Share

บทที่ 425

Author: จิ้งซิง
“ก็ไม่ใช่เพราะท่านพ่อหรอกหรือ ตอนที่ข้าออกจากจวนเจิ้นกั๋วกง ในตัวไม่มีสักสตางค์เดียว เดิมทีคิดว่าท่านพ่อใจแคบเช่นนี้ จะยอมรับเงื่อนไขของน้องห้าได้จริง ๆ อย่างไร?”

เวินจื่อเฉินก็กล่าวเหน็บแนมในทันใด

คำพูดของเขายั่วโมโหเวินเฉวียนเซิ่งขึ้นมาทันที

“บังอาจนัก!”

เวินเฉวียนเซิ่งทุบโต๊ะ จ้องมองอย่างเวินจื่อเฉินอย่างโกรธเคือง...

“เวินจื่อเฉิน นี่คือท่าทีที่เจ้าใช้พูดกับพ่อหรือ?”

เวินจื่อเฉินยิ้มอย่างเยือกเย็น “ไม่เช่นนั้นท่านพ่ออยากให้ข้าใช้ท่าทีอย่างไรกับท่านหรือ?”

“เจ้า...!”

เวินเฉวียนเซิ่งถูกเวินจื่อเฉินยั่วโมโหจนมึนหัว ไม่ได้ซักไซ้อะไรต่อไปชั่วขณะหนึ่ง

แต่สิ่งที่ได้กลับมาก็ยังเป็นความโกรธเคืองของเวินเฉวียนเซิ่ง

“ดี เจ้าช่างกล้าพูด ในเมื่อเป็นเช่นนี้ หากเจ้าทำอะไรผิด ก็สมควรถูกลงโทษ”

เวินเฉวียนเซิ่งเบื่อจะพูดจาไร้สาระกับลูกเนรคุณคนนี้อีกต่อไป จึงหันกลับไปสั่งการว่า “ไปเอากฎประจำตระกูลมาให้ข้าเดี๋ยวนี้!”

ใครจะรู้ว่าทันทีที่เขาพูดเช่นนี้ เวินจื่อเฉินจะโต้เถียงอย่างไม่กลัวเกรงอีกครั้ง

กฎประจำตระกูลอะไร? ท่านเจิ้นกั๋วกงคงไม่ได้ลืมไปแล้วใช่ไหมว่า ข้าเวินจื่อเฉินไม่ใช่คนของจวนเจิ้นกั๋
Continue to read this book for free
Scan code to download App
Locked Chapter

Related chapters

  • หลังบวชชี บรรดาท่านพี่ก็อ้อนวอนให้ข้าสึก   บทที่ 426

    “ได้ยินแล้วหรือยัง?”เวินเฉวียนเซิ่งเอ่ยปากอย่างเย็นชา “น้องรองของเจ้าเติบโตมาในวันนี้ ปีกกล้าขาแข็งแล้ว ปรารถนาจะโบยบินออกไปข้างนอก เจ้ายังจะพูดอะไรแทนเขาอีก?”“แต่ว่า...”เวินฉางอวิ้นยังต้องการจะพูดอะไรบางอย่าง แต่ในขณะนี้เวินจื่อเฉินได้ดึงเขาไว้“พี่ใหญ่ พอแล้ว!”เวินจื่อเฉินกัดฟันพูดว่า “ข้ารู้ว่าท่านไม่อยากให้ข้าจากไป แต่ข้าทนไม่ไหวแล้วจริง ๆ”ขณะที่เขาพูดประโยคสุดท้าย ความผิดหวังและความเจ็บปวดในสายตาของเขาได้ทิ่มแท่งหัวใจของเวินฉางอวิ้นอย่างลึกซึ้งในชั่วพริบตานั้น เวินฉางอวิ้นดูเหมือนจะสูญเสียเรี่ยวแรงทั้งหมดไปเขาคอตกอย่างหมดแรง พลางหลับตาลง“เอาล่ะ..ไปเถอะ ไปเถอะ...”ไปเถอะเวินฉางอวิ้นพูดช้า ๆ ในน้ำเสียงแฝงความสะอื้นไว้เขาขอร้องแกมบังคับใช่แล้ว ตัวเขาเองก็ผิดหวังกับครอบครัวนี้มาก อย่าว่าแต่น้องชายที่ตื่นรู้ก่อนใครตอนนี้สำหรับเขาแล้ว อยู่ข้างนอกยังดีกว่าอยู่ในบ้านเสียอีกดังนั้นก็ช่างมันดีกว่าควรไปก็ไปเถอะ“ท่านพ่อ ครั้งนี้ลูกจะขอร้องท่าน ปล่อยเขาไปเถอะ อย่าลงโทษเขาเลย”เวินฉางอวิ้นก้มหัวให้เวินเฉวียนเซิ่งพลางเอ่ยขึ้นเวินเฉวียนเซิ่งมองไปที่ลูกชายคนโตของ

