไป ๆ ๆ!”“ลงไปดูอะไรสนุก ๆ กัน!”ทันทีที่ชุยเส้าเจ๋อเอ่ยปาก พวกคุณชายเหล่านั้นก็หัวเราะเฮฮาตามไปทันทีบนท้องถนนในเวลานี้รถม้าคันเล็กจอดอยู่ทางด้

  • หลังบวชชี บรรดาท่านพี่ก็อ้อนวอนให้ข้าสึก   บทที่ 455

    “คุณชายหลี่ แม่ชีจำได้ว่ากับท่านน่าจะไม่มีความคับข้องใจหรือข้อพิพาทใด ๆ ต่อกันกระมัง? ไม่ทราบว่าวันนี้ท่านเล่นอะไรกะทันหันแบบนี้หมายความว่าอย่างไร?”หลี่เหลียงเซิงเห็นว่านางจำได้แล้ว จึงปัดฝุ่นบนเสื้อผ้า พลางหัวเราะแหะ ๆ “ธิดาศักดิ์สิทธิ์อย่าได้ถือสา ข้าน้อยเพียงเลื่อมใสศรัทธาธิดาศักดิ์สิทธิ์ อยากจะพูดคุยกับธิดาศักดิ์สิทธิ์จริง ๆ แต่ก็กลัวว่าธิดาศักดิ์สิทธิ์จะปฏิเสธ จึงได้ใช้วิธีการอันโง่เขลานี้”หลี่เหลียงเซิง หลานชายของใต้เท้าฉีเสนาบดีกรมคลังเป็นคุณชายสกุลฉี และเป็นญาติผู้น้องของฉีเซิ่งด้วยนางจำได้ว่าคนผู้นี้เมื่อก่อนเหมือนกับฉีเซิ่ง มักจะคลุกคลีอยู่กับชุยเส้าเจ๋อดังนั้นนางจึงพอมีภาพจำอยู่บ้างแต่ต่อมาฉีเซิ่งก็แยกตัวจากชุยเส้าเจ๋อ แต่ดูหลี่เหลียงเซิงผู้นี้สิ…สายตาของเวินซื่อกวาดไปรอบ ๆ ไม่นานก็เห็นเงาร่างตะคุ่ม ๆ หลายร่าง หนึ่งในนั้นชัดเจนเป็นพิเศษแสร้งทำเป็นยืนอยู่ตรงนั้น เหมือนไม่มีใครจำความงุ่มง่ามของเขาได้“แล้วอย่างไรต่อ?”เวินซื่อชายตามองหลี่เหลียงเซิงแวบหนึ่งอย่างเฉยชา “หลังจากฉกชิงรถม้าของแม่ชีไปแล้ว ยังวางแผนว่าจะร่วมมือกับชุยซื่อจื่อกลั่นแกล้งแม่ชีอย่างไรอีกห

Bab terbaru

  • หลังบวชชี บรรดาท่านพี่ก็อ้อนวอนให้ข้าสึก   บทที่ 562

    “อ๊า!”ในยามวิกาล ไม่ว่าใครก็ตามที่จู่ๆ ได้มาเห็นภาพเช่นนี้ ย่อมตกใจจนขวัญหนีดีฝ่ออันหลันซินก็เป็นเช่นนั้น ตกใจเสียจนกรีดร้องออกมา ทั้งคนหงายหลังล้มลงไปกองกับพื้น ศีรษะยังกระแทกเข้ากับโต๊ะอีกด้วยเสียงดังโครมครามทำให้คนที่เฝ้าอยู่ด้านนอกเข้ามาทันที“ปัง!”“เกิดอะไรขึ้น?!”สาวใช้และองครักษ์หลายคนพังประตูเข้ามา เมื่อเห็นอันหลันซินล้มลงไปกองอยู่กับพื้น พวกเขาก็รีบกวาดตามองไปรอบๆ ทันที แต่น่าเสียดายที่กลับไม่พบสิ่งผิดปกติใดๆ“ผะ...ผี! มีผีอยู่บนหลังคา!”อันหลันซินในเวลานี้ยังคงคิดว่านั่นเป็นผีจริงๆ ตกใจเสียจนไม่กล้ามองอีก ได้แต่ยกมือขึ้นชี้ไปยังหลังคาอย่างสั่นเทาแต่เมื่อเหล่าสาวใช้และองครักษ์เงยหน้ามองขึ้นไป กลับไม่เห็นสิ่งใดเลยเหล่าองครักษ์ถึงกับออกไปข้างนอก แล้วปีนขึ้นไปตรวจดูบนหลังคาโดยตรงแต่กลับไม่พบอะไรเลยเหล่าสาวใช้และองครักษ์ที่คอยจับตาดูอันหลันซินต่างพากันคิดไปว่า นี่คงเป็นกลอุบายอะไรสักอย่างที่อันหลันซินคิดขึ้นมาเพื่อหลอกตาการเฝ้าระวังของพวกเขา ดังนั้น แต่ละคนจึงแสดงสีหน้าเย็นชา“คุณหนูอัน ทางที่ดีท่านควรจะสงบเสงี่ยมหน่อย อย่าเล่นลูกไม้อะไรอีก มิฉะนั้นพวกเราจะทำต

  • หลังบวชชี บรรดาท่านพี่ก็อ้อนวอนให้ข้าสึก   บทที่ 561

    “รอข้า อาซื่อ ข้าจะกลับไปหาเจ้าอย่างแน่นอน”“พวกสารเลวสมควรตายพวกนั้น อย่าหวังว่าจะมาขวางข้าได้!”ก่อนหน้านี้ อันหลันซินพอนึกถึงหลินเนี่ยนฉือทีไร ก็แทบอยากจะถลกหนังนาง ดื่มเลือดนางเสียให้รู้แล้วรู้รอดตอนนี้ นางก็มีคนที่เกลียดชังในระดับเดียวกันเพิ่มขึ้นมาอีกคนแล้วนั่นก็คือเป่ยเฉินหยวน!บุรุษสารเลวสมควรตายผู้นั้น!กล้ามาหลอกลวงนาง แถมยังกล้าโยนนางมาทิ้งที่ลู่โจวอีกกระทั่งสั่งให้หนิงหย่วนโหวผู้นั้นส่งคนมาคอยจับตาดูนางตลอดเวลาอีก!หากไม่ใช่เพราะการจัดการเหล่านี้ของเขา ป่านนี้นางกลับไปหาอาซื่อได้ตั้งนานแล้วแต่เป็นเพราะเขา อันหลันซินหนีไปได้ครั้งหนึ่งก็ถูกจับกลับมาครั้งหนึ่ง หนีไปสิบครั้งก็ถูกจับกลับมาสิบครั้ง!ทุกครั้งยังไม่ทันหนีพ้นเขตลู่โจว ก็ถูกหนิงหย่วนโหวผู้นั้นส่งคนมาตามจับตัวกลับไปอีก!ไม่ว่าจะเป็นไอ้สารเลวที่ชอบยุ่งไม่เข้าเรื่องคนนี้ หรือไอ้บุรุษชั่วช้าที่กล้าหลอกลวงนางก็ตาม ล้วนสมควรตาย สมควรตาย สมควรตาย!แต่แน่นอนว่าคนที่นางเกลียดที่สุดก็ยังคงเป็นหลินเนี่ยนฉือกล้าฉวยโอกาสตอนที่นางไม่อยู่ข้างกายอาซื่อ กลับเมืองหลวงไปอย่างกะทันหัน!ตอนนี้ อันหลันซินพอนึกขึ้นได้ว่า

  • หลังบวชชี บรรดาท่านพี่ก็อ้อนวอนให้ข้าสึก   บทที่ 560

    นางย่อมรู้อยู่แล้วว่าตัวเองไม่เหมาะกับการเข้าวัง แต่สกุลหลินต้องการโอกาสเช่นนี้อีกทั้ง…หลินเนี่ยนฉือมองเวินซื่อที่นั่งอยู่ข้างเตียง นางเม้มปากเบาๆผู้หญิงแปดในสิบทั่วหล้าล้วนอยากเป็นฮองเฮาอย่างไรก็ตามนั่นเป็นถึงมารดาแห่งแผ่นดินแต่อยากเป็นฮองเฮาก็ต้องเสียสละหลายสิ่งหลายอย่าง ซึ่งอย่างแรกก็คืออิสระและเดิมทีนางก็เป็นที่ใฝ่หาความอิสระแต่ถ้าหากสามารถใช้อิสระของตัวเองแลกกับโอกาสที่ตระกูลจะได้กลับคืนสู่เมืองหลวง และสิทธิ์ในการปกป้องคนที่อยากปกป้อง เช่นนั้นนางก็ยินดีทิ้งอิสระของตัวเองดังนั้นแม้หลินเนี่ยนฉือจะบ่นต่อหน้าเวินซื่อมากมาย แต่กลับไม่เคยพูดว่าไม่อยากเป็นฮองเฮานางรู้ดี อาซื่อต้องยืนข้างนางแน่นอนแต่นางไม่อยากให้อาซื่อเป็นห่วงนางทำได้ก็แค่อิสรภาพเล็กน้อย ไม่มีอะไรที่เสียสละไม่ได้หลินเนี่ยนฉือคิดเช่นนี้ และยิ่งหนักแน่นในความคิดของตัวเองเวินซื่อหันกลับไปมองตาของนาง แม้หลินเนี่ยนฉือไม่อยากให้นางเป็นห่วง แต่นางจะไม่ห่วงเพื่อนที่ดีที่สุดของตัวเองได้อย่างไร?ก็เพราะรู้จักนางดี ดังนั้นจึงยิ่งเป็นห่วงแต่สิ่งที่เวินซื่อไม่รู้คือ ยังเร็วเกินไปที่จะกังวลเรื่องพวกนี้ เพ

  • หลังบวชชี บรรดาท่านพี่ก็อ้อนวอนให้ข้าสึก   บทที่ 559

    เวินซื่อมองสีหน้าพ่อบ้านหลานแวบหนึ่ง หลังจากนั้นถอนหายใจเบาๆหลังจากเยี่ยมชมหอหนังสือ สถานที่สุดท้ายที่พ่อบ้านหลานพานางมาคือโถงบรรพชนของสกุลหลานทันทีที่เข้าไปข้างใน พ่อบ้านหลานก็ทนไม่ไหวอีกต่อไป เขาทิ้งตัวคุกเข่าลงพื้น ก็โขกศีรษะ ‘ปังๆๆ’ แรงๆ“นายท่าน ฮูหยิน ฮูหยินผู้เฒ่า…บ่าวกลับมาแล้ว!”“บ่าวพาคุณหนูกลับมาแล้ว!”คุณหนูน้อย ลูกสาวของคุณหนู สายเลือดของสกุลหลานนางจะสืบทอดสกุลหลาน กลายเป็นผู้นำตระกูลรุ่นต่อไปของสกุลหลาน! พ่อบ้านหลานบอกคนสกุลหลานอย่างสะอึกสะอื้นในใจ บอกทุกอย่างที่เกี่ยวข้องกับเวินซื่อสุดท้ายพ่อบ้านหลานกล่าวในใจ ‘นายท่าน ฮูหยิน ฮูหยินผู้เฒ่า มีคุณหนูน้อยอยู่ พวกท่านสามารถตายตาหลับแล้ว’เดิมทีเวินซื่อเดินเข้าไปอยากจุดธูป แต่เมื่อมองไปที่โต๊ะ ทุกอย่างชื้นจนขึ้นราหมดแล้วจุดธูปไม่ได้แล้วเวินซื่อหมุนกายไปคุกเข่าลงบนฟุกที่อยู่หน้าโต๊ะป้ายวิญญาณ หลังจากโขกศีรษะเหมือนพ่อบ้านหลาน นางค่อยๆ ลุกขึ้น มองดูป้ายวิญญาณเหล่านั้น พูดเพียงประโยคเดียว…“หวังว่าท่านบรรพชนทั้งหลายจะคุ้มครองหลานสาว สามารถเปลี่ยนแซ่อย่างราบรื่น รอหลังจากเปลี่ยนแซ่เวินเป็นแซ่หลาน สกุลหลานก็มีลูกส

  • หลังบวชชี บรรดาท่านพี่ก็อ้อนวอนให้ข้าสึก   บทที่ 558

    ทั้งสองคนหนึ่งหมุนกายก็วิ่ง ส่วนอีกคนชักดาบไล่ตามขณะที่กำลังจะตามทันอยู่แล้ว จู่ๆ ก็มีสุนัขดุหลายตัวกระโจนใส่เป่ยเฉินหยวนวินาทีต่อมา เสียง “ฉึก” ดังขึ้นหลายครั้ง…หัวสุนัขหลายตัวหล่นลงพื้นหลังจากจัดการสุนัขดุพวกนั้นแล้ว ตอนที่เป่ยเฉินหยวนเงยหน้าอีกครั้ง กู่อี้ซานก็ได้หนีหายไปอย่างไร้ร่องรอยแล้วส่วนลูกน้องที่เหลือสามคนของเขา สองคนโดนฆ่า อีกคนโดนธนูยิงท้อง ล้มอยู่บนพื้น อยู่ห่างจากความตายไม่ไกลก็หลังจากกองทัพธงดำจัดการสุนัขดุพวกนั้นหมดแล้ว เกาเย่าเข้าไปจับตัวคนต่างแคว้นที่เหลือเพียงหนึ่งเดียวด้วยสีหน้าเคร่งขรึม แล้วยื่นมือไปถอดหน้ากากของอีกฝ่าย“ท่านอ๋อง เป็นผู้หญิงต่างแคว้น”แม้ใบหน้าของอีกฝ่ายถูกทำลายนานแล้ว แต่เมื่อลองสังเกตรายละเอียดต่างๆ ก็สามารถระบุเพศของอีกฝ่ายได้สีหน้าเป่ยเฉินหยวนเย็นชากว่าเขาเสียอีก เสียงก็เย็นราวกับน้ำค้างแข็ง ออกคำสั่งอย่างความไร้ปรานี “พากลับไป ทรมานจนกว่าจะพูด”“ขอรับ!”หนีไปได้หนึ่งคนไม่เป็นไร อย่างไรเสียสายลับจากต่างแดนในเมืองหลวงถูกเขาฆ่าจนเหลือแค่ไม่กี่คนแล้วต่อให้กู่อี้ซานหนีไปได้ ก็ไม่สามารถทำให้เกิดคลื่นลูกใหญ่ใดๆเขาแค่กำลังคิดว

  • หลังบวชชี บรรดาท่านพี่ก็อ้อนวอนให้ข้าสึก   บทที่ 557

    สีหน้าที่อยู่ใต้หน้ากากของกู่อี้ซานไม่มีการเปลี่ยนแปลงใดๆ และตอบกลับด้วยน้ำเสียงที่สงบ “ไม่รู้ว่าที่อ๋องผู้สำเร็จราชการแทนพูดหมายความว่าอย่างไร สายลับเมื่อยี่สิบกว่าปีก่อนอะไร พวกเราไม่เคยมี”ไม่ต้องให้เป่ยเฉินหยวนพูด วินาทีต่อมาก็มีลูกธนูแหวกอากาศพุ่งเข้ามาอีกครั้ง“ฟิ้ว!”ครั้งนี้กู่อวี้ซานที่เตรียมตัวไว้ก่อนแล้ว หลบลูกธนูพ้นโดยตรง วินาทีต่อมา ลูกน้องที่อยู่ข้างหลังเขาก็กรีดร้อง“อ๊า!”กู่อี้ซานหันกลับไปมอง ลูกน้องโดนยิงตายอีกหนึ่งคนสีหน้ากู่อี้ซานดูน่าเกลียดมาก“ขอแนะนำว่าคิดให้ดีก่อนค่อยตอบ ไม่เช่นนั้นตอบผิดหนึ่งครั้ง ลูกน้องของเจ้าก็จะน้อยลงหนึ่งคน”เกาเย่ากวาดมองคนที่เหลือแวบหนึ่ง ยิ้มอย่างเย้ยหยัน “รอทุกคนตายหมดแล้ว เจ้าก็ต้องไปพบกับพวกเขาแล้ว”“ต่ำช้าไร้ยางอาย!”กู่อี้ซานกัดฟันกล่าวด่าทอแต่ปรากฏว่า…“ฉึก!”“อ๊า!”ตายอีกคนม่านตาของกู่อี้ซานที่ด่าหนึ่งคนก็ตายหนึ่งคนหดฉับพลัน เกาเย่าถอนหายใจ “บอกแล้วไม่ใช่หรือ คิดให้ดีก่อนค่อยตอบ”กู่อี้ซานกำหมัดแน่นทันทีตอนนี้ข้างหลังเขาเหลือแค่ลูกน้องสามคนแล้วทั้งสามก้าวถอยหลังด้วยความกลัว ขณะเดียวกันก็มองไปทางหัวหน้าข

  • หลังบวชชี บรรดาท่านพี่ก็อ้อนวอนให้ข้าสึก   บทที่ 556

    ทันทีที่เวินซื่อไป เวินเฉวียนเซิ่งก็รีบเชิญหมอหลวงหลี่และหมอหลวงอีกหลายท่านมาขอพวกเขาช่วยยื้อชีวิตเวินฉางอวิ้นให้ผ่านสองชั่วยามนี้ด้วยทุกวิถีทางโชคดีที่หมอหลวงหลี่และคนอื่นก็ไม่ได้มีแค่ชื่อด้วยความร่วมมือของพวกเขา เวินฉางอวิ้นที่เดิมทีขาข้างหนึ่งได้ก้าวเข้าสู่ประตูนรกแล้ว ก็โดนพวกเขายื้อชีวิตได้เกินสองชั่วยามจนได้และโชคดีที่ครั้งนี้เวินซื่อไม่ได้หลอกเวินเฉวียนเซิ่งหลังจากนั้นสองชั่วยาม ยาถูกส่งมาได้อย่างทันเวลาพอดีหมอหลวงหลี่เปิดกล่อง หลังจากเห็นบัวหิมะที่อยู่ในนั้นก็หันไปพยักหน้าให้เวินเฉวียนเซิ่งแต่เวินเฉวียนเซิ่งยังไม่วางใจ “ลองตรวจบัวหิมะนี่ก่อน”เห็นได้ชัดว่าเขากลัวเวินซื่อทำอะไรกับบัวหิมะนี่ผลลัพธ์ยังคงเป็นเช่นเดิม…“ไม่มีปัญหา สามารถใช้ได้”หมอหลวงคนอื่นพากันโล่งอก “เช่นนั้นก็ดี รีบเอาบัวหิมะนี่ไปทำยาเถอะ เสียเวลาไม่ได้แล้ว!”เพื่อให้บัวหิมะที่หามาด้วยความยากลำบากนี้มีประสิทธิภาพสูงสุด หมอหลวงทั้งหลายแทบจะต้มยาด้วยตัวเองหลังจากนั้นก็นำยาไปป้อนให้เวินฉางอวิ้นอย่างระมัดระวัง“ใต้เท้าเจิ้งกั๋วกง ตอนนี้มียาที่ใส่บัวหิมะนี้ เพียงพอที่จะยืดเวลาให้คุณชายใหญ่อีกสั

  • หลังบวชชี บรรดาท่านพี่ก็อ้อนวอนให้ข้าสึก   บทที่ 555

    ไม่ว่าจะอย่างไร เขาก็ตัดสินใจไม่ได้สักทีดังนั้นจึงยิ่งรู้สึกผิดต่อเวินเยวี่ย ก็เลยตามใจนางจนถึงทุกวันนี้เวินเฉวียนเซิ่งกล่าวด้วยสีหน้าที่ไร้อารมณ์ “เจ้ามองออกทุกอย่าง ดังนั้นเจ้าจึงเอายาในมือของเจ้ามาขู่ข้าครั้งแล้วครั้งเล่า เจ้าคิดว่าข้าไม่สามารถหายาอย่างอื่นได้แล้วจริงๆ หรือ?”“ใต้เท้าเจิ้นกั๋วกงเป็นคนกว้างขวาง ย่อมสามารถหายาอย่างอื่นนอกจากที่ข้ามี แต่ท่านยังมีเวลาหรือไม่?”แทบจะทันทีที่สิ้นเสียงของเวินซื่อ เสียงรายงานที่ตื่นตระหนกของพ่อบ้านดังมาจากข้างหลังเวินเฉวียนเซิ่ง…“แย่แล้ว แย่แล้ว! ท่านกั๋วกง คุณชายใหญ่อาเจียนเลือดอีกแล้ว!”“ท่านกั๋วกง ท่านรีบไปดูหน่อยเถอะ เกรงว่าคุณชายใหญ่น่าจะทนได้อีกไม่นานแล้ว!”ยันต์เร่งชีวิต กำลังเร่งชีวิตของเวินฉางอวิ้น ขณะเดียวกันก็เร่งชีวิตของเวินเฉวียนเซิ่งด้วย เขาเวลานี้ราวกับเข้าใจความรู้สึกของเจ้าสามที่ตัดสินใจก่อนหน้านี้ทันทีสำหรับเวินซื่อที่อยู่ตรงหน้า เขารู้สึกถึงแรงกดดันอย่างรุนแรงนางเป็นแค่เด็กผู้หญิงตัวเล็กๆและยังเคยเป็นลูกสาวของเขาแต่ตอนนี้กลับเทียบได้กับพวกจิ้งจอกเฒ่าในราชสำนักไม่สิ บางทีอาจต้องพูดว่านางเทียบได้กับเขา

  • หลังบวชชี บรรดาท่านพี่ก็อ้อนวอนให้ข้าสึก   บทที่ 554

    สีหน้าเวินเฉวียนเซิ่งไร้อารมณ์แทบจะทันทีที่หลังจากเวินซื่อกล่าวคำพูดประโยคนั้น อากาศระหว่างทั้งสองหยุดนิ่งโดยตรงเวินซื่อไม่ได้พูดอะไรอีกเวินเฉวียนเซิ่งก็ไม่ได้พูดเขาเอาแต่จ้องเวินซื่อด้วยสายตาเย็นชาผ่านไปครู่หนึ่งเวินเฉวียนเซิ่งจึงจะกล่าวอย่างใจเย็น “เจิ้นกั๋วกงให้กำเนิดเจ้า เลี้ยงเจ้า ต่อให้ข้ากับพวกพี่ชายของเจ้าทำผิดไปบ้าง แต่บุญคุณให้กำเนิดยิ่งใหญ่กว่าดิน บุญคุณเลี้ยงดูยิ่งใหญ่กว่าฟ้า เจ้าจะเปลี่ยนแซ่ เจ้าไม่รู้สึกผิดต่อข้า ไม่รู้สึกผิดต่อพวกพี่ๆ ของเจ้า และบรรพชนของสกุลเวินหรือ?”เวินเฉวียนเซิ่งอ้าปากก็บุญคุณให้กำเนิดและเลี้ยงดู หวังใช้บุญคุณกดดันนางแต่เวินซื่อกลับตอบเขาอย่างสงบ “ผู้ที่มีบุญคุณให้กำเนิดของข้าคือท่านแม่ หลานจื่อจวินอดีตคุณหนูใหญ่ของสกุลหลาน ดังนั้นต่อให้ข้าออกมาจากสกุลเวิน เหตุใดถึงไม่สามารถเปลี่ยนเป็นแซ่หลาน?”“อย่าลืมเสียล่ะ ก่อนหน้านี้ท่านเจิ้นกั๋วกงยังตั้งใจว่าจะไม่ให้ข้าแซ่ ‘เวิน’ อีกเลย”เวินซื่อมองเวินเฉวียนเซิ่งอย่างจะยิ้มไม่ยิ้ม “ทำไม ลืมคำพูดที่ตัวเองเคยพูดเร็วเช่นนี้เลย?”เวินเฉวียนเซิ่งหัวเราะเบาๆ และแสดงสีหน้าที่เสแสร้งจอมปลอมทันที “ตอนน

Jelajahi dan baca novel bagus secara gratis
Akses gratis ke berbagai novel bagus di aplikasi GoodNovel. Unduh buku yang kamu suka dan baca di mana saja & kapan saja.
Baca buku gratis di Aplikasi
Pindai kode untuk membaca di Aplikasi
DMCA.com Protection Status