Share

บทที่ 530

Penulis: จิ้งซิง
สีหน้าเวินจื่อเยวี่ยน่าเกลียดขึ้นมาทันที

“ข้าบอกเจ้าไปแล้ว น้องหกเป็นเด็กผู้หญิงที่ไร้เดียงสาและจิตใจดีจริงๆ ถ้าเจ้าเคยเจอนาง ก็ต้องยินดีเป็นเพื่อนกับนางแน่นอน…”

“อย่าพูดเรื่องที่น่าขยะแขยงเช่นนี้”

หลินเนี่ยนฉือพูดขัดเขาด้วยสีหน้าที่รังเกียจ “ข้าไม่มีทางเป็นเพื่อนกับลูกสาวนอกสมรสหรอก และยังเป็นลูกสาวนอกสมรสที่ใจคดด้วย”

เมื่อคำพูดนี้ออกมา อย่าว่าแต่เวินจื่อเยวี่ยเลย แม้แต่เวินเฉวียนเซิ่งก็หน้าบึ้งเล็กน้อย

แต่หลินเนี่ยนฉือไม่สนใจพวกเขา

“ท่านบอกว่านางไร้เดียงสา เช่นนั้นเหตุใดอาซื่อถึงโดนบีบคั้นจนออกบวช? ท่านบอกว่านางจิตใจดี เช่นนั้นเหตุใดข้าเคยได้ยินว่านางวางยาท่าน? ทำไม หรือท่านเวินจื่อเยวี่ยยังมีรสนิยมที่ข้าไม่รู้ ชอบโดนวางยา?”

สองวันนี้ที่อยู่กับเวินซื่อ นางได้รู้เรื่องที่น่าสนใจมากมาย

ซึ่งรวมถึงเรื่องที่เวินเยวี่ยวางยาเวินจื่อเยวี่ย

เวินจื่อเยวี่ยอดกลั้นความโกรธกล่าว “เวินซื่อตัดสินใจออกบวชเอง นางจิตใจคับแคบ ความคิดอำมหิต เกี่ยวอะไรกับน้องหก?”

“อีกทั้งเรื่องที่น้องหกวางยาข้าเป็นแค่เรื่องเข้าใจผิด เวินซื่อต่างหากที่ใช้ยาพิษควบคุมข้า ให้ข้าทำให้น้องหกขายหน้าในงานเลี้ยงต่อหน้าผ
Lanjutkan membaca buku ini secara gratis
Pindai kode untuk mengunduh Aplikasi
Bab Terkunci
Komen (1)
goodnovel comment avatar
Artima de Greenleaf
ก็ให้ยัยหกช่วยสิ เมื่อไหร่อิพวกง่าวจะรู้ความจริงสักที วางยาจนจะพุ่งเอาไซยาไนด์ไปให้นางเอกวางแทนละนะ จะกี่หมื่นตอนกันเนี่ย
LIHAT SEMUA KOMENTAR

Bab terkait

  • หลังบวชชี บรรดาท่านพี่ก็อ้อนวอนให้ข้าสึก   บทที่ 531

    หลินเนี่ยนฉือชะงักไปครู่หนึ่ง “เจ้าค่ะ ข้าจะนำคำพูดของท่านลุงเวินไปบอกนางให้”หลังจากที่เวินเฉวียนเซิ่งพวกเขาจากไปแล้ว หลินเนี่ยนฉือกลับไปก็นำคำพูดของเวินเฉวียนเซิ่งบอกให้เวินซื่อฟังอีกรอบเวินซื่อพลันหัวเราะเยาะออกมาเสียงหนึ่ง “สมแล้วที่เป็นจิ้งจอกเฒ่าเจ้าเล่ห์ รู้ว่าหากมาขอพบข้า ข้าคงไม่ยอมพบเขาง่ายๆ จึงแสร้งทำเป็นถอยเพื่อรุก โดยอ้างเหตุผลว่าเวินฉางอวิ้นใกล้ตายเพื่อให้ข้าลงจากเขา”และอย่างช้าที่สุดก็คืนนี้ ข่าวที่ว่า “คุณชายใหญ่แห่งจวนเจิ้นกั๋วกงอาการปางตาย ขอดูหน้าน้องสาวเป็นครั้งสุดท้าย” ก็จะแพร่สะพัดไปทั่วทั้งเมืองหลวงถึงตอนนั้น ต่อให้สกุลเวินจะมีความผิดมากมายเพียงใด หากนางซึ่งเป็นน้องสาวแท้ๆ ไม่ไปดูใจพี่ใหญ่เป็นครั้งสุดท้าย นั่นก็จะเป็นความผิดของนางเองหากถึงเวลานั้นจริงๆ ด้วยแรงกดดันจากภายนอก อำนาจในการควบคุมสถานการณ์ที่นางมีอยู่ในตอนแรก ก็จะกลับกลายเป็นฝ่ายถูกกระทำดังนั้น ต่อให้ไม่อยากไปก็ต้องไป“ร้ายกาจจริงๆ ท่านลุงเวินมาถึงขั้นนี้แล้วยังจะคิดวางแผนอีกหรือ? เขาไม่กลัวว่าเจ้าจะใจแข็งไม่ไปจริงๆ ถึงเวลานั้น พี่ใหญ่เวินตายไปจริงๆ จะทำอย่างไร?”หลินเนี่ยนฉือไม่เข้าใจอย่