  • หลังบวชชี บรรดาท่านพี่ก็อ้อนวอนให้ข้าสึก   บทที่ 427

    “อืม ส่งน้องรองของเจ้าไป ตัวเองอยู่รับโทษ ความผูกพันพี่น้องพวกเจ้าช่างลึกซึ้งนัก”เวินเฉวียนเซิ่งหยิบแส้ขึ้นมาจากโต๊ะเขียนหนังสือ เดินไปหาเวินฉางอวิ้นทีละก้าว สุดท้ายก็มายืนอยู่ตรงหน้าเขา มองลงมาจากตำแหน่งสูงกว่า“ที่ผ่านมาพ่อสั่งสอนเจ้าเป็นอย่างดี”เวินฉางอวิ้นไม่ได้เงยหน้าขึ้นมอง เขารู้ว่าตัวเองจะต้องเผชิญกับอะไรต่อไป แต่เขาก็ไม่ปริปากบ่นเลยอย่างน้อยก็ส่งน้องรองไปแล้ว ต่อไปไม่ว่าจะโดนดุด่าหรือโดนทุบตี ก็มาลงที่ตัวเขาคนเดียวก็แล้วกันทันทีที่สิ้นเสียงของเขา ความปวดแสบปวดร้อนก็ส่งลงมาที่ตัวเขาในทันใด“เพียะ!”เวินเฉวียนเซิ่งสะบัดแส้ใส่ตัวเขาอย่างไม่ปรานีเขามองดูลูกชายคนโตที่ทำให้เขาผิดหวังด้วยสีหน้าเรียบเฉย พลางเอ่ยอย่างเย็นชา “แต่พ่อก็เคยสอนเจ้าว่า ให้ดูแลน้องชายน้องสาวของเจ้าให้ดี การสั่งสอนพวกเขาให้ดีก็เป็นหน้าที่ของเจ้าในฐานะพี่ชายคนโต แต่ตอนนี้เจ้าลองมองดูสิ คนนั้นคนนี้ปีกกล้าขาแข็ง ไม่เห็นครอบครัวนี้อยู่ในสายตาอีกแล้ว นึกจะไปก็ไป ซ้ำยังกล้าโต้แย้งพ่ออีก นี่น่ะหรือสิ่งที่เจ้าสั่งสอน?”เวินฉางอวิ้นคุกเข่าอยู่ที่เดิมไม่ขยับเขยื้อน นิ่งเงียบไม่พูดจาเวินเฉวียนเซิ่งเห็นเขา

  • หลังบวชชี บรรดาท่านพี่ก็อ้อนวอนให้ข้าสึก   บทที่ 428

    สุดท้ายเวินฉางอวิ้นก็ไม่ได้ถามออกไปเป็นเพราะได้ผ่านช่วงเวลาหลายวันนี้มา ที่จริงในใจเขาก็ได้คำตอบแล้วและเพราะคำตอบนั้น เขาถึงได้หลบซ่อน หลีกหนีมาตลอดแต่ตอนนี้เขาไม่อาจหลบเลี่ยงได้อีกต่อไป“...ขอครับ ข้าเข้าใจแล้ว”ท้ายที่สุดเวินฉางอวิ้นก็ชักเท้าออกจากห้องหนังสือไป พร้อมรอยแผลหลายรอยบนหลังหลังกลับมาถึงเรือนเล็ก อันเซิ่งที่เห็นว่าบนตัวเขามีเลือดออกก็ตื่นตระหนกขึ้นมาในทันใด“คุณชายใหญ่นี่ท่านโดนอะไรมา?!”“ท่านรีบเข้ามานอนเร็วขอรับ บ่าวจะไปตามหมอมาเดี๋ยวนี้!”อันเซิ่งหันหลังกำลังจะออกไปตามคน“ไม่ ไม่ต้องตามหมอหรอก”เวินฉางอวิ้นหยุดเขา แล้วพูดด้วยสีหน้าเรียบเฉย “แค่แผลจากแส้ไม่กี่รอยเท่านั้น ไม่ต้องทำเรื่องเล็กให้เป็นเรื่องใหญ่ เอายาในกล่องยามาทาสักหน่อยก็พอแล้ว”ในความคิดของเขา มันไม่ถึงขั้นต้องไปตามหมออะไรมาจริง ๆอย่างไรเสียเมื่อเทียบกับห้าสิบแส้ที่เขาฟาดน้องหญิงตนไปในคืนนั้น นี่แค่เล็กน้อยไม่กี่แส้ ไม่สลักสำคัญอะไรเลยจริง ๆแต่ในมุมมองของอันเซิ่ง กลับไม่คิดว่านี่เป็นเรื่องเล็กเลยสักนิดก่อนหน้าบนตัวคุณชายใหญ่ยังไม่มีแผลเลยแท้ ๆ นี่ออกจากเรือนเล็กไปแค่ครู่เดียว ตัวเขาก็

