Share

บทที่ 522

Author: จิ้งซิง
เวินเฉวียนเซิ่งไม่ได้ออมแรงเลย ดังนั้นเมื่อโดนฝ่ามือนี้เข้าไป ใบหน้าครึ่งหนึ่งของเวินเยวี่ยแทบจะบวมในทันที นางโดนตบจนเซล้มลงบนพื้น มึนงงไปหมด ผ่านไปครู่ใหญ่ก็ยังไม่รู้ว่าเกิดอะไรขึ้น

แต่ก็ในเวลานี้เอง เงาสีดำหลายสายปรากฏตัวในเรือนเล็กของเวินเยวี่ย หนึ่งในนั้นไปยืนขวางตรงหน้าเวินเฉวียนเซิ่งโดยตรง และจ้องเขาด้วยสายตาเย็นชา

“เจิ้นกั๋วกง นี่ท่านกำลังทำอะไร?”

“ไสหัวไป”

เวินเฉวียนเซิ่งจ้องคนกลุ่มนี้อย่างเย็นชา “ข้าสั่งสอนลูกสาวของตัวเอง ยังไม่ถึงคราวที่พวกเจ้าต้องมายุ่ง”

“เวินเยวี่ยเป็นลูกสาวของท่านเจิ้นกั๋วกงก็จริง แต่นางก็เป็นสายเลือดของสกุลไป๋ด้วย ถ้าท่านกล้าแตะต้องนาง อย่าหาว่าพวกเราไม่เกรงใจ”

บนมือกู่อี้ซานมีแมลงสีดำหลายตัวปรากฏทันที หน้าตาดูแปลกประหลาดและน่ากลัวมาก

“เหอะ”

เวินเฉวียนเซิ่งหัวเราะอย่างเหยียดหยาม

“นี่เจ้ากำลังขู่ข้าในจวนเจิ้นกั๋วกงของข้าหรือ?”

แทบจะทันทีที่สิ้นเสียงเวินเฉวียนเซิ่ง มีองครักษ์ลับสิบกว่าคนปรากฏตัวพร้อมกัน บางคนร่อนลงที่ลานบ้าน บางคนอยู่บนกำแพง ‘ซ่า’ ชักกระบี่ฉับพลัน บรรยากาศตึงเครียดในพริบตา

ความแตกต่างของสองฝ่ายชัดเจน

คนของกู่อี้ซานล้วนเป็นมือดี
Continue to read this book for free
Scan code to download App
Locked Chapter

Related chapters

  • หลังบวชชี บรรดาท่านพี่ก็อ้อนวอนให้ข้าสึก   บทที่ 523

    “เจ้าไม่อยาก หรือไม่อยากตอนนี้?”ราวกับเวินเฉวียนมองความคิดของเวินเยวี่ยออกแล้ว เขากล่าวด้วยรอยยิ้มที่เย็นชา “พ่อเตือนเจ้าทุกครั้ง เจ้าก็ยอมรับผิดแต่โดยดีทุกครั้ง แต่มีครั้งไหนบ้างที่เจ้าฟังเข้าหูจริงๆ? สร้างความแตกแยกในครอบครัวครั้งแล้วครั้งเล่า เจ้าคิดว่าพ่อจะตามใจเจ้า ปล่อยให้เจ้าทำเรื่องเหลวไหลตลอดใช่หรือไม่?”เวินเยวี่ยตื่นตระหนกจนรีบส่ายศีรษะ เผชิญหน้ากับคำพูดของเวินเซิ่งเฉวียน นางจะกล้ายอมรับได้อย่างไร?“ดังนั้นครั้งนี้เพราะสาเหตุอะไรอีก? มา เล่าให้พ่อฟังหน่อย พ่อก็อยากรู้เช่นกันว่าเจ้าวางยาพิษพี่ใหญ่ของเจ้าเพราะอะไร?”เวินเยวี่ยลังเลครู่หนึ่ง ความคิดต่างๆ แล่นในสมองอย่างรวดเร็ว นางค่อยๆ เอ่ยปากภายใต้สายตากดดันของเวินเฉวียนเซิ่ง“เพราะ…เพราะเยวี่ยเอ๋อร์รู้สึกทรมานใจ…ก็เหมือนกับที่ท่านพ่อพูด ตั้งแต่ข้ากลับจวนเจิ้นกั๋วกง พวกพี่ใหญ่ก็ปฏิบัติต่อข้าเหมือนเป็นน้องหญิงแท้ๆ มาโดยตลอด ต่อให้พี่หญิงห้ารังแกข้า พวกพี่ใหญ่ก็ช่วยข้า แต่จนถึงเมื่อช่วงก่อน พี่รองไปแล้ว พี่ใหญ่ก็ไม่ยอมยืนข้างข้า ใน…ในใจข้ารู้สึกทรมานนัก ข้ากลัวว่าต่อไปพี่ใหญ่จะไปเหมือนพี่รอง ดังนั้นข้าก็เลยมอบดอกไม้พิษให้พ