  • หลังบวชชี บรรดาท่านพี่ก็อ้อนวอนให้ข้าสึก   บทที่ 532

    ทว่าหลินเนี่ยนฉือกลับฟังแล้วรู้สึกใจหายใจคว่ำ“อันตรายเกินไปแล้ว ฐานะธิดาศักดิ์สิทธิ์ของเจ้าในตอนนี้ แม้ฟังดูเหมือนจะสุขสบายและสูงส่ง แต่ทุกครั้งที่เจ้าไปสถานที่เหล่านั้น หากไม่เป็นพื้นที่ประสบภัยพิบัติก็เป็นพื้นที่โรคระบาด ราษฎรเหล่านั้นเกิดเรื่องอะไรขึ้นมาจริงๆ ไม่แน่ว่าสุดท้ายความผิดร้ายแรงจะถูกโยนมาที่เจ้าอีก”หลินเนี่ยนฉือยิ่งพูดก็ยิ่งรู้สึกเป็นห่วงนางเวินซื่อยกมือขึ้นตบแขนของนางเบาๆ “ไม่ต้องห่วง ฐานะนี้ก็เปรียบเสมือนดาบสองคมอยู่แล้ว มันช่วยให้ข้าออกจากสกุลเวินได้อย่างสมเหตุสมผล ข้าก็ย่อมต้องทำบางสิ่งเพื่อแลกเปลี่ยนเช่นกัน เจ้าวางใจเถอะ ข้ารู้ดีถึงภัยแฝงที่ฐานะนี้จะนำพามาให้ ดังนั้นตอนนี้ข้าจึงได้เริ่มเตรียมการรับมือแล้ว เพียงแต่ต้องใช้เวลาสักหน่อยเท่านั้น”“เช่นนั้นก็ดีแล้ว หากมีอะไรให้ช่วยก็บอกข้าได้เลย ท่านปู่ของข้าเจ้าก็รู้จักดี ในบรรดาเหล่าบัณฑิตทั่วหล้า ท่านก็ยังพอจะช่วยเอ่ยปากแทนเจ้าได้อยู่บ้าง”ระหว่างหลินเนี่ยนฉือกับเวินซื่อนั้น แต่ไหนแต่ไรมาก็ไม่เคยแบ่งแยกเรื่องของเจ้าของข้าแน่นอนว่าส่วนหนึ่งเป็นเพราะทัศนคติของคนในครอบครัวทั้งสองฝ่ายด้วยนอกจากเวินเฉวียนเซิ่งที่

  • หลังบวชชี บรรดาท่านพี่ก็อ้อนวอนให้ข้าสึก   บทที่ 533

    เวินซื่ออดยิ้มไม่ได้ “ดี ถ้าเช่นนั้นคงต้องรบกวนรองแม่ทัพเกา ช่วยนำคำขอบคุณของข้าไปบอกท่านอ๋องผู้สำเร็จราชการแทนด้วย”หลังจากเกาเย่าจากไป เวินซื่อก็นำจดหมายและป้ายคำสั่งอันนั้นกลับมาที่เรือนเล็กอย่างรวดเร็ว“ใครเป็นคนส่งจดหมายมากัน? เหตุใดสีหน้าของเจ้าถึงดูแปลกๆ?”หลินเนี่ยนฉือเอ่ยถามด้วยความสงสัย ในขณะที่รินน้ำชาอุ่นๆ ให้ใหม่“เป็นจดหมายจากท่านอ๋องผู้สำเร็จราชการแทน”เวินซื่อเล่าเรื่องที่เกิดขึ้นเมื่อครู่ให้หลินเนี่ยนฉือฟังหนึ่งรอบหลินเนี่ยนฉือพอฟังจบก็อดไม่ได้ที่จะเบิกตากว้าง “ไม่สิ เหตุใดข้าถึงรู้สึกว่าท่าทีของท่านอ๋องผู้สำเร็จราชการแทนที่มีต่อเจ้าดูเหมือนจะไม่ธรรมดาเลยนะ? เขาเป็นคนมีน้ำใจถึงเพียงนี้เชียวหรือ? ทำไมข้าจำได้ว่าเหมือนเคยมีคนพูดว่า ท่านอ๋องผู้สำเร็จราชการแทนผู้นี้เกลียดชังสตรีอย่างยิ่งมิใช่หรือ?”เวินซื่อครุ่นคิด จากนั้นเอ่ยขึ้น “อาจเป็นเพราะพวกเราเป็นสหายกันกระมัง”“สหาย?”หลินเนี่ยนฉือรู้สึกสงสัยและไม่เข้าใจเวินซื่ออธิบายอย่างคลุมเครือ “เพราะว่าก่อนหน้านี้ข้าก็เคยช่วยเหลือท่านอ๋องผู้สำเร็จราชการแทนอยู่บ้าง ดังนั้น ความสัมพันธ์ก็เลยดีขึ้นมาน่ะสิ หลังจากนั้นก