  • หลังบวชชี บรรดาท่านพี่ก็อ้อนวอนให้ข้าสึก   บทที่ 429

    จะว่าไปแล้ว เมื่อคืนตอนพบสมุดบัญชีเล่มนั้น หากเขาฉลาดกว่านี้สักหน่อย ไม่คืนมันกลับไปอย่างไร้สติ แต่เอามันมาเสียด้วยเลยก็น่าจะยิ่งดีเวินจื่อเฉินคิดเช่นนี้ แต่ความจริงแล้วจนถึงตอนนี้เขาก็ยังคิดไม่ออกเหมือนกันว่าควรจะจัดการกับสมุดบัญชีเล่มนั้นเช่นไรสิ่งที่ซ่อนอยู่ในสมุดบัญชีเล่มนั้น คือความลับระหว่างท่านพ่อกับสกุลหลานเขาได้รู้มาจากปากของพ่อบ้านสกุลหลาน ว่าท่านพ่อนิ่งดูดายในตอนที่เกิดเรื่องขึ้นกับฝั่งบ้านตาแต่ตอนที่เขาเห็นสมุดบัญชี สิ่งที่เขาสงสัยยิ่งไปกว่านั้นก็คือปีนั้นท่านพ่อคงไม่ได้แค่วางตัวเฉยเมยเป็นไปได้สูงว่าเขาทำอย่างอื่นลงไปด้วย และสมุดบัญชีเล่มนั้นก็อาจเป็นหลักฐานอย่างหนึ่งดังนั้นหลังจากครั้งนั้น เวินจื่อเฉินจึงได้กลับไปยังห้องหนังสือของเวินเฉวียนเซิ่งอีกครั้ง หวังจะลอบขโมยสมุดบัญชีออกมาน่าเสียดายที่แผนการล้มเหลวทว่าโชคดีที่พี่ใหญ่รวมหัวช่วยเขากลบเกลื่อนไปได้แต่ตอนนี้เขาควรจะทำเช่นไรต่อดีเล่า?เวินจื่อเฉินที่เก็บความกลัดกลุ้มไว้ในใจถอนสายตากลับ และท้ายที่สุดก็ออกเดินทางไปยังภูเขาหนานด้วยใจกังวลเวินจื่อเฉินเพิ่งจากไปได้ไม่เท่าใด ก็มีเงาคนหลายร่างสะกดรอยตามเขาไ

  • หลังบวชชี บรรดาท่านพี่ก็อ้อนวอนให้ข้าสึก   บทที่ 430

    หลังจากที่เวินจื่อเฉินเก็บเสื้อผ้าและถุงเงิน พรวดออกจากป่าไป เป่ยเฉินหยวนก็เดินออกมาอย่างเนิ่บช้าเกาเย่าที่อยู่หลังเขาเดินไปข้างหน้าและเอื้อมมือไปหยิบดาบใหญ่เล่มนั้นที่ปัดดาบบินออกไปในตอนแรก“ท่านอ๋อง เหตุใดเราไม่ลงมือกับองครักษ์ลับพวกนั้นไปเสียเลยล่ะพ่ะย่ะค่ะ ดูปวกเปียกเพียงนั้น คงสู้เราไม่ได้สักคน”เกาเย่ากล่าวอย่างภาคภูมิเป่ยเฉินหยวนเหลือบมองเขาอย่างเฉยชาความรังเกียจในแววตาของเขาทำให้เกาเย่าหุบปากในทันทีเอาเถอะ ในใจท่านอ๋องจะต้องรังเกียจที่เขาตัวใหญ่แต่สมองน้อยอีกแล้วเป็นแน่ฮึ!อย่าคิดว่าเขาดูไม่ออกเป่ยเฉินหยวนคร้านจะดุด่าเจ้าหมอนี่ เขาเพียงจับคางครุ่นคิดดูท่าแผนของอู๋โยวจะเป็นไปด้วยดี ตอนนี้เจ้ารองของสกุลเวินคงจะแตกหักกับบิดาของเขาอย่างสมบูรณ์แล้ว และเขาก็น่าจะทำอะไรบางอย่างลงไปด้วย มิเช่นนั้นเวินเฉวียนเซิ่งนั่นก็คงไม่ส่งองครักษ์ลับมาหยั่งเชิงเมื่อคิดมาถึงตรงนี้ เป่ยเฉินหยวนที่เป็นกังวลขึ้นมาทันใด จึงออกสั่ง “ช่วงนี้ส่งคนไปเพิ่มสักหน่อย จับตาดูความเคลื่อนไหวของจวนเจิ้นกั๋วกง แล้วก็เฝ้าดูคนที่ลอบเข้าออกอารามสุ่ยเยว่พวกนั้นด้วย”“พ่ะย่ะค่ะ ท่านอ๋องโปรดวางใจ!”เรื

  • หลังบวชชี บรรดาท่านพี่ก็อ้อนวอนให้ข้าสึก   บทที่ 431

    อ๋องผู้สำเร็จราชการแทนผู้นี้จะทำอาหารที่เรือนน้องสาวเขาหรือ?เวินจื่อเฉินตั้งตัวไม่ติดไปชั่วขณะเขาหันขวับมองน้องสาวตัวเองทันทีกลับเห็นเวินซื่อพยักหน้าอย่างใจเย็น “ดีสิ เช่นนั้นคงต้องลำบากท่านอ๋องแล้ว”เป่ยเฉินหยวนยิ้มทันใด รับตะกร้าของป่ามาจากมือเวินซื่อ “เช่นนั้นท่านไปพักสักครู่ ข้าจะเอาวัตถุดิบเข้าไปจัดการเอง”พูดถึงจัดการ ความจริงก็เป็นแค่วัตถุดิบสดใหม่อย่างเห็ดป่า เยื่อไผ่ หน่อไม้เป็นต้นเขาทำท่าคุ้นเคยกับที่นี่เป็นอย่างดี อีกทั้งยังนำวัตถุดิบเข้าไปในห้องครัวเล็กของเวินซื่ออย่างเป็นธรรมชาติเวินซื่อหันหลังแล้วนั่งลงในลานบ้านเวินจื่อเฉินกลับยืนอยู่ด้านข้างด้วยความประหม่าเล็กน้อย หันมองทางห้องครัวเป็นระยะ“น้อง...อู๋โยว จะให้ท่านอ๋องไปทำอาหารจริงหรือ? คงจะไม่ค่อย...” ไม่ค่อยเหมาะสมเดิมทีเวินจื่อเฉินต้องการพูดอย่างนั้น แต่เมื่อหันไปเห็นใบหน้าใจเย็นของเวินซื่อ“มีสิ่งใดไม่เหมาะสมหรือ?”เวินซื่อเหลือบมองเขาอย่างเรียบเฉย “ที่นี่เป็นดินแดนบริสุทธิ์ของพุทธองค์ ส่วนข้าเป็นผู้ออกบวช ไม่มีสิ่งวุ่นวายมากมายขนาดนั้น”หากเป็นเมื่อก่อน เวินซื่ออาจจะใส่ใจอยู่บ้างเพราะเรื่องอย่าง

  • หลังบวชชี บรรดาท่านพี่ก็อ้อนวอนให้ข้าสึก   บทที่ 432

    เวินจื่อเฉินบอกเล่าสิ่งที่ค้นพบทั้งหมด ในห้องหนังสือของเวินเฉวียนเซิ่งให้เวินซื่อฟังเมื่อได้ยินว่าสมุดบัญชีเล่มนั้นเกี่ยวข้องกับกิจการของสกุลหลาน แววตาของเวินซื่อเยือกเย็นทันทีนางรู้อยู่แล้วว่าเรื่องในตอนนั้นไม่ใช่เรื่องธรรมดานึกไม่ถึงว่าจะเป็นเช่นนั้นจริงนิ่งดูดายอะไรกัน เกรงว่าที่สกุลหลานต้องล่มสลาย ภายในนั้นคงมีฝีมือของบิดาตัวดีของนางซ่อนอยู่ด้วยเวินซื่อหลุบตาลง เก็บรวบความเย็นชาในแววตา“ตอนนี้สมุดบัญชีเล่มนั้นอยู่ที่ใด?”เวินซื่อเอ่ยถามเวินจื่อเฉินกล่าวอย่างละอายใจ “ตอนนั้นไม่ทันระวังจึงถูกพบเข้า ทำใหข้าไม่ทันได้นำสมุดบัญชีเล่มนั้นออกมาด้วย ตอนนี้น่าจะยังอยู่ในห้องหนังสือของท่านพ่อ”แต่เมื่อพูดสิ่งเหล่านี้จบ เวินจื่อเฉินรีบเอ่ยต่อ “เจ้าห้ามกลับไปเอาเด็ดขาด ความเคลื่อนไหวสองครั้งที่ผ่านมาของข้า เป็นที่จับตามองของท่านพ่อแล้ว ตอนนี้เกรงว่าห้องหนังสือของท่านคงไม่สามารถเข้าไปใกล้ได้ง่ายๆ ดังนั้นให้ข้าคิดหาวิธีดีกว่า เจ้าวางใจ ข้าต้องเอาสมุดบัญชีเล่มนั้นมาให้ได้”เวินซื่อได้ยินดังนั้นจึงมองเขา “ท่านคิดจะไปเอาเองหรือ?”เวินจื่อเฉินพยักหน้าเรื่องนี้เขาย่อมต้องไปอยู่แล้ว

  • หลังบวชชี บรรดาท่านพี่ก็อ้อนวอนให้ข้าสึก   บทที่ 433

    เวินซื่อเม้มริมฝีปากแน่น น้ำเสียงยังคงราบเรียบ “ดูเขาทำไม ข้าไม่เป็นห่วงหรอกว่าเขาจะเป็นอย่างไร”เป่ยเฉินหยวนหัวเราะพร้อมปลอบ “เอาละ ท่านไม่ได้เป็นห่วง ข้าเป็นห่วงเอง”“ตอนนี้ข้าอยากเห็นเหลือเกิน ว่าสีหน้าของเจิ้นกั๋วกงผู้นั้นจะน่าอัศจรรย์เพียงใด”ความลับที่ซุกซ่อนมาหลายปี นึกไม่ถึงว่าจะถูกลูกชายสองคนเปิดโปงหนึ่งในนั้นยังเป็นผู้สืบทอดที่เขาบ่มเพาะมาด้วยตัวเองหากบอกว่าไม่ทำอะไรเวินฉางอวิ้น เกรงว่าจะเป็นการโกหกด้วยความอำมหิตของเวินเฉวียนเซิ่ง เป็นไปไม่ได้ที่เขาจะไม่ทำสิ่งใดเลยต้องดูว่าเขาจะใจร้ายกับลูกชายคนโตมากเพียงใด“สองวันนี้ข้าสะสางงานในมือพอสมควรแล้ว เตรียมตัวให้ดี ถึงเวลาข้าจะมาสอนท่านฝึกวรยุทธ์แล้วนะ”ทั้งสองคนตกลงกันตั้งแต่แรก เพียงแต่การเดินทางไปลู่โจวทำให้เสียเวลาไปมาก หลังกลับมาเป่ยเฉินหยวนมีงานมากมายต้องจัดการ ดังนั้นจึงไม่มีเวลาว่างแต่ตอนนี้ดีขึ้นมาก เป่ยเฉินหยวนจึงตรึกตรองเรื่องเวลา“ได้ ท่านอ๋องผู้สำเร็จราชการแทนวางใจเถอะ ข้าเตรียมพร้อมนานแล้ว”เวินซื่อยิ้มจางๆหลังจากทั้งสองเรียกจู๋เยวี่ยกับเสี่ยวหานมากินอาหารพร้อมกัน เป่ยเฉินหยวนจึงกลับไปคืนนี้เวินซื