  • หลังบวชชี บรรดาท่านพี่ก็อ้อนวอนให้ข้าสึก   บทที่ 524

    “อะไรนะ? เฆี่ยนห้าสิบครั้งอีกแล้ว?!”ครั้งที่แล้วนางก็โดนเฆี่ยนจนไม่สามารถลุกจากเตียงพักใหญ่ ครั้งนี้โดนอีกห้าสิบที นางต้องนอนหมอบอยู่บนเตียงอีกแล้วไม่ใช่หรือ?!เวินเยวี่ยกำลังจะขอลดหย่อนโทษให้ตัวเอง แต่ปรากฏว่ายังมีที่เลวร้ายกว่านั้น…“ห้าสิบทีของครั้งนี้ พ่อจะลงมือด้วยตัวเอง ครั้งก่อนพี่ใหญ่เจ้าปรานีเจ้า แต่ครั้งนี้เขาถูกเจ้าวางพิษจนลุกไม่ขึ้น เขาลงมือไม่ได้ แต่พ่อยังสามารถขยับได้”เมื่อคำพูดนี้ของเวินเฉวียนเซิ่งออกมา เวินเยวี่ยหน้าซีดทันทีแม้เวินเฉวียนเซิ่งเป็นพ่อแท้ๆ ของนาง แต่ทุกครั้งที่อีกฝ่ายโกรธจนลงมือ ไม่เคยปรานีนางเลย!ก็เหมือนกับฝ่ามือเมื่อครู่ ตอนที่เวินเฉวียนเซิ่งพุ่งเข้ามาตบนาง เหมือนกับว่าจะตบให้หน้านางเละไปเลยใช่แล้ว ตอนนี้หน้าของนางมีแผลปริแตกจนเลือดไหลแล้ว!ไม่ใช่เพราะโดนพ่อที่แสนดีของนางตบจนแตกหรือ!เวินเยวี่ยสั่นไปทั้งร่าง อดไม่ได้ที่จะคิด ถ้าหากท่านพ่อลงมือด้วยตัวเอง นางสามารถทนได้ห้าสิบทีจริงหรือ?ไม่ว่านางจะทนได้หรือไม่ได้ เอาเป็นว่าเมื่อมีคำสั่งของเวินเฉวียนเซิ่ง ไม่มีใครกล้าขัดเขากู่อี้ซานมองเวิยเฉวียนเซิงแวบหนึ่ง สายตาเย็นชาเล็กน้อย แต่ก็ยังอดกลั

  • หลังบวชชี บรรดาท่านพี่ก็อ้อนวอนให้ข้าสึก   บทที่ 525

    “ลากพวกเขาไปคุกเข่าที่โถงบรรพชนสามวัน ไม่มีคำสั่งของข้า ห้ามให้น้ำอาหารพวกเขา”เมื่อเวินเฉวียนเซิ่งออกคำสั่ง มีองครักษ์ลับเข้ามาพาตัวเวินซื่อกับเวินจื่อเยวี่ยไปทันทีคนของกู่อี้ซานที่อยู่ข้างหลังอดถามไม่ได้ “หัวหน้า พวกเราจะไม่ห้ามหน่อยหรือ?”ตีก็ตีไปแล้ว เหตุใดยังต้องขัง?ถ้าคุกเข่าสามวันโดยไม่ได้ดื่มน้ำหรือกินอาหาร ไม่โดนทรมานจนตายก็แปลกแล้ว!กู่อี้ซานกลับส่ายศีรษะ “ไม่ต้อง”เขาถือว่ามองออกแล้ว แม้เจิ้นกั๋วกงคนนี้ปากร้าย แต่ก็ไม่ได้ถึงขั้นไร้เยื่อใยไม่สนใจลูกสาวคนนี้จริงๆไม่เช่นนั้นตอนที่เวินจื่อเยวี่ยพุ่งเข้ามา ถ้าเขาคิดจะจัดการเวินเยวี่ยจริงๆ เหตุใดไม่สั่งให้คนมาลากเขาออกไปโดยตรง?เอาแต่ตีทั้งเช่นนั้น สุดท้ายแส้ส่วนใหญ่ก็ไปลงที่ตัวเวินจื่อเยวี่ยหมดกลับกันเวินเยวี่ยก็แค่โดนแส้ฟาดแรงในช่วงแรก ตอนหลังแส้แทบจะไม่โดนตัวนางเลยในเมื่อมาถึงขั้นนี้เวินเฉวียนเซิ่งยังมีความปรานี เช่นนั้นก็คงไม่ปล่อยพวกเขาเป็นอะไรจริงๆแน่นอนว่าทั้งหมดนี้คือต้องอยู่ภายใต้สถานการณ์ที่ลูกชายคนโตของเจิ้นกั๋วกงยังมีชีวิตพวกเขาได้ตรวจสอบสถานการณ์ของจวนเจิ้นกั๋วกงอย่างละเอียดตั้งแต่ก่อนจะมาแล้ว ย่อมร