  • หลังบวชชี บรรดาท่านพี่ก็อ้อนวอนให้ข้าสึก   บทที่ 534

    “ส่งคนไปลากพวกนางออกมาเดี๋ยวนี้!”เวินเฉวียนเซิ่งออกคำสั่งด้วยน้ำเสียงโมโห เหล่าองครักษ์ที่ติดตามมาด้านหลังก็พากันก้าวออกไปข้างหน้าแต่ยังไม่ทันที่พวกเขาจะได้เข้าใกล้ฝูงชน รอบด้านก็พลันมีเหล่าองครักษ์ที่สวมชุดเครื่องแบบของแต่ละตระกูลหลายกลุ่มพุ่งเข้ามา ขวางอยู่ด้านหน้าคนของจวนเจิ้นกั๋วกงทั้งหมด“หยุดนะ ห้ามเข้าใกล้ฮูหยินของพวกเรา!”“ผู้ใดกล้าก้าวมาข้างหน้าแม้เพียงก้าวเดียว ก็อย่าหาว่าคมดาบของจวนแม่ทัพของพวกเราไร้ปรานี!”“ใครกันบังอาจเข้าใกล้คุณหนูของข้า!”องครักษ์ของจวนเจิ้นกั๋วกงมองดู ไหนจะฮูหยินจากจวนเสนาบดี คุณหนูจากจวนแม่ทัพ พี่สะใภ้ของตระกูลผู้บัญชาการทหารประจำเมือง น้องสาวของท่านขุนนางผู้ตรวจการ... และอื่นๆ อีกมากมาย ล้วนเป็นสมาชิกครอบครัวของเหล่าขุนนางในราชสำนักทั้งสิ้นแบบนี้พวกเขาจะลงมือได้อย่างไร?เวลานี้ เวินเฉวียนเซิ่งที่นึกออกแล้ว สีหน้าก็พลันมืดมนลงยิ่งกว่าเดิมโดยเฉพาะอย่างยิ่ง เมื่อเขามองเห็นร่างหนึ่งที่คุ้นตาอย่างยิ่งท่ามกลางฝูงชน เขาก็พลันตวาดเสียงดังลั่น“เวินหย่าลี่!”เวินหย่าลี่ซึ่งเดิมทีใช้ผ้าคลุมหน้าปิดบังใบหน้าอยู่ พอได้ยินเสียงตวาดที่นางคุ้นเคยอย่างย

  • หลังบวชชี บรรดาท่านพี่ก็อ้อนวอนให้ข้าสึก   บทที่ 535

    แต่คาดไม่ถึงว่า ยังไม่ทันเริ่มก็ถูกพี่ใหญ่ของนางจับได้คาหนังคาเขาเสียแล้วและต่อจากนี้ อาจจะถึงขั้นใช้งานนางให้คอยวิ่งเต้นให้อีกเวินเฉวียนเซิ่งข่มความโกรธไว้พลางกล่าวว่า “ช่างเถอะ ตอนนี้ข้าขี้เกียจจะมาต่อล้อต่อเถียงกับเจ้าเรื่องพวกนี้แล้ว ในเมื่อเจ้าอยู่ที่นี่ ก็ไม่ต้องเสียเวลาไปเรียกเยวี่ยเอ๋อร์มา ให้เจ้าไปนั่นแหละ”“หา? ข้าไปทำอะไรหรือ?”เวินหย่าลี่ใช้นิ้วชี้มาที่ตัวเอง สีหน้าเต็มไปด้วยความสงสัยเห็นได้ชัดว่ายังไม่เข้าใจสถานการณ์เวินเฉวียนเซิ่งกล่าวอย่างไม่สบอารมณ์ “เจ้าคิดว่าให้ไปทำอะไร? แน่นอนว่าต้องให้เจ้ารีบเบียดเสียดไปด้านหน้า เคาะประตูใหญ่ของอารามสุ่ยเยว่ให้เปิด จากนั้นก็เข้าไปข้างในเพื่อขัดขวางเวินซื่อ ห้ามปล่อยให้นางเอาบัวหิมะดอกนั้นไปทำเสียของเป็นอันขาด!”เวินหย่าลี่ก็พลันเบิกตากว้าง “เดี๋ยวนะ? เช่นนั้นเมื่อครู่พี่ใหญ่ท่านเรียกข้าออกมาทำไมกัน ทั้งๆ ที่ข้าเบียดเข้าไปถึงข้างหน้าได้แล้ว ตอนนี้ข้าก็ต้องกลับไปเบียดใหม่อีก!”พอนางหันกลับไปมองดูภาพผู้คนหลายร้อยคนที่กำลังเบียดเสียดกันแน่นขนัด ก็แทบอยากจะเปิดศึกกับพี่ใหญ่ของนางสักตั้งไม่บอกให้เร็วกว่านี้!เวินเฉวียนเซิ่ง

  • หลังบวชชี บรรดาท่านพี่ก็อ้อนวอนให้ข้าสึก   บทที่ 536

    เดิมทีคิดว่าคนที่ออกมาจะเป็นซือไท่บางท่านของอารามสุ่ยเยว่ หรือไม่ก็เป็นอาจารย์น้อยบางท่าน แต่เหล่าฮูหยินและคุณหนูที่อยู่ด้านนอกกลับคาดไม่ถึงเลยว่า คนที่เดินออกมานั้นจะเป็นเวินซื่อเองหยางฮูหยินที่อยู่หน้าสุดกับเวินหย่าลี่ที่อยู่ด้านหลังต่างชะงักไปครู่หนึ่งแต่หยางฮูหยินได้สติเร็วที่สุด ดวงตาเป็นประกาย รีบย่อตัวคารวะพลางเอ่ยขึ้น “คารวะท่านธิดาศักดิ์สิทธิ์!”พอเสียงของหยางฮูหยินดังขึ้น เหล่าฮูหยินและคุณหนูที่อยู่ด้านหลังก็ค่อยๆ ทยอยได้สติกัน พากันคารวะตาม “คารวะท่านธิดาศักดิ์สิทธิ์!”ในชั่วพริบตา ภาพเหตุการณ์ที่เมื่อครู่ยังอึกทึกครึกโครมอย่างยิ่งก็พลันเงียบสงบลงสายตาของเวินซื่อกวาดมองผ่านเวินหย่าลี่เป็นคนแรก แม้นางจะสวมผ้าคลุมหน้า แต่แววตาละอายใจก็เผยออกมาให้เห็น จากนั้นจึงเอ่ยกับหยางฮูหยินและคนอื่นๆ ว่า “ทุกท่านตามสบายเถิด วันนี้ข้าลงมือปรุงน้ำแกงด้วยตนเอง ได้รับบัวหิมะพระราชทานจากฝ่าบาท อีกทั้งยังได้รับการสนับสนุนจากสาธุชนทุกท่าน จึงได้ตัดสินใจว่าห้าสิบท่านแรกจะได้รับน้ำแกงบัวหิมะบำรุงผิวพรรณไปหนึ่งถ้วย”“ส่วนสาธุชนที่มาทีหลังและไม่ทันก็มิต้องกังวล ท่านอาจารย์ของข้าก็ได้เตรียมน้