Latest chapter

  • หลังบวชชี บรรดาท่านพี่ก็อ้อนวอนให้ข้าสึก   บทที่ 522

    เวินเฉวียนเซิ่งไม่ได้ออมแรงเลย ดังนั้นเมื่อโดนฝ่ามือนี้เข้าไป ใบหน้าครึ่งหนึ่งของเวินเยวี่ยแทบจะบวมในทันที นางโดนตบจนเซล้มลงบนพื้น มึนงงไปหมด ผ่านไปครู่ใหญ่ก็ยังไม่รู้ว่าเกิดอะไรขึ้นแต่ก็ในเวลานี้เอง เงาสีดำหลายสายปรากฏตัวในเรือนเล็กของเวินเยวี่ย หนึ่งในนั้นไปยืนขวางตรงหน้าเวินเฉวียนเซิ่งโดยตรง และจ้องเขาด้วยสายตาเย็นชา“เจิ้นกั๋วกง นี่ท่านกำลังทำอะไร?”“ไสหัวไป”เวินเฉวียนเซิ่งจ้องคนกลุ่มนี้อย่างเย็นชา “ข้าสั่งสอนลูกสาวของตัวเอง ยังไม่ถึงคราวที่พวกเจ้าต้องมายุ่ง”“เวินเยวี่ยเป็นลูกสาวของท่านเจิ้นกั๋วกงก็จริง แต่นางก็เป็นสายเลือดของสกุลไป๋ด้วย ถ้าท่านกล้าแตะต้องนาง อย่าหาว่าพวกเราไม่เกรงใจ”บนมือกู่อี้ซานมีแมลงสีดำหลายตัวปรากฏทันที หน้าตาดูแปลกประหลาดและน่ากลัวมาก“เหอะ”เวินเฉวียนเซิ่งหัวเราะอย่างเหยียดหยาม“นี่เจ้ากำลังขู่ข้าในจวนเจิ้นกั๋วกงของข้าหรือ?”แทบจะทันทีที่สิ้นเสียงเวินเฉวียนเซิ่ง มีองครักษ์ลับสิบกว่าคนปรากฏตัวพร้อมกัน บางคนร่อนลงที่ลานบ้าน บางคนอยู่บนกำแพง ‘ซ่า’ ชักกระบี่ฉับพลัน บรรยากาศตึงเครียดในพริบตาความแตกต่างของสองฝ่ายชัดเจนคนของกู่อี้ซานล้วนเป็นมือดี

  • หลังบวชชี บรรดาท่านพี่ก็อ้อนวอนให้ข้าสึก   บทที่ 521

    องครักษ์ลับที่อยู่ข้างหลังก้มหน้ากล่าว“เหอะ”เวินเฉวียนเซิ่งหัวเราะเสียงเย็นถ้าหากไม่มีปัญหาอะไรจริงๆ เหตุใดเมื่อวานเขาเพิ่งบอกว่าจะตรวจสอบให้ถึงที่สุด ดอกไม้ที่เวินเยวี่ยมอบให้ก็หายไปแล้ว?หลังจากเหตุการณ์เมื่อคืน ในห้องลูกชายคนโตของเขาไม่มีอะไรหายเลย นอกจากดอกไม้เหล่านั้นนี่ถ้าไม่มีปัญหา เช่นนั้นเวินเยวี่ยร้อนตัวอะไร?แล้วก็เจ้าสามลูกชายของเขา เกรงว่าเมื่อวานก็ไม่พูดความจริงกับเขาเช่นกันเวินเฉวียนเซิ่งหรี่ตา ไม่ได้ไปหาเวินเยวี่ยทันที แต่หันไปกล่าวกับพ่อบ้าน “ไปเชิญหมอหลวงหลี่มา บอกว่าอาการของคุณชายใหญ่ไม่ดี ข้าหวังว่าจะสามารถเชิญเขามาช่วยดูอีกรอบ”ไม่นานหมอหลวงหลี่ก็ถูกเชิญมาแล้วเวินเฉวียนเซิ่งกล่าวทักทาย ก็ได้รู้ความจริงจากหมอหลวงหลี่จริงๆ…“ดอกไม้สามกระถางนั่นเป็นดอกไม้พิษที่รุนแรงที่สุดเท่าที่ข้าเคยพบ หลังจากข้าตรวจคุณชายใหญ่ ได้ลองกลับไปศึกษาดูสองวัน พบว่าดอกไม้สามกระถางนั่นอาจจะเริ่มแพร่พิษตั้งแต่ที่เริ่มปลูกแล้ว หลังจากเมล็ดเติบโตเป็นต้นกล้า ต้นกล้าแตกกิ่งก้าน กิ่งก้านเกิดดอกตูม ดอกตูมบานเป็นดอก สารพิษเพิ่มขึ้นเรื่อยๆ ตามกระบวนการแต่ละขั้น ปัจจุบันอยู่ในช่วงดอกตู

  • หลังบวชชี บรรดาท่านพี่ก็อ้อนวอนให้ข้าสึก   บทที่ 520

    “ฟิ้ว!”มีดสั้นคมกริบเฉือนลำคอของคนชุดดำคนชุดดำตอบสนองอย่างรวดเร็ว เมื่อสังเกตเห็นว่าในห้องนี้นอกจากคนบนเตียงแล้ว ยังมีคนอื่นอยู่ด้วย คนชุดดำก็หลบไปด้านข้างด้วยความระแวดระวังในทันใด จากนั้นค่อยหันกลับมาตอบโต้ทั้งสองคนเริ่มต่อสู้กันภายในห้องของเวินฉางอวิ้นแต่ดูเหมือนว่าทั้งสองฝ่ายไม่อยากทำให้คนข้างนอกตื่นตกใจ ดังนั้นต่อให้ลงมือก็จะพยายามให้เงียบไว้หลังจากต่อสู้กันมากกว่าสิบรอบ เวินจื่อเยวี่ยก็ตระหนักว่าทักษะของคนชุดดำนั้นดีกว่าเขาจริง ๆ และยังเป็นแนวทางที่เขาไม่เคยพบเห็นมาก่อนคนผู้นี้ไม่ใช่องครักษ์ลับหญิงที่อยู่ข้างกายเวินซื่อหลังจากเวินจื่อเยวี่ยตัดข้อสงสัยในตัวเวินซื่อออกไปแล้ว ก็เอามีดจ่ออีกฝ่ายไว้ แล้วคาดคั้นว่า “เจ้าเป็นใครกันแน่ ทำไมต้องวางยาพิษคุณชายใหญ่แห่งจวนเจิ้นกั๋วกงด้วย?!”คนชุดดำไม่สามารถตอบคำถามของเขาได้อยู่แล้ว หลังจากยกขาขึ้นเตะเวินจื่อเยวี่ยอย่างฉับพลัน ก็เข้าไปภายในห้องเวินจื่อเยวี่ยไล่ตามไปทันทีผลปรากฏว่าเห็นอีกฝ่ายพุ่งไปทางเตียงทันที ท่าทางต้องการจับพี่ใหญ่ของเขาเป็นตัวประกันเวินจื่อเยวี่ยตกใจในทันใด มีดสั้นในมือพุ่งออกไปในทันทีประจวบเหมาะกับใน

  • หลังบวชชี บรรดาท่านพี่ก็อ้อนวอนให้ข้าสึก   บทที่ 519

    คืนวันนั้น เวินเยวี่ยนอนไม่หลับพลิกตัวไปมาไม่ใช่ว่านอนไม่หลับจริง ๆ แต่ตอนนี้นางมีบางอย่างอยู่ในใจ อยากรอให้ดึก ๆ ก่อนค่อยไปหาเวินฉางอวิ้นดังนั้นนางจึงไม่ได้นอนเลย รอจนกระทั่งเทียนไขในห้องลุกโชนเกือบหมดแล้ว นางถึงคลำ ๆ ลุกขึ้นอย่างเงียบ ๆ เปลี่ยนเสื้อผ้าสบาย ๆ เดินอ้อมเซียงเหอที่คอยเฝ้ายามอยู่ ผลักเปิดประตูแล้วออกไปข้างนอก“เจ้าจะไปไหน?”ในขณะที่เวินเยวี่ยกำลังจะแอบออกจากประตูเรือนเล็ก ก็มีเสียงดังขึ้นจากทางด้านหลังของนางจู่ ๆ เวินเยวี่ยก็ตกใจขึ้นมา พอหันกลับไปมอง “ที่แท้ก็เจ้านั่นเอง ข้าตกใจหมดเลย”ที่ปรากฏตัวอยู่ข้างหลังนางก็คือชายเลี้ยงแมลงกู่ คล้ายจะมีนามว่ากู่อี้ซานบอกว่าเป็นคนของมารดาของนาง แต่ท่าทางวางตัวสูงส่งดูไม่เหมือนคนธรรมดาโดยเฉพาะอย่างยิ่งชายคนนี้ยังกล้าเอาแมลงกู่มาข่มขู่นาง!สายตาหม่นหมองของกู่อี้ซานหยุดอยู่ที่ใบหน้าของนาง แล้วถามซ้ำอีกรอบ “ดึกขนาดนี้แล้ว เจ้าจะไปไหน?”เวินเยวี่ยกลอกตาใส่ “เกี่ยวอะไรกับเจ้าด้วยเล่า? ข้ามีธุระส่วนตัวต้องทำ ไม่ใช่ว่าต้องบอกเจ้าไปเสียทุกอย่าง”กู่อี้ซานยังคงมีสีหน้าเรียบเฉย “ข้าบอกไปแล้วนะว่า อย่าใช้สมองขี้เลื่อยของเจ้าไปทำเ

  • หลังบวชชี บรรดาท่านพี่ก็อ้อนวอนให้ข้าสึก   บทที่ 518

    ดังนั้นหลังจากที่เวินเยวี่ยรู้ว่าเวินฉางอวิ้นกำลังจัดเตรียมงานศพ นางก็รู้สึกตกใจมาก ไม่คาดคิดเช่นกันว่านางเพิ่งจากไปเพียงไม่กี่วัน เวินฉางอวิ้นก็กลายเป็นแบบนี้ไปเสียแล้วแต่เวินจื่อเยวี่ยไม่รู้ว่านางตกใจเรื่องนี้ เข้าใจผิดนึกว่านางไม่รู้เรื่องอะไรจริง ๆแต่ในดอกไม้สามกระถางนั้นมีสองกระถางที่นางเป็นคนให้ และไม่รู้เช่นกันว่าดอกไม้นั้นมาจากไหนกันแน่ บางทีอาจถูกใครหลอกใช้ ดังนั้นเพื่อหลีกเลี่ยงความเข้าใจผิดจากบิดา เขาควรสืบหาความจริงให้กระจ่างก่อนแล้วค่อยบอกบิดาอีกครั้งดีกว่าหลังจากไตร่ตรองแล้วเวินจื่อเยวี่ยก็เอ่ยขึ้น “หมอเถื่อนข้างนอกพวกนั้น มองสถานการณ์ที่แท้จริงของพี่ใหญ่ไม่ออกด้วยซ้ำ ต่อมาลูกก็ไปเชิญหมอหลวงหลี่มา ถึงรู้ว่าถูกพิษมาตั้งแต่เมื่อไหร่”“ถูกวางยาพิษอีกแล้วหรือ?”ตอนนี้ทันทีที่เวินเฉวียนเซิ่งได้ยินว่า “ถูกวางยาพิษ” ก็กระวนกระวายใจเป็นอย่างมากในเวลาเพียงครึ่งปี ลูกชายทั้งหลายของเขาเกือบจะโดนวางยาพิษกันหมดทุกคนแล้วหากยังคงเป็นเช่นนี้ต่อไป เกรงว่าวันไหนจู่ ๆ มีใครถูกพิษตายไปเขาก็คงไม่รู้ด้วยซ้ำสีหน้าของเวินเฉวียนเซิ่งดูเศร้าหมอง แม้ว่าเจ้าสี่และเวินเยวี่ยจะรู้จักยาพิ

  • หลังบวชชี บรรดาท่านพี่ก็อ้อนวอนให้ข้าสึก   บทที่ 517

    “ท่านพ่อ รีบกลับไปเถอะ ลูกไม่อยากรออยู่ในนรกแห่งนี้อีกแล้วเจ้าค่ะ!”เวินเยวี่ยรีบวิ่งช้าบ้างเร็วบ้างออกไปข้างนอก เดิมทีคิดว่าน่าจะมีรถม้าคอยพวกเขาอยู่ข้างนอกแต่กลับพบว่าไม่มีใครอยู่ข้างนอกเลย“ให้ตายสิ พวกพี่ใหญ่ไม่รู้หรือว่าวันนี้พวกเราจะออกมา? ไม่รู้ว่าต้องมารับพวกเรา”เวลานี้เวินเยวี่ยเต็มไปด้วยความอัดอั้นตันใจ พอเห็นว่าไม่มีรถก็เอ่ยปากตัดพ้อทันทีเวินเฉวียนเซิ่งที่เดินตามมาชายตามองนางแวบหนึ่ง แล้วเอ่ยขึ้นอย่างราบเรียบ “พี่สามของเจ้าถูกกักบริเวณ พี่สี่พักฟื้นขา พี่ใหญ่ของเจ้าช่วงนี้ก็ไม่ค่อยสบาย จะมารับพวกเราได้อย่างไร?”เมื่อได้ยินคำพูดเหล่านี้เวินเยวี่ยถึงตระหนักได้ในที่สุด ก่อนจะเอ่ยด้วยความโมโห “ลูก...ลูกก็ลืมไปเหมือนกันนี่นา”ขณะที่นางพูดไปเช่นนี้ ความรู้สึกผิดก็ปรากฏขึ้นบนใบหน้าแวบหนึ่งนางเพิ่งนึกขึ้นได้ว่า ก่อนหน้านี้ได้ส่งกระถางดอกไม้สองใบไปให้พี่ใหญ่ เมื่อคำนวณเวลาดูแล้วน่าจะใกล้ถึงเวลาออกฤทธิ์แล้วหลังจากที่นางกลับไปก็จะใช้ยาถอนพิษกึ่งสำเร็จรูปที่แม่ของนางทิ้งไว้ให้ สุดท้ายค่อยลงมือช่วยชีวิตเวินฉางอวิ้นอีกครั้งแบบนี้พี่น้องสกุลเวินทั้งสามคนที่เหลือก็จะได้รับ “

  • หลังบวชชี บรรดาท่านพี่ก็อ้อนวอนให้ข้าสึก   บทที่ 516

    “เจ้าว่าอะไรนะ? เข้าวัง?”เมื่อเวินซื่อได้ยินเรื่องนี้ หัวใจก็สั่นไหว“เจ้าจะเข้าวังไปเป็นพระสนมหรือ?”หลินเนี่ยนฉือเอ่ยด้วยรอยยิ้ม “นังเด็กแสบอย่าดูถูกข้านะ ข้าไม่ได้เข้าวังไปเป็นพระสนม แต่เข้าวังไปเป็นฮองเฮา”นางยิ้มตาหยี พูดกับเวินซื่อ “อีกไม่นานข้าจะเข้าวังไปเป็นฮองเฮาแล้ว ถึงเวลานั้นเจ้าเห็นข้าก็ต้องทำความเคารพข้าแต่โดยดี หากทำความเคารพไม่สวย ข้าจะให้เจ้าอุ่นเตียงนอนให้ข้า”เวินซื่อกลอกตาใส่นางอีกครั้ง “มาพูดเรื่องสำคัญดีกว่า อย่ามาดื้อกับข้า”“นี่ล่ะเรื่องสำคัญ ถูกต้องแล้ว”หลินเนี่ยนฉือกอดเวินซื่อที่ห่อตัวอยู่ในผ้าห่มกล่าวว่า “หลังจากที่สกุลหลินของเราถูกโยกย้ายออกไปแล้ว อิงจากเวลาโยกย้าย หากต้องการกลับเมืองหลวงให้เร็วขึ้นก็ต้องมีโอกาส มิฉะนั้นก็ต้องรอไปอย่างน้อยสิบถึงยี่สิบปี จนกว่าพ่อของข้าจะเข้ารับตำแหน่ง สร้างผลงานให้เฉิดฉายต่อหน้าฝ่าบาท ถึงจะสามารถถูกโยกย้ายกลับมา แต่สกุลหลินของเราไม่อาจรอได้นานขนาดนั้น”“เจ้าก็รู้ว่า เมืองหลวงนั้นมีแต่การแย่งชิง เวลานี้ฝ่าบาทยังเยาว์นัก ถึงเวลาขอกำลังคนช่วยเหลือแล้ว หากสกุลหลินของเราไม่กลับให้เร็วกว่านี้ ก็อย่าพูดถึงการรอคอยยี่สิบปี

  • หลังบวชชี บรรดาท่านพี่ก็อ้อนวอนให้ข้าสึก   บทที่ 515

    “มาโดนจั๊กจี้จากข้าสักที!”“ฮ่า ๆ ๆ ๆ ผิดไปแล้ว ผิดไปแล้ว ธิดาศักดิ์สิทธิ์โปรดให้อภัยข้าน้อยด้วย ต่อไปข้าน้อยไม่กล้าอีกแล้ว! ฮ่า ๆ ๆ ๆ...”หลินเนี่ยนฉือไม่เกรงกลัวอะไรเลย ยกเว้นการจั๊กจี้ของเวินซื่อทั้งสองหัวเราะร่วนด้วยกันอีกครั้งในทันทีเสียงหัวเราะแห่งความสุขดังไปทั่วเรือนเล็กจู๋เยวี่ยที่ยอดหลังคามองดูครู่หนึ่งด้วยควากอยากรู้อยากเห็น จากนั้นก็ถอนสายตากลับช่างเถอะ ๆ ไม่อยากดูทั้งสองคนในห้องเริ่มคุยกันอีกครั้งหลินเนี่ยนฉือเพียงแค่เคยได้ยินมาก่อน ตอนนี้มาถึงเรือนของเวินซื่อแล้ว แน่นอนว่านางต้องการฟังเวินซื่อพูดเรื่องนั้นด้วยตัวเองนางแค่ต้องการรับรู้ ในช่วงหกเดือนที่ผ่านมาอาซื่อมีเรื่องคับข้องใจแค่ไหนนางไม่เคยรู้เลยแม้แต่นิดเดียวเวินซื่อที่ไม่อาจขัดใจนางได้จึงต้องเล่าเรื่องที่เกิดขึ้นในช่วงหกเดือนที่ผ่านมาอย่างช้า ๆตั้งแต่เวินเยวี่ยถูกเวินเฉวียนเซิ่งพาเข้ามาในสกุลเวิน ทีละเรื่อง ทีละอย่างเมื่อพูดถึงตอนสุดท้ายสีหน้าของหลินเนี่ยนฉือก็ดำทะมึนเป็นก้นหม้อ ตบแผ่นกระดานเตียงของเวินซื่อดัง “ปัง” จนแทบจะพังลง จากนั้นหลินเนี่ยนฉือก็เด้งขึ้นจากเตียง หยิบเสื้อผ้าออกมาสวมใส่พลาง

  • หลังบวชชี บรรดาท่านพี่ก็อ้อนวอนให้ข้าสึก   บทที่ 514

    หมอหลวงหลี่ ท่านกำลังพูดเรื่องอะไร? ดอกไม้พวกนี้จะมีพิษได้อย่างไร?”เวินจื่อเยวี่ยเกือบคิดว่าเป็นภาพหลอนของตัวเองเสียแล้วแต่หมอหลวงหลี่ยังคงยืนยันว่า “คุณชายสามสกุลเวิน ข้ามองไม่ผิดแน่ แม้ว่าจะไม่รู้ว่านี่คือดอกไม้ชนิดใด แต่กลิ่นหอมของดอกไม้นี้ดูเหมือนจะเป็นยาพิษร้ายแรงประเภทกล่อมประสาท หลังจากได้กลิ่นหอมของดอกไม้เป็นเวลานาน พิษนี้จะค่อย ๆ ซึมเข้าสู่ร่างกายของคุณชายใหญ่ ทั้งหมดสามต้น พิษรุนแรงขึ้นสามเท่า ไม่แปลกใจที่ร่างกายของคุณชายใหญ่จะทรุดลงอย่างรวดเร็วเช่นนี้”หลังจากฟังเขาพูดจนจบ สีหน้าของเวินจื่อเยวี่ยก็บึ้งตึงไม่รู้ว่าทำไม แต่เขานึกถึงเป็ดทอดกรอบที่เวินจื่อให้เขากินเมื่อตอนนั้นขึ้นมาอย่างบอกไม่ถูกไม่ ๆ ๆ เป็นไปไม่ได้เป็นไปไม่ได้อย่างแน่นอน น้องหกได้อธิบายให้เขาฟังตั้งแต่แรกแล้วว่า นางวางยาพิษตัวเองเพียงเพราะความโกรธและหวาดกลัว ในเมื่อพี่ใหญ่ไม่เคยเปิดเผยภูมิหลังของนาง จึงเป็นไปไม่ได้ที่จะไปยั่วยุน้องหกได้ น้องหกมีเหตุผลอะไรถึงต้องวางยาพิษพี่ใหญ่ด้วย?ช้าก่อน เวินจื่อเยวี่ยนึกอะไรออกทันใดเขามองไปที่อันเซิ่งอย่างดุดัน “เมื่อครู่เจ้าบอกว่าอีกกระถางหนึ่งเป็นของใครนะ?”

Explore and read good novels for free
Free access to a vast number of good novels on GoodNovel app. Download the books you like and read anywhere & anytime.
Read books for free on the app
SCAN CODE TO READ ON APP
DMCA.com Protection Status