  • หลังบวชชี บรรดาท่านพี่ก็อ้อนวอนให้ข้าสึก   บทที่ 526

    คิดมาถึงตรงนี้ กู่อี้ซานหรี่ตาเล็กน้อยทั้งที่หลังจากเวินเยวี่ยเกิด คุณหนูของพวกเขาก็ตายแล้ว ไม่มีคนสอนนาง นางกลับสามารถเรียนรู้ด้วยตัวเองดูเหมือนผู้หญิงที่โง่เขลาในสายตาพวกเขาคนนี้ก็ไม่ใช่คนไร้ประโยชน์เสียทีเดียวเมื่อเป็นเช่นนี้ ก็ยิ่งสามารถพิสูจน์ว่านางคือสายเลือดของสกุลไป๋อย่างไร้ที่กางขาจริงๆ“ต้องหาวิธีรักษาชีวิตของเวินฉางอวิ้นไว้แล้ว”เวินเยวี่ยตายไม่ได้ ดังนั้นผู้สืบทอดของเจิ้นกั๋วกงก็ตายไม่ได้เช่นกัน“กำจัดดอกไม้สามต้นนี้ซะ จะให้คนนอกเห็นไม่ได้”หญ้าฝรั่นคือดอกไม้ศักดิ์สิทธิ์ของเผ่าพวกเขา แม้คนที่รู้เรื่องนี้มีน้อยมาก แต่ป้องกันไว้ก่อนดีกว่าถ้าหากดอกไม้นี่ตกเป็นเป้าของอ๋องผู้สำเร็จราชการแทนที่เป็นสุนัขบ้าของราชวงศ์ เช่นนั้นก็ยุ่งยากจริงๆ แล้ว“หมอนหลวงที่จวนเจิ้นกั๋วกงเชิญมาก่อนหน้านี้ ได้บอกหรือไม่ว่ามีวิธีอะไร?”หลังจากกู่อี้ซานรู้ว่าเวินเยวี่ยได้ก็ปัญหาใหญ่เช่นนี้ ก็ได้สั่งให้คนไปสืบแล้วลูกน้องหญิงรีบตอบทันที “หมอหลวงคนนั้นบอกว่าตอนนี้ยังถอนพิษไม่ได้ แต่สามารถถ่วงเวลาได้สักพัก”นางพูดยาสามชนิดที่หมอหลวงหลี่บอกเวินเฉวียนเซิ่งออกมาหลังจากได้ยินว่ามี ‘หญ้าฝรั่

  • หลังบวชชี บรรดาท่านพี่ก็อ้อนวอนให้ข้าสึก   บทที่ 527

    แต่ก่อนจะไปอารามสุ่ยเยว่ เวินเฉวียนเซิ่งกลับได้ยินข่าวอีกเรื่อง…“นางหนูหลินเนี่ยนฉือนั่นกลับเมืองหลวงแล้ว?”เวินเฉวียนเซิ่งขมวดคิ้วพ่อบ้านเช็ดเหงื่อบนหน้าผาก เขาละเลยเรื่องนี้เอง ก่อนหน้านี้คุณชายใหญ่เกิดเรื่องกะทันหัน ทำเอาคนทั้งจวนเจิ้นกั๋วกงสะดุ้ง ต่อมาก็ยุ่งอยู่กับเรื่องของคุณชายใหญ่จนลืมรายงานเรื่องของคุณหนูใหญ่หลินกับท่านกั๋วกงของพวกเขากระทั่งวันนี้ท่านกั๋วกงสั่งให้เตรียมรถม้าจะไปอารามสุ่ยเยว่ พ่อบ้านจึงจะนึกถึงหลินเนี่ยนฉือที่อยู่อารามสุ่ยเยว่เช่นกันพ่อบ้านรีบกล่าว “ขอรับ เมื่อสองวันก่อนนี้เอง หลังจากคุณหนูใหญ่สกุลหลินกลับเมืองหลวงก็มาหาคุณชายสาม หลังจากโต้เถียงกับคุณชายสาม คุณหนูใหญ่หลินพูดต่อหน้าทุกคนว่า…”พ่อบ้านลดเสียงคำพูดที่เหลือเวินเฉวียนเซิ่งรีบมองไปทางเขาด้วยสายตาเคร่งขรึม “เจ้าว่าอะไรนะ?”“นางบอกว่าจะถอนหมั้นกับคุณชายสามขอรับ”เมื่อเวินเฉวียนเซิ่งได้ยิน ก็ทำหน้าโกรธฉับพลัน เขาหลับตา หายใจเข้าลึกๆ พยายามข่มความโกรธลงไป“เด็กสองคนนั้นลงมือหรือไม่?”“ลงขอรีบ”เวินเฉวียนเซิ่งถามต่อ “ใครลงมือก่อน?”“คุณหนูใหญ่หลินลงมือก่อน คุณชายสามโต้ตอบ แต่ก็ยังยอมคุณหนู

  • หลังบวชชี บรรดาท่านพี่ก็อ้อนวอนให้ข้าสึก   บทที่ 528

    เวินจื่อเยวี่ยยืนหน้าบึ้งที่ข้างๆเวินเฉวียนเซิ่งสั่งให้คนไปเคาะประตูต่ออย่างใจเย็นแต่น่าเสียดาย ครั้งนี้ไม่ว่าพวกเขาจะเคาะอย่างไร ก็ไม่มีคนมาเปิดประตูให้พวกเขามากสุดข้างในก็ตอบแค่ประโยคเดียว…“ธิดาศักดิ์สิทธิ์กำลังยุ่ง เชิญเจิ้นกั๋วกงค่อยมาใหม่วันหลัง”หลังจากได้ยินคำพูดนี้อีกครั้ง เวินจื่อเยวี่ยที่สีหน้ายังซีดยกเท้าก็จะเข้าไปกลับโดนเวินเฉวียนเซิ่งห้ามไว้ “เจ้าจะทำอะไร?”เวินจื่อเยวี่ยกัดฟันกล่าว “ข้าจะไปเรียกหลินเนี่ยนฉือ! ก็ไหนบอกว่าหลินเนี่ยนฉืออยู่ข้างในไม่ใช่หรือ? ข้าก็อยากรู้เช่นกันว่านางก็ไม่ยอมออกมาใช่หรือไม่!”เวินเฉวียนเซิ่งที่ได้ยินคำพูดนี้กลับปล่อยเวินจื่อเยวี่ยแล้วบุกเข้าไปย่อมไม่ได้อยู่แล้ว แต่บางทีอาจสามารถลงมือจากหลินเนี่ยนฉือเวินเฉวียนเซิ่งกล่าวเสียงเรียบ “นางเรียกนางออกมาพบด้วยเรื่องถอนหมั้น”พลันเวินจื่อเยวี่ยหันกลับไปกล่าวด้วยความประหลาดใจ “อะไรนะ? ท่านพ่อ ข้าไม่มีทางถอนหมั้นกับหลินเนี่ยนฉือหรอก!”เวินจื่อเยวี่ยคิดว่าเวินเฉวียนเซิ่งจะให้เขาคุยเรื่องถอนหมั้นกับหลินเนี่ยนฉือจริงๆเวินเฉวียนเซิ่งมองเขาเหมือนคนไร้ประโยชน์ “ยังต้องให้เจ้าพูดอีกหรือ? ต่

  • หลังบวชชี บรรดาท่านพี่ก็อ้อนวอนให้ข้าสึก   บทที่ 529

    “มีแผล?”หลินเนี่ยนฉือตะลึงไปครู่หนึ่ง จากนั้นมองไปที่หลังของเวินจื่อเยวี่ย ก็มองเห็นคราบเลือดบนเสื้อผ้าของเขาจริงๆหลินเนี่ยนฉือถลึงตาทันที “หน็อยแน่เวินจือเยวี่ย ที่แท้รอข้าอยู่ตรงนี้นี่เอง! ข้าไม่ได้ฟาดแส้ใส่หลังท่านเลยนะ คิดจะใช้วิธีนี้โยนความผิดให้ข้าหรือ? ข้าไม่ได้โง่นะ!”“เจ้า…!”นางโง่!เวินจื่อเยวี่ยโมโหมาก และไม่ได้คาดหวังว่าหลินเนี่ยนฉือจะช่วยดึงเขาแล้ว เขากัดฟันลุกขึ้นจากพื้นอย่างทุลักทุเล จ้องหลินเนี่ยนฉืออย่างดุร้าย “ใครมันจะรีดไถเจ้า? โยนความผิดให้เจ้า? เจ้าดูแผลที่เต็มหลังข้าสิ เจ้าจะเป็นห่วงข้าก่อนไม่ได้เลยหรือ?”หลินเนี่ยนฉือมองบนโดยตรง “เป็นห่วงท่าน? เหอะ ท่านคู่ควรหรือ?”“ข้าจะบอกท่านนะ อย่ามาใช้กลยุทธ์ทุกข์กายอะไรต่อหน้าข้า วิธีนี้ไม่ได้ผลกับข้า!”เมื่อเทียบกับเจ้าสุนัขที่ไร้มโนธรรมเช่นนี้ เป็นห่วงอาซื่อของนางยังดีกว่านางรู้ทุกอย่าง รวมถึงเรื่องที่อาซื่อมีแผลแส้เต็มหลังตอนออกบวชแม้ไม่มีการพูดถึงที่ข้างนอกมากนัก แต่สกุลหลินของพวกเขามีช่องทางการรับข่าวสารอยากรู้เรื่องพวกนี้ แทบไม่ต้องออกแรงเลยแต่ก็เพราะรู้มากเกินไป ดังนั้นตอนนี้หลินเนี่ยนฉือจึงโกรธเวิ

  • หลังบวชชี บรรดาท่านพี่ก็อ้อนวอนให้ข้าสึก   บทที่ 530

    สีหน้าเวินจื่อเยวี่ยน่าเกลียดขึ้นมาทันที“ข้าบอกเจ้าไปแล้ว น้องหกเป็นเด็กผู้หญิงที่ไร้เดียงสาและจิตใจดีจริงๆ ถ้าเจ้าเคยเจอนาง ก็ต้องยินดีเป็นเพื่อนกับนางแน่นอน…”“อย่าพูดเรื่องที่น่าขยะแขยงเช่นนี้”หลินเนี่ยนฉือพูดขัดเขาด้วยสีหน้าที่รังเกียจ “ข้าไม่มีทางเป็นเพื่อนกับลูกสาวนอกสมรสหรอก และยังเป็นลูกสาวนอกสมรสที่ใจคดด้วย”เมื่อคำพูดนี้ออกมา อย่าว่าแต่เวินจื่อเยวี่ยเลย แม้แต่เวินเฉวียนเซิ่งก็หน้าบึ้งเล็กน้อยแต่หลินเนี่ยนฉือไม่สนใจพวกเขา“ท่านบอกว่านางไร้เดียงสา เช่นนั้นเหตุใดอาซื่อถึงโดนบีบคั้นจนออกบวช? ท่านบอกว่านางจิตใจดี เช่นนั้นเหตุใดข้าเคยได้ยินว่านางวางยาท่าน? ทำไม หรือท่านเวินจื่อเยวี่ยยังมีรสนิยมที่ข้าไม่รู้ ชอบโดนวางยา?”สองวันนี้ที่อยู่กับเวินซื่อ นางได้รู้เรื่องที่น่าสนใจมากมายซึ่งรวมถึงเรื่องที่เวินเยวี่ยวางยาเวินจื่อเยวี่ยเวินจื่อเยวี่ยอดกลั้นความโกรธกล่าว “เวินซื่อตัดสินใจออกบวชเอง นางจิตใจคับแคบ ความคิดอำมหิต เกี่ยวอะไรกับน้องหก?”“อีกทั้งเรื่องที่น้องหกวางยาข้าเป็นแค่เรื่องเข้าใจผิด เวินซื่อต่างหากที่ใช้ยาพิษควบคุมข้า ให้ข้าทำให้น้องหกขายหน้าในงานเลี้ยงต่อหน้าผ

Latest chapter

  • หลังบวชชี บรรดาท่านพี่ก็อ้อนวอนให้ข้าสึก   บทที่ 550

    ถึงขั้นเอาอีกฝ่ายมาข่มขู่เวินจื่อเยวี่ย ทำให้เวินจื่อเยวี่ยต้องเลือกระหว่างนางและหลินเนี่ยนฉือแล้วนางสารเลวที่ยังไม่เดินผ่านประตูเข้ามาจะเอาอะไรมาเทียบกับนาง!เวินเยวี่ยโกรธจัดจนขบเขี้ยวเคี้ยวฟัน ในเสี้ยววินาทีที่ก้มศีรษะลง สายตาอาบยาพิษช่างน่าสะพรึงกลัว“ยุแยงตะแคงรั่ว?”เวินซื่อแค่รู้สึกว่าคำพูดของเวินจื่อเยวี่ยน่าขบขันมาก “มีเพียงคนที่มีหัวใจเท่านั้นถึงจะรู้สึกว่าใคร ๆ ก็เป็นเช่นนี้”นางเหลือบมองเวินเยวี่ยแวบหนึ่งอย่างเฉยชา ก่อนจะเอ่ยอย่างไม่แยแส “ท่านคิดว่าธิดาศักดิ์สิทธิ์ผู้นี้จะใช้พวกท่านไปก่อกวนความสงบของนางหรือ? ฝันไปเถอะ พวกท่านยังไม่คู่ควร”“เหอะ พูดเสียน่าฟัง ถ้าไม่ใช่เพราะจดหมายที่เจ้าเขียนไปฟ้อง หลินเนี่ยนฉืออยู่ที่อู๋โจวอยู่ดี ๆ จะเข้ามาที่เมืองหลวงทำไม? แล้วยังต้องการถอนหมั้นกับข้าอีก?!”ถึงตอนนี้เวินจื่อเยวี่ยยังคงเชื่อว่าเวินซื่อไปพูดอะไรกับหลินเนี่ยนฉือ ถึงทำให้หลินเนี่ยนฉือทำเช่นนั้น“ท่านคิดว่าข้อมูลในใต้หล้านี้มีสิ่งใดที่สามารถปิดบังได้อย่างนั้นหรือ? จวนเจิ้นกั๋วกงของพวกท่านได้ทำเรื่องที่น่าอับอายขายขี้หน้า ไร้ยางอายมาไม่น้อย แพร่กระจายไปทั่วเมืองหลวงตั้งน

  • หลังบวชชี บรรดาท่านพี่ก็อ้อนวอนให้ข้าสึก   บทที่ 549

    อูฐผอมซูบยังตัวใหญ่กว่าม้าการจะทำลายจวนเจิ้นกั๋วกงอันใหญ่โตแห่งนี้โดยอาศัยแมลงเพียงไม่กี่ตัว มันเป็นไปไม่ได้เลยแน่นอน มันก็ไม่ใช่เรื่องที่เป็นไปไม่ได้อย่างสิ้นเชิงเพียงแต่ราคาที่ต้องจ่ายนั้นสูงเกินไปอย่างเช่นการหมั้นหมายระหว่างจวนเจิ้นกั๋วกงและสกุลหลินเมื่อจวนเจิ้นกั๋วกงถูกกล่าวหาว่าสมคบคิดกับชาวต่างเผ่า เวินเฉวียนเซิ่งจะต้องพยายามอย่างเต็มที่เพื่อชำระล้างให้หลุดพ้นจากข้อกล่าวหานี้และวิธีการที่ดีที่สุดก็ต้องเป็นการดึงผู้คนให้เข้ามาพัวพันมากขึ้นสกุลหลินที่ยังมีการหมั้นหมายกับจวนเจิ้นกั๋วกงเป็นกลุ่มแรกที่รับศึกหนัก โดยเฉพาะความสัมพันธ์ระหว่างหลินเนี่ยนฉือและเวินซื่อ และจะกลายเป็นสาเหตุหนึ่งที่ทำให้เวินเฉวียนเซิ่งดึงสกุลหลินให้ลงมาพัวพันด้วยดังนั้นก่อนจะยุติการหมั้นหมายระหว่างหลินเนี่ยนฉือและเวินจื่อเยวี่ย เวินซื่อยังไม่สามารถทำอะไรบุ่มบ่ามได้ทว่า ถึงแม้ว่าจะไม่สามารถแตะต้องจวนเจิ้นกั๋วกงได้ แต่การมีเวินเยวี่ยเพียงคนเดียวก็ไม่ใช่เรื่องที่เสียหาย“หมั้น...หมั้นหมาย?”ในขณะนี้ เสียงที่สับสนของเวินเยวี่ยก็ดังขึ้นจากทางด้านหลังของ เวินจื่อเยวี่ย“พี่สาม ท่านหมั้นกับใครตั้

  • หลังบวชชี บรรดาท่านพี่ก็อ้อนวอนให้ข้าสึก   บทที่ 548

    “ท่าน…!”เวินเยวี่ยลมแทบจับเมื่อได้ยินที่เวินซื่อพูดนางข่มไฟโทสะเอาไว้ “ธิดาศักดิ์สิทธิ์ไม่ใช่คนของกองทัพธงดำเสียหน่อย ให้ท่านมาทำการค้นหา ไม่น่าจะเหมาะสมกระมัง?”เวินเยวี่ยฝืนยิ้ม “ท้ายที่สุดแล้วบุญคุณความแค้นระหว่างพี่หญิงห้ากับเยวี่ยเอ๋อร์นั้นเป็นที่ประจักษ์ชัดแจ้งกันทั่วทุกคน ถ้าเกิด…”ประโยคสุดท้ายนี้ไม่ได้พูดออกมาทั้งหมด แต่ก็สามารถเข้าใจทุกอย่างที่ควรเข้าใจถ้าเกิดเวินซื่อเข้าไปวางกลอุบายบางอย่างเพื่อใส่ร้ายนางแล้วจะทำเช่นไร?เวินซื่อหันหน้าไปเผชิญหน้ากับเวินเยวี่ย รอยยิ้มเล็ก ๆ เผยออกมาบนใบหน้าอันบริสุทธิ์ผุดผ่องและงดงามของนาง “ข้าไม่ต่ำช้าไร้ยางอายเหมือนเจ้า”ใบหน้าของเวินเยวี่ยสลดลงเพราะดำด่าของนางทันทีแต่วินาทีต่อมาก็ได้ยินเวินซื่อพูดว่า “แต่ว่านี่มันก็เป็นปัญหาจริง ๆ ในเมื่อคุณหนูหกสกุลเวินเป็นกังวลเช่นนี้ เช่นนั้นข้าธิดาศักดิ์สิทธิ์ก็ขอยืนค้นหาอยู่ที่ประตูแล้วกัน”ยืนค้นหาอยู่ที่ประตูหรือ?แล้วจะค้นหาอย่างไร?ขณะที่เวินเยวี่ยและคนอื่น ๆ กำลังงุนงง เวินซื่อก็พลิกฝ่ามือ ก่อนจะหยิบขวดหยกขวดหนึ่งออกมาจากกลางฝ่ามือของนางฉางเสี่ยวหานก้าวเข้าไปรับขวดหยกจากมือของเว

  • หลังบวชชี บรรดาท่านพี่ก็อ้อนวอนให้ข้าสึก   บทที่ 547

    “เหลวไหลสิ้นดี!”แววอันตรายฉายผ่านดวงตาอันคมกริบของเวินเฉวียนเซิ่งในทันใดเขาจ้องไปที่รถม้าที่เวินซื่อนั่งอยู่ สายตามองทะลุช่องว่างของม่านหน้าต่าง พลางชี้ตรงไปที่เวินซื่อ “เวินซื่อ เจ้ารู้ไหมว่าเจ้ากำลังทำอะไรอยู่? เจ้ากำลังใส่ร้ายขุนนางในราชสำนักซึ่งเป็นความผิดร้ายแรง!”“หากเจ้าไม่สามารถแสดงหลักฐานใด ๆ ได้ ต่อให้เจ้าจะเคยเป็นลูกสาวของข้า ข้าก็จะไม่ปล่อยเจ้าไปง่าย ๆ เด็ดขาด!”“เจิ้นกั๋วกงไม่จำเป็นต้องใจร้อนขู่ขวัญเช่นนี้”ว่าแล้วเวินซื่อก็ยกมือขึ้นเปิดม่านรถแล้ว เดินออกมาจากด้านในอย่างช้า ๆเสี่ยวหานก้าวไปข้างหน้าอย่างมีไหวพริบ ทำตามสาวใช้เหล่านั้น เอื้อมมือออกไปช่วยประคองธิดาศักดิ์สิทธิ์ของนางลงจากรถม้าช้า ๆหลังจากลงสู่พื้นและยืนได้อย่างมั่นคงแล้ว เวินซื่อก็เงยหน้าขึ้นมองเวินเฉวียนเซิ่งผ่านกองทัพธงดำ นางยิ้มเล็กน้อย “ถ้าธิดาศักดิ์สิทธิ์ไม่มีหลักฐาน วันนี้จะกล้านำกองกำลังไปปิดล้อมจวนเจิ้นกั๋วกงของท่านได้อย่างไร”การทำงานตามคำสั่งส่วนตัวของอ๋องผู้สำเร็จราชการเป็นเรื่องหนึ่ง แต่การทำงานตามพระราชโองการของฝ่าบาทก็เป็นอีกเรื่องหนึ่งเวินซื่อยกมือขึ้น รับพระราชโองการจากมือของกองทัพ

  • หลังบวชชี บรรดาท่านพี่ก็อ้อนวอนให้ข้าสึก   บทที่ 546

    ให้อ๋องผู้สำเร็จราชการแทนมาหนุนหลังนางแล้วอย่างไรต่อ เขาไม่เชื่อว่า อ๋องผู้สำเร็จราชการแทนผู้สง่างามจะบังคับเขาให้ถอนหมั้นได้อย่างนั้นหรือ!เมื่อเวินเฉวียนเซิ่งได้ยินเวินจื่อเยวี่ยพูด ก็มองเขาแวบหนึ่งอย่างเย็นชา “เจ้าควรคิดหาวิธีช่วยพี่ใหญ่ของเจ้าก่อนดีกว่า ถ้าครั้งนี้พี่ใหญ่ของเจ้าตาย ก็อย่าได้คิดเรื่องหมั้นหมายเลย ข้าเวินเฉวียนเซิ่ง ไม่มีลูกชายที่ใจไม้ไส้ระกำอย่างเจ้า”ใบหน้าของเวินจื่อเยวี่ยขรึมลงทันทีเขารู้ว่าลูกชายคนโปรดของบิดาไม่ใช่เขา แต่เป็นพี่ใหญ่ที่บิดาเลี้ยงดูอย่างสุดชีวิตจิตใจแต่เขานึกไม่ถึงว่ามาถึงขั้นนี้แล้ว บิดาจะยังโหดร้ายถึงเพียงนี้ เอาการหมั้นหมายของเขามาข่มขู่เขาเวินจื่อเยวี่ยไม่ได้พูดอะไรอีกแต่ในขณะนี้ พ่อบ้านนั้นพูดด้วยสีหน้าขมขื่น “ท่านกั๋วกง คุณชายสาม ครั้งนี้ผู้ที่นำกองทัพธงดำมาไม่ใช่ท่านอ๋องขอรับ”เมื่อได้ยินคำพูดนี้เวินเฉวียนเซิ่งก็หันกลับไปหาพ่อบ้าน “ไม่ใช่เป่ยเฉินหยวนหรอกหรือ? แล้วใครล่ะ?”นอกจากฮ่องเต้น้อยและเป่ยเฉินหยวนเองแล้ว ยังมีใครอีกที่สามารถระดมกองทัพธงดำ ถึงขั้นกล้าปิดล้อมจวนเจิ้นกั๋วกงของเขาได้?ขณะที่เวินเฉวียนเซิ่งกำลังครุ่นคิดในหัวว

  • หลังบวชชี บรรดาท่านพี่ก็อ้อนวอนให้ข้าสึก   บทที่ 545

    “เสี่ยวหาน ให้ข้าดูหน้าเจ้าหน่อยสิ”หลังจากขับไล่เวินเฉวียนเซิ่งและเวินจื่อเยวี่ยออกไปแล้ว เวินซื่อก็ดึงฉางเสี่ยวหานเข้ามา“ไม่เป็นไร ไม่เป็นไรเจ้าค่ะ ตบไม่โดนหน้า ข้าหลบได้นิดหน่อย แค่ตบโดนหัวเท่านั้น”ถึงกระนั้น การตบของเวินจื่อเยวี่ยก็หนักหน่วงมาก จนศีรษะของฉางเสี่ยวหานถึงกับสั่นคลอนในตอนนั้น ใช้เวลาสักพักกว่าจะตอบสนองได้“เจ้าไม่ต้องกังวล การตบครั้งนี้ข้าจะต้องเอาคืนเขาอย่างแรงแน่นอน”สีหน้าของเวินซื่อเคร่งขรึมลง น้ำเสียงไม่พอใจเป็นอย่างยิ่งฉางเสี่ยวหานลุกขึ้นกล่าวว่า “ไม่ ๆ ๆ ไม่ต้องหรอกธิดาศักดิ์สิทธิ์ เมื่อครู่ท่านช่วยตบคืนแทนเสี่ยวหานแล้ว ไม่จำเป็นต้องทำอะไรอีกเจ้าค่ะ”ฉางเสี่ยวหานรู้จักคนในเมืองหลวงน้อยมาก แต่หลังจากติดตามเวินซื่อมาเป็นเวลานาน ก็ได้เรียนรู้เรื่องต่าง ๆ มากขึ้นเมื่อได้ยินคำพูดที่ธิดาศักดิ์สิทธิ์พูดกับสองพ่อลูกคู่นั้นเมื่อครู่ ก็ย่อมสามารถคาดเดาตัวตนของพวกเขาได้อย่างง่ายดายคนหนึ่งคืออดีตบิดาของธิดาศักดิ์สิทธิ์ อีกคนคืออดีตพี่ชายของธิดาศักดิ์สิทธิ์ความสัมพันธ์ระหว่างพวกเขานั้นย่ำแย่มากพออยู่แล้ว หากธิดาศักดิ์สิทธิ์ต้องทะเลาะกับพี่ชายหนักขึ้นด้วยเรื่

  • หลังบวชชี บรรดาท่านพี่ก็อ้อนวอนให้ข้าสึก   บทที่ 544

    เขาขบริมฝีปากล่างแน่น กัดปากของตัวเองแตกเหมือนไม่รู้สึกตัว ปล่อยให้เลือดไหลลงจากมุมปากช้า ๆ“หลินเนี่ยนฉือล่ะ?”เวินจื่อเยวี่ยเอ่ยปากถามขึ้นทันใด“ข้าอยากพบนาง”“นางไม่อยากพบท่าน”เวินซื่อเอ่ยขึ้นอย่างราบเรียบ“ข้าบอกว่าข้าอยากพบนาง!”เวินจื่อเยวี่ยตวาดลั่นอย่างฉุนเฉียวขึ้นมาทันใด พลางปัดมือของจางเสี่ยวหานออกมือของจางเสี่ยวหานถูกตีเจ็บ ตกใจสะดุ้งโหยง เมื่อนางรู้ตัวก็เอื้อมมือออกไปอีกครั้ง คว้าเพียงหนังสือถอนหมั้นฉบับนั้นไว้ส่วนจี้หยกก็ร่วงลงสู่พื้นดัง “ตุ้บ” ตามมาด้วยเสียงแตกหักดังขึ้น จี้หยกแยกออกเป็นสองส่วนทันทีเวินจื่อเยวี่ยที่ยังอยู่ในอาการฉุนเฉียวเมื่อได้ยินเสียงนี้อย่างกะทันหัน ก็ก้มหน้าลงมอง เกิดความสับสนขึ้นโดยพลันเขารีบเก็บจี้หยกขึ้นมา เมื่อมองดูรอยแตกหักนั้น ก็ไม่อาจยับยั้งไฟโทสะที่อัดอั้นอยู่เต็มอกไว้ได้ เพียงชั่วครู่ก็ระเบิดอารมณ์ใส่ฉางเสี่ยวหาน...“ใครให้เจ้าทำของของข้าพัง! เจ้าอยากตายหรือไง?!”“อะไรนะ? ไม่ใช่ข้า เป็นท่านต่างหากที่ปัดมือของข้าเอง...”“สาวใช้ต่ำต้อยอย่างเจ้ายังกล้าเถียงอีก!”เวินจื่อเยวี่ยลุกพรวดขึ้น สีหน้ามีรอยพยายาท ยกมือขึ้นตบหน้าฉางเส

  • หลังบวชชี บรรดาท่านพี่ก็อ้อนวอนให้ข้าสึก   บทที่ 543

    เวินจื่อเยวี่ยมองเวินเฉวียนเซิ่งอย่างไม่อยากจะเชื่อ “ท่านพ่อ พูดเช่นนี้หมายความว่าอย่างไร?”เวินจื่อเยวี่ยเงียบไปครู่หนึ่ง “เจ้าน่าจะเข้าใจ เจ้าสาม”“ข้าไม่เข้าใจ!”เวินจื่อเยวี่ยตวาดออกมาทันใด พลางจ้องมองไปที่บิดาของเขาอย่างไม่ละสายตาเวินเฉวียนเซิ่งถอนหายใจอีกครั้ง “แค่การหมั้นหมายเท่านั้น พ่อรู้ว่าเจ้าไม่เต็มใจยอมรับ แต่พี่ใหญ่ของเจ้ามีเวลาเหลือไม่มากแล้ว ถ้ายังไม่เอายากลับไปอีก เขาจะต้องตายในไม่ช้า”“เจ้าสาม เจ้าจะทนเห็นพี่ใหญ่ของเจ้าตายไปได้จริงหรือ?”เวินจื่อเยวี่ยที่ได้ยินคำพูดประโยคนี้ของเขาได้ถามด้วยเสียงอันสั่นเครือเล็กน้อย “ก็เลยต้องเสียสละการหมั้นของข้าเพื่อช่วยพี่ใหญ่อย่างนั้นหรือ? ทั้ง ๆ ที่เรายังมีวิธีอื่นอีก แต่ท่านก็ยังยืนกรานที่จะขอร้องเวินซื่อ?!”“ยังมีวิธีอื่นอีกหรือ?”สีหน้าของเวินเฉวียนเซิ่งเย็นชาลง น้ำเสียงแย่มาก “ไม่ว่าจะเป็นบัวหิมะก็ดี เห็ดหลินจือสีม่วงอายุหนึ่งร้อยปีก็ดี หรือหญ้าฝรั่นที่ไม่เคยได้ยินมาก่อนด้วยซ้ำก็ดี เจ้าคิดว่ามีสิ่งไหนหาง่ายบ้าง?!”“หากพี่ใหญ่ของเจ้ายังยืดเวลาได้อีกครึ่งค่อนเดือน พ่อก็จะไม่รีบร้อนเช่นนี้! แต่นี่พี่ใหญ่ของเจ้าอาจตายได้

  • หลังบวชชี บรรดาท่านพี่ก็อ้อนวอนให้ข้าสึก   บทที่ 542

    นางมองเวินเฉวียนเซิ่งอย่างเย็นชา “ท่านไม่มีคุณสมบัตินี้ตั้งนานแล้ว”“เวินซื่อ! จงระวังท่าทีในการพูดจาของเจ้าด้วย แม้ว่าตอนนี้เจ้าจะเป็นธิดาศักดิ์สิทธิ์แล้ว แต่ความสัมพันธ์พ่อลูกของเจ้ากับพ่อจะไม่มีทางเปลี่ยนแปลง อย่าลืมว่ายังมีเลือดของสกุลเวินไหลเวียนอยู่ในตัวเจ้า”“ใครบอกว่าเปลี่ยนแปลงไม่ได้?”เวินซื่อยิ้มเยาะ “ความสัมพันธ์นี้จะเปลี่ยนไปในไม่ช้า แต่ตอนนี้ขอวกกลับเข้าประเด็นก่อน ท่านเจิ้นจั๋วกง ท่านยังไม่ได้บอกตัวเลือกของท่านเลย ท่านวางแผนที่จะเลือกใครกันแน่?”ล้มเหลวในการเล่นกับอารมณ์ ล้มเหลวในการข่มขู่กลับมาสู่เงื่อนไขข้อแรกสุดอีกครั้ง สายตาของเวินเฉวียนเซิ่งเย็นชาลงระดับหนึ่งในทันใดเวินซื่อดูเหมือนจะมองไม่เห็นเลย เร่งรัดเขาด้วยอารมณ์ที่ดีมาก“ข้ามีเวลาไม่มากนัก ท่านเจิ้นจั๋วกงรีบตัดสินใจโดยเร็วที่สุดเถอะ มิฉะนั้นก็จะไม่มีการเจรจาใด ๆ อีกแล้ว”นางหันไปมองเวินเฉวียนเซิ่งด้วยรอยยิ้มตาหยี “‘พี่ใหญ่แสนดี’ ของข้าก็น่าจะมีเวลาไม่เพียงพอใช่ไหม?”“ถุย!”เวินจื่อเยวี่ยถ่มน้ำลายใส่นางอย่างรุนแรง “พี่ใหญ่ไม่มีน้องสาวที่ชั่วร้ายอย่างเจ้า!”“ถูกต้อง ข้าชั่วร้าย แต่ก็เทียบไม่ได้กับเว

Explore and read good novels for free
Free access to a vast number of good novels on GoodNovel app. Download the books you like and read anywhere & anytime.
Read books for free on the app
SCAN CODE TO READ ON APP
DMCA.com Protection Status