  • หลังบวชชี บรรดาท่านพี่ก็อ้อนวอนให้ข้าสึก   บทที่ 537

    “เจ้าไปทำธุระของเจ้าเถอะ ที่นี่อาจารย์จะจัดการเอง”ม่อโฉวซือไท่ย่อมทราบดีอยู่แล้วว่าช่วงนี้เวินซื่อกำลังทำสิ่งใดอยู่ นางยกมือขึ้นตบไหล่ของเวินซื่อเบาๆ หางตาเหลือบไปมองคนผู้หนึ่งที่อยู่รอบนอกสุดของฝูงชน จากนั้นจึงแค่นเสียงเย็นเสียงหนึ่ง“รู้จักใช้ประโยชน์ให้มากขึ้นหน่อย อย่าทำตัวซื่อบื้อนัก เมื่อก่อนรากฐานของสกุลหลานนั้นลึกล้ำมั่นคงอย่างยิ่ง”เวินซื่อได้ยินดังนั้นก็ยิ้มออกมาทันที “ศิษย์เข้าใจแล้วเจ้าค่ะ ขอบคุณท่านอาจารย์”จากนั้นเวินซื่อก็หันกลับเตรียมจะไปหาเวินหย่าลี่ แต่พลันก็นึกบางอย่างขึ้นมาได้ นางจึงหันกลับไปอีกครั้ง แล้วกระซิบกระซาบสองสามประโยคที่ข้างหูของม่อโฉวซือไท่และม่อโฉวซือไท่ก็ไม่รู้ว่าได้ยินเรื่องอันใดที่น่าสนใจเข้า ใบหน้าที่เคร่งขรึมกลับปรากฏสีหน้าที่ไม่รู้ว่าจะหัวเราะหรือร้องไห้ดีขึ้นมาแวบหนึ่ง หลังจากนั้นก็เอ่ยด้วยน้ำเสียงเอ็นดู “ได้ ให้อาจารย์จัดการเถอะ”......หลังจากที่เวินหย่าลี่พุ่งพรวดเข้าไปในอารามสุ่ยเยว่ได้แล้ว ร่างกายก็พลันปราดเปรียวว่องไวผิดปกติ หลบหลีกการขัดขวางของซือไท่ท่านอื่นได้ จากนั้นก็ตามหาห้องครัวไปทั่วทั้งอารามสุ่ยเยว่ผลปรากฏว่าพอไปถึงห้องคร

  • หลังบวชชี บรรดาท่านพี่ก็อ้อนวอนให้ข้าสึก   บทที่ 538

    พอความคิดนี้ผุดขึ้นมา เวินหย่าลี่ก็รู้สึกตื่นเต้นจนดวงตาทั้งสองข้างเป็นประกายในทันทีนางยื่นมือไปหยิบชามและทัพพีตักน้ำแกงในครัวเล็กของเวินซื่อโดยแทบจะไม่ลังเลเลยสักนิดตักครั้งแล้วครั้งเล่า ตักให้ตัวเองจนเต็มถ้วยใหญ่ จากนั้นก็ยกขึ้นมาดื่มทันทีก็ไม่รู้ว่าในน้ำแกงนั้นใส่อะไรลงไปบ้าง แต่รสชาติช่างตุ๋นได้ยอดเยี่ยมจริงๆ ดื่มไปชามหนึ่งยังไม่พอ จึงต่อด้วยชามที่สอง ชามที่สาม พอดื่มไปครบห้าชามเต็มๆ เวินหย่าลี่ก็รู้สึกว่าท้องตึงใกล้จะแตกแล้ว นางถึงได้ยอมวางชามลงในที่สุดแต่ในเวลานี้ พลันมีเสียงความเคลื่อนไหวมาจากด้านนอก“สาธุชนทุกท่านโปรดรอที่นี่สักครู่ น้ำแกงบัวหิมะบำรุงผิวพรรณที่ปรุงเสร็จแล้วอยู่ในครัวเล็กของข้า ข้าจะไปยกมาให้ทุกท่าน”“อุ๊ย จะให้ท่านธิดาศักดิ์สิทธิ์ยกน้ำแกงมาให้หม่อมฉันได้อย่างไร ให้หม่อมฉันไปยกเองดีกว่า”“ใช่แล้วๆ พวกเราไปเอง”ขณะที่พูดคุยกัน คนเหล่านั้นก็มาถึงหน้าประตูห้องครัวเล็กแล้ว จากนั้นแต่ละคนก็เงยหน้าขึ้นมอง แล้วก็เห็นเวินหย่าลี่ซึ่งทั้งไม่ได้ปิดประตู และหลบไม่ทัน กำลังยืนถือชามแอบดื่มน้ำแกงอยู่หน้าเตาเวินซื่อที่เห็นฉากนี้เข้าพอดี ก็เกือบจะกลั้นหัวเราะไว้

Bab terbaru

  • หลังบวชชี บรรดาท่านพี่ก็อ้อนวอนให้ข้าสึก   บทที่ 550

    ถึงขั้นเอาอีกฝ่ายมาข่มขู่เวินจื่อเยวี่ย ทำให้เวินจื่อเยวี่ยต้องเลือกระหว่างนางและหลินเนี่ยนฉือแล้วนางสารเลวที่ยังไม่เดินผ่านประตูเข้ามาจะเอาอะไรมาเทียบกับนาง!เวินเยวี่ยโกรธจัดจนขบเขี้ยวเคี้ยวฟัน ในเสี้ยววินาทีที่ก้มศีรษะลง สายตาอาบยาพิษช่างน่าสะพรึงกลัว“ยุแยงตะแคงรั่ว?”เวินซื่อแค่รู้สึกว่าคำพูดของเวินจื่อเยวี่ยน่าขบขันมาก “มีเพียงคนที่มีหัวใจเท่านั้นถึงจะรู้สึกว่าใคร ๆ ก็เป็นเช่นนี้”นางเหลือบมองเวินเยวี่ยแวบหนึ่งอย่างเฉยชา ก่อนจะเอ่ยอย่างไม่แยแส “ท่านคิดว่าธิดาศักดิ์สิทธิ์ผู้นี้จะใช้พวกท่านไปก่อกวนความสงบของนางหรือ? ฝันไปเถอะ พวกท่านยังไม่คู่ควร”“เหอะ พูดเสียน่าฟัง ถ้าไม่ใช่เพราะจดหมายที่เจ้าเขียนไปฟ้อง หลินเนี่ยนฉืออยู่ที่อู๋โจวอยู่ดี ๆ จะเข้ามาที่เมืองหลวงทำไม? แล้วยังต้องการถอนหมั้นกับข้าอีก?!”ถึงตอนนี้เวินจื่อเยวี่ยยังคงเชื่อว่าเวินซื่อไปพูดอะไรกับหลินเนี่ยนฉือ ถึงทำให้หลินเนี่ยนฉือทำเช่นนั้น“ท่านคิดว่าข้อมูลในใต้หล้านี้มีสิ่งใดที่สามารถปิดบังได้อย่างนั้นหรือ? จวนเจิ้นกั๋วกงของพวกท่านได้ทำเรื่องที่น่าอับอายขายขี้หน้า ไร้ยางอายมาไม่น้อย แพร่กระจายไปทั่วเมืองหลวงตั้งน

  • หลังบวชชี บรรดาท่านพี่ก็อ้อนวอนให้ข้าสึก   บทที่ 549

    อูฐผอมซูบยังตัวใหญ่กว่าม้าการจะทำลายจวนเจิ้นกั๋วกงอันใหญ่โตแห่งนี้โดยอาศัยแมลงเพียงไม่กี่ตัว มันเป็นไปไม่ได้เลยแน่นอน มันก็ไม่ใช่เรื่องที่เป็นไปไม่ได้อย่างสิ้นเชิงเพียงแต่ราคาที่ต้องจ่ายนั้นสูงเกินไปอย่างเช่นการหมั้นหมายระหว่างจวนเจิ้นกั๋วกงและสกุลหลินเมื่อจวนเจิ้นกั๋วกงถูกกล่าวหาว่าสมคบคิดกับชาวต่างเผ่า เวินเฉวียนเซิ่งจะต้องพยายามอย่างเต็มที่เพื่อชำระล้างให้หลุดพ้นจากข้อกล่าวหานี้และวิธีการที่ดีที่สุดก็ต้องเป็นการดึงผู้คนให้เข้ามาพัวพันมากขึ้นสกุลหลินที่ยังมีการหมั้นหมายกับจวนเจิ้นกั๋วกงเป็นกลุ่มแรกที่รับศึกหนัก โดยเฉพาะความสัมพันธ์ระหว่างหลินเนี่ยนฉือและเวินซื่อ และจะกลายเป็นสาเหตุหนึ่งที่ทำให้เวินเฉวียนเซิ่งดึงสกุลหลินให้ลงมาพัวพันด้วยดังนั้นก่อนจะยุติการหมั้นหมายระหว่างหลินเนี่ยนฉือและเวินจื่อเยวี่ย เวินซื่อยังไม่สามารถทำอะไรบุ่มบ่ามได้ทว่า ถึงแม้ว่าจะไม่สามารถแตะต้องจวนเจิ้นกั๋วกงได้ แต่การมีเวินเยวี่ยเพียงคนเดียวก็ไม่ใช่เรื่องที่เสียหาย“หมั้น...หมั้นหมาย?”ในขณะนี้ เสียงที่สับสนของเวินเยวี่ยก็ดังขึ้นจากทางด้านหลังของ เวินจื่อเยวี่ย“พี่สาม ท่านหมั้นกับใครตั้

  • หลังบวชชี บรรดาท่านพี่ก็อ้อนวอนให้ข้าสึก   บทที่ 548

    “ท่าน…!”เวินเยวี่ยลมแทบจับเมื่อได้ยินที่เวินซื่อพูดนางข่มไฟโทสะเอาไว้ “ธิดาศักดิ์สิทธิ์ไม่ใช่คนของกองทัพธงดำเสียหน่อย ให้ท่านมาทำการค้นหา ไม่น่าจะเหมาะสมกระมัง?”เวินเยวี่ยฝืนยิ้ม “ท้ายที่สุดแล้วบุญคุณความแค้นระหว่างพี่หญิงห้ากับเยวี่ยเอ๋อร์นั้นเป็นที่ประจักษ์ชัดแจ้งกันทั่วทุกคน ถ้าเกิด…”ประโยคสุดท้ายนี้ไม่ได้พูดออกมาทั้งหมด แต่ก็สามารถเข้าใจทุกอย่างที่ควรเข้าใจถ้าเกิดเวินซื่อเข้าไปวางกลอุบายบางอย่างเพื่อใส่ร้ายนางแล้วจะทำเช่นไร?เวินซื่อหันหน้าไปเผชิญหน้ากับเวินเยวี่ย รอยยิ้มเล็ก ๆ เผยออกมาบนใบหน้าอันบริสุทธิ์ผุดผ่องและงดงามของนาง “ข้าไม่ต่ำช้าไร้ยางอายเหมือนเจ้า”ใบหน้าของเวินเยวี่ยสลดลงเพราะดำด่าของนางทันทีแต่วินาทีต่อมาก็ได้ยินเวินซื่อพูดว่า “แต่ว่านี่มันก็เป็นปัญหาจริง ๆ ในเมื่อคุณหนูหกสกุลเวินเป็นกังวลเช่นนี้ เช่นนั้นข้าธิดาศักดิ์สิทธิ์ก็ขอยืนค้นหาอยู่ที่ประตูแล้วกัน”ยืนค้นหาอยู่ที่ประตูหรือ?แล้วจะค้นหาอย่างไร?ขณะที่เวินเยวี่ยและคนอื่น ๆ กำลังงุนงง เวินซื่อก็พลิกฝ่ามือ ก่อนจะหยิบขวดหยกขวดหนึ่งออกมาจากกลางฝ่ามือของนางฉางเสี่ยวหานก้าวเข้าไปรับขวดหยกจากมือของเว

  • หลังบวชชี บรรดาท่านพี่ก็อ้อนวอนให้ข้าสึก   บทที่ 547

    “เหลวไหลสิ้นดี!”แววอันตรายฉายผ่านดวงตาอันคมกริบของเวินเฉวียนเซิ่งในทันใดเขาจ้องไปที่รถม้าที่เวินซื่อนั่งอยู่ สายตามองทะลุช่องว่างของม่านหน้าต่าง พลางชี้ตรงไปที่เวินซื่อ “เวินซื่อ เจ้ารู้ไหมว่าเจ้ากำลังทำอะไรอยู่? เจ้ากำลังใส่ร้ายขุนนางในราชสำนักซึ่งเป็นความผิดร้ายแรง!”“หากเจ้าไม่สามารถแสดงหลักฐานใด ๆ ได้ ต่อให้เจ้าจะเคยเป็นลูกสาวของข้า ข้าก็จะไม่ปล่อยเจ้าไปง่าย ๆ เด็ดขาด!”“เจิ้นกั๋วกงไม่จำเป็นต้องใจร้อนขู่ขวัญเช่นนี้”ว่าแล้วเวินซื่อก็ยกมือขึ้นเปิดม่านรถแล้ว เดินออกมาจากด้านในอย่างช้า ๆเสี่ยวหานก้าวไปข้างหน้าอย่างมีไหวพริบ ทำตามสาวใช้เหล่านั้น เอื้อมมือออกไปช่วยประคองธิดาศักดิ์สิทธิ์ของนางลงจากรถม้าช้า ๆหลังจากลงสู่พื้นและยืนได้อย่างมั่นคงแล้ว เวินซื่อก็เงยหน้าขึ้นมองเวินเฉวียนเซิ่งผ่านกองทัพธงดำ นางยิ้มเล็กน้อย “ถ้าธิดาศักดิ์สิทธิ์ไม่มีหลักฐาน วันนี้จะกล้านำกองกำลังไปปิดล้อมจวนเจิ้นกั๋วกงของท่านได้อย่างไร”การทำงานตามคำสั่งส่วนตัวของอ๋องผู้สำเร็จราชการเป็นเรื่องหนึ่ง แต่การทำงานตามพระราชโองการของฝ่าบาทก็เป็นอีกเรื่องหนึ่งเวินซื่อยกมือขึ้น รับพระราชโองการจากมือของกองทัพ

  • หลังบวชชี บรรดาท่านพี่ก็อ้อนวอนให้ข้าสึก   บทที่ 546

    ให้อ๋องผู้สำเร็จราชการแทนมาหนุนหลังนางแล้วอย่างไรต่อ เขาไม่เชื่อว่า อ๋องผู้สำเร็จราชการแทนผู้สง่างามจะบังคับเขาให้ถอนหมั้นได้อย่างนั้นหรือ!เมื่อเวินเฉวียนเซิ่งได้ยินเวินจื่อเยวี่ยพูด ก็มองเขาแวบหนึ่งอย่างเย็นชา “เจ้าควรคิดหาวิธีช่วยพี่ใหญ่ของเจ้าก่อนดีกว่า ถ้าครั้งนี้พี่ใหญ่ของเจ้าตาย ก็อย่าได้คิดเรื่องหมั้นหมายเลย ข้าเวินเฉวียนเซิ่ง ไม่มีลูกชายที่ใจไม้ไส้ระกำอย่างเจ้า”ใบหน้าของเวินจื่อเยวี่ยขรึมลงทันทีเขารู้ว่าลูกชายคนโปรดของบิดาไม่ใช่เขา แต่เป็นพี่ใหญ่ที่บิดาเลี้ยงดูอย่างสุดชีวิตจิตใจแต่เขานึกไม่ถึงว่ามาถึงขั้นนี้แล้ว บิดาจะยังโหดร้ายถึงเพียงนี้ เอาการหมั้นหมายของเขามาข่มขู่เขาเวินจื่อเยวี่ยไม่ได้พูดอะไรอีกแต่ในขณะนี้ พ่อบ้านนั้นพูดด้วยสีหน้าขมขื่น “ท่านกั๋วกง คุณชายสาม ครั้งนี้ผู้ที่นำกองทัพธงดำมาไม่ใช่ท่านอ๋องขอรับ”เมื่อได้ยินคำพูดนี้เวินเฉวียนเซิ่งก็หันกลับไปหาพ่อบ้าน “ไม่ใช่เป่ยเฉินหยวนหรอกหรือ? แล้วใครล่ะ?”นอกจากฮ่องเต้น้อยและเป่ยเฉินหยวนเองแล้ว ยังมีใครอีกที่สามารถระดมกองทัพธงดำ ถึงขั้นกล้าปิดล้อมจวนเจิ้นกั๋วกงของเขาได้?ขณะที่เวินเฉวียนเซิ่งกำลังครุ่นคิดในหัวว

  • หลังบวชชี บรรดาท่านพี่ก็อ้อนวอนให้ข้าสึก   บทที่ 545

    “เสี่ยวหาน ให้ข้าดูหน้าเจ้าหน่อยสิ”หลังจากขับไล่เวินเฉวียนเซิ่งและเวินจื่อเยวี่ยออกไปแล้ว เวินซื่อก็ดึงฉางเสี่ยวหานเข้ามา“ไม่เป็นไร ไม่เป็นไรเจ้าค่ะ ตบไม่โดนหน้า ข้าหลบได้นิดหน่อย แค่ตบโดนหัวเท่านั้น”ถึงกระนั้น การตบของเวินจื่อเยวี่ยก็หนักหน่วงมาก จนศีรษะของฉางเสี่ยวหานถึงกับสั่นคลอนในตอนนั้น ใช้เวลาสักพักกว่าจะตอบสนองได้“เจ้าไม่ต้องกังวล การตบครั้งนี้ข้าจะต้องเอาคืนเขาอย่างแรงแน่นอน”สีหน้าของเวินซื่อเคร่งขรึมลง น้ำเสียงไม่พอใจเป็นอย่างยิ่งฉางเสี่ยวหานลุกขึ้นกล่าวว่า “ไม่ ๆ ๆ ไม่ต้องหรอกธิดาศักดิ์สิทธิ์ เมื่อครู่ท่านช่วยตบคืนแทนเสี่ยวหานแล้ว ไม่จำเป็นต้องทำอะไรอีกเจ้าค่ะ”ฉางเสี่ยวหานรู้จักคนในเมืองหลวงน้อยมาก แต่หลังจากติดตามเวินซื่อมาเป็นเวลานาน ก็ได้เรียนรู้เรื่องต่าง ๆ มากขึ้นเมื่อได้ยินคำพูดที่ธิดาศักดิ์สิทธิ์พูดกับสองพ่อลูกคู่นั้นเมื่อครู่ ก็ย่อมสามารถคาดเดาตัวตนของพวกเขาได้อย่างง่ายดายคนหนึ่งคืออดีตบิดาของธิดาศักดิ์สิทธิ์ อีกคนคืออดีตพี่ชายของธิดาศักดิ์สิทธิ์ความสัมพันธ์ระหว่างพวกเขานั้นย่ำแย่มากพออยู่แล้ว หากธิดาศักดิ์สิทธิ์ต้องทะเลาะกับพี่ชายหนักขึ้นด้วยเรื่

  • หลังบวชชี บรรดาท่านพี่ก็อ้อนวอนให้ข้าสึก   บทที่ 544

    เขาขบริมฝีปากล่างแน่น กัดปากของตัวเองแตกเหมือนไม่รู้สึกตัว ปล่อยให้เลือดไหลลงจากมุมปากช้า ๆ“หลินเนี่ยนฉือล่ะ?”เวินจื่อเยวี่ยเอ่ยปากถามขึ้นทันใด“ข้าอยากพบนาง”“นางไม่อยากพบท่าน”เวินซื่อเอ่ยขึ้นอย่างราบเรียบ“ข้าบอกว่าข้าอยากพบนาง!”เวินจื่อเยวี่ยตวาดลั่นอย่างฉุนเฉียวขึ้นมาทันใด พลางปัดมือของจางเสี่ยวหานออกมือของจางเสี่ยวหานถูกตีเจ็บ ตกใจสะดุ้งโหยง เมื่อนางรู้ตัวก็เอื้อมมือออกไปอีกครั้ง คว้าเพียงหนังสือถอนหมั้นฉบับนั้นไว้ส่วนจี้หยกก็ร่วงลงสู่พื้นดัง “ตุ้บ” ตามมาด้วยเสียงแตกหักดังขึ้น จี้หยกแยกออกเป็นสองส่วนทันทีเวินจื่อเยวี่ยที่ยังอยู่ในอาการฉุนเฉียวเมื่อได้ยินเสียงนี้อย่างกะทันหัน ก็ก้มหน้าลงมอง เกิดความสับสนขึ้นโดยพลันเขารีบเก็บจี้หยกขึ้นมา เมื่อมองดูรอยแตกหักนั้น ก็ไม่อาจยับยั้งไฟโทสะที่อัดอั้นอยู่เต็มอกไว้ได้ เพียงชั่วครู่ก็ระเบิดอารมณ์ใส่ฉางเสี่ยวหาน...“ใครให้เจ้าทำของของข้าพัง! เจ้าอยากตายหรือไง?!”“อะไรนะ? ไม่ใช่ข้า เป็นท่านต่างหากที่ปัดมือของข้าเอง...”“สาวใช้ต่ำต้อยอย่างเจ้ายังกล้าเถียงอีก!”เวินจื่อเยวี่ยลุกพรวดขึ้น สีหน้ามีรอยพยายาท ยกมือขึ้นตบหน้าฉางเส

  • หลังบวชชี บรรดาท่านพี่ก็อ้อนวอนให้ข้าสึก   บทที่ 543

    เวินจื่อเยวี่ยมองเวินเฉวียนเซิ่งอย่างไม่อยากจะเชื่อ “ท่านพ่อ พูดเช่นนี้หมายความว่าอย่างไร?”เวินจื่อเยวี่ยเงียบไปครู่หนึ่ง “เจ้าน่าจะเข้าใจ เจ้าสาม”“ข้าไม่เข้าใจ!”เวินจื่อเยวี่ยตวาดออกมาทันใด พลางจ้องมองไปที่บิดาของเขาอย่างไม่ละสายตาเวินเฉวียนเซิ่งถอนหายใจอีกครั้ง “แค่การหมั้นหมายเท่านั้น พ่อรู้ว่าเจ้าไม่เต็มใจยอมรับ แต่พี่ใหญ่ของเจ้ามีเวลาเหลือไม่มากแล้ว ถ้ายังไม่เอายากลับไปอีก เขาจะต้องตายในไม่ช้า”“เจ้าสาม เจ้าจะทนเห็นพี่ใหญ่ของเจ้าตายไปได้จริงหรือ?”เวินจื่อเยวี่ยที่ได้ยินคำพูดประโยคนี้ของเขาได้ถามด้วยเสียงอันสั่นเครือเล็กน้อย “ก็เลยต้องเสียสละการหมั้นของข้าเพื่อช่วยพี่ใหญ่อย่างนั้นหรือ? ทั้ง ๆ ที่เรายังมีวิธีอื่นอีก แต่ท่านก็ยังยืนกรานที่จะขอร้องเวินซื่อ?!”“ยังมีวิธีอื่นอีกหรือ?”สีหน้าของเวินเฉวียนเซิ่งเย็นชาลง น้ำเสียงแย่มาก “ไม่ว่าจะเป็นบัวหิมะก็ดี เห็ดหลินจือสีม่วงอายุหนึ่งร้อยปีก็ดี หรือหญ้าฝรั่นที่ไม่เคยได้ยินมาก่อนด้วยซ้ำก็ดี เจ้าคิดว่ามีสิ่งไหนหาง่ายบ้าง?!”“หากพี่ใหญ่ของเจ้ายังยืดเวลาได้อีกครึ่งค่อนเดือน พ่อก็จะไม่รีบร้อนเช่นนี้! แต่นี่พี่ใหญ่ของเจ้าอาจตายได้

  • หลังบวชชี บรรดาท่านพี่ก็อ้อนวอนให้ข้าสึก   บทที่ 542

    นางมองเวินเฉวียนเซิ่งอย่างเย็นชา “ท่านไม่มีคุณสมบัตินี้ตั้งนานแล้ว”“เวินซื่อ! จงระวังท่าทีในการพูดจาของเจ้าด้วย แม้ว่าตอนนี้เจ้าจะเป็นธิดาศักดิ์สิทธิ์แล้ว แต่ความสัมพันธ์พ่อลูกของเจ้ากับพ่อจะไม่มีทางเปลี่ยนแปลง อย่าลืมว่ายังมีเลือดของสกุลเวินไหลเวียนอยู่ในตัวเจ้า”“ใครบอกว่าเปลี่ยนแปลงไม่ได้?”เวินซื่อยิ้มเยาะ “ความสัมพันธ์นี้จะเปลี่ยนไปในไม่ช้า แต่ตอนนี้ขอวกกลับเข้าประเด็นก่อน ท่านเจิ้นจั๋วกง ท่านยังไม่ได้บอกตัวเลือกของท่านเลย ท่านวางแผนที่จะเลือกใครกันแน่?”ล้มเหลวในการเล่นกับอารมณ์ ล้มเหลวในการข่มขู่กลับมาสู่เงื่อนไขข้อแรกสุดอีกครั้ง สายตาของเวินเฉวียนเซิ่งเย็นชาลงระดับหนึ่งในทันใดเวินซื่อดูเหมือนจะมองไม่เห็นเลย เร่งรัดเขาด้วยอารมณ์ที่ดีมาก“ข้ามีเวลาไม่มากนัก ท่านเจิ้นจั๋วกงรีบตัดสินใจโดยเร็วที่สุดเถอะ มิฉะนั้นก็จะไม่มีการเจรจาใด ๆ อีกแล้ว”นางหันไปมองเวินเฉวียนเซิ่งด้วยรอยยิ้มตาหยี “‘พี่ใหญ่แสนดี’ ของข้าก็น่าจะมีเวลาไม่เพียงพอใช่ไหม?”“ถุย!”เวินจื่อเยวี่ยถ่มน้ำลายใส่นางอย่างรุนแรง “พี่ใหญ่ไม่มีน้องสาวที่ชั่วร้ายอย่างเจ้า!”“ถูกต้อง ข้าชั่วร้าย แต่ก็เทียบไม่ได้กับเว

Jelajahi dan baca novel bagus secara gratis
Akses gratis ke berbagai novel bagus di aplikasi GoodNovel. Unduh buku yang kamu suka dan baca di mana saja & kapan saja.
Baca buku gratis di Aplikasi
Pindai kode untuk membaca di Aplikasi
DMCA.com Protection